กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๖๐ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5360)

เถรี 21-01-2017 15:54

ถาม : (โดนไสยศาสตร์มา อยากให้ช่วยรักษา)
ตอบ : วันที่ ๑ เมษายน ที่วัดมีงานเป่ายันต์เกราะเพชร ไปเข้าพิธีที่นั่นนะ อาตมาก็ยังแปลกใจว่ามีข่าวไปได้อย่างไรว่าอาตมารักษาไสยศาสตร์เป็น ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยรักษาใคร พวกที่เป็นแล้วหาย ๆ เป็นเพราะไปเข้าพิธียันต์เกราะเพชรที่วัดท่าขนุน แล้วงานเป่ายันต์เกราะเพชร ถ้าหากว่าพระหรือครูบาอาจารย์ท่านไม่สั่ง อาตมาก็ทำไม่ได้อีกต่างหาก ฉะนั้น...โยมโดนคุณไสย อาตมาก็ได้แต่นั่งมองคิดอยู่ว่า โยมโชคดีแท้ ทำไมกูไม่โดนสักที ?!

คราวหน้าใครเป็นก็ไปเข้าพิธีตอนเป่ายันต์ฯ ได้ ถ้าปกติแล้วมาให้อาตมารักษา อาตมาทำไม่เป็นหรอก ส่วนใหญ่เขาไปคิดว่าอาตมารักษาให้ได้ทุกเวลา หารู้ไม่ว่าอาตมาจะเก่งแค่ตอนมีงานเท่านั้น ถ้านอกงานบางทียังสู้โยมไม่ได้เลย

โยมจำนวนมากต้องบอกว่าไปแส่หาไสยศาสตร์ใส่ตัวเอง โดยการไปตามสำนักทรงบ้าง สำนักสักบ้าง พูดง่าย ๆ ว่าขาดความมั่นใจในตนเอง ไปหาเขาก็โดนเขาใช้ผีบ้าง ใช้ไสยศาสตร์บ้าง คุมเอาไว้ เจตนาของเขาก็คือใช้หาเงินให้เขาบ่อย ๆ โดยเฉพาะคนที่ไปรับขันธ์มาเรื่อย

การรับขันธ์แปลว่าเรายอมรับเขา เขาก็สามารถควบคุมเราได้ง่าย ถามว่าจะแก้ไขอย่างไร ? ก็เอาขันลอยน้ำไป ถ้าขันธ์ไม่อยู่ก็แก้ง่ายกว่า ถ้ายังอยู่ก็เหมือนมีแหล่งส่งพลังงานอยู่ตลอดเวลา จะแก้ไขยาก

เถรี 21-01-2017 15:55

หลายคนก็ประเภทจิตอ่อน พอเขาทักว่ามีองค์ก็เชื่อ อาตมายืนยันว่าโยมแต่ละคนมีไม่ต่ำกว่า ๗ องค์ ๘ องค์ เพราะว่าทุกคนเกิดมาต้องมีเทวดาประจำตัวคอยรักษาทั้งนั้น ในเมื่อเป็นอย่างนั้นถ้าไม่มีองค์จึงเป็นไปไม่ได้ แต่นอกจากเราไม่นึกถึงท่าน ไม่ขอให้ท่านช่วยแล้ว ยังไปรับของที่ไม่ดีเข้ามาอีก ในเมื่อเราเป็นคนรับเข้ามาเอง เทวดาก็รักษาไม่ได้ เหมือนกับเราเปิดประตูให้โจรเข้าบ้าน แล้วตำรวจที่ไหนจะมาป้องกันให้ได้ ในเมื่อเจ้าของบ้านไปรับโจรเข้ามาเอง

ฉะนั้น...ควรทำบุญทำกุศลอุทิศให้กับเทวดาประจำตัวบ้าง มีอะไรก็บอกกล่าวให้ท่านช่วยเหลือป้องกันให้กับเรา อุทิศให้เจ้าที่เจ้าทางที่รักษาบ้านเรือนของเรา มีอะไรไม่เหลือบ่ากว่าแรง ก็ขอให้ท่านสงเคราะห์ป้องกันให้ด้วย

เถรี 21-01-2017 15:57

ส่วนอีกประเภทหนึ่งเป็นเพราะฮอร์โมนเริ่มพร่อง ก้าวเข้าสู่วัยทอง มีอาการประหลาด ๆ แทนที่จะไปให้หมอตรวจเพื่อเอาฮอร์โมนเสริมมากิน ก็ดันไปหาหมอผี ถูกตีความว่าโดนไสยศาสตร์มา สรุปแล้วเป็นพระอาจารย์เล็กนี่เครียด บางคนพาไปถึงวัดบอกว่าโดนไสยศาสตร์มา อาตมาบอกว่าไม่โดนอะไร เขาก็ไม่เชื่อ บอกช่วยรดน้ำมนต์ให้หน่อย เลยราดไปถังหนึ่งเต็ม ๆ เปียกมะลอกมะแลกไปเลย อยากจะให้ไปรดช่วงหน้าหนาวจริง ๆ...!

บางคนในบ้านตัวเองร้อนจนเหมือนกับไฟนรก แต่ละคนร้อนอกร้อนใจ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ไประบายอารมณ์กับเด็ก ๆ เวลาเด็กในบ้านไปเจอคนข้างนอกเขาพูดดี พูดเพราะด้วยก็ไปติดเขา ผู้ใหญ่ก็บอกว่าไปโดนเขาทำไสยศาสตร์ ความจริงแล้วไสยศาสตร์อยู่ในบ้านตัวเอง คือไปขับไล่ไสส่งเขาโดยไม่เจตนา ถ้าทำให้บ้านเย็นสงบลงได้ ทุกอย่างก็ดีขึ้น แต่ส่วนใหญ่ไม่เคยพินิจพิจารณาว่าเป็นความผิดตัวเอง เที่ยวไปโทษอย่างอื่น

เถรี 21-01-2017 15:58

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้รถตู้เฮงจริง ๆ ขับอยู่ดี ๆ ก็ไฟไหม้ให้วิ่งหนีกันอลหม่าน สมัยที่หลวงพ่อพระพรหมเวที วัดพระปฐมเจดีย์ ตอนนั้นท่านยังเป็นพระธรรมปริยัติเวที นั่งรถตู้ไป ควันขึ้นโขมง ท่านลงจากรถอย่างสง่ามาก เดินอย่างคนใจเย็นมากเลย ไปนั่งพักที่ป้ายรถเมล์ซึ่งอยู่ไม่ไกล ทางด้านนี้รถตู้ก็ไฟไหม้ไป เออ...พระผู้ใหญ่ท่านมีสติมากเลย เอ้อระเหยลอยชาย แทบจะจงกรม ยกหนอ...ย่างหนอ...เหยียบหนอ ดูแล้วท่านสมกับเป็นพระผู้ใหญ่จริง ๆ"

เถรี 21-01-2017 16:00

"อย่างที่อาตมาบอกเมื่อวานว่า รถตู้เกิดมาจากช่องว่างในการขนส่งสาธารณะ จึงมาเสริมเต็มตรงจุดนั้นพอดี คราวนี้รถตู้จริง ๆ ก็ไม่มีปัญหาหรอก ปัญหาอยู่ที่รถตู้ไม่ได้ทำมาเป็นรถโดยสาร ในเมื่อไม่ได้ทำมาเป็นรถโดยสารทั่วไป ความปลอดภัยจึงมีน้อย

วันก่อนโยมส่งคลิปเข้ามาในไลน์ของวัด เห็นว่ามีลูกบอลดับเพลิง น่าใช้มาก ตรงไหนไฟติด โยนเข้าไปเถอะ พอไฟไหม้ก็ระเบิดตูมดับสนิทเลย ไหม้รถขนาดไหนก็ดับได้เพราะว่าตัดอากาศออกไปหมด แต่อาตมาสงสัยอยู่อย่างเดียวคือ ถ้ามีคนบาดเจ็บติดอยู่ตรงนั้น จะตายไปด้วย เพราะว่าไม่มีอากาศหายใจ พอผลักอากาศออกไปหมด ไม่มีออกซิเจนไฟก็ดับ แต่คนไม่มีออกซิเจน คนอาจจะดับไปด้วย ยกเว้นว่าเขาลากออกมาทัน

บ้านเราส่วนใหญ่ไม่ได้แก้ปัญหาแบบบูรณาการ คือไม่ได้มองภาพรวมแล้วแก้ไปพร้อม ๆ กัน แก้ทีละอย่างก็ลูบหน้าปะจมูกไปเรื่อย เราจะเห็นว่าขนาดรัฐบาลเผด็จการ สามารถใช้ ม.๔๔ สั่งงานได้ยังติดซ้ายติดขวาไปหมด เพราะว่ารถตู้ระบาดไปทั่วโลกแล้ว ไม่ใช่แค่ทั่วประเทศไทย"

เถรี 21-01-2017 16:03

"ตอนนี้ปัญหาใหญ่ของเราก็คือ รายได้หลักของประเทศมาจากการท่องเที่ยว แต่รัฐบาลไปปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยเหวี่ยงแหรวมกันไปหมด ยึดรถทัวร์ไป ๒,๐๐๐ กว่าคัน เลยทำให้ไม่มีรถทัวร์ไปรับนักท่องเที่ยว ในเมื่อไม่มีรถทัวร์ไปรับนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเข้าถึงพื้นที่ไม่ได้ คนในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร หรือคนที่ขายบริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ก็ไม่มีงาน ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างมาก

แล้วรัฐบาลที่พยายามจะทำให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดี แต่ไปห้ามรถตู้วิ่ง ก็มีคนอีกหลายพันคนไม่มีงานทำ ฉะนั้น...ถ้าหากว่าอาตมาเป็นพลเอกประยุทธ์ ก็คงจะเครียดจนหัวหงอกเหมือนกัน จับแพะชนแกะไปเรื่อย ไม่สามารถจะแก้ทีเดียวได้ทั้งหมด เพราะแก้ปัญหาหนึ่งก็ไปติดอีกปัญหาหนึ่ง จะสังเกตว่าคนเป็นนายกรัฐมนตรีบ้านเรา ขึ้นเป็นนายกฯ ไม่นานหรอก หน้าเหี่ยวไปตาม ๆ กัน เพราะว่าปัญหาของคนทั้งประเทศลงไปที่คน ๆ เดียว

ทัวร์ศูนย์เหรียญไม่ปราบก็ไม่ได้ แต่จะปราบประเภทปล่อยคนนี้ จับคนโน้น ก็ไม่เสมอภาคอีก พอจับไปทั้งหมด คนอื่นที่ทำมาหากินก็เฮงไปด้วย ก็ได้แต่รอว่าเมื่อไรจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วต่างประเทศเขายอมรับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น ช่วงนี้เป็นรัฐบาลเผด็จการ เขาจึงไม่ยอมค้าขายด้วย ไม่ยอมลงทุนด้วย พอกระแสการลงทุนจากข้างนอกไม่เข้ามา บ้านเราก็พลอยไม่กล้าลงทุน เพราะขาดความมั่นใจว่าลงทุนแล้วจะมีกำไรไหม หรือมีกำไรแต่คืนทุนช้า หรือไม่ก็ขาดทุนไปเลย

ในเมื่อไม่แน่ใจ คนในบ้านเราก็ไม่กล้าลงทุน ในเมื่อไม่กล้าลงทุน ก็เหลืออยู่อย่างเดียวคือ รัฐบาลแจกเงินไปเรื่อย ๆ การแจกเงินก็มีแต่จะพาให้ชาวบ้านเขาเสีย เพราะว่ารับเงินไปใช้เลย ไม่มีการต่อเติมเพิ่มเงินขึ้นมาอีก"

เถรี 21-01-2017 16:04

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมายืนยันว่าควายเป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก เพราะตั้งแต่เด็ก ๆ ก็คลุกคลีตีโมงกับควายมา เขารู้ภาษาทุกอย่าง สอนกันได้ จะให้เลี้ยวซ้าย จะให้เลี้ยวขวา ให้หยุดให้เดิน เขาเข้าใจหมด แล้วควายเป็นสัตว์ที่แข็งแรงมาก แต่ไม่คิดที่จะดื้อกับคน เพราะรู้ว่าคนเก่งกว่า นั่นเป็นความฉลาดของเขา

คนโบราณของเราเห็นวัวควายเป็นสัตว์ที่มีคุณ ถึงเวลาเว้นจากหน้านาหน้าไถ ก็พยายามบำรุงเลี้ยงเขาอย่างเต็มที่ เสียดายที่บ้านเราไม่ค่อยได้ใช้วัวควายแล้ว ทางด้านพม่ายังใช้เกวียนใช้รถม้ากันอยู่ เลี้ยงวัวเลี้ยงควายแต่ละตัวงามระดับพระโคบ้านเรา แต่พม่าไม่ค่อยมีควาย ส่วนใหญ่ควายถูกส่งมาขายเมืองไทยจนหมด อาตมาไปพม่าอยู่หลายปี เจอเกวียนเป็นหมื่นเล่ม แต่ส่วนใหญ่เทียมวัว ตั้งหลายปีเคยเจอ
เกวียนเทียมควายรวมกันแค่ ๔ เล่ม"

เถรี 21-01-2017 16:42

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานอาตมาย้ายห้องนอนเป็นครั้งที่ ๕ เพราะว่าสองห้องแรกกลิ่นส้วมเข้าไปได้ จะว่ากลิ่นส้วมก็ไม่ใช่หรอก ต้องบอกว่ากลิ่นท่อน้ำทิ้ง เกิดจากพวกนิสัยดีที่อาบน้ำไปฉี่รดไปนั่นแหละ คราวนี้กลิ่นก็อยู่ข้างในไม่ไปไหน เพราะว่าแบคทีเรียกินอยู่ตลอดเวลา ไปนึกถึงพระครูแสงที่ให้เขาเช่าบ้าน กลับไปบ้านเช่าทีไรโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลย เขาใช้อย่างเดียวไม่ได้รักษา แล้วบ้านเช่าคนที่จะดูแลรักษาให้ดีก็มีไม่กี่คนหรอก

อาตมาใช้รถคันที่แล้ว ๖ ปี คนมาเห็นยังบอกเหมือนใหม่อยู่เลย ใช้ของเขาก็ต้องดูแลรักษาให้ดีที่สุด เหมือนอย่างกับสังขารร่างกายของเรา ยืมโลกมาใช้ ในเมื่อยืมมา มารยาทในการยืมก็ต้องดูแลรักษาให้ดี ถึงเวลาจะได้คืนเขาไปในสภาพที่ดีที่สุด ไม่ใช่เจ็บไข้ได้ป่วยแล้วไม่รักษา ปล่อยให้โรคกำเริบไป ถึงเวลาร่างกายแย่ขึ้นมาจะปฏิบัติธรรมก็ไม่ได้เพราะว่าร่างกายไม่ไหวแล้ว"

เถรี 21-01-2017 16:43

"ไปนึกถึงพระโคธิกะที่ป่วยตลอดชีวิต แม้แต่ปฐมฌานก็ทรงไม่ได้ ท้ายสุดตัดสินใจว่าตายดีกว่า เอามีดโกนเชือดคอตาย กลายเป็นพระอรหันต์ไป พญามารตามหาทั่วทั้ง ๔ ทิศ ตอนแรกพญามารก็มาเยาะเย้ยพระพุทธเจ้าว่า "พระสาวกของพระสมณโคดมไม่หลุดพ้นจากมือของเรา" พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ปาปิมะ...ดูก่อนมารผู้มีบาป สาวกของเราพ้นจากมือของเธอแล้ว" พญามารไม่เชื่อ วิ่งไปหาทั้ง ๕ ทิศก็หาไม่เจอ ขึ้นฟ้าลงดิน หาในกลีบเมฆ ในมหาสมุทรทั่วไปหมด ไม่เชื่อว่าคนฆ่าตัวตายแล้วจะไปพระนิพพานได้

นั่นเป็นรายเดียวที่ปรากฏชัดที่สุด เพราะว่าเบื่อร่างกายจริง ๆ ป่วยมากจนไม่สามารถที่จะทรงฌานได้เพราะว่าร่างกายไม่ดี ในอรรถกถาท่านบอกว่า "เห็นฝุ่นฟุ้งไปในทิศทั้ง ๔" แสดงว่าพญามารวิ่งเร็วมาก ควานหาจนทั่ว ในสายตาชาวบ้านคงเห็นเหมือนกับพายุพัด"

เถรี 21-01-2017 19:32

ถาม : เวทนาเกิดทางกายก็มี เวทนาเกิดทางใจก็มี เวทนาเกิดทั้งกายและใจก็มี ?
ตอบ : เวทนาทางกายก็คือความเจ็บปวดของร่างกาย เวทนาทางใจก็อย่างเช่นเสียใจ

ถาม : แล้วเวทนาทั้งทางกายและใจ ?
ตอบ : ก็บวกกันเข้าไปสิ

ถาม : พระอรหันต์มีแต่เวทนาทางกาย แต่ไม่มีเวทนาทางใจใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เหลืออยู่แค่นั้นแหละ ใจท่านเลิกปรุงแต่งไปนานแล้ว เหลือแต่อุเบกขาเวทนา ต้องเรียกว่าสังขารุเปกขาญาณ

เถรี 21-01-2017 20:13

ถาม : เข้าปีชงครับ ?
ตอบ : ไม่เห็นจะมีปัญหา ตูชงมาตั้งกี่ปีแล้ว ยิ่งชงก็ยิ่งรวย

ถาม : ทำกำลังใจอย่างไรครับ ?
ตอบ : สำคัญตรงที่เราคิดดี พูดดี ทำดีหรือเปล่า ? ถ้าไปคิดว่าไม่ดีก็เท่ากับว่าเราไปแช่งตัวเอง

เถรี 21-01-2017 20:16

ถาม : เป็นริดสีดวงทวารครับ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าฝีคัณฑสูตร หาใบลำโพง รู้จักไหม ? เอาใบลำโพงมา ๕ ใบแล้วข้าวสุก ๑ กำมือ ตำเข้าด้วยกัน ผสมเข้ากันดีแล้วก็พอกตรงหัวฝีที่แตกแล้ว จะดูดหนองออกมาหมด

ถาม : ใบลำโพง ๕ กำ ?
ตอบ : มะเหงกแน่ะ...! บอกอยู่แหม็บ ๆ ว่า ๕ ใบกลายเป็น ๕ กำ เดี๋ยวก็ได้ตายกันบ้างหรอก

เถรี 22-01-2017 20:36

พระอาจารย์กล่าวว่า "การที่เราซื้อแต่ของร้าน 7 - Eleven ซื้อไปก็ช่วยแต่นายทุนมหาเศรษฐี เป็นการเอาเนื้อหนูไปปะเนื้อช้าง ต้องใช้หนูกี่ตัวล่ะ ? ลองคิดดู...ต้องซื้อของร้านค้าทั่วไปถึงจะช่วยให้เศรษฐกิจหมุนเวียน"

เถรี 22-01-2017 20:50

ถาม : วันก่อนไปกราบหลวงพ่อวิชา แล้วลาว่าจะไปวัดท่าขนุนต่อ กราบเรียนว่าที่จริงจะไม่ไปวัดท่าขนุนก็ได้ แต่อยากไป หลวงพ่อวิชาท่านว่า "อ้อ...เป็นเรื่องของหัวใจ" ถ้าเราคิดถึงจะไปกราบพระ...ตรงที่ใจอยากไปเป็นเรื่องของขันธ์ห้าที่เราเอาจิตไปจับใช่หรือไม่คะ ?
ตอบ : เอาเป็นว่าเราต้องมีเครื่องยึดเกาะ ถ้าเราไม่มีเครื่องยึด เราก็ปล่อยไม่ได้ ถ้าไม่ได้จับอะไรไว้แล้วเราจะปล่อยอย่างไร ? อันดับแรกของเราต้องเกาะในสิ่งที่ถูกต้องก่อน เมื่อเกาะแล้วตอนช่วงหลังถึงเวลาก็จะปล่อยเอง

เถรี 23-01-2017 22:03

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อหลายเดือนก่อนที่เตือนคนปักษ์ใต้ว่าน้ำจะท่วม อาตมายืนยันว่าที่ท่วมอยู่ตอนนี้ยังไม่หนักจริง บอกแค่นี้แหละ ไหน ๆ จะยุ่งกับเวรกรรมของชาวบ้านเขาแล้ว เพิ่มอีกนิดก็คงจะโดนไม่เท่าไร"

เถรี 23-01-2017 22:27

พระอาจารย์กล่าวว่า "การเดินทางมาบ้านเติมบุญนั้น ท่านใดเดินทางไกลขึ้นก็ถือว่าเป็นผู้เสียสละ ใช้ความอดทนพากเพียรมากกว่าคนอื่น ต้องบอกว่าเป็นการเร่งบารมีให้เต็มเร็วขึ้น ส่วนใครที่ใกล้ขึ้น โดยเฉพาะที่อยู่ข้างบ้านเลย อย่าเผลอเป็นใกล้เกลือกินด่าง มัวแต่นิ่งนอนใจ จะกลายเป็นกระต่ายนอนหลับให้เต่าแซงไปได้"

เถรี 23-01-2017 22:43

ถาม : อ่านเจอในหนังสือ เขาบอกว่าจะเชิญท่านท้าวมหาราช ปุริมัญจะ ทิสัง ราชาฯ ต้องมีเทปหลวงพ่อฤๅษีเท่านั้นหรือคะ ?
ตอบ : ถ้าสงสัยแล้วทำไมไม่ไปถามเขา

ถาม : เสียงพระรูปอื่นได้ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่ว่าเชิญด้วยความเคารพหรือเปล่า ? หลวงตาผ่องกับหลวงตานา เป็นหลวงตารุ่นเก่าของวัดท่าซุงเก่า อยู่มาตั้งแต่ก่อนหลวงพ่อฤๅษีจะไปอยู่วัดท่าซุง คราวนี้หลวงตาผ่องแก่วัด ก็เลยมีนิสัยประหลาด ๆ ไปด้วย พอเห็นหลวงพ่อฤๅษีท่านเชิญเทวดาด้วย ปุริมัญจะ ทิสัง ราชาฯ ท่านก็เลยเอาไปสวดเล่นบ้าง ตามประสาคนแก่นั่นแหละ เดินลงบันไดก็เลยตกบันไดลงมา ก็ยังนับว่าท่านท้าวมหาราชท่านเมตตาให้แค่ตกบันได

ตอนนั้นหลวงตาผ่องพักอยู่ที่ตึกทหารอากาศสงเคราะห์ ซึ่งหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสร้างขึ้นเป็นหลังแรก ๆ ที่นั่น โดยมีนาวาอากาศโทอาทร โรจนวิภาต (ยศในขณะนั้น) เป็นเจ้าภาพ ก็แค่ร่อนจากบันไดชั้นบนลงมาชั้นล่างเท่านั้น ไม่กี่สิบขั้น..! ท่านต้องการสอนให้รู้ว่าท้าวมหาราชไม่ใช่เพื่อนเอ็ง จะล้อเล่นอะไรก็ให้ไปเล่นอย่างอื่น

เถรี 23-01-2017 22:46

ถาม : วัดที่มีแม่น้ำใกล้ ๆ มีสระใหญ่ ๆ อากาศจะชื้น ถ้าชื้นแล้วไม่สัปปายะหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : แต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน อากาศเป็นสัปปายะ หมายถึงที่สบายเฉพาะแต่ละคน บางคนก็ชอบที่แห้ง ที่หนาว บางคนก็ชอบที่ร้อน ที่ชื้น ต่างกัน ไม่ดีสำหรับเรา ไม่ได้แปลว่าไม่ดีสำหรับคนอื่น

เถรี 23-01-2017 22:54

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้วันที่ ๗ มกราคม ปีใหม่ผ่านไป ๗ วัน มีบางครอบครัวซื้อมอเตอร์ไซค์เป็นของขวัญปีใหม่ให้ลูกชาย ซึ่งได้จัดงานศพไปเรียบร้อยแล้ว วัยรุ่นมีมอเตอร์ไซค์ก็บิดกันกระจาย คิดถึงพ่อแม่เสียที่ไหน คิดเอาแต่ความสะใจของตัวเองอย่างเดียว ขาดความอบอุ่นก็เลยต้องเอาของพวกนี้มาอวดเพื่อน ต้องการให้เพื่อนยอมรับ

มีโยมคนหนึ่งอยู่ที่หนองคาย สมัยนั้นร้าน 7 - Eleven ยังไม่ดัง เปิดร้านโชห่วยขายของ ค่อนข้างจะมีฐานะดี ลูกชายสอบเข้าชั้นมัธยม ๔ ของโรงเรียนประจำจังหวัดได้ ขอรางวัลเป็นมอเตอร์ไซค์หนึ่งคัน พ่อแม่ก็รีบซื้อให้ ลูกชายกลับมาจากเล่นบอล ถึงบ้านเห็นมอเตอร์ไซค์ก็ดีอกดีใจ บิดปรื๊ดจะไปอวดเพื่อน ชนตูมอยู่ตรงสี่แยกหน้าบ้านนั่นแหละ..! สรุปก็คือนั่งบนมอเตอร์ไซค์ไม่ถึง ๓ นาทีก็ตายแล้ว พ่อแม่เป็นลมไปหลายตลบ ดันไปซื้อโลงติดล้อให้ลูกขับเอง"

เถรี 23-01-2017 23:15

โยมมารับวัตถุมงคล "หนุมานทำอะไรก็สำเร็จ เพราะฉะนั้น...เราต้องทำให้ได้อย่างนั้นบ้าง

หนุมานของหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน ดังเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ เพราะท่านมีช่างจีน ฝีมือวิลิศมาหรามาก แกะหนุมานออกมางามสุด ๆ ถึงจะดูความขลังก็ให้ดูความสวยด้วย

หลวงปู่ปาน วัดบางกระสอบ ท่านเป็นระดับครูบาอาจารย์ ถึงเวลาต้องยกท่านขึ้นมาก่อน แต่ความดังสู้หลวงพ่อสุ่น หลวงพ่อดิ่งไม่ได้

สมัยก่อนหลวงปู่บุดดาถามว่าเป็นลูกศิษย์ใคร "ลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุงครับ" "อ้อ...สายหลวงพ่อปาน สมัยก่อนมีหลวงพ่อปาน ๓ องค์" กราบเรียนถามว่ามีองค์ไหนบ้าง ? "หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย มีลูกศิษย์ตั้งร้อย หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ก็ลูกศิษย์ตั้งร้อย" ร้อยของหลวงปู่นี่เยอะมาก อย่างที่สมัยก่อนอะไร ๆ ก็ลง ๕๐๐"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:25


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว