ทำวัตรเย็น วันศุกร์
บทสวดมนต์ทำวัตรเย็น ทำวัตรเย็น วันศุกร์ รอบพิเศษ <iframe src="https://anchor.fm/sudhamma/embed/episodes/ep-e18b9qd/a-a6l5llt" height="102px" width="400px" frameborder="0" scrolling="no"></iframe> ทำวัตรเย็น รอบ ๒ <iframe src="https://anchor.fm/sudhamma/embed/episodes/ep-e18b9gd/a-a6l5llv" height="102px" width="400px" frameborder="0" scrolling="no"></iframe> ขอเชิญสมาชิกทุกท่านสวดมนต์ทำวัตรเย็นร่วมกัน พร้อมกับพระภิกษุที่วัดท่าขนุนในเวลา ๑๘.๐๐ น. หรือตามแต่เวลาที่ท่านสะดวก หากเปิดหน้านี้แล้วกรุณาคลิดที่ชื่อไฟล์ที่ต้องการเปิด เพื่อทำการโหลดแถบเครื่องเล่นเสียง และท่านสามารถกดที่ปุ่ม"เล่น" เพื่อเปิดเสียงสวดมนต์ และร่วมสวดตามบทสวดมนต์โดยพร้อมเพรียงกัน |
บทสวดมนต์พิเศษ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ) อิมินาสักกาเรนะ พุทธะปูชา มะหาเตชะวันโต อิมินาสักกาเรนะ ธัมมะปูชา มะหาปัญญะวันโต อิมินาสักกาเรนะ สังฆะปูชา มะหาโภคะวะโห ติโลกะนาถัง อะภิปูชะยามะ อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ) ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ) กายะกัมมัง วะจีกัมมัง มะโนกัมมัง สัพพะปาปัง วินาสสันตุ โย โทโส โมหะจิตเตนะ พุทธัส๎มิง ธัมมัส๎มิง สังฆัส๎มิง อาจะริยัส๎มิง ปาปะกะโต มะยัง ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินาสสันตุ อุกาสะ วันทามิ ภันเต สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อะนุโมทิตัพพัง สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง ทาตัพพัง สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ ฯ สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ท๎วารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ |
นมัสการพระอรหันต์ ๘ ทิศ (นํา) หันทะ มะยัง สะระภัญเญนะ พุทธะมังคะละคาถาโย ภะณามะ เส ฯ ..................................สัมพุทโธ ทิปะทัง เสฏโฐ..............นิสินโน เจวะ มัชฌิเม ..................................โกณฑัญโญ ปุพพะภาเค จะ...........อาคะเณยเย จะ กัสสะโป ..................................สารีปุตโต จะ ทักขิเณ..................หะระติเย อุปาลี จะ ..................................ปัจฉิเมปิ จะ อานันโท..................พายัพเพ จะ คะวัมปะติ ..................................โมคคัลลาโน จะ อุตตะเร...............อิสาเณปิ จะ ราหุโล ..................................อิเม โข มังคะลา พุทธา................สัพเพ อิธะ ปะติฏฐิตา ..................................วันทิตา เต จะ อัม๎เหหิ..................สักกาเรหิ จะ ปูชิตา ..................................เอเตสัง อานุภาเวนะ....................สัพพะโสตถี ภะวันตุ โน ฯ ..................................................อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง ..................................................นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง ..................................................ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง ..................................................ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโย ฯ |
คาถาบูชาพระพุทธสิหิงค์ (นํา) หันทะ มะยัง พุทธะปะสังสา คาถาโย พุทธะสิหิงโค นามะ ภะณามะ เส ฯ ..........................................อิติ ปะวะระสิหิงโค........อุตตะมะยะโสปิ เตโช ..................................ยัตถะ กัตถะ จิตโตโส............สักกาโร อุปาโท ..................................สะกาละพุทธะสาสะนัง...........โชตะยันโตวะ ทีโป ..................................สุระนะเรหิ มะหิโต................ธะระมาโนวะ พุทโธติ ..........................................พุทธะสิหิงคา...............อุบัติมา ณ แดนใด ..................................ประเสริฐ ธ เกริกไกร...............ดุจกายพระศาสดา ..........................................เป็นที่เคารพน้อม...........มนุษย์พร้อมทั้งเทวา ..................................เปรียบเช่นชวาลา..................ศาสนาที่ยืนยง ..........................................เหมือนหนึ่งพระสัมพุทธ...สุวิสุทธิ์พระชนม์คง ..................................แดนใด ธ ดํารง....................พระศาสน์คงก็จํารูญ ..........................................ด้วยเดชสิทธิศักดิ์..........ธ พิทักษ์อนุกูล ..................................พระศาสน์บ่มีสูญ...................พระเพิ่มพูนมหิทธา ..........................................ข้า ฯ ขอเคารพน้อม.......วจีค้อมขึ้นบูชา ..................................พิทักษ์ ธ รักษา....................พระศาสน์มาตลอดกาล ..........................................ปวงข้า ฯ จะประกาศ.......พุทธศาสน์ให้ไพศาล ..................................ขอพระอภิบาล.....................ชินมารนิรันดร์ เทอญ |
พระคาถาชินบัญชร ...........................................ชะยาสะนากะตา พุทธา.............เชต๎วา มารัง สะวาหะนัง ....................................จะตุสัจจาสะภัง ระสัง.......................เย ปิวิงสุ นะราสะภา ...........................................ตัณหังกะราทะโย พุทธา............อัฏฐะวีสะติ นายะกา ....................................สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง....................มัตถะเก เต มุนิสสะรา ...........................................สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง...............พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน ....................................สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง....................อุเร สัพพะคุณากะโร ...........................................หะทะเย เม อะนุรุทโธ...............สารีปุตโต จะ ทักขิเณ ....................................โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัส๎มิง.................โมคคัลลาโน จะ วามะเก ...........................................ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง..............อาสุง อานันทะราหุโล ....................................กัสสะโป จะ มะหานาโม....................อุภาสุง วามะโสตะเก ...........................................เกสะโต ปิฏฐิภาคัส๎มิง...............สุริโยวะ ปะภังกะโร ....................................นิสินโน สิริสัมปันโน........................โสภีโต มุนิปุงคะโว ...........................................กุมาระกัสสะโป เถโร................มะเหสี จิตตะวาทะโก ....................................โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง...................ปะติฏฐาสิ คุณากะโร ...........................................ปุณโณ อังคุลิมาโล จะ..............อุปาลีนันทะสีวะลี ....................................เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา.....................นะลาเฏ ติละกา มะมะ ...........................................เสสาสีติ มะหาเถรา..................วิชิตา ชินะสาวะกา ....................................เอเตสีติ มะหาเถรา.........................ชิตะวันโต ชิโนระสา ....................................ชะลันตา สีละเตเชนะ.......................อังคะมังเคสุ สัณฐิตา ...........................................ระตะนัง ปุระโต อาสิ.................ทักขิเณ เมตตะสุตตะกัง ....................................ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ.....................วาเม อังคุลิมาละกัง ...........................................ขันธะโมระปะริตตัญจะ...............อาฏานาฏิยะสุตตะกัง ....................................อากาเส ฉะทะนัง อาสิ......................เสสา ปาการะสัณฐิตา ...........................................ชินาณา วะระสังยุตตา...............สัตตัปปาการะลังกะตา ....................................วาตะปิตตาทิสัญชาตา......................พาหิรัชฌัตตุปัททะวา ...........................................อะเสสา วินะยัง ยันตุ................อะนันตะชินะเตชะสา ....................................วะสะโต เม สะกิจเจนะ.....................สะทา สัมพุทธะปัญชะเร ...........................................ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ...............วิหะรันตัง มะหีตะเล ....................................สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ..................เต มะหาปุริสาสะภา ...........................................อิจเจวะมันโต........................สุคุตโต สุรักโข ....................................ชินานุภาเวนะ...............................ชิตูปัททะโว ....................................ธัมมานุภาเวนะ..............................ชิตาริสังโฆ ....................................สังฆานุภาเวนะ..............................ชิตันตะราโย ....................................สัทธัมมานุภาวะปาลิโต.....................จะรามิ ชินะปัญชะเรติ |
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)
อุณ๎หิสสะวิชะยะคาถา อัตถิ อุณ๎หิสสะ วิชะโย.....................ธัมโม โลเก อะนุตตะโร สัพพะสัตตะหิตัตถายะ......................ตัง ต๎วัง คัณหาหิ เทวะเต ปะริวัชเช ราชะทัณเฑ......................อะมะนุสเสหิ ปาวะเก พะยัคเฆ นาเค วิเส ภูเต....................อะกาละมะระเณนะ วา สัพพัส๎มา มะระณา มุตโต..................ฐะเปต๎วา กาละมาริตัง ตัสเสวะ อานุภาเวนะ.......................โหตุ เทโว สุขี สะทา สุทธะสีลัง สะมาทายะ.....................ธัมมัง สุจะริตัง จะเร ตัสเสวะ อานุภาเวนะ.......................โหตุ เทโว สุขี สะทา ลิกขิตัง จินติตัง ปูชัง.......................ธาระณัง วาจะนัง คะรุง ปะเรสัง เทสะนัง สุต๎วา.....................ตัสสะ อายุ ปะวัฑฒะตีติ |
ปัพพะโตปะมะคาถา
ยะถาปิ เสลา วิปุลา..........................นะภัง อาหัจจะ ปัพพะตา สะมันตา อะนุปะริเยยยุง.....................นิปโปเถนตา จะตุททิสา เอวัง ชะรา จะ มัจจุ จะ......................อะธิวัตตันติ ปาณิโน ขัตติเย พ๎ราห๎มะเณ เวสเส..................สุทเท จัณฑาละปุกกุเส นะ กิญจิ ปะริวัชเชติ.........................สัพพะเมวาภิมัททะติ นะ ตัตถะ หัตถีนัง ภูมิ.......................นะ ระถานัง นะ ปัตติยา นะ จาปิ มันตะยุทเธนะ......................สักกา เชตุง ธะเนนะ วา ตัส๎มา หิ ปัณฑิโต โปโส....................สัมปัสสัง อัตถะมัตตะโน พุทเธ ธัมเม จะ สังเฆ จะ...................ธีโร สัทธัง นิเวสะเย โย ธัมมะจารี กาเยนะ.......................วาจายะ อุทะ เจตะสา อิเธวะ นัง ปะสังสันติ........................เปจจะ สัคเค ปะโมทะติ ฯ |
อะริยะธะนะคาถา
ยัสสะ สัทธา ตะถาคะเต....................อะจะลา สุปะติฏฐิตา สีลัญจะ ยัสสะ กัล๎ยาณัง...................อะริยะกันตัง ปะสังสิตัง สังเฆ ปะสาโท ยัสสัตถิ....................อุชุภูตัญจะ ทัสสะนัง อะทะลิทโทติ ตัง อาหุ.....................อะโมฆันตัสสะ ชีวิตัง ตัส๎มา สัทธัญจะ สีลัญจะ...................ปะสาทัง ธัมมะทัสสะนัง อะนุยุญเชถะ เมธาวี........................สะรัง พุทธานะ สาสะนันติ ฯ |
บทขัดธรรมนิยามะสูตร
ยัง เว นิพพานะญาณัสสะ..................ญาณัง ปุพเพ ปะวัตตะเต ตัสเสวะ วิสะยีภูตา.........................ยายัง ธัมมะนิยามะตา อะนิจจะตา ทุกขะตา จะ...................สัพเพสัง จะ อะนัตตะตา ตัสสา ปะกาสะกัง สุตตัง...................ยัง สัมพุทเธนะ ภาสิตัง สาธูนัง ญาณะจาเรนะ......................ยะถา พุทเธนะ เทสิตัง โยนิโส ปะฏิปัต๎ยัตถัง......................ตัง สุตตันตัง ภะณามะ เส ฯ ธัมมะนิยามะสุตตัง เอวัมเม สุตัง ฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อาราเม ฯ ตัต๎ระ โข ภะคะวา ภิกขู อามันเตสิ ภิกขะโวติ ฯ ภะทันเตติ เต ภิกขู ภะคะวะโต ปัจจัสโสสุง ฯ ภะคะวา เอตะทะโวจะ อุปปาทา วา ภิกขะเว ตะถาคะตานัง อะนุปปาทา วา ตะถาคะตานัง ฐิตา วะ สา ธาตุ ธัมมัฏฐิตะตา ธัมมะนิยามะตา สัพเพ สังขารา อะนิจจาติ ฯ ตัง ตะถาคะโต อะภิสัมพุชฌะติ อะภิสะเมติ อะภิสัมพุชฌิต๎วา อะภิสะเมต๎วา อาจิกขะติ เทเสติ ปัญญะเปติ ปัฏฐะเปติ วิวะระติ วิภะชะติ อุตตานีกะโรติ สัพเพ สังขารา อะนิจจาติ ฯ อุปปาทา วา ภิกขะเว ตะถาคะตานัง อะนุปปาทา วา ตะถาคะตานัง ฐิตา วะ สา ธาตุ ธัมมัฏฐิตะตา ธัมมะนิยามะตา สัพเพ สังขารา ทุกขาติ ฯ ตัง ตะถาคะโต อะภิสัมพุชฌะติ อะภิสะเมติ อะภิสัมพุชฌิต๎วา อะภิสะเมต๎วา อาจิกขะติ เทเสติ ปัญญะเปติ ปัฏฐะเปติ วิวะระติ วิภะชะติ อุตตานีกะโรติ สัพเพ สังขารา ทุกขาติ ฯ อุปปาทา วา ภิกขะเว ตะถาคะตานัง อะนุปปาทา วา ตะถาคะตานัง ฐิตา วะ สา ธาตุ ธัมมัฏฐิตะตา ธัมมะนิยามะตา สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ฯ ตัง ตะถาคะโต อะภิสัมพุชฌะติ อะภิสะเมติ อะภิสัมพุชฌิต๎วา อะภิสะเมต๎วา อาจิกขะติ เทเสติ ปัญญะเปติ ปัฏฐะเปติ วิวะระติ วิภะชะติ อุตตานีกะโรติ สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ฯ อิทะมะโว จะ ภะคะวา ฯ อัตตะมะนา เต ภิกขู ภะคะวะโต ภาสิตัง อะภินันทุนติ ฯ |
ติลักขะณาทิคาถา
สัพเพ สังขารา อะนิจจาติ..................ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข...................เอสะ มัคโค วิสุทธิยา สัพเพ สังขารา ทุกขาติ....................ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข...................เอสะ มัคโค วิสุทธิยา สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ....................ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข...................เอสะ มัคโค วิสุทธิยา อัปปะกา เต มะนุสเสสุ.....................เย ชะนา ปาระคามิโน อะถายัง อิตะรา ปะชา.....................ตีระเมวานุธาวะติ เย จะ โข สัมมะทักขาเต..................ธัมเม ธัมมานุวัตติโน เต ชะนา ปาระเมสสันติ....................มัจจุเธยยัง สุทุตตะรัง กัณหัง ธัมมัง วิปปะหายะ..................สุกกัง ภาเวถะ ปัณฑิโต โอกา อะโนกะมาคัมมะ....................วิเวเก ยัตถะ ทูระมัง ตัต๎ราภิระติมิจเฉยยะ.......................หิต๎วา กาเม อะกิญจะโน ปะริโยทะเปยยะ อัตตานัง ................จิตตัก๎เลเสหิ ปัณฑิโต เยสัง สัมโพธิยังเคสุ ......................สัมมา จิตตัง สุภาวิตัง อาทานะปะฏินิสสัคเค......................อะนุปาทายะ เย ระตา ขีณาสะวา ชุติมันโต.......................เต โลเก ปะรินิพพุตาติ ฯ |
ปะฏิจจะสะมุปปาทะปาฐะ
อะวิชชาปัจจะยา สังขารา สังขาระปัจจะยา วิญญาณัง วิญญาณะปัจจะยา นามะรูปัง นามะรูปะปัจจะยา สะฬายะตะนัง สะฬายะตะนะปัจจะยา ผัสโส ผัสสะปัจจะยา เวทะนา เวทะนาปัจจะยา ตัณหา ตัณหาปัจจะยา อุปาทานัง อุปาทานะปัจจะยา ภะโว ภะวะปัจจะยา ชาติ ชาติปัจจะยา ชะรามะระณัง โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา สัมภะวันติ ฯ เอวะเมตัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ สะมุทะโย โหติ ฯ อะวิชชายะเต๎ววะ อะเสสะวิราคะนิโรธา สังขาระนิโรโธ สังขาระนิโรธา วิญญาณะนิโรโธ วิญญาณะนิโรธา นามะรูปะนิโรโธ นามะรูปะนิโรธา สะฬายะตะนะนิโรโธ สะฬายะตะนะนิโรธา ผัสสะนิโรโธ ผัสสะนิโรธา เวทะนานิโรโธ เวทะนานิโรธา ตัณหานิโรโธ ตัณหานิโรธา อุปาทานะนิโรโธ อุปาทานะนิโรธา ภะวะนิโรโธ ภะวะนิโรธา ชาตินิโรโธ ชาตินิโรธา ชะรามะระณัง โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา นิรุชฌันติ ฯ เอวะเมตัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ นิโรโธ โหติ ฯ |
พุทธะอุทานะคาถา
ยะทา หะเว ปาตุภะวันติ ธัมมา...............อาตาปิโน ฌายะโต พ๎ราห๎มะณัสสะ อะถัสสะ กังขา วะปะยันติ สัพพา............ยะโต ปะชานาติ สะเหตุธัมมัง ฯ ยะทา หะเว ปาตุภะวันติ ธัมมา...............อาตาปิโน ฌายะโต พ๎ราห๎มะณัสสะ อะถัสสะ กังขา วะปะยันติ สัพพา............ยะโต ขะยัง ปัจจะยานัง อะเวทิ ฯ ยะทา หะเว ปาตุภะวันติ ธัมมา...............อาตาปิโน ฌายะโต พ๎ราห๎มะณัสสะ วิธูปะยัง ติฏฐะติ มาระเสนัง..................สูโรวะ โอภาสะยะมันตะลิกขันติ ฯ |
ภัทเทกะรัตตะคาถา
อะตีตัง นานวาคะเมยยะ....................นัปปะฏิกังเข อะนาคะตัง ยะทะตีตัมปะหีนันตัง.......................อัปปัตตัญจะ อะนาคะตัง ปัจจุปปันนัญจะ โย ธัมมัง..................ตัตถะ ตัตถะ วิปัสสะติ อะสังหิรัง อะสังกุปปัง......................ตัง วิทธา มะนุพ๎รูหะเย อัชเชวะ กิจจะมาตัปปัง.....................โก ชัญญา มะระณัง สุเว นะ หิ โน สังคะรันเตนะ.....................มะหาเสเนนะ มัจจุนา เอวัง วิหาริมาตาปิง.........................อะโหรัตตะมะตันทิตัง ตัง เว ภัทเทกะรัตโตติ......................สันโต อาจิกขะเต มุนีติ ฯ |
บทปลงสังขาร
มนุษย์เราเอ๋ย................เกิดมาทำไม................นิพพานมีสุข................อยู่ไยมิไป ตัณหาหน่วงหนัก............หน่วงชักหน่วงไว้...........ฉันไปไม่ได้.................ตัณหาผูกพัน ห่วงนั้นพันผูก................ห่วงลูกห่วงหลาน..........ห่วงทรัพย์ศฤงคาร..........จงสละเสียเถิด จะได้ไปนิพพาน.............ข้ามพ้นภพสาม.............ยามหนุ่มสาวน้อย...........หน้าตาแช่มช้อย งามแล้วทุกประการ..........แก่เฒ่าหนังยาน............แต่ล้วนเครื่องเหม็น.........เอ็นใหญ่เก้าร้อย เอ็นน้อยเก้าพัน..............มันมาทำเข็ญใจ.............ให้ร้อนให้เย็น...............เมื่อยขบทั้งตัว ขนคิ้วก็ขาว..................นัยน์ตาก็มัว..................เส้นผมบนหัว...............ดำแล้วกลับหงอก หน้าตาเว้าวอก..............ดูน่าบัดสี.....................จะลุกก็โอย.................จะนั่งก็โอย เหมือนดอกไม้โรย..........ไม่มีเกสร.....................จะเข้าที่นอน...............พึงสอนภาวนา พระอนิจจัง..................พระอนัตตา..................เราท่านเกิดมา..............รังแต่จะตาย ผู้ดีเข็ญใจ...................ก็ตายเหมือนกัน.............เงินทองทั้งนั้น..............ไม่ติดตัวไป ตายไปเป็นผี................ลูกเมียผัวรัก.................เขาชักหน้าหนี..............เขาเหม็นซากผี เปื่อยเน่าพุพอง.............หมู่ญาติพี่น้อง...............เขาหามเอาไป..............เขาวางลงไว้ เขานั่งร้องไห้................แล้วกลับคืนมา..............อยู่แต่ผู้เดียว................ป่าไม้ชายเขียว เหลียวไม่เห็นใคร...........เห็นแต่ฝูงแร้ง................เห็นแต่ฝูงกา................เห็นแต่ฝูงหมา ยื้อแย่งกันกิน................ดูน่าสมเพช..................กระดูกกูเอ๋ย................เรี่ยรายแผ่นดิน แร้งกาหมากิน...............เอาเป็นอาหาร...............เที่ยงคืนสงัด................ตื่นขึ้นมินาน ไม่เห็นลูกหลาน.............พี่น้องเผ่าพันธุ์...............เห็นแต่นกเค้า...............จับเจ่าเรียงกัน เห็นแต่นกแสก..............ร้องแรกแหกขวัญ............เห็นแต่ฝูงผี.................ร้องไห้หากัน มนุษย์เราเอ๋ย................อย่าหลงนักเลย.............ไม่มีแก่นสาร................อุตส่าห์ทำบุญ ค้ำจุนเอาไว้..................จะได้ไปสวรรค์..............จะได้ทันพระพุทธเจ้า.......จะได้เข้านิพพาน อะหัง วันทามิ สัพพะโส อะหัง วันทามิ นิพพานะปัจจะโย โหตุ ฯ |
แผ่เมตตา
สัพเพ สัตตา..................อันว่าสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น อะเวรา โหนตุ.................ขอจงอย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย อัพพะยาปัชฌา โหนตุ......ขอจงอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันละกันเลย อะนีฆา โหนตุ.................ขอจงพากันอยู่เป็นสุข อย่ามีทุกข์เลย สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ....ขอจงรักษาตนของตนให้เป็นสุขเถิด สัพเพ สัตตา..................อันว่าสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น กัมมะทุกขา ปะมุญจันตุ.....ขอจงได้มีความพ้นทุกข์เถิด ชะรา ธัมมาหิ.................เราไม่ล่วงพ้นความแก่ชราไปได้ พะยาธิ ธัมมาหิ...............เราไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้ มะระณา ธัมมาหิ.............เราไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ สัพเพ สัตตา..................อันว่าสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น กัมมัสสะกา...................มีกรรมเป็นของตัว กัมมะทายาทา................มีกรรมเป็นมรดก กัมมะโยนิ.....................มีกรรมเป็นกำเนิด กัมมะพันธุ....................มีกรรมเป็นพวกพ้อง กัมมะปะฏิสะระณา...........มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ยังกัมมัง กะริสสามิ..........ได้ทำกรรมอันใดไว้ กัล๎ยาณังวา...................ดีก็ตาม ปาปะกังวา....................ชั่วก็ตาม ตัสสะทายาทา ภะวิสสามิ...เขาทั้งหลายเหล่านั้น จะได้รับผลกรรมนั้นแล สาธุ สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ) ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ) มาตาปิตุคุณัง อะหัง วันทามิ (กราบ) คุรูปัชฌายาจะริยะคุณัง อะหัง วันทามิ (กราบ) |
ทำวัตรเย็น บทบูชาพระรัตนตรัย โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง ส๎วากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรม เป็นคำสั่งสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอบูชาอย่างยิ่ง ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น พร้อมทั้งพระธรรม และพระอริยสงฆ์ ด้วยเครื่องสักการะเหล่านี้ สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ แม้พระองค์ปรินิพพานไปนานแล้วก็ตาม ข้าพเจ้า ทั้งหลายกราบขอพระบรมพุทธานุญาต ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา ขอพระองค์ผู้มีพระทัยในอันที่จะอนุเคราะห์ แก่หมู่ชนผู้จะเกิดมาในภายหลัง อิเม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ ได้โปรดรับเครื่องสักการะเหล่านี้ ที่ข้าพเจ้าผู้ยากทั้งหลายน้อมถวายบูชา อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขอันเกื้อกูล แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ ฯ อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ) ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรม เป็นคำสั่งสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ) ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพระธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ พระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว สังฆัง นะมามิ (กราบ) ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพระอริยสงฆ์ สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า |
ปุพพะภาคะนะมะการะ พุทธานุสสะตินะยัง (นำ) หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัญเจวะ พุทธานุสสะตินะยัญจะ กะโรมะ เส ฯ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ) ขอนอบน้อมต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง ฯ ตัง โข ปะนะ ภะคะวันตัง เอวัง กัล๎ยาโณ กิตติสัทโท อัพภุคคะโต ก็เสียงสรรเสริญเยินยอถึงคุณธรรมอันงามของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นฟุ้งเฟื่องเลื่องลือไปอย่างนี้ว่า อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติอันงาม เป็นผู้เสด็จไปสู่ที่ดีงามคือพระนิพพาน เป็นผู้รู้แจ้งโลก อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ เป็นผู้ฝึกสอนบุคคลอย่างยอดเยี่ยม ไม่มีผู้อื่นเทียบได้ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯ เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้สามารถจำแนกธรรมสอนหมู่สัตว์ได้ถูกต้องตามอัธยาศัย |
พุทธาภิคีติง (นำ) หันทะ มะยัง พุทธาภิคีติง กะโรมะ เส ฯ พุทธ๎วาระหันตะวะระตาทิคุณาภิยุตโต พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ประกอบแล้วด้วยพระคุณ มีความเป็นพระอรหันต์ เป็นต้น สุทธาภิญาณะกะรุณาหิ สะมาคะตัตโต พระองค์ทรงมีพระอัธยาศัยตั้งมั่นในพระทัย อันประกอบด้วยพระบริสุทธิคุณ พระปัญญาคุณ และพระกรุณาธิคุณ โพเธสิ โย สุชะนะตัง กะมะลังวะ สูโร ทรงทำหมู่ชนคนดีให้มีจิตเบิกบานแล้ว ประดุจดังดวงอาทิตย์ทำดอกบัวให้บาน ฉะนั้น วันทามะหัง ตะมะระณัง สิระสา ชิเนนทัง ข้าพเจ้าขอกราบไหว้บูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้ไม่มีข้าศึกคือกิเลส ผู้เป็นจอมแห่งผู้ชนะ ด้วยเศียรเกล้า พุทโธ โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นที่พึ่งให้พ้นจากภัยสูงสุดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ปะฐะมานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้ควรแก่การระลึกถึงเป็นอันดับแรก ด้วยเศียรเกล้า พุทธัสสาหัส๎มิ ทาโส (ผู้หญิง ทาสี) วะ พุทโธ เม สามิกิสสะโร พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นเจ้านายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระผู้มีพระภาคเจ้าโดยแท้นั่นเทียว พุทโธ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้กำจัดทุกข์ และเป็นผู้ทำประโยชน์เกื้อกูลแก่ข้าพเจ้า พุทธัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า วันทันโตหัง (ผู้หญิง ตีหัง) จะริสสามิ พุทธัสเสวะ สุโพธิตัง ข้าพเจ้าผู้กราบไหว้อยู่ จักประพฤติปฏิบัติในความเป็นผู้ตรัสรู้ดีของพระผู้มีพระภาคเจ้านั่นเทียว นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง ข้าพเจ้าไม่มีที่พึ่งอย่างอื่น พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน ด้วยการกล่าวความจริงนี้ ขอข้าพเจ้าพึงเจริญในพระศาสนาของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า พุทธัง เม วันทะมาเนนะ (ผู้หญิง มานายะ) ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ ข้าพเจ้าผู้กราบไหว้พระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่ ได้ขวนขวายสั่งสมบุญอันใดไว้ในที่นี้ สัพเพปิ อันตะรายา เม มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา ฯ ขออันตรายทั้งหลายทั้งปวง จงอย่าได้มีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งบุญนั้น เทอญ ฯ (หมอบกราบลง ว่า) กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา พุทเธ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง กรรมชั่วอันน่าเกลียดอันใด ที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้ว ในพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยกาย วาจา และใจ พุทโธ ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงทรงงดโทษล่วงเกินอันนั้น กาลันตะเร สังวะริตุง วะ พุทเธ ฯ เพื่อข้าพเจ้าจักได้สำรวมระวังในพระผู้มีพระภาคเจ้าในกาลต่อไป ฯ |
ธัมมานุสสะติ (นำ) หันทะ มะยัง ธัมมานุสสะตินะยัง กะโรมะ เส ฯ ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรม เป็นคำสั่งสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว สันทิฏฐิโก เป็นธรรมที่บุคคลผู้ศึกษาปฏิบัติจะพึงเห็นได้ด้วยตนเอง อะกาลิโก สามารถปฏิบัติและเห็นผลได้ทุกเมื่อ ไม่จำกัดเวลา เอหิปัสสิโก เป็นธรรมที่สามารถพิสูจน์ได้จนกล้ากล่าวว่า “ท่านจงมาดูธรรมนี้เถิด” โอปะนะยิโก เป็นธรรมที่บุคคลควรน้อมเข้ามาใส่ใจ ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ ฯ ผู้รู้ธรรมแล้วทั้งหลาย จะพึงรู้ได้เฉพาะตนเองเท่านั้น |
ธัมมาภิคีติง (นำ) หันทะ มะยัง ธัมมาภิคีติง กะโรมะ เส ฯ ส๎วากขาตะตาทิคุณะโยคะวะเสนะ เสยโย พระธรรม เป็นคำสั่งสอนอันประเสริฐกว่าคำสั่งสอนใด ๆ เพราะประกอบด้วยคุณความดีที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกล่าวไว้ดีแล้ว โย มัคคะปากะปะริยัตติวิโมกขะเภโท แยกประเภทเป็นมรรค ผล ปริยัติ และความหลุดพ้นคือพระนิพพาน ธัมโม กุโลกะปะตะนา ตะทะธาริธารี พระธรรมสามารถป้องกันผู้ทรงธรรมไว้มิให้ตกไปในที่ชั่ว วันทามะหัง ตะมะหะรัง วะระธัมมะเมตัง ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระธรรมอันเป็นเครื่องขจัดความมืดนั้น ธัมโม โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง พระธรรมเป็นที่พึ่งให้พ้นจากภัยอันสูงสุดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุติยานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระธรรมนั้น อันควรแก่การระลึกถึงเป็นที่ ๒ ด้วยเศียรเกล้า ธัมมัสสาหัส๎มิ ทาโส (ผู้หญิง ทาสี) วะ ธัมโม เม สามิกิสสะโร พระธรรมเป็นเจ้านายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระธรรมโดยแท้นั่นเทียว ธัมโม ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ หิตัสสะ เม พระธรรมเป็นเครื่องกำจัดทุกข์ และทำประโยชน์เกื้อกูลแก่ข้าพเจ้า ธัมมัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตนี้แด่พระธรรม วันทันโตหัง (ผู้หญิง ตีหัง) จะริสสามิ ธัมมัสเสวะ สุธัมมะตัง ข้าพเจ้าผู้กราบไหว้อยู่ จักประพฤติปฏิบัติในความเป็นธรรมอันดีแห่งพระธรรมนั่นเทียว นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง ข้าพเจ้าไม่มีที่พึ่งอย่างอื่น พระธรรมเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน ด้วยการกล่าวความจริงนี้ ขอข้าพเจ้าพึงเจริญในพระศาสนาของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ธัมมัง เม วันทะมาเนนะ (ผู้หญิง มานายะ) ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ ข้าพเจ้าผู้กราบไหว้พระธรรมอยู่ ได้ขวนขวายสั่งสมบุญอันใดไว้ในที่นี้ สัพเพปิ อันตะรายา เม มาเหสุง ตัสสะ เตชะสา ฯ ขออันตรายทั้งหลายทั้งปวง จงอย่าได้มีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งบุญนั้น เทอญ ฯ (หมอบกราบลง ว่า) กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง กรรมชั่วอันน่าเกลียดอันใด ที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วในพระธรรม ด้วยกาย วาจา และใจ ธัมโม ปะฏิคคัณหะตุ อัจจะยันตัง ขอพระธรรมจงงดโทษอันล่วงเกินนั้น กาลันตะเร สังวะริตุง วะ ธัมเม ฯ เพื่อข้าพเจ้าจักได้สำรวมระวังในพระธรรมในกาลต่อไป ฯ |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:36 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.