กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   กระทู้ธรรม (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=2)
-   -   ข้ออ้างของคนขี้เกียจ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1071)

เถรี 16-09-2009 01:42

ข้ออ้างของคนขี้เกียจ
 
กุสีตวัตถุ ๘



๑. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้จะต้องทำการงาน เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า เราจักต้องทำการงาน ก็เมื่อเราทำการงานอยู่ ร่างกายจักเหน็ดเหนื่อย ควรที่เราจะนอน เธอนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังมิได้ทำให้แจ้ง นี้เป็นวัตถุแห่งความเกียจคร้านข้อที่หนึ่ง ฯ

๒. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุทำการงานเสร็จแล้ว เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า เราได้ทำการงานแล้ว ก็เมื่อเราทำการงานอยู่ ร่างกายเหน็ดเหนื่อยแล้ว ควรที่เราจะนอน เธอนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังมิได้ทำให้แจ้ง นี้เป็นวัตถุแห่งความเกียจคร้านข้อที่สอง ฯ

๓. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุจะต้องเดินทาง เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า เราจักต้องเดินทาง ก็เมื่อเราเดินทางไปอยู่ ร่างกายจักเหน็ดเหนื่อย ควรที่เราจะนอน เธอนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังมิได้ทำให้แจ้ง นี้เป็นวัตถุแห่งความเกียจคร้านข้อที่สาม ฯ

๔. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุเดินทางไปถึงแล้ว เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า เราได้เดินทางไปถึงแล้ว ก็เมื่อเราเดินทางอยู่ ร่างกายจักเหน็ดเหนื่อย ควรที่เราจะนอน เธอนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังมิได้ทำให้แจ้ง นี้เป็นวัตถุแห่งความเกียจคร้านข้อที่สี่ ฯ

โอรส 16-09-2009 13:56

๕. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุเที่ยวบิณฑบาตไปยังบ้านหรือนิคม ไม่ได้ความบริบูรณ์แห่งโภชนะที่เศร้าหมองหรือประณีตพอแก่ความต้องการ เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า เราเที่ยวบิณฑบาตไปยังบ้านหรือนิคม ไม่ได้ความบริบูรณ์แห่งโภชนะที่เศร้าหมองหรือประณีตพอแก่ความต้องการ ร่างกายของเรานั้นเหน็ดเหนื่อยไม่ควรแก่การงาน ควรที่เราจะนอน เธอนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง นี้เป็นวัตถุแห่งความเกียจคร้านข้อที่ห้า ฯ

๖. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุเที่ยวบิณฑบาตไปยังบ้านหรือนิคม ได้ความบริบูรณ์แห่งโภชนะที่เศร้าหมองหรือประณีตพอแก่ความต้องการแล้ว เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า เราเที่ยวบิณฑบาตไปยังบ้านหรือนิคม ได้ความบริบูรณ์แห่งโภชนะที่เศร้าหมองหรือประณีตพอแก่ความต้องการแล้ว ร่างกายของเรานั้นเหน็ดเหนื่อย ไม่ควรแก่การงานเหมือนถั่วลาชมาศที่ชุ่มน้ำ ควรที่เราจะนอน เธอนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังมิได้ทำให้แจ้ง นี้เป็นวัตถุแห่งความเกียจคร้านข้อที่หก ฯ

๗. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอีก อาพาธเพียงเล็กน้อยเกิดขึ้นแก่ภิกษุ เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า อาพาธเล็กน้อยเกิดขึ้นแก่เราแล้ว ความสมควรเพื่อจะนอนมีอยู่ ควรที่เราจะนอน เธอนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังมิได้ทำให้แจ้ง นี้เป็นวัตถุแห่งความเกียจคร้านข้อที่เจ็ด ฯ

๘. ดูกรผู้มีอายุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอีก ภิกษุหายจากไข้ หายจากความเป็นไข้ได้ไม่นาน เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า เราหายจากไข้ หายจากความเป็นไข้ได้ไม่นาน ร่างกายของเรานั้นยังอ่อนแอ ไม่ควรแก่การงาน ควรที่เราจะนอน เธอนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุเพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังมิได้ทำให้แจ้ง นี้เป็นวัตถุแห่งความเกียจคร้านข้อที่แปด


พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๑๕
อังคุตตรนิกาย > อัฏฐกนิบาต > วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์ > ยมกวรรค > กุสีตวัตถุสูตร

โอรส 16-09-2009 13:58

"คนขี้เกียจอ่านแล้วละอายใจไหมครับ :154218d4:"

ทิดตู่ 17-09-2009 22:50

นึกถึงสมัยก่อน เวลาที่หลวงพี่ท่านสั่งให้ทำงานอะไร ใจมันก็มักจะคิดว่า "เดี๋ยวก่อนค่อยทำ ไว้แดดร่มหน่อยค่อยทำ ไว้หายอิ่มก่อนค่อยทำ ฯลฯ" แค่คิดในใจ หลวงพี่ท่านพูดขึ้นมาลอย ๆ พลางมองท้องฟ้า (เหมือนบอกกับเทวดา) ว่า

"บุคคลผู้เกียจคร้าน มักผลัดวันประกันพรุ่ง โดยกล่าวกับตนว่า หนาวเกินไปบ้าง ร้อนเกินไปบ้าง อิ่มเกินไปบ้าง หิวเกินไปบ้าง เช้าเกินไปบ้าง สายเกินไปบ้าง...ฯลฯ"

"เอ่อ..เอ่อ ครับ ๆ พอเถอะครับหลวงพี่ ผมรับทราบแล้วครับ ผมจะรีบไปทำเดี๋ยวนี้แล้วครับ"

หลวงพี่ลดสายตามองหน้า พลางหัวเราะและยิ้มด้วยความสะใจ แฝงนัยอันลี้ลับ

"โธ่! หลวงพี่ครับ บอกผมตรง ๆ คงไม่เจ็บขนาดนี้ นี่ยกธรรมะขึ้นมาพูด แล้วผมจะเอาอะไรมาอ้างได้ละครับ:onion_no:" (ผมคิดในใจ พลางรีบไปทำงานที่ท่านสั่งในทันที)

ทิดตู่ 18-09-2009 11:43

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สุธรรม (โพสต์ 19551)
:a47173957fi0: ออกแนวหนังผีหรือฆาตกรรมอำพรางอย่างไรพิกล..!

๕๕๕ ครับ ๆ คล้ายแนวสืบสวนสอบสวน ประมาณว่า ต้องพิจารณาดูก่อนว่า
"เอ๊ะ? ท่านว่าเราหรือเปล่าหว่า เอ๊ะ? หรือท่านไม่ได้พูดกับเรานะ เอ๊ะ? หรือท่านว่าลอย ๆ เอ๊ะ? หรือท่านว่าคนอื่น เอ๊ะ? ท่านพูดจริงหรือพูดเล่น เอ๊ะ? เราจะทำตามเลยดี หรือรอไว้ก่อนอย่างที่ตั้งใจดี"

มันต้องมีการสอบสวนกันก่อน แต่พอได้ข้อสรุปแล้ว พบว่าแท้ที่จริงแล้วการกระทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรไปจาก "ผมถูกคดีฆาตกรรมอำพรางนั่นเอง!" (เนียนแบบผมโดนไม่รู้ตัว) ๕๕๕ :msn_smilies-11::a471739513as2::conion-04::4412144b:

สไบเงิน 18-09-2009 11:47

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ทิดตู่ (โพสต์ 19561)
๕๕๕ ครับ ๆ คล้ายแนวสืบสวนสอบสวน ประมาณว่า ต้องพิจารณาดูก่อนว่า
"เอ๊ะ? ท่านว่าเราหรือเปล่าหว่า เอ๊ะ? หรือท่านไม่ได้พูดกับเรานะ เอ๊ะ? หรือท่านว่าลอย ๆ เอ๊ะ? หรือท่านว่าคนอื่น เอ๊ะ? ท่านพูดจริงหรือพูดเล่น เอ๊ะ? เราจะทำตามเลยดี หรือรอไว้ก่อนอย่างที่ตั้งใจดี"

มันต้องมีการสอบสวนกันก่อน แต่พอได้ข้อสรุปแล้ว พบว่าแท้ที่จริงแล้วการกระทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรไปจาก "ผมถูกคดีฆาตกรรมอำพรางนั่นเอง!" (เนียนแบบผมโดนไม่รู้ตัว) ๕๕๕ :msn_smilies-11::a471739513as2::conion-04::4412144b:


ดีว่าไม่ถูกฆาตกรรมในห้องปิดตาย:onion_eiei:

ชุตินฺธโร 18-09-2009 12:12

แต่ก่อน ที่คุณโยมทิดตู่เล่ามาฟังแล้วคงไม่เข้าใจ ตอนนี้ ใบหน้าที่ว่า หัวเราะและยิ้มด้วยความสะใจ แฝงนัยอันลี้ลับ แจ่มแจ้ง คม ชัด ลึก ใสแจ๋ว เลย แต่คิดถึงเมื่อไหร่
ก็มีแต่ความอิ่มใจเมื่อนั้น


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:29


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว