วัวธนู
 

ถาม : แล้ววัวธนูที่บางสำนักปลุกเสกให้ศิษย์บูชา...?
ตอบ: อันนั้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าเอาไว้ป้องกันอันตรายอะไรหรือเปล่า ?

แต่ถ้าหากเป็นของสมัยก่อนเขาจะมีคาถากำกับ เขาจะใช้ครั่งจากกิ่งพุทราตายพราย คือตายคาต้น แล้วต้องเป็นกิ่งที่ยื่นไปทางตะวันออกเท่านั้น เอามาปั้น กระทั่งวันเวลาที่จะไปเก็บครั่ง ก็ต้องเป็นวันที่ฤกษ์ดี เวลาที่จะมาทำตามกำหนดเวลา เช่นเก้าโมงถึงบ่ายสอง พ้นจากนี้แล้วจะไม่มีอานุภาพ เวลาปั้นก็ต้องปั้นไปภาวนาไป แล้วถึงเวลาจะมีคาถากำกับในการใช้ด้วย

ถ้าหากว่าทำตามวิธีนี้ คือเอาไว้ป้องกันตัว ถึงเวลามีอันตรายอะไรเกิดขึ้นให้เขาออกไปป้องกันเราได้ แต่ที่ทำ ๆ สมัยหลังไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าเขาทำเพื่ออะไร เพราะว่าส่วนใหญ่เป็นการหล่อสำเร็จ ในเมื่อหล่อสำเร็จไม่ได้ทำตามแบบโบราณอาตมาก็เลยไม่เข้าใจ

วัวธนูมีหลายแบบ แบบที่ว่าเป็นตำราของหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง จังหวัดนครปฐม อาตมาเป็นเด็กนครปฐมก็ต้องเข้าใจใช่ไหม ? ...หัวเราะ... ถัดมาที่ไม่มีเวลาฉุกเฉินเลย เขาจะใช้ไม้ไผ่ที่ล้มขวางทางเดิน จะต้องกลั้นใจฟันทีเดียวให้ขาด แล้วเอาส่วนปลายมาจักตอกแล้วสานเป็นวัว ก็เป็นการทำหยาบ ๆ แบบเร่งรีบ อย่างน้อย ๆ ต้องทำให้เสร็จก่อนค่ำ

เพราะว่าถ้าหากค่ำแล้ว อันตรายจากไสยศาสตร์จะทวีกำลังเพิ่มขึ้น เพราะอาศัยความมืดช่วย อาศัยเวลาช่วย แล้วเขาจะมีประเภทที่ทำด้วยสายสิญจน์จูงผี มีประเภทปั้นด้วยขี้ผึ้งปิดหน้าผี พวกอันนี้จะอยู่ไม่ทน แต่ว่าที่ทำด้วยครั่งพุทราตายพราย ตามตำราหลวงพ่อน้อย เห็นญาติโยมสมัยนี้ยังมีอยู่หลายคน เก่ามากเลย แต่ก็ยังอยู่ได้

ถาม : ตอนหนูอายุประมาณ ม.ปลาย ไปวัดใน จ.นครปฐม ยังมีให้เช่าอยู่เลยวัวธนู ?
ตอบ: แบบนั้นคงเป็นรุ่นใหม่ ไม่ใช่รุ่นเก่า รุ่นของหลวงพ่อน้อยหายาก เพราะอย่าลืมว่า ต้องเป็นครั่งต้นพุทราเท่านั้น แล้วต้องเป็นกิ่งที่ตายคาต้น และจะต้องหันตะวันออกด้วย ปีหนึ่งจะหาได้สักกิ่งไหม ?

ถาม : ถ้าอย่างนั้นถ้าเกิดเราเช่ามา เอามาเลี้ยง ?
ตอบ: ว่าไปเถอะตามสบาย

แต่ถ้าหากว่าเป็นอย่างที่เขาเอาไปเข้าพิธีของอาตมา ก็เท่ากับว่าเป็นวัตถุมงคลชิ้นหนึ่ง ไม่ต้องเสียเวลาเลี้ยงเขาหรอก เพียงแต่ว่าถึงเวลาเราเองมีอะไร จะไปไหน ก็ฝากบ้านกับท่านได้ เพราะเท่ากับเทวดาองค์หนึ่งนั่นเอง

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๕