ปฏิบัติการช่วยลดอัตราการฆ่าตัวตาย
 

กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพ
ในระยะหลัง ๆ นี้ มีข่าวเรื่องการฆ่าตัวตายของคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกฐานะ เพิ่มขึ้นอย่างมาก

กระผมและกัลยาณมิตร จึงมีความคิดที่จะช่วยเหลือสังคม ในความพยายามที่จะช่วยลดอัตราการฆ่าตัวตาย ของคนที่หมดหวัง ท้อแท้ ไม่มีทางออก และขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องผลของการฆ่าตัวตาย ซึ่งอาจจะหนักมากกว่าปัญหาที่ผู้ที่คิดจะฆ่าตัวตายประสบอยู่ในขณะนี้ หลายเท่านัก ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของการวางแผนงาน และศึกษาความเป็นไปได้ การประชาสัมพันธ์ การวัดผล และอื่น ๆ

แต่ก็มีข้อที่สงสัยอยู่ประการหนึ่งว่า การกระทำดังกล่าว จะเป็นการไปยุ่งในกรรมของคนอื่น แบบที่เรียกว่า อยู่ดีไม่ว่าดี และจะทำให้ตนเองและมิตรสหาย ต้องมารับผลกรรม จากเจ้ากรรมนายเวรของพวกเขาเหล่านั้นแทนหรือไม่ เพราะคณะทำงานล้วนแต่เป็นคนสามัญชนทั่วไป ที่ต้องการช่วยเหลือสังคม ยังไม่ได้เป็นผู้ที่มี ทิพจักขุญาณ หรือมี ฤทธิ์ทางใจ ที่เพียงพอที่จะรู้ถึง บุพกรรมของพวกเขาเหล่านั้น และช่วยแก้ไขที่ต้นเหตุที่แท้จริง หรือขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรของพวกเขาเหล่านั้นได้ ที่ตั้งใจจะทำก็เพียงแต่อยากจะเป็นกลุ่มคนที่ผู้ที่คิดฆ่าตัวตายจะนึกถึงก่อนที่จะตัดสินใจกระทำ โดยจะเป็นผู้ที่ให้ความจริงใจที่จะรับฟังเรื่องราวความทุกข์ของพวกเขา ช่วยกันให้ความเห็นในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ให้ความเห็นเรื่องทางออกอื่น ๆ ที่อาจจะเป็นไปได้ ให้มิตรภาพที่จริงใจ เป็นคนกลางที่จะช่วยประสานงานกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่อาจจะเป็นประโยชน์เพิ่มขึ้นต่อพวกเขา และให้ความรู้ความเข้าใจถึงความโชคดีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ และโทษที่จะพึงมีจากการฆ่าตัวตาย ตามความเชื่อทางพุทธศาสนา

จึงอยากจะขอคำแนะนำจากหลวงพ่อ ถึงแนวความคิดดังกล่าว ว่าเหมาะสมดีแล้ว หรือว่าควรแก้ไขความคิด และควรคำนึงถึงอะไรเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดประโยชน์และไม่มีโทษ ด้วยกันทุกฝ่าย ด้วยครับ

ขอกราบขอบพระคุณครับ

ถาม : ในระยะหลัง ๆ นี้ มีข่าวเรื่องการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นอย่างมาก กระผมและกัลยาณมิตรจึงมีความคิดที่จะช่วยเหลือสังคม ช่วยลดอัตราการฆ่าตัวตายของคนที่หมดหวัง ท้อแท้ ไม่มีทางออก และขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องผลของการฆ่าตัวตาย ซึ่งอาจจะหนักมากกว่าปัญหาที่ผู้ที่คิดจะฆ่าตัวตายประสบอยู่ในขณะนี้ ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของการวางแผนงาน และศึกษาความเป็นไปได้ การประชาสัมพันธ์ การวัดผล และอื่น ๆ

แต่ก็มีข้อที่สงสัยอยู่ประการหนึ่งว่า การกระทำดังกล่าว จะเป็นการไปยุ่งในกรรมของคนอื่นหรือไม่ ? และจะทำให้ตนเองและมิตรสหายต้องมารับผลกรรมจากเจ้ากรรมนายเวรของพวกเขาเหล่านั้นแทนหรือไม่ ? เพราะคณะทำงานล้วนแต่เป็นคนสามัญชนทั่วไปที่ต้องการช่วยเหลือสังคม ยังไม่ได้เป็นผู้ที่มี ทิพจักขุญาณ หรือมีฤทธิ์ทางใจที่เพียงพอที่จะรู้ถึงบุพกรรมของพวกเขาเหล่านั้น และช่วยแก้ไขที่ต้นเหตุที่แท้จริง
ตอบ : ถ้ารักที่จะทำงาน โอกาสที่ทำงานโดยไม่มีโทษกับทุกฝ่ายเลยนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น..ก็มีอยู่สองอย่าง ถ้าไม่ทำก็ไม่ทำไปเลย หรือถ้าจะทำก็รีบทำเสียโดยไม่ต้องไปสนใจเรื่องผลกระทบ แต่สงสัยอยู่อย่างเดียวว่าจะประชาสัมพันธ์อย่างไรให้คนที่จะฆ่าตัวตายรู้เรื่อง ?