กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   กระทู้ธรรม (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=2)
-   -   เห็นสรรพสิ่งเป็นหนึ่ง (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1278)

ลัก...ยิ้ม 09-11-2009 14:50

เห็นสรรพสิ่งเป็นหนึ่ง
 
เมื่อคนที่มีดวงตาเห็นธรรมมองไปที่สิ่งใดในโลก เขาจะเห็นไตรลักษณ์คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตาในสิ่งนั้นพร้อมกันไปด้วย ทั้งนี้เพราะไตรลักษณ์เป็นสามัญลักษณะคือลักษณะที่สรรพสิ่งต้องมีเหมือนกันหมด ดังนั้น เราจึงกล่าวได้ว่า

คนที่เห็นไตรลักษณ์ก็คือคนที่เห็นสรรพสิ่งเป็นหนึ่งและเห็นความเป็นหนึ่งในสรรพสิ่ง

ที่ว่า “เห็นสรรพสิ่งเป็นหนึ่ง” หมายถึงว่า มองเห็นสิ่งทั้งหลายทั้งปวงมีสามัญลักษณะหรือลักษณะร่วมกันเหมือนกันคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ที่ว่า “เห็นความเป็นหนึ่งในสรรพสิ่ง” หมายถึงว่า เห็นสามัญลักษณะคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาอยู่ในสิ่งทั้งหลายทั้งปวง

ผู้ที่เห็นสรรพสิ่งเป็นหนึ่งและเห็นความเป็นหนึ่งในสรรพสิ่งชื่อว่ามีดวงตาเห็นธรรม

ลัก...ยิ้ม 09-11-2009 14:51

ผู้ใดเห็นมี “ดวงตาธรรม” ผู้นั้นชื่อว่าเห็นพระพุทธเจ้า ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระวักกลิว่า
“โย หิ ปสฺสติ สทฺธมฺมํ โส มํ ปสฺสติ ปณฺฑิโต” เป็นต้น แปลความว่า “ผู้ใดเห็นสัทธรรม ผู้นั้นเห็นเรา เขาเป็นบัณฑิต ส่วนผู้ที่ไม่เห็นสัทธรรม แม้จะมองดูเราก็ไม่เห็นเรา”

ดังนั้น เรากราบพระพุทธรูปครั้งใด ต้องเตือนตัวเองทุกครั้งให้มองเห็นธรรมคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อเห็นธรรม จิตของเราจะเข้าสู่กระแสนิโรธคือความดับทุกข์ เราจะสามารถอยู่ในโลกโดยไม่จมอยู่กับโลกธรรม แต่สามารถลอยตัวอยู่เหนือโลกธรรมทั้งปวงเหมือนดอกบัวที่เบ่งบานอยู่เหนือน้ำ”

เมื่อเรากราบพระพุทธรูป เราจะเห็นว่าพระพุทธเจ้าประทับอยู่บนดอกบัว ที่เป็นอย่างนี้เพราะพระพุทธเจ้าทรงเปรียบพระองค์เองเหมือนดอกบัวที่เกิดจากโคลนตมแต่โผล่พ้นน้ำโดยไม่แปดเปื้อนมลภาวะรอบข้าง พระพุทธเจ้าทรงอยู่ในโลกโดยที่จิตใจของพระองค์อยู่เหนือโลกธรรม

พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ปุณฺฑรีกํ ยถา อุคฺคํ” เป็นต้น แปลความว่า “ดอกบัวโผล่พ้นน้ำ ไม่แปดเปื้อนน้ำ ฉันใด เราอยู่ในโลก ไม่แปดเปื้อนด้วยโลกธรรม ฉันนั้น เพราะฉะนั้น เราจึงเป็นพุทธะ”

สมดังคำประพันธ์ที่ว่า
“องค์ใดพระสัมพุทธ สุวิสุทธสันดาน
ตัดมูลเกลศมาร บ่ มิหม่นมิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว
ราคี บ พันพัว สุวคนธ กำจร”

ขอทุกท่านจงมีดวงตาเห็นธรรมและมีจิตใจที่เบิกบานเหมือนดอกบัว

ลัก...ยิ้ม 09-11-2009 14:51

จากหนังสือ ดวงตาเห็นธรรม พระธรรมโกศาจารย์, ศ.ดร.(ประยูร ธมฺมจิตฺโต) มูลนิธิมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

พญาวัง 25-03-2010 12:48

ดวงตาเห็นธรรม
สิ่งไหนรู้ได้คิดได้ สิ่งนั้นไม่ใช่เรา เพราะเราเป็นผู้เห็นสิ่งนั้น
เราเห็นพระอาทิตย์ขึ้น-ลง แสดงว่าเราไม่ใช่พระอาทิตย์
เราเห็นเราตั้งแต่เด็กจนโต แสดงว่าเราไม่ใช่เรา
เราเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็แสดงว่าเราไม่ใช่ธรรม และเมื่อพิจารณาแล้วก็จะเห็นแต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคงอยู่ไม่ได้ทั้งหมดในใจเรา แล้วสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ไหน ใครเป็นคนเห็นมันตั้งแต่ต้นจนจบ.
.สิ่งไหนเปลี่ยนแปลง สิ่งนั้นไม่ใช่เรา เพราะเราเห็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลง.
.หากันแทบตายที่แท้ก็อยู่กับเรานี่เอง.


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:40


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว