กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=57)
-   -   มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ ตอนที่ ๑๒ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3761)

คิมหันต์ 25-05-2013 16:38

มิงกะละบาร์ เมียนมาร์ ตอนที่ ๑๒
 
วันพระ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนยี่ ภาวนาจนครบชุด จากนั้นล้างหน้า ครองผ้า ไปร่วมพิธีสรงพระพักตร์หลวงพ่อพระมหามุนี ส่งออดิโคโลญจน์ให้เจ้าหน้าที่เขาทั้งขวด แล้วนั่งภาวนารอเวลา พอตีสี่ครึ่งประตูเปิด ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวทะลักเข้ามาราวกับน้ำบ่า..!

อาตมาตามหลวงพ่อปัญญาวังสะ ผู้ทำหน้าที่สรงพระพักตร์ เข้าไปกราบหลวงพ่อพระมหามุนีถึงข้างใน เมื่อพราหมณ์ชุดขาวทั้งแปดตั้งเครื่องมือสำหรับทำพิธีเสร็จ อาตมาจัดการขออนุญาตเขาขึ้นไปข้างบน ถ่ายรูปพิธีกรรมเอาไว้ทุกขั้นตอน เล่นเอาฟิล์มหมดม้วนเลย..! ตอนฟิลม์กรอกลับอัตโนมัติทำเอาพราหมณ์ทุกคนตกใจ เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน

กราบปิดทองถวายเป็นพุทธบูชา อธิษฐานและอุทิศส่วนกุศลด้วยปีติล้นหัวใจ อาตมามักโชคดีได้ร่วมพิธีใกล้ชิดเสมอ ทั้งพระทั้งโยมคงสงสัยทุกครั้งว่าอาตมามีดีอะไร จึงได้รับสิทธิพิเศษทุกที ต้องบอกว่าด้วยเจตนาบุญและครูบาอาจารย์ท่านเมตตา จึงได้ดังใจทุกครั้งไป...

ออกมาหาอาหารเช้าฉัน ได้ข้าวซอยรูปละจาน ท่านเจ้าอาวาสวัดหนองบัวสั่งผัดหมี่เพิ่มเติม ขณะที่อาตมานั่งฉันพุทราแทนข้าว จ่ายค่าอาหารไปร้อยเจ็ดสิบ แล้วเดินไปเรื่อย ๆ คิดจะไปกราบพระ และชมสถานที่แถวยอดเขามัณฑะเลย์ และพระราชวังมัณฑะเลย์...

คิมหันต์ 25-05-2013 16:41

ถนนแปดสิบกว่าสาย เดินเป็นชั่วโมงเพิ่งมาถึงสาย ๒๙ รองเท้าเริ่มกัดเสียแล้ว จึงเรียกสามล้อถีบนั่งไปแทน เขาขอ ๑๕๐ ท่านนาวินต่อเหลือร้อยเดียว เขาถีบน่องโป่งไปเลย พอเห็นระยะทางแล้วสงสารคนถีบ แค่กำแพงพระราชวังด้านละ ๒ ไมล์ เจอเข้าไปสองด้านก็ตกห้า ก.ม.กว่า ๆ..! ขออภัยจริง ๆ โยมเอ๋ย...

ถึงตีนเขาคราวนี้เดินลูกเดียว ขึ้นไปกราบพระบนยอดเขา แล้วกลับลงมากราบหลวงพ่อมหาศิลา วัดเจ้าดอจี ชมพระไตรปิฎกหินอ่อน ๑,๗๗๔ แผ่น ที่วัดซันดามุนี จากนั้นข้ามมาวัดกุโธดอ (ราชประสงค์) ชมพระไตรปิฎกของเก่าสมัยพระเจ้ามินดง ๗๒๙ แผ่น และถ่ายรูปกับต้นพิกุลยักษ์อายุ ๒๕๐ ปี ที่ปลูกไว้ตั้งแต่เริ่มสร้างวัด...

เดินทะลุซอยมาชมมหาศาลาอะตูมาชิ (ไร้เทียมทัน) ศาลาไม้สักแกะสลักทั้งหลังของวัดชุยนานดอ (สุวรรณมเหสี) แล้วข้ามไปชมมหาวิทยาลัยสงฆ์มัณฑะเลย์ ที่ไทยออกทุนช่วยพม่าสร้าง ซึ่งอยู่แค่คนละฝั่งถนนกับวัดสุวรรณมเหสี...

คราวนี้จ่าย ๑๐๐ จั๊ตให้สามล้อ มาส่งยังเรือมังกรที่จอดอยู่ในคูเมืองข้างพระราชวังมัณฑะเลย์ เขาทำเป็นศูนย์รวมสำหรับขายของที่ระลึก ซึ่งแน่นอนว่าแพงไปเสียทุกอย่าง แล้วจ่ายอีกร้อยให้แท็กซี่ไปส่งที่ตลาดซีโจว ครูบาน้อยท่านจะซื้อซาวอะเบ้าท์ ๑ เครื่อง บอกว่าเอาไว้ฟังเทปธรรมะของหลวงพ่อวัดท่าซุง...

คิมหันต์ 25-05-2013 16:44

เสียค่ารถฟรีเพราะตลาดเขาปิดวันพระ เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่วัดหลวงพ่อมหามุนี มันจะเอาตั้งสามร้อย..! จึงนั่งสองแถวไปแทน รถใหม่กว่า เบาะนิ่มกว่า จ่ายคนละสามสิบเอง ตรงไปร้านชุยซิน (ทองบริสุทธิ์) ที่เป็นร้านอาหารเจ้าประจำ...

เขาจัดกับข้าวมาแปดอย่าง พร่องปุ๊บเติมให้ปั๊บ น้ำปลาพริก ๑ ถ้วย ผักสด ๑ ถาด และแกงจืดอีกชามใหญ่ แถมช่วยผ่าอะโวคาโด และหาน้ำตาลทรายให้ด้วย กินจนจุกจ่ายแค่ ๓๙๐ จั๊ต..! ซ้ำยังได้ความรู้อีกว่า รถไปตองยีมีแต่ออกตอนเช้ามืด ตายละวา..!

ในตั๋วเขียน ๐๖.๐๐ น. มันเช้าหรือเย็นกันแน่ ตกลงใจให้ท่านนาวินไปสอบถามที่สถานีขนส่ง ท่านขอไปรับประคำหยกก่อน ได้มาแล้วท่านแยกทางไป ส่วนอาตมากลับที่พัก จัดการสรงน้ำ ซักผ้า และจัดเก็บข้าวของให้เรียบร้อย เพื่อจะได้พร้อมเดินทาง...

ออกไปภาวนาคาถาเงินล้าน ๓๐ จบ ถวายหลวงพ่อพระมหามุนี ครบถ้วนดีแล้วออกเดินหามุมถ่ายรูปรอบวัด เจอพิพิธภัณฑ์ของที่เขาถวายเป็นพุทธบูชา เลือกถ่ายชิ้นงาม ๆ ไปหลายชิ้น พออ้อมมาทางทิศใต้พบครูบาน้อยยิ้มร่าออกมาแต่ไกล...

คิมหันต์ 25-05-2013 16:47

“รถออกตีห้าครึ่งจริง ๆ ครับ...ถ้าไม่ไปถามคงแย่แน่..!”

เป็นอันว่าทุกอย่างต้องรวบจบลงให้ได้ในวันนี้ ไปหานายละเมียด ปรากฏว่าประคำไม้จันทน์แดงเสร็จแล้ว ส่วนประคำที่ฝากให้ช่วยร้อยสายใหม่นั้น เสร็จแต่ประคำหวายเท่านั้น รับประคำที่เสร็จแล้วมา ควักย่ามจ่ายไปห้าพัน ตอนเย็นจะมาดูที่เหลือใหม่...

กลับเข้าไปสวดอิติปิโส ๓ จบ คาถาเงินล้าน ๖๐ จบ ถวายหลวงพ่อพระมหามุนี เป็นการฉลองประคำเส้นใหม่ กว่าจะจบเกือบห้าโมงเย็น จากนั้นไปกราบลาหลวงปู่ชฏิละ แจ้งถึงความเข้าใจผิดเรื่องตั๋วรถให้ท่านทราบ เล่นเอาคนแก่ตกใจ..!

ถวายเงินท่านช่วยค่าน้ำค่าไฟ ท่านไม่ยอมรับ ต้องยัดใส่มือให้ จึงได้พรมายืดยาว ซ้ำกำชับว่าครั้งหน้าให้มาพักกับท่านอีก กราบลาไปรับประคำนิล และประคำไม้พญางิ้วดำจากนายละเมียด ต้องรออยู่เกือบชั่วโมงจึงร้อยเสร็จ แถมยังถวายประคำไม้กาละแม็ด (น่าจะเป็นไม้กฤษณา) กับประคำไม้ติ๊ดแอ (ไม้มะเกลือ) มาอีกอย่างละเส้น ร่ำลากันเรียบร้อยก็กลับไปมุดมุ้งหนียุงที่แห่กันมาเพียบ..!

คิมหันต์ 04-06-2013 22:44

สวดอิติปิโสถวายหลวงพ่อพระมหามุนี ๙ จบ มอบดอกไม้และทองคำเปลวให้เจ้าหน้าที่เขาจัดการแทน ออกมาหาอูมิ้วกับอาไข่ที่คุ้นเคยกัน เขาบอกว่าถูกย้ายไปประจำสำนักงานแล้ว พอดีหลวงพ่อปัญญาวังสะออกมา จึงกราบลาท่านด้วย...

ทางบริษัทสันติภาพส่งรถสองแถวมารับถึงวัด รถไปตองยีเป็นรถธรรมดา ทั้งคนทั้งของยัดเข้าไปจนแน่นเอี๊ยด แถมยังต้องช่วยกันเข็นถึงจะติด ดูท่ามันจะถึงปลายทางหรือไม่นะ..?

ออกเลยเวลาสี่สิบนาที ล่องใต้กลับมาทางมิถิลา ผ่านสารพัดด่านสะดวกโยธิน เนื่องจากมันแน่นจนเจ้าหน้าที่เบียดขึ้นมาตรวจไม่ไหว แปดโมงสี่สิบมาจอดนอกเมืองมิถิลา ให้ลงกินข้าวเช้า อาตมาทั้งสองตุนไปเต็มที่ เพราะรู้ว่าอดเพลแน่..! เดินทางแบบนี้อย่าไปหวังน้ำบ่อหน้าเป็นอันขาด อดหัวโตมาเยอะแล้ว...

เลี้ยวซ้ายมาทางเมืองตาซิ (กาสี) พอพ้นเมืองก็เห็นเขาชานโยมา (บรรพตสยาม) ทอดตัวยาวเหยียด มันใกล้ตาแต่ไกลตีน กว่าจะถึงเชิงเขาร่วมสิบโมงครึ่ง ทีนี้เป็นหนทางมหาวิบาก ไต่ทางแคบ ๆ พัง ๆ ขึ้นเขาสูงลิบ ซ้ำยังคดอย่างกับงูเลื้อย ประมาณ ๑๑.๐๐ น. ก็ข้ามสะพานเข้าเขตรัฐฉาน...

คิมหันต์ 04-06-2013 22:46

๑๒.๓๐ น. ถึงเมืองกะลอ สนภูเขาเยอะ ซากุระกำลังบาน
๑๓.๓๐ น. พักกินข้าวเมืองอองบาง พระฉันได้แต่น้ำ

รถออกไม่ได้สตาร์ทไม่ติด อาตมาถามครูบาน้อยว่า “ช่วยมันดีไหม ?” “ช่วยหน่อยเถิดครับอาจารย์...” ท่านขอร้อง อาตมากำหนดจิตมั่น แล้วให้สตาร์ทใหม่ คราวนี้ติดชึ่ง..! “ทำบ่อย ๆ ไม่ดีนะ เผื่อไว้เวลาฉุกเฉินบ้าง ถึงเวลาตัวเองแล้วหมดโควตามันจะซวย..!” อาตมาบอก

ผ่านเมืองแฮโฮ ชุยยอง แยกอินเล มาถึงสถานีขนส่งเมืองเอตะยาบ่ายสามครึ่ง เขาทิ้งเราลงกันแค่นี้ ต้องขึ้นสองแถวไปอีก ๗ ไมล์ จึงเป็นตัวเมืองตองยี เมืองหลวงของรัฐฉาน เขาส่งเราที่วัดเชียงตุงของท่านอาจารย์ญาณรัตนะ จ่ายค่ารถไป ๒๐๐ จั๊ต...

คิมหันต์ 04-06-2013 22:48

ท่านเจ้าอาวาสไม่อยู่ พระท่านจัดให้พักในโบสถ์ ยิ่งรู้ว่าอาตมาสนิทสนมคุ้นเคยกับครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ซึ่งเป็นพระดังของที่นี่ ท่านยิ่งให้ความสะดวกใหญ่ หลังจากเข้าที่พักและสรงน้ำเรียบร้อยแล้ว ทั้งอาตมากับครูบาน้อยก็ออกชมเมือง...

อันดับแรกจองรถไปชมทะเลสาบอินเล เขาคิดสามพัน จะมารับพรุ่งนี้เจ็ดโมงครึ่ง ถัดไปจัดการจองตั๋วรถปรับอากาศกลับย่างกุ้ง เขาจะมารับสิบเอ็ดโมงวันมะรืน ต้องจ่ายค่าตั๋วเลยสามพันสองร้อย บังเอิญได้บริษัทคนภูเขาเข้าพอดี...

แล้วเดินฝ่าอากาศหนาวไปรอบตลาด ซื้ออะโวคาโด ๗ ผล ๑๐๐ จั๊ต เห็นห้างสรรพสินค้าน่าสนใจ เข้าไปซื้อน้ำผึ้งขวดเล็กไว้แก้หนาว กับของอื่นเล็ก ๆ น้อย ๆ โดนไปพันสี่ร้อยห้าสิบ..!

คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:36


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว