กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=40)
-   -   เทศนาวันมาฆบูชา วันพฤหัสบดีที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6078)

ตัวเล็ก 10-03-2018 16:35

เทศนาวันมาฆบูชา วันพฤหัสบดีที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑
 
เทศน์วันมาฆบูชา วันพฤหัสบดีที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสลสฺสูปสมฺปทา
สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธาน สาสนํ ติฯ


ณ บัดนี้อาตมภาพรับหน้าที่วิสัชนาในโอวาทปาฏิโมกขกถา เพื่อเป็นเครื่องโสรจสรงองคศรัทธาบารมี ของบรรดาธนิสราทานบดีทั้งหลาย ที่พร้อมใจกันมาบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันมาฆบูชา ณ วัดท่าขนุนแห่งนี้

ญาติโยมทั้งหลาย อันว่าวันมาฆบูชานั้นเป็นวันสำคัญยิ่งในพระพุทธศาสนาของเรา คือ เป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงซึ่ง “โอวาทปาฏิโมกข์” ได้แก่หลักการหรือแนวทางในการปฏิบัติ แก่พระภิกษุทั้งหลายที่มาประชุมรวมกัน ๑,๒๕๐ รูปโดยมิได้นัดหมาย

เนื่องจากว่าโดยพุทธประเพณีนั้น องค์สมเด็จพระภควันบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเป็นพระองค์ใดก็ตาม เมื่ออุบัติขึ้นแล้ว ย่อมต้องแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ ก็คือประกาศหลักการ อุดมการณ์ และวิธีการในบวรพุทธศาสนา เพื่อที่จักให้พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายได้รับทราบ และนำไปปฏิบัติเป็นแนวเดียวกัน ดังที่ได้กล่าวเป็นภาษาบาลีในเบื้องต้นว่า

“สพฺพปาปสฺส อกรณํ” ให้ละเว้นจากการทำความชั่วทั้งปวง
“กุสลสฺสูปสมฺปทา” ต้องกระทำความดีให้ถึงพร้อม และ
“สจิตฺตปริโยทปนํ” ต้องชำระจิตของเราให้สะอาดผ่องใสปราศจากกิเลส

ตัวเล็ก 10-03-2018 16:36

ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ในระยะเวลาที่ผ่านมา ญาติโยมจะเห็นได้ว่า มีข่าวคราวต่าง ๆ เกิดขึ้นในบ้านในเมืองของเรา หลายต่อหลายประการด้วยกัน ซึ่งแสดงให้เห็นชัดว่าไม่ได้ปฏิบัติตามหลักที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานเอาไว้ตั้งแต่ ๒,๖๐๐ ปีเศษแล้ว

สิ่งทั้งหลายที่ปรากฏขึ้นในบ้านในเมืองของเรานั้น มีคำกล่าวคล้องจองกันว่า “ถ้าจอดรถให้ระวังป้า ถ้าเข้าป่าให้ระวังเปรมชัย ถ้าถูกหวยเมื่อไรให้ระวังครูปรีชา แต่ถ้าซื้อนาฬิกาให้ระวังบิ๊กป้อมจะยืม

ตัวเล็ก 10-03-2018 16:37

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้นั้น บอกให้รู้ว่า เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นในบ้านในเมืองของเรา ซึ่งเป็นที่สนใจของบรรดาญาติโยมทั้งหลาย ต้องกล่าวย้อนจากท้ายมาหาหัวว่า “ถ้าซื้อนาฬิกาให้ระวังบิ๊กป้อมจะยืม

คำว่า “บิ๊กป้อม” ในที่นี้หมายถึง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี แต่ว่ามีอำนาจ มีบารมี มีความยิ่งใหญ่ ชนิดที่นายกรัฐมนตรีเองก็ต้องเกรงใจ แต่เพียงแต่ว่าในสิ่งที่ปรากฏขึ้นมานั้น ต้องบอกว่าเป็นเหตุบังเอิญ หรือไม่ก็เป็นเหตุที่จะให้สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ปรากฏขึ้น ตามหลักกรรมของพระพุทธศาสนา จึงทำให้การที่ยกมือบังหน้ากันแดดเพียงนิดเดียวเท่านั้น โดนสื่อมวลชนไปขุดคุ้ยไปจนกระทั่งเห็นว่า ไม่ว่าแหวนเพชรที่ใส่ก็ดี นาฬิกาที่ใส่อยู่ก็ตาม เป็นสิ่งที่ไม่ได้แจ้งต่อ ปปช. ว่าเป็นสมบัติที่มีอยู่ของตน

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้าหากว่าเป็นการลืม ก็ยังถือว่าสังคมก็ยังพอที่จะให้อภัย แต่ถ้าหากเป็นความตั้งใจ ก็ต้องยกภาษิตจีนที่กล่าวว่า “ถ้าขื่อบนไม่ตรง ขื่อล่างย่อมเอนเอียง” หรือที่เคยมีคนกล่าวไว้ในระยะหนึ่งว่า “ถ้าหัวไม่ส่าย หางย่อมไม่กระดิก” สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่เกิดขึ้น ทำให้ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลเสื่อมลงไปมาก เราจะเห็นว่าการที่ไม่ได้ปฏิบัติตามโอวาทปาฏิโมกข์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ ไม่ละเว้นจากความชั่วทั้งปวง ไม่ชำระจิตใจให้ผ่องใสจากกิเลส ยังตกเป็นทาสของกิเลสอยู่ พาให้เกิดผลร้ายต่อคณะรัฐบาลถึงขนาดนี้

ตัวเล็ก 10-03-2018 16:39

บุคคลที่เรียนบาลีจะมีประโยคครูที่ว่า “ยโส ลทฺธา น มชฺเชยฺย บุคคลได้ยศแล้วไม่พึงเมา” ดังนั้น บุคคลที่มียศ มีตำแหน่ง ยิ่งต้องมีสติระมัดระวังยิ่งกว่าบุคคลทั่วไปหลายเท่า ภาษาของนักแสดงเขาว่า สปอตไลท์ คือ แสงไฟจับอยู่ที่ตัวคุณแล้ว บทบาททุกอย่างบนเวที จะปรากฏต่อสายตาสาธารณชน ซึ่งในปัจจุบันของเรานั้น บรรดาบุคคลในวงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม จะโดนขุดคุ้ยเอาความประพฤติทั้งหลายเหล่านั้น ออกมาตีแผ่ต่อสังคมในช่วงระยะเวลาอันสั้น สิ่งที่ท่านทำไม่ว่าจะดีหรือชั่วก็ตามดังบาลีว่า “กลฺยาณํ วา ปาปกํวา” ย่อมปรากฏชัดในชาติปัจจุบันนี้ ดังที่หลายคนกล่าวว่า สมัยนี้กรรมนั้นติดจรวด

ดังนั้นคำกล่าวที่ว่า “ถ้าซื้อนาฬิการะวังบิ๊กป้อมจะยืม” จึงเป็นการแสดงออกให้เห็นชัดว่า ถ้าเราไม่ปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีความสันโดษ ยินดีตามมีตามได้ สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเสียหายทั้งแก่ตนเอง แก่ครอบครัว และแก่ประเทศชาติ

อาตมาเองก็ไม่ทราบว่าท่านบิ๊กป้อม หรือพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรรณ นั้น ท่านได้ยืมนาฬิกาจากเพื่อน หรือว่าได้ยืมแหวนเพชรมาจากคุณแม่จริงหรือไม่ แต่ว่ากระแสสังคมนั้น ได้กระหน่ำซ้ำเติมจนกระทั่งท่านเสียหายใหญ่หลวงไปแล้ว นี่คือสิ่งที่เราละเว้นการปฏิบัติตามหลักธรรมขององค์สมเด็จพระประทีปแก้ว แล้วสร้างความเสียหายให้แก่ตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ เป็นเรื่องที่อีกเนิ่นนานก็ยังจะโดนกล่าวถึง

ตัวเล็ก 11-03-2018 15:39

ลำดับต่อไปที่บอกว่า “ถ้าถูกหวยเมื่อไรให้ระวังครูปรีชา” เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นใกล้ ๆ แถวนี้เอง คือเกิดขึ้นในจังหวัดกาญจนบุรี ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ เป็นเรื่องของคู่กรณีระหว่าง คุณครูปรีชา ใคร่ครวญ กับ ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล ซึ่งร้อยตำรวจโทจรูญถูกหวยเป็นเงิน ๓๐ ล้านบาท เมื่อไปขึ้นเงินก็ถูกครูปรีชาทักท้วงว่า เป็นล็อตเตอรี่ที่ตนเองซื้อมาแล้วทำหล่นหาย

แล้วหลังจากนั้นก็มีการแจ้งความดำเนินคดีกัน พัวพันต่อผู้คน ทั้งข้าราชการ ทั้งประชาชน จำนวนมากด้วยกัน ท้ายที่สุดความเป็นจริงส่วนหนึ่งก็ปรากฏออกมา สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เราจะเห็นได้ว่า ความโลภในใจของเรานั้น ก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงยิ่งนัก เสียหายตรงไหน ? เพราะว่าครูนั้นเป็นต้นแบบ เป็นแม่พิมพ์ ที่จะหล่อหลอมให้ลูกศิษย์ออกมาเป็นคนดี เป็นกำลังสำคัญของชาติ ถ้าหากว่าครูมีความประพฤติเสื่อมเสีย ย่อมทำให้เสียหายถึงสถาบัน ซึ่งจะผลิตคนดีให้แก่สังคมของเรา ให้แก่ประเทศชาติของเรา

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เกิดจากความโลภของบุคคล ซึ่งปรากฏขึ้นในจิตในใจ ไม่สามารถชำระใจของตนให้ปราศจากกิเลสได้ ดังที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานโอวาทปาฏิโมกข์เอาไว้ จึงเกิดเป็นมหากาพย์เรื่องยาว จนกระทั่งปัจจุบันนี้มีการจับกุม ฟ้องร้อง ดำเนินคดีอยู่ ซึ่งยังไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่าคดีนี้จะสิ้นสุดลงที่ตรงไหน

ตัวเล็ก 11-03-2018 15:45

แต่ส่วนหนึ่งที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือว่า ถ้าหากว่าเรื่องนี้เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากข้าราชการตำรวจซึ่งเป็นผู้รักษากฎหมาย ให้การแนะนำให้กระทำผิดเสียเองแล้ว ควรจะได้รับการลงโทษอย่างหนัก ไม่เช่นนั้นแล้วแค่ย้ายไป ก็จะไปกระทำชั่วที่อื่นต่อไปอีก

เพราะว่าเรื่องนี้ยืดเยื้อมาเกือบครึ่งปีได้แล้ว ทำให้สูญเสียทรัพยากรตลอดจนกระทั่งบุคลากรต่าง ๆ ที่สมควรจะไปสร้างความสงบ สร้างความเจริญให้แก่บ้านเมือง แต่ว่าต้องมาสูญเสียเวลาอันมีค่า สูญเสียความคิด ตลอดจนกระทั่งกำลังใจในการปฏิบัติงาน เพราะความโลภของบุคคลเท่านั้นเอง และมีการกระทำอย่างเป็นกระบวนการ ถ้าความจริงไม่ปรากฏแก่สังคม สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จักกลายเป็นแนวทางให้ผู้อื่นยึดถือและปฏิบัติตามอีกด้วย

ดังนั้นสิ่งที่ปรากฏขึ้นถ้าหากว่าญาติโยมทั้งหลายสามารถที่จะละเว้นจากความชั่วทั้งปวง ก็คือไม่กระทำความชั่วด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจแล้วไซร้ เรื่องซื้อหวย ถูกหวย แล้วต้องระวังครูปรีชา ก็จะไม่ปรากฏขึ้นในสังคมของเรา

ตัวเล็ก 11-03-2018 15:48

เรื่องถัดไปที่อาตมากล่าวย้อนจากข้างหลังมาข้างหน้า เพราะว่าเป็นไปตามลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรื่องนี้จะว่าไปแล้วก็เกิดขึ้นที่หลังวัดท่าขนุนนี้เอง ก็คือสถานีตำรวจทองผาภูมิ ได้แก่เรื่องของการ “ถ้าเข้าป่าให้ระวังเปรมชัย” เปรมชัยในที่นี้หมายถึง คุณเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัทอิตาเลียนไทย ซึ่งเป็นบริษัทการก่อสร้างระดับชาติ ได้เข้าป่าไปล่าสัตว์ จะจริงหรือไม่จริงก็ตาม

ปรากฏว่าป่าไม้จับคุณเปรมชัยได้ พร้อมกับซากสัตว์และอาวุธ ซึ่งมีการต่อสู้คดีไปในรูปแบบที่ว่า เข้าไปพักผ่อนอย่างเดียว แล้วบริษัทบริวารเข้าป่าไปล่าสัตว์ โดยที่คุณเปรมชัยไม่รู้ไม่เห็น นั่นเป็นการต่อสู้ไปตามรูปแบบของทนาย หรือว่าดำเนินการไปตามแนวทางของศาล แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น กลายเป็นว่ามีบุคคลจำนวนหนึ่ง พยายามที่จะช่วยกันหาช่องทางว่าคุณเปรมชัยไม่มีความผิด ความผิดไปตกอยู่กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ซึ่งไม่เก็บค่าผ่านทางในการเข้าอุทยาน ๑๑๐ บาท ถือว่าเป็นข้าราชการที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และประพฤติมิชอบ ซึ่งสองข้อหานี้ สำหรับเจ้าพนักงานแล้วถือว่าเป็นโทษที่หนักมาก

เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นในสังคมของเรา ก็จะทำให้สังคมของเราบิดเบี้ยวผิดเพี้ยนไป เพราะว่าไม่มีธรรมะในการนำทาง ทำให้เราเห็นว่า คนรวยจะทำอะไรก็ได้ แล้วขณะเดียวกัน ผู้มีอำนาจที่ควรจะรับผิดชอบ ควรที่จะให้กำลังใจในการทำงานของลูกน้อง กลับมีใจเอนเอียงไปปกป้องบุคคลที่มีฐานะร่ำรวย หรือว่าป้องกันตัวเองไม่ให้เกิดโทษ จากการสนับสนุนให้คนอื่นกระทำความผิด ด้วยการโยนความผิดนั้นให้กับลูกน้องของตัวเอง

ตัวเล็ก 11-03-2018 16:03

ซึ่งลักษณะอย่างนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ประกอบไปด้วยอคติ ๔ อย่างเปี่ยมล้น มีแต่จะสร้างความเสียหายให้แก่สังคมและวงข้าราชการอย่างมาก เพราะว่าอคตินั้นมี

ลำเอียงเพราะรัก เรียกว่า ฉันทาคติ ถ้าเป็นพวกกูต้องเอาพวกไว้ก่อน

ลำเอียงเพราะกลัว เรียกว่า ภยาคติ เพราะว่าเห็นว่าคนอื่นนั้นมีอำนาจ มีฐานะ สามารถให้คุณให้โทษแก่ตัวเองได้

ลำเอียงเพราะโกรธ เรียกว่า โทสาคติ ในลักษณะที่ว่า เรื่องแค่นี้ก็ไม่ไว้หน้ากูซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา ดันไปทำให้แขกของกูเสียหาย

ในส่วนสุดท้ายเรียกว่าโมหาคติ ลำเอียงเพราะเขลา เพราะโง่ เพราะหลง คิดว่าสิ่งที่ดีเป็นสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ไม่ดีเป็นสิ่งที่ดี

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าไม่มีหลักธรรมประกอบในการดำเนินชีวิต ย่อมทำให้สังคมของเราบิดเบี้ยวเสียหาย และจะเสียหายสืบต่อไปเรื่อย ๆ เพราะว่าคนรุ่นหลังจะนำไปเป็นแบบอย่างได้

ตัวเล็ก 12-03-2018 16:15

คำพูดแรกซึ่งต้องยกมาไว้เป็นลำดับสุดท้าย เพราะว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นล่าสุด คือ “ถ้าจอดรถให้ระวังป้า” เกิดจากการที่มีผู้นำรถไปจอดขวางประตูของบ้านครอบครัวแสงหยกตระการ แล้วเจ้าของบ้านไม่สามารถที่จะออกจากบ้านได้ จนเกิดโทสะนำขวานและชะแลงไปทุบรถที่จอดขวางประตูอยู่

ซึ่งเรื่องนี้จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่กล่าวกันขำ ๆ แต่ว่าเราต้องนึกถึงใจเขาใจเราว่า ถ้าหากว่าประตูบ้านหรือทางออกของเราซึ่งใช้ในการสัญจร โดนคนอื่นเอารถมาจอดปิดเอาไว้ เรียกหาเท่าใดก็ไม่มาโยกย้ายให้ ถ้าเป็นเราจะเกิดโทสะหรือไม่ ? แล้วถ้าหากว่าเกิดโทสะขึ้นมา เรามีวิธีการแก้ไขอย่างไร ให้ดีกว่าการที่เอาขวานไปทุบรถ หรือว่าเราจะมีวิธีที่แก้ไขให้หนักกว่านั้น อย่างเช่นเผารถ หรือวางระเบิดไปเลย..!

อาตมาเคยเห็นรถตู้คันหนึ่ง โดนพ่นสีสเปรย์ทั้งสองข้างและท้ายรถ พ่นเป็นคำด่าที่หยาบ ๆ คาย ๆ ประเภทว่า “หัดกินปลาเสียบ้าง อย่ากินแต่หญ้า จะได้รู้ว่าควรจอดรถที่ไหน” ซึ่งลักษณะอย่างนี้เป็นความเชื่อของทางวิทยาศาสตร์เขาว่า ถ้ากินปลาแล้วช่วยบำรุงสมอง ทำให้มีความฉลาด และในขณะเดียวกันถ้ากินหญ้า ก็เป็นได้แค่วัวแค่ควายเท่านั้น

ตัวเล็ก 12-03-2018 16:17

บุคคลที่ขาดสติ อาจจะเป็นเพราะมักง่าย หรือว่าขาดสติ ไม่รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรนั้น ไม่ควรมีในสังคมของเรา แม้แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ก็ทรงตรัสเอาไว้ว่า ต้องสนับสนุนคนดีให้มีอำนาจในการปกครองให้มากกว่าคนไม่ดีไว้ เพื่อที่จะได้ช่วยกันรักษาประเทศชาติของเราให้เจริญรุ่งเรือง ไม่อย่างนั้นแล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคมรอบบ้านของเรานั้น ยังมีอะไรในท่วงทำนองนี้อีกมากต่อมากด้วยกัน

ส่วนท่านทั้งหลายตั้งใจมาบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันมาฆบูชา ณ วัดท่าขนุนแห่งนี้ ก็แปลว่าท่านทั้งหลายนั้น ได้ปฏิบัติตามหลักธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสเอาไว้ ตั้งแต่วันมาฆบูชาแรกของพระพุทธศาสนา ก็คือ ให้ละเว้นจากการกระทำความชั่วทั้งปวง ก็คือไม่ทำชั่วด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ

ให้บำเพ็ญความดีให้สมบูรณ์บริบูรณ์ ก็คือทำความดีด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจนั่นเอง เราจะเห็นได้ว่าการทำดีหรือชั่วก็ตาม มีใจเป็นใหญ่ ดังที่บาลีกล่าวไว้ว่า

มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา” ธรรมทั้งหลายย่อมมีใจเป็นหัวหน้า
มโนเสฏฺฐา” สูงสุดก็ที่ใจ
มโนมยา” สำเร็จก็ที่ใจ

ดังนั้น..ข้อสุดท้ายของโอวาทปาฏิโมกข์ พระพุทธเจ้าจึงทรงตรัสว่า “สจิตฺตปริโยทปนํ” ให้ชำระจิตใจของตนให้ผ่องใสจากกิเลสให้ได้ ถ้าหากว่าให้ผ่องใสครบถ้วนไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องขัดเกลาให้ผ่องใสให้มากที่สุด เพื่อที่เมื่อถึงเวลาแล้ว ตัวตนของเราซึ่งจักต้องเป็นแบบอย่างแก่บุคคลรุ่นต่อ ๆ ไป ก็จะได้เป็นแบบอย่างที่ดี ซึ่งบุคคลเลียนแบบไปแล้ว ก็ย่อมมีความเจริญด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ไม่ใช่ว่าบุคคลเลียนแบบไปแล้วมีแต่สร้างความวุ่นวายให้แก่สังคมของเรามากขึ้นไปทุกที

ตัวเล็ก 12-03-2018 16:21

ท่านทั้งหลายมาบำเพ็ญกุศล ณ วัดท่าขนุนแห่งนี้ มีทั้งท่านที่นำข้าวปลาอาหารมาทำบุญใส่บาตร นำเอาเครื่องสังฆทานมาถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ในบวรพุทธศาสนา มีทั้งท่านที่สละปัจจัยไทยธรรมมาร่วมกองบุญการกุศลต่าง ๆ ของวัดท่าขนุน สิ่งที่ท่านทั้งหลายได้กระทำนี้ ไม่ว่าจะเป็น ความดีในเบื้องต้น คือการให้ทาน ความดีในเบื้องกลาง คือรักษาศีล ความดีในเบื้องปลาย คือการใช้ปัญญาพิจารณา เลือกเฟ้นหลักธรรมที่เหมาะแก่ตนนำไปปฏิบัติ

ก็ล้วนแล้วแต่จะพาให้เราเป็นผู้เจริญด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เป็นบุคคลที่สามารถสืบทอดพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปได้ในภายหน้า สมกับที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงลำบากเหนื่อยยากอยู่ตลอด ๔๕ พรรษา ประทานแนวทางในการปฏิบัติที่เรียกว่า “โอวาทปาฏิโมกขกถา” แก่พวกเรา แล้วเรานำไปประพฤติปฏิบัติสมดังที่องค์พระมิ่งศิริสวัสดิ์ได้ทรงตั้งพระทัยเอาไว้ ความเจริญทั้งหลายทั้งทางโลกทางธรรม ก็ย่อมปรากฏแก่ญาติโยมทั้งหลายทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

เทสนาวสาเน ในท้ายสุดแห่งพระธรรมเทศนา อาตมภาพขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ เป็นประธาน มีบารมีของหลวงปู่สาย อคฺควํโส อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนเป็นที่สุด ขอได้โปรดดลบันดาลให้ญาติโยมทั้งหลายประสบความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม แม้ว่าประสงค์จำนงหมายสิ่งหนึ่งประการใด ที่เป็นไปโดยชอบ ประกอบไปด้วยธรรมวินัย และไม่เกินวิสัยแห่งบุญตนแล้วไซร้ ขอให้ความสำเร็จสัมฤทธิ์ผลทั้งหลายทั้งปวง จงมีต่อญาติโยมทุกท่านทุกคน

รับหน้าที่วิสัชนามาในปาฏิโมกขกถา ก็พอสมควรแก่เวลา จึงขอสมมติยุติพระธรรมเทศนาลงคงไว้แต่เพียงเท่านี้ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์วันมาฆบูชา ณ วัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยหยาดฝน)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:50


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว