กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๖๐ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5466)

เถรี 06-03-2017 19:21

ถาม : บุคคลบางคนมีความทรงจำเป็นภาพ (photographic memory) คือจำสิ่งต่าง ๆ ได้เสมือนเป็นรูป เช่น เมื่อจำภาพหน้าหนังสือ ก็สามารถระลึกภาพนั้นมา เพื่ออ่านตัวหนังสือจากความทรงจำนั้นได้ ขอเรียนถามพระอาจารย์ว่า เพราะเหตุจากบุญหรือกรรมใด จึงทำให้เกิดความสามารถเช่นนี้ขึ้นครับ ?
ตอบ : เคยฝึกกสิณหรือทิพจักขุญาณอย่างใดอย่างหนึ่งมาในอดีต มีความคล่องตัวมากจนติดมาเป็นคุณสมบัติประจำตัว

เถรี 06-03-2017 19:25

ถาม : ในการเกิดนั้น บางท่านมีความรู้ความทรงจำของอดีตชาติติดมาด้วย แม้แต่เมื่อชาติก่อนเป็นสัตว์เดรัจฉาน เมื่อเกิดใหม่เป็นมนุษย์ก็ยังสามารถจำอดีตชาติของตัวเองได้ และเป็นการจำได้โดยไม่ได้อาศัยปุพเพนิวาสานุสติญาณ ด้วยไม่ได้เกิดในพระศาสนา แต่บุคคลโดยส่วนมากกลับจำอดีตชาติของตนเองไม่ได้ จึงขอเรียนถามพระอาจารย์ว่า เพราะเหตุใด การเกิดใหม่จึงทำให้ลืมความทรงจำของอดีตชาติ ?
ตอบ : ระยะเวลาการเวียนว่ายตายเกิดนานเกินไปเลยจำไม่ได้ ถามโยมว่าจำได้ไหมว่าวันแรกที่เรียนหนังสือเราทำอะไรบ้าง ? นี่แค่ชาตินี้ชาติเดียวนะ

ถาม : เพราะเหตุใดหรือมีวิธีการใด ที่ทำให้บุคคลธรรมดากลับระลึกความรู้ความทรงจำจากชาติก่อนได้ โดยไม่ต้องอาศัยปุพเพนิวาสานุสติญาณช่วย ?
ตอบ : ตายแล้วเกิดใหม่ทันที ไม่มีชาติอื่นมาคั่น

ถาม : การตั้งสัจจาธิษฐานไว้ จะทำให้จำสัจจะนั้น ๆ ได้ในชาติต่อ ๆ ไปหรือไม่ ?
ตอบ : จำไม่ได้ แต่กำลังใจจะรู้เองว่าต้องทำอย่างนั้น

เถรี 06-03-2017 19:26

ถาม : ผมฝึกทิพจักขุญาณไม่สำเร็จสักที คนที่มาฝึกทีหลัง ดูท่าจะแซงผมไปหมดแล้ว ขอหลวงพ่อแนะนำแนวทางให้ด้วยครับ ?
ตอบ : ปล่อยให้เขาแซงไป กระต่ายวิ่งแซงเต่ายังไม่แน่ว่าจะชนะเต่าได้

เถรี 07-03-2017 18:45

ถาม : ในกรณีที่เราเห็นคนอื่นปฏิบัติสมาธิได้ดี ได้ญาณ, ฌาน, ทำคาถาต่าง ๆ ได้ผล หรือ ทำอภิญญาได้ แล้วเราเอาคนเหล่านี้เป็นตัวอย่าง สร้างกำลังใจให้เราว่า "เขามีสองมือสิบนิ้วเหมือนเราเขายังทำได้ ทำไมเราจะทำบ้างไม่ได้" ผลคือ ทำให้เรา ลากสังขารที่ขี้เกียจของเรามาภาวนาคาถาโสตัตตะภิญญา วันละ ๑ ชั่วโมง มีกำหนดครบสามเดือน หวังเพื่อให้ได้อย่างเขา หวังเพื่อให้ได้ผลคาถาตามที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุงสอนสืบ ๆ กันมา โดยขณะปฏิบัติก็กำหนดจิตแผ่เมตตา อาราธนาศีลตามที่ครูบาอาจารย์สอนมานะครับ คำถามคือ คิดแบบนี้เป็นมานะหรือไม่ครับ ?
ตอบ : เป็น

ถาม :ถ้าเป็นมานะแล้วการทำแบบนี้ เราจะฝึกสมาธิสำเร็จหรือไม่ครับ ?
ตอบ : จะต้องมีก่อนจึงจะละได้ ถ้าไม่มีแล้วจะเอาอะไรไปละ ไปวาง ? แปลว่าเราต้องหยิบ ต้องจับ ต้องถือ ต้องแบกอะไรสักอย่างไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาที่ได้มาแล้ว เราจึงจะมีสิทธิ์ที่จะวางได้

ถาม :การตัดมานะในสังโยชน์ ๑๐ กับการปฏิบัติด้านโลกียฌาน เกี่ยวเนื่องกันหรือไม่ ?
ตอบ : จะว่าเกี่ยวก็ใช่ แต่พอถึงเวลาการละสังโยชน์ก็ต้องเลี้ยวเข้าหาวิปัสสนาญาณ

ถาม : หากไม่ตัดมานะ จะสำเร็จฌานโลกีย์ต่าง ๆ ได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : เขาสำเร็จกันมานับไม่ถ้วนแล้ว

เถรี 07-03-2017 18:57

ถาม : เพื่อนผมบวชที่วัดธรรมกาย ยังเป็นพระอยู่ที่วัดนั้น ได้โพสต์ข้อความที่หน้าเฟสบุ๊กเพื่อสนับสนุนการกระทำของทางวัด และปกป้องหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดนั้น เพื่อนผมอ้างว่า เขาทำเพื่อปกป้องพระศาสนา ผมจึงสงสัยว่า การกล่าวอ้างว่า "ปกป้องพระพุทธศาสนา" ด้วยการยอมตายแทนพระรูปใดรูปหนึ่ง ถือเป็นการปกป้องพระศาสนาไหมครับ ?
ตอบ : ต้องดูว่าการปกป้องนั้นเป็นไปโดยถูกต้องตามสามัญสำนึกของคนทั่วไปหรือไม่ ? ถ้าถูกต้องตามสามัญสำนึกของคนทั่วไป เรียกว่า สัมมาทิฏฐิ มีความเห็นที่ถูกต้อง ก็ถือว่าเป็นการปกป้องพระพุทธศาสนา แต่ถ้าคนทั่วไปเห็นอยู่ว่าสิ่งนั้นเป็นความผิด แต่ตนเองหลงผิด เขาเรียกว่า มิจฉาทิฏฐิ ก็แปลว่า สิ่งที่ทำนั้นไม่ใช่การปกป้องพระพุทธศาสนา

ถาม : เราเคยสนทนาธรรมกัน แต่เห็นมุมมองที่ต่างกันบางอย่าง ของเราเป็นไปเพื่อการดับทุกข์แต่ของเขาคล้ายจะไม่ใช่ แล้วการกระทำอย่างไรจึงจะเป็นการปกป้องพระศาสนาที่เหมาะสมในยุคปัจจุบันนี้ ?
ตอบ : ทำตัวให้เป็นพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป เมื่อเข้าถึงธรรมอย่างแท้จริงแล้ว เราสามารถที่จะบอกกล่าวได้อย่างชัดเจนว่าพระพุทธศาสนาของเรามีความดีอย่างไร ใครกล่าวหาอะไรมาก็สามารถที่จะบอกกล่าวแก้ไขปรัปวาท ก็คือคำพูดที่คนอื่นกล่าวตู่ได้ จึงจะเรียกว่าปกป้องพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง

เถรี 07-03-2017 19:01

ถาม : ดิฉันขอสอบถามเกี่ยวกับเรื่องฤกษ์พรหมประสิทธิ์ค่ะ อย่างเช่น ถ้าจะแต่งงาน เราดูวันที่ดีในปฏิทินฤกษ์พรหมประสิทธิ์ แล้วเลือกวันได้เลยไหมคะ หรือควรที่จะต้องเอาดวงของทั้งสองคนไปดูแล้วค่อยกำหนดวัน ?
ตอบ : เอาฤกษ์พรหมประสิทธิ์ง่ายที่สุด เพราะไม่ต้องเสียเวลาไปดูดวง แต่ก็ให้ถือโบราณไว้นิดหนึ่ง ในเรื่องของการแต่งงานส่วนใหญ่เลือกวันศุกร์ ข้างขึ้น เดือนคู่ ยกเว้นเดือนแปดข้างแรมกับเดือนสิบ เพราะว่าอยู่ในช่วงเข้าพรรษา เขาไม่นิยมแต่งงานกัน แต่เห็นในปัจจุบันนี้วันโกนก็ไม่ละวันพระก็ไม่เว้น...ใช่ไหม ?

เถรี 07-03-2017 19:04

ถาม : หนูสงสัยว่า เมื่อปฏิบัติไปเรื่อย ๆ หนูรู้สึกหนูมีความสนใจสิ่งต่าง ๆ และคนรอบข้างน้อยลง รู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ กระชับเข้า รวบรัดเข้า คล้ายความรู้สึกที่พยายามจะรวบรัดตัดตรงเข้าสู่ทางหลัก แต่ความรู้สึกที่มีต่อสิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนไป เช่น เริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่คนรอบข้างทำ เป็นความเยิ่นเย้อ ฟุ่มเฟือย เห็นเขาใช้ชีวิตแบบลอยตามน้ำ จนรู้สึกเสียดายเวลาแทน บางครั้งความรู้สึกเป็นไปในทางลบ เช่น รู้สึกรำคาญ และในบางครั้งถึงขั้นไม่อยากยุ่งด้วยอีกเลยค่ะ กราบขอหลวงพ่อเมตตาแนะนำด้วยค่ะว่าหนูควรแก้ไขอารมณ์ทางลบนี้อย่างไรเจ้าคะ ?
ตอบ : ปรับตัวเองให้โลกไม่ช้ำธรรมไม่เสีย ให้ได้มากที่สุด

เถรี 07-03-2017 19:09

ถาม : เนื่องจากข้าพเจ้าและครอบครัว ต้องการรักษาศีลห้าเป็นปกติ ซึ่งในการถือศีลห้านั้น ต้องงดการฆ่าสัตว์ แต่ในบางครั้งจะมียุงมารบกวน ซึ่งหากมีมากก็จะรบกวนทั้งการดำรงชีวิต ไปจนถึงการปฏิบัติธรรม ทั้งนี้ด้วยข้อจำกัดของบุคคลก็ดี เช่น เป็นทารกอายุน้อย เป็นผู้มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ หรือแพ้ยากันยุง ซึ่งทำให้ไม่สามารถทายากันยุง หรือจุดยากันยุงได้ หรือข้อจำกัดด้านสถานที่และอุปกรณ์ เช่น ออกนอกบ้าน ไม่สามารถกางมุ้งได้ แม้จะจับยุงออกไปปล่อยนอกบ้าน แต่ด้วยจำนวนที่มาก จึงไม่สามารถจัดการได้หมด ทำให้การถูกยุงรบกวนเป็นปัญหาสำคัญ เพราะไม่ต้องการละเมิดศีล จึงขอกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า พอจะมีคาถาใด วัตถุมงคลใด ช่วยให้ยุงไม่มารบกวนหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ไม่ต้องใช้คาถา ไม่ต้องใช้วัตถุมงคล คาถาหลวงปู่ครูบาวงศ์เคยให้อาตมามานานเกิน ๔๐ ปีแล้ว ท่านบอกว่า "ทนเอา" แต่ในเรื่องของยุง ถ้าฝึกสมาธิจนทรงตัวแล้ว ยุงจะไม่กิน

ถาม : จริงไหมที่เขาบอกว่า พรหมวิหารยังพร่องอยู่ เลยโดนยุงกัด ?
ตอบ : ไม่จำเป็น ถ้าสมาธิทรงตัวอยู่ยุงก็ไม่แตะหรอก เพราะคนที่สมาธิทรงตัว ชีพจรจะเต้นช้า ความร้อนในร่างกายส่งออกน้อย ยุงบินผ่านมารู้สึกว่าเป็นไม้ท่อนหนึ่ง ก็เลยผ่านไปเฉย ๆ

เถรี 07-03-2017 19:13

ถาม : ผมมีเรื่องกราบเรียนสอบถามครับว่า มีวิธีพิจารณาอย่างไรว่า จริตเราเหมาะกับการภาวนาด้วยคำบริกรรมใด เพื่อให้ได้ผลดี ทางด้านอภิญญา ?
ตอบ : เรื่องของอภิญญาต้องวิ่งไปหากสิณ การฝึกกสิณไม่เกี่ยวกับจริต ฝึกได้ทุกจริต

ถาม : เมื่อประมาณปลายปีที่แล้วผมเคยลองภาวนาโดยใช้คำบริกรรม โสตัตตะภิญญา ร่วมกับการจับลมหายใจเป็นครั้งแรก ผมภาวนาไปประมาณ ๑๕ นาที แล้วร่างกายรู้สึกเหมือนมีอะไร คล้าย...เป็นเกล็ด ๆ หรือแผ่นอะไรซักอย่างขนาดเล็ก วิ่งขึ้นตามผิวหนังมาตั้งแต่แขน ลำตัวมาถึงใบหน้า เมื่อรู้สึกแบบนี้แล้ว ผมจึงหยุดภาวนา อาการดังกล่าวก็หายไป เป็นแค่ครั้งแรก ครั้งเดียวนะครับ ที่ใช้การภาวนาแบบนี้ หลังจากนั้นถึงแม้จะใช้การภาวนาแบบเดิม ก็ไม่เกิดอะไรผิดปรกติ

ก่อนหน้านี้นานแล้ว ผมเคยภาวนาด้วยการจับลมหายใจเข้าออกอย่างเดียว มีอาการลมเข้าออกตามรูขุมขนทั่วร่างกาย เหมือนผมหายใจทางผิวหนังได้ ซึ่งเป็นอยู่ครั้งเดียวเช่นกันครับ ผมเคยภาวนาโดยใช้คำบริกรรมอื่น จะไม่มีอาการทางกายปรากฏแต่อย่างใดครับ อาการทางกายแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นกับผม แปลว่าผมเหมาะกับคำภาวนา โสตัตตะภิญญา ควบคู่กับการจับลมหายใจ มากกว่าการภาวนาด้วยคำอื่นหรือไม่ครับ ?

ตอบ : ไม่ต้องเสียเวลาถาม ไปทำก็รู้เอง

เถรี 07-03-2017 19:17

ถาม : การสวดมนต์มหาสมัยสูตร เป็นการสวดเพื่ออะไรคะ ?
ตอบ : ถ้าสมัยโบราณเป็นการทรงจำสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเอาไว้ เมื่อจำได้แล้วนำมาปฏิบัติ ปฏิบัติได้แล้วก็สอนต่อ สมัยนี้ส่วนใหญ่สวดเพื่อหวังผลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งทำให้จุดมุ่งหมายเดิมที่มีคุณประโยชน์มหาศาล ลดลงมาเหลือแค่เล็กน้อยเท่านั้น

ถาม : เป็นการเหมาะสมหรือไม่ ที่ฆราวาสจะสวดบทนี้เป็นประจำทุกวัน ?
ตอบ : ควรที่จะสวด แต่โปรดระวังไว้ว่าจะสวดไม่จบ เพราะว่ายาวมาก

เถรี 07-03-2017 19:19

ถาม : การที่สิ่งของหรือสถานที่ซึ่งมีอยู่ในขณะนี้ แต่ต่อมาภายหลังก็ไม่มีแล้ว เช่น ขึ้นเขาไปเจอถ้ำ แต่พอกลับไปอีกทีในวันรุ่งขึ้นก็ไม่เจอถ้ำนั้นแล้ว เหตุการณ์ทำนองนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งทั้งสถานที่ทางธรรมชาติในประเทศ และในเมืองใหญ่ในยุโรป บางครั้งก็เป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นอยู่ด้วย เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรคะ ?
ตอบ : เกิดเพราะคุณจำผิด ไปคนละที่ แล้วจะเจอได้อย่างไร ?

เถรี 07-03-2017 19:24

ถาม : กระผมอยากทราบว่า เป็นความจริงหรือผมหลงผิดครับ ? ที่เขาบอกว่า "พระมหาอภิญญาคีรีราชตถาคต ได้ภาวนา ได้ยิน ได้ฟัง จะได้พบพระพุทธเจ้าเท่าเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา"
ตอบ : เพิ่งได้ยินชื่อเป็นครั้งแรก เรื่องพวกนี้ต้องไปถามทางสายมหายานแทน อาตมาเป็นเถรวาท ไม่ไปยุ่งกับเขา

เถรี 07-03-2017 19:33

จากคำถามที่ผ่านมาทำให้เห็นว่า ผู้ปฏิบัติธรรมส่วนหนึ่งของเรายังแยกแยะไม่ออกว่าอะไรคือศาสนาฮินดู อะไรคือศาสนาพุทธแบบมหายาน อะไรคือศาสนาพุทธแบบเถรวาท

จะว่าไปแล้วก็เกิดจากพวกอาตมาเองที่ทำให้เขาสับสนในชีวิตกัน เพราะว่าวัดวาอารามนี้ก็มักจะมีรูปพระพรหม รูปพระพิฆเณศวร์ รูปเจ้าแม่กวนอิม รูปพระสังกัจจายน์ ปะปนกันให้มั่วไปหมด คนรุ่นหลังไม่สามารถที่จะแยกแยะได้ว่าพระพรหม พระพิฆเณศวร์ เป็นเทพของฮินดู พระสังกัจจายน์และเจ้าแม่กวนอิมเป็นพระสงฆ์ตลอดจนกระทั่งพระโพธิสัตว์ทางสายมหายาน ก็เลยนำเอาความรู้เหล่านี้มาปะปนกันให้ยุ่งไปหมด

ความเชื่อถือที่แตกต่างกันไป ทำให้สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เมื่อปะปนกันแล้ว ท้ายสุดก็กลายเป็นสัทธรรมปฏิรูป คือ สิ่งที่แทรกเข้ามาในคำสอนที่แท้จริงขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท้ายที่สุดพวกเราจับแพะชนแกะไปด้วย ก็ออกมากลายเป็นลูกผสมอะไรก็ไม่รู้ ?

เถรี 07-03-2017 19:41

วัดท่าขนุนสมัยท่านอาจารย์สมพงษ์เป็นเจ้าอาวาสอยู่ ก็มีเทวาลัยพระพิฆเณศวร์ มีมณฑปท่านแม่กวนอิม พออาตมาเป็นเจ้าอาวาสก็สั่งรื้อเรียบ...! เพราะไม่อยากให้ญาติโยมสับสนกับชีวิต

สิ่งหนึ่งที่รู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกก็คือ พอประกาศว่ามีวัดไหนต้องการ พริบตาเดียวก็หายวับไปกับตา เพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้อยู่จะเรียกแขกได้ดีมาก โดยเฉพาะเจ้าแม่กวนอิมกับพระพรหม สามารถดึงญาติโยมทางด้านมาเลเซีย ฮ่องกง สิงคโปร์ เข้าวัดได้เยอะ คนเหล่านี้ส่วนใหญ่มีฐานะดี พอเข้าไปจะให้การอุปถัมภ์อุปัฏฐากวัดอย่างได้น้ำได้เนื้อ จึงทำกันจนกระทั่งศาสนาพุทธเถรวาทสับสนไปหมด

อาตมาเองขนาดชี้แจงได้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่แน่ใจว่าพระรุ่นต่อ ๆ ไปจะชี้แจงได้หรือเปล่า ? ก็เลยตัดไฟตั้งแต่ต้นลมโดยการรื้อออกให้หมด

เถรี 07-03-2017 19:49

ถ้าญาติโยมบวชเข้ามาจะเห็นว่า สถานการณ์พระพุทธศาสนาของเราง่อนแง่นมาก อันดับแรกก็คือ สนิมเกิดแต่ภายใน พุทธบริษัทไม่สามารถปฏิบัติธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนบังเกิดผลได้ ก็เลยทำให้ไม่สามารถที่จะชี้แจงแถลงไข ตลอดจนกระทั่งแก้ข่าวร้ายที่ฝ่ายอื่นเขาโจมตีเราได้

ประการที่สองก็คือ กลายเป็นแนวร่วมของศาสนาอื่น ดึงเอาฮินดูก็ดี พุทธมหายานก็ดี เข้ามาในวัดของตนเองด้วยความเต็มใจ เพราะหวังแต่ผลประโยชน์

ประการต่อไปก็คือ ญาติโยมที่เป็นศาสนิกของศาสนาอื่น ตั้งใจที่จะเบียดเบียนศาสนาของเรา ซึ่งในส่วนนี้ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลเลย ถ้าของเราเป็นของจริง เป็นของแท้ ทำแล้วได้ประโยชน์อย่างแท้จริง สามารถที่จะชี้แจงให้คนอื่นเห็นอย่างเป็นรูปธรรมได้

ประการสุดท้าย ศาสนิกของเราไหลตามกระแสโลกไปจนกู่ไม่กลับ เอาแค่ประเทศไทยของเราที่บอกว่ามีคนนับถือศาสนาพุทธถึง ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ ถามว่าเป็นพุทธแต่ปาก เป็นพุทธแต่ทะเบียนบ้านหรือเปล่า ? มีคนที่เข้าวัดเพื่อปฏิบัติธรรมแบบจริง ๆ จัง ๆ เท่าไร ?

เถรี 07-03-2017 19:56

หลายคนไม่เคยเข้าวัดเลย แล้วก็อ้างว่าพระสงฆ์ปฏิบัติตัวไม่ดีก็เลยไม่เข้าวัด หลายท่านใส่บาตรปีละครั้งเดียวตอนวันเกิดตัวเอง หลายท่านพอหมอดูทักว่าดวงตกให้ไปทำบุญแล้วค่อยเข้าวัด แล้วเราจะเอาความหวังอะไรมาให้พระพุทธศาสนาเจริญ ถ้าศาสนิกยังเป็นอย่างนี้กันอยู่

ถึงเวลาเดือดร้อนขึ้นมา แทนที่จะใช้หลักธรรมในพระพุทธศาสนาเข้ามาแก้ไขปัญหาชีวิต กลับวิ่งไปหาหมอดู วิ่งไปหาหมอผี วิ่งไปหาสำนักทรง อาตมาเห็นแล้วยังรู้สึกอนาถในชีวิต ต้องบอกว่าเป็นการหลงผิดที่ไปไกลมาก สิ่งที่เราทำค้านกับหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ไม่สมกับที่เราบอกว่าเรานับถือศาสนาพุทธเลย

พอถึงเวลามีคนขุดตอตะเคียนได้ก็ไปโรยแป้ง ขัดถูกัน ไม่ว่าจะหมูสองขา หมาสามหัว ไปกราบไปไหว้กันหมด แต่พระข้างบ้านไม่เคยไปใส่บาตร ไม่เคยไปกราบไหว้ ไปปรึกษาหารือในเรื่องของการแก้ปัญหาชีวิตด้วยหลักธรรมเลย

อาตมาเองก็ถือว่ามีหน้าที่ตักน้ำรดหัวตอไปเรื่อย ๆ ถึงตอจะไม่งอก เอาแค่เปียก ๆ ก็ยังดี ถ้าทำเต็มกำลังแล้วยังไม่สามารถจะดีได้กว่านี้ก็ต้องยอมรับ ว่าเวรกรรมของท่านทั้งหลายหนักเกินกว่าที่จะแก้ไขได้จริง ๆ...!

เถรี 07-03-2017 20:02

พระอาจารย์กล่าวว่า "แจ้งข่าวญาติโยมว่าวันที่ ๙ นี้อาตมาจะไปเลี้ยงพระอุปัชฌาย์รุ่นน้องที่ศูนย์ปฏิบัติธรรม "ธรรมโมลี" ปากช่อง ส่วนวันที่ ๑๒ จะไปวางศิลาฤกษ์ ศาลาประดิษฐานสมเด็จองค์ปฐม ที่สำนักสงฆ์ศรีชัยรัตนโคตร จังหวัดสกลนคร

ใครว่างเว้นจากภารกิจจะไปร่วมงานโปรดวิ่งเต้นกันเอาเอง อาตมานั่งเครื่องบินไป ใครได้ไปเที่ยวบินเดียวกัน รับประกันว่าเครื่องบินไม่ตก อาจจะแค่โดนระเบิดเฉย ๆ...!"

เถรี 07-03-2017 21:51

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันเสาร์ที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๐ มีพิธีกรรมสร้างพระเจ้าห้าพระองค์เนื้อยาจินดามณีอีกขั้นตอนหนึ่ง เพราะว่าเป็นวันเสาร์เพชฌฆาตฤกษ์ ตรงกับตำราที่หลวงปู่บุญได้ให้เอาไว้ ก็แปลว่า ยานี้ทำยาวมาตั้งแต่วันลอยกระทงปีที่แล้ว ยังไม่เสร็จเลย เป็นอะไรที่ค่อนข้างจะยุ่งยากมาก เพราะพิธีกรรมและฤกษ์ยามมีระบุไว้ชัดเจน ต้องเป็นไปตามนั้น

ส่วนผสมก็หายาก โดยเฉพาะอำพันทอง ร้อยวันพันปีจะมีหลุดมาสักทีหนึ่ง ราคาก็แพงเหมือนกับทองจริง ๆ ซื้อมาเป็นส่วนผสมหน่อยเดียวหมดไปแปดหมื่นบาท..!

ตำรายาจินดามณีที่มีเขียนเอาไว้นั้นเป็นแค่ตำราเบื้องต้น รายละเอียดอื่น ๆ ทางด้านสำนักจะเก็บเอาไว้ ลักษณะเหมือนกับเป็นทีเด็ดเฉพาะตัว ส่วนผสมที่มีเพิ่มขึ้นมา อย่างเช่นอำพันทอง น้ำนมเสือ นอแรด งาช้างกำจัด ฯลฯ เหล่านี้ ไม่ได้ระบุไว้ในตำราอย่างชัดเจน ฤกษ์ยามและพิธีกรรมต่าง ๆ ไม่ได้ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน เป็นการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้น ถ้าไม่ได้เข้าไปศึกษาให้รู้ชัด ต่อให้มีสูตรไว้ก็เป็นแค่สูตรเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถผลิตยาได้ตามที่ต้องการ"

เถรี 07-03-2017 21:57

"คนสมัยใหม่ตีความภาษาโบราณไม่ออก น้ำผึ้งรวงรัน ก็คือ น้ำผึ้งธรรมดาที่เราไปตีมา คำว่า รัน แปลว่า ตี เคยได้ยินคำว่า ตีรันฟันแทงไหม ?

ดอกคราดก็ไม่รู้จัก ผักคราดก็ไม่รู้จัก แล้วจะไปรู้จักดอกได้อย่างไร ? ชะมดเช็ดก็ไม่รู้จัก เกสรบุษบัน ก็ชัด ๆ ว่าเกสรดอกบัว แต่แปลไม่ออกว่าคืออะไร พอบอกน้ำมะเขือขื่นคั้น มะเขือขื่นหน้าตาเป็นอย่างไรก็ไม่รู้อีก สมัยนี้บางทีเรียกมะเขือหนัง ที่เขาเอามาแกงป่าต้องลอกเอาเมล็ดออกเหลือแต่เปลือกเหลือง ๆ โบราณเขาเรียกว่ามะเขือขื่น ถ้าใครรู้แสดงว่าแก่แล้ว..!

ตำราเขาบอกว่า "..ฯลฯ...พิมเสนชะมดน้ำผึ้งรวงรัน..ฯลฯ" แต่ชะมดไปเอามาทั้งตัวก็บรรลัยเท่านั้น เขาเรียกว่าชะมดเช็ด เป็นต่อมกลิ่นที่ชะมดตัวผู้ไปเช็ดติดตามต้นไม้เอาไว้ เป็นกลิ่นที่ติดทนนานสุด ๆ ใครเคยเลี้ยงแมวจะรู้ เป็นกลิ่นประเภทติดทนนานเหมือนกัน แต่ชะมดเช็ดออกไปทางหอม ก็เลยเอามาเป็นส่วนผสมของน้ำหอม เพราะทาแล้วติดทนนาน สมัยนี้มีบางแห่งที่ทำฟาร์มชะมด ถึงเวลาต้องปักไม้ไว้ให้เช็ด จะได้เก็บเอามาขายได้

ถ้าเป็นสมัยโบราณแล้วน้ำนมเสือหายาก สมัยนี้ไปทางฟาร์มมีเพียบ ถ้าไม่รู้จะไปที่ไหนก็สวนเสือศรีราชา บอกเขาว่าขอซื้อนมเสือสัก ๕๐ - ๑๐๐ ซีซี หรือรู้จักแต่นมแมว ? ไม่ใช่ไปจับแมวมารีดนมนะ นมแมวของคนโบราณคือวานิลา"

เถรี 07-03-2017 22:02

"ต้นเปราะก็ไม่รู้จัก ตำราเขาบอกว่า "จินดามณีโอสถอันพิลาศ ประกอบดอกคราดดอกจันทน์ เกสรบุษบัน เปราะหอมกำยาน..ฯลฯ"

เปราะหน้าตาเป็นอย่างไร ? ถ้าไม่เคยเข้าป่า ไม่เคยเอามาจิ้มน้ำพริก ก็ไม่รู้ว่าเปราะเป็นอย่างไร ปล่อยให้คนรู้เขาเครียดไปเถอะ เรามีหน้าที่ไปบูชา ควักไป ๕๐๐ บาท ก็ได้ของดีเท่ากับคนรู้เขาแล้ว...!

เพียงแต่ระยะหลังไม่ค่อยเห็นใครที่ทำได้เต็มสูตร เพราะส่วนที่หายากก็คือ อำพันทองกับนอแรด บังเอิญว่าอาตมารู้จักคนเก่า ๆ ที่เก็บนอแรดกันมาตามตามตระกูล ก็แค่ขอไปตะไบแบ่งมาเท่านั้นเอง ไม่ได้เอามาทั้งหมด รู้ไหมว่านอแรดก็คือวัสดุเดียวกันกับเส้นผม ที่มาจับกันเป็นนอขึ้นมา เป็นสังกะตังที่ได้เรื่องมากเลย"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:56


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว