กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ล่องแก่งมหาภัย (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=45)
-   -   ล่องแก่งมหาภัย ตอนที่ ๓ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2084)

คิมหันต์ 25-08-2010 21:17

ล่องแก่งมหาภัย ตอนที่ ๓
 
1 Attachment(s)
ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงน้ำไหล ดูนาฬิกาเห็นเป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี นาฬิกาเรือนนี้เหมาะกับคนแก่อย่างอาตมามาก มันฝังหลอดบรรจุไอโซโทปของไฮโดรเจน เปล่งแสงสว่างออกมามากน้อยตามความเข้มของแสง ยิ่งมืดก็ยิ่งสว่าง เที่ยงคืนแบบนี้มันสว่างทะลุจีวรเลยละ..!

นั่งภาวนาจนตีสี่ กำลังใจของเรามีขึ้นมีลง ถ้าประมาทไม่หมั่นภาวนาทรงระดับเอาไว้ เกิดกิเลสมันตีกลับชวนสึกไปมีเมียมันจะยุ่งกันใหญ่ เลิกจากภาวนาไปล้างหน้าเช็ดตัว แล้วครองผ้าสวดมนต์ทำวัตรไปตามปกติ ท่านนาวินที่ตื่นเพราะเสียงเดินของอาตมา จัดการล้างหน้าและทำวัตรบ้าง...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1282821687
บรรยากาศยามเช้ามืด หมอกมัวไปทั้งแม่น้ำ

ตีห้าครึ่งเณรมาตามไปฉันเช้า เขาคิดค่าอาหารพระรูปละ ๒๐๐ จั๊ต เณร ๑๕๐ จั๊ต เณรเล็ก ๆ ก็ไม่ว่ากันหรอก นี่เณรโคร่งตัวเกือบเท่าพระ ฉันมากกว่าอาตมาสักสามเท่าเห็นจะได้กระมัง ? แต่ในเมื่อเขาคิดตามธรรมเนียมแบบนี้ ก็จำเราต้องยอมเสียเปรียบเณรไปก่อน...

หกโมงเช้าออกเรือ หมอกหนามองแทบไม่เห็นทาง วิ่งฝ่าละอองหมอกจนจีวรเปียกชื้นไปทั้งผืน น้ำกำลังขึ้น ทำให้เรือของเรากลายเป็นวิ่งทวนน้ำ วัดหนองบัวอยู่ใกล้ปากอ่าวเมาะตะมะ น้ำตอนปลายของแม่น้ำอัตทรานนี้ เลยพลอยขึ้นลงตามน้ำทะเลไปด้วย...

คิมหันต์ 26-08-2010 22:44

1 Attachment(s)
อ่องโมหยุดเรือกระทันหัน นึกว่ามีด่านทหาร กลายเป็นว่าน้ำไม่ผ่านเครื่อง ต้องแก้ไขกันยกใหญ่กว่าจะไปได้เหมือนเดิม แต่คราวนี้ไปช้ามาก คงจะรอดูว่ามีอะไรเสียหายอีกหรือเปล่า ไปได้ไม่นานก็หยุดอีกครั้ง คราวนี้ปล้ำถอดหัวเทียนเป็นการใหญ่ บรรดาสาว ๆ จึงได้โอกาสขึ้นฝั่งไปหาที่เด็ดดอกไม้กันบ้าง...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1282908169
ไฟตัน..น้ำมันช็อต..ต้องซ่อมกันอุตลุด..!

เมียของอ่องโมไปเซ้าซี้อะไรผัวก็ไม่รู้ นายท้ายขี้โมโหเอ็ดตะโรเมียซะยกใหญ่ ท่านนาวินหัวเราะพลางบอกว่า เมียอ่องโมจะไปเด็ดดอกไม้ ชวนผัวไปเป็นเพื่อน เพราะนอกจากจะยังไม่สว่างดี ซ้ำหมอกยังลงจนป่ามืดไปหมด นายท้ายแกไล่ให้ไปเองซิโว้ย เสียเวลาแก้เครื่องเรือ..!

คิมหันต์ 28-08-2010 21:39

1 Attachment(s)
มีขบวนเรือวิ่งสวนมาหลายลำ ขนสินค้ามาเพียบ คงจะไปชองโส่งทั้งนั้น ดูจากความเร็วแล้ว ไม่แคล้วต้องค้างกลางทางอีกคืน เมื่อสาว ๆ กลับมาครบ เรือของเราก็ตะบึงต่อไป แสงแดดไล่หมอกจางหายไปตามเวลาที่สายขึ้น แต่ดวงตะวันยังไม่สามารถทะลุม่านหมอกออกมาได้ ก็ดีไปอย่าง ช่วยให้ไม่ร้อนมาก...

มีทหารโบกมือเรียกอยู่บนตลิ่ง ไม่ใช่ด่านตรวจหรอก เขาขออาศัยเรือไปเมืองเวสาลี อาตมาขี้เกียจมีปัญหากับพวกทหาร จึงภาวนาคาถาตวาดป่าหิมพานต์ข่มเอาไว้ก่อน แต่กำลังใจแรงไปหรืออย่างไรก็ไม่รู้ พอดีจังหวะเขาก้าวลงเรือด้วย เลยร่วงโครมลงมาบนตักอาตมาพอดี..!

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1283452632
ถ้าเป็นทหารหญิงแบบนี้หล่นใส่ตักจะไม่ว่าสักคำ ที่ไหนได้..!

ถ้าเป็นสาว ๆ ร่วงลงมาบนตักจะไม่ว่าสักคำ นี่ดันเป็นทหารตัวเล็กกว่าควายนิดเดียว เล่นเอาอาตมาจุกแอ้ดไปเลย แต่ก็ได้ผลตามที่ต้องการ เพราะพี่ทหารแกอายพระ จึงนั่งเงียบไม่ยอมแม้แต่จะหันมาดู นอกจากนาน ๆ จะควักบุหรี่ขึ้นมาสูบ แล้วพ่นควันมาเผื่อแผ่แก่อาตมาซะเต็มที่...

อาตมานั่งยิ้มทั้งกาย ยิ้มทั้งใจ ไม่ได้วิตกทุกข์ร้อนอะไรเลย จิตใจสงบเยือกเย็นมาก ไม่ได้เห็นเขาเป็นศัตรูแม้แต่น้อย นอกจากเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เช่นเดียวกันกับฝูงวัวที่ลงกินน้ำ ฝูงนกยางโทนน้อยที่บินเรียงแถวออกหากิน รวมทั้งคนตกกุ้งและยกยอที่อยู่บนชายฝั่งตลอดสองข้างลำน้ำ...

คิมหันต์ 30-08-2010 17:52

1 Attachment(s)
แดดมัวเหมือนไม่เต็มใจขึ้น อาตมาหยิบแกลลอนผ่าครึ่งขึ้นมาวิดน้ำในเรือ สองฝั่งตรงนี้เป็นหมู่บ้านติดต่อกันไปเป็นแนวยาว ท่านนาวินบอกว่าเป็นบ้านเยแลเก่า และบ้านเยแลใหม่ คนแถวนี้พอพูดไทยได้ มีสวนผักที่ริมตลิ่งเป็นระยะไป ต้องสานไม้ไผ่ล้อมรั้วกันวัวกินผักด้วย...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1283452785
เรือของคณะละครพม่า คงจะไปเล่นที่ด่านพระเจดีย์สามองค์

ช่วงถัดมาดวงอาทิตย์อยู่ทางขวามือตลอด แปลว่าเรากำลังขึ้นเหนือกันอย่างจริงจังซะที เมืองจะอีนอยู่ตรงกับแม่สอดของไทย แต่จากแม่สอดต้องนั่งรถสองแถวไปสองวันจึงจะถึง มีเรือของคณะละครพม่าสวนไป ๔ – ๕ ลำ คงมีคนจ้างไปเล่นที่ด่านเจดีย์สามองค์ แม้จะไกลและเดินทางลำบากขนาดนั้น ขอให้มีเงินจ้างเถอะ ไปทั้งนั้นแหละ...

คิมหันต์ 31-08-2010 18:40

1 Attachment(s)
แปดโมงครึ่งเรือแวะหมู่เรือนแพที่เป็นด่านทหารกะเหรี่ยง ไอ้ลูกทหารตัวน้อยถือคาร์บินพับฐานซะด้วย ดูหน้าตาแล้วสงสารแกจัง ตัวสูงกว่าปืนนิดเดียวเท่านั้น นายท้ายจ่ายค่านักเลงแล้วไปต่อ ประมาณเก้าโมงเช้ามาถึงบ้านแวสะลิ (เวสาลี) ตรงนี้มีด่านมอญอยู่บนแพเช่นกัน...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1283452941
ถ้าขึ้นบกที่บ้านเวสาลีแล้วเช่าเกวียนนั่งไป ประมาณครึ่งวันก็จะถึงบ้านหนองบัว

ถ้าขึ้นบกตรงนี้ต้องนั่งเกวียนไป ค่ำ ๆ ก็จะไปถึงบ้านหนองบัว ท่านนาวินว่าอย่างนั้น พวกเราแห่กันขึ้นไปบนแพ นายด่านแกกำลังขายหวยอย่างขะมักเขม้น แทบไม่สนใจกับอ่องโมที่ไปจ่ายค่าผ่านทางเอาเลย ซ้ำเปิดโต๊ะรับแทงถึงสองโต๊ะของเจ้ามือคนละราย สงสัยรายได้ดีเพราะลูกค้าแน่นครึ่ดไปหมด...

คิมหันต์ 01-09-2010 21:49

1 Attachment(s)
ใครหิวเชิญรับประทานได้ ใครปวดหนักปวดเบาก็เชิญปลดทุกข์กันตามสบาย นายท้ายของเราวันนี้ไม่ยักให้เมียอด เห็นไปเปิบข้าวกันตุ้ย ๆ ตรงนี้เป็นจุดพักก่อนถึงเมืองจะอีน บนแพจึงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยของกินของใช้ เหล้านอกเรียงเป็นตับเลย...

หมดธุระแล้วเดินทางต่อไป อิ่มมาใหม่ ๆ ประกอบกับแดดเริ่มจัด ทำให้ทุกคนหลับกันคอพับคออ่อน แม่น้ำกว้างขึ้นเรื่อย ๆ โขดหินที่เป็นอันตรายแทบไม่มีให้เห็น สองฝั่งตลิ่งสูงลิ่วยังมีต้นข่อย ต้นงิ้ว ต้นมะขาม ให้เห็นประปราย บางทีก็เป็นป่าหมากป่ามะพร้าวทั้งดง...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1283453106
ต้นมะม่วงจอมอิทธิฤทธิ์ ถูกเลื่อยขาดแล้วยังไม่ยอมล้ม แถมดับเครื่องเรืออีกด้วย

เห็นข้างหน้าเป็นต้นตาลคู่สองต้นอยู่ไกลลิบ เรือก็เครื่องดับเอาดื้อ ๆ นายท้ายตัวแสบพาเรือชิดฝั่งเพื่อหลบแดด สาละวนกับเครื่องเรือพลางบอกกับผู้โดยสารว่า ข้างบนมีศาลเทพารักษ์ศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ทุกคนขึ้นไปไหว้หน่อย ไม่เช่นนั้นจะไปต่อไม่ได้ วะ...ปานฉะนี้เชียวหรือคุณพี่..? นักเลงโตเกินไปแล้วกระมัง..?

ขึ้นไปแล้วต้องยอมรับว่าท่านขลังจริงอย่างเขาว่า ที่ข้างศาลเป็นต้นมะม่วงโตเป็นโอบ ที่น่าทึ่งคือถูกเลื่อยขาดแล้วไม่ยอมล้ม กลับประสานกันดีเหมือนเดิม เหลือแต่รอยเลื่อยไว้ให้ดูต่างหน้า ถ้าอาตมาเป็นคนเลื่อยคงขนหัวลุกเด่ไปเหมือนกัน กำหนดจิตอุทิศส่วนกุศลแก่ท่านและบริวารทั้งหลาย...

คิมหันต์ 02-09-2010 23:39

1 Attachment(s)
เสียงเครื่องเรือติดกระหึ่มทันใจ แหม...เอาเรือมาจอดเพื่อขอส่วนกุศลโดยเฉพาะเลยนะ ไหน ๆ ก็มาแล้วอย่าเสียเที่ยวเปล่า ขอฉี่รดเป็นที่ระลึกหน่อยเถอะ ฮิ..ฮิ..เสร็จจากธุระส่วนตัวแล้วรีบเผ่นลงเรือ เดี๋ยวท่านเปลี่ยนใจไม่ให้ไปต่อมันจะยุ่ง แดดยิ่งร้อน ๆ อยู่ด้วย...

แพซุงมากมายเป็นแถวยาว พวกนี้ขายที่เวสาลีไม่ได้ ต้องล่องต่อไปถึงจะอีนหรือมะละแหม่ง บางทีก็มีนายทุนรวบรวมซื้อไว้ แล้วล่องไปขายถึงเมืองไจ๊มะยอโน่น...เรือฝ่าเปลวแดดร้อนฉ่า เข้าเทียบท่าที่เมืองจะอีนตอนเพลพอดี เด็กวัยรุ่นตัวดำ ๆ กรูกันลงมาแย่งกันแบกของอุตลุด...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1283937527
ท่าเรือเมืองจะอีน ทั้งรับส่งสินค้าและรับส่งคน

เอาของขึ้นรถสองแถวที่จอดรออยู่ในท่า ท่านนาวินควักย่ามให้ค่าแรงเด็ก ๆ คนละนิดคนละหน่อย พวกเขาทำงานที่เหมือนกับทำฟรี เจอคนใจดีหรือมีของมากก็ได้สตางค์ เจอคนของน้อยเขาแบกเองได้ แล้วดันไปคว้าของเขามาก็เหนื่อยฟรีไป แต่ก็ไม่เห็นพวกเขาจะว่าอะไร นอกจากถือว่าเป็นการทำบุญ...

จะอีนเป็นเมืองข้าราชการ คนของเมืองนี้เจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์เป็นข้าราชการ คล้ายกับเมืองเมย์เมี้ยว ดูบ้านเรือนที่ทางการทำให้แล้วมันซึม ๆ โทรม ๆ บอกไม่ถูก ไม่เห็นจะมีชีวิตชีวาแบบเมย์เมี้ยวเลย ใครถูกย้ายมาคงแทบร้องไห้ เหมือนกับสมัยก่อนเมืองไทยเรากลัวถูกย้ายไปแม่ฮ่องสอนอย่างไรอย่างนั้น...

คิมหันต์ 07-09-2010 17:47

1 Attachment(s)
ท่านนาวินพาเข้าร้านอาหารอิสลาม ที่ทราบเพราะเขาเขียนเลข ๗๘๖ เป็นสัญลักษณ์เอาไว้ ตัวเลขนี้รวมกันแล้วได้ ๒๑ คือพวกเขามีความตั้งใจว่า ภายในศตวรรษที่ ๒๑ ศาสนาอิสลามจะต้องครอบครองประเทศพม่าให้ได้ แต่ดันกำหนดเป็นคริสต์ศตวรรษ ดูแล้วเป็นงงว่ะ..?

ที่งงหนักเข้าไปอีกคือ อาบังแกยกอาหารมาประเคนอย่างคล่องแคล่ว ถูกต้องตามพระวินัยซะด้วย ท่านนาวินต้องเฉลยว่าพม่ามีพระมาก ถ้าเล่นตัวรังเกียจพระก็ไม่ต้องทำมาหากินกันละ ในเมื่ออยู่กับพระ ค้าขายกับพระจนชิน แกจึงคล่องตัวไปโดยอัตโนมัติ เรียกว่าเก่งเพราะสถานการณ์บังคับ ฮิ..ฮิ...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1283937660
มัสยิดของศาสนาอิสลาม ที่วางแผนยึดครองพม่าในคริสต์ศตวรรษที่ ๒๑

อาหารมีแกงมัสมั่นกุ้ง แกงมัสมั่นไก่ ตามแบบฉบับของพม่า คือมีแต่เครื่องเทศและน้ำมัน อีกอย่างหนึ่งเป็นฝักเพกาดอง หั่นมาเป็นชิ้นโต ๆ จิ้มกับพริกเผาที่ตำกับเกลือ ฉันเสร็จจ่ายค่าอาหารไป ๑๘๐ จั๊ต ค่าเรือท่านนาวินแอบจ่ายไป ๓,๐๐๐ จั๊ต ส่งคืนให้ก็ไม่ยอมรับ

มานั่งรอรถที่ยังไม่ยอมออกสักที ท่านนาวินเสียเงินอีกจนได้ ท่านซื้อน้ำองุ่นกับน้ำสตอเบอรี่มาอย่างละลิตร เป็นน้ำหวานเข้มข้น ต้องผสมน้ำสี่เท่าจึงดื่มได้ บอกว่าลิตรละ ๓๘๐ จั๊ต ได้เงินทอนมาเป็นธนบัตรเก่า ๆ ใบเบ้อเริ่มทั้งนั้น นับกันมือเป็นระวิง...

คิมหันต์ 08-09-2010 18:51

1 Attachment(s)
รถออกแล้ว แต่ไม่ได้ไปตามทางที่ตรงไปสองแคว หากวิ่งวนไปในตัวเมือง มุดซอกเล็กซอกน้อยจนเวียนหัว มาโผล่ยังที่ทำการเกษตรจังหวัดจะอีน ที่ทราบเพราะมีป้ายภาษาปะกิดอยู่ด้วย โชเฟอร์เขามารับผู้โดยสารที่สั่งเอาไว้ แต่คุณท่านเห็นพระยึดเบาะหน้าไปหมดแล้ว เลยขอไปคันหลังแทน...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1284114788
เส้นทางจะอีน - สองแคว สภาพถนนดีมาก ๆ

ไม่ไปก็ไม่ง้อวะ...เจ้าของรถพารถไปตามทางลูกรัง มาจอดให้ด่านตำรวจที่ซุกตัวอยู่กลางดงยางพาราตรวจ หยอกล้อกับตำรวจที่คงเป็นเพื่อนกันอย่างสนุก แถมแบ่งบุหรี่ให้ไปอีกตั้งครึ่งซอง ดังนั้นรถของเราจึงไปได้ฉิว ขณะที่คันอื่นซึ่งตามหลังมาจอดติดกันเป็นแพ...

คิมหันต์ 09-09-2010 19:29

1 Attachment(s)
ถนนลูกรังผ่านกลางนา มีบ้านคนเป็นระยะไป ฝุ่นฟุ้งตลบอบอวล มิน่าล่ะ...คุณเกษตรจังหวัดแกถึงไม่ยอมมาด้วย มาถึงสะพานข้ามห้วยที่กว้างเกือบสิบเมตร ที่เพิ่งถูกทหารกะเหรี่ยงคริสต์วางระเบิดพังยับเยิน เขาทำสะพานไม้ให้ข้ามชั่วคราว แต่ผู้โดยสารต้องลงเดินเพราะสะพานรับน้ำหนักไม่ไหว...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1284114911
สะพานข้ามห้วยที่ถูกทหารกะเหรี่ยงคริสต์ระเบิดขาด

ทางสายนี้เลาะไปตามแม่น้ำอัตทรานนั่นเอง และเป็นสายที่ทหารกะเหรี่ยงมักจะออกปล้นกันเป็นประจำ บางรายไม่รู้จักภูมิประเทศ ปล้นเสร็จทะเร่อทะร่าออกไปทางซ้าย ติดแหง็กอยู่ริมแม่น้ำ เขาจับได้ก็ติดคุกหัวโตไป หวังว่าครั้งนี้คงไม่มีใครคิดปล้นกลางแดดหรอกนะจ๊ะ...

คิมหันต์ 10-09-2010 18:16

1 Attachment(s)
รถวิ่งเข้าไปกลางหมู่บ้านใหญ่หลายร้อยหลังคาเรือน ชาวบ้านที่นี่พูดไทยได้แทบทุกคน ชื่อว่าบ้านสามพระยา พม่าเรียกบ้านตำมะยา (มะนาว) มีญาติโยมที่รู้จักท่านนาวินร้องทักทายมาหลายคน ภาษาของเขาเป็นภาษาไทยเก่ามาก คงเป็นเพราะไม่มีการพัฒนาแบบของไทย แต่อาตมาก็เข้าใจดีทุกคำ...

ผ่านด่านตรวจทหารที่ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน นักเรียนรอบเช้าเลิกเรียนพอดี สีเขียวสีขาวเต็มไปหมด มีนักเรียนหญิงสองคนขึ้นรถมาด้วย ตอนขึ้นยังเป็นเสื้อสีขาวอยู่ ตอนลงใส่เสื้อสีน้ำตาลตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ กลับถึงบ้านถ้าไม่รีบซักมีหวังได้เสื้อสีตุ่น ๆ ใส่ไปโรงเรียนแน่ ๆ..!

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1284146644
รถสองแถวกำลังจอดรอผู้โดยสารที่รถบ้านสองแคว

ระยะทางจากเมืองจะอีนถึงบ้านสองแควแค่ ๑๘ ไมล์ แต่รถวิ่งเป็นชั่วโมง อาตมากับท่านนาวินลงหน้าโรงเรียนบ้านสองแคว เพราะไม่อยากไปยุ่งกับการตรวจที่ท่ารถอีกครั้ง บริเวณโรงเรียนเป็นที่ลุ่มต่ำมาก ท่านนาวินบอกว่าหน้าน้ำนักเรียนต้องเรียนกันบนถนน..!

ข้ามสะพานที่มีโยมสร้างถวายครูบาญาณ พระอาจารย์ใหญ่แห่งบ้านสองแคว เขาทำข้ามถนนผ่านตลาดเข้าไปถึงวัดมณีเลยทีเดียว คุณโยมผู้ศรัทธามีชื่อว่า “ลินจง” เป็นคนบ้านสองแควนี่เอง ไปทำมาหากินที่เมืองไทยจนร่ำรวย กลับมาช่วยทำสะพานถวายวัดราคาตั้งหกล้านจั๊ต..!

คิมหันต์ 12-09-2010 22:53

1 Attachment(s)
ครูบาญาณท่านไม่อยู่ อาตมาทั้งสองเดินย้อนกลับมาทางท่าน้ำ มีโยมผู้ชายกินหมากปากแดงตรงเข้ามาไหว้ท่านนาวิน บอกว่าถ้าจะไปวัดหนองบัวให้รอสักครู่ เขาเอานาฬิกามาซ่อมไว้ รอให้นาฬิกาเสร็จแล้วไปเรือของเขาก็ได้ พอลับหลังไป ท่านเจ้าอาวาสบอกว่าเป็นผู้ช่วยครูใหญ่โรงเรียนบ้านหนองบัว...

สั่งน้ำส้มยี่ห้อแฟนตาซีมานั่งฉันระหว่างรอคนละขวด ราคาขวดละ ๕๐ จั๊ต เมื่อกี้จ่ายค่ารถไปคนละ ๒๐๐ จั๊ต ค่าของเขาไม่เก็บ...รอจนบ่ายสองครึ่ง คุณครูถึงมาพาอาตมาทั้งสองลงเรือลำเล็ก ที่ดูแล้วสภาพไม่น่าจะไปถึงปลายทางได้ แต่คุณครูเก่งสมกับเป็นแม่พิมพ์ พาไปถึงวัดหนองบัวจนได้ นับว่าทำหน้าที่เรือจ้างได้สมบูรณ์แบบ...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1284321843
นั่งเรือจากบ้านสองแควไปยังวัดหนองบัว

ท่านสุโภคะเพื่อนซี้ของท่านชา (พระปรีชา จิรนาโค) มาช่วยแบกของขึ้นวัด ถามเรื่องค่าเรือ ผู้ช่วยครูใหญ่ไม่รับ เพราะมีพวกเราหรือไม่มี คุณครูก็ต้องกลับมาที่นี่อยู่แล้ว สบายไปอีกครั้ง อาตมาตรงเข้าไปพักยังศาลาหอพระเลย ด้วยเคยมาคุ้นเคยดีอยู่แล้ว...

ท่านสุโภคะตีเกราะบอกชาวบ้านว่า “ครูบาน้อย” คือท่านนาวินมาถึงแล้ว บรรดาชาวบ้านที่นำโดยลุงทองแดงมัคทายกของวัด มาถึงก็ถามหาครูบาใหญ่เมืองไทยว่ามาด้วยหรือไม่ ? อาตมาเองเจอเหตุการณ์แบบนี้มักจะ “หัวเราะมิได้ ร่ำไห้มิออก” ทุกที...

คิมหันต์ 13-09-2010 18:04

1 Attachment(s)
หน้าตาท่าทางของอาตมาไม่มีวี่แววของผู้มีวาสนา หรือว่าฝึกจนเป็นไปตามสำนวนกำลังภายในที่ว่า “สูงสุดคืนสู่สามานย์...เอ๊ย...สามัญ” ก็ไม่อาจจะทราบได้ ไปที่ไหนมักไม่มีใครเชื่อน้ำหน้า ต้องคบหาสมาคมกันไปพักหนึ่งนั่นแหละ กว่าเขาจะยอมรับว่ามีความสามารถจริง ๆ...

ที่นี่ก็เช่นกัน ญาติโยมที่ไม่เคยพบอาตมาเมื่อครั้งก่อน มากราบแล้วจ้องเอาจ้องเอา พวกเขาไม่เชื่อว่านี่แหละอาจารย์ของเจ้าอาวาสของพวกเขา และเป็นผู้ที่จะมาบูรณะวัดหนองบัวขึ้นมาใหม่ทั้งหมด อาตมาได้แต่ทักทายไปตามอัธยาศัย เดี๋ยววัดเสร็จเขาก็เลิกสงสัยไปเองแหละ

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1284420518
พระพุทธไสยาสน์ในศาลาพระนอน วัดหนองบัว

ทักทายชาวบ้านทั่วถึงดีแล้ว อาตมาปล่อยให้ครูบาน้อยรับมือกับญาติโยมไป ตัวเองถือกล้องถ่ายรูปไปถ่ายอาคารสถานที่จนทั่ววัด ทุกหลังแทบหมดสภาพทั้งนั้น ต้องทำใหม่ทั้งหมดจริง ๆ มีที่พอเป็นรูปเป็นร่างบ้างก็ศาลาพระนอนแห่งเดียว แต่เตี้ยเกินไป ต้องยกหลังคาใหม่เช่นกัน...

คำนวณงบประมาณแล้ว ที่สำคัญคือศาลาหอพระ ตกประมาณสองล้านบาท โบสถ์คงอยู่ในราวหนึ่งล้านบาท วิหารพระเจ้าอีกหนึ่งล้านบาท สามที่นี้เสร็จ อย่างอื่นก็เรื่องเล็กแล้ว อาตมาต้องหาเงินเป็นต้นทุนประมาณแสนห้าถึงสองแสนบาท ก็เริ่มลงมือบูรณะวัดหนองบัวได้

คิมหันต์ 14-09-2010 22:45

1 Attachment(s)
เสียงเพลงฉลองปราสาทกฐินดังแว่วมาในหมู่บ้าน ขณะที่อาตมาไปสรงน้ำและซักผ้าที่ห้องน้ำใหม่ ห้องน้ำชุดนี้อาตมาถวายเงินท่านนาวินสร้างขึ้นใหม่ ครูบาน้อยของชาวบ้านทำดีเกินไปจนชาวบ้านบ่น เพราะพวกเขาใช้ชักโครกไม่เป็น ฮิ..ฮิ...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1284495379
ห้องน้ำชุดใหม่ที่ชาวบ้านบ่นว่าไม่ได้เรื่องเพราะใช้ชักโครกไม่เป็น

เอาผ้ากลับมาตาก พบพระหลวงตาองค์หนึ่งนั่งจ้องอาตมาอยู่ ท่านเพิ่งจะได้สิบพรรษา แต่อาตมาก็ไหว้เอาไว้ก่อน ท่านชื่อ “หลวงตาอินพาน” เป็นอดีตเจ้าอาวาสที่นี่ แต่เป็นเพราะเจ้าอาวาสองค์ก่อนคือ “พระอาจารย์แสง” หนีไปอยู่วัดพระแท่นดงรังที่เมืองไทย...

คิมหันต์ 15-09-2010 22:11

2 Attachment(s)
เมื่อไม่มีสมภารเจ้าวัด ซ้ำไม่มีลูกวัดด้วย บรรดาญาติโยมก็หาผู้ที่จะมาบวชเป็นหลวงตาเฝ้าวัด ปรากฏว่าหลวงตาอินพานจับสลากได้ ต้องบวชมาเฝ้าวัดตามข้อตกลง แต่ท่านเล่นขนข้าวของเงินทองของวัดไปให้ลูกให้เมียทางบ้านซะนี่ จึงถูกชาวบ้านตั้งข้อรังเกียจ...

วัดที่ไม่มีลาภผลเหลือเฟืออะไร ซ้ำถูกชาวบ้านรังเกียจเข้าอีก ท่านก็อยู่ไม่ได้ พอพรรษาที่สาม ท่านจึงเผ่นไปอยู่ที่ห้วยมาลัยฝั่งไทยบ้าง พอดีกับชาวบ้านได้ข่าวว่า ท่านนาวินซึ่งเป็นลูกบ้านหนองบัวบวชอยู่ที่วัดหินแหลม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี...

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1284580839
ศาลาท่าน้ำที่ครูบาน้อยมาซ่อมใหม่พร้อมกับบันไดท่าน้ำ

ทั้งหมดจึงอาราธนาครูบาน้อยของเขามาเป็นเจ้าอาวาสแทน เมื่อท่านนาวินมาถึงก็ลงมือพัฒนาวัด โดยซ่อมแซมศาลาท่าน้ำ ทำห้องน้ำห้องส้วมใหม่ ซ้ำยังซื้อเครื่องปั่นไฟมาใช้อีก แม้จะเป็นการสนับสนุนจากอาตมาเองก็ตาม แต่ความเชื่อถือในตัวเจ้าอาวาสใหม่ซ้ำหนุ่มฟ้อของเขา ก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ...

เมื่อถึงหน้ากฐิน ชาวบ้านที่เชื่อแน่ว่าเงินของเขาเข้าวัดแล้วไม่สูญไปไหน จึงช่วยกันทำบุญมาเป็นเงินจำนวนมากพอที่หลวงตาอินพานจะน้ำลายหก ประกอบกับข่าวครูบาน้อยจะบูรณะวัดใหม่ทั้งหมด หลวงตาอินพานท่านจึงกลับมาบ้านหนองบัวอีกครั้ง เพื่อดูว่าจะมีช่องทางอะไรสำหรับท่านบ้าง..?

http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1284580839
เครื่องปั่นไฟ(เครื่องที่อยู่ด้านใน) ถูกเณรเล่นซะเจ๊งกระบ๊งไปเลย..!

เห็นแววความยุ่งยากมาถึงครูบาน้อยแล้วหรือยัง..? คนเคยอยู่ที่นี่ พรรษามากกว่า อายุมากกว่า ถ้าท่านไม่คำนึงถึงผ้าเหลืองที่ห่มอยู่ เอากิเลสชาวบ้านมาใช้ ท่านนาวินคงต้องรับศึกหนักในระยะเวลาอันใกล้นี้เป็นแน่แท้ แต่ถึงอย่างไรอาตมาก็เชื่อมือครูบาน้อยว่า เรื่องแค่นี้ท่านต้องรับมือไหว...

เสร็จจากการสนทนากับหลวงตาอินพาน จะเตรียมตัวทำวัตรเย็น เห็นท่านนาวินกับพระเณรล้อมเครื่องปั่นไฟกันเป็นกลุ่ม ถามดูถึงรู้ว่าตอนท่านไปหาอาตมา ทางนี้เณรเล่นซะเครื่องไฟพังไปเรียบร้อยแล้ว กว่าจะปล้ำติดได้ก็เลยเวลาทำวัตรไปมากโขทีเดียว...

คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:48


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว