กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๖๐ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5360)

เถรี 08-01-2017 18:20

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๖๐
 
พระอาจารย์กล่าวว่า "คนรุ่นเก่าทำบุญแล้วไปพระนิพพานกันเร็ว ส่วนคนรุ่นใหม่ทำแล้วไปช้าเพราะมัวแต่ถ่ายรูปลงเฟซบุ๊กกันอยู่...!"

เถรี 08-01-2017 18:24

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันศุกร์ก็เท่ากับว่าเราทำบุญเปิดบ้านใหม่ แต่ทางบ้านวิริยบารมีเขาก็ทำบุญนะ วันอาทิตย์บ้านโน้นจะมีการทำบุญบ้านใหญ่ ก็คงลักษณะเดียวกัน จะเป็นการเปิดบ้านใหม่เหมือนกัน ใครคิดถึงด้านโน้นและอยากจะทำบุญกับทางสายพระวัดป่า ก็เชิญที่บ้านเก่าได้ วันอาทิตย์นี้ได้ยินว่าหลวงพ่อเมือง พลวฑฺโฒ วัดป่ามัชฌิมาวาส ท่านจะมา"

เถรี 08-01-2017 18:28

ช่วงพิธีการขอขมา "ในโอกาสวันปีใหม่หลวงพ่อนิลท่านเมตตาเดินทางมาไกล นำพวกเราขอขมาพระและทำบุญเป็นปฐมฤกษ์ ก็ต้องขออนุโมทนาในความดีของท่านและทุกคน

สำหรับเรื่องบ้านเติมบุญนี้ สำเร็จขึ้นมาด้วยความตั้งใจของทุก ๆ คน ซึ่งนำโดย คุณต๋อง (ณัฐพล สุขวัฒนศิริ) และ ชมรมโมทนาบุญเว็บพลังจิต โดย คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ร่วมกันวิ่งสู้ฟัด เพื่อจะให้ทันอาตมารับสังฆทานปีใหม่ แม้กระทั่งเมื่อคืนนี้นาทีสุดท้ายยังปรับเครื่องเสียงกันอยู่เลย

ประมาณสองอาทิตย์กว่าที่ผ่านมา มีการประชุมเพื่อแจ้งค่าใช้จ่าย ตอนนั้นคณะกรรมการหน้าเหี่ยวมาก เพราะว่าจ่ายเกิน ไป ๗ แสนกว่าบาท แต่ปรากฏว่ามีคณะญาติโยมที่พร้อมใจกันปลดหนี้ให้บ้านนี้ สรุปว่าพวกเราปลดหนี้ให้คนอื่นไว้เยอะ พอถึงเวลาเป็นหนี้เองก็เลยมีคณะญาติโยมมาช่วยกันปลดหนี้ให้ โดยมีคณะมดงานตลอดจนชมรมโมทนาบุญเว็บพลังจิตเป็นฐานใหญ่

ในส่วนของบ้านนี้ก็ต้องบอกว่า อีกหลายท่านที่ช่วยอย่างเต็มกำลัง แต่ว่าบางทีพวกเราก็ไม่รู้กัน แม้กระทั่งชุดโต๊ะตู้เตียงที่ใช้งานตลอดจนรับสังฆทานนี้ ก็ได้รับมาจากพระมหานันทวัฒน์ เขมธมฺโม วัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านทำมาให้ ขนาดโต๊ะแม้กระทั่งเก้าอี้นั่งของอาตมา ท่านบอกว่าสั่งทำตามตัวเลขมงคล แต่อาตมาดูไม่ออก

พรมข้างหน้านี้ทั้ง ๔ ผืนนี้ได้รับมาจากท่านเจ้าคุณปิง (พระวิสุทธิศาสนวิเทศ) สรุปว่าที่นี่เป็นศูนย์รวมศรัทธา คนโน้นช่วยนิด คนนี้ช่วยหน่อย โดยเฉพาะพวกเราที่ทำบุญกันผ่านทางทั้งเว็บไซต์และเฟซบุ๊ก ซึ่งได้รับการประกาศชื่อบ้าง ไม่ได้รับการประกาศชื่อบ้าง อีกจำนวนหนึ่งที่ไปทำบุญที่วัดท่าขนุน ก็มีหลุดไปอยู่ทางนั้น ๒-๓ ซองที่บอกว่าทำบุญเกี่ยวกับบ้านเติมบุญ ต้องขออนุโมทนากับความดีของทุก ๆ ท่าน ที่พร้อมอกพร้อมใจกันมาทำให้อาตมาต้องเหนื่อยต่อไป..!

ในส่วนนี้ก็ถือว่าเราได้เห็นน้ำใจและความเสียสละของทุกคน ที่ได้กระทำความดีเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง เพราะว่าหลายท่านที่ไม่ได้ประกาศบอกกล่าวชื่อเสียงไป ก็ได้ทำงานมาตั้งแต่ต้นจนจบ โดยที่บางคนไม่รู้เลยว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ เรามาทำงานใหญ่กันอยู่ที่ตรงนี้"

เถรี 08-01-2017 18:31

"ในส่วนของการทำบุญในพระพุทธศาสนานั้นก็คือ ขอให้ได้ทำ ทำแล้วจะมีผลตอบแทนหรือไม่มีนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในส่วนนี้ถือว่า เรามีอุเบกขาในการสร้างบารมี ซึ่งเป็นส่วนที่ยากมาก เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วทำบุญก็ต้องการที่จะให้คนเห็น แต่ถ้าเราดูอย่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ พระองค์ท่านเมื่อพระราชทานพระสมเด็จจิตรลดาให้กับข้าราชบริพาร ก็ตรัสว่าให้เอาทองมาปิดด้านหลังพระ

พลตำรวจเอกวศิฎฐ์ เดชกุญชร ตอนนั้นยังเป็นตำรวจเวรราชองครักษ์อยู่ ได้กราบทูลถามว่า "ถ้ามัวแต่ปิดทองอยู่หลังพระ แล้วเมื่อไรคนจะเห็น ?" พระองค์ท่านตรัสว่า "ถ้าเราปิดมากพอ ทองจะล้นออกมาข้างหน้าให้จนคนได้เห็นเอง" นี่คือลักษณะของการทำความดีแบบมีอุเบกขา"

เถรี 08-01-2017 18:35

"การปฏิบัติธรรมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนา ถ้าเรามีไม่มีอุเบกขา โอกาสที่จะก้าวหน้าก็เป็นไปโดยยาก ในเรื่องของการให้ทาน ถ้าเราไม่มีอุเบกขาในการให้ทาน ให้แล้วบางคนก็ยังตามไปตรวจว่า ของที่ทำไปท่านได้เอาไปใช้เอาไปฉันจริงหรือเปล่า ? นั่นคือลักษณะของการขาดอุเบกขาในการให้ทาน ทำแล้ว ให้คนอื่นไปแล้ว แต่ยังไม่ขาดจากใจตัวเอง ยังยึด ยังเกาะอยู่ โอกาสที่จะติดอยู่แค่กามาวจรภูมิก็มีมาก

ในการรักษาศีล เมื่อเราล่วงละเมิดศีลโดยไม่ได้เจตนา ถ้าเรามีอุเบกขา ก็คือปล่อยวาง แล้วตั้งหน้าตั้งตาชำระศีลให้บริสุทธิ์ใหม่ แต่ถ้าหากเราไม่มีอุเบกขา เราก็จะไปเศร้าหมองอยู่ตรงนั้นว่า เรารักษาศีลมาได้ตั้งนานแล้ว ไม่น่าที่จะบกพร่อง ลักษณะอย่างนั้น
ถ้าเราตายตอนนั้น สภาพจิตเศร้าหมองจะนำเราไปลงอบายภูมิ

ส่วนในเรื่องของการภาวนานั้น สมาธิทุกระดับจะมีตัวอุเบกขาอยู่เสมอ ตั้งแต่อุเบกขาของปฐมฌาน อุเบกขาของฌานที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๕ ตัวที่ ๕ นี่ชัดเจนที่สุดเลย ก็คือเหลือแต่อารมณ์อุเบกขาล้วน ๆ เรียกว่า ปัญจมฌาน สำหรับบุคคลที่มาสายพระโพธิสัตว์จะเข้าถึงตรงจุดนี้ได้ ฉะนั้น...ถ้าเราขาดตัวอุเบกขา ซึ่งปนอยู่ในเอกัคตารมณ์ ก็คืออารมณ์ที่ตั้งมั่นเป็นหนึ่งเดียว เราก็ไม่สามารถที่จะเข้าถึงสมาธิภาวนาในแต่ละระดับได้อย่างแท้จริง

ส่วนอุเบกขานั้นในวิปัสสนาญาณนั้น ก็คือการเลิกการปรุงแต่ง ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายสัมผัส ใจไม่นำมาคิด สักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่าได้ยิน สักแต่ว่าได้กลิ่น สักแต่ว่าได้รส สักแต่ว่าสัมผัส เมื่อใจไม่คิด ความดีความชั่วก็ไม่เกิด กุศลกรรม
และอกุศลกรรมไม่เกิด ในเมื่อสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่เกิดเพราะขาดการปรุงแต่ง คำว่า "ไม่เกิด" ก็คือ "ดับ" นิโรธคือความดับก็ปรากฏขึ้น โอกาสที่เราจะเข้าถึงพระนิพพานจึงจะมีได้"

เถรี 08-01-2017 18:36

"พวกเราที่ร่วมใจกันเสริมสร้างขึ้นมาจนมีบ้านเติมบุญหลังนี้ ก็ขอให้พวกเรายึดหลักตรงนี้ว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ให้ทำลักษณะเดียวกันกับการที่เราสร้างบ้านนี้ขึ้นมา ก็คือ ทำแบบปิดทองหลังพระ ทำแบบมีอุเบกขาในอารมณ์ ทำแล้วก็แล้วกัน ขอให้ได้ทำเท่านั้น

ท้ายสุดนี้ในช่วงปีใหม่ ๒๕๖๐ อาตมภาพในฐานะส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย ขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ เป็นประธาน มีบารมีของครูบาอาจารย์ทุก ๆ ท่านทุก ๆ องค์เป็นที่สุด ขอได้โปรดดลบันดาลให้ญาติโยมทั้งหลาย เป็นผู้ประสบแต่ความสุขความเจริญ มีความปรารถนาที่สมหวังจงทุกประการ ขอให้อยู่รอดปลอดภัยในทุกสถานการณ์ แม้ประสงค์จำนงหมายสิ่งใดที่ไม่เกินวิสัยแล้วไซร้ ขอให้ความปรารถนาของทุกท่าน จงสำเร็จสัมฤทธิ์ผลทุกประการด้วยเทอญ"

เถรี 08-01-2017 18:55

ถาม : ทศชาตินั้น เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าท่านเล่าไว้ทีละเรื่อง ไม่ได้ลำดับก่อนหรือหลัง ข้อนี้ถูกหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถูกครับ...!

ถาม : ทศชาตินั้น แม้มีหลายกองบารมีที่ทรงบำเพ็ญในพระชาตินั้น กองที่โดดเด่นที่สุดในแต่ละชาตินั้น โยมเข้าใจว่ามิใช่ปรมัตถบารมีเสียทั้งหมด ใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ใช่ครับ...!

เถรี 08-01-2017 18:57

ถาม : แม้เราจะทรงกุศลสูงสุดเมื่อก่อนหลับได้ เมื่อในขณะที่จิตฝันฟุ้งอยู่นั้นเกิดเสียชีวิตไปในระหว่างหลับ เราจะมีคติใดเป็นที่ไปได้บ้างครับ ?
ตอบ : อยากจะให้ "ส้นตีน" ก่อนครับ...! ถ้าทรงสมาธิได้จะไปฝันฟุ้งอะไรเล่า ?

เถรี 08-01-2017 19:08

ถาม : โยมเล็งเห็นว่าแม้ของอันเกิดแต่อธิษฐานทั้งหลาย ของอันเป็นสิ่งธาตุวิเศษทั้งหลาย ของอันเป็นทิพย์ทั้งหลาย ก็ย่อมมีอันตรธานไปได้ ไม่เว้นแม้แต่พระจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อกาลเวลาหนึ่งนั้นมาถึง เมื่อเหตุผลและปัจจัยเพื่อการกำหนดอยู่ ตั้งอยู่ ดำรงอยู่ของสมมตินั้น ได้แปรเปลี่ยนไปอันตรงกันข้ามกับจิตเมื่อยังมีอวิชชาแล้วไซร้ ย่อมเป็นสิ่งเที่ยงแท้ต่อภพน้อยภพใหญ่ในสังสารวัฏ อย่างไม่มีโอกาสที่จะสิ้นสุดยุติกันลงได้โดยไม่ต้องสงสัย ความคิดนี้เป็นทิฏฐุปาทานหรือไม่ ?
ตอบ : ตราบใดที่ยังเข้าไม่ถึงความเป็นพระอริยเจ้า ทุกคนย่อมมีทิฏฐุปาทานทั้งนั้น ต่อให้ไปจำคำพูดวิลิศมาหราของพระอริยเจ้ามาก็ไม่ใช่ของเอ็ง...!

เถรี 08-01-2017 19:22

ถาม : วันนี้ผมฟังเทปธรรมะจากหลวงพ่อวัดท่าซุง เรื่องเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน ผมฟังแล้วคิดตามที่หลวงพ่อสอนก็เห็นไปตามความจริงที่หลวงพ่อพูดทั้งหมด เช่น บางครั้งจิตและร่างกายก็มีสุข มีทุกข์แล้วก็ไม่สุขไม่ทุกข์ สลับไปสลับมาเป็นธรรมดา พอคิดแบบนี้ผมรู้สึกว่าอารมณ์เบาทันที เหมือนปล่อยวางได้ระดับหนึ่ง แล้วผมก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข เหมือนแบบว่า ที่แท้ธรรมะก็เป็นแบบนี้ ไม่ยากอย่างที่คิด

หลังจากนั้นผมก็พิจารณาคำสั่งสอนของหลวงพ่อ และคำสั่งสอนของพระท่านอื่น ๆ แล้วสรุปได้ว่า ถ้าเราไม่รับกิเลสเข้ามาในจิต ด้วยการมีสติหรือรู้สึกตัวตลอดเวลา กิเลสก็ทำอะไรเราไม่ได้ เพราะเราตัดเหตุที่จะเกิดความทุกข์ทิ้ง แปลว่าผลความทุกข์ก็จะไม่เกิดแน่นอน แต่ทว่าผมรู้สึกตลอดว่ากิเลสยังวนรอบ ๆ จิตผมอยู่ แต่ผมไม่ได้ให้ความสนใจ ไม่รับเข้ามาในจิต หรือพูดเป็นภาษาง่าย ๆ ว่า "ช่างมัน" แล้วนอกเหนือจากนั้น ปัจจุบันผมรู้สึกว่าจิตผมเร็วมาก แบบเห็นเหตุเห็นผลชัดเจนขึ้น และพยายามมองทุกอย่างให้เป็นเป็นธรรมดาได้ง่ายขึ้น

จากสิ่งที่ผมเล่ามา นี่คืออารมณ์ของสังขารุเปกขาญาณหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ยังไม่ใช่สังขารุเปกขาญาณ คือ ความสามารถในการหยุดการปรุงแต่งทั้งหมดจนกิเลสเกิดไม่ได้ โปรดระมัดระวังเป็นที่สุด ไม่ใช่เฉพาะผู้ถาม หมายถึงพวกเราทุกคนด้วย ความรู้แค่หางอึ่งของพวกเรา พอเวลาคลำไปเจออะไรนิดหนึ่ง ก็อ๋อ...ความรู้ของพระพุทธเจ้าก็แค่นี้เอง เหมือนกับเอาหิ่งห้อยไปเทียบกับดวงอาทิตย์ แล้วก็บอกว่าดวงอาทิตย์สว่างแค่นี้ โปรดระมัดระวังว่าจะกลายเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยไปโดยไม่รู้ตัว

คนเราเข้าถึงธรรมตรงจุดไหน ก็มักจะคิดว่าตรงนั้นดีแล้ว ใช่แล้ว ถูกแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะดีแค่นั้น ใช่แค่นั้น ถูกแค่นั้น เมื่อก้าวเข้าไปสู่ความละเอียดมากกว่านั้น สิ่งที่ใช่กว่านั้น ดีกว่านั้น ถูกกว่านั้นก็จะมีอีก แล้วเราก็จะไปยึดตรงนั้นอีก ว่าตรงนี้ใช่แล้ว ดีแล้ว ถูกแล้วอีก เพราะฉะนั้น...โปรดระมัดระวังหน่อย แม้แต่การใช้คำพูดหรือความคิดของเรา ก็อาจจะปรามาสพระรัตนตรัยโดยไม่รู้ตัว

เถรี 08-01-2017 19:59

ถาม : จากที่ผมเล่ามาทำให้ผมมั่นใจว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่ยาก ทุกคนสามารถทำได้ถ้าตั้งใจจริง บวกกับก่อนหน้านี้เคยทำสมาธิแล้วได้ฌานสมาบัติ แต่ก็เสื่อมไป แต่ว่ารสชาติของฌานสมาบัติยังอยู่ในใจผมไม่หายไปไหนเลย ปัจจุบันก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจ เพื่อจะทรงฌานสมาบัติเพื่อความสุขของผม

แต่ทว่าตัวผมอายุยังแค่ ๒๐ ก็ยังอยากดูหนัง อยากมีแฟน เล่นเกม เหมือนปุถุชนปกติ แล้วเวลาผมเล่นเกม ผมก็เอาความรู้ทางพระพุทธศาสนามาปรับใช้ในการเล่นเกม เช่น เวลาเล่นเกมผมก็เอาสติ สมาธิ ปัญญา ควบคุมให้จิตผมโฟกัสกับการเล่นเกมและเอาตัวปัญญา หาวิธีที่จะชนะคู่ต่อสู้ เลยอยากถามหลวงพ่อครับว่า การที่ผมเอากำลัง สติ สมาธิ ปัญญา และความรู้ของพระศาสนามาพลิกแพลงใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเช่นเล่นเกมตามที่กล่าวมา เป็นลักษณะฌานใช้งาน หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : กำลังจะหานรกใส่ตัว..! เอาของราคาประมาณไม่ได้มาใช้แค่สลึงเดียว แถมยังคิดว่าตัวเองใช้ได้ไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย

สติ สมาธิ ปัญญา ท่านให้ใช้ไปในกายของตน รู้เห็นตามสภาพความเป็นจริง แล้วก็ลด ละ เลิก ในการยึดเกาะร่างกายนี้ เมื่อเลิกยึดเกาะร่างกายนี้ ก็ไม่ยึดเกาะร่างกายคนอื่น เมื่อไม่ยึดเกาะกระทั่งร่างกายของตนเองและร่างกายของคนอื่น ก็ไม่เกาะยึดในโลกนี้ด้วย แหม...แล้วก็บอกมาอย่างดีเลยว่าเป็นสังขารุเปกขาญาณแล้ว...!

เถรี 08-01-2017 20:11

ถาม : การที่จะเก่งในการเข้าออกฌานต่าง ๆ ได้ ต้องจำอารมณ์ฌานระดับต่าง ๆ ให้แม่น แล้วก็นึกจะเข้าฌานนี้ฌานนั้นใช่หรือเปล่าครับ ? ถ้าไม่ใช่หลวงพ่อช่วยอธิบายทีครับ
ตอบ : ไม่ใช่ เป็นการเข้าสู่ฌานนั้น ๆ และออกจากฌานนั้น ๆ ได้ทุกเวลาที่ต้องการ เกิดจากการซักซ้อมอย่างแท้จริง ไม่ใช่จำเอามาพูด

เถรี 08-01-2017 20:25

ถาม : ผมมีความสนใจเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ เลยสงสัยว่าพระโพธิสัตว์บางชาติท่านทำบุญกับพระพุทธศาสนาอย่างมาก มีความดีมาก แต่บางชาติท่านดันไม่เคารพพระพุทธเจ้า ยกตัวอย่างเช่น โตไทยพราหมณ์เกิดในยุคพุทธกาล แต่ดันไปลบหลู่พระพุทธเจ้า พอท่านตายแล้วไปเป็นสุนัข จากสุนัขก็ดิ่งลงอเวจีเลย ผมเลยคิดว่าท่านต้องโดนอกุศลธรรมอะไรบางอย่างครอบงำจิต ผมเลยอยากทราบว่าพอจะมีวิธีหรือธรรมอะไรไหมครับ ที่จะทำให้พระโพธิสัตว์ท่าน เกิดสลับไปสลับมาระหว่างสวรรค์ พรหม และมนุษย์ ?
ตอบ : ยังไม่มีใครทำได้ เพราะพระโพธิสัตว์ไม่ใช่พระอริยเจ้า ยังมีโอกาสลงนรกร้อยเปอร์เซ็นต์

เถรี 08-01-2017 20:26

ถาม : กระผมได้เช่าผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามมาจากบ้านสายลม แต่มีกังวลอยู่หน่อยหนึ่งคือ กระผมพับผ้ายันต์ใส่กระเป๋าสตางค์ โดยกระเป๋าสตางค์นั้นใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าและกระผมไม่ได้นั่งทับ กระผมทำแบบนี้จะผิดหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้ายังไม่ได้นั่งทับก็ยังไม่ผิด แต่ถ้าจะให้ดีก็เลี่ยมแขวนคอ หรือพับใส่กระเป๋าเสื้อจะดีกว่า

เถรี 08-01-2017 20:31

ถาม : มีหน้าที่พิมพ์ลายนิ้วมือศพที่ตายผิดธรรมชาติ เช่น รถชนตาย ถูกทำร้ายตาย นอนหลับตาย จมน้ำตาย ตายไม่ทราบสาเหตุ เป็นต้น ควรจะวางกำลังใจอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดโทษกับผู้ที่ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือศพ และควรใช้พระเครื่องวัตถุมงคลอะไรติดตัวครับ ?
ตอบ : ควรจะวางกำลังใจอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดโทษ ? น่าจะถามว่า ควรจะวางกำลังใจอย่างไรจึงจะเกิดประโยชน์มากกว่า ให้วางกำลังใจว่า "เดี๋ยวกูก็ตายเหมือนมึงแล้ว ตอนนี้มึงอย่าเพิ่งมายุ่งกับกูก็แล้วกัน...!" ส่วนพระเครื่องมั่นใจอะไรก็ใช้อย่างนั้นแหละ

เถรี 08-01-2017 20:35

ถาม : หากเราต้องสอบเก็บคะแนน เพื่อนำคะแนนไปยื่นแข่งขันสมัครเข้าทำงานหรือเรียนต่อ เราสามารถใช้ฤกษ์ยามของฤกษ์พรหมประสิทธิ์ เพื่อเลือกวันไปสอบได้หรือเปล่าครับ ? และควรเลือกฤกษ์ที่เป็นชัยโชคใช่หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เลือกฤกษ์อะไรก็ได้ ถ้าไม่อ่านหนังสือก็สอบตกพอกัน...!

ถาม : ในเรื่องของดวงไทย การสอบแข่งขันจะดีก็ต่อเมื่อดาวพฤหัสบดีอยู่ในตำแหน่งที่ดีและให้คุณแก่บุคคล แต่ดาวจะอยู่ในลักษณะให้คุณแต่เพียงช่วงเดียว หากพ้นกำหนดนั้นไปแล้ว จะมีวิธีอื่นที่ช่วยเรื่องการสอบแข่งขันหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ยึดติดอะไรมากไปก็เป็นโทษมากกว่าประโยชน์ ผู้รู้ท่านบอกว่า ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน เพราะฉะนั้น...อะไรที่เขาบอกว่าไม่ได้ ถ้าเราจะเอาเสียอย่างก็ได้เองแหละ

เถรี 08-01-2017 20:36

ถาม : ในการทำงาน ทั้งรับราชการและทำงานบริษัทเอกชน หากต้องการแข่งขันเพื่อจะได้รับเลือกให้ได้เลื่อนตำแหน่งในอนาคต เช่น ๑ ปีหน้า เป็นต้น ควรทำอะไรและทำบุญแบบไหนจึงจะได้ผลดีครับ ?
ตอบ : เรื่องบุญเก็บไว้ก่อน ทุ่มเทกับงานให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็น่าจะได้แล้ว

เถรี 08-01-2017 20:38

ถาม : หากเราจะนำภาพพระมาจำเริญด้วยไฟ จำเป็นต้องเตรียมเครื่องบูชาใด ๆ หรือไม่เจ้าคะ ?
ตอบ : จุดธูปเทียนบอกกล่าวขอขมาให้เรียบร้อยแล้วค่อยทำ และอย่าทะลึ่งถ่ายคลิปไว้ เพราะโอกาสติดคุกมีสูง..!

ถาม : และสามารถนำผงขี้เถ้าไปหล่อหรือปั้นพระต่อได้หรือไม่เจ้าคะ ?
ตอบ : ได้

เถรี 08-01-2017 20:41

ถาม : หนูเป็นคนที่ปีติน้ำตาไหลได้ง่าย โดยเฉพาะเวลาเห็นรูปพระ คราวนี้เวลาที่หนูพิจารณาธรรมตามที่หลวงพ่อสอน ยังไม่ทันจะถึงไหนก็น้ำตาไหลทำให้ไม่ได้พิจารณาต่อ จึงขอเรียนถามว่าหนูควรจะแก้ไขหรือวางกำลังใจอย่างไรจึงจะเหมาะสมคะ ?
ตอบ : ร้องไห้ไปพิจารณาไป เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง ตัวปีติต้องปล่อยให้ขึ้นเต็มที่จึงจะก้าวข้ามไปได้ ถ้ามัวแต่กลัวมัวแต่อายอยู่ ก็ไม่ต้องไปไหนเสียที ฉะนั้น...มีวิธีเดียวคือปล่อยให้เต็มที่ไปเลย หมดเมื่อไรก็เลิกไปเอง

เถรี 08-01-2017 20:44

ถาม : ตะกรุดมหาสะท้อนของหลวงพ่อเล็ก มีผลกับคนที่ยืมเงินเราไปแล้วไม่คืนไหมครับ ?
ตอบ : ก็น่าจะมีนะ คือเขาไม่คืนเลย เพราะสะท้อนกลับไปหาเขาตลอดเวลา...!

เถรี 08-01-2017 20:46

ถาม : ถ้าเราเห็นสตรีนางหนึ่งสวยเป็นที่ถูกใจและรักขึ้นมา อยากถามว่าความรู้สึกถูกใจและความรักนั้นเป็นอาการของเจตสิกที่ปรุงแต่งขึ้นมาใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ยิ่งกว่าใช่อีก..!

เถรี 08-01-2017 20:48

ถาม : หากเรามีกรรมเกี่ยวกับการสร้างบ้านหรืออาคารต่าง ๆ ทำให้สร้างบ้านไม่สำเร็จ การสร้างเป็นไปอย่างล่าช้า และโดนโกงในการก่อสร้าง เช่น ใช้สีคุณภาพต่ำ เป็นต้น จะสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการใดครับ ?
ตอบ : ทำสัญญาระบุทุกอย่างให้ชัดเจน ถ้าหากส่งงานไม่ได้ตามกำหนดจะต้องปรับวันละเท่าไร ใส่ลงไปให้ชัดเลย

เถรี 08-01-2017 20:55

ถาม : หากเรามีกรรมเกี่ยวกับรถยนต์ อันทำให้รถเราถูกเฉี่ยวชนอยู่เสมอ แม้จะจอดไว้เฉย ๆ ทำให้รถมีรอยตำหนิอยู่รอบคัน และไม่สามารถหาผู้ที่เฉี่ยวชนได้ ผลกรรมนี้เกิดจากอะไร ? และสามารถแก้ไขได้อย่างไรครับ ?
ตอบ : ในอดีตให้สิ่งที่ใช้แล้วแก่คนอื่นเสมอ ถึงเวลาตัวเองเลยใช้ของใหม่ไม่ได้ ถ้าจะแก้ไขก็ให้ทำในลักษณะที่หาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้อื่นหรือมอบถวายพระไป ถ้าเกิดใหม่ก็จะได้ของใหม่ ๆ กับเขาบ้าง

เถรี 08-01-2017 21:05

ถาม : ผมได้เคยบวชพระเป็นเวลาประมาน ๑๓ วัน และก่อนจะสึกออกมาได้ทำการปลงอาบัติครั้งหนึ่ง แต่เมื่อสึกออกมาแล้วทบทวนศีลดู ก็มีความกังวลใจอยู่ว่า อาจจะต้องอาบัติสังฆาทิเสส ในข้อพูดเกี้ยวพาราสีสตรี เนื่องจากในระหว่างบวชมีการโทรศัพท์พูดคุยกับแฟนอยู่เป็นประจำ เนื้อหามีใจความเช่น สึกออกไปแล้วจะไปเที่ยวกัน จึงขอกราบเรียนถามว่า หากผมต้องอาบัติแล้วสึกออกมา ตายไปจะต้องตกนรกเลยหรือยังมีโอกาสไปเกิดในสุคติภูมิครับ ?
ตอบ : ถ้าหากจิตใจเศร้าหมอง กังวลอยู่แต่เรื่องนี้ก็ไม่รอด ถ้าเป็นไปได้ให้บวชกลับเข้าไปใหม่ แล้วแก้อาบัติเสียก่อน

ถาม : ผมยังมีโอกาสปฏิบัติเพื่อมรรคผลอยู่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : บอกแล้วว่าไปแก้ให้เสร็จ จะได้ตั้งหน้าตั้งตาทำเสียที ไม่อย่างนั้นก็กังวลอยู่นั่นแหละ

เถรี 08-01-2017 21:11

ถาม : เวลาที่ผมจับภาพพระขณะลืมตา คือทำกิจกรรมต่าง ๆ ไป แล้วจับภาพพระไปด้วย ผมจะเห็นภาพพระชัดเจน แต่พอตอนที่จะหลับตาเพื่อทำสมาธิอย่างจริงจังแบบคนอื่น ภาพพระที่ผมจับได้ตอนหลับตากลับเป็นแค่เงาลาง ๆ แค่มองเป็นรูปเป็นร่างพระพุทธรูป ไม่สว่าง ไม่ชัดเจน จะทำอย่างไรให้ภาพพระในขณะที่หลับตาทำสมาธิสว่างสดใสชัดเจนเหมือนตอนที่ลืมตาทำกิจกรรมต่าง ๆ ไป แล้วจับภาพพระไปด้วย ?
ตอบ : รู้อยู่ว่าลืมตาชัดแล้วดันทะลึ่งไปหลับตา พอหลับตาก็ดันไม่รู้อีกว่าทำไมไม่ชัด กลับไปสังเกตเสียใหม่ว่า ตอนเวลาเราลืมตาทำงาน กำลังใจของเราไม่ได้ปักมั่นจนเกินไป แต่ตอนหลับตา เราตั้งหน้าตั้งตาจะไปเอาความชัดเจน จนใจกลายเป็นฟุ้งซ่านไป ไม่นิ่งเหมือนกับตอนลืมตา ก็แค่ทำใจให้เหมือนกับตอนลืมตาก็จบแล้ว

เถรี 08-01-2017 21:14

ถาม : การที่ผมอยากมีคู่ครองไว้เป็นเพื่อนคู่ชีวิต โดยที่ผมไม่ชอบเรื่องการมีเซ็กซ์ ความหลงตัวนี้ จะปราบมันอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : ตายแล้วไปเกิดใหม่ซะ...! ไม่ได้ต้องการมีเซ็กซ์แล้วจะมีคู่ครองไปทำเกลืออะไร...!

ถาม : การที่ผมไม่ชอบเรื่องการมีเซ็กซ์ มันเป็นกิเลสซ้อนกิเลสที่ปราบยากกว่ากิเลสของคนอื่น ๆ มันมาสองชั้นแบบนี้ เริ่มแก้จากตรงไหนก่อนดีครับ ?
ตอบ : เข้าสมาธิให้สูงที่สุดเท่าที่จะสูงได้ แล้วพิจารณาให้เห็นความเป็นจริงในร่างกายของเราว่ามีสภาพอย่างไร ตัวเราเป็นอย่างไรคนอื่นก็เป็นอย่างนั้น ถ้าหากเห็นความจริงหมดแล้วยังอยากมีอีกก็แสดงว่าเก่งเกินกว่าพระพุทธเจ้า..!

เถรี 08-01-2017 21:22

ถาม : ถ้าผมมั่นคงในการภาวนาและเจริญพระกรรมฐาน และถือศีล ๘ ทุกวันพระ ทำสังฆทานและมีศีล ๕ เป็นปกติ อย่างนี้จะเปลี่ยนดวงชะตาของผมที่อาภัพคู่ครอง ชีวิตนี้ทำอย่างอื่นไม่ดีเลย ต้องบวชพระอย่างเดียว ให้ชีวิตฆราวาสของผมดีขึ้น และมีชีวิตที่เป็นปกติเหมือนคนทั่วไปได้ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : รู้ได้อย่างไรวะ ? ใครบอก ? วิธีที่ดีที่สุดคือแก้สันดานตัวเองซะ...! ไม่รู้หรอกหรือว่าสันดานตัวเองทำให้ผู้หญิงไม่กล้าเข้าใกล้ ไม่ใช่ไปแก้ไขในเรื่องอื่น

เหมือนอีกคนที่อาตมารู้จัก เจ้านั่นหน้าตาก็ดี ฐานะก็ดี แต่หาผู้หญิงเป็นคู่ไม่ได้สักคน ตอนหลังอาตมาถึงรู้ว่า นิสัยอย่างเขาชาตินี้ก็หาไม่ได้หรอก เพราะเขาชอบใครก็เอารถไปจอดเทียบแล้วก็บอกว่า "ขึ้นมา จะไปส่ง...!" เป็นเราจะไปกับเขาไหม ?

เถรี 08-01-2017 21:28

ถาม : ความคิดสงสารสัตว์น้อยใหญ่ที่วนเกิดเวียนตายอยู่ในวัฏสงสารจนตัวเองยังอยากอยู่เพื่อคอยสงเคราะห์สรรพสัตว์ที่ยังไม่รู้ ยังทุกข์อีกมากมายต่อไป นี่คือผมหลงผิดไปใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ได้หลงผิดอย่างเดียว หลงไกลมากเลย แสดงว่าสงสารทุกชีวิตแต่ลืมสงสารตัวเอง...!

ถาม : รู้สึกเสียดายในสิ่งดี ๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงทำเพื่อสรรพสัตว์ กลัวว่าจะหายไป กลัวว่าจะไม่มีผู้สืบทอดต่อ ก็เลยอยากสืบทอดต่อในสิ่งดี ๆ ที่พระพุทธเจ้าท่านทำเพื่อสัตว์ทั้งหลายต่อไป ความรู้สึกนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่ เป็นสิ่งที่ควรจะทำต่อไป แต่อาตมาไม่ไปด้วยแล้ว..!

ถาม : พุทธภูมิบารมีแค่ระดับผมมีอีกเยอะแยะ ใคร ๆ ก็ทำได้ไม่ยาก ผมเข้าใจถูกแล้วใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถูกแล้วครับ เอ็งเป็นแค่เศษฝุ่นในจักรวาลเท่านั้นแหละ

ถาม : หลายครั้งที่ผ่านมาในการตั้งใจลาพุทธภูมิของผม เมื่อตั้งใจจะลา ใจของผมชอบไปโผล่อยู่ตรงหน้าสมเด็จองค์ปฐม พอเห็นพระพักตร์ของพระองค์ท่านยิ้มให้ กำลังใจที่ตั้งใจว่าจะลาก็พังหมดทันที จะลาครั้งใดพอพระองค์ท่านเสด็จมา ผมก็ใจอ่อนลาไม่ได้ทุกที อย่างนี้จะทำอย่างไรให้ผมลาพุทธภูมิได้สำเร็จเด็ดขาดได้ครับ ?
ตอบ : ชีวิตนี้คงทำอะไรให้สำเร็จไม่ได้สักเรื่องหรอก เพราะไม่เด็ดขาดสักเรื่อง ถึงเวลาก็ใจอ่อนทุกที

ถาม : เป็นไปได้ไหมครับ ที่จะโดนพระบนพระนิพพานด่าว่าเอา ? พอดีว่าผมโดนหลายทีเลยชักสงสัยแล้วครับ ?
ตอบ : อย่าเอากิเลสตัวเองไปรวมกับพระท่าน ที่ท่านด่าเพราะว่า กาย วาจา ใจ ของคุณยังห่วยแตก..!

เถรี 08-01-2017 21:32

ถาม : วันนี้ผมเอากับข้าวเพลไปถวายวัดหนึ่งที่ภาคใต้ ซึ่งถวายเป็นประจำ ปกติผมจะไปเป็นหมู่คณะใหญ่ วันนี้มาคนเดียว ปรากฏว่าแม่ครัวที่วัดด่า บอกว่า "ช่วงนี้ที่วัดพระฉันเจ เอากลับไปให้หมดเลยนะ" ผมคิดว่ามาถึงวัดแล้วควรได้ถวายพระ แต่แม่ครัวไม่ยอม บอกว่า "ไม่เอา...เอาไปทิ้งให้หมด" ผมเลยเอากับข้าวนั้นให้คนงานในวัดแทน ไม่ทราบว่า ผมเป็นหนี้สงฆ์หรือเปล่าครับเพราะมาถึงวัดแล้วไม่ได้ถวายพระ ?
ตอบ : คราวหน้าไม่ต้องไปถึงปักษ์ใต้ ไปแค่วัดท่าขนุนก็พอ...! ต่อไปก็อย่าได้ไปวัดนั้นอีก ความจริงไม่ใช่ความผิดของพระท่าน แต่เป็นความโง่ของแม่ครัว จำเอาไว้ว่า ตราบใดที่พระยังไม่ได้รับและอนุโมทนา ของที่เอาไปถวายพระยังเป็นของเราอยู่ เพราะฉะนั้น...ในเมื่อเป็นของเรา จะให้ใครก็อยู่ที่เราเอง

เถรี 08-01-2017 21:41

ถาม : ถ้าเราบนอะไรกับองค์ในหลวง เราควรจะแก้บนด้วยอะไรดีครับ ?
ตอบ : แก้บนด้วยการทำโครงการให้ได้สี่พันกว่าโครงการในชีวิตแบบพระองค์ท่าน...!

ถาม : อาหารที่ท่านชอบคืออะไรครับ ? จะได้บูชาท่านได้ถูกครับ
ตอบ : น่าจะต้องไปถามในวังนะ...!

ถาม : การบูชาในหลวงรัชกาลที่ ๙ มีอานิสงส์ประการใดครับ ?
ตอบ : ต้องดูว่าบูชาแบบไหน ถ้าบูชาสักแต่ว่ากราบ สักแต่ว่าไหว้ ก็ไม่ค่อยได้อะไร แต่ถ้าพระองค์ท่านมีพระราชดำรัสหรือปฏิปทาแบบใด แล้ว เราพยายามทำตามนั้น เราก็จะได้อานิสงส์แบบนั้น

ถาม : สำหรับบุคคลที่เคารพรักในหลวงรัชกาลที่ ๙ ตั้งใจกราบไหว้บูชาท่าน แต่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ อานิสงส์นี้เป็นปัจจัยให้เขาเข้าถึงสวรรค์ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ต้องดูว่าเขายึดหลักธรรมคำสอนของพระองค์ท่านไปปฏิบัติหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ยึดโอกาสพลาดก็มีสูง

เถรี 08-01-2017 21:45

ถาม : หากเราเปิดบัญชีเพื่องานบุญรับสมัครบัตรเอทีเอ็ม เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน ทุก ๆ ปีทางธนาคารจะหักค่าธรรมเนียมบัตรเอทีเอ็ม ในส่วนค่าธรรมเนียมนี้เราต้องเติมกลับเข้าไปในบัญชีหรือไม่ครับ ?
ตอบ : สมควรต้องเติมเข้าไป เพราะคนเขาโอนเงินมาทำบุญ ไม่ได้โอนเงินมาเป็นค่าบัตร

ถาม : ถ้าไม่เติมจะโดนโทษเรื่องย้ายเจดีย์ไหมคะ ?
ตอบ : โดนโทษเรื่องขโมยเงินสงฆ์ หนักกว่าย้ายเจดีย์หลายเท่า..!

เถรี 10-01-2017 09:13

หลายคนยังสับสนในชีวิตอยู่ ส่วนใหญ่เป็นคำถามที่คิดว่า คาดว่า จะเป็นอย่างนั้นแล้วก็ถามขึ้นมา ประเภทภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัว หลับแล้วไปฝันฟุ้งซ่านเลยกลัวตกนรก ถ้าอารมณ์ใจทรงตัวหลับไปจะไม่ฝัน มีโอกาสอย่างเดียวคือเห็นนิมิตบอกเหตุเท่านั้น

ส่วนใหญ่คำถามมักจะไปในทางฟุ้งซ่านหรืออวดตัวเอง ขอบอกกับญาติโยมที่ตั้งคำถามในเว็บวัดท่าขนุนว่าไม่ต้องอวดตัวเอง อาตมาไม่เคยสนับสนุน มีแต่กระทืบซ้ำ...! บางสิ่งบางอย่างเป็นการเข้าใจผิดของเรา แล้วไประบุว่าหลักธรรมของพระพุทธเจ้ามีแค่นี้ ใช่แค่นี้ ถูกแค่นี้ ขอเตือนย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าอันตรายมาก เพราะถ้าเราไปยึดมั่นถือมั่นลักษณะนั้นจะปิดมรรคปิดผลของตัวเองไปเลย พอหาเงินได้ ๓๐๐ บาทเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ แล้วไปบอกว่าคุณทักษิณมีเงินเท่ากับตัวเอง ลองคิดดูว่าใช่ไหม ?

เถรี 10-01-2017 09:24

พระอาจารย์กล่าวว่า "เดือนมีนาคมอาตมาจะไปงานวางศิลาฤกษ์ที่อาศรมศรีชัยรัตนโคตร ของหลวงพ่อนิล อยู่ที่จังหวัดสกลนคร ถ้าจำไม่ผิดก็วันที่ ๑๒ มีนาคม ถ้าใครจะไปร่วมบุญก็ทำตัวให้ว่างแต่เนิ่น ๆ อาตมาจะขี่เครื่องบินไป แหม...นึกว่าจะชวนไปด้วย

เพียงแต่จะบอกว่า ถ้าพวกเราจะไปก็เคลียร์งานกันแต่เนิ่น ๆ ไปช่วยกันสร้างสถานที่ ซึ่งจะเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในพระพุทธศาสนา เอาไว้ให้เพื่อนพ้องน้องพี่ของเราได้อาศัยเป็นเนื้อนาบุญกันอีกแห่งหนึ่ง แล้วปลายปีช่วงกฐินปลดหนี้ วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๐ ไปพบกันที่นั่นอีกหนึ่งครั้ง แปลว่าถ้าใครไปปีนี้อย่างน้อยต้องไป ๒ ครั้ง หลังจากนั้นก็อย่าทิ้งเลย แวะเวียนผ่านไปก็เข้าไปดูความก้าวหน้ากันบ้าง"

เถรี 10-01-2017 15:22

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านกำลังศึกษาหาความรู้ในพระพุทธศาสนา ท่านข้องใจว่าทานบารมีเต็มอย่างไร ? จึงกราบทูลถามพระพุทธเจ้า ท่านบอกว่าต่อให้เอาของมาเต็มทั้งโลก ถ้าคนยังไม่พอใจก็ไม่เต็ม เพราะฉะนั้นมีอยู่อย่างเดียวก็คือต้องเต็มที่ใจตัวเอง ถ้ากำลังใจของเราเต็มเมื่อไร บารมีก็เต็มเมื่อนั้น เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นจะต้องยกสังฆทานถวาย ๕ ครั้ง ๑๐ ครั้ง ถ้าเรารู้อยู่ว่าจะทำบุญสักเท่าไรก็ทำไปทีเดียวเลย เพราะบุญนั้นแค่คิดจะทำก็ได้แล้ว"

เถรี 10-01-2017 15:25

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องน้ำท่วมที่อาตมาเคยบอกไว้นานแล้ว มาช้าไปหน่อยหนึ่ง ตอนนี้ท่วมรอบสอง...หนักกว่าเดิม แต่อาตมาก็ยังยืนยันว่านี่แค่น้ำจิ้ม ส่วนอาหารจานหลักจะมาเมื่อไร...ให้รอดูไป ไม่รู้ว่าปีนี้หรือปีหน้า บางทีแผ่นดินสกปรกมาก ก็ต้องให้แม่คงคาช่วยล้างออกไปบ้าง

พวกเราก็ภาวนาคาถาควบกับขุนแผนเกราะเพชรไปก็แล้วกัน ท่านสั่งเอาไว้ว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้วจะปลอดภัย ของทุกอย่างเป็นของนอกกาย ถ้าชีวิตรอดก็สามารถหาใหม่ได้ ตามที่ท่านบอกเอาไว้ว่า เรื่องของภัยพิบัติเกิดจากกรรมใหญ่ที่คนสร้างเอาไว้รวมกัน ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ แม้ว่าจะชะลอให้ช้าลงบ้าง แต่ท้ายที่สุดก็ยังเกิดอยู่ดี

ในส่วนนี้ก็ต้องบอกว่าพยายามช่วยเหลือเกื้อกูลกันไปตามกำลังของตน เดี๋ยวอาตมาก็จะไปแจ้งท่านนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ให้ท่านเป็นหัวแรงรับบริจาคช่วยน้ำท่วมปักษ์ใต้ แล้วทางวัดท่าขนุนก็จะเปิดคลังไปช่วย ตัวเองหมดไม่เป็นไร ให้คนลำบากเขาอยู่ได้ก่อน"

เถรี 10-01-2017 15:27

พระอาจารย์กล่าวว่า "บรรดาหนุ่ม ๆ ที่จะสมัครบวชพระถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ นี่ถือว่าเป็นวาระสุดท้ายแล้ว รีบสมัครด่วนเลย ต่อไปโครงการประเภททำอะไรเพื่อทดแทนพระองค์ท่านก็คงจะไม่มีอีกแล้ว ใครที่บวชแล้วจะบวชอีกก็ยินดีรับ ส่วนใครที่ยังไม่เคยบวชถวายพระองค์ท่าน ขอแค่ ๙ วัน เชื่อเถอะ...ไม่ถึงตายหรอก..!"

เถรี 10-01-2017 15:43

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของรถตู้เป็นการแก้ไขปัญหาการขนส่งโดยมองเห็นช่องว่างของ บขส. และรถทัวร์ที่วิ่งช้า ก็เลยเกิดการขนส่งแบบรถตู้ขึ้นมา แต่ความผิดพลาดทั้งปวงนั้น จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าอยู่ที่รัฐบาล เพราะว่าการขนส่งที่ปลอดภัยที่สุดคือการขนส่งทางราง ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งบุคคลหรือว่าสินค้า

ฉะนั้น...ควรที่จะลงทุนในเรื่องของรถไฟ แต่กลับไม่ค่อยมีใครขยับกัน พอมีรัฐบาลที่เขามีวิสัยทัศน์ จะสร้างการขนส่งทางรางโดยเฉพาะรถไฟฟ้าความเร็วสูง ก็ปรากฏว่าบุคคลที่มีอคติและวิสัยทัศน์คับแคบก็บอกว่า ควรที่จะทำให้ถนนลูกรังหมดไปเสียก่อน บุคคลนี้จะเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ไปอีกนานแสนนาน เพราะกล่าวอมตะวาจาที่โง่สุด ๆ ออกมา หลังจากนี้พอถึงเวลาจะไปลงทุน ก็กลายเป็นว่ามีแต่แพงขึ้นไปตามระยะและเวลา

แบบเดียวกับสนามบินหนองงูเห่า เริ่มเจรจาจะสร้างสนามบินหนองงูเห่ากันตั้งแต่สมัยอาตมายังเรียนชั้นประถมอยู่เลย ตอนนั้นราคาสูงมากคือ ๕ พันล้านบาท สมัยนี้ ๕ พันล้านบาทไม่พอให้เขาเสียบซอกฟัน แล้วสนามบินสุวรรณภูมิก็มาเสร็จลงในระดับราคาเป็นแสน ๆ ล้าน ก็เพราะมีการเตะสกัดกันมาทุกรูปแบบ"

เถรี 10-01-2017 15:45

"แต่สมัยก่อนนั้นเป็นเพราะว่า เพื่อนบ้านกลัวเราจะก้าวหน้ากว่า พอถึงเวลามีข่าวว่าจะสร้างสนามบิน ก็จะมาติดสินบนนักการเมือง เพื่อให้ยกเลิกโครงการนี้ ทำให้เราก้าวหน้าไม่ทันใคร

อีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องการขุดคอคอดกระ จากจำนวนเงินระดับพันล้าน ตอนนี้ถ้าลงทุนน่าจะเป็นระดับล้าน ๆ แล้ว แต่ถ้าลงทุนแล้วจะคุ้มค่ามาก เพียงแต่ว่าแหลมมลายูทางด้านล่างนี้แทบจะโดนทิ้งไปเลย เพราะทุกคนก็จะมาผ่านทางคอคอดกระแทน เนื่องจากประหยัดระยะเวลาไปได้เป็นเดือน ที่มีการกล่าวกันว่า ถ้าขุดแล้วจะทำให้แบ่งแยกดินแดน เป็นความคิดของพวกปัญญานิ่ม มีกะโหลกเอาไว้คั่นใบหูเท่านั้น ไม่ได้มีไว้ใส่สมอง
...!

ถ้ากลัวจะเป็นการแบ่งแยกดินแดน คุณทำเสร็จแล้วก็ทำถนนสัก ๑๒ เลนวิ่งข้ามไปข้ามมา ๗-๘ สาย แล้วก็มุดลอดใต้ดินอีกสัก ๘ อุโมงค์ จะไปแยกดินแดนอีท่าไหน เพียงแต่ว่าผลประโยชน์ทั้งหลายเหล่านี้ ถึงเวลาแล้วไม่ตกถึงมือเขา ไปตกถึงคนอื่นก็ต้องมีการขัดขวางกัน"

เถรี 10-01-2017 15:47

"รัฐบาลก่อนโน้นตั้งใจจะลงทุนก็เตะสกัดกันสุดชีวิต บอกว่าจะต้องเป็นหนี้ไป ๗ ชั่วโคตร ปรากฏว่าพอรัฐบาลใหม่ลงทุนหนักกว่า ไม่เห็นมีใครมาโวยวายว่าเป็นหนี้...

ฉะนั้น...เราจะเห็นว่าในเรื่องของการเมืองนั้นไม่ได้อยู่ที่ระบอบ จะเป็นเผด็จการหรือระบอบประชาธิปไตยก็ตาม สำคัญที่สุดก็คือต้องมีหลักธรรมเป็นเครื่องควบคุมระบอบนั้น ถ้าไม่มีหลักธรรมเป็นเครื่องควบคุมระบอบ ประชาธิปไตยก็กลายเป็นพวกมากลากไป ขณะเดียวกันเผด็จการก็จะกลายเป็นบ้าอำนาจ

ในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ พระพุทธเจ้าถึงไม่ได้ตรัสสรรเสริญระบอบการปกครองแบบไหนไว้เลย หากแต่มอบหลักธรรมไว้ให้กับระบบนั้น ๆ ถ้าเป็นระบอบกษัตริย์ก็ต้องมีทศพิธราชธรรม ถ้าเป็นระบอบสามัคคีธรรมก็ต้องมีอปริหานิยธรรม เป็นต้น ฉะนั้น...เราจะเห็นว่าจริง ๆ แล้วธรรมาธิปไตยจึงจะเหมาะสมที่สุด"

เถรี 10-01-2017 15:49

ถาม : ท่านปู่ท้าวมหาพรหมชินปัญชระสั่งหนูไว้ว่า ห้ามขุดคอคอดกระอย่างเด็ดขาด ?
ตอบ : ถ้าหากว่าสั่งหนูไว้ หนูก็ต้องไปบอกรัฐบาล แต่อาตมาอยากให้ขุดวันนี้พรุ่งนี้เลย เพราะว่าขุดคอคอดกระเมื่อไร การลงทุนเกี่ยวกับน้ำมันของประเทศเราจะปรากฏขึ้นทันที


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:09


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว