กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4693)

เถรี 22-11-2015 19:43

"ก่อนตักบาตรเทโวฯ และกฐิน เข้ากรรมฐานอยู่ ๓ วัน เหมือนกับโดนทดสอบกำลังใจ เพราะว่าหมาทั้งวัดพร้อมใจกันมากัดกันอยู่รอบกุฏิ เขามาแย่งตัวเมียกัน แล้วตัวเมียอยู่แถวนั้นพอดี ก็เลยต้องใช้วิธีภาวนาหนี ภาวนาไปเรื่อย ๆ กลับเจออารมณ์ประหลาด ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน ก็คือ กายนอกกับกายในแบ่งเป็นต่างคนต่างอยู่ พอต่างคนต่างอยู่ อยากได้ยินเสียงก็ได้ยิน ไม่อยากได้ยินเสียงก็ไม่ได้ยิน ก็เลยยังงง ๆ อยู่ว่านี่คืออะไร ?

ถ้าเป็นการเข้าสมาธิให้จิตกับประสาทแยกออกจากกัน เราต้องทรงสมาธิ แต่ว่าในตอนนั้นไม่ต้องทรงสมาธิแต่เป็นไปเอง นี่คือเรื่องหนึ่งที่ไม่เคยพบมาก่อน กำลังอยู่ในช่วงหาคำตอบว่าเรียกว่าอะไร ? เพราะว่า "หลวงพ่อ" ท่านก็ไม่เฉลย พระท่านก็ไม่เฉลย ปล่อยให้คลำเอาเอง ส่วนใหญ่พอคลำเจอ ท่านก็จะมาเฉลยว่าตรงกันไหม นับว่าชีวิตยากเข็ญ เป็นทุกขาปฏิปทาจริง ๆ"

เถรี 22-11-2015 19:44

"ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือส่วนของการอดอาหาร ปกติแล้วพออดอาหารนาน ๆ แล้วมาฉันใหม่ กระเพาะอาหารจะทำงานลำบาก ต้องฉันอาหารอ่อนทีละน้อยเพื่อให้กระเพาะเคยชิน แต่ว่าครั้งนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น เหมือนกับว่ากระเพาะอาหารเขาหยุดทำงานเฉย ๆ เหมือนนอนหลับไปพักหนึ่ง พอตื่นขึ้นมาก็กินต่อได้

แต่แรก ๆ ก็ไม่กล้าไปยุ่งกับเขามาก กลัวว่าถ้าหลงระเริงแล้วอาหารทำพิษขึ้นมาก็แย่กันพอดี จึงเลือกฉันอาหารอ่อน พวกผักต้ม ก็รู้สึกว่าปกติดี เมื่อวานนี้ตอนมื้อเช้าก็เลยลองใส่เสียเต็มที่ แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ มาผิดปกติตอนมื้อกลางวันนิดเดียว เพราะเริ่มลองของเผ็ดดู เกิดลมตีขึ้น ความจริงถ้าเราเข้ากรรมฐานกันทุกคนจะประหยัดมาก เพราะเปลืองแต่น้ำอย่างเดียว อย่างอื่นไม่มีอะไรเปลือง"

เถรี 22-11-2015 20:00

"ชวน "เด็กหญิงนิว" ให้มาอดข้าวกับหลวงพ่อ อยากมีเพื่อนอดข้าว บอกว่า "หลวงพ่อไม่ชวนใครเลย ทั้งประเทศไทยชวนหนูอยู่คนเดียว" เป็นตายก็ไม่เอา ของนิวนี่ถ้ามื้อไหนกินไม่ได้ดั่งใจก็จะร้องห่มร้องไห้อาละวาด ตัวเขาใหญ่กว่าพี่สาวสองเท่าครึ่ง แต่ว่าทำงานคุ้ม แม่เขาบอกว่าไปตลาดซื้อข้าวสารถังหนึ่ง ลูกเขาแบกไหว เด็กเพิ่งจะ ๕ – ๖ ขวบ แบกข้าวสารถังหนึ่งไหวก็สุดยอดแล้ว ต้องบอกว่าทำงานคุ้มกับที่กินลงไป"

เถรี 22-11-2015 20:03

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระครูสมุห์ธรรพ์ณธร ธมฺมทินฺโน เจ้าอาวาสวัดหนองบ้านเก่า บอกว่า “ผมก่อสร้างแค่นี้ก็เบื่อจะตายชักแล้ว หลวงพ่อไม่เบื่อบ้างหรือครับ ?” ตอบว่า “ผมเบื่อกว่าคุณอีก” “เบื่อแบบไหนครับ ? ยิ่งสร้างยิ่งใหญ่ไปเรื่อย” ก็บอกว่า “เพราะเบื่อก็เลยต้องสร้าง ถ้าอยู่เฉย ๆ จะเบื่อกว่านั้นอีก”

ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะเกินที่จะเบื่อแล้ว เมื่อเป็นหน้าที่ซึ่งจะต้องทำก็ทำไป เราอย่าไปมองยาว ๆ มองอย่างไกลที่สุดแค่วันนี้ พ้นจากวันนี้ไปเราตาย ทุกอย่างก็จบแล้ว ในเมื่อทำตัวเองเป็นคนไม่มีพรุ่งนี้ วันนี้ก็เลยต้องทำงานให้เต็มที่หน่อย"

เถรี 22-11-2015 20:10

พระอาจารย์กล่าวว่า "รองเจ้าคณะใหญ่จีนนิกายวัดเล่งเน่ยยี่ เพิ่งจะมรณภาพไปเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้ รุ่นนี้เป็นรุ่นอักษรเย็น เวลาคนจีนบวชจะมีลำดับรุ่นอยู่ข้างหน้า พอได้ยินลำดับรุ่นก็จะรู้ว่าคือรุ่นไหน บวชมุมไหนของโลกนี้ก็จะเป็นลำดับรุ่นนั้น อย่างถ้าอาตมาบวชก็จะเป็นรุ่นหนึ่ง รุ่นหนึ่งบวชให้ก็จะกลายเป็นรุ่นสอง รุ่นสองบวชให้ก็จะกลายเป็นรุ่นสาม สมมติว่าอาตมามีลูกศิษย์ร้อยคนแยกย้ายไปบวชให้คนทั่วโลก ก็จะเป็นรุ่นสองทั่วโลก

ของจีนนิกายเขากำหนดด้วยอักษร ในเมื่อเป็นอักษรก็ทำให้รู้ว่าเป็นอาวุโสรุ่นเดียวกัน แต่ว่าไม่ค่อยดีตรงที่ว่าหลวงปู่บางท่านอายุยืนเหลือเกิน บวชให้คนแรกเมื่อ ๕๐ ปีที่แล้ว พอมาบวชคนล่าสุด ห่างกัน ๕๐ ปีแต่กลายเป็นรุ่นเดียวกัน"

เถรี 23-11-2015 15:19

ถาม : พาน้องสาวไปงานตักบาตรเทโว-ทอดกฐินที่วัด พอเขากลับไปแล้วลูกค้ามาแน่นร้านเลยค่ะ ?
ตอบ : เท่าที่อาตมาสังเกตตัวเอง พอเข้ากรรมฐานแล้วไม่ว่าจะเป็นข้าวของเงินทอง มามหึมาหลายเท่าเลย จึงไม่แปลก ทำบุญเสร็จสรรพกลับไปงานเข้าเพียบ จึงควรจะมาบ่อย ๆ

แต่ว่าการเข้ากรรมฐานทั้ง ๒ ครั้งตามที่ท่านสั่งเหมือนอย่างกับว่าท่านจัดเวลาไว้ให้ ครั้งก่อนโน้นก็ติดงานสอนพอดี แต่ว่าไม่ทราบเหมือนกันว่าเจ้าหน้าที่เขาจัดสลับให้ท่าไหน กลายเป็นวันว่าง ก็เลยเข้ากรรมฐานได้ ๓ วัน งวดนี้จริง ๆ แล้วก็ติดวันสอน แต่เขาให้หยุดวันออกพรรษาพอดี ดังนั้น...ถ้าเป็นเรื่องที่ท่านสั่งก็ทำไปเถอะ

เถรี 23-11-2015 18:39

พระอาจารย์กล่าวว่า “กำลังใจเด็กวัดท่าขนุนกับแม่ชีสู้ชาวปิ๊กมี่ไม่ได้ เห็นเครื่องสังฆทานเต็มกุฏิแม่ชีแล้วแทบจะนั่งร้องไห้ ทำอะไรไม่ถูก พวกปิ๊กมี่เป็นชนเผ่าพื้นเมืองแอฟริกา ตัวเล็กนิดเดียวเหมือนอย่างกับเด็กแคระบ้านเรา แต่กำลังใจเหลือล้น ย่องตามฝูงช้างไปแล้วก็เอาหอกแทงเอ็นขา พอช้างล้มก็ช่วยกันชำแหละ คติพจน์ของชาวปิ๊กมีก็คือ “ช้างตัวใหญ่แค่ไหนก็ค่อย ๆ กินไปทีละคำ” สามารถเอามาเป็นหลักในการทำงานใหญ่ ๆ ของเราได้”

เถรี 23-11-2015 19:10

ถาม : ในบารมี ๑๐ มีบางข้อที่เราถนัด แล้วบางข้อที่เราไม่ถนัด ถ้าเราทำแต่ที่เราถนัด ข้อที่เหลือจะเต็มทั้งหมดได้หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ได้...เพียงแต่ว่าตัวที่เราถนัดถือว่าเป็นวิชาเอก ที่ไม่ถนัดให้เป็นวิชาโท

ถาม : ถ้าเราเน้นข้อที่เราถนัดแล้วที่ไม่ถนัดจะขึ้นมาเองหรือคะ ?
ตอบ : ขึ้นมาเองแต่ให้เราเน้นนิดหนึ่ง ถึงได้บอกว่าอย่างไรก็ให้เป็นวิชาโทไว้ คืออย่าไปปล่อยตามบุญตามกรรม

ถาม : ทำตัวเดียวก็ได้หรือครับ ?
ตอบ : ทำตัวเดียวก็ได้ทั้งหมด

ถาม : หลักนี้รวมถึงหัวข้อธรรมอื่นด้วยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ท่านกล่าวถึงเฉพาะบารมี ๑๐ เพราะบารมีขึ้นต้นด้วยปัญญา คนมีปัญญาถึงรู้ว่าดีก็ต้องทำ แล้วเรามีต้นทุนอะไร ถ้าขึ้นต้นด้วยทานบารมี ระหว่างในทานศีลเราพร่องไหม ? ถ้าศีลเราไม่พร่องก็มีศีลบารมี คนจะมีศีลต้องมีเมตตาบารมีเป็นส่วนประกอบ ทุกอย่างจะโดนดึงพ่วงมาคราวเดียวกันหมด แต่ว่าจะมามากมาน้อย มาช้ามาเร็วขึ้นอยู่กับบารมีต้นที่เราทำ

ถึงได้บอกว่าถ้าไปปล่อยไว้ลักษณะอย่างนั้นอาจจะช้าไปนิดหนึ่ง เพราะฉะนั้น...ข้อที่เราถนัดเป็นวิชาเอก ที่ไม่ถนัดให้เป็นวิชาโท คือไปเน้นหน่อยแต่ไม่เอามากเท่ากับวิชาเอก

เถรี 23-11-2015 19:32

ถาม : การที่หนูไปหา....(ไม่ชัด)... ?
ตอบ : ไม่จำเป็นต้องถึงขนาดนั้น ต้องเห็นคุณในพระรัตนตรัยจริง ๆ อย่างที่วันก่อนดุพวกที่ไปช่วยขนของงานตักบาตรเทโวฯ ประเภทที่ไปถึงก็โยน ๆ ทับ ๆ กันจนแตกหักเสียหายเยอะแยะ บอกว่า “เพราะว่าคุณไม่เห็นว่าของทั้งหลายเหล่านี้มาด้วยคุณของพระรัตนตรัย แต่คุณไปเห็นแค่ว่าเป็นของที่ชาวบ้านใส่บาตรมา คุณก็เลยไม่มีความเคารพในทานของเขา สักแต่ว่าทำส่งเดชไปเท่านั้น แต่ถ้าคุณเห็นว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ได้มาด้วยอำนาจคุณของพระรัตนตรัย ก็จะเกิดความเคารพในทานที่เขาให้ ไม่ว่าจะหยิบจะจับอย่างไรก็แสดงออกด้วยความเคารพ ก็จะไม่เสียหายแบบนี้”

ลักษณะเดียวกัน ถ้าเราเห็นคุณของพระรัตนตรัยก็จะกราบได้ตรง แต่ถ้ายังไม่เห็นก็หมั่นพิจารณาในพุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ดูว่าท่านมีความดีอย่างไร หลังจากนั้นถ้าเข้าไปในใจเราเมื่อไร เดี๋ยวก็กราบได้เต็มไม้เต็มมือเอง

เถรี 23-11-2015 19:58

ถาม : อารมณ์ที่นับถือพระรัตนตรัยได้อย่างมั่นคง ?
ตอบ : ทำอย่างไรจะยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งจริง ๆ เคยเปรียบให้พระท่านฟังว่า เหมือนอย่างกับเราตกเหวแล้วมีคนยื่นเชือกมาให้ เราต้องจับเชือกนั้นแน่นขนาดไหนเพื่อช่วยชีวิตตัวเอง ก็คือเกาะพระรัตนตรัยแบบนั้น

ถาม : อย่างกรณีที่จับภาพพระ..(ไม่ชัด)... ?
ตอบ : ได้...แต่สภาพจิตให้ทำทุกอย่างเหมือนกับตอนที่เรากำหนดภาพพระแล้วกราบ พูดง่าย ๆ ก็คือว่าถ้าเรากราบในความเป็นจริงก็กราบในลักษณะนั้น ไม่ใช่ว่าน้อมกราบเฉพาะตอนที่เราทำมโนมยิทธิอยู่แต่ว่าภายนอกเราสักแต่ว่าแปะ ๆ ให้ครบ ๓ ครั้ง

ถาม : ตอนที่เรากราบพระนี่คือให้เอาจิตกราบพระข้างบนพระนิพพานด้วย ?
ตอบ : กราบข้างบนด้วย กราบข้างล่างด้วย

ถาม : แต่ถ้าทำมโนมยิทธิไม่ได้ ก็กราบไม่ถึงสิคะ ?
ตอบ : ไม่ได้ก็เอาจริง ๆ จัง ๆ สักอย่างเดียว กราบข้างล่างก็ข้างล่าง แต่กราบแล้วนึกจริง ๆ จัง ๆ ไปด้วยว่าตอนนี้เรากราบพระอยู่

เถรี 23-11-2015 20:06

ถาม : เวลาสวดมนต์ถึงบางช่วงแล้วมีน้ำตาไหล ?
ตอบ : ลักษณะของปีติขึ้น อย่าไปบังคับ ปล่อยให้ร้องไปเลย ถ้าเลยปีติไปก็จะเป็นสุขแล้วก็ทรงฌานไปเลย ซึ่งมักจะมาติดกันจนบางทีแยกไม่ทัน แต่ถ้าเราไปบังคับให้หยุดเพราะกลัวอายเขา หรือว่าอะไรก็ตาม มาเมื่อไรก็จะอยู่แค่นั้น แล้วก็ก้าวข้ามไม่ได้สักที กำลังสมาธิจะไม่สูงไปกว่านั้น

เถรี 23-11-2015 20:28

ถาม : เวลาสวดถึงช่วงที่ว่า “ชราปิ ทุกขา” น้ำตาไหลสวดต่อไม่ได้เลย ?
ตอบ : ปกติต้องคิดตาม ถ้าไม่คิดตามก็ได้ประโยชน์น้อย ถ้าคิดตามเป็นวิปัสสนา แต่ถ้าสวดอย่างเดียวเป็นสมถกรรมฐาน ลักษณะนั้นแหละที่เขาเรียกว่าปีติในธรรม เพราะเห็นจริง ๆ ว่า ที่แท้ร่างกายเราก้าวไปหาความแก่อยู่ตลอดเวลา บังคับบัญชาไม่ได้ แล้วเราก็หลงไปยึดไปเกาะมาชาติแล้วชาติเล่า

ถาม : การคิดตามเป็นวิปัสสนาหรือครับ ?
ตอบ : ธรรมะของพระพุทธเจ้าท่านสอนให้คิดตามอยู่แล้ว ถ้าคิดตามแล้วเห็นจริงก็เป็นวิปัสสนา โดยเฉพาะเนื้อหาที่ตรงกับการรู้แจ้งเกี่ยวกับร่างกาย

เถรี 23-11-2015 20:52

ถาม : เศรษฐกิจปีหน้าจะเป็นอย่างไรบ้างคะ ?
ตอบ : แย่กว่าปีนี้เยอะ..!

ถาม : จะเป็นลม..!!?
ตอบ : เป็นทำไม ? ก็พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เศรษฐกิจไม่ดีเราก็ฉวยโอกาสปฏิบัติธรรม ไม่ต้องลงทุนให้ขาดทุน ก่อนหน้านี้มัวแต่ทำธุรกิจอยู่ไม่ค่อยได้ปฏิบัติธรรม เพราะฉะนั้น..พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ในเมื่อเศรษฐกิจไม่ดีเราก็ปฏิบัติธรรมให้มากขึ้น วิธีที่ดีที่สุดก็คือภาวนาคาถาเงินล้านเยอะ ๆ เดี๋ยวคนอื่นไปไม่ได้เราก็ไปได้เอง

ถาม : ตอนนี้ก็ท่องอยู่ค่ะ ภาวนาประคำสองเที่ยว ?
ตอบ : พยายามให้รู้สึกว่าให้เรามีหน้าที่ภาวนา ตัดความอยากรวยทิ้งไป เรามีหน้าที่ภาวนา ถ้าหากว่าไปอยากรวย จะตัดสิ่งที่ควรจะได้ไปเยอะ

เถรี 23-11-2015 21:51

:4672615:เก็บตกเดือนพฤศจิกายน ปี ๕๘ หมดแล้วค่ะ:4672615:
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า คะน้าอ่อน เถรี รัตนาวุธ


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:03


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว