กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๗ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4133)

เถรี 09-09-2014 08:48

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๗
 
ถาม : วัตถุมงคลของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง พิธีสุดท้ายที่ท่านทำไว้ จะได้รับพรทั้งหมดจาก พระ เทพ พรหม เทวดา ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : นี่มาแนวโลภแล้ว เรื่องของการพุทธาภิเษก ถ้า พระ หรือ พรหม หรือ เทวดา ท่านเคยสงเคราะห์ไว้เท่าไร ครั้งต่อไปจะไม่ต่ำกว่านั้น ยกเว้นว่าถ้ามีอะไรพิเศษท่านจะบอกเพิ่มให้ ส่วนของวัดท่าซุงท่านจะได้หมดหรือเปล่า ? ต้องกราบเรียนถามหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านเอง อาตมาตรัสรู้ไม่ได้

ถาม : แล้ววัตถุมงคล ที่ทำไว้ในพิธีต้น ๆ (เช่น ลูกแก้วมะเฟือง) ซึ่งผมบูชาจากวัดท่าซุงหลังหลวงพ่อฤๅษี ฯ ละสังขาร จะถือว่าได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกซ้ำแล้วซ้ำอีกได้รับพรจนกระทั่งพิธีสุดท้ายหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าเขาไม่ได้เอาเข้าพิธีก็ได้แค่นั้นแหละ

ถาม : แล้วถ้าสมมติว่าท่านเก็บวัตถุมงคลไว้ในคลัง แล้วมีพระหรือโยมอาราธนาขอพรท่านลงมา ?
ตอบ : โยมคงไม่เก่งขนาดนั้น เพราะพระท่านสงเคราะห์ให้เป็นการเฉพาะ

ถาม : วัตถุมงคลของหลวงพ่อเล็กเอง จะได้รับพรที่ พระ เทพ พรหม เทวดา ท่านสงเคราะห์มาตั้งแต่ต้นรวมกันมาจากหลวงพ่อฤๅษี ฯ หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไม่ได้เกี่ยวกันเลย ของใครก็นับหนึ่งเอาเอง อาตมาว่าคนถามออกแนวโลภดูท่าจะไม่ผิดแน่ เพราะจะเอาให้ได้

เถรี 09-09-2014 08:49

ถาม : กรณีที่เรานำช่อดอกไม้ ที่พระอาจารย์อนุญาตให้โยมนำกลับไปบูชาพระที่บ้านได้ ไปบูชาพระแล้วพบว่า กิ่งดอกพุดที่ใช้ตกแต่งช่อดอกไม้นั้นงอกรากออกมา จึงนำกิ่งไม้นั้นไปปลูก โดยดอกไม้และกิ่งใบส่วนอื่น ๆ ที่เหี่ยวแห้งแล้วก็ขอขมาลาทิ้งไปตามปกติ เช่นนี้ถือว่าติดหนี้สงฆ์หรือไม่ ?
ตอบ : พระอาจารย์ติดหนี้สงฆ์ ไม่ได้เกี่ยวกับโยม เพราะพระอาจารย์เป็นคนให้

ถาม : และทำนองเดียวกัน ก้อนโอเอซิสที่ยังพอใช้ได้หากไม่ได้ทิ้งไปแต่นำกลับมาใช้ใหม่ จัดว่าเข้าข่ายติดหนี้สงฆ์ด้วยหรือไม่ ?
ตอบ : คำตอบเดียวกัน

เถรี 09-09-2014 08:52

ถาม : หากเราอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้นำวัตถุมงคลเข้าร่วมงานพุทธาภิเษกที่วัดในวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๗ แต่เราจัดวัตถุมงคลใส่พานไว้ที่ห้องพระ แล้วกราบขออาราธนาบารมีพระให้พร เสมือนได้เข้าร่วมงานพุทธาภิเษกที่วัดท่าขนุน และให้มีอานุภาพเหมือนวัตถุมงคลที่หลวงพ่อได้พุทธาภิเษกที่วัดท่าขนุนในวันดังกล่าว จะทำได้และมีอานุภาพเหมือนกันหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ทำได้ แต่อานุภาพมีหรือเปล่าไม่รู้ ? ถามว่าทำได้ไหม ? ก็ทำได้ คุณอยากทำก็ทำ การพุทธาภิเษกเป็นการกราบอาราธนาขอบารมีพระท่าน ในเมื่อขอบารมีพระท่าน ผู้ใดขอท่านก็สงเคราะห์ผู้นั้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้นถ้าอยากได้ก็ขอเอาเอง

ถาม : ทำอย่างไรจะได้อานุภาพเหมือนกันคะ ?
ตอบ : ก็จัดพิธีให้เหมือนกัน เครื่องบวงสรวงชุดใหญ่เท่ากัน ปูผ้าขาว จัดเทียนสัตตบริภัณฑ์ให้เหมือนกัน แล้วถึงเวลาก็ขึ้นไปอาราธนาท่านให้ได้เหมือนกัน รับรองว่าได้แน่ ถ้าทำได้ไม่เหมือนก็เป็นอันว่าตกไป

ถาม : ในงานพุทธาภิเษก หลวงพ่อได้อธิษฐานให้พุทธาภิเษกครอบจักรวาลหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : แล้วจะครอบไปทำไม จักรวาลทำอะไรผิดหรือ ?

ถาม : แล้วถ้าเราอยู่ที่อื่นแล้วเราระลึกถึง ทำกำลังใจว่าจะขอบารมีพระช่วยสงเคราะห์เหมือนในพิธี จะพอมีผลบ้างไหมคะ ?
ตอบ : มีนิดหนึ่ง อย่างน้อยก็ได้ทำ

ถาม : แล้วมีเทคนิคในการขอพรไหมคะว่าทำอย่างไรถึงจะได้ ?
ตอบ : ก็แค่จัดพิธีให้ได้เหมือนกันทุกอย่าง แล้วก็ไปขอให้ได้เหมือนกัน

เถรี 09-09-2014 08:54

ถาม : คนที่ไม่แสดงอาการโกรธ แต่ไม่สนใจคนรอบข้างเลย เช่น กินข้าวก็กินช้า ๆ เขาทำงานกันก็ไม่สนใจช่วยงาน นั่งเขียนหนังสือ อ่านหนังสือและเดินจงกรม ทำวัตรสวดมนต์ก็จะช้ามาก เข้าห้องน้ำก็ราวครึ่งชั่วโมง ไม่สนใจจริยาของคนอื่นเลยและไม่แสดงอาการโกรธ ไม่เชื่อเรื่องนรก สวรรค์ ไม่เชื่อเรื่องผีเชื่อเรื่องวิทยาศาสตร์ ปฏิบัติสติปัฏฐาน ฟังธรรมะด้วยความศรัทธามาก แต่เขาไม่ว่าร้ายใคร ไม่พูดพาดพิงถึงใครในด้านไม่ดี คำถามคือ คนเหล่านี้จัดว่ามีสติและกรรมบถสิบหรือไม่ครับ ?

ตอบ : สติมี..แต่เป็นในส่วนของมิจฉาสมาธิ ส่วนเรื่องของศีลหรือกรรมบถสิบต้องอยู่ที่เจตนางดเว้น ถ้าไม่มีเจตนางดเว้นก็ไม่ถือว่ามี

เถรี 09-09-2014 09:00

ถาม : การถวายเงินหรือข้าวสารอาหารแห้งแก่พระสงฆ์ โดยเฉพาะเจาะจงถวายเป็นการส่วนตัวเฉพาะพระรูปนั้น ๆ เป็นการทำบุญผสมบาปหรือไม่คะ ? เคยอ่านเจอมาว่าเป็นการถวายของที่ผิดพระวินัยและสร้างกิเลสให้กับพระสงฆ์ที่เป็นผู้รับ หากอุทิศให้ใคร ผู้นั้นเสวยทิพยสมบัติได้ไม่นาน ทิพยสมบัติก็จะถูกไฟไหม้ ด้วยความไม่รู้จึงกราบเรียนถามพระอาจารย์ค่ะ ?

ตอบ : ก็ให้ถวายพระอื่น อย่าไปถวายพระวินัย ถ้าถวายพระอื่นก็จะได้ไม่ผิดพระวินัย เพราะพระวินัยไม่ได้รับ..! เรื่องของการถวายปัจจัยไทยธรรมอะไรที่สมควรแก่สมณบริโภค เป็นอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งนั้น แม้ว่าจะเป็นการถวายในลักษณะปาฏิปุคคลิกทาน คือเฉพาะเจาะจงตัวบุคคลก็ตาม เพราะว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ที่ทรงศีลทรงธรรมอยู่แล้ว ถ้าบุคคลนั้นปฏิบัติได้ถูกต้อง ด้วยการแบ่งสรรปันส่วนให้แก่ส่วนรวม ไม่ได้เก็บเอาไว้คนเดียว เราก็จะได้ในอานิสงส์ของสังฆทานมากขึ้นด้วย

ขอบอกว่า ในเรื่องที่ว่ามานั้นเป็นการฟังมาผิด หรือว่าถ้าฟังถูกแปลว่าผู้บอกกล่าวต่อมานั้นเข้าใจผิด กลายเป็นอัตโนมติ คือความเห็นเฉพาะของตัวเอง ไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสเอาไว้ ฉะนั้น..ให้ลืม ๆ ไปเสีย แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาถวายท่านต่อไป

เถรี 09-09-2014 09:06

ถาม : การที่เราไม่เอาใจไปสัมผัสกับสิ่งใด ๆ จะทำให้เราพ้นทุกข์ได้หรือไม่ ? และการวางอารมณ์ใจไม่ให้ความทุกข์เกิดขึ้นกับตัวเรามีวิธีการใดบ้างครับ ?
ตอบ : การไม่เอาใจไปสัมผัสกับสิ่งใด ๆ เลย เป็นการพ้นทุกข์ชั่วคราวในลักษณะของการข่มกิเลสไว้ หรือเรียกว่า วิกขัมภนวิมุตติ ก็คือ เหมือนกับใส่เกราะป้องกันตนเองเต็มที่ แต่ถ้าให้พ้นทุกข์ได้จริง ๆ ต้องพิจารณาจนเห็นจริงแล้วก็ปล่อยวางได้ ถึงเวลาก็พิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริงว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นหาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้ ประกอบไปด้วยความทุกข์ ไม่มีความปรารถนาสิ่งเหล่านั้นอีก สภาพจิตก็จะตัดละ ปล่อยวางเอง ไม่ไปยุ่งไปเกี่ยวโดยอัตโนมัติ ถ้าหากว่าลักษณะอย่างนั้นก็จะพ้นทุกข์ได้

แต่ถ้ารักษาใจของตนเองไม่ให้ไปสัมผัสอะไรเลยนั้น ยังอยู่ระดับของการใช้สมาธิช่วย ทำให้ตนเองพ้นทุกข์ได้ชั่วคราวเท่านั้น

เถรี 09-09-2014 09:08

ถาม : ผมเห็นสามเณรบิณฑบาตมาแล้วก็ฉันก่อนพระ อยากจะทราบว่าเณรบาปหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าบิณฑบาตมาแล้วต่างคนต่างฉันไม่เป็นไร แต่ถ้าฉันรวมกันแต่แยกวงก็ควรที่จะฉันพร้อมกัน

เถรี 09-09-2014 09:10

ถาม : ท่านที่ละกิเลสได้หมดอย่างพระอรหันต์ คนที่อยู่ใกล้ชิดจะสัมผัสได้ถึงความดีของท่าน เพราะกาย วาจา ใจของท่านล้นความดีออกมา แต่อย่างท่านที่ยังละกิเลสได้ไม่หมด เช่น พระโสดาบันหรือพระสกิทาคามี คนที่อยู่ใกล้ซึ่งไม่มีเจโตปริยญาณ พอมีโอกาสจะทราบบ้างไหมว่าท่านเป็นพระอริยเจ้าแล้ว ? จะสังเกตอย่างไร ?
ตอบ : พระอริยะ แปลว่า ผู้เจริญขึ้นโดยส่วนเดียว ให้สังเกตจาก อันดับแรก..ท่านล่วงศีลหรือไม่ ? อันดับที่สอง..ท่านล่วงในส่วนของกรรมบถสิบหรือไม่ ? อันดับที่สาม..ท่านยังแสดงออกเรื่องราคะ โทสะ หรือไม่ ? เป็นต้น

ถาม : แล้วถ้าท่านแกล้งทำละคะ ?
ตอบ : ถ้าสามารถแกล้งได้ ก็ใช้ภาษิตโบราณที่ว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” การที่แกล้งทำ ต่อให้แกล้งเก่งขนาดไหนก็ตาม ถ้าไม่ใช่สภาพจริงแท้ของตนเอง ท้ายสุดหางก็จะโผล่ออกมาเอง

เถรี 09-09-2014 09:13

ถาม : ระหว่างคำว่านินทา กับเล่าสู่กันฟัง เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?
ตอบ : ดูว่าเล่าสู่กันฟัง เล่าไปเพื่อประโยชน์อะไร ถ้าไม่มีประโยชน์ก็กลายเป็นนินทา

เถรี 09-09-2014 09:14

ถาม : การที่เราหมั่นไส้ผู้อื่น เกิดจากกิเลสตัวไหน ? และต้องแก้ไขอย่างไร ?
ตอบ : แก้ด้วยการเลิกหมั่นไส้เท่านั้นเอง จะไปยากอะไร การที่เราหมั่นไส้เขา จิตใจประกอบไปด้วยปฏิฆะและโทสะ ก็แสดงว่าสิ่งที่เขาพูด สิ่งที่เขาทำนั้น อาจจะไม่ถูกใจของเรา ดังนั้น..ตัวเราพึงระมัดระวังสำรวมอินทรีย์ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของตนเอาไว้ จะได้ไม่ไปกระทบกระทั่งให้เกิดความหมั่นไส้ขึ้นมาอีก

เถรี 09-09-2014 09:15

ถาม : ถ้ามีคนที่เรารู้จักกระทำความผิด เราต้องการตักเตือนเขาด้วยเมตตา การเตือนแบบไหนที่แสดงว่าเราเมตตาโดยไม่ได้จ้องจับผิด ?
ตอบ : ถ้าเราจะเตือนในข้อบกพร่องเขาให้เตือนลับหลังคนอื่น คือต้องอยู่กันแค่ ๒ คน เพราะถ้าเขาโกรธชกปากเรา จะได้ไม่มีใครเห็น..! เขาบอกว่า "ถ้าพูดในสิ่งที่ไม่ดีของเขาให้พูดลับหลัง แต่ถ้าจะชมความดีของเขาให้ชมต่อหน้า" การจับผิดหรือไม่ตัวเรารู้เองอยู่แล้ว

เถรี 09-09-2014 09:28

ถาม : ที่เขาบอกว่า ผู้หญิงทำแท้ง จะมีวิญญาณเด็กติดตามไปตลอด จริงไหมคะ ?
ตอบ : ไม่จริงและก็จริง คำว่า "ไม่จริง" ก็คือ บางคนพอเด็กโดนทำแท้ง ก็ไปสู่ภพภูมิตามกรรมของตนเองเลย บางคนระยะอายุขัยความเป็นมนุษย์ยังเหลืออยู่ ไม่รู้ว่าจะไปไหน ก็ตามแม่ไปเรื่อย

ถาม : แล้วเราควรจะทำอย่างไรคะ ในกรณีผู้หญิงทำแท้ง ?
ตอบ : ก็อย่าทำ

ถาม : แล้วถ้าเขาพลาดทำไปแล้วละคะ ?
ตอบ : พลาดทำไปแล้วก็อย่าทำอีก

ถาม : แล้วมีวิธีทำบุญส่วนไหนที่จะช่วยได้ไหมคะ ?
ตอบ : ศีล สมาธิ ปัญญา ทำเท่าไรก็อุทิศให้เขาไปเรื่อย

ถาม : แล้วที่เขามีวิธีไปแก้กรรม นอนโลง ?
ตอบ : ได้ทำ ส่วนจะแก้ได้หรือไม่นั่นอีกเรื่องหนึ่ง

เถรี 09-09-2014 14:40

ถาม : การเรี่ยไรกับการบอกบุญต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : ต้องบอกว่าต่างกันโดยชื่อ เหมือนกันโดยอาการ ก็คือควักเงินจากกระเป๋ากู..!

ถาม : แล้วถ้ามีเพื่อนหวังดีอยากให้เราร่วมบุญด้วย มาสะกิด ?
ตอบ : บอกให้ไปสะกิดที่อื่น ถ้าสะกิดที่นี่โดนแน่

ถาม : หน้าบ้านวิริยบารมีได้ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ต้องนอกรั้ว

ถาม : แล้วกรณีที่เพื่อน ๆ พี่น้องในเว็บบอกบุญกันมา แล้วนัดมารับวัตถุมงคลที่บ้านวิริยบารมีสามารถทำได้ไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าเปิดกระทู้อย่างเป็นทางการ แล้วถือว่าจุดนี้เป็นจุดนัดพบที่สะดวกก็ให้แจ้งมาให้ทราบก่อน เหมือนที่คุณโต (สถิระ ชัยชนะกลาง) ทำทุกครั้ง สามารถมาจ่ายวัตถุมงคลที่นี้ได้ แต่ถ้าประเภทไปงุบงิบกันเอง แล้วโผล่มาให้เห็นเป็นอันว่าเจอกัน ถ้าไม่เห็นก็แล้วไป..!

ถาม : ถ้าอย่างสมาชิกไปประกาศบอกบุญในเว็บสะพานบุญ แล้วแจ้งว่าสามารถมารับวัตถุมงคลได้ที่บ้านวิริยะฯ ได้ นี่รอดใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าไม่ได้บอกพระอาจารย์ก่อนก็ตายคาที่เหมือนกัน..!

เถรี 10-09-2014 05:42

ถาม : การเล่นหมากล้อม หมากรุก หมากฮอส หรือหมากกระดานต่าง ๆ ผิดศีลแปดหรือไม่ และเหมาะสมกับผู้ถือบวชหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าเป็นพระเขาปรับอาบัติทุกตัวที่จับ ก็แปลว่าหมากกระดานนั้น ถ้าเดินกี่ตาก็โดนปรับศีลขาดเท่านั้นครั้ง สำหรับฆราวาสแล้ว ถ้าเราถือบวช อย่างเช่นว่าศีล ๘ ควรที่จะตั้งหน้าตั้งตาประพฤติอยู่ส่วนของ ศีล สมาธิ ปัญญา จะเอาเวลาที่ไหนไปนั่งเล่นหมาก..!

เถรี 10-09-2014 05:51

ถาม : ถ้าผมมีเงินติดตัวอยู่ ๑๐๐ บาท แต่ตัดใจทำบุญจนหมดตัว กับคนที่มีเงินอยู่ร้อยล้านบาททำบุญไป ๑ หมื่นบาท ถ้าตัดสินกันเฉพาะการทำบุญตรงนี้ ระหว่างผมกับเขาคนไหนจะได้อานิสงส์เรื่องทรัพย์สินเงินทองในชาติหน้ามากกว่ากัน ?
ตอบ : คนที่ตัดสินใจทำบุญหมดตัวจะได้ความโง่มากกว่า..! การทำบุญต้องไม่ให้ตนเองและคนรอบข้างเดือดร้อน แต่ว่ามีอยู่ประเภทหนึ่งก็คือพระโพธิสัตว์ ส่วนใหญ่แล้วแม้แต่ชีวิตของท่านเองก็ยังไม่กังวล ท่านจะทำบุญหมดตัวก็เป็นเรื่องของท่าน แต่ถ้าเป็นคนทั่ว ๆ ไปต้องมีสติรอบคอบแล้วก็พิจารณาก่อนทำบุญด้วย

สมมุติว่าเราทำบุญสังฆทานครั้งละ ๑๐ บาท เงิน ๑๐๐ บาทเราทำได้สิบครั้ง ก็แปลว่าเราได้อานิสงส์สังฆทาน ๑๐ ครั้ง ขณะเดียวกันถ้าเราทำ ๑๐๐ บาทครั้งเดียว เราได้อานิสงส์สังฆทานครั้งเดียว แล้วตัวเราไปเดือดร้อนทีหลัง ก็ต้องคิดดูว่าถ้าเราทำแบบนี้เราโง่หรือเราฉลาด ?

ถ้ากล่าวถึงอานิสงส์ที่จะพึงได้ในภายภาคหน้า สมมติว่าเกิดเป็นมหาเศรษฐีก็จะได้มีทรัพย์ ๘๐ โกฏิเป็นพื้นฐาน ส่วนที่ทำมากทำน้อยนั้นเขาก็ได้มากน้อยกว่าตามจำนวนที่ทำไป อย่างเช่นท่านที่ทำมากกว่า อาจจะมี ๑๒๐ โกฏิ อาจจะมี ๓๕๐ โกฏิ แต่ว่าเป็นมหาเศรษฐีเหมือนกัน ก็แปลว่าระยะต่ำสุดของตนเองมีอยู่ แต่ว่าระยะสูงสุดไม่ได้จำกัดไว้


ถาม : ขอพระอาจารย์เมตตาแนะนำการทำบุญแบบที่มีศรัทธาและประกอบไปด้วยปัญญา ?
ตอบ : บอกไปเรียบร้อยแล้ว

ถาม : แล้วเราจะวัดได้อย่างไรว่าคนที่ทำหมดตัวเขาเป็นพระโพธิสัตว์หรือว่าไม่มีปัญญา ?
ตอบ : ก็ต้องถามเราเองว่าโง่หรือฉลาด พระโพธิสัตว์เป็นคนฉลาด ทำอะไรเผื่อขาดไว้อย่าเผื่อเหลือ คำว่าเผื่อขาดก็คือต้องระมัดระวังอยู่เสมอว่า อาจจะต้องขาดแคลนอะไรบางอย่าง อย่างที่โบราณบอกว่า ขนาดเศรษฐียังขาดไฟ ฉะนั้น..เราระมัดระวังเอาไว้ย่อมดีกว่า แล้วอีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าไปทำผิดที่ก็จะได้ไม่เสียหายมากมายนัก

มีโยมอยู่คนหนึ่งอาตมารู้จักดี สนิทสนมมาก ไม่ทราบว่ากรรมอะไรบันดาล เอาเงินไปถวายฤๅษีเพ่งอุจจาระไปหนึ่งล้านบาท แล้วฤๅษีเชิดหายเข้ากลีบเมฆไป ตอนนั้นจะมีฤๅษีอยู่ท่านหนึ่ง อยู่แถวไทรโยคของเมืองกาญจนบุรี มีปฏิปทาพิลึกพิลั่นคือเอาอุจจาระมานั่งพิจารณา หนังสือพิมพ์เขาเรียกว่าฤๅษีเพ่งอึ แล้วโยมรายนี้ก็คงเห็นขลัง ไปแล้วก็ควักกระเป๋าทำบุญไปล้านหนึ่ง ปัจจุบันตัวเองลำบากแทบตาย

เถรี 10-09-2014 05:55

ถาม : ผมปรารถนาไปพระนิพพานในชาตินี้ แต่ผมก็ยังไปจีบผู้หญิงอยู่ โดยเลือกผู้หญิงที่เข้าวัดเหมือนผม เราจะได้ปฏิบัติธรรมด้วยกันอยากทราบว่า ถ้าผมยังคิดแบบนี้อยู่ โอกาสที่จะได้ไปพระนิพพานในชาตินี้จะริบหรี่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่ริบหรี่หรอก เกือบจะเป็นศูนย์..! เห็นทำอย่างนี้มาเจ๊งมาหลายคู่แล้ว เอกายโน อะยัง ภิกขเว ทางนี้เป็นหนทางของบุคคลเดียว มัคโค สัตตานัง วิสุทธิยา เป็นทางที่จะนำสัตว์ไปสู่ความบริสุทธิ์ได้ โสกะปริเทวานัง สะมะติกกะมายะ สามารถก้าวล่วงซึ่งความทุกข์โศกร่ำไรได้ ทุกขะโทมมะนัสสานัง อัตถังคะมายะ สามารถทำให้ความทุกข์และโทมนัสตกล่วงไปได้ ท่านไม่ได้บอกให้ไปสองคน

เถรี 10-09-2014 05:56

ถาม : บุคคลที่มีบุคลิกเป็นผู้นำ จะอ่อนน้อมถ่อมตนได้อย่างไร ?
ตอบ : ผู้นำก็สามารถที่จะใช้อปจายนมัยได้ อยู่ในการที่เราจะวาจา ใช้กิริยา อาตมาเจอผู้นำแบบนี้มาเยอะแล้ว เห็นขนาดพูดกับคนงานระดับต่ำสุดยังใช้คำว่า “คุณ” กับ “ผม” แล้วดุลูกน้องอย่าแรงสุดก็ “เฮ้ย..คุณทำไมทำอย่างนั้นวะ” เพราะฉะนั้น..ผู้นำก็สามารถอ่อนน้อมถ่อมตนได้ อยู่ที่จริตนิสัยของแต่ละคน

เถรี 10-09-2014 05:58

ถาม : การที่เราจับเห็บหมามาบี้บ่อย ๆ จะเป็นกรรมปาณาติบาตหรือไม่ ?
ตอบ : อย่างนี้ยังไม่รู้อีกว่าปาณาติบาตหรือเปล่า ต้องฆ่าช้างก่อนถึงจะรู้ใช่ไหม ? เป็นปาณาติบาต ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์จ้ะ

ถาม : แล้วกรณีที่คนเขาเลี้ยงหมาแล้วมีเห็บ เราควรจะจัดการอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ก็เลิกเลี้ยงหมา ถ้าเลิกเลี้ยงหมาไม่ได้ก็อย่าไปยุ่งกับอนาคตของหมา..! ถ้าเลิกยุ่งไม่ได้อย่างน้อย ๆ ก็อาบน้ำให้ ใส่ยาให้ เพราะว่าสมัยนี้เขามียาบางอย่างกินแล้วรู้สึกว่าเลือดจะไม่อร่อย เห็บหมัดจะไม่กินหมาตัวนั้น

ถาม : แล้วที่คนเขาบอกว่าให้จับเห็บหมาไปใส่ขวดน้ำหรือน้ำมันแช่ไว้ ?
ตอบ : ก็ลองจับคน ๆ นั้นไปใส่ดูบ้างสิ..!

ถาม : ใส่ขวดแล้วตอนแรกยังไม่ตาย ปล่อยไปตามเวรตามกรรม ?
ตอบ : วิธีที่อาตมาว่าดีที่สุดแล้ว สมัยนี้ยาฉีดก็มี ยากินก็มี ฉีดเข้าไปหรือกินเข้าไปแล้วเห็บหมัดจะไม่กินหมาตัวนั้น

เถรี 10-09-2014 05:58

ถาม : พระที่ท่านอาบัติสังฆาทิเสส สึกออกมาก่อนที่จะทำการแก้ไข จะมีโทษตามมาหรือไม่ แล้วต้องแก้ไขอย่างไรครับ ?
ตอบ : โทษตามไปยันตาย วิธีแก้ไขก็บวชกลับเข้าไปใหม่ แล้วไปอยู่ปริวาสให้พ้นโทษ

เถรี 10-09-2014 06:00

ถาม : มีคำพูดว่า "พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก" ถ้าเราทำบุญกับพ่อแม่จะได้อานิสงส์เท่ากับทำบุญกับพระอรหันต์หรือไม่ ?
ตอบ : คำพูดนี้มาจากมหายานของจีน ไม่ได้มาจากเถรวาทของเรา พระพุทธเจ้าตรัสว่า บิดามารดาเป็นพรหมของบุตร ไม่ได้บอกว่าเป็นพระอรหันต์ ยกเว้นว่าพ่อแม่ท่านจะเป็นพระอรหันต์จริง ๆ แล้วเราทำบุญกับท่าน ถึงจะได้เหมือนทำกับพระอรหันต์ แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นฆราวาส เป็นพระอรหันต์แล้วท่านก็ไม่อยู่ให้เราทำบุญเสียด้วย

ด้วยความเป็นพ่อเป็นแม่นั้น เราควรที่จะประพฤติปฏิบัติกับท่านให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ เพราะอย่างน้อย ๆ ในส่วนของอานิสงส์นี้ จะส่งผลให้เราต่อไปในกาลข้างหน้า คือว่าเราทำตนเป็นแบบอย่าง ลูกหลานได้เห็นต่อ ไปก็จะประพฤติดีปฏิบัติกับเราเอง


ถาม : แล้วถ้ากรณีที่เราไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ เราจะมีวิธีปฏิบัติต่อพ่อแม่อย่างไรบ้างคะ ?
ตอบ : ก็กลับไปอยู่กับท่าน

ถาม : แล้วถ้าไม่กลับละคะ ?
ตอบ : อ๋อ..ถ้าไม่กลับก็ไม่ต้องถามปัญหานี้ เพราะโอกาสที่จะทำไม่มีอยู่แล้ว

ถาม : แล้วการที่ลูกมาทำงานต่างจังหวัดแล้วส่งเงินกลับไปให้อย่างนี้ ?
ตอบ : อย่างนั้นพ่อแม่ก็ไม่ต้องเรียกร้อง ลูกส่งไปให้แล้ว ถึงเวลาวันหยุดก็โผล่ไปให้ท่านได้เห็นหน้าบ้าง

เถรี 10-09-2014 07:29

ถาม : อย่างคนที่ใช้กรรมในนรกภูมิครบตามกำหนดแล้วต้องไปภูมิอื่นต่อ สมมติภูมิต่อไปที่เขาจะต้องไปเกิดคือสัตว์เดรัจฉาน สงสัยว่าอะไรเป็นตัวกำหนดว่าเขาจะต้องไปเกิดเป็นสัตว์ชนิดนั้น ถ้าเกิดเป็นตั๊กแตน แปลว่าตอนเป็นคนเคยฆ่าตั๊กแตนไว้หรือคะ ?
ตอบ : ถูกต้องแล้ว ไปฆ่าอะไรไว้เท่าไรก็ต้องไปเกิดใช้เขาเท่านั้น ถ้าเป็นอาตมานี่ใช้บานเลย เพราะตั้งแต่เด็กยิงนกตกปลามาตลอด เพราะฉะนั้น..ชีวิตนี้ตูหนีหนี้สุดชีวิต..!

ถาม : แล้วมีลำดับไหมคะว่าเป็นสัตว์เล็กก่อนสัตว์ใหญ่ หรือว่าสัตว์ใหญ่ก่อนสัตว์เล็ก ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับว่าฆ่าอะไรมาก่อน อย่างไหนใช้กำลังใจในการฆ่ามากก็โดนก่อน ไล่ไปตามลำดับ

เถรี 10-09-2014 07:30

ถาม : ถ้าเราบวชพระ แล้วมีพระอุปัชฌาย์ หรือพระคู่สวด หรือพระอันดับ ต้องอาบัติปาราชิกหรือสังฆาทิเสส เราจะเป็นพระสมบูรณ์หรือไม่ครับ ?
ตอบ : เป็นได้แค่เณร

ถาม : การปฏิบัติของเราจะก้าวหน้าหรือไม่ ?
ตอบ : เจ๊งตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเป็นเณรแล้วดันไปคลุกคลีตีโมงอยู่กับพระ ศีลของเราไม่สมบูรณ์ยังไม่พอ ไปทำให้พระท่านศีลขาดอีกต่างหาก..!

ถาม : แล้วกรณีที่เราพลาดแล้วไปเจอเหตุการณ์แบบนี้ เราจะแก้ไขอย่างไรคะ ?
ตอบ : สึกไปหาที่บวชใหม่..หรือไม่ก็ยอมเป็นแค่เณร

ถาม : แล้วถ้าเคยบวชแล้วสึกออกมาแล้ว ทราบภายหลังว่ามีโทษแบบนั้นจะมีหนทางแก้ไหมคะ ?
ตอบ : ขอขมาพระรัตนตรัย ยกเว้นว่าโทษอะไรที่หนักในระดับของสังฆาทิเสสต้องไปใช้คืน แต่ถ้าปาราชิกไม่ต้อง ปิดมรรคผลไปเรียบร้อยแล้ว หมดสิทธิ์ที่จะได้มรรคผลด้วยประการทั้งปวง

ถาม : หมดแค่ในชาตินี้ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ลองไปเกิดใหม่ดู เขาก็นับชาติเดียวนะสิ

เถรี 10-09-2014 07:32

ถาม : เคยฟังท่านเทศน์เกี่ยวกับอานิสงส์ปล่อยนก แต่ถ้าเราหานกไม่ได้ จะปล่อยเป็ดปล่อยไก่แทนได้ไหมครับ เพราะเป็นสัตว์ปีกเหมือนกัน อานิสงส์จะเหมือนกันหรือไม่ ?
ตอบ : ปล่อยเป็ดนะพอไหวแต่ปล่อยไก่นั่นขายหน้านะ..! หานกไม่ได้เอาหนังสติ๊กไปยิงเอาสิ พอได้มาแล้วค่อยไปปล่อย จะเชื่อดีไหมนี่..!?

ถาม : เขาคงคิดว่าเป็นสัตว์ปีกเหมือนกัน อานิสงส์อาจจะเหมือนกัน ?
ตอบ : เราก็ตั้งใจว่านี่เป็นนก อย่าไปคิดว่าเป็นไก่

ถาม : สรุปคือควรจะไปหานกใช่ไหมคะ ?
ตอบ : นกก็คือนก นกไม่ใช่ไก่ ยกเว้นทางวิทยาศาสตร์เขาถือเป็นสัตว์ตระกูลเดียวกันแต่คนละสายพันธุ์ เพราะฉะนั้น..หานกดีกว่า จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง

เถรี 10-09-2014 07:33

ถาม : คนที่กำลังใจต่างกันสามารถคบหาสนิทสนมกันได้ไหมครับ หรือว่าไปไม่รอด ?
ตอบ : ไปกันไม่ได้หรอก

ถาม : คือต้องเปลี่ยนคนคบใหม่ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก ถึงเวลาก็เป็นไปเองแหละ ถึงเวลาไปกันไม่ได้ก็ต้องต่างคนต่างไป อย่างสมัยนี้เห็นแต่งงานกันเยอะแยะ แล้วท้ายสุดก็บอกว่าไปกันไม่ได้ โดยเฉพาะพวกดารา แล้วทำไมถึงไม่ดูให้ดีตั้งแต่แรก

ถาม : เกี่ยวกับเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา จาคะด้วยใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ใช้คำว่า "กำลังใจต่างกัน" ก็จบเลย ไม่ต้องเสียเวลาไปดูว่าต่างกันเพราะอะไร จะใช้คำว่าระดับความดีต่างกันก็แรงเกินไป

เถรี 10-09-2014 07:34

ถาม : ขอให้พระอาจารย์พูดถึงพระองค์ขนาดเท่าใบมะขาม ที่พระอาจารย์แจกให้ในงานพุทธาภิเษกในวันเสาร์ที่ ๓๐ สิงหาคมที่ผ่านมา ว่าเป็นพระอะไร และมีที่มาอย่างไร เนื่องด้วยผมได้รับจากมือพระอาจารย์ก็ยังอยากจะบูชาอย่างดี และอยากทราบรายละเอียดของพระองค์นั้นครับ ?
ตอบ : อาตมาก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะมีคนทำมาถวายก็แจกไปเรื่อย ๆ

ถาม : แล้วผ่านพิธีที่วัดท่าขนุนมากี่ครั้งแล้วคะ ?
ตอบ : ไม่แน่ใจ ได้มาหลายปีแล้ว แจกเท่าไรไม่หมดสักที เพราะเขาให้มา ๘๔,๐๐๐ องค์ ขนาดแจกไปฟรี ๆ ยังไปออกในเว็บองค์ละ ๔๕๐ บาท บอกเขาว่าถ้าอยากได้ไปเอาที่วัดท่าขนุนนะ แจกฟรีทุกงาน

เถรี 10-09-2014 07:39

ถาม : ผีเรื่องสัมภเวสีที่มาเกี่ยวข้องกับคน ซึ่งตามที่ผมเคยได้ยินมาแยกออกเป็นดังนี้
๑. คือพวกที่มาปรากฏกายเพื่อขอส่วนบุญหรือมาบอกข่าวในฝัน แบบนี้คือเราอุทิศบุญไปให้ หรือทำในสิ่งที่เขาขอแล้วอุทิศบุญไปให้ก็น่าจะจบ
๒. พวกที่เราไปรบกวนเขา เช่นไปนอนในที่ ๆ เขาอยู่ ไปปัสสาวะรดสถานที่เขา แบบนี้เราขอขมาและอุทิศบุญไปให้ส่วนใหญ่ก็น่าจะจบ
๓. พวกที่เขาต้องการเอาชีวิตคนเพื่อเป็นตัวตายตัวแทนในบริเวณที่เคยมีคนตาย แบบนี้เราจะไม่มีทางรู้ตัวก่อนเลย คำถามคือทำไมเขาต้องการตัวตายตัวแทนครับ ? คิดตามหลักธรรมก็ยังไม่เข้าใจ ทำไมต้องมีคนไปอยู่ใหม่เขาถึงจะไปเกิดได้ครับ ?
ตอบ : ต้องหาคนมาเปลี่ยนเวรถึงจะออกเวรได้ มีอยู่ประเภทเดียวเท่านั้นที่เป็นเช่นนี้ คราวนี้ว่าในส่วนนั้นไม่มีอะไรน่ากังวล ก่อนจะไปไหนเราก็อาราธนาบารมีพระเสียก่อน เขาก็ไปเอาคนอื่นเองแหละ ความจริงแล้วถ้าเราไม่มีอุปฆาตกรรมมาถึง ต่อให้เขาอยากได้แค่ไหนเราก็ไม่ตายตรงนั้นหรอก คนที่จะตายตรงนั้นคือคนที่วาระของอุปฆาตกรรมมาตัดรอนพอดี ก็แปลว่าจะต้องมีกรรมบางอย่างที่คล้ายคลึงกับบุคคลเก่า พอไปแทนที่แล้วคนเก่าถึงจะพ้นไปได้ เหมือนอย่างกับว่าเวรผลัดใหม่มา คนเก่าถึงจะออกเวรไปได้ ซึ่งลักษณะนี้มีอยู่แค่ประเภทเดียว ไม่มีอะไรน่ากังวลหรอก โอกาสเป็นไปน้อยมาก

ถาม : กรณีอย่างนี้ถ้าเราพกวัตถุมงคลไว้จะช่วยไหมคะ ?
ตอบ : พกไว้เฉย ๆ ก็ไม่รู้จะช่วยอะไร หัดอาราธนาเสียบ้าง เราพกปืนไว้เฉย ๆ แล้วคิดว่าโจรจะไม่ปล้นเราหรือ ? เขาก็ปล้นเอาไปทั้งปืนนั่นแหละ

ถาม : แล้วกรณีที่ต้องการเอาชีวิตคนที่ตัวเองชอบเพื่อเอาไปอยู่ด้วย แบบนี้เราจะไม่มีทางรู้ตัวก่อนเลย ผมสันนิษฐานว่ากรณีที่อยู่ ๆ ก็มีคนกระโดดตึกตาย หรืออยู่ ๆ ก็แขวนคอตายเองโดยไม่มีสาเหตุ บางครั้งอาจเป็นเพราะสาเหตุนี้ คำถามคือเราจะป้องกันกรณีนี้อย่างไรดีครับ ?
ตอบ : ไม่เคยได้ยิน ขอยืนยันว่าถ้าไม่มีวาระกรรมเข้ามาจริง ๆ ให้เขาชอบเราขนาดไหนก็เอาเราไปไม่ได้ ฉะนั้น..วิธีป้องกันก็คือพยายามที่จะสร้างบุญในลักษณะปล่อยชีวิตผู้อื่น อย่างเช่นว่านกหรือปลาที่เขาจะฆ่า พยายามปล่อยไว้ให้สม่ำเสมอ ถ้าเป็นเช่นนั้นต่อให้เขารักเราจนสุดสวาทขาดใจขนาดไหนก็เอาเราไปไม่ได้หรอก

ถาม : ผมเข้าใจว่าคนที่ตายเพราะสัมภเวสี เขาก็มีกรรมเป็นเครื่องนำทางไป ถ้ากรรมดีก็น่าจะไปสวรรค์ ไม่น่าจะต้องไปอยู่ร่วมกับสัมภเวสีเหล่านั้น ซึ่งอยู่ในภูมิของอสุรกายนี่ครับ การฆ่าตัวตายแบบนี้ไม่ใช่เพราะเขาทำเอง ก็ไม่น่าจะเป็นกรรมของเจ้าของร่าง ผมเข้าใจถูกไหมครับ ?
ตอบ : เข้าใจถูก...แต่ขณะเดียวกันก็อย่าเพิ่งมั่ว ในเรื่องของยถากัมมุตาญาณเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งมาก ฝึกปฏิบัติให้ได้เสียก่อน แล้วก็ไปดูเอาเอง เพราะแต่ละอย่างต้องเรียกว่าพิลึกพิสดารเกินกว่าที่เราจะคิดถึง ฉะนั้น..เรื่องอย่างหนึ่งเหมือนกัน แต่ว่าผลอาจจะออกมาเป็นคนละอย่างก็ได้ ในส่วนนี้ต้องบอกว่าควรที่จะทำเองให้รู้แจ้งเห็นจริง อย่าไปด่วนสรุปแล้วก็เผยแพร่ความรู้ผิด ๆ ของเราต่อไป ทำให้คนอื่นเขาวิตกกังวลไปด้วย

เถรี 10-09-2014 07:49

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนนี้ที่วัดท่าขนุน บรรดาลูกศิษย์หลวงปู่สายเพิ่งจะรู้ว่ามีวัตถุมงคลรุ่น ๑๐๐ ปี วิ่งมาถึงก็ “แม่ชีทำไมไม่บอก โกรธแล้ว.!” อาตมาบอกไปเป็นชาติแล้วว่าจะทำวัตถุมงคลรุ่นนี้ ประชุมคณะกรรมการวัดกี่ครั้งก็บอก ทำบุญกี่ครั้งก็บอก ผ่านหูไปหมด พอเห็นคนอุ้มรูปหล่อหลวงปู่สายมา สวยถูกใจ คราวนี้วิ่งกันตีนพลิก

ไม่แปลกใจว่าในประวัติหลวงปู่ธุดงค์หนีไปตั้ง ๗ ปี เพราะทนในความอืดอาดยืดยาดของลูกศิษย์ไม่ไหว จนทุกวันนี้เขาก็ยังนิสัยเหมือนเดิม ประเภทถ้าไม่แปดโมงครึ่งก็ไม่เยื้องย่างออกจากบ้านมาวัด แล้วก็มาบ่นว่าบ้านเราแท้ ๆ แต่ไม่มีที่ให้นั่ง เพราะพวกเราไปจองที่ตั้งแต่ตีสี่ตีห้า มาแปดโมงครึ่งเขาจะเอาที่นั่ง แล้วจะไปเอาที่ไหน

อีกอย่างหนึ่งการจัดงานวัดท่าขนุน ข้อที่หนึ่ง..ไม่มีโฆษณาประชาสัมพันธ์ ข้อสอง..ไม่มีการปักธง ข้อสาม..ไม่มีการออกร้านค้า พวกเขากว่าจะรู้ก็ตรงที่มีรถวิ่งเข้าวิ่งออก ก็จะรู้ว่าวัดท่าขนุนมีงาน ซึ่งไม่ทันกินแล้ว จนกระทั่งทุกวันนี้ผู้บังคับบัญชายังไม่ค่อยจะชินเลย เพราะปกติถ้าวัดมีงานก็จะปักธง ปักทีหนึ่งหลาย ๆ กิโลเมตร อย่างไม่มี ๆ ก็ ๒ - ๓ กิโลเมตร ของวัดท่าขนุนไม่มีเลย แต่พอเข้าไปข้างในเห็นรถเยอะแยะไปหมด ค่อยโล่งอกไปที เขามีงานจริง ๆ กลัวไปผิดวัน..ว่าอย่างนั้น"

เถรี 10-09-2014 07:54

"เดี๋ยววันจันทร์นี้อาตมาต้องปลีกตัวไปพุทธาภิเษกที่วัดราชคฤห์ (วัดมอญ) ถ้าใครจะไปโปรดอย่าเอารถไปเป็นอันขาด วัดนั้นไม่มีที่ให้จอดรถ หลวงพ่อพระราชวรเวทีท่านนัดเวลา ๑๔.๓๙ น. ท่านเป็นอาจารย์สอนตั้งแต่ปริญญาโท ปริญญาเอก โทรมาถึงก็ “ช่วยไปพุทธาภิเษกให้ผมหน่อย” อาตมากะว่าจะไปถึงสักบ่ายสอง

วัดราชคฤห์ จากบ้านวิริยบารมีไปสัก ๑๐ นาทีก็น่าจะถึง เพราะฉะนั้น.. ๑๓.๕๐ น. แล้วค่อยไปก็ทัน ยังไม่รู้เลยว่าท่านทำพุทธาภิเษกอะไร แต่ว่ามีอยู่ปีหนึ่ง ตอนนั้นอยู่ปริญญาตรีอยู่ ท่านเอาครูบาต้นบุญมาพุทธาภิเษก เสร็จแล้วพวกตำรวจเขาลองยิงกันตรงนั้นเลย แล้วยิงไม่ออก ก็เลยฮือฮากัน หนังสือพิมพ์เอาไปลง ตอนนี้เอาพระอาจารย์เล็กไปรับรองออกทุกนัด เพราะอาตมาชอบเสียงดัง ๆ..!

อะไรที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านให้มาลักษณะแคล้วคลาดนี่จะชอบมากกว่า เสียงดังสนุกดี ประเภทเงียบ ๆ นี่ไม่สนุก จะว่าไปแล้วถ้าไม่ใช่มหาอุด คงกระพันชาตรีนี่โดนแล้วยังเจ็บนะ เพียงแต่ไม่เข้า เพราะฉะนั้น..แคล้วคลาดจะดีกว่า แคล้วคลาดนี่อย่างไรก็ไม่โดน อาตมาทดสอบมาตลอดระยะเวลาที่อยู่ชายแดน ๑๓ เดือน ลองมาทุกรูปแบบแล้ว ทั้งปืน กับระเบิด เครื่องยิงจรวด กระสุนปืนใหญ่ แคล้วคลาดได้สะเด็ดยาดจริง ๆ แต่ถ้าคงกระพันของหลวงพ่อนี่ ท่านบอกว่านอกข้อจะไม่ให้ ข้อมือข้อเท้าออกมานี่โดนอย่างไรก็เข้า ท่านบอกว่าถ้าไม่มีจุดอ่อนไว้บ้างเดี๋ยวลูกศิษย์ท่านเป็นโจรหมด เพราะแต่ละคนกำลังใจเหลือเกิน

สงครามไม่น่ากลัวเท่าภัยธรรมชาติ ภัยธรรมชาติน่ากลัวมาก เพราะว่าทุกอย่างประดังเข้ามาหมด แม้กระทั่งที่เขาไปทิ้งระเบิดกันตูม ๆ พวกเราลองนึกดูว่า อากาศอยู่เฉย ๆ แล้วโดนอัดออกดันออกอย่างนี้ตลอด พอรวม ๆ กันเยอะเข้า ๆ ก็กลายเป็นพายุใหญ่ แล้วก็ไม่ไปไหนหรอก ไปขึ้นที่สหรัฐฯ ประจำ เอ้า..จริง ๆ นะ บรรดาทอร์นาโด ไซโคลน ถล่มสหรัฐฯ ตลอด กรรมสนองจริง ๆ "

เถรี 11-09-2014 13:01

ถาม : เราจะรู้ตัวว่าเรากำลังทำอะไร อย่างหายใจเข้าเรารู้ว่าหายใจเข้า ใช่หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ถ้าทำได้ก็ใช่

ถาม : อย่างน้อยต้องฌานอะไรคะ ?
ตอบ : ปฐมฌานละเอียด

เถรี 11-09-2014 13:27

ถาม : หมอดูฮวงจุ้ยเขามาดูที่บ้าน บอกว่าแก้ไม่ได้แล้ว คุณจะต้องอยู่อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ?
ตอบ : ก็แก้ไขอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างหาลูกแก้วมาแขวนบ้าง หาขลุ่ยมาแขวน เพื่อกระจายพลัง เอาต้นไม้บางชนิดมาปลูกอะไรนิดหน่อย ไม่อย่างนั้นก็เอาอย่างพี่ปราณี รื้อใหม่สร้างใหม่เลย พี่ปราณีเขาใช้วิธีครูพักลักจำ พอโกเฮงดูฮวงจุ้ยให้ พี่เขาก็จำว่าลักษณะอย่างนี้ ๆ ต้องทำแบบนี้ แต่ปรากฏว่าจำกลับข้างหมดเลย เวลาโกเฮงไปดูให้จริง ๆ ไอ้โน่นก็ผิด ไอ้นี่ก็ผิด ต้องไปอยู่ฝั่งโน้น ท้ายสุดพี่ปราณีก็เลยรื้อบ้านทำใหม่ แล้วก็ยังอุตส่าห์พาโกเฮงมาดูให้ที่วัดท่าขนุน โกเฮงบอกว่านี่ก็ถูก นั่นก็ถูก ดีหมด พี่ปราณีก็โกรธ "ทีของเรานะ..อะไร ๆ ก็ใช้ไม่ได้ ทีของหลวงพ่อทำไปเรื่อยเปื่อย อะไร ๆ ก็ดีหมด"

ถาม : ที่บ้าน บันไดไม่ดี บันไดทับผู้ชาย ?
ตอบ : บันไดวัดท่าขนุนตอนแรกทำ ๒ ฝั่ง ต้องเอาออกฝั่งหนึ่ง เพราะว่าถ้าทำ ๒ ฝั่งจะรั่วข้างหนึ่ง บันไดฝั่งข้างซ้ายตรงประตูใหญ่ พลังงานพุ่งตรงได้ก็ขึ้น ๓ ชั้นเลย จึงต้องตัดออก ให้เหลือแต่ข้างขวา ให้ค่อย ๆ เลี้ยวไปขึ้นบันไดแบบนุ่ม ๆ ไม่ต้องแรง เดี๋ยวจะรวยมาก รับเงินไม่ไหว เอาทีละน้อยแต่ได้ไปนาน ๆ ก็แล้วกัน

เถรี 11-09-2014 13:34

ถาม : เทคนิคที่ทำให้เราทรงฌานง่าย ?
ตอบ : ทำ..ทำ..ทำ..และ..ทำ

ถาม : เดี๋ยวลืมอีกแล้วค่ะ ?
ตอบ : สติยังไม่พอ แปลว่าสมาธิแย่ สมาธิต้องดีกว่านี้แล้วสติจึงจะดีขึ้น

เถรี 11-09-2014 14:50

ถาม : ลูกหนูเป็นภูมิแพ้ค่ะ ทำบุญแบบไหนจะให้บรรเทาคะ ?
ตอบ : ภูมิแพ้เขาก็เป็นกันทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องทำบุญก็ได้ เพียงแต่เลิกกินนม โดยเฉพาะนมวัวทุกยี่ห้อ ให้เลิกไปเลย นมวัวเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่แรงที่สุด ถ้าเลิกกินนมวัวได้ ดีไม่ดีก็หายเลย อาตมาเคยบอกมานานแล้วว่า นมเป็นอาหารของวัวกับฝรั่ง คนไทยไปกินนมก็เป็นเรื่องทั้งนั้น

เถรี 11-09-2014 14:51

ถาม : ในกรณีคนที่โดนทำของใส่ มีคนแนะนำว่าให้ไปหาพ่อเฒ่าที่ต่างจังหวัดช่วย ควรไปไหมคะ ?
ตอบ : เรามั่นใจว่าโดนของ..ใช่ไหม ?

ถาม : ไม่มั่นใจค่ะ
ตอบ : ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่ต้องไป ถ้ามั่นใจว่าเป็นแล้วค่อยไป

เถรี 11-09-2014 14:58

พระอาจารย์เล่าว่า "วันนี้วันที่ ๕ กันยายน ครบรอบวันมรณภาพของหลวงปู่มหาอำพัน หลวงปู่มรณภาพปี ๒๕๓๒ ถึงตอนนี้ ๒๕ ปีแล้ว ขึ้นปีที่ ๒๖

วันก่อนไปไล่สายครูบาอาจารย์ เพื่อเตรียมไว้สำหรับหนังสือประวัติตัวเองตอน ๖๐ ปี เพิ่งรู้
ตัวว่าอาตมามีครูบาอาจารย์เยอะมาก ครูบาอาจารย์แบบสืบสาวได้จากตัวเองขึ้นไปถึงท่าน จากท่านขึ้นไปถึงครูบาอาจารย์ของท่าน ฯลฯ โอ้โฮ... ขนาดสืบสาวได้ยังเยอะขนาดนี้ แล้วพวกท่านที่มาบอกโดยที่คนอื่นไม่รู้เรื่อง มีอีกตั้งเท่าไร"

ถาม : รวมเบ็ดเสร็จแล้วเท่าไร ?
ตอบ : น่าจะถึง ๒๐ สายแล้วกระมัง ? บางสายก็มาตรงเลย ๑, ๒, ๓, ๔, ๕ บางสายก็แตกออก ๆ ๆ แล้วค่อยเลี้ยวเข้ามา

เสียดายว่า วิชาการจากรุ่นหนึ่งไปสู่รุ่นหนึ่งมักจะด้อยลงไปเรื่อย ๆ เหตุที่เป็นอย่างนั้น เพราะว่าอันดับแรกก็คือว่า ลูกศิษย์ไม่มีความอดทนและเพียรพยายามเท่ากับอาจารย์ อันดับที่สองก็คือ ไม่มีความอดทนในการที่จะฝึกปรือตัวเองเพื่อให้มีความสามารถเท่ากับครูบาอาจารย์ อันดับที่สามก็คือ ครูบาอาจารย์บางท่านมีไม้ตายบางอย่างที่สูญสิ้นไปเฉพาะตัวเท่านั้น

แรก ๆ พออาตมาจับเรื่องเลขเรื่องยันต์ เอ..ทำไมแปลกมาก พอจับก็รู้เลยว่าขึ้นอย่างไร ลงอย่างไร ลงอักขระตัวไหนก่อน ทั้ง ๆ ที่บางทีเขาทำเป็นตารางกล ที่แท้ของบางอย่างพอศึกษามาชาติแล้วชาติเล่า เหมือนกับฝังอยู่ในดีเอ็นเอ พอจับเข้าไปหน่อยก็จำได้หมด

เถรี 11-09-2014 15:05

ถาม : มีวิชาเกิดใหม่ไหมคะ ?
ตอบ : วิชาเกิดใหม่นี่แทบไม่มีเลย เพราะโบราณเก่งกว่า ถ้านับตั้งแต่อาภัสราพรหมมาเกิด สมัยนั้นเขาเหาะกันเป็นปกติ ดังนั้น..วิชาใหม่ ๆ ก็คือความรู้เก่า ๆ นั่นแหละ เพียงแต่กว่าจะเรียนไปถึงเท่าโบราณนั้นยากแสนจะยาก มานึกถึงสมัยนี้ของพวกเรามีพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ ฯลฯ เขาใช้กันมาตั้งแต่ยุคแอตแลนติสแล้ว

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : ต้องบอกว่ามนุษย์เราประกอบด้วยอวิชชาเป็นปกติ ก็เลยไปยึดมั่นถือมั่น เกิดความภาคภูมิใจว่าวิชาการนี้เราเป็นผู้ค้นพบ หารู้ไม่ว่าสาวขึ้นไป บรรพบุรุษทำมาไม่รู้ตั้งเท่าไรแล้ว จนกระทั่งทุกวันนี้มีฝรั่งอยู่กลุ่มหนึ่งที่พยายามศึกษาเกี่ยวกับยานพาหนะพิเศษ ที่พระเจ้าอโศกมหาราชจารึกเอาไว้ หน้าตาเหมือนจานบินทุกอย่างเลย แล้วท่านก็บอกว่ายานพาหนะพวกนี้สามารถไปได้เหมือนอย่างกับย้ายที่ไปเฉย ๆ เขาก็พยายามศึกษาว่า คงต้องผ่านการวาร์ป ผ่านรูหนอน ผ่านอะไรให้ยุ่งไปหมด พยายามจะเดาให้ได้

เถรี 11-09-2014 15:12

ถาม : วัตถุธาตุที่ผ่านทะลุกันได้เป็นปกติ ทำไมคนเราจึงไม่สามารถทำให้ผ่านกันได้ เป็นเพราะว่าคนไปเห็นว่ามันติดทึบอยู่ หรือเพราะอะไร ?
ตอบ : ไปคิดถึงความมีตัวเราอยู่ ไปคิดว่าหนัก อะไรประมาณนั้นแหละ ก็เลยไปไม่ได้สักที

เถรี 11-09-2014 15:45

ถาม : ขายบ้านมาเป็นปียังไม่ได้เลย ?
ตอบ : เรื่องของบ้าน อันดับแรกก็สถานที่ อันดับสองราคา เรื่องพวกนี้ถ้าเสนอไม่ตรงกับสนอง ก็ขายไม่ได้เสียที ลองใช้วิธีอย่างพวกเรา ๆ ดูบ้าง ก็จุดธูปเทียนบอกเจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือน ว่าถ้าขายได้แล้วจะถวายสังฆทานไปให้ ขอให้ช่วยให้ขายได้เร็ว ๆ และก็ได้ราคาที่เราต้องการ

ถาม : กังวลด้วย ?
ตอบ : ต้องบอกว่าประชาสัมพันธ์ไม่พอ ทำนองนั้น เอาเป็นว่าก็ไปนั่งภาวนาคาถาเงินล้านเอาก็แล้วกัน

เถรี 11-09-2014 17:07

พระอาจารย์กล่าวว่า "อย่าไปทะเลาะเบาะแว้งกันในโซเชียลฯ บ่อยนักนะ โซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นเรื่องอันตราย เพราะว่าสามารถเผยแผ่กระจายกว้างได้ในระยะเวลาอันสั้น ถ้าสมมติว่าเราทำกรรมแล้วนับหนึ่ง ก็จะทวีคูณเป็นร้อย เป็นหมื่น เป็นล้านได้ ภายในเวลาไม่กี่นาที ฉะนั้น..สิ่งที่เราทำ ถ้าหากว่าไม่ดีก็จะก่อโทษมหาศาล"

เถรี 11-09-2014 17:11

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้อาตมาอยู่ในช่วงเวลาพักผ่อน เพราะว่าเพิ่งทุ่มเททำหนังสือประวัติวัดท่าขนุนเสร็จ ประวัติวัดเล่มนี้จะแบ่งเป็นปกแข็งกับปกอ่อน ปกแข็งจะเอาไว้ขาย..!"

เถรี 11-09-2014 17:16

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่องานวันแม่ พระอาจารย์วันชาติ (วัดป่าพระพุทธบาทเขาน้อย) ท่านถวายมีดหมอหลวงพ่อเดิมมา ๑ เล่ม กับสมเด็จคำข้าวและสมเด็จหางหมาก น่าจะประมาณอย่างละ ๕๐ องค์ ท่านบอกว่าลูกศิษย์ท่านไม่ค่อยรู้คุณค่า ให้ไปยังถามอีกว่าแท้หรือเปล่า ? ก็เลยเอามาถวายพระอาจารย์ดีกว่า"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:41


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว