กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เส้นทางพระโพธิสัตว์ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=48)
-   -   เส้นทางพระโพธิสัตว์ ตอนที่ ๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2791)

คิมหันต์ 11-07-2011 22:28

เส้นทางพระโพธิสัตว์ ตอนที่ ๘
 
1 Attachment(s)
ตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนตีสอง แล้วนอนภาวนาแข่งกับเสียงกัดฟันของท่านป๊อป และเสียงกรนของพลขับทั้งสอง อากาศเย็นทีเดียว เสียงหวูดรถไฟดังมาไม่ไกล องค์พระมหาธาตุชุยมอดอสว่างจ้ากลางแสงไฟ...

เก็บข้าวของเสร็จ พระมาตามไปฉันเช้า เณรนั่งเรียงกันเป็นแถวยาวหลายแถว มีข้าวหม้อมหึมาอยู่ข้างที่ฉัน พระพี่เลี้ยงถือหม้อแกงและกาละมังใส่ข้าว เดินตรวจแถวแบบทหาร ข้าวหรือกับพร่องจะเติมให้ทันที...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1310453023
ตอนเช้ามีกับข้าวอย่างเดียว ตอนเพลมีกับข้าว ๒ อย่าง ฉันเพื่ออยู่จริง ๆ..!

พระท่านจัดโต๊ะต่างหากให้เราหนึ่งโต๊ะ กับข้าวเป็นปลาย่างกับแกงส้ม นับว่าดีเกินเหตุ เพราะเณรได้ฉันแกงส้มอย่างเดียว ซ้ำหลังอาหารของเรายังมีกล้วยเป็นของหวาน ขณะที่เณรไม่มีเลย ทำเอาท่านชาแทบจะฉันไม่ลง เพราะเณรพากันมองจนกล้วยแทบจะละลาย..! วัดพม่าถึงอยู่กลางเมืองก็ยังคงลำบากจนขนาดนี้...

รอจนทิดจิตร โซยุนท์ และตันอู กินกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราค่อยออกมาถามทางไปบ้านชานหยั่วจี พอดีมาถามข้างสถานีรถไฟ ผู้หมวดกันยุนท์จึงขอตัวจากคณะ แยกทางนั่งรถไฟไปมัณฑะเลย์ก่อน แล้วจะไปรอเราที่บ้านลูกเขยเมืองเมย์เมี้ยว...

คิมหันต์ 11-07-2011 22:37

1 Attachment(s)
จากที่บอกว่านั่งรถไม่ไหว เพราะมันกระแทกจนระบม ไม่สบายเหมือนเรือที่นอนไป เห็นทีจะไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าไม่มีความอดทนแบบนั้น ก็ไม่ควรมาเป็นทหาร สาเหตุที่แท้จริงน่าจะมาจากที่เขาขอมาด้วย บอกว่าจะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ อาตมาจึงให้จ่ายเฉพาะค่าอาหารเย็นทุกวัน...

อาตมาลืมไปว่า อาจารย์ปริญญาโทยังได้เงินเดือนแค่ ๑,๓๐๐ จั๊ต เมื่อวานเย็นเขากินกันไป ๙๐๐ จั๊ต..! เงินเดือนผู้หมวดคงจะไม่เกินปริญญาโท กินกันทีเงินเดือนหมดไปทั้งเดือน แบบนี้ขืนไปกับเรามีหวังขายบ้าน ขายลูก ขายเมียแน่ ๆ..!

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1310453239
เดินลัดเลาะไปตามทางรถไฟ ที่เห็นหลังอยู่ก็คือท่านป๊อป

ร่ำลากันเสร็จ คณะของเราแยกมาตามทางที่เขาบอก อยู่ห่างจากด่านเก็บเงินเข้าเมืองประมาณ ๓๐๐ เมตรเอง แต่ทางเข้าเป็นทางเกวียน รถไปไม่ได้ ต้องย่ำต๊อกไป ๓ ไมล์ อาตมาทิ้งรองเท้าไว้บนรถ ของใหม่ ๆ มันดุ ขืนเอาไปด้วยเดี๋ยวมันกัดกระจาย..!

เดินไปหน่อยก็ขึ้นมาบนทางรถไฟ ทิดจิตรที่ทิ้งรองเท้าตามอาตมา เต้นเป็นผีกองกอยด้วยความเจ็บเท้า อาตมาที่เลิกบิณฑบาตมา ๔ ปี รู้สึกเจ็บเหมือนกัน เดินตามหมอนไม้ที่ขาดมาตรฐานกว้างบ้างแคบบ้างได้ไม่นาน ทนเจ็บเท้าไม่ไหว เผ่นลงทางเกวียนดีกว่า...

คิมหันต์ 18-07-2011 15:12

2 Attachment(s)
ฝุ่นนิ่ม ๆ ท่วมหลังเท้าค่อยยังชั่ว ถึงเดินยากกว่าแต่นุ่มกว่ากันเยอะ อากาศเย็นเยือกของยามเช้าทำให้ไม่เหนื่อยง่าย เดินมาจนถึงทางแยกจากทางรถไฟเข้าหมู่บ้าน ยังไม่มีเหงื่อสักนิด บรรดานักเรียนที่ขี่จักรยานอยู่ พอเห็นพระเดินมาจะลงจากรถกันหมด...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1311453488
สะพานข้ามคลองก่อนเข้าหมู่บ้านซานหยั่วจี

เลาะตามคันนาถึงหมู่บ้าน ข้ามสะพานไม้แล้วเลี้ยวซ้าย หมู่บ้านเขาเงียบสงบน่าอยู่จริง ๆ พระเณรกำลังออกบิณฑบาต พวกเราล้างเท้าแล้วเดินขึ้นกุฏิหลังที่ดูดีที่สุด คาดว่าสังขารของหลวงปู่ท่านคงจะอยู่บนนั้น ไปถึงแล้วแทบเข่าอ่อน มีแต่บริขารของท่านกับโลงเปล่า..!

พระองค์หนึ่งชื่ออูปัณฑิตะ มาสอบถามแล้วเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ท่านคืออูลักขณะ อายุ ๘๔ พรรษา ๖๐ มรณภาพเมื่อแรม ๔ ค่ำ เดือน ๔ ปีที่แล้วนี้เอง ก่อนมรณภาพมีคนไปกราบหลวงปู่ตามะยะที่พะอาง หลวงปู่บอกว่าไม่ต้องมาหาท่านหรอก พระที่ปะโกก็มี เก่งกว่าท่านซะอีก..!

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1311453488
บริขารที่หลวงปู่ใช้ในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่

หลังจากหลวงปู่ตามะยะเปิดเผยเรื่องของท่าน อีกไม่นานท่านก็มรณภาพ อาตมาสอบถามว่าสังขารของท่านยังอยู่หรือไม่..? หลวงพ่อปัณฑิตะบอกว่า บรรจุโลงแก้วอยู่ข้างศาลานี่เอง โล่งอกไปที เห็นแต่โลงเปล่า ๆ นึกว่าเขาเผาไปแล้ว...

คิมหันต์ 18-07-2011 15:17

2 Attachment(s)
เห็นศาลาที่ตั้งสังขารของท่าน รู้สึกว่ามันเก่าคร่ำคร่า ไม่ได้สมกับความดีของท่านเลย ยิ่งเห็นสังขารที่ขาดการดูแลเอาใจใส่ ปล่อยให้หยากไย่ใยแมงมุมเกลื่อนกลาดยิ่งเศร้าใจ นี่มันไก่ได้แก้วมณีชัด ๆ ไม่ได้รู้ถึงคุณค่าเลย...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1311453696
ที่บรรจุสังขารหลวงปู่ มองเข้าไปตรงช่องปลายเท้าจะเห็นแต่ใยแมงมุมเต็มไปหมด

กราบแทบเท้าทำบุญกับท่าน “ธรรมใดที่หลวงปู่รู้แจ้งเห็นจริงแล้ว ขอลูกทั้งหลายได้มีส่วนรู้เห็นธรรมนั้น ในชาติปัจจุบันนี้เถิด...” รอท่านตู่ที่หายไปส้วมนาน จนเหมือนตกส้วมตายไปแล้ว หลวงพ่อปัณฑิตะท่านมาชี้ทางลัดให้...

เดินตัดกลางนามาขึ้นทางรถไฟ แล้วรีบจ้ำแข่งกับดวงตะวันกลับทางเดิม ทำเวลาทั้งขาไปขากลับเท่ากันเด๊ะคือ ๑ ชั่วโมง ท่านป๊อปกับท่านตู่ถูกทิ้งลิบ ๆ แทบมองไม่เห็น บอกแล้วว่าแรงหนุ่มหรือจะมาสู้คนเดินนาน...!

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1311453696
สองข้างทางเป็นเพิงขายเครื่องปั้นดินเผาและแตงโม

ออกรถตรงไปทางย่างกุ้ง พอพ้นตัวเมืองถนนขยายเป็นสี่เลน ข้างทางมีเครื่องปั้นดินเผากับแตงโมขายมากมาย รถวิ่งไปได้ประมาณ ๑๐ ไมล์ เครื่องดับเอาดื้อ ๆ ทีแรกคิดว่าน้ำมันหมด ความจริงกลายเป็นสายไฟขาด..!

คิมหันต์ 21-07-2011 22:08

2 Attachment(s)
ยอดพลขับซ่อมครู่หนึ่งก็ไปต่อได้ ทิดจิตรขอลงไปซื้อแตงโม ราคาลูกละ ๔๐๐ จั๊ต ซื้อหนึ่งลูกขอเขาชิมครึ่งลูก..! สีแดงพอใช้ แต่รสจืดอย่างกับน้ำเปล่า วิ่งมาถึงบ้านเท่าจั้น โซยุนท์ขอเติมน้ำมัน ถามราคาดูแกลลอนละ ๒๗๐ จั๊ต...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1311453923
ให้อาหารลุงขาวที่บ้านเท่าจั้นก่อนเข้าเขตเมืองย่างกุ้ง

ไปต่ออาจจะแพงกว่านี้ อาตมาจึงสั่งตุนเต็มที่ ได้ ๓๐ แกลลอน จ่ายไป ๘,๑๐๐ จั๊ต แล้วมุ่งเข้าเมืองย่างกุ้ง อาศัยหลวงปู่ผ่านด่านเข้าเมืองฟรีตามเคย ตลอดทางจากปะโกมาถึงย่างกุ้งไม่มีด่านบุญเลย ถนนใหญ่รถวิ่งเร็วเขาคงเรี่ยไรไม่ได้กระมัง..?

ฉันเพลกันนอกเมืองหมดไป ๑,๔๐๐ จั๊ต เจ้าของร้านเห็นพระ ๕ รูป ตกเลขมงคลพอดี จึงขอเลี้ยงกาแฟกับขนมเค้กแถมท้าย จากนั้นบอกกับพลขับมือหนึ่งว่า ใกล้อะไรแวะที่นั่น ไม่ต้องรีบร้อน เวลาของเรามีเหลือเฟือ จะค้างที่ย่างกุ้งตั้ง ๒ คืน...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1311453923
หลังคาคลุมทางเดินและซุ้มประตูวัดไจ๊กะเลาะ

แห่งแรกคือพระเจดีย์ไจ๊กะเลาะ เป็นที่ซึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดอสุรินทราหู ซุ้มประตูและทางเดินลวดลายงดงามมาก จุดที่พระพุทธเจ้าประทับ เขาทำเครื่องหมายเอาไว้ พวกเราไปกราบอธิษฐานกันตามอัธยาศัย...

คิมหันต์ 26-07-2011 13:01

2 Attachment(s)
เห็นพระเจดีย์ทรงแปลกตา รูปทรงเหมือนโดมของสุเหร่าอิสลาม อาตมาให้แวะเข้าไป นี่คือวัดมหาซานดอชีนเมียะพะยาจี เรียกง่าย ๆ ว่าวัดอะเลงงาซินท์ โอ้โฮ...มหึมามโหฬาร ศิลปะคล้ายไปทางแขกฮินดูผสมอิสลาม เหมือนศาสนสถานของศาสนาซิกข์ ใหญ่โตจนขึ้นไปบนหอคอยของวัดแล้ว ยังหามุมถ่ายรูปไม่ได้เลย..!

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1311664185
มณฑปวัดอะเลงงาซินท์

กราบพระประธานที่เป็นพระองค์ใหญ่ทาสีเขียวปี๋ สมกับชื่อเมียะพะยาจี (หลวงพ่อโตแก้วมรกต) จากนั้นโชเฟอร์ของเราพาเข้าไปในตึกเก่างั่ก มีคุณยายแก่ ๆ เฝ้าอยู่คนเดียว ขอกุญแจจากคุณยายไขประตู ขึ้นไปบนชั้นสามของตึก...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1311664185
หลวงพ่อเมียะพะยาจี (หลวงพ่อโตแก้วมรกต)

โอ้โฮเฮะ...แบบนี้ถ้าไม่มาแม่ตีตายแน่ ๆ..! นี่มันผ้าขี้ริ้วห่อโคตรเพชรแท้ ๆ... พระพุทธรูปทองคำหน้าตักเกือบ ๒ ศอก ทรงเครื่องแบบพระวิสุทธิเทพ อลังการงดงามจนตะลึง ยิ่งท่านนาวินอ่านประวัติให้ฟังยิ่งน่าทึ่งเข้าไปใหญ่...

คิมหันต์ 26-07-2011 13:06

1 Attachment(s)
พระพุทธรูปทองคำองค์นี้ เป็นพระพุทธรูปประจำรัชกาลของพระมหากษัตริย์ถึง ๖ พระองค์ ตั้งแต่พระเจ้าอลองพญา มาจนถึงพระเจ้าธีบอ..! มาซ่อนอยู่ในที่ผุ ๆ พัง ๆ แบบคนคาดไม่ถึง ใคร ๆ มากราบทำบุญที่เจดีย์แล้วก็คงกลับเลย ผ่านของวิเศษสุดเช่นนี้ไปเปล่า โดยไม่ได้กราบชมเป็นบุญตา นับว่าน่าเสียดายเป็นที่สุด...

อาตมาพยายามเช็ดกระจกเก่า ๆ ที่กั้นห้องบรรจุพระ เพื่อจะได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก แต่ความสกปรกมันจับจนเข้าเนื้อ เช็ดเท่าไรก็ไม่สะอาด จนคิดว่าดีที่สุดเท่าที่ทำได้ จากนั้นบรรจงวางมุมกล้องอย่างประณีตที่สุด แล้วกลั้นใจลั่นชัตเตอร์...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1311664385
เทียวไปเทียวมาอยู่หลายปี ถ่ายภาพมาได้ดีที่สุดแค่นี้แหละพี่น้องเอ๋ย..!

“แกร็ก..!” ระบบกล้องทำงานแค่ครึ่งเดียว ซ้ำตัวเลขดิจิตอลหายวับไปกับตา เหลือแต่จอขาวโล่ง..! แบบนี้แสดงว่าท่านไม่ให้ถ่ายแน่ ขอลองอีกทีน่า..ทั้งที่แสงพอแท้ ๆ แฟล็ชกลับทำงาน สะท้อนกับกระจกขาวพร่าไปหมด..!

ฟิล์มก็มีน้อย แต่ความอยากได้รูปพระแสนงามไว้บูชา ทำให้ต้องขอลองอีกที “แว่บ..!” หมดสิทธิ์ครับผม...ขาวสะอาดด้วยแสงแฟล็ชอีกครั้ง..! ถามคุณยายว่าขอเปิดเข้าไปถ่ายด้านในจะได้หรือไม่..? คุณยายบอกว่าไม่ได้เป็นผู้ถือกุญแจจ้ะ...

คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:18


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว