กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5682)

เถรี 27-07-2017 21:45

ถาม : ถ้าถือศีลแปดแล้วใส่น้ำหอม ก็ถือว่าไม่เป็นไร อย่างจะดูโทรทัศน์เพื่อติดตามข่าวสารบ้านเมือง ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ?
ตอบ : ดูไปทำเหี้..อะไร...! อย่าลืมว่าเขื่อนที่มีรู้รั่วแม้เท่าปลายเข็ม ท้ายที่สุดน้ำก็จะดันจนพังทั้งเขื่อน ไปเปิดประตูให้โจรเข้าบ้าน แล้วก็มาบอกว่าไม่ได้สนใจอะไร โดนปล้นจนหมดตัวกี่ครั้งยังไม่รู้อีก..!

ถาม : ดูเพื่อพิจารณา ว่าเขาทำแบบนี้ไม่ดี ?
ตอบ : ไม่ใช่ข้ออ้าง ความเป็นจริงก็คือมึงอยากดู...!

เถรี 27-07-2017 21:46

ถาม : สังขารุเปกขาญาณคืออะไรครับ ?
ตอบ : วางเฉยในการปรุงแต่งทั้งปวง จะไม่มาฟุ้งซ่านในการนั่งถามอย่างนี้...!

ถาม : โคตรภูญาณคืออะไรครับ ?
ตอบ : เป็นญาณที่กำลังจะก้าวข้ามจุดใดจุดหนึ่งไป ระหว่างปุถุชนกับพระโสดาบัน หรือพระโสดาบันกับพระสกทาคามี ฯลฯ ช่วงไหนที่กำลังจะก้าวผ่าน เขาเรียกว่าโคตรภูญาณ

เถรี 27-07-2017 22:11

ถาม : เวลาเราบริจาคทาน เราควรวางกำลังใจให้ได้อานิสงส์เยอะอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : ก่อนทำ...ตั้งใจอยู่ว่ามีโอกาสเราจะทำ ระหว่างทำ...ดีใจที่ได้ทำ ทำไปแล้ว...คิดถึงเมื่อไรก็ยังปีติอยู่

เถรี 27-07-2017 22:14

ถาม : เวลาเราจับภาพพระ ถ้าอยากให้ภาพพระอยู่นาน ๆ ?
ตอบ : ถ้าสามารถทรงฌานโดยอัตโนมัติภาพพระก็จะอยู่ หลุดจากฌานเมื่อไรภาพพระก็หาย เพราะฉะนั้น...ถ้าทำได้ก็คือรักษาอารมณ์สมาธิเอาไว้ ภาพพระจะอยู่ได้นานไปเอง

ถาม : ถ้าภาพพระขึ้นมาเอง ?
ตอบ : ถ้าทรงฌานได้แล้วเราก็กำหนดใจตั้งภาพพระขึ้นมา แต่คนที่ทำแบบนั้นได้ ต้องมีของเก่าที่คล่องตัวมาแล้ว

เถรี 27-07-2017 22:53

ถาม : เวลากินอาหาร เราเปรียบเทียบว่า รสชาติอาหารอันนี้อร่อยกว่าของอันโน้นเพราะอะไร ถือว่านิวรณ์ไม่ได้กินใจเราหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ทันทีที่รู้สึกว่าอร่อย นิวรณ์ก็แด...เราไปเรียบร้อยแล้ว...!

ถาม : แต่เราคิดว่าอร่อยกว่าเพราะอะไร เราแค่เปรียบเทียบ ?
ตอบ : ยิ่งเปรียบเท่าไรแปลว่ายิ่งปรุงแต่ง ยิ่งปรุงแต่งเท่าไรความฟุ้งซ่านก็ยิ่งมาก อย่าไปหวังว่าจะเข้าถึงธรรมได้

ถาม : ....(ไม่ชัด)....
ตอบ : แล้วรู้ไปทำเหี้...อะไรละครับ ? เขาแค่รู้ว่ากินเข้าไปเพื่อยังอัตภาพร่างกายนี้ไว้เพื่อปฏิบัติธรรมเท่านั้นก็พอ

เถรี 27-07-2017 22:57

ถาม : เราสามารถเจริญทั้งทางโลกทางธรรมไปด้วยกันได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าทำเป็นก็เจริญทุกคนแหละ ดูอย่างนางวิสาขา อย่างอนาถปิณฑิกเศรษฐีสิ รวยจนเราตามทันไหม ?

ถาม : เรากินไม่ได้เพื่อต้องการความอร่อย แต่เราศึกษาว่าอันนี้อร่อยเพราะอะไร ?
ตอบ : เรามีหน้าที่ต้องไปแยกแยะไหม ? ยัดเข้าไปให้อิ่มก็พอแล้ว...!

ถาม : ความรู้ทางโลกนะครับ ?
ตอบ : ก็แล้วมึงบอกว่าปฏิบัติธรรม ปฏิบัติธรรมแต่ไปเอาความรู้ทางโลก ? ตั้งแต่ต้นยันปลายขัดกันเองจนหกคะเมน แล้วยังไม่รู้ตัวอีก..!

เถรี 27-07-2017 23:00

ถาม : เวลาที่เราจับภาพพระ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนั้นเป็นขณิกสมาธิ อัปปนาสมาธิ ฌาน ๑, ๒, ๓, ๔ ?
ตอบ : ไปฝึกทำ ไปศึกษาว่าอารมณ์ว่าอารมณ์ฌานแต่ละขั้นเป็นอย่างไร ? พอเข้าถึงอารมณ์นั้นก็จำว่าสีสันของภาพพระต่างกันอย่างไร ? ก็จะรู้เอง

ถาม : ที่อ่านเจอมาว่า....?
ตอบ : ไม่ต้อง ทำ...ทำ อ่านแล้วมาจินตนาการว่าเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้แล้วเมื่อไรจะไปรู้เรื่องของจริง ไปคิดว่าถ้าเขากินหูฉลามแล้วรสชาติน่าจะเป็นอย่างนี้ กับการแด...เองจะต่างกันไหม ?

เถรี 27-07-2017 23:03

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : อารมณ์ใจตัวเองต้องรู้เอง ไม่ใช่กินข้าวแล้วไปถามคนอื่นว่ารู้สึกเป็นอย่างไร ? ไปเปิดหนังสือกรรมฐาน ๔๐ ของหลวงพ่อวัดท่าซุง บทที่ ๗ หน้าที่ ๔๐ พอดี หัวข้อเรื่องการทรงฌาน ไปอ่านดูว่าอารมณ์ฌานแต่ละขั้นเป็นอย่างไร ? พอเราจับภาพพระเข้าไปแล้ว ถ้าถึงในแต่ละขั้นภาพพระเป็นอย่างไร ? แล้วก็จำเอาไว้

ปฏิบัติธรรมอย่าจินตนาการบรรเจิดมาก จินตนาการบรรเจิดเมื่อไรก็คือการปรุงแต่ง ปรุงแต่งเมื่อไรความฟุ้งซ่านก็รับประทานเมื่อนั้น ที่ไม่ก้าวหน้าสักทีก็เพราะมัวแต่ฟุ้งซ่านอย่างนี้แหละ..!


ถาม : ผมทำระหว่างวันตลอดเลยครับ ?
ตอบ : ตั้งแต่ต้นยันปลายที่ถามมาแทบจะไม่มีปัญหาที่เกี่ยวกับตัวเองเลย เรื่องของการปฏิบัติ ถ้าตั้งใจทำจะได้คำตอบเองโดยไม่ต้องถาม

เถรี 01-08-2017 09:04

ถาม : ถ้าเราเกิดแช่งผู้อื่น ผลที่เราได้รับคืออะไร ?
ตอบ : อันดับแรก ตัวเราลงนรก เพราะกำลังใจของเราเป็นโทสะจริต ถ้าตายตอนนั้นไม่รอดแน่นอน อันดับที่สอง ถ้าหากว่าผู้ถูกแช่งกำลังใจเสีย บางทีสิ่งที่เราว่าไปก็มีผล แต่ถ้ากำลังใจเขาดีกว่า ไม่ได้ใส่ใจในส่วนนั้น เราเองจะรับผลตามนั้น เพราะว่าผลนั้นสะท้อนกลับ พูดง่าย ๆ ว่าส่งของให้เขา เขาไม่รับ ของนั้นก็เป็นของเรา

เถรี 01-08-2017 09:07

ถาม : เวลาเราดูข่าว ถ้าเรามีอารมณ์ยินดียินร้ายกับที่คนนั้นทำไม่ดี ?
ตอบ : ก็ไหนว่าดูแล้วพิจารณา ? ยินดีหรือยินร้ายเป็นโทษทั้งคู่ ถ้าสิ่งที่เขาทำเป็นความชั่ว แต่เราไปดีใจ อย่างเช่นว่า เขาด่ารัฐบาลบิ๊กตู่ เราก็ว่า เออ...น่าจะด่านานแล้ว ก็ซวยไปด้วย ถ้าหากว่ายินร้ายเกิดโทษแน่ ๆ อยู่แล้ว เพราะว่าสภาพจิตของเราเศร้าหมอง

ถาม : ถ้าอย่างนั้นเราจะทำอย่างไร ?
ตอบ : ดูแต่ไม่เห็น ฟังแต่ไม่ได้ยิน ก็คือไม่เอามาฟุ้งซ่าน สักแต่ว่ารับรู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น อย่าไปยินดียินร้ายตามไปเท่านั้น

เถรี 01-08-2017 09:08

ถาม : ผมชอบร้องเพลง ผมชอบเต้น ถ้าผมภาวนาไปด้วย ผมจะบาปไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าทำได้ก็ไม่บาป

เถรี 01-08-2017 09:19

ถาม : เวลาสวดมนต์หลายจบ จบที่ ๑ จบที่ ๒ จบที่ ๓ ถ้าเราสวดไปแล้วไม่แน่ใจว่าตอนนี้เป็นจบที่ ๙๕ หรือจบที่ ๙๖ แล้ว ?
ตอบ : ถ้าไม่แน่ใจให้เอาตรงที่มั่นใจเสมอ อย่างเช่นไม่แน่ใจว่าจบที่ ๙๕ หรือ ๙๖ ให้เอา ๙๕ ไว้ก่อน

ถาม : เราตั้งใจสวดให้ครบ ๑๐๘ จบ พอไปถึงจบที่ ๙๖ ก็ไม่มั่นใจว่าครบไป ๑๐๘ จบไปหรือยัง ?
ตอบ : ถ้าหากว่าตั้งใจก็ควรจะสวดให้ครบ ตามที่คุณว่ามาแสดงว่าจบที่ ๙๖ ไม่แน่นอน ได้แต่เริ่มแล้วเริ่มอีก ในเมื่อไม่ผ่านสักทีก็ไปนับเป็นจบหนึ่งไม่ได้

ถาม : แล้วจะทำอย่างไรที่จะมีความมั่นใจว่าครบ ๑๐๘ จบ ?
ตอบ : จะนับลูกประคำก็ได้ เดี๋ยวนี้เครื่องนับก็มีเยอะแยะไป

ถาม : ใช้ประคำนับได้ยากมากครับ ?
ตอบ : งอนิ้วนับเอา จำว่ารอบนี้ก็คือรอบที่ ๑๐ รอบถัดไปคือรอบ ๒๐ ใช้จำเอา...เพิ่มสติขึ้นมาด้วยซ้ำไป

เถรี 01-08-2017 09:35

ถาม : พูดถึงอสุภะ ผมยังไม่มีเวลาฝึกจริง ๆ ถ้าผมอยากฝึก ....(ไม่ชัด)....?
ตอบ : ไปทิเบต ส้วมทิเบตสุดยอดทุกที่ ถ้าไม่ใช่ลานก็หลุม เมื่อวานเพิ่งคุยกับพระครูปลัดเฉลิมชาติไปว่า เรื่องของพระเรื่องของวัดดี ๆ เยอะแยะไปหมดไม่จำ ดันไปจำแต่เรื่องขี้..!

ถาม : (ไม่ชัด) ?
ตอบ : ไม่รู้เหมือนกัน ขณะที่คนอื่นวิ่งอ้วกแตกอาตมา ก็ทำธุระหน้าตาเฉย

ถาม : พระอาจารย์ปล่อยวางกลิ่นอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็ไม่ใช่ปล่อยวางอะไร เพียงแต่เห็นว่าธรรมดาเป็นอย่างนั้น ดีไม่ดีของเราเหม็นกว่าอีกด้วย

ถาม : ผมจะทำอย่างไรจึงจะได้ครึ่งของพระอาจารย์ ?
ตอบ : เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ก็ได้

ถาม : ทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : ขี้ออกมาแล้วก็ละเลงเล่นทุกวัน เดี๋ยวก็ชินไปเอง...! ถ้าไม่เจอของจริงก็ยังไม่รู้สึกว่าเป็นอย่างไร ต้องเจอของจริงให้ได้ก่อน เตรียมอาหารไว้หน้าประตูส้วมเลย ละเลงเสร็จออกมาก็กินเลย จะได้ซาบซึ้งว่าที่เลือกแล้วเลือกอีกก่อนกิน พอกินเข้าไปแล้วออกมานั้นเป็นอย่างไร

เถรี 01-08-2017 09:40

ถาม : (ทดสอบยันต์เกราะเพชร)
ตอบ : รอดมาได้ก็บุญโขแล้ว เราจะได้มั่นใจว่าบารมีพระคุ้มครองเราได้จริง ยันต์เกราะเพชรป้องกันเราได้จริง อาตมาโดนงูกัดมาหลายรอบแล้ว ยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย เพียงแต่พวกเราส่วนใหญ่ยังกลัวตายกันอยู่ ถ้าไม่ใช่เรื่องแบบนี้ก็ไม่มีทางที่จะไปให้งูกัดเล่นแบบอาตมาหรอก ส่วนอาตมาก็แค่อยากรู้ว่าจะตายจริงหรือเปล่าเท่านั้น..!

ถาม : จำเป็นต้องทดสอบด้วยหรือครับ ?
ตอบ : ไม่ทดสอบแล้วจะรู้หรือว่าดีจริงไหม ? ...(หัวเราะ)... คนกลัวตายกับคนไม่กลัวตายพูดคนละภาษากันอยู่แล้ว ในสายตาพวกเอ็งก็ว่าข้าบ้า..!

เถรี 01-08-2017 09:45

ในชีวิตที่โดนงูกัดมาก็มีงูกะปะ งูแมวเซา งูกล่อมนางนอน ส่วนที่อยากให้กัดอย่างงูเห่าหรืองูจงอางก็ไม่ยอมกัด หนีอย่างเดียวเลย

ถาม : ถ้าโดนกัดแต่ไม่ได้รักษา ?
ตอบ : ไม่ตายแน่นอน แต่ขอโทษ...ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บนะ เจ็บโคตร..! รับประกันความเจ็บเลยแหละ พิษงูปวดแค่ไหนก็ปวดแค่นั้น เพียงแต่ว่าไม่ตาย อุตส่าห์นั่งรอว่าจะตายไหมก็ไม่ตาย พิษวิ่งขึ้นมาถึงเข่า ถึงศอกแล้วก็ถอยกลับไปที่แผล หลงดีใจนึกว่าหายแล้ว ที่ไหนได้เดี๋ยวก็มาใหม่อีก วิ่งขึ้นวิ่งลงอยู่ ๔-๕ เที่ยว ปวดจะตายชัก..!

เถรี 01-08-2017 09:45

:4672615: เก็บตกเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๐ หมดแล้วค่ะ :4672615:
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี รัตนาวุธ และเผือกน้อย


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:54


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว