กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ล่องแก่งมหาภัย (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=45)
-   -   ล่องแก่งมหาภัย ตอนที่ ๒ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2029)

คิมหันต์ 04-08-2010 22:29

ล่องแก่งมหาภัย ตอนที่ ๒
 
1 Attachment(s)
น้ำค้างลงเม็ดเปาะแปะเสียงเหมือนฝนตก ลุกขึ้นล้างหน้า ล้างตา ครองผ้า สวดมนต์ทำวัตร ยกจิตขึ้นไปกราบพระบนพระนิพพาน กราบอาราธนาหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ผู้เป็นบูรพาจารย์ ขอให้ท่านช่วยสงเคราะห์ในการเดินทางครั้งนี้ หลวงปู่ท่านเกิดในพม่ามาจนนับครั้งไม่ถ้วน ไปกับเจ้าถิ่นย่อมได้รับความสะดวกคล่องตัวในทุกที่...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1281914736
สวดมนต์-ฉันเช้า งานทำบุญ ๗ วันอุทิศให้นายมาลา

เสร็จจากงานทางใจก็มารองานทางโลก คุยกับท่านนาวินจนรถจากบ้านงานมารับ ฉันเช้าเรียบร้อยแล้วอาตมากับท่านนาวินขอเข้าไปในตลาด ท่านอาจารย์สุมังคะละบอกว่า การเดินทางจากตลาดพะยาตงซูไปยังท่าเรือชองโส่ง (สบห้วย) นั้น จะให้รถของวัดไปส่ง จึงนัดพบกันที่บ้านของโกเต็ง ซึ่งเป็นพี่ชายของท่านอังกุระ พระสหายอีกท่านหนึ่งของอาตมา...

คิมหันต์ 05-08-2010 22:51

1 Attachment(s)
หาซื้อประคำหยกให้ท่านตู่ (พระชาญชัย จารุธมฺโม) เห็นท่านอยากได้เป็นหนักหนา แต่ตัวเองไม่มีปัญญาต่อราคาจนเป็นที่พอใจได้ จึงฝากอาตมาให้ช่วยจัดการแทน ได้ของมาเรียบร้อยแล้ว มาถามอัตราแลกเปลี่ยนเงิน ปรากฏว่าได้เพิ่มมาอีก ๕ สตางค์ จึงเอาเงินที่ท่านนาวินฝากซื้อสลกบาตรแลกไปก่อน กลับไปแล้วค่อยหาเงินไปซื้อให้ท่าน...

จากนั้นเดินไปบ้านของโกเต็ง เจ้าของบ้านกุลีกุจอต้อนรับ ปล่อยให้ภรรเมียนั่งขายเบอร์หวยอยู่คนเดียว โกเต็งลงทุนทำโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ บังเอิญช่วงนี้ของออกไม่ดีเหมือนก่อน ขาดทุนไปเป็นล้านจั๊ต จึงหันมาขายเบอร์แทน หวยพม่าออกวันละเจ็ดงวด มีเจ้ามือด้วยกันเจ็ดราย ออกห่างกันคนละชั่วโมง ตั้งแต่บ่ายโมงถึงหนึ่งทุ่ม แบบนี้มีหวังเล่นกันจนฉิบหายขายตัวไปข้างหนึ่งแน่ ๆ..!

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1281914935
โต๊ะรับแทงหวยพม่าหน้าบ้านโกเต็ง ว่ากันซึ่ง ๆ หน้าไม่ต้องไปหลบหลีกใคร

เก้าโมงเศษรถของวัดตองไวจึงมารับ พระเณรยัดทะนานกันมาเกือบสิบรูป มีที่จะเดินทางไปด้วย ๕ รูป ที่จะไปเล่นน้ำตกที่ชองโส่งอีกหลายรูป ยังดีที่เขาเว้นเบาะหน้าไว้ให้ หาไม่อาตมาคงต้องขึ้นไปขี่คอท่านทั้งหลายที่กระบะท้ายเป็นแน่แท้ นอกจากคนแล้ว ยังมีทั้งบาตรทั้งปิ่นโตที่ขนมาเต็มที่ เรียกว่าไปปิคนิคกันดี ๆ นี่เอง ทั้งคาวทั้งหวานเต็มอัตราศึก..!

ครั้งนี้หนทางสะดวกมาก เนื่องจากท่านดอลาที่เดินทางมาด้วย ท่านเป็นน้องภรรยาของปลัดเมืองพะยาตงซู (เจดีย์สามองค์) เจ้าหน้าที่เห็นปุ๊บก็เปิดด่านให้ปั๊บ ผ่านตลอดทั้งด่านยูวาติ๊ด จงกุย จอปุลุ มาถึงชองโส่งยังไม่ถึงสิบโมงดี

คิมหันต์ 06-08-2010 18:18

1 Attachment(s)
ท่านนาวินลงไปติดต่อขอหนังสือผ่านทาง แจ้งนามอาตมาว่า “สุธัมมะ” นายด่านเขาเขียนเป็น “อุตตะมะ” จะแก้ไขก็เสียเวลาโดยใช่เหตุ ปล่อยเลยตามเลยจะดีกว่า เวลาเขาขานชื่ออย่าลืมรับก็แล้วกัน..!

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1281915186
ตั้งวงปิกนิกกันที่ท่าเรือชองโส่ง ที่สามจากซ้ายมือคือท่านดอลา

บรรดาเณรขนอาหารเพลลงมาประเคน พระทุกรูปล้อมวงฉันกันแบบง่าย ๆ ระหว่างนั้นท่านนาวินเพิ่งกลับมาจากการติดต่อพาหนะ พอเห็นเจ้าของเรือ อาตมาก็จำได้ทันที

คิมหันต์ 07-08-2010 23:28

1 Attachment(s)
“อ่องโม” สารถีตัวแสบ ที่คราวก่อนหลอกทหารกะเหรี่ยงว่า ข้าวสาร ๕๐ ถุงที่ขนมากับรถเป็นของอาตมานั่นเอง ยังดีที่ทหารเหล่านั้นเกิดชอบอัธยาศัยของอาตมา จึงปล่อยให้ผ่านมาอย่างง่ายดาย หาไม่จะออกหัวหรือก้อยยังไม่รู้..?

นายแสบมาขับเรือแทน เพราะหน้านี้ทางรถขาดหมด และมาสร้างวีรกรรมเอาไว้จนได้ นายด่านตามมาคาดคั้นว่า ถ้าคราวหน้าวิ่งนอกคิวอีกจะยึดเรือซะให้เข็ด คราวนี้เห็นว่าจะไปส่งพระ โดยเฉพาะมีท่านดอลาไปด้วย ไม่เช่นนั้นจะเล่นซะตั้งแต่งวดนี้เลย แล้วต่อว่าต่อขานอีกกระบุงโกย ดูท่าทางอ่องโมที่โมโหฮึดฮัดแล้ว คงถูกด่าไปไม่เบาเหมือนกัน...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1281915485
พระเณรกันแห่ไปส่งอาตมาลงเรือ บางท่านถกเขมรเตรียมว่ายน้ำแล้ว..!

เสร็จจากฉันเพลแล้ว ทุกรูปขนของลงเรือ นายด่านตามมาส่งด้วยบารมีของท่านดอลา ทั้งพม่าทั้งไทยเหมือนกันไปหมด ตรงที่ใครมีเส้นมักจะได้รับความสะดวกกว่าคนอื่น อาตมาเองอาศัยเส้นหลวงปู่ปาน มาทีไรคล่องตัวมาก ใครจะไปรู้ว่าหลวงปู่อาจจะให้ท่านดอลามาด้วยก็ได้ คนอื่นถูกจับขังคุกบ้างส่งกลับบ้าง อาตมาเองลอยลำให้เขาอิจฉากันทุกที..!

มีเรือขนคนขนของขึ้นอยู่หลายลำ อ่องโมลุยน้ำพยายามจะดันเรือให้หันหัวไปตามน้ำ แต่น้ำแรงกว่าที่คิด ตีเรือจนขวางลำแทบพลิกคว่ำ..! ยังดีที่ไม่มีใครตกใจจนผวาลุกขึ้นยืน ไม่อย่างนั้นมีหวังได้สรงน้ำแบบไม่เต็มใจกันบ้างเป็นแน่

คิมหันต์ 08-08-2010 22:05

1 Attachment(s)
พอหัวเรือตรงร่อง นายท้ายตัวแสบก็โดดขึ้นติดเครื่อง กว่าจะวาดหางปรับทิศทางได้ เรือก็พุ่งไปเกือบจะเกยตลิ่ง เสียงเร่งเครื่องดังสนั่นหวั่นไหว ก่อนที่เรือจะกระโจนพรวดไปตามคลื่น...ท้องเรือขูดกับหินใต้น้ำดังครืดยาวเหยียด..!

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1281915823
ทิวทัศน์สองฝั่งลำน้ำอัตทรานบริเวณที่เรือพุ่งเข้าไปเกือบจะเกยฝั่ง..!

ป่วยการที่จะไปห่วงใยกังวล ขนาดเจ้าของเรือมันยังไม่สนใจเลยนี่หว่า..! ตั้งหน้าตั้งตาเร่งเครื่องระบายอารมณ์ขุ่นที่ถูกนายด่านด่าเอาไว้ อาตมาได้แต่ทำใจว่า ในเมื่อเจ้าของเขามันยังไม่กลัวเรือพัง แล้วเราจะมากลัวทำไม ? ถ้าเกิดเรือล่มหรือพังขึ้นมาจริง ๆ อย่างดีก็แค่ว่ายน้ำขึ้นฝั่งเท่านั้นเอง..!

คิมหันต์ 09-08-2010 23:03

2 Attachment(s)
ผ่านน้ำตกชองโส่งที่ไหลลงมาบรรจบกัน น้ำไม่ลึกมาก หากแต่ไหลเชี่ยวทีเดียว แม่น้ำตรงหน้าเป็นผาหินขนาดใหญ่ สองฝั่งเป็นป่าทึบเขียวขจี หัวเรือแหวกน้ำแตกเป็นปีกอยู่ซู่ซ่า สายลมเย็นชื่นโชยมาปะทะหน้า ชีวิตนี้คือการเดินทาง จุดหมายปลายทางของแต่ละคนเป็นอย่างไรตามแต่บุญกรรมจะลิขิต ความจริงเราสามารถขีดเส้นชีวิตของเราเองได้ ขอเพียงแต่ทำปัจจุบันให้ดี อนาคตจะต้องดีอย่างแน่นอน...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1281916459
น้ำตกชองโส่ง(สบห้วย) หน้าน้ำหลากเหลือสูงเพียงเท่านี้

แดดจัดทันทีที่พ้นจากเงื้อมผาและเงาไม้ อาตมาตลบชายจีวรขึ้นกันแดด ผู้โดยสารหลายคนงัดเอาบุหรี่ตัวเบ้อเริ่มขึ้นมาสูบ แล้วดันจำเพาะให้เขาอยู่ข้างหน้า พระทั้ง ๗ รูปจึงถูกรมควันเหมือนกับอยู่เมืองในหมอก เรือบรรทุกไม้แล่นทวนน้ำสวนมาเป็นระยะ ไม้ทั้งหมดจะไปขึ้นที่ชองโส่ง แล้วขนไปผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ด่านเจดีย์สามองค์...

เรือบางลำขนหัวกลอยมาจนกราบเรือปริ่มน้ำ ระยะนี้ทางทองผาภูมิกำลังเห่อขุดกลอยเป็นการใหญ่เหมือนกัน เขาเอาไปทำถั่วทอดกลอย หน้าตาน่าอร่อย อาตมากับท่านตู่ฉันเข้าไปแล้ว เมาจนอาเจียนออกมาเป็นถังเลย โดนเข้าทีเดียวเข็ดไปอีกนาน กลอยพวกนี้คงขึ้นที่ชองโส่งเพื่อส่งเข้าไปทองผาภูมิ เตรียมผลิตออกมาเบื่อคนที่ยังไม่เคยโดนต่อไป..!

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1281916459
ตอหม้อสะพานรถไฟสายมรณะสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒

นายท้ายจอมดีเดือดแวะเข้าไปยังด่านมอญ จัดการจ่ายไป ๒,๐๐๐ จั๊ตตามหน้าที่ ถ้ารู้จักทำแบบนี้ยังคงหากินได้อีกนาน เรือแล่นต่อไปไม่นาน มีตอหม้อสะพานขนาดใหญ่ ๒ ตอ ส่วนตัวสะพานหล่นจมน้ำอยู่ข้างล่าง ท่านนาวินบอกว่าเป็นสะพานรถไฟสายมรณะ ซึ่งสร้างจากเมืองไทยมาทะลุพม่า โดยเชลยศึกที่ญี่ปุ่นเกณฑ์มาครั้งสงครามโลก...

คิมหันต์ 13-08-2010 22:30

2 Attachment(s)
น่าเสียดายสถานที่ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เช่นนี้ ต้องมาถูกทิ้งร้างแบบไม่ไยดี ถ้าได้ปรับปรุงเป็นแหล่งเที่ยวแบบเมืองไทย คงจะเรียกนักท่องเที่ยวได้อีกมาก แต่อย่าไปหวังอะไรกับรัฐบาลทหารชุดปัจจุบันนี้เลย แค่รักษาภาพพจน์ให้เป็นที่ยอมรับของชาวโลกเขาก็แย่แล้ว ขืนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีหวังหลุดพ้นจากอำนาจเร็วยิ่งขึ้น

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1281916746
ต้นไม้ถูกน้ำเซาะโค่นเกลื่อนกลาด แต่ละปีถูกน้ำซัดไปไม่เป็นที่เป็นทาง

คุ้งน้ำโค้งเป็นข้อศอก ซ้ำน้ำยังไหลเชี่ยวกราก อ่องโมลดความเร็วตีโค้งอย่างระมัดระวัง นอกจากน้ำแรงแล้ว ตอใต้น้ำยังโผล่ไม่เป็นที่เป็นทาง เกยเข้าคว่ำสถานเดียว หน้าฝนที่ผ่านมาเรือคว่ำไปสองลำ จมน้ำตายสังเวยโค้งไปหนึ่งศพ ซากเรือลำหนึ่งยังเกยอยู่บนกอไม้ ชายตลิ่งตรงจุดนี้สูงชันทั้งสองฝั่ง ดินถล่มลงมาจนเกือบจะตั้งฉาก แสดงให้เห็นถึงการกัดเซาะอย่างรุนแรงของน้ำ...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1281916746
แก่งอันตรายมีอยู่ทั่วไป พลาดเมื่อไรมีหวัง...!

หลายช่วงที่พื้นล่างเป็นหินอันแข็งแกร่งทนทานต่อการกัดเซาะ ทำให้เป็นแก่งที่สุดแสนจะอันตราย กระแสน้ำพลุกพล่านไปตามก้อนหินขนาดใหญ่ นายท้ายต้องคุ้นเคยชำนาญทางจึงจะเอาตัวรอดได้ กระนั้นก็ยังเฉียดซ้ายเฉียดขวา ใต้ท้องเรือสัมผัสหินดังครืดคราด พลาดเพียงนิดเดียวมีหวังแตกกระจายทั้งลำ ผ่านไปทีก็ถอนหายใจโล่งอกแบบไม่รู้ตัวกันที...

คิมหันต์ 15-08-2010 21:58

1 Attachment(s)
แก่งแล้วแก่งเล่าที่เรือของเรากระโจนผ่านอย่างเฉียดฉิว น้ำแรงจนบังคับเรือได้ยาก มีชาวบ้านมาวางข่ายดักปลาบ้าง วางลอบยืนบ้าง ลอบของเขาสานง่าย ๆ และหวังเอาปลาใหญ่กันจริง ๆ เพราะตาลอบห่างจนมือลอดได้สบาย บางรายขึ้นไปยงโย่ยงหยกบนตอไม้กลางน้ำ ลงเบ็ดตกปลาอย่างแข็งขัน บางคนได้ปลากระสูบตัวยาวเป็นเมตร แทบจะถูกปลามันลากลงน้ำไปก็มี..!

“เฮ้ย..!” นายท้ายของเราเบาเรือไม่ทัน พอเข้าโค้งเลยเบียดเกยตลิ่งขึ้นไปเกือบครึ่งลำ ยังดีที่เป็นเรือใหญ่สี่สูบ จึงดิ้นสะบัดหลุดออกมาได้ ถ้าเป็นเครื่องบิ๊ก ๑๖ แรง แบบที่อาตมาใช้ล่าเรือหาปลาอยู่หน้าวัดท่าซุง รับรองคว่ำไปแล้ว โค้งถัดไปตอไม้ใหญ่โผล่พ้นน้ำมาเป็นศอก ยังดีที่น้ำลดลงมากแล้ว หน้าน้ำมองไม่เห็น เรือเกยแตกเป็นประจำ...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1281957483
เรือบรรทุกซุงเครื่องดับเพราะแบตเตอรี่หมด ต้องขอความช่วยเหลือจากเรือของเรา

นกกระเต็นอกขาวพุ่งดิ่งลงน้ำกระจาย พอเงยหัวขึ้นก็มีปลาติดปากมาด้วย กระพือปีกพาร่างเหินขึ้นไปบนยอดไม้ สะบัดหัวฟาดปลากับกิ่งไม้สองสามที พอปลานิ่งสนิทก็โยนขึ้นกลางอากาศ อ้าปากรับทางหัว กลืนเอื๊อกลงคอ ขยับให้ปลาไหลลงท้องเรียบร้อยแล้วบินมาเกาะที่จุดล่าตามเดิม สายตาสอดส่ายหาเหยื่อตัวต่อไป เรือเฉียดเข้าใกล้รีบผวาบินหนี ส่งเสียงร้องแกร๊ก ๆ ไปตลอดทาง...

เรือลำที่ซุกตัวอยู่ใต้ต้นไม้ส่งสัญญาณมือขอความช่วยเหลือ อ่องโมบังคับเรือเข้าไปใกล้ เป็นเรือขนซุงมาเต็มลำ เครื่องดับไปต่อไม่ได้ น้ำเข้าเรือไปครึ่งค่อนลำ ลูกเรือกำลังวิดกันอุตลุด พอเรือเทียบลำกันได้ เจ้าของเรือซุงจัดการเอาสายพ่วงมาต่อ ที่แท้เรือของเขาไฟหมด สตาร์ทไม่ได้ พ่วงสตาร์ทชึ่งเดียวดังกระหึ่ม บอกขอบใจแล้วพาเรือทวนน้ำต่อไป...

คิมหันต์ 16-08-2010 18:53

1 Attachment(s)
แก่งใหญ่ทิ้งระดับลงต่ำ เรือของเราพุ่งลงไปกระแทกกับหินดังโครม..! เสียงผู้โดยสารหญิงอุทานด้วยความตกใจ แต่แล้วก็เชิดหัวขึ้นทะยานต่อไปได้ ผ่านไปนิดเดียวมีแพไม้ไผ่ที่ไม่โชคดีเหมือนเราเกยติดอยู่บนยอดไม้ ลำไม้ไผ่ยังเขียวสดอยู่เลย นายท้ายของเราเบาเครื่องเมื่อเห็นหมู่เรือนแพข้างหน้า ก่อนจะเทียบเรือเข้าไปแล้วดับเครื่อง พักกันที่นี่ก่อน...

พระที่มาด้วยกันลงที่นี่หนึ่งรูป ท่านจะเดินเท้าไปบ้านอะนังกวีน (ทุ่งกันเกรา) แบกกลดมาด้วย บอกว่าต้องค้างคืน ๑ คืน ฝั่งพม่าถ้าถูกยุงกัดเป็นต้องได้มาเลเรียเป็นของแถม ดังนั้นถ้ามีกลดหรือมุ้ง ยอมแบกหนักมาจะปลอดภัยกว่า อาตมาเหยียบลูกบวบแพพาตัวขึ้นไป พอดีโยมอีกหลายคนดันขึ้นพร้อมกัน ลูกบวบยุบฮวบเล่นเอาสบงเปียกไปครึ่งตัว..!

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1282268621
หมู่เรือนแพที่เป็นทั้งที่พักและร้านอาหารไปในตัว มีตลอดระยะทาง

บนแพเป็นร้านขายอาหาร มีข้าวของเครื่องใช้ประจำวันหลายอย่างไว้จำหน่าย เรือของใครมาค่ำแวะพักนอนได้เลย เพียงแต่ตอนเช้าต้องกินอาหารของเขา ท่านนาวินบอกว่ามีแพแบบนี้เป็นระยะไปตลอดทาง สาวเจ้าของแพกำลังซ่อมวิทยุอยู่ เล่นรื้อออกมาทุกชิ้นแบบนี้ ถ้าไม่ระวังให้รอบคอบญี่ปุ่นต้องทำเกินเป็นแน่ อาตมาแค่เห็นสายไฟเกินสองเส้นก็ปวดหัวแล้ว...

พระลงหนึ่งแต่โยมขึ้นมาสาม เป็นพวกอิสลามที่ต้อนวัวไปขาย กำลังจะเดินทางกลับบ้านที่เมืองจะอีน สำรวจว่าทุกคนลงเรือกันหมดแล้วจึงเดินทางต่อ เรือบรรทุกกลอยยังคงมีให้เห็นเป็นระยะ เรือสีข้าวลอยลำรับสีข้าวให้ชาวบ้านอยู่ริมน้ำ นกแซงแซวเหลือบเล็กบินไล่โฉบแมลงกลางอากาศอย่างคล่องแคล่ว กาละมังพลาสติกของใครไม่รู้ลอยไปค้างอยู่บนยอดไม้โน่น...

คิมหันต์ 17-08-2010 19:08

1 Attachment(s)
แพไม้ไผ่เรียงรายเป็นตับ เขาเอาซุงผูกพยุงไว้ข้างใต้ ล่องไปขายที่เมืองเวสาลีหรือไม่ก็เมืองจะอีน ขายได้ทั้งซุงและไม้ไผ่ ครอบครัวนักเลงแพซุงสร้างกระต๊อบเล็ก ๆ อยู่บนแพนั่นเลย เด็ก ๆ ตัวดำเป็นเหนี่ยงไล่ปล้ำฟัดกันกลิ้งไปกลิ้งมา บางทีพลัดตกตูมลงไปในน้ำ เดี๋ยวก็ผุดขึ้นมาหัวเราะหน้าเป็น แถมโบกไม้โบกมือให้เรือของเราซะอีก...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1282268787
การตัดไม้ทำลายป่าหนักแบบนี้ อีกไม่กี่ปีไม้คงหมดประเทศเป็นแน่..!

ริมตลิ่งมีโรงเลื่อยมากมายตลอดเส้นทาง ขี้เลื่อยกองเป็นภูเขาเลากา ถ้ายังตัดไม้ทำลายป่ากันหนักหน่วงขนาดนี้ อีกไม่ถึงสิบปีพม่าคงหมดป่าเป็นแน่ ไม้ที่เปิดปีกแปรรูปแล้วส่วนใหญ่ใช้เกวียนบรรทุกไปสู่จุดหมาย ส่วนท่อนซุงจะมีช้างคอยงัดลงมาในแม่น้ำ จากนั้นบรรดานักเลงแพซุงจะเจาะจมูกไม้ผูกมัดกับแพไม้ไผ่ เตรียมล่องไปขายอีกที

คิมหันต์ 18-08-2010 23:16

1 Attachment(s)
สายน้ำแยกเป็นสองทาง นายท้ายของเราบังคับเรือไม่ทัน หัวเรือทิ่มสวบเข้าไปในดงไม้น้ำ ต้องลงจากเรือไปช่วยกันเข็น เกาะกลางเป็นสันดอนทรายละเอียดยิบ นกกระแตหาดบินขาห้อยร่องแร่งร้อง "แตแต้แว้ด...แตแต้แว้ด..." หลอกล่อให้พวกเราสนใจตัวเอง เพื่อที่จะได้ไม่ไปทำอันตรายกับไข่ของเขาในหลุมทราย เออหนอ...ความรักของแม่...

ร่องน้ำรวมบรรจบเป็นสายเดียวกันอีกที เถาขี้กาเลื้อยอยู่บนต้นไม้ใหญ่ มีลูกสีแดงห้อยโตงเตงเป็นราว ท่านนาวินชี้ให้ดูหมู่เรือนแพทางขวามือ บอกว่าเมื่อขามาพักนอนกันที่ตรงนี้แหละ แต่เรือของอ่องโมเป็นเรือใหญ่ไปเร็ว ถ้าโชคดีคงจะถึงเมืองจะอีนในวันนี้เลย บรรดาผู้ที่มาด้วยหลับกันหัวก่ายท้ายเกย อาตมาหยิบแกลลอนพลาสติกผ่าซีก มาช่วยวิดน้ำที่ซึมเข้าเรือ...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1282268935
ด่านกะเหรี่ยง..ห้ามถ่ายรูป แต่คนถ่ายตั้งใจฟังภาษาพม่าไม่ออก..!

บ่ายสามโมงมีเรือนแพอีกหมู่ใหญ่ นายท้ายของเราบอกว่าเป็นด่านกะเหรี่ยง อย่าไปถ่ายรูปเข้าเป็นอันขาด ถ้ายังไม่อยากติดคุกเมืองพม่า อาตมาชอบอะไรที่ท้าทายแบบนี้อยู่แล้ว จึงจัดการเก็บภาพมาฝากทุกคนแบบนิ่ม ๆ คราวก่อนถ่ายภาพกองบัญชาการทหารพม่า ทำเอาโชเฟอร์บอกศาลามาแล้ว หวังว่าคราวนี้เขาคงไม่ปล่อยให้อาตมาว่ายน้ำไปเองนะ..!

เรือแล่นเลยไปสิบกว่าเมตรเพื่อตีวงเข้าเทียบแพ แค่นั้นพวกทหารยังคิดว่าจะหนี เป่านกหวีดเรียกเป็นการใหญ่ อาตมาก้าวขึ้นแพไปสะดุดเส้นเอ็นที่ผูกไว้กับเสาแพ มันเล่นตกปลากันง่าย ๆ แบบนี้เอง ขึ้นไปบนบกหลังแพหาที่ปัสสาวะ เสร็จแล้วลงมาเติมชาร้อนเข้าไปแก้วใหญ่ พม่าเขาใช้น้ำในแม่น้ำทั้งกินทั้งอาบ ยังดีที่น้ำดื่มเขาต้มใส่ชา พอจะป้องกันท้องร่วงไปได้บ้าง...

คิมหันต์ 20-08-2010 21:34

1 Attachment(s)
อ่องโมเจรจากับทหารว่าจะจ่ายเท่าไร อาตมาสำรวจสินค้าบนแพ ของใช้สารพัดยี่ห้อเมดอินไทยแลนด์แทบทั้งนั้น น่าภูมิใจแทนประเทศไทยเหมือนกัน เสียดายที่ไม่ใช่การส่งเสริมของรัฐบาล หากแต่เป็นการค้าขายของพานิชยการไร้สำนัก หากินยาไส้ไปวัน ๆ เท่านั้น หากได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจัง รับรองว่าเรายึดตลาดพม่าได้เกินแปดสิบเปอร์เซนต์...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1282390024
บุหรี่พม่าแบบนี้แหละ ที่บรรดาปล่องโรงสีเคลื่อนที่สูบไล่แมลงกัน

จ่ายค่าผ่านทางแล้วออกเดินทางต่อ พ้นแพไปไม่ถึง ๓๐๐ เมตร เครื่องเรือดับเอาดื้อ ๆ นายท้ายเจ้าโทสะปล้ำอยู่เป็นนานกว่าจะติดได้ เล่นเอาเหงื่อตกกีบ แถมตรงกลางน้ำนี้ริ้นยังชุมเอาเรื่อง บรรดาปล่องโรงสีเคลื่อนที่งัดเอาบุหรี่มาเผากันใหญ่ อาศัยควันบุหรี่ไล่ตัวริ้น ชาวพม่าที่ไปทำงานสวนป่าแถวเกาะพระฤๅษี สูบบุหรี่ทั้งหญิงและชาย บอกว่าสูบไล่แมลงเหมือนกัน...

คิมหันต์ 20-08-2010 21:38

2 Attachment(s)
ผ่านสายน้ำแยกออกไปทางขวาเป็นห้วยแห้งไปแล้ว ท่านนาวินบอกว่า ตรงจุดนี้มีทางเกวียนไปยังบ้านหนองบัว ถ้าเดินทางด้วยเกวียนจากจุดนี้ ต้องค้างกลางทางหนึ่งคืน หน้าแล้งมีรถจากด่านเจดีย์สามองค์มาถึง อุตส่าห์ถ่อสังขารมากับเรือจนถึงขนาดนี้แล้ว คุณจะขี่เกวียนก็ตามสะดวก ผมยอมทนนั่งหลังขดหลังแข็งไปกับเรือแบบนี้ดีกว่า...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1282390144
ขี่เกวียนไปแบบนี้ค้างอีกคืนเดียวก็ถึงแล้ว..!

ตะวันลดความร้อนลงไปมาก เนื่องจากตกต่ำจนเริ่มบังเงาไม้ สายน้ำแผ่กระจายออกกว้าง แก่งหินโผล่เห็นเด่นชัด แพซุงแพหนึ่งไปเกยติดอยู่กลางแก่ง บรรดานักเลงแพซุงกำลังช่วยกันงัดให้หลุด เรือของเราลงร่องน้ำได้ผ่านฉิวไปเลย นกยางกรอกสองตัวผัวเมียผวาบินหนีเรือ เห็นขาวโพลนเด่นชัด พอหลุบปีกลงเกาะก็หายวับไปกับตา เนื่องจากขนภายนอกของมันสีกลืนกับดงไม้อย่างสนิท...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1282390144
ตรงที่นูน ๆ นั่นแหละครับท่านสารวัตร แก่งหินล้วน ๆ..!

แก่งน้ำขนาดใหญ่ สายน้ำเชี่ยวน่าสะพรึงกลัว เกลียวคลื่นม้วนตัวดังโครมครืน อ่องโมหน้าเครียดมือกุมหางเรือกระชับมั่น สายตาจ้องเขม็งอยู่ที่ร่องน้ำ อาตมาจับเคล็ดได้แล้วว่า ส่วนของคลื่นที่ม้วนเป็นลูกโต ๆ นั้น ข้างล่างคือโขดหินก้อนใหญ่ ต้องพาเรือลงระหว่างลูกคลื่นจึงจะรอด เรือของเราพุ่งลงร่องตรงกลางคลื่นพอดิบพอดี อาตมาเพิ่งถอนใจโล่งอก กราบเรือก็กระแทกหินเสียงดังครืด..!

คิมหันต์ 21-08-2010 21:35

1 Attachment(s)
เรือแฉลบสะบัดข้างแล้วพุ่งผ่านแก่งไปได้อย่างน่าหวาดเสียว ท่านนาวินที่เกร็งแขนจับกราบเรือแน่น บอกว่าเมื่อวานเพิ่งล่มตรงนี้ไปลำหนึ่ง ยังดีที่ไม่มีใครตาย พ้นแก่งไปสายน้ำค่อยลดความรุนแรงลง สองฝั่งล้วนแล้วแต่แพซุงทั้งนั้น นกอีโก้งสองตัวทำรังอยู่บนยอดไม้ ทั้งที่ปกติมันจะทำรังตามกอสวะที่ลอยบนน้ำ แต่ที่นี่หากน้ำหลาก ระดับรังของมันจะพ้นน้ำพอดี...

เรือแสวงบุญปักธงฉัพพรรณรังสีวิ่งทวนน้ำมา คงจะไปถึงด่านเจดีย์สามองค์ หรืออาจจะข้ามฝั่งไทยไปกราบหลวงพ่ออุตตะมะ เรือกระแชงลำใหญ่สานแผงไม้ไผ่ทำเป็นประทุนอย่างปราณีต ภายในแผงประทุนกรุด้วยใบตองตึงถี่ยิบ กันแดดกันฝนได้อย่างวิเศษ หนุ่มแน่นนายหนึ่งแบกปืนแก๊ป ด้อมล่าสัตว์อยู่แถวชายป่าริมตลิ่ง...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1282476502
ชาวบ้านพาลูก ๆ ลงมาอาบน้ำในยามเย็น

ช้างสองเชือกงัดไม้ซุงกลิ้งลงน้ำดังตูมสนั่น ชายตลิ่งช่วงนี้สูงชัน มีแต่เถาวัลย์ห้อยระย้า เด็กเล็กบนแพกระโดดน้ำแข่งกันด้วยลีลาที่คิดว่าดีที่สุดของเขา อาตมาสำรวจใจของตนเอง เห็นนิ่งสงบเย็นเป็นปกติ มาพม่าทีไรสภาพใจจะทรงอารมณ์อัตโนมัติ ไม่ต้องภาวนาก็สงบเย็นไปเอง ยังไม่แน่ใจว่า ถ้าเคยชินแล้วมันจะฟุ้งซ่านใหม่หรือไม่..?

คิมหันต์ 23-08-2010 19:27

1 Attachment(s)
ตะวันลับทิวไม้ไปแล้วอากาศเริ่มเย็นลง นกขุนแผนสี่ห้าตัวกำลังบินกลับรัง นายท้ายของเราเร่งเครื่องทำเวลาเป็นการใหญ่ สายน้ำถูกแหวกเป็นปีกกระเซ็นซ่าน ชาวบ้านเริ่มลงเบ็ดราวกันหลายราย คงจะมากู้เบ็ดตอนกลางคืน สาว ๆ ลงมาอาบน้ำตามชายตลิ่ง รายหนึ่งนุ่งผ้าถุงลายเสือกระโจมอก เห็นแล้วนึกถึงแม่เสือสาวแห่งป่ากิเลสขึ้นมาโดยพลัน...

เรือเทียบเข้าหมู่แพทางซ้ายมือ คิดว่าจะพักกันที่นี่ กลับเป็นว่าอ่องโมมาเก็บเงินค่าสินค้าที่ขนมาให้คราวก่อน แถมยังฝากเจ้าของแพเล่นหวยอีกด้วย พอเรือออกตัวท่านนาวินบ่นเสียดาย บอกว่าแพนี้กว้างขวางสะอาดสะอ้าน น้ำท่าตรงนี้ก็ใสดี น่าจะพักกันแต่เนิ่น ๆ แต่ว่าการมาบ่นตอนนี้ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เพราะนายท้ายจอมดีเดือดพาเรือวิ่งน้ำบานไปด้วยความเร็วสูง...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1282820801
ใกล้ค่ำแล้วนึกว่าจะพัก ที่ไหนได้..อ่องโมพาวิ่งต่อไปเฉยเลย..!

สองฝั่งเป็นดงหวายรกทึบ ชูยอดสลอน เห็นแล้วน่าเก็บมาผัดหรือต้มจิ้มน้ำพริก เหยี่ยวนกเขาเลี้ยงตัวอยู่กลางอากาศ เตรียมพุ่งลงจับเหยื่อมื้อค่ำ เถาฟักข้าวทอดตัวระโยงระยางอยู่บนต้นไม้ใหญ่ ลูกสีแดงที่มีหนามคล้ายทุเรียนขนาดเล็ก แฝงใบให้เห็นแค่ซีกเดียว นกยางเปียคู่หนึ่งเกาะอยู่ชิดชายน้ำ อ่องโมเบียดเรือเข้าไปแกล้งตะเพิดไล่ มันทำท่าผวาแล้วเกาะอยู่ที่เดิม จ้างก็ไม่หนี ฮิ...ฮิ..!

เรือลาดตระเวนของทหารแล่นสวนมา ทหารเพียบทั้งลำ คงจะไปพักกันที่ด่านซึ่งเราผ่านมา หมอกบาง ๆ เริ่มก่อตัวขึ้นเหนือผิวน้ำ พอเรือพ้นคุ้งน้ำ ป่าหมาก ป่ามะพร้าวก็โผล่ให้เห็น ท่านนาวินบอกว่าตรงนี้คือบ้านดงใหญ่ ทำไร่อ้อยกันเป็นอาชีพ ปีที่แล้วบ้านนี้บ้านเดียวทำน้ำตาลอ้อยได้เกือบ ๑,๐๐๐ ชั่ง (ชั่งละ ๓ ปอนด์) ใส่ทองอร่ามกันไปทั้งหมู่บ้านเลย...

คิมหันต์ 24-08-2010 18:42

1 Attachment(s)
เรือสะดุดดับลงอีกครั้ง คราวนี้เกิดจากน้ำมันหมด แค่เอาแกลลอนสำรองมาวางเสียบสายน้ำมันลงไปก็เรียบร้อย เล่นกันง่าย ๆ แบบนี้ ถ้าเจอขี้บุหรี่เข้าวันไหน เป็นได้เล่นบทหนุมานเผาลงกากันบ้าง พระที่มาด้วยขอลงไปปัสสาวะบนสันทรายกลางน้ำ อาตมาฉวยโอกาสตามลงไปบ้าง...จงฉี่ซะเมื่อท่านมีโอกาส...แถมบิดตัวไล่ความเมื่อยขบ จนกระดูกลั่นกรอบแกรบไปทั้งตัว

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1282821366
เส้นทางน้ำดูแล้วสวยงามดี แต่ถ้าพลาดขึ้นมาก็ไม่มีโอกาสแก้ตัว..!

ผ่านฝูงแพะที่ลงมากินน้ำก่อนกลับคอก แมลงชีปะขาวตกเกลื่อนลำน้ำ ช่วงนี้ปลาคงกินกันเบื่อแล้วเบื่ออีก น่าแปลกที่หมู่บ้านนี้ก็เรียกชื่อว่าบ้านชุยปูฮัด (แมลงสาบทอง) ซึ่งหมายถึงชีปะขาวนี่เอง อ่องโมวาดเรือเข้าเทียบแพ บอกกับทุกคนว่าพักกันที่นี่แหละ มีเรือมาพักอยู่ก่อนแล้วสามลำ คนแน่นไปหมด เจ้าของแพกำลังตักอาหารแจกมือเป็นระวิง คนมากแบบนี้คงกำไรหลายตังค์...

คิมหันต์ 24-08-2010 18:46

1 Attachment(s)
เพิ่งรู้ว่านายท้ายของเราพาเมียมาด้วย ก็คือสาวที่นั่งเป็นแม่ย่านางที่หัวเรือนั่นแหละ แต่ตอนนี้แม่ย่านางหน้าหงิกเป็นม้าหมากรุก เพราะเจ้าผัวตัวดีพาอดมาสองมื้อแล้ว เลี้ยงเมียแบบนี้ประหยัดดีเหมือนกัน เล่นมื้อเดียวตอนเย็นเป็นอันจบ แต่คนอดมาทั้งวันนี่มันกินน่าดูชมเชียวละ อาตมากับท่านนาวินแบกย่ามเดินแยกจากแพที่พลุกพล่าน ไปยังแพที่พังไปเกือบครึ่งแทบไม่มีหลังคา มันว่างดีไม่มีใครมาแย่ง...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1282820979
แพพักที่ค่อนข้างจะแออัดยัดเยียด ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน

เดินแบบระมัดระวังสุดขีด แพที่เขาทิ้งแล้วแบบนี้มันผุไปซะทุกจุด ผิดที่ผิดทางนิดเดียวเป็นหักกร๊อบทันที เลือกจนได้ที่เหมาะกับตนเอง งัดเอาผ้าพลาสติกมาปูเป็นที่นอน ท่านนาวินแบกกลดมาด้วย จัดการแขวนกับขื่อแล้วปล้ำกับมุ้งกลดที่ใส่ยากอยู่สักหน่อย เพราะลมแม่น้ำที่แรงเอาเรื่อง คอยตีจนเกือบจะใส่มุ้งกลดไม่สำเร็จ อาตมาที่ถนัดในการคลุมโปง ไม่ต้องเดือดร้อนไปกับท่านด้วย...

จัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวซะหน่อย จะหมกไม่แตะน้ำเลยก็เกรงใจตัวเอง เรายังทนเหม็นตัวเองไม่ไหว ขืนไปนั่งรวมกับเขาอาจจะถูกถีบลงน้ำไม่รู้ตัว จากนั้นเอาไฟฉายมาวางพร้อมไว้ข้างตัว สวดมนต์แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ แล้วเอาจีวรตีโปงหนียุงที่เริ่มมากขึ้น ส่งใจไปกราบพระบนนิพพาน ภาวนาไม่กี่ทีก็หลับไปในเวลาอันรวดเร็ว...

คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:04


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว