กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๐ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5552)

เถรี 02-05-2017 20:18

"พอหลังอายุ ๓๐ ปี ไม่ต้องให้ท่านถามแล้ว ไปวิ่งหามาใส่เอง พอหลัง ๔๐ ปี ทำอะไรก็เริ่มรู้สึกเหนื่อย หลัง ๕๐ ปีนี่แย่แล้ว ก่อนหน้านี้บอกเหนื่อยแล้ว ไม่ไหวแล้ว ยังตื๊อต่อได้เป็นวัน ๆ สมัยนี้ถ้าบอกไม่ไหวแล้วคือต้องหยุดเลย หมดก๊อกจริง ๆ พลังงานสำรองไม่มีแล้ว โบราณถึงได้บอกว่า "อายุ ๕๐ ปี ไปบ่ถึงมาทอดหุ่ย" เดินทางได้ไม่ไกลเท่าเดิม กลับมาก็ต้องพักกันนาน พออายุ ๖๐ ปี บอกว่า "เป่าขลุ่ยบ่ดัง" ไม่มีลมหายใจเป่าขลุ่ย แค่หายใจเองก็ลำบากแล้ว

ไปนึกถึงหลวงปู่องค์หนึ่ง คือ หลวงปู่พากุละ เป็นพระที่อายุยืนที่สุดในพระไตรปิฎก อายุ ๑๕๐ ปี ท่านเบื่อเพราะว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันก็ไม่มี รุ่นน้องก็ไม่มี รุ่นลูกก็ไม่มี ที่เหลือก็เหลือแต่หลานกับเหลน ท้ายสุดท่านก็เทศน์สั่งสอนเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเข้าห้องนั่งสมาธิไปพระนิพพานเลย

ไม่ได้ตายเพราะหมดอายุ แต่ว่าเบื่อร่างกายเต็มที จึงทิ้งร่างกายไปเลย ในอดีตชาติท่านสร้างส้วมถวายวัด เกิดมาชาตินี้เป็นผู้ที่เลิศในทางมีโรคน้อย นอกจากความหิวแล้วไม่เคยเป็นอะไรเลย เจ็บไข้ได้ป่วยปวดหัวตัวร้อนก็ไม่เป็น อายุยืนที่สุดที่ปรากฏในพระไตรปิฎก คือ ๑๕๐ ปี"

เถรี 02-05-2017 20:20

"ขออย่าให้ต้องอยู่อย่างท่านเลย อาตมาอยู่ถึง ๖๐ ปี ถือว่าเก็บตกได้แล้ว เพราะในอดีตเป็นทหารมาทุกชาติ อาตมาไม่ต้องดูเอง หลวงพ่อฤๅษีท่านบอกว่าเป็นทหารมาทุกชาติ ปาณาติบาตที่ทำไว้มาก จะทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อย ให้ปล่อยชีวิตสัตว์ที่เขาจะฆ่าอย่างน้อยเดือนละตัวสองตัว จะช่วยบรรเทากรรมตรงนี้ได้ อาตมาเริ่มปล่อยตามที่ท่านสั่ง คือวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๒๙ มาจนทุกวันนี้ แต่ไม่เคยปล่อยเดือนละตัวสองตัว ไปเจอก็เหมาหมดตลาด

ญาติโยมไปวัดท่าซุงแล้วตื่นเต้นกับวังมัจฉาว่าปลาเยอะเหลือเกิน ขอบอกว่าอาตมาปล่อยไว้เอง ซื้อทุกเดือนปล่อยทุกเดือน ตอนแรกปล่อยที่บ่อข้างร้านอาหารป้ากิมกี ปล่อยไปปล่อยมา หลวงพ่อท่านบอกว่า "เฮ้ย..แกแหกตาดูบ้างหรือเปล่า ? ปลาจะหายใจไม่ได้อยู่แล้ว" ท้ายสุดลองเอาอาหารเม็ดโยนไป โอ้พระเจ้า...ขึ้นมาแน่นยิ่งกว่าหนอนอีก ครั้งต่อไปจึงต้องปล่อยลงแม่น้ำ

ขอบอกว่าไม่มากไม่มาย ๓๒ ปี ที่ปล่อยต่อเนื่องกัน แต่ละเดือนไม่ต้องนับจำนวน อาการป่วยไข้ถึงได้เบาลง ไม่อย่างนั้นนี่หัวอาทิตย์ท้ายอาทิตย์จะต้องเป็น ก็แปลว่าถ้าเราทำสม่ำเสมอ ก็จะเห็นผลในชาตินี้เหมือนกัน แต่เนื่องจากว่าสร้างกรรมไว้หนัก ๒๕ ปีผ่านไปเริ่มมาได้หมอดียาดี ตอน พ.ศ. ๒๕๕๕ น้ำหนักขึ้นมา ๔ กิโลกรัม"

เถรี 02-05-2017 22:23

พระอาจารย์กล่าวว่า “เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนนี่อนาถมาก อนาถตรงไหน ? ตรงที่สร้างวัตถุมงคลแล้วต้องรอโยมถวายถึงจะมีกับเขา ส่วนใหญ่ออกมาโยมก็แย่งบูชากันหมด พอโยมเอามาถวายถึงได้มีกับเขาบ้าง”

เถรี 02-05-2017 23:05

ถาม : อยู่คนเดียวเหมือนอยู่หลายคน อยู่หลายคนเหมือนอยู่คนเดียว ไม่เข้าใจความหมายครับ ?
ตอบ : ต้องมีสติระมัดระวังตัวอยู่เสมอเหมือนกับอยู่ต่อหน้าคนอื่น ไม่ใช่ว่าลับหลังเขาแล้วทำตัวตามสบาย ขาดสติ กิเลสก็กินตายห่...สิครับ..!

ถาม : อ๋อ..ทำเหมือนกัน ?
ตอบ : เออ...ต่อหน้าหรือลับหลังทำเหมือนกัน ไม่ใช่ว่า ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก

เถรี 02-05-2017 23:05

ถาม : เรื่องศีลข้อสามล่ะครับ ถ้าผู้หญิงมีผู้ปกครอง ?
ตอบ : ไม่มีคำว่าถ้า...ไม่มีการยกเว้นทุกรูปแบบ สรุปแล้วตูยังไม่เห็นช่องทางจะฝ่าฝืนได้เลย

ถาม : ไม่มีผู้ปกครอง หมายถึงว่ามีพ่อแม่ ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว ?
ตอบ : ไม่ใช่...ไอ้นี่ของเอ็ง ต้องเอาของพระพุทธเจ้าสิวะ..!

ถาม : แม้ว่าจะอายุ ๕๐ ปี ?
ตอบ : ต่อให้อายุ ๕๐ ก็มี เพราะท่านบอกแล้ว มีพ่อ มีแม่ มีพี่ชาย มีน้องชาย มีพี่สาว มีน้องสาว มีเพื่อน มีกฎหมาย มีผู้จองแล้ว มีพระราชาปกครองก็คือกฎหมายคุ้มครอง คนอายุ ๕๐ ก็ยังอยู่ใต้กฎหมายอยู่ดี

อาตมาพยายามจะฝ่าฝืนแล้วไม่สำเร็จ ก็เลยต้องมาบวช..! ไม่มีช่องให้ฝืนเลย ท้ายสุดท่านบอกว่า “มีธรรมปกครอง” บรรลัยเลย ไม่มีใครเหลือเลยสักคน อยู่คนเดียวยังมีธรรมปกครอง

เถรี 02-05-2017 23:08

ถาม : อุเบกขากับอภัย ต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : ต่างกันเยอะ อภัยก็คือยอมปล่อยวาง อุเบกขาแค่กดเอาไว้เหมือนกับหินทับหญ้า ถ้าหินเคลื่อนเมื่อไรหญ้าก็งอกงามใหม่ แต่อภัยนั้นคือปล่อยวางไปเลย ไม่เก็บมาใส่ใจอีก จึงไม่เดือดร้อนด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย

เถรี 02-05-2017 23:12

ถาม : พุทธานุสติสามารถที่จะทรงฌานได้หรือไม่ครับ หรือเป็นแค่อุปจารสมาธิครับ ?
ตอบ : เป็นได้ ตามที่เขาบอกว่าพุทธานุสติเต็มที่ได้ไม่เกินอุปจารสมาธิ...ใช่ไหม ? พอถึงเวลาเราคิดจนอารมณ์ใจทรงตัวในคุณพระรัตนตรัยแล้ว ก็ใช้อานาปานสติควบไป จะเป็นฌานในพุทธานุสติเอง คนทำไม่เป็นก็บอกว่าทำได้แค่นั้น ท่านพูดความจริงว่าทำได้แค่นั้น แต่ท่านพูดไม่หมดว่าสามารถพลิกแพลงเพื่อทำได้มากกว่านั้น

ถาม : จะให้ทรงฌานตลอดเวลา ?
ตอบ : เอ็งไม่คิดจะทำอย่างอื่นบ้างเลยหรือ ? ทรงฌานตลอดเวลา ถ้าตัดกิเลสไม่ได้ ถึงเวลาฌานหลุดกิเลสก็ตีตาย หัดขยับออกมาพิจารณาบ้างสิ

เถรี 02-05-2017 23:17

ถาม : (การพูดกับผู้อื่น)
ตอบ : พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า วาจาที่ไม่มีประโยชน์ พูดไปแล้วคนอื่นไม่ชอบใจ ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
วาจาที่ไม่มีประโยชน์ พูดไปแล้วคนชอบใจ ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น
วาจาใดที่มีประโยชน์ พูดไปแล้วคนอื่นไม่ชอบใจ ตถาคตเลือกเวลาที่จะกล่าววาจานั้น
วาจาใดที่เป็นประโยชน์ กล่าวไปแล้วคนอื่นชอบใจ ตถาคตมักกล่าววาจานั้น

ไปเลือกเอาก็แล้วกันว่าจะทำอย่างไร แปลว่าต้องดูกาลเทศะที่เหมาะสมด้วย

เถรี 02-05-2017 23:17

:4672615: เก็บตกเดือนเมษายน ๒๕๖๐ หมดแล้วค่ะ :4672615:
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี และรัตนาวุธ


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:33


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว