กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4350)

เถรี 08-02-2015 17:40

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
 
ถาม : การละสังโยชน์ระหว่างพุทธภูมิกับสาวกภูมิเหมือนกันไหมครับ ?
ตอบ : ไม่เหมือนกัน พุทธภูมิเรียนรู้แต่ไม่ได้ละ ส่วนสาวกภูมิภูมิรู้แล้วละเลย ต่างกันแค่นั้นแหละ พุทธภูมิต่อให้กำลังใจสูงขนาดไหนก็ตาม ถึงเวลางานเก่ารั้งอยู่นิดหนึ่ง ไม่สามารถที่จะละได้

ถาม : อย่างขึ้น ๆ ลง ๆ ได้ไหมครับ ?
ตอบ : เป็นเรื่องปกติเลย

ถาม : ถ้าเป็นแบบสาวกมีแบบขึ้นเรื่อย ๆ ?
ตอบ : ถ้าละสังโยชน์ ๓ ได้แล้ว มีแต่เจริญขึ้นโดยส่วนเดียว

เถรี 08-02-2015 18:25

ถาม : ขอคาถานะปัดตลอด
ตอบ : จะไปเอาที่ไหนมา ? นะปัดตลอดไม่ใช่คาถา แต่เป็นวิชา ตั้งใจเขียนตัว "นะ" แล้วกลั้นใจตบให้ทะลุพื้นลงไปได้

หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า ท่านไม่ได้เรียนวิชานะปัดตลอดมา คนที่เรียนวิชานะปัดตลอดไปจากหลวงปู่ปาน ก็คือ ครูหอมหวลที่เล่นลิเก พอสิ้นหลวงปู่ปานแล้ว หลวงพ่อท่านจะตามไปขอเรียนกับครูหอมหวล พอหน้าแล้งครูหอมหวลก็ยกคณะเล่นลิเกเดินทางไปเรื่อย ๆ ไม่ได้หยุดเสียที ตามไม่เจอไม่ว่า เจอหน้าก็ไม่มีเวลาสอน แต่พอหน้าฝนครูเขาอยู่บ้าน หลวงพ่อก็ไปไม่ได้เพราะติดเข้าพรรษา ไป ๆ มา ๆ วิชานี้ก็เลยไม่ได้เรียน งานวัดบางนมโค ครูหอมหวลจะเอาลิเกไปเล่นให้ฟรี ทั้ง ๆ ที่ถ้าไปเล่นที่อื่นเขาจ่ายให้แพงมากเลย

หลวงพ่อท่านเห็นหลวงปู่ปานใช้วิชานะปัดตลอดชัด ๆ อยู่ครั้งเดียว ครั้งสงครามมหาเอเชียบูรพา ที่ไทยรบกับฝรั่งเศสชิงพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ หลวงประธานถ่องวิจัยเอาผ้าขาวมาขอให้หลวงปู่ปานทำผ้ายันต์ให้ทหารติดตัวไปออกรบ

ปกติแล้วเรื่องการเขียนยันต์ หลวงปู่ปานจะให้ท่านอาจารย์เจิมเป็นคนเขียน แล้วหลวงปู่ปานจะเสก เพราะอาจารย์เจิมเขียนยันต์สวย ปรากฏว่าวันนั้นไม่ทัน เพราะว่าหลวงประธานถ่องวิจัยต้องรีบเดินทางไปยังกองกำลังบูรพา เอาวัตถุมงคลไปแจก หลวงปู่ปานท่านเห็นฉุกเฉิน ก็เลยบอกให้หลวงพ่อวัดท่าซุงหยิบไม้เท้าของท่านมา ท่านตีเปรี้ยงลงไปบนกองผ้ายันต์ ปรากฏว่าผ้าขาว ๆ มียันต์ติดเต็มทุกผืนเลย ท่านบอกว่านั่นแหละคือวิชานะปัดตลอด

วิชานี้เท่าที่รู้มา ครูบาอาจารย์ที่เรียนก็มีหลวงปู่เดิม วัดหนองโพ เพราะคนชอบไปขอรอยเท้าท่าน ท่านเองก็ต้องเอาเท้าจุ่มครามแล้วพิมพ์ให้เขาทีละแผ่นจนรำคาญ ท้ายสุดท่านก็เลยบอกให้เอามาพร้อม ๆ ทีเดียว กองเป็นตั้งเลย เอาเท้าจุ่มครามแล้วแปะไว้แผ่นบนสุด เอามือตบหัวเข่าทีเดียวติดตลอดทั้งหมดจนถึงแผ่นล่างเลย

เถรี 08-02-2015 18:38

อีกรายหนึ่งก็หลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่ายที่ระยอง ท่านใช้ขมิ้นชัน เหลาลักษณะเป็นดินสอ เขียนหัวให้กับผู้หญิงท้องติดถึงลูกในท้องด้วย ลูกคลอดออกมามียันต์ติดหัวออกมาเลย นั่นก็คือนะปัดตลอด

ถาม : นอกจากอานิสงส์เรื่องนี้แล้วมีประโยชน์อย่างอื่นอีกไหมคะ ?
ตอบ : มี..อย่างน้อยถ้าทำได้ก็จะเท่กว่าคนอื่นเขา

ถ้าจะฝึกวิชานี้ ให้เขียนตัวนะใส่ฝ่ามือแล้วไปหาศพผีที่ตายวันเสาร์หรือวันอังคาร ตบฝาโลงให้ตัวนะทะลุไปติดที่หัวศพ แล้วทะลุลงไปติดใต้โลงได้ถึงจะใช้ได้ อาตมารู้วิธีหมดทุกอย่าง แต่ลองแล้วไม่มีผล เพราะไม่รู้ว่าเคล็ดลับเป็นอย่างไร

เถรี 08-02-2015 18:49

นะปัดตลอดเป็นเรื่องแปลกมาก นอกจากเรื่องแคล้วคลาด คงกระพันแล้ว ยังเป็นมหาลาภอีกด้วย ที่ครูหอมหวลเรียนไป พอตั้งโรงลิเกเสร็จ หลวงพ่อท่านบอกว่าครูจะกำแป้งขึ้นมาหนึ่งกำ ตั้งใจบริกรรมแล้วก็เป่า แป้งนั้นจะพุ่งตรงเหมือนอย่างกับกระสุนปืน จนกว่าจะมีอะไรขวาง เช่น ต้นไม้ บ้านเรือน ลอมฟาง ก็จะไปติดอยู่ตรงนั้น แล้วคนจากทิศนั้นจะมามากที่สุด เป็นการเรียกคนให้มาดูลิเกได้

ที่เป็นเรื่องประหลาดเพราะว่า แคล้วคลาดคงกระพันกับเรื่องลาภไม่ค่อยจะไปด้วยกัน พอ ๆ กับมีดหมอเพชรวุธนั่นแหละ เล่นเอาลาภออกหน้าเลย วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือเอามีดหมอปล้นเขา ในเมื่ออยากได้ลาภ..ใช่ไหม ? ถือมีดไปปล้นเขาเลย..ได้แน่ ...(หัวเราะ)...

เถรี 08-02-2015 19:38

ถาม : สิ่งที่ผมทำอยู่ถูกต้องหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าอยู่ในกรอบของศีล สมาธิ ปัญญาก็ถูก ถ้าออกนอกกรอบก็ผิด ตรวจสอบง่ายจะตายไป

ถาม : มีอะไรที่ผมต้องทำไหมครับ ?
ตอบ : ทำให้จริง ๆ และเพิ่มความพยายามให้มากกว่านี้

ถาม : มีอะไรแนะนำอีกไหมครับ ?
ตอบ : ที่แนะไปก็พอกินไปทั้งชาติแล้ว..!

เถรี 08-02-2015 20:35

ถาม : ผมเห็นพระท่านถือถุงอาหารที่ญาติโยมเขาใส่บาตรให้ ดูพะรุงพะรังแล้วสงสารท่าน สันนิษฐานว่าบาตรท่านคงเต็ม แล้วแบบนี้พระสามารถที่จะปฏิเสธไม่รับอาหารจากญาติโยมที่จะใส่บาตรอีกได้ไหม ในกรณีที่บาตรเต็มแล้วครับ ?
ตอบ : ปกติแล้วพระพุทธเจ้าอนุญาตให้รับเสมอขอบปากบาตรเท่านั้น ถ้ารับเกินนั้นพระจะโดนอาบัติ คือ ศีลขาด แต่ก็ทรงอนุญาตไว้ว่า ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ปฏิเสธไม่ได้ ก็รับได้ไม่เกินสามบาตรเท่านั้น ของที่รับมามากขนาดนั้น ให้แจกจ่ายแก่เพื่อนพระภิกษุด้วยกัน

เถรี 08-02-2015 20:37

ถาม : พระชำระหนี้สงฆ์ที่ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์และปิดทองเรียบร้อยแล้ว เมื่อนานไปได้มีการบูรณะใหม่พร้อมกับปิดทองใหม่ ผู้ที่ปิดทองใหม่จะได้อานิสงส์การชำระหนี้สงฆ์หรือไม่ครับ ?
ตอบ : อยู่ที่เขาตั้งใจว่าจะให้เป็นการชำระหนี้สงฆ์หรือเปล่า ถ้าตั้งใจให้เป็นการชำระหนี้สงฆ์ เท่ากับว่าเรามีส่วนร่วมกับเจ้าภาพด้วย ถือเป็นการชำระหนี้สงฆ์ได้ ถ้าตั้งใจแค่ซ่อมพระเฉย ๆ ก็จะขาดทุนไปนิดหนึ่ง

เถรี 08-02-2015 20:42

ถาม : หลัง ๆ นี้ ผมก็มีสังคมกับคนอื่น ๆ ไปตามสถานการณ์ แต่ข้างในไม่ค่อยชอบการเกาะเกี่ยว คนโทรศัพท์มาหายังไม่อยากคุยด้วยเลย แต่ไม่ได้แสดงอะไรให้เขารู้ บางทีการไปวัดหรือไปไหน ผมก็ไปเอง ไม่รู้สึกว่าต้องขอความช่วยเหลือจากใคร แต่มักจะโดนเพื่อน ๆ ต่อว่า ว่าไม่บอกบ้าง หรือไม่นึกถึงเขาบ้าง ในการใช้ชีวิต ในสังคม ในโลก ผมก็ต้องทำตัวตามปกติ สนุกสนาน เอื้อเฟื้อกัน ฯลฯ แต่ผมไม่ชอบการเกาะเกี่ยว ไม่ชอบการผูกพัน รู้จักกันได้ รู้สึกดีกันได้ แต่ส่วนใหญ่เวลาคนอื่นให้ผมทำอะไร ๆ ในเชิงให้เห็นพวกเขาเป็นคนสำคัญ ผมจะหนีทุกที ดูเหมือนขัดแย้งในตัวเอง ผมปรับไม่ถูก หลวงพ่อพอมีคำแนะนำไหมครับ ? กิริยาภายนอกทำให้เขาไม่สงสัยได้ แต่ความรู้สึกของตัวเอง ปรับให้กลมกลืนไม่ได้เลย

ตอบ : ใครเขาให้กลมกลืน ? อุตส่าห์หนีห่างมาขนาดนั้น ภายนอกก็ตามโลกไป แต่ตามไปแค่กรอบของศีล ส่วนภายในให้รักษากำลังใจของเราไว้ ใครเขาให้ไปปรับกำลังใจให้กลมกลืนกับเขา ? ถ้าอยากปรับให้กลมกลืนกับเขาก็เท่ากับถอยหลังไปหากิเลสใหม่

เถรี 08-02-2015 20:48

ถาม : พี่ชายของกระผม มีความเลื่อมใสในพระอาจารย์เล็ก และหลวงพ่อวัดท่าซุง และหลวงปู่ปานเป็นอย่างสูง ได้บูชาวัตถุมงคลของพระอาจารย์เล็กมาจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ องค์ ทีนี้พี่ชายได้เสียชีวิตไปเมื่อกลางปีที่แล้วโดยอุบัติเหตุ ตอนนี้ผมซึ่งเป็นน้องชาย คาดเอาว่าทางพี่ชายน่าจะตั้งใจบรรจุวัตถุมงคลลงเจดีย์หรือองค์พระ เลยตั้งใจว่าจะแบ่งให้ลูก ๆ ของผู้ตายจำนวนหนึ่ง ส่วนที่เหลือจะหาบรรจุในองค์เจดีย์หรือองค์พระ ทีนี้หากผมกระทำตามความตั้งใจเช่นนี้ โดย "คาดว่า" พี่ชายตั้งใจไว้แบบนั้น ถือว่าเป็นการกระทำโดยเอาวัตถุของบุคคลอื่นมาทำบุญโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ ?
ตอบ : "คาดว่า" จะติดหนี้สงฆ์..!

ถาม : อย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าคาดว่าพี่ชายจะบรรจุเจดีย์ แล้วไปแบ่งให้คนอื่นก็เท่ากับมีโทษย้ายเจดีย์ ติดหนี้สงฆ์แน่ ๆ เพราะฉะนั้น..รีบทำเสียจะได้ติดหนี้สงฆ์จริง ๆ..! อะไรที่ไม่มั่นใจอย่าเสี่ยงด้วยประการทั้งปวง ขาดทุนหนักมาก

ถาม : แล้วหากได้บรรจุ เจ้าของวัตถุมงคลซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว เราอุทิศให้ท่านโมทนา แล้วท่านไปเกิดเสียก่อน บุญนั้นจะรวมตัวอยู่จนเมื่อเขาเสียชีวิตจากมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง แล้วได้โมทนาใช่หรือไม่ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าฟุ้งซ่านเกินตาย..! ถ้าเจ้าของเขาตั้งใจทำอย่างนั้น เขาได้บุญตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาให้เราอุทิศให้หรอก

เถรี 09-02-2015 10:17

ถาม : เนื่องจากที่เคยทราบว่า เทวดามีประชุมเทวสภาทุกวันพระ ซึ่งเมื่อวันที่ ๓ มกราคม ที่ผ่านมาได้ทราบว่า มีประชุมเทวสภา แต่ในปฏิทินที่เราใช้กันอยู่นั้นไม่ใช่วันพระ จึงขอกราบเรียนสอบถามว่า วันประชุมเทวสภา เป็นวัน ‘พระ’ ที่เทวดาจะมาประชุม ฟังเทศน์ฟังธรรมกันใช่หรือไม่ ?
ตอบ : ใช่

ถาม : สาเหตุที่ปฏิทินที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ระบุวันพระไม่ตรงกับวันประชุมเทวสภาในวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๘ เกิดจากข้อผิดพลาดที่สั่งสมมาก่อนหน้าเรื่อย ๆ หรือเกิดจากการกำหนดปฏิทินไม่แม่นยำ ?
ตอบ : เกิดจากที่เทวดาประชุมตามเวลาของเขา ไม่ได้เกี่ยวกับของเรา

ถาม : การกำหนดวัน ‘พระ’ ของเทวดา มีประโยชน์อย่างไรบ้าง ?
ตอบ : ประโยชน์ที่เขาจะไปฟังเทศน์ฟังธรรม ก็เพื่อเลื่อนภพภูมิของตัวเองให้สูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป หลายท่านสามารถเข้าสู่พระนิพพานได้ มีประโยชน์มากพอไหม ?

เถรี 09-02-2015 10:21

ถาม : เมื่อ ๒๔ มกราคมที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมพิธีไหว้ครู ฯ ผมได้ขอพรทุก ๆ พระองค์ ให้เลือดเนื้อ เอ็น กระดูก รวมถึงยันต์ นะเมติ ของหลวงปู่หงษ์ ยันต์ครู ของหลวงปู่โฉม และยันต์นะลือชาที่สักไว้บนหลังผม ได้รับการสงเคราะห์ด้วย พอนั่งรถเดินทางกลับ ผมรู้สึกปวดหัวมากเป็นระยะ ๆ นวดหัวจนรู้สึกว่าหนังหัวระบมไปหมด ถึงบ้านเหมือนจะมีไข้ แต่แปลกที่ร่างกายป่วยและแย่ แต่จิตใจข้างในปกติ แถมยังรู้สึกเบิกบาน ออกจะลิง ๆ ด้วยซ้ำ ไม่รู้สึกแย่ไปตามร่างกาย และป่วยเพียงวันเดียว อีกทั้งบังเอิญไปเห็นที่หลวงปู่ปานเป่ายันต์แล้วบอกอาการผู้ที่ได้รับยันต์ ทบทวนเลยมั่นใจว่าท่านสงเคราะห์แน่ ผมอยากถามหลวงพ่อครับ ว่าทำไม พระ เทพ พรหม เทวดา ท่านสงเคราะห์แล้ว มีอาการทางกาย ปวดหัวจนถึงเป็นไข้ครับ ?
ตอบ : เพราะสภาพร่างกายของคุณห่วยจนเกินกว่าจะรองรับความดีของท่านได้...!

เถรี 09-02-2015 10:31

ถาม : ขณะนั่งสมาธิในช่วงเวลาปฏิบัติกรรมฐานที่บ้านวิริยบารมี โดยกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก และ ใช้คาถาเงินล้านเป็นคำภาวนา ในช่วงเวลานั้นเห็นเป็นแสงสีขาวสว่างไปทั้งหมด โดยเป็นอยู่อย่างนั้นจนหมดเวลาปฏิบัติ ซึ่งเป็นอยู่หลายครั้ง กราบเรียนถามหลวงพ่อว่า หากเห็นแสงสีขาวในคราวต่อไป ควรจะปฏิบัติอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ทำเหมือนเดิม เคยภาวนาพิจารณาอย่างไร ก็ให้ทำไปอย่างนั้น

เถรี 09-02-2015 10:33

ถาม : มนุษย์พยายามกำหนดปฏิทินวันพระเพื่อให้ตรงกับของเทวดา หรือไม่ได้เกี่ยวข้องเลย ?
ตอบ : แรก ๆ ก็เกี่ยวข้องกันเพราะมีผู้รู้จริง ต่อมาก็เละเทะไม่เป็นท่า แต่ข้างบนยังใช้เหมือนเดิม

เถรี 09-02-2015 10:36

ถาม : ระยะนี้นับแต่ปีใหม่เป็นต้นมาเกิดสภาวะเสียงซ้อนในใจขึ้น คือเมื่อก่อนกระผมภาวนาคาถาเงินล้าน ใจจะหยุดความคิดต่าง ๆ ที่คิดขึ้นมา พอใจไปคิดเรื่องอื่น ก็ลืมคาถาเงินล้าน แต่ปัจจุบัน ภาวนาคาถาเงินล้านทั้งวัน เหมือนกับว่าสักแต่ภาวนา เสียงภาวนาที่ตั้งใจภาวนาไม่ได้ขาดหายเหมือนสมัยก่อน เกิดความคิดอื่น ๆ ขึ้นมา แต่ก็ยังรู้ว่าภาวนาคาถาเงินล้านอยู่ ใจก็ภาวนาต่อเนื่องต่อไป ทำอะไรคิดอะไรที่ไม่ต้องใช้สมองพิจารณามาก ใจก็ยังภาวนาเองอยู่เช่นนั้น ไม่ทราบว่าต้องแก้ไขอาการนี้อย่างไรครับ ?
ตอบ : แก้ไขโดยการทำไปเรื่อย ๆ สภาพจิตเริ่มเป็นสมาธิทรงตัวแล้ว แค่เอาสติประคับประคองไว้นิดเดียว ก็จะสามารถกำหนดรู้การภาวนาไปตลอด

เถรี 09-02-2015 10:40

ถาม : เนื่องจากผมมีประคำไม้แก่นจันทน์ของทางทิเบต มีการเคลือบชักเงาผิวไม้ไว้ (ประคำมีสีน้ำตาล มีกลิ่นหอมที่เนื้อไม้) เวลาสวมใส่ที่คอ หากประคำมีกลิ่นเหม็นที่เกิดจากเหงื่อของร่างกายเวลาสวมใส่ ไม่ทราบว่าพระอาจารย์มีวิธีทำความสะอาดประคำที่ถูกต้องไหมครับ ? เพราะเกรงว่าถ้าทำไม่ถูกวิธี ผิวไม้ประคำจะเสียหาย และเกิดเชื้อราขึ้นที่เชือกและเม็ดประคำครับ
ตอบ : อนิจฺจา วต สงฺขารา..! ใช้ไปมีหรือจะไม่เก่า

ถาม : มีวิธีรักษาไหมครับ ?
ตอบ : อย่าเอาไว้กับตัว

เถรี 09-02-2015 10:44

ถาม : บ้านผมไม่ได้ตั้งศาลพระภูมิ ถ้าต้องการไหว้พระภูมิท่านปีละครั้ง ใช้บายศรีปากชาม ๑ คู่ เพียงพอหรือไม่ครับ ? ถ้าต้องการให้ท่านช่วยสงเคราะห์เรา ควรต้องมีหมูชิ้น ไก่ ด้วยหรือไม่ครับ หรือใช้เฉพาะปลาเท่านั้น ?
ตอบ : ให้ตั้งศาลเสียจะถูกต้องที่สุด ถ้าไม่สามารถจะทำได้ คิดจะแหกคอก ก็ใช้หมูชิ้น ไก่ ๑ ตัว หมูชิ้นต้องไม่ต่ำกว่าครึ่งกิโลกรัม และอย่าลืมปลาช่อนแป๊ะซะด้วย

ถาม : ถ้าต้องการไหว้ถึงพระและท่านท้าวมหาราชด้วย จะต้องจัดบายศรีให้ครบทั้ง ๔ ทิศ พร้อมหมู ไก่ เหมือนของวัดใช่หรือไม่ครับ ? เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด
ตอบ : มีจำกัดแล้วจะทำงานใหญ่ทำไมวะ ?

ถาม : ก็อยากครับ
ตอบ : ถ้ามีจำกัดก็ให้ทำแบบจำกัด ประมาณห้าหมื่นบาทก็ทำได้แล้ว..!

ถาม : หรือถ้ากำลังเราไม่ไหว ใช้การทำบุญอุทิศให้ท่านด้วยความเคารพจะเพียงพอหรือไม่ครับ ?
ตอบ :ไม่พอ..ทำบุญส่วนทำบุญ การสักการะเป็นการแสดงความยอมรับนับถือ เป็นคนละส่วนกัน

ถาม : เราควรจะแสดงการบูชาอย่างไรให้ท่านสงเคราะห์เรา ที่ก็ไม่มี เงินก็ไม่มี ?
ตอบ : รอไปก่อน..เผื่อชาติหน้าจะมีที่หรือมีเงินบ้าง..!

เถรี 09-02-2015 10:48

ถาม : ในปัจจุบันผมกำหนดจิตเป็นภาพพระ พร้อมกับภาวนาแผ่เมตตาออกไป โดยใช้คาถา “กรณียเมตตาสูตร ” แล้วจึงอาราธนาบารมีมีดหมอเพชราวุธ ขอให้คุ้มครองป้องกัน มีความรู้สึกว่า มีกำลังแผ่ออกไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีประมาณ ไม่มีสิ้นสุด แบบนี้ถือว่าทำถูกต้องไหมครับ ?
ตอบ : ถูกในส่วนหนึ่ง

ถาม : พระอาจารย์กล่าวในงานพุทธาภิเษกว่า "บุคคลที่นำวัตถุมงคลมาเข้าพิธีก็ดี นำมีดหมอมาเข้าพิธีก็ดี โปรดจำให้แม่น ๆ ว่าถ้านำไปใช้อย่าได้คิดร้ายกับใคร ไม่อย่างนั้นจะวิบัติเอง ก็แปลว่าถ้าท่านทั้งหลายได้ขีปนาวุธนิวเคลียร์ข้ามทวีปไป นอกจากใช้ไม่เป็นแล้ว ยังอาจจะทำระเบิดใส่ตัวเองด้วย ต้องระวังให้จงหนัก " เนื่องจากผมนำวัตถุมงคลอื่นมาเข้าพิธี ดังนั้น จะมี "อานุภาพ" เช่นเดียวกับมีดหมอเพชราวุธ หรือไม่ครับ ? หรือว่าจะเหมือนแค่เพียงตรงที่เป็นนิวเคลียร์ "ระเบิดใส่ตัวเองได้" แต่ในด้านอานุภาพไม่เหมือนมีดหมอเพชราวุธ ? ผมจะได้ระวังของคนอื่นระเบิดใส่ตัวเองด้วยครับ
ตอบ : ระวังให้จงหนัก..!

ถาม : มีผลเหมือนมีดหมอเพชราวุธหรือไม่ครับ ?
ตอบ :ไม่ใช่มีดหมอจะเหมือนได้อย่างไรวะ ? เหมือนอย่างเดียวคือพร้อมที่จะระเบิด..!

ถาม : ตามความเข้าใจคิดว่า วัตถุมงคลอื่นที่นำเข้าพิธี ไม่น่ามี "อานุภาพ" เหมือนหรือเทียบเท่า หรือใกล้เคียงมีดหมอเพชราวุธได้ เพราะของอื่นที่นำมาเข้าพิธีไม่ได้มีตะกรุดมหาสะท้อน ตะกรุดสามกษัตริย์ ครบทุกดอก ความเข้าใจนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถูก..แต่เวลาระเบิดแรงเท่ากัน..!

เถรี 09-02-2015 10:50

ถาม : ศาสตราวุธอื่น ๆ นอกเหนือจากมีดหมอเพชราวุธวัดท่าขนุน ๑๒๐ เล่ม ท่านอนุญาตให้ใช้คาถาบูชาหรือการอาราธนาเพื่อใช้งานบทเดียวกับมีดหมอของทางวัดหรือไม่ครับ ? หรือใช้เพียงบทอิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตังฯ ก็เพียงพอแล้ว ?
ตอบ : ใช้ได้เหมือนกัน

ถาม : ถ้าวัตถุมงคลที่ไม่ใช่ศาสตราวุธ เช่น พระ แหวน เป็นต้น ใช้บทอิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตังฯ เหมือนปกติที่เคยทำใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ชอบใจบทไหนก็ใช้ไปเถอะ

เถรี 09-02-2015 10:52

ถาม : การที่อธิษฐานว่า "ขอให้เทพเทวดาทั้งหลายที่ดูแลรักษาสถานที่ซึ่งอาศัยอยู่และเทวดาประจำตัวของเรา ให้ท่านสามารถอาราธนาใช้อานุภาพของมีดหมอเพชราวุธหรือวัตถุมงคลอื่น ๆ เพื่อประโยชน์ต่อสถานที่และขอให้ท่านสงเคราะห์ตัวเราด้วย" การอธิษฐานแบบนี้เหมาะสมหรือไม่อย่างไรครับ
ตอบ : ลองอนุญาตให้ยามที่ช่วยดูแลบ้านเรา สามารถใช้อาวุธทุกชนิดในบ้านของเราดูก็แล้วกัน..!

เถรี 09-02-2015 16:44

พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้ตำรวจไล่จับบริษัทผลิตอาหารเสริมที่โฆษณามากจนเกินเหตุ จะว่าไปแล้วพวกอาหารเสริมที่ขายได้เพราะสนองกิเลสของคน คือคนเราอยากสวย ไม่อยากแก่ อาหารเสริมก็จะโฆษณาโดยอาศัยตรงจุดนี้ ว่ากินแล้วสวยอย่างไร กินแล้วชะลอวัยได้อย่างไร ขายได้ทั้งปีทั้งชาติ โดยเฉพาะพวกที่ขายตรง

ของทุกอย่างต้องพอดีจึงจะก่อประโยชน์ ถ้ามากเกินก็จะเป็นโทษ พวกที่กินวิตามินเสริมอยู่บ่อย ๆ โปรดระมัดระวังด้วย เพราะวิตามินทั้งหลายนั้น มีวิตามินซีอย่างเดียวที่ละลายในน้ำ นอกนั้นละลายในไขมัน กินเกินก็ตกค้างในร่างกาย ขับไม่ออก พอค้างมาก ๆ ก็พาโรคภัยไข้เจ็บให้เกิดขึ้น

สมัยปู่ย่าตาทวดแทบจะไม่มีโรคมะเร็ง ปัจจุบันเป็นกันจนแทบจะปกติ โรคภัยไข้เจ็บตำราจีนบอกว่าเกิดจากอาหารการกินที่เรากินลงไป จนกระทั่งมีภาษิตจีนว่า "โรคภัยเข้าทางปาก เภทภัยออกจากปาก" แปลว่าให้ระมัดระวังด้วย จะกินอะไรก่อให้เกิดโทษภัยได้ง่าย จะพูดอะไรก่อให้เกิดโทษได้ง่าย"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:54


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว