|
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔ |
วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ ปกติแล้ววันนี้เป็นวันว่าง ไม่ได้มีนัด แต่ปรากฏว่าก็ว่างอย่างที่เห็น คือเหงื่อท่วมตัวเหมือนเดิม..! บางทีมีคนโทรศัพท์มาถาม "หลวงพ่ออยู่ไหม ?" "วันนั้นหลวงพ่อว่างไหม ?" ก็ตอบเขาไปว่า "วันนี้อยู่" "ตอนนี้วันนั้นยังว่างอยู่" เขาไม่ค่อยเข้าใจ ก็คือ "ตอนนี้ว่าง ไม่ได้แปลว่าตอนนั้นจะว่าง" เพราะฉะนั้น..ญาติโยมที่มาวัดท่าขนุนแล้วหวังจะเจอพระอาจารย์ ไม่ต้องหวัง..อยากเจอหน้าก็เปิดยูทูบดู..ง่ายที่สุด..!
เพราะว่าสิ่งที่ควรทำที่สุดก็คือ ภาระหน้าที่ของตนเอง หน้าที่ ภาระงานต่าง ๆ รับผิดชอบให้ดี ถึงจะแสดงให้เห็นชัดว่าเราเป็นคนมีธรรมะ บางคนก็ไม่เข้าใจว่า ธรรมะกับหน้าที่เกี่ยวอะไรกันด้วย ? ยิ่งไปกันใหญ่เลย ธรรมะคืออะไร ? ก็คือการดำเนินชีวิต โดยการทำปัจจุบันนี้ให้ดีที่สุด อนาคตจะมีหรือไม่มีก็ไม่เป็นไร การทำปัจจุบันให้ดีที่สุด คือการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด รู้หน้าที่ ทำตามหน้าที่ ไม่ละทิ้งหน้าที่ และไม่ก้าวก่ายหน้าที่ผู้อื่น ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่มีหลักธรรมที่แท้จริง ถ้าหากว่าใครมีหน้าที่แต่ละทิ้งหน้าที่ ถ้าหากว่าเป็นทหารอยู่ในเขตประกาศกฎอัยการศึก มีโทษประหารชีวิต..! ดังนั้น..ในส่วนนี้เราต้องตระหนักอยู่เสมอ ก็เลยทำให้ญาติโยมส่วนหนึ่งที่มาวัดแล้ว ตั้งใจจะได้เจออาตมภาพ..ไม่ได้เจอหรอก เพราะว่าถ้ามีงานอยู่..อาตมภาพก็ไม่สนใจเรื่องของโยมเหมือนกัน ก็คือต้องทำงานก่อน |
คราวนี้งานส่วนหนึ่งที่ต้องทำ และต้องเสร็จให้ทันออกพรรษา ก็คือการสร้างเหรียญสมเด็จองค์ปฐมยิ้มรับทรัพย์ ปรากฏว่าเกิดปัญหา บล็อกแตกไปเรียบร้อยแล้ว..! ก็คือพิมพ์ใหญ่สามารถพิมพ์ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่พิมพ์เล็ก โดยเฉพาะเนื้อตะกั่ว พิมพ์ได้แค่ ๕,๐๐๐ กว่าองค์..บล็อกแตก..!
ท่านอาจารย์เทพ (พระครูปฐมสาธุวัฒน์) ที่ช่วยรับติดต่อสร้างพระรุ่นนี้ สั่งช่างทำบล็อกใหม่ ๓ ตัว เหตุที่ต้องทำ ๓ ตัวเลย ก็เพราะว่าการพิมพ์ในส่วนที่เหลือนั้น ถ้าหากว่าบล็อกแตกอีก จะได้ไม่เสียเวลา แล้วถ้าจะเอาบล็อกให้สวยเหมือนอย่างกับที่พิมพ์ไปแล้วก็ยิ่งยาก เพราะว่าบล็อกที่ผ่านมานั้น ท่านอาจารย์เทพเคี่ยวเข็ญช่างมาครึ่งค่อนปี กว่าที่จะแกะออกมาได้อย่างใจ เพราะว่าช่างส่วนใหญ่ก็มักจะเข้าใจแค่ว่า ทำออกมา "สวย" ก็พอแล้ว แต่คราวนี้ "สวย" ของช่างกับ "สวย" ของเรา บางทีก็เป็นคนละระดับกัน อาตมภาพมีแนวคิดว่า การสร้างวัตถุมงคล ถ้าทำออกมาสวย คนเห็นชอบใจ กำลังใจที่เกาะพระก็จะมีมากขึ้น ดังนั้น..เรื่องแพงจะไม่ไปคิดถึง แต่จะคิดถึงว่าสวยหรือเปล่า ? ท่านอาจารย์เทพรับแนวคิดนี้ไป ก็ไปเคี่ยวเข็ญช่างให้ "แกะพระพักตร์ยังไม่สวย ทำเพิ่มหน่อย" "แกะรายละเอียดเครื่องทรงยังไม่ชัด ทำเพิ่มอีกหน่อย" ตอนนี้อยากจะบอกว่ามีเหรียญตัวอย่างลองพิมพ์เป็น "กะตั้ก" เลย โดยเฉพาะเนื้อหลัง ๆ อย่างเช่นเนื้อนวโลหะ ซึ่งเนื้อแข็งมาก ขนาดโรงงานโมเน่ร์ เดอ ปารีสของฝรั่งเศส ที่รับทำเหรียญหลวงปู่ทวด สก. ของวัดห้วยมงคลนี่ยังยอมรับ เขาบอกว่า "ไทยบรอนซ์" แข็งเป็นพิเศษ แต่คราวนี้ของทางโมเน่ร์ ถ้าหากว่าแม่พิมพ์พัง เขาเลิกทำเลย ก็คือได้แค่ไหนแค่นั้น แต่ของเรานี่แม่พิมพ์พังก็สร้างแม่พิมพ์ใหม่ |
เหตุที่แม่พิมพ์พัง ก็เพราะว่าเหรียญพิมพ์เล็ก จุดรับแรงกระแทกมีมากกว่าเพราะความเล็ก ถ้าเหรียญใหญ่ก็กระจายการรับแรงกระแทกกว้างออกไป ในเมื่อจุดรับแรงกระแทกมีมากกว่า การชำรุดของแม่พิมพ์ก็พลอยมีมากตามไปด้วย แล้วยิ่งถ้าหากว่าเป็นเนื้อเขียวเหล็กไหลก็หน้ามืด ยังไม่รู้ต้องทำบล็อกเพิ่มอีกกี่ตัว..!
ความจริงสูตรเขียวเหล็กไหลนี่สมควรจะจมหายไปใต้ธรณีแล้ว เพราะว่าคนที่คิดสูตรทำได้ ตายไปแล้วด้วยโรคมะเร็ง คิดว่าสมเด็จองค์ปฐมเขียวเหล็กไหลของวัดท่าขนุน จะเป็นวัตถุมงคลชุดสุดท้ายในโลก แต่ปรากฏว่าดันมีคนรู้สูตรอยู่ ก็คือท่านอาจารย์เทพเอง ด้วยความที่ไปติดต่อขอทำเหรียญพญาเต่ามังกรหลายรุ่น ที่เป็นเนื้อเขียวเหล็กไหล แล้วก็มาทำสมเด็จองค์ปฐมเขียวเหล็กไหล ๖๐ ปี พระครูวิลาศกาญจนธรรม ไปบ่อยก็ "ครูพักลักจำ" ลักไปลักมาก็โกยของเขามาหมดเลย..! พอมาเหรียญรุ่นนี้ อาตมภาพบอกแค่ว่า ถ้าหากว่าบล็อกพังไม่ต้องทำเนื้อเขียวเหล็กไหล เพราะว่าเนื้อแข็งเป็นพิเศษ ถึงเวลาถ้าเป็นเหรียญพิมพ์เล็ก ก็คงต้องใช้บล็อกกันเป็นเข่ง..! จะเพิ่มต้นทุนโดยใช่เหตุ แต่ก็ต้องดูความดื้อของท่านอาจารย์เทพด้วย เพราะบางอย่างท่านบอกว่า "ทำถวายครูบาอาจารย์..ตายเป็นตาย" เดี๋ยวก็ได้ตายจริง ๆ..! สิ่งที่อยากได้มากกว่าเขียวเหล็กไหลก็คือเนื้อนวโลหะ เพราะว่านวโลหะเป็นเนื้อพิเศษ เป็นโลหะล้างอาถรรพ์ เหมาะที่จะใช้ในการทำน้ำมนต์มาก ตรงจุดนี้ต้องบอกว่าเป็นความรู้ที่บูรพาจารย์ ครูบาอาจารย์รุ่นโบราณท่านค้นคว้ากันมา นวโลหะประกอบไปด้วยโลหะ ๙ อย่าง สัตตโลหะประกอบไปด้วยโลหะ ๗ อย่าง ปัญจโลหะประกอบด้วยโลหะ ๕ อย่าง เป็นต้น |
การที่คิดค้นนวโลหะขึ้นมา ตอนแรกไม่ได้คิดอยากจะได้วัสดุที่ประกอบไปด้วยโลหะหลายอย่าง เพื่อที่จะนำมาใช้ประโยชน์ด้านอื่น เป้าหมายจริง ๆ ก็คือตั้งใจเล่นแร่แปรธาตุเพื่อให้ได้ทองคำ..! แต่พอทำไปทำมาแล้วเกิดได้โลหะผสมอื่น ๆ ขึ้นมา แล้วมีอานุภาพมากกว่าโลหะทั่วไป
อย่างเช่นว่า ถ้าเราศึกษาในพระคาถาโองการมหาทมื่น จะเห็นว่าโองการมหาทมื่นนี่พยายามป้องกันทุกอย่างที่จะทำอันตรายตนเองได้ โดยการระบุชื่อไปชัด ๆ เลย ธนู ธน้า ทั้งหน้าไม้ ปืนไฟ หอกข้อเงิน หอกข้อทอง หอกสัมฤทธิ์ กริชทองแดง แต่ก็มีนักเลงดีที่แก้ไขได้ ก็คือใช้โลหะผสม คือคนเราต้องมีวิธีแก้ไข แบบเดียวกับที่พระนารายณ์ไปปราบยักษ์ ที่ได้รับพรจากพระอิศวรว่าไม่ให้ตายในบ้าน ไม่ให้ตายนอกบ้าน ไม่ให้ตายกลางวัน ไม่ให้ตายกลางคืน ดูก็น่าจะครบใช่ไหม ? พระนารายณ์แปลงเป็นนรสิงห์ จับไอ้เจ้ายักษ์นั่นมาคร่อมธรณีประตูไว้ ไม่ใช่ในบ้าน ไม่ใช่นอกบ้าน รอเวลา ๖ โมงเย็น ไม่ใช่กลางวัน ไม่ใช่กลางคืน ค่อยฆ่า..ตายจนได้..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เรื่องพวกนี้ก็เลยกลายเป็นว่า โบราณาจารย์ที่เล่นแร่แปรธาตุหวังจะได้ทองคำ กลับได้โลหะผสมที่สามารถล้างอาถรรพ์ได้ และโดยเฉพาะว่าเนื้อนวโลหะมีส่วนผสมของทองคำ ซึ่งเป็นส่วนที่มีน้ำหนักมากที่สุดด้วย จึงทำให้ราคาค่อนข้างจะสูง |
ตรงจุดนี้อาตมภาพตั้งใจว่าจะมอบส่วนหนึ่งให้ทางด้านวัดสี่แยกเจริญพร เพื่อหาทุนในการพัฒนาวัด เนื่องจากว่าศาลาพระครูวิลาศกาญจนธรรมอุปถัมภ์ตอนนี้ก็ใกล้เสร็จแล้ว อาตมภาพเองตั้งใจที่จะสนับสนุน เพราะว่าท่านอาจารย์เทพท่านเป็นคนทำอะไรจริงจัง
และขณะเดียวกัน อีกส่วนหนึ่งก็มาเป็นกองบุญกฐินวัดท่าขนุนดังที่ลงให้จอง ส่วนที่ลงให้จองนั้น มีแค่ ๒ เนื้อ เพราะว่าเนื้อโลหะที่รับพลังงานได้ดีมาก ๆ เลยก็คือโลหะทองคำ รองจากทองคำลงไปคือตะกั่ว ซึ่งตะกั่วนั้นมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับทองคำมาก ส่วนเนื้อปีกเครื่องบิน หรืออลูมิเนียมอัลลอยนั้น อยากจะลองทำดูเป็นครั้งแรก เนื่องจากว่าเป็นโลหะแข็งที่มีน้ำหนักเบามาก จนกระทั่งเขาเอาไปทำเครื่องบิน อยากรู้ว่าทำวัตถุมงคลออกมาแล้ว หน้าตาจะเป็นอย่างไร ? แล้วอลูมิเนียมอัลลอยก็ถือว่าเป็นโลหะผสมเช่นกัน การที่เป็นโลหะผสม ตัวรับพลังงานที่มีหลายส่วนแตกต่างกันไป ก็อาจจะมีอานุภาพพิเศษไม่เหมือนกับอย่างอื่น จึงต้องลองทำดู ในส่วนนี้ใครต้องการก็ไปบูชาเอาในเว็บวัดท่าขนุน เพราะว่าเปิดให้บูชาไปแล้ว และก็น่าจะปล่อยยาวไปเรื่อย ๆ จนใกล้กฐินแล้วค่อยว่ากัน เพราะว่าวัตถุมงคลชุดนี้จะปลุกเสกตอนเข้ากรรมฐาน ๓ วันก่อนที่จะออกมารับกฐิน |
ส่วนหนึ่งที่จะแจ้งให้ญาติโยมได้ทราบก็คือ หลวงพ่อสุคโต ที่ตั้งใจทำมาเพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ว่าจะดิน จะน้ำ จะลม จะไฟ โดยเฉพาะให้รักษาทั้งสถานที่ ก็คือถ้าอยู่ในบ้านก็คุ้มครองทั้งบ้าน อยู่ในรถก็คุ้มครองทั้งรถ
ส่วนของมีดลูกพราหมณ์พรหมพิทักษ์นั้น คาดว่าจะเป็นมีดหมอรุ่นสุดท้ายที่จะทำแล้ว เพราะว่าหมดความรู้..หมดฝีมือแค่นั้นแล้ว โดยเฉพาะท้าวสหัมบดีพรหม ท่านเมตตา ให้ท้าวมหาพรหมบริวารของท่านดูแลรักษา คาดว่าน้อยคนที่ทำมีดหมอแล้วจะมีผู้ใหญ่ช่วยสงเคราะห์ให้ขนาดนี้ แต่ก็ตั้งใจไว้แล้วว่าอยากจะให้มีเหลือติดวัดไว้บ้าง จะให้เขาปิดกระทู้ในวันที่ ๓๐ นี้เอง ก็คือวันพรุ่งนี้ ใครจองบูชาทันก็ราคานั้น ถ้าจองบูชาไม่ทัน จะขึ้นราคาไปอีก เพราะว่าถ้าแพงแล้วคนไม่อยากบูชา ก็ถึงจะมีเหลือติดวัดเอาไว้ ฉะนั้น..วันนี้ที่เห็นว่าว่าง ก็กลายเป็นไม่ว่าง โดยเฉพาะเรื่องของโรงพยาบาลสนาม ตอนนี้ก็เร่งรัดในส่วนประกอบอื่น ๆ อยู่ อย่างเช่นว่าระบบอินเตอร์เน็ต ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบซักล้าง เป็นต้น จึงบอกกล่าวให้แก่พระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งญาติโยมที่ฟังอยู่ ได้ทราบถึงความคืบหน้าตรงนี้ และขณะเดียวกัน ถ้าหากว่าสมเด็จองค์ปฐมยิ้มรับทรัพย์ทำไม่ทันจริง ๆ ก็คือเสร็จไม่ครบถ้วนในจำนวนที่ตั้งใจไว้ ก็จะตัดยอดลงแค่ช่วงที่เข้ากรรมฐาน ได้เท่าไรเอาแค่นั้น ใครจองทันถือว่าโชคดีไป..ขอเจริญพร พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย) |
| เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:25 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.