กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=26)
-   -   เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๒ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=434)

เถรี 20-05-2009 18:23

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปัญญามีพื้นฐานมาจากสมาธิ ต้องเน้นสมาธิให้มาก ๆ ขึ้น ถ้าสมาธิทรงตัวจริงจะมีปัญญาเกิดขึ้น เพราะจิตที่สงบจะเห็นช่องทางเอง แต่ขณะเดียวกัน ถ้ามีหลักการหรือวิธีการอะไรที่สามารถชักนำให้ปัญญามันเกิดขึ้นได้ เราก็ทำตาม

แรก ๆ ก็เหมือนกับมานั่งท่องจำ ท่องไป ๆ ก็อาจจะปิ๊งขึ้นมาเอง แบบเดียวกับพระนันทะเถระจะแต่งงาน แล้วพระพุทธเจ้าก็พาไปบวชเสียก่อน พระนันทะบวชแล้วก็ไม่มีความสุข อยากสึกทุกวัน ท้ายสุดพระพุทธเจ้าเห็นว่าทรมานมากพอแล้ว ก็เลยไปถามพระนันทะว่าอยากสึกไหม? พระนันทะก็บอกว่าอยากสึก สึกไปแต่งงาน เพราะนางชลบทกัลยาณีรออยู่

พระพุทธเจ้าเลยพาพระนันทะไปดาวดึงส์ พอพระนันทะเห็นนางฟ้า ความอยากแต่งงานกับนางชนบทกัลยาณีหมดทันที อยากได้นางฟ้ามากกว่า เพราะสวยทั้งนั้น

พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ถ้าอยากได้นางฟ้า ให้ตั้งใจปฏิบัติธรรม ถ้าทำได้สำเร็จสัญญาว่าจะยกให้ พระพุทธเจ้าให้นางฟ้าทั้งหมดเป็นพยานว่าตถาคตพูดจริง นางฟ้าทั้งหมดรับปากเป็นเสียงเดียวกัน ว่าถ้าพระนันทะทำได้ พร้อมไปด้วยทันที

พระนันทะกลับไปก็ขอกรรมฐานจากพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ให้อาการ ๓๒ เกศา โลมา นขา ทันตา ตโจ ไปเรื่อย แรก ๆ ก็ท่องผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ กระดูก ฯลฯ พอท่องไป คราวนี้ก็เกิดปัญญาขึ้นมาว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงอยู่ในตัวเราเองนี่ แสดงว่าในร่างกายเราจริง ๆ แล้วไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแน่นอน มีแต่ส่วนประกอบขึ้นมาเท่านั้นเอง ตัวเราก็เป็นอย่างนี้ คนอื่นก็เป็นอย่างนี้จะไปใคร่ดีอะไร

สภาพจิตของท่านก็ค่อย ๆ ถอนความยินดีภายในร่างกาย ในเมื่อไม่ไปยึดไปติดอยู่ในร่างกาย ก็ไม่ยึดทั้งหมด จบเท่านั้นเอง ปรากฏว่าบรรดาพระทั้งหลายไปนินทาว่า พระนันทะปฏิบัติธรรมะเพื่อต้องการนางฟ้า เรื่องไปเข้าหูพระนันทะเข้า

พระนันทะพอท่านกลายเป็นพระอรหันต์ก็เลยมาบอกเลิกสัญญากับพระพุทธเจ้าเอง บอกว่าตอนนี้ปฏิบัติโดยไม่ต้องการนางฟ้าแล้ว ขอคืนสัญญาที่ให้ไว้กับพระพุทธเจ้า ตอนนี้อยู่ด้วยตัวเองได้แล้วไม่ต้องแลกด้วยนางฟ้า"

เถรี 21-05-2009 01:20

ถาม : ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องสมาธิหมุน
ตอบ : สมาธิหมุนสามารถทำได้ถึงฌานสี่ มันเป็นการเร่งสมาธิขึ้นเพื่อสร้างสติให้มั่นคง แต่คนที่ไม่เคยหมุนพอไปหมุนมาก ๆ จะมีอาการเมารถเหมือนกับอาเจียน ถ้าทำได้ถูกหลักการ สมาธิหมุนก็จัดเป็นอานาปานสติอย่างหนึ่ง เพียงแต่ว่าเราจะทำถูกหรือไม่?

ทิดตู่ 21-05-2009 01:29

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เถรี (โพสต์ 7272)
เถรีสงสัยค่ะ ว่าสมาธิหมุนเขาฝึกกันอย่างไร ทุกท่านสงสัยหรือไม่คะ

เป็นหลักสูตรของพระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ วัดดอยเกิ้ง จ.แม่ฮ่องสอนจ้ะ
จะสอนการฝึกสมาธิโดยให้กำหนดรู้ลมหายใจ พร้อมกับจะมีการเคาะระฆังเป็นจังหวะข้าง ๆ ตัว หลังจากเคาะระฆังแล้ว ก็จะนำระฆังใบเล็ก ๆ นั้น มาวน ๆ อยู่รอบ ๆ ตัวเรา แล้วให้เรากำหนดรู้ไปตามเสียงนั้นด้วย ฝึก ๆ ไปร่างกายก็จะเริ่มหมุน มีอาการคล้ายการฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง หมุนจนถึงที่สุดจิตจะหลุดออกจากกาย เหมือนมโนเต็มกำลังเลยจ้ะ บางคนหมุน ๆ ไปก็มีการออกอาการเป็นท่าทางต่าง ๆ ที่ว่ากันว่าเป็นกรรมในอดีตชาติอย่างนี้ก็มี


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:31


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว