กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6006)

เถรี 02-02-2018 15:36

"ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ งูใหญ่ที่ถ้ำกระแซนั้นโด่งดังไปทั่วโลก กินทหารญี่ปุ่นไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร ส่วนใหญ่แล้วสัตว์ใหญ่ที่เอาตัวรอดมาได้นานขนาดนั้น ต้องมีความสามารถในการพรางตัว แทบจะมีญาณหยั่งรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะปลอดภัย

ส่วนอีกประเภทหนึ่งเป็นงูที่พวกผีหรือเทวดาเขาแปลงขึ้นมา หรือไม่ก็พวกอชคราทิเปรต พวกนั้นตัวใหญ่ขนาดไหนก็ตาม ไม่ต้องไปถ่ายรูปเขาหรอก ไม่ได้อย่างแน่นอน

ที่อาตมาเองไปเจอก็ไม่รู้ว่าตัวใหญ่แค่ไหน เพราะว่าเป็นเวลากลางคืน อยู่ในถ้ำ มองอะไรก็ไม่เห็น รู้แต่ว่าตื่นขึ้นมา ๕ ทุ่มกว่า ปวดปัสสาวะก็ไปถ่ายที่หน้าถ้ำ เสร็จแล้วก็กลับเข้ามาข้างใน กะเหรี่ยงเขาทำเป็นกระต๊อบไม้ไผ่เล็ก ๆ อยู่ในถ้ำ ความกว้างก็แค่กางกลดได้ พอกางกลดแล้วก็ชนผนังซ้ายขวาพอดี ตอนกลับเข้ามาในกุฏิ ความรู้สึกบอกชัด ๆ เลยว่า "ให้ปิดประตูซะ เดี๋ยวงูใหญ่จะมา"

ด้วยความรั้น ง่วงก็ง่วง หนาวก็หนาว ไม่สนใจที่จะไปปิดหรอก พอมุดเข้ากลดได้ก็นอนภาวนาเอาจีวรตีโปงแก้หนาว ไม่กี่นาทีประตูกุฏิที่เปิดอยู่ก็มีสิ่งแปลกปลอมมุดเข้ามา อาตมานอนอยู่ เขาเองก็มาลักษณะเหมือนกับเลื้อยล้อมตัวรอบที่ ๑ รอบที่ ๒ โห...ตัวจะยาวแค่ไหน ? อาตมาเองก็เกือบ ๑๘๐ เซ็นติเมตรเหมือนกัน รอบหนึ่งก็ ๓ เมตรกว่าแล้วนะ”

เถรี 02-02-2018 20:15

พระอาจารย์นิลเอารูปหลวงปู่โลกอุดรมาถวาย พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงปู่ใหญ่โลกอุดรถือว่าเป็นตำนานลึกลับที่คนจำนวนมากได้พบ แต่ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าท่านไปอย่างไรมาอย่างไร ขึ้นอยู่กับบุญสัมพันธ์แต่เก่า ท่านจะไปสงเคราะห์เอง

อาตมาไล่ตามท่านอยู่ ๔-๕ รอบ แต่ตามท่านไม่ทัน หวุดหวิด ๆ ทุกครั้ง ตอนหลังท่านบอกว่าไม่ต้องเสียเวลาตามท่านหรอก งานของท่านเยอะอยู่แล้ว แค่เก็บคนในสายของท่านก็ทำไม่หวาดไม่ไหวอยู่แล้ว ของอาตมานั้นนอกสายจนเกินไป อย่าไปรบกวนท่านเลย

ท่านเป็นตัวอย่างที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า บุคคลที่มีความคล่องตัวในอิทธิบาท ๔ สามารถอธิษฐานอายุให้อยู่เป็นกัปได้ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ...ถึงเวลาคนก็ไปรบกวนท่าน พอกวนมาก ๆ เข้าท่านก็ตายเสียทีหนึ่ง เผาเสร็จสรรพก็ไปโผล่ที่อื่นต่อ พวกนี้คิดว่าตายก็จบแล้ว ไม่ไปกวนอีก

หลวงปู่ใหญ่ท่านปรารถนาพระโพธิญาณ แล้วตัดสินใจปุบปับเลี้ยวเข้าหามรรคหาผล บริวารยังเพลินอยู่จึงตามไม่ทัน ก็เลยต้องมาคอยเก็บ ถ้าใครมีบุญสัมพันธ์สร้างบารมีร่วมกันมาแต่ปางก่อน ท่านก็จะไปสงเคราะห์เอง"

เถรี 02-02-2018 20:23

บริษัทฟาฟาทราเวลนิมนต์ไปอินเดีย พระอาจารย์กล่าวว่า “อาตมายังไม่มีอารมณ์ไปอินเดียเลย ต้องบอกว่าอยู่ที่นั่นจนเข็ด แต่แปลกนะ...ตอนนั้นทั้ง ๆ ที่เลื่อมใสศรัทธาพระพุทธเจ้า แต่ก็ไม่บวช ชาตินั้นก็ยังเป็นพราหมณ์อยู่เหมือนเดิม คราวที่เขาสังคายนาพระไตรปิฎกก็ยังไปทำบุญเป็นปกติ ต้องบอกว่าเวลายังไม่ถึง

เรื่องของอินเดียนี่ไม่ต้องไปก็เหมือนกับไปนั่นแหละ เพียงแต่ว่าถ้าไปก็ไปสังเวชนียสถานตามที่เขาไปกัน แต่ว่าบางจุดก็ไม่ใช่ที่แท้จริง เคลื่อนไปเยอะเหมือนกัน”

เถรี 02-02-2018 20:38

ถาม : หลวงพ่อบอกว่าให้พิจารณามาก ๆ พอเข้าไปก็คิด ๆ ๆ เหมือนมีเหตุมีผล แล้วไปเจอคำว่าสัญญา มันก็เด้งออกมาตลอดเลยค่ะ ?
ตอบ :สภาพใจของเรายังไม่ยอมรับก็จะเป็นแค่สัญญา ถ้าสภาพใจของเรายอมรับว่าทุกอย่างเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็จะเป็นปัญญา คราวนี้ในเมื่อใจยังไม่ยอมรับ ถึงเวลาก็ดีดกลับ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ก็แค่เอาใหม่

เหมือนอย่างกับว่าเราเดินเส้นทางสักเส้นหนึ่ง ย้ำแล้วย้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีกไปเรื่อย ๆ เราก็จะมีความคล่องตัวมากขึ้นไป คุ้นเคยกับเส้นทางนั้นมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ท้ายสุดเราก็จะเดินทะลุตลอดได้เอง บางอย่างต้องค่อย ๆ สั่งสมไปเรื่อย ๆ ต้องให้สติ สมาธิ ปัญญารวมตัวกันเพียงพอจริง ๆ จึงจะก้าวข้ามไปได้

เถรี 02-02-2018 20:40

ถาม : ได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊ง ๆ อยู่ตลอดเวลาเลยค่ะ จะทำอย่างไรให้เงียบ ?
ตอบ : แค่ไปกระโดดโลดเต้น ดูหนังฟังเพลงอะไรก็เงียบแล้ว พอสมาธิหลุดออกมาก็เงียบแล้ว ถ้าสมาธิอยู่ในช่วงตรงนั้นก็จะได้ยินตลอด

เถรี 02-02-2018 20:42

ถาม : หนูเห็นสัตว์เป็นคนละคะ ?
ตอบ : ก็ปกติอีกนั่นแหละ เพราะว่าสัตว์ก็คือคน เพียงแต่ว่าเขาสร้างกรรมไว้ ก็เลยต้องไปอยู่ในร่างของสัตว์เดรัจฉานเท่านั้นเอง

ถาม : แล้วเห็นคนอยู่ในสภาพเป็นสัตว์ ทั้งที่เขายังไม่ตายละคะ ?
ตอบ : อันนั้นคือสภาพจิตที่แท้จริงของเขา ถ้าเราเห็นทะลุตลอดไปจริง ๆ ก็จะเห็นว่าสภาพจิตของเขาเหล่านั้นเป็นอย่างไร สภาพจิตของใครทรงความดีไว้ เราก็เห็นเขาเป็นเทวดานางฟ้า ถ้าหากว่าสภาพจิตมีแต่เวรแต่กรรมมากมาย เราก็เห็นเขาเป็นเปรต เป็นสัตว์นรก เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นเรื่องธรรมดา

เถรี 02-02-2018 20:46

ถาม : ควายกินหญ้าเพราะเขารู้ว่าตัวเองเป็นควาย แต่หนูโง่กว่าควาย ทำไมไม่ยอมรับ ขนาดควายยังยอมรับเลยว่าตัวเองเป็นควาย ?
ตอบ : ถ้าเราอยากยอมรับอย่างควายก็คงต้องไปกินหญ้าด้วย...! ปัญญายังไม่ถึงแล้วจะไปยอมรับอย่างไร ? ก็ต้องยอมทนไปก่อน เดี๋ยวปัญญาถึงก็จะพ้นไปเอง

ไม่มีใครฉลาดมาตั้งแต่เกิด ยกเว้นพระอริยเจ้าระดับพระโสดาบันขึ้นไป ซึ่งก็มีมาไม่กี่คนหรอก ที่เหลือก็ล้วนแล้วแต่ต้องโง่ไปก่อนทั้งนั้น แบบที่หลวงพ่อฤๅษีท่านถามหลวงปู่บุดดาว่า “หลวงปู่...เกิดมาทุกข์ไหม ?” หลวงปู่บอกว่า “ทุกข์สิ” ท่านสวนกลับทันทีเลยว่า “แล้วหลวงปู่เสือกเกิดมาทำไมละ ?” หลวงปู่ตอบทันควันว่า “อ้าว...ก็ยังโง่นี่”

เถรี 02-02-2018 20:48

:cebollita_onion-17: เก็บตกเดือนมกราคม ๒๕๖๑ หมดแล้วค่ะ :cebollita_onion-17:
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี รัตนาวุธ และเผือกน้อย


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:04


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว