กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=51)
-   -   มีภาวะแปลก ๆ เมื่อกำหนดจิตแล้วนอนหลับไป (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9851)

นารีมีธรรมะ 12-11-2023 21:41

มีภาวะแปลก ๆ เมื่อกำหนดจิตแล้วนอนหลับไป
 
กราบนมัสการพระคุณเจ้าค่ะ

ช่วงหลัง ๆ มานี้ ดิฉันมักจะนอนหลับไปพร้อมกับคำภาวนา ไม่แน่ใจว่าจิตมีภาวะเป็นสมาธิก่อนจะหลับไปหรือไม่ เพราะจะมีอาการแปลก ๆ บ่อยค่ะ จะเรียกว่าฝันก็ไม่เชิง เรื่องจริงก็ไม่ใช่ เพราะเป็นตอนหลับเท่านั้น ในภาวะนั้น ดิฉันมีสติรู้ค่อนข้างชัดเจน รู้ด้วยว่ากำลังนอนหลับอยู่ และรู้ด้วยว่าอาการนี้มันมาอีกแล้ว ราวกับเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ต้องเจอเวลาหลับมากกว่า ไม่ใช่เรื่องฝันค่ะ

ลักษณะคือ เมื่อร่างกายดิฉันตัดหลับเมื่อไร เหมือนจิตดิ่งเข้าสู่อุโมงค์ มีความรู้สึกว่าร่างกายเลื่อนไหลไปในอุโมงค์นั้นอย่างรวดเร็ว บางครั้งในอุโมงค์ก็มีภาพแปลก ๆ เป็นผู้คนบ้าง เหมือนเห็นพี่น้องตัวเองในวัยเด็ก ๆ หรือบางทีเหมือนเห็นหลวงปู่ หลวงตาอยู่ในนั้นบ้าง เป็นภาพเคลื่อนไหวบ้างภาพนิ่งบ้าง เหมือนจอฉายภาพยนตร์แอลอีดี (LED) แต่ภาพบุคคลจะเป็นภาพเบลอ ๆ ขาวดำ ไม่ชัดนะคะ แต่ภาวะเลื่อนไหลในอุโมงค์นั้นชัดเจนสมจริงมากค่ะ

บางครั้งก็ไม่มีภาพบุคคลอะไรให้เห็น มีแต่ความสว่างของแสงสีในอุโมงค์ และการเคลื่อนที่ไหลไปอย่างรวดเร็ว บางครั้งดิฉันก็รู้สึกกลัว คิดว่าอยากหลับตา เพราะจะได้มองไม่เห็นอะไร เผื่อเห็นอะไรน่ากลัว แต่ก็รู้ว่าหลับตาไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะตาที่มองเห็นไม่ใช่ลูกตาเนื้อ แต่เป็นตาใน หลับอย่างไรก็เห็นทุกอย่างชัดอยู่ดี เลยปล่อยเลยตามเลยค่ะ หรือเวลากลัวไม่รู้จะทำอย่างไร เลยนึกถึงภาพพระพุทธเจ้าบ้าง นึกถึงหลวงพ่อ หลวงตา พระอริยสงฆ์ที่ดิฉันนับถือ เท่าที่นึกได้ในเวลานั้น สวดมนต์บ้าง ซึ่งหลัง ๆ มานี้ รู้สึกได้ว่าตัวเองสวดมนต์ในภาวะนั้น ได้มีสมาธิดีขึ้น สวดถูกต้อง จำได้แม่น เหมือนตอนอยู่ภาวะตื่นปกติ ตั้งสติรับกับภาวะนี้ได้ดีขึ้น ความกลัวน้อยลง บางครั้งสวดไปสวดมาก็เหมือนมีเสียงคนมาสวดร่วมด้วย ก็ตั้งจิตเป็นสมาธิสวดต่อไป จนลืมตาตื่นขึ้นมาเอง

บางครั้งดิฉันคิดได้ว่า ภาวะแบบนี้เป็นโอกาสอันดี คิดว่าจิตดิฉันตอนนี้น่าจะแยกกับกายได้ อาจจะไปสัมผัสพระนิพพานได้ เลยนึกถึงคำที่หลวงพ่อเคยสอนมโนมยิทธิ ที่ว่าอย่าไปกลัวตาย ให้จิตพุ่งออกไปหาพระนิพพานเลย ดิฉันพยายามทำให้จิตตัวเองออกจากกาย พยายามชูมือตัวเองขึ้น เพื่อผลักจิตตัวเองให้พุ่งหลุดออกจากร่างกาย แต่ก็ไปไม่ได้ค่ะ รู้สึกตัวเองเหมือนยาง ดึงตัวเองออกไป แต่ก็เด้งกลับมา ไปไหนไม่ได้เลย สรุปคือดิฉันต้องปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่มันเป็นค่ะ แต่ก็จะพยายามตั้งสติระลึกถึงพระพุทธเจ้าหรือบทสวดมนต์ตลอดค่ะ ท้ายที่สุดก็รู้สึกว่าเหมือนจิตกลับเข้าสู่ร่าง ก็คือลืมตาตื่นขึ้นมาค่ะ

ตอนแรกดิฉันก็ไม่สงสัยอะไร คิดว่าฝันไป ไม่มีอะไรหรอก แต่ระยะหลังมานี้เป็นบ่อย และลักษณะเหมือนกันตรงเคลื่อนที่ไหลไปในอุโมงค์ มีความชัดเจน และมีสติเหมือนไม่ได้ฝัน รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร ต้องตั้งจิตอย่างไร ควรคิดอย่างไร อยากจะลองทำอะไรในภาวะแบบนั้น

จะว่าเป็นภาวะทรงฌาน ดิฉันก็ไม่แน่ใจ เพราะดิฉันไม่เคยนั่งสมาธิได้นิ่งจนเข้าถึงอัปปนาสมาธิได้เลยค่ะ ระดับปีติยังไม่พ้นเลยค่ะ แต่นี่คือการนอนหลับ ก่อนนอนหลับดิฉันจะภาวนาจนหลับไปค่ะ

ดิฉันเลยอยากเรียนถามพระคุณเจ้าว่า ภาวะที่ดิฉันเป็นนี้คืออะไร ดิฉันกำลังผิดปกติหรือไม่ หรือจิตดิฉันเกิดอุปทานไปเอง และถ้าดิฉันไม่ผิดปกติหรือคิดไปเอง ภาวะเช่นนี้จะต่อยอดให้ดิฉันปฏิบัติเข้าสู่มรรคผลนิพพานได้ไหมคะ ขอพระคุณเจ้าโปรดชี้แนะชี้ทางสว่างอันเป็นสัมมาทิฏฐิให้ดิฉันด้วยเทอญ

น้อมกราบขอบพระคุณค่ะ

สุธรรม 13-11-2023 02:14

ถาม : ช่วงหลัง ๆ มานี้ ดิฉันมักจะนอนหลับไปพร้อมกับคำภาวนา ไม่แน่ใจว่าจิตมีภาวะเป็นสมาธิก่อนจะหลับไปหรือไม่ เพราะจะมีอาการแปลก ๆ บ่อยค่ะ จะเรียกว่าฝันก็ไม่เชิง เรื่องจริงก็ไม่ใช่ เพราะเป็นตอนหลับเท่านั้น ในภาวะนั้น ดิฉันมีสติรู้ค่อนข้างชัดเจน รู้ด้วยว่ากำลังนอนหลับอยู่ และรู้ด้วยว่าอาการนี้มันมาอีกแล้ว ราวกับเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ต้องเจอเวลาหลับมากกว่า ไม่ใช่เรื่องฝันค่ะ

ลักษณะคือ เมื่อร่างกายดิฉันตัดหลับเมื่อไร เหมือนจิตดิ่งเข้าสู่อุโมงค์ มีความรู้สึกว่าร่างกายเลื่อนไหลไปในอุโมงค์นั้นอย่างรวดเร็ว บางครั้งในอุโมงค์ก็มีภาพแปลก ๆ เป็นผู้คนบ้าง เหมือนเห็นพี่น้องตัวเองในวัยเด็ก ๆ หรือบางทีเหมือนเห็นหลวงปู่ หลวงตาอยู่ในนั้นบ้าง เป็นภาพเคลื่อนไหวบ้างภาพนิ่งบ้าง เหมือนจอฉายภาพยนตร์แอลอีดี (LED) แต่ภาพบุคคลจะเป็นภาพเบลอ ๆ ขาวดำ ไม่ชัดนะคะ แต่ภาวะเลื่อนไหลในอุโมงค์นั้นชัดเจนสมจริงมากค่ะ

บางครั้งก็ไม่มีภาพบุคคลอะไรให้เห็น มีแต่ความสว่างของแสงสีในอุโมงค์ และการเคลื่อนที่ไหลไปอย่างรวดเร็ว บางครั้งดิฉันก็รู้สึกกลัว คิดว่าอยากหลับตา เพราะจะได้มองไม่เห็นอะไร เผื่อเห็นอะไรน่ากลัว แต่ก็รู้ว่าหลับตาไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะตาที่มองเห็นไม่ใช่ลูกตาเนื้อ แต่เป็นตาใน หลับอย่างไรก็เห็นทุกอย่างชัดอยู่ดี เลยปล่อยเลยตามเลยค่ะ หรือเวลากลัวไม่รู้จะทำอย่างไร เลยนึกถึงภาพพระพุทธเจ้าบ้าง นึกถึงหลวงพ่อ หลวงตา พระอริยสงฆ์ที่ดิฉันนับถือ เท่าที่นึกได้ในเวลานั้น สวดมนต์บ้าง ซึ่งหลัง ๆ มานี้ รู้สึกได้ว่าตัวเองสวดมนต์ในภาวะนั้น ได้มีสมาธิดีขึ้น สวดถูกต้อง จำได้แม่น เหมือนตอนอยู่ภาวะตื่นปกติ ตั้งสติรับกับภาวะนี้ได้ดีขึ้น ความกลัวน้อยลง บางครั้งสวดไปสวดมาก็เหมือนมีเสียงคนมาสวดร่วมด้วย ก็ตั้งจิตเป็นสมาธิสวดต่อไป จนลืมตาตื่นขึ้นมาเอง

บางครั้งดิฉันคิดได้ว่า ภาวะแบบนี้เป็นโอกาสอันดี คิดว่าจิตดิฉันตอนนี้น่าจะแยกกับกายได้ อาจจะไปสัมผัสพระนิพพานได้ เลยนึกถึงคำที่หลวงพ่อเคยสอนมโนมยิทธิ ที่ว่าอย่าไปกลัวตาย ให้จิตพุ่งออกไปหาพระนิพพานเลย ดิฉันพยายามทำให้จิตตัวเองออกจากกาย พยายามชูมือตัวเองขึ้น เพื่อผลักจิตตัวเองให้พุ่งหลุดออกจากร่างกาย แต่ก็ไปไม่ได้ค่ะ รู้สึกตัวเองเหมือนยาง ดึงตัวเองออกไป แต่ก็เด้งกลับมา ไปไหนไม่ได้เลย สรุปคือดิฉันต้องปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่มันเป็นค่ะ แต่ก็จะพยายามตั้งสติระลึกถึงพระพุทธเจ้าหรือบทสวดมนต์ตลอดค่ะ ท้ายที่สุดก็รู้สึกว่าเหมือนจิตกลับเข้าสู่ร่าง ก็คือลืมตาตื่นขึ้นมาค่ะ

ตอนแรกดิฉันก็ไม่สงสัยอะไร คิดว่าฝันไป ไม่มีอะไรหรอก แต่ระยะหลังมานี้เป็นบ่อย และลักษณะเหมือนกันตรงเคลื่อนที่ไหลไปในอุโมงค์ มีความชัดเจน และมีสติเหมือนไม่ได้ฝัน รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร ต้องตั้งจิตอย่างไร ควรคิดอย่างไร อยากจะลองทำอะไรในภาวะแบบนั้น

จะว่าเป็นภาวะทรงฌาน ดิฉันก็ไม่แน่ใจ เพราะดิฉันไม่เคยนั่งสมาธิได้นิ่งจนเข้าถึงอัปปนาสมาธิได้เลยค่ะ ระดับปีติยังไม่พ้นเลยค่ะ แต่นี่คือการนอนหลับ ก่อนนอนหลับดิฉันจะภาวนาจนหลับไปค่ะ

ดิฉันเลยอยากเรียนถามพระคุณเจ้าว่า ภาวะที่ดิฉันเป็นนี้คืออะไร ดิฉันกำลังผิดปกติหรือไม่ หรือจิตดิฉันเกิดอุปาทานไปเอง และถ้าดิฉันไม่ผิดปกติหรือคิดไปเอง ภาวะเช่นนี้จะต่อยอดให้ดิฉันปฏิบัติเข้าสู่มรรคผลนิพพานได้ไหมคะ ขอพระคุณเจ้าโปรดชี้แนะชี้ทางสว่างอันเป็นสัมมาทิฏฐิให้ดิฉันด้วยเทอญ ?
ตอบ : ภาพต่าง ๆ เกิดขึ้นในสภาวะที่จิตเริ่มเป็นทิพย์ เรียกว่านิมิต แต่กำลังใจยังไม่มั่นคงและใช้ไม่เป็น จึงเอาเรื่องเอาราวอะไรไม่ได้ ยังดีที่รู้จักภาวนา ทำให้กำลังใจค่อย ๆ มั่นคงขึ้น ให้หมั่นพิจารณาจนเห็นชัดว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา ถ้าจิตหมดความกลัว ปลดจากการยึดเกาะร่างกาย จะไปไหนก็ไปได้โดยสะดวก


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:24


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว