กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=40)
-   -   ปกิณกธรรม ช่วงวันงานพุทธาภิเษกพระกริ่งสะท้านไตรภพ วันที่ ๒๑-๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=7186)

เถรี 26-08-2020 06:16

ปกิณกธรรม ช่วงวันงานพุทธาภิเษกพระกริ่งสะท้านไตรภพ วันที่ ๒๑-๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๓
 
(ก่อนวันงานพุทธาภิเษก)

เจริญพรญาติโยมพุทธบริษัททุกท่าน อยากจะถามว่า ยังสบายกันดีอยู่ไหม ? วันพรุ่งนี้ตามหลักโหราศาสตร์ที่อาตมาคิดเองจะเป็นวันเสาร์ห้า แต่คราวนี้ทางด้านปฏิทินราชการใช้วิธีคิดอีกแบบหนึ่ง ก็เลยกลายเป็นว่าไม่ตรงกัน ซึ่งอาตมาได้ล็อกวันเอาไว้แล้วว่าเป็นวันไหว้ครูประจำปี ในเมื่อไม่ตรงกัน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตก็อย่าไปใช้เลย เพราะว่าคนอาจจะสงสัยได้

พอดีทางด้านท่าน ดร.จักรกฤช ศีลาเจริญ ประธานมูลนิธิสามสมเด็จ ซึ่งรู้จักมักคุ้นกัน ท่านมาขออนุญาตสร้างพระกริ่งสะท้านไตรภพ และขอนำมาเสกวาระสุดท้ายที่วัดท่าขนุน อาตมาก็เหลือวันนี้วันเดียวให้ท่าน จึงบอกไปว่าเป็นวันที่ ๒๒ สิงหาคม และในเมื่อท่านจะสร้าง อาตมาเองเมื่อหล่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อเงินแล้ว ก็ยังเหลือเงินชนวนอยู่อีก ๘๓ กิโลกรัมเศษ จึงขออนุญาตท่าน ดร.จักรกฤชว่า จะสร้างพระกริ่งและขอใช้ชื่อว่าพระกริ่งสะท้านไตรภพด้วย แต่จะเป็นแบบของวัดท่าขนุน ท่าน ดร.จักรกฤชก็ตกลง

อาตมาจึงให้ช่างเอาเนื้อชนวนหลวงพ่อพระพุทธลีลาประทานพร
เนื้อเงิน ไปหล่อเป็นพระกริ่งขึ้นมา ที่ท่านทั้งหลายกำลังจองกันอยู่ เป็นเนื้อชนวนล้วน ๆ ไม่ได้ผสมอะไรเลย ตอนหล่อบรรดาท่านผู้ไปควบคุมการหล่อเผ่นหนีจากวงตรงนั้นกันหมด บอกว่าพลังงานที่ลงมาแรงมากจนทานไม่ไหว โดยเฉพาะเวลาถ่ายรูปแล้วมีปรากฏการณ์พิเศษต่าง ๆ ขึ้นมาด้วย

เถรี 26-08-2020 06:18

แล้วด้วยความที่คณะผู้จัดทำอยากจะได้อะไรที่ดี ๆ มาก ๆ ตามประสาคนโลภ..! ก็ขออนุญาตนำไปเข้าพิธีที่มณฑปหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท อาตมาเองนั้นก็แล้วแต่คนสร้าง พูดง่าย ๆ ก็คือ ตามใจคนจัด ขัดใจคนดู อะไรประมาณนั้น

ปรากฏว่าตอนเข้าพิธีเสก หลวงพ่อกวยท่านบอกว่า “ไม่มีอะไรจะเติมให้แล้ว เต็มหมดตั้งแต่แรกแล้ว” เนื่องเพราะว่าตอนที่หล่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อเงิน พระท่านก็เสด็จมาสงเคราะห์ ตอนหล่อพระกริ่ง พระท่านก็เสด็จมาสงเคราะห์

และโดยเฉพาะพระรุ่นนี้ ตอนแรกอาตมาตั้งใจบรรจุเกศาของตนเองเป็นรุ่นแรกเลย ปกติแล้วไม่เคยเอาเกศาตัวเองไปทำพระ ก็ปรากฏว่ามีคำสั่งมาว่าให้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วย เมื่อกราบเรียนถามถึงเหตุผล พระท่านบอกว่า พระบรมสารีริกธาตุถ้านับเป็นวัตถุมงคล ก็เป็นวัตถุมงคลที่ใกล้ชิดองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่สุด เพราะว่าคืออัฐิของพระองค์ท่านเอง

เถรี 26-08-2020 06:20

ในเมื่อทราบเหตุผลเช่นนั้น ก็ไปบอกทางช่างว่า ให้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วย แล้วอาตมาก็ขนพระบรมสารีริกธาตุของตนเองไปให้ ปรากฏว่าพอช่างเห็นเข้าบอกว่า “ขออนุญาตไม่คืนนะครับ” พูดง่าย ๆ ก็คือ บรรจุเหลือเท่าไรเขาอมหมด..!

เหตุที่ช่างขออนุญาตไม่คืน เพราะว่าพระบรมสารีริกธาตุของแท้กับของเทียมต่างกันเหมือนฟ้ากับเหว ของแท้ถึงเหมือนเม็ดข้าวสารแตก ข้าวสารหัก เหมือนกับปลายข้าวก็จริง แต่จะมีรัศมีสดใสแวววาวมาก ส่วนของเทียมที่ทางท่าพระจันทร์ทำขึ้นมาเป็นคันรถ ๆ นั้นดูไม่ได้เลย เหมือนกรวดเหมือนทรายธรรมดา

ด้วยความที่ว่าบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแล้วตามด้วยเกศา พระรุ่นนี้ร้อยละ ๙๙ เขย่าแล้วกริ่งจะไม่ดัง เพราะว่าเกศาอาตมาอุดแน่นไปหน่อย ...(หัวเราะ)... หลายท่านบอกว่า โบราณเขาถือเคล็ด พระกริ่งถ้าเขย่าไม่ดังแสดงว่าขลังมาก ระดับมหาอุดหยุดปืนเลยทีเดียว รุ่นนี้ไม่ได้ขลังอะไรมากมายหรอก แค่อัดเกศาเข้าไป กริ่งก็เลยไม่ขยับ เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าของใครเขย่าแล้วดัง เอามาแลกองค์ที่ไม่ดังได้นะ..!

เถรี 26-08-2020 06:21

คราวนี้การที่นำของเข้าพิธีในวันพรุ่งนี้ ก็ต้องดูคณะของท่าน ดร.จักรกฤชว่า ท่านจะนำวัตถุมงคลมาถึงเวลาไหน เพราะว่าท่านเป็นเจ้าของงาน อาตมาเองก็เป็นแค่ผู้อาศัยเหมือนกัน แต่ว่านัดแนะกันไว้แล้วว่าอย่างสายที่สุด ๐๙.๐๙ น. ต้องปลุกเสกได้ ถ้าช้ากว่านั้นจะจ่ายของไม่ทัน เพราะว่าญาติโยมมารอรับกันมาก

โดยเฉพาะวัตถุมงคลระยะหลัง ๆ ของวัดท่าขนุน ถ้าออกในเว็บ ก็มีการขนเอาลูกเด็กเล็กแดงมาช่วยกันจอง ถ้าให้จองนอกเว็บแบบวันนี้ ก็มีการจ้างคนมาเข้าคิวจอง คราวที่แล้วสมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิตเนื้อทองคำกับเนื้อเงิน เขาไปกว้านเอามอเตอร์ไซค์วินมาหมดเลย แต่ละคนก็มายืนงง ๆ ว่านี่คืออะไร ? ทำไมเขาจ้างเราตั้งแพงให้มาช่วยจอง ?

เถรี 26-08-2020 06:23

สำหรับวันนี้ก็มีรายหนึ่งมาจากหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรีนี่เอง จ้างเด็กมา ๕๐ คน เหมารถมา ได้ยินเด็กบอกว่าเดี๋ยวต้องไปขึ้นค่าแรง..! ก็ดีเหมือนกัน คืออาตมาไม่ได้หวง ไม่ได้ห้าม ถือว่าใครเข้าคิวทันก็เป็นสิทธิ์ของคนนั้น เพราะว่ากติกาของวัดท่าขนุนชัดเจนมาก "ไม่มีเส้น..ใครมาก่อนได้ก่อน" ดังนั้น..ในเมื่อคุณมีความสามารถ หาเม็ดเงินมาได้ ๕๐ กิโลกรัม หาเด็กมาได้ ๕๐ คน ก็แล้วแต่คุณเถอะ จองแล้วจะเอาไปขายแพงเท่าไรก็เรื่องของคุณ เพราะว่าอาตมามีหน้าที่แค่ทำ

แต่ขอให้รู้ว่า ถ้าพระกริ่งสะท้านไตรภพของทางมูลนิธิสามสมเด็จอาจจะหน้าตาต่างกันไป แต่เป็นพระกริ่งรุ่นเดียวกัน ของวัดท่าขนุนนั้นมีการยิงเลเซอร์ที่ใต้ฐาน ตอนแรกอาตมาว่าจะตอกโค้ดเพิ่มด้วย แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า ขนาดนั้นก็ควรที่จะพอแล้ว เพราะว่าอันดับแรก...เป็นเนื้อชนวนหลวงพ่อเงินล้วน ๆ ที่อื่นเขาไม่ค่อยกล้าลงทุนกันหรอก กลัวขาดทุน ประการที่สอง...การบรรจุกริ่งของเรานั้น เมื่อบรรจุแล้วขัดฐานเรียบก่อนที่จะยิงเลเซอร์ ถ้าตาไม่ดีจะไม่เห็นเลยว่าบรรจุตรงไหน ประการสุดท้าย...ส่วนใหญ่กริ่งเขย่าไม่ดัง ถ้าดังให้ระแวงไว้ก่อนว่าเป็นของปลอม ...(หัวเราะ)...

เถรี 26-08-2020 09:33

(มีผู้ถวายวัตถุมงคล) ถ้าไม่ใช่คนที่เป็นแฟนโขนนี่จะไม่รู้เลยนะว่าเป็นรูปใคร รู้จักไหม ? ท้าวเวสสุวรรณ...เจ้าพ่อยักษ์ ถ้าพวกเราไม่ชินกับโขนนี่ดูไม่ออก ถ้าเป็นลิงก็ต้องดูว่าสีอะไร ใช้อาวุธอะไร เพราะว่าพญาลิง ๑๘ มงกุฎ ...นิลเอกนิลนนท์นิลขัน สุรเสนสุรกานต์ทหารใหญ่ อีกชามพูวราชฤทธิไกร มีอายุได้โกฏิปีปลาย... อันนั้นพวกเรามักจะแยกไม่ออกหรอก

ยกเว้นพญาลิงบางตัวใส่มงกุฎเพราะว่าเป็นเจ้าเมือง อย่างพญาสุครีพ พญาพาลี แต่คราวนี้ก็ยังต้องมาแยกกันว่า ถ้าเป็นพญาสุครีพจะผิวกายสีแดงเพราะว่าเป็นลูกพระอาทิตย์ พญาพาลีผิวกายสีเขียวเพราะว่าเป็นลูกพระอินทร์ หน้าตาก็เหมือน ๆ กันนั่นแหละ ดังนั้น..ในส่วนนี้ถ้าโยมไม่ได้จำแม่นขนาดอาตมาก็จะลำบากหน่อย

คราวนี้เราดูว่าพญายักษ์ แต่พอเขาปั้นมาก็คือเทวดาดี ๆ นี่เอง เพียงแต่ปั้นหน้าเป็นยักษ์ ถ้าตะบองเกลียวสั้นก็จะเป็นท่านท้าววิรุฬหก ท่านจะล่ำสัน ก็คือมีเนื้อมีหนังมากกว่านี้ ถ้าท่านท้าวเวสสุวรรณก็หุ่นอย่างนี้ และที่ถือเป็นตะบองยาว

เถรี 26-08-2020 09:34

มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ไม่รู้จะภูมิใจดีหรือเปล่า ? ก็คือระยะนี้เขาบอกกันว่า วัตถุมงคลที่พระอาจารย์เล็กเสกจะขายได้ คนอื่นเสกขายไม่ออก อาตมาก็ยังขำ ๆ อยู่เหมือนกันว่า พระอาจารย์เล็กเสกขายได้และขายแพงด้วย แต่ที่อื่นนี่เขาต้องไล่แจก ก็ต้องบอกว่าคนเราทำบุญมาต่างกัน

อาตมาสร้างวัตถุมงคลทุกครั้งวัตถุประสงค์ต้องชัดเจนมาก และโดยเฉพาะต้องได้รับอนุญาตจากพระท่านถึงจะทำ อย่างการสร้างพระพุทธลีลาประทานพรองค์เล็กที่เปิดจองเป็นการทำบุญกฐิน นั่นอาตมาไม่ได้สร้าง แต่ว่าท่านอาจารย์พระมหาเอเป็นคนสร้าง โดยไปขออนุญาตพระเองแล้วนำมาเข้าพิธี เพราะท่านเห็นว่าหลวงพ่อพระพุทธลีลาประทานพรนั้น เคยมีส่วนเนื่องกับอาตมาในอดีต ถึงเวลาท่านก็มักจะมาสงเคราะห์เป็นพิเศษ

เถรี 26-08-2020 09:36

ท่านอาจารย์พระมหาเอก็เลยเสียดายแบบองค์ใหญ่ว่าสวยมาก จึงขอย่อลงมาเป็นองค์เล็ก ปรากฏว่าคนจองเกินไปเป็นจำนวนมาก แล้วส่วนใหญ่ก็จองเอาไปขาย จึงมีหลายท่านที่ทิ้งจองเพราะว่าถึงเวลาแล้วขายไม่ได้ ขายไม่ทัน เนื่องจากว่าไปตั้งราคาไว้สูงมาก แล้วของก็ยังไม่ได้อยู่ในมือตัวเอง เป็นลักษณะของการจับเสือมือเปล่า

อาตมาก็เลยแจ้งทางทีมงานเว็บวัดท่าขนุนว่า ถ้าใครทิ้งจองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ให้จัดการแบนไปตลอดชีวิตเลย..! แล้วถ้าใครสมัครในยูสเซอร์เนมใหม่ แต่ไอพีเก่าก็แบนต่อไปด้วย..! ถ้าไม่มีบทลงโทษแบบนี้เขาก็จะไม่เข็ด เรียกง่าย ๆ ว่าหาประโยชน์จากคนอื่น โดยเอาวัดท่าขนุนเป็นเครื่องมือหากินประการเดียว และโดยเฉพาะไปตัดโอกาสของคนอื่นที่เขาจะจองเพื่อเอาไปบูชาด้วยความศรัทธา

เพราะฉะนั้น..ให้สังเกตว่าตั้งแต่การจองพระพุทธลีลาประทานพรก็ดี สมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิตก็ดี เจ้าหน้าที่เว็บวัดท่าขนุนจะลงเอาไว้ว่า ถ้าท่านทิ้งจองจะโดนแบนตลอดชีวิต จัดอยู่ในกลุ่มพิเศษ ต้องได้รับการดูแลต่างจากคนอื่นเขา..!

ดังนั้น..ใครยังมีความประพฤติเช่นนี้อยู่ ขอให้ทำไปเรื่อย ๆ จะดูว่าท่านสามารถหาเครื่องคอมพิวเตอร์มาเพื่อสร้างยูสเซอร์เนมใหม่ได้สักกี่เครื่อง ? เพราะว่าถ้าซ้ำเครื่องเดิมเมื่อไร ไอพีเดิมโผล่มาก็จะโดนแบนทันที..! อาตมาไม่ได้โหด แต่ไม่ชอบคนที่โกงไปโกงมา ชอบแต่คนตรงไปตรงมา ถ้าจะหากินกับทางวัดก็ควรเอาแค่พอประมาณ ไม่ใช่เล่นกันทีหนึ่งรวยไปเลย โบราณเขาบอกว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน อาตมาเองก็ไม่ค่อยชอบคนที่เอาเปรียบ แล้วไปตัดโอกาสคนอื่นเขา

เถรี 26-08-2020 09:37

เหลือเวลาไม่กี่นาที ใครที่เอาเม็ดเงินมาแลกไม่ทันก็กลับไปนอนก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ ที่วัดท่าขนุนของเราเอางานสงฆ์เป็นใหญ่ การสวดมนต์ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐานเป็นหลัก งานอื่นถือว่ารอได้ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าถึงเวลาที่กิจกรรมของวัดมาถึงรอบ ก็จะดำเนินการไปเลย โดยทิ้งงานอื่นไว้ก่อน

ต้องบอกว่าไม่กลัวโยมจะไม่จอง หรือไม่กลัววัตถุมงคลจะขายไม่ออก วัตถุมงคลวัดท่าขนุนนี่สร้างสถิติอนาถใจให้เจ้าอาวาสมาตั้งแต่รุ่นแรก ๆ แล้ว คือถ้าเจ้าอาวาสอยากได้วัตถุมงคลรุ่นไหนก็ต้องบูชาเองด้วย ไม่อย่างนั้นก็ไม่มี ออกมาเมื่อไรเป็นหมด..!

เถรี 26-08-2020 09:38

(กล่าวตักเตือนโยม) เวลาถ่ายรูปไปลงโซเชียลอย่ายก ๓ นิ้วนะ จะพาให้วัดซวยไปด้วย..!

เถรี 26-08-2020 09:41

เดี๋ยวพอพระทำวัตรค่ำเสร็จ ศาลาหลังนี้ก็จะปิดไปเลย ญาติโยมไม่มีโอกาสได้นั่งแช่ เหตุเพราะว่าทรัพย์สินในศาลานี้ราคาหลายร้อยล้านบาท มีระบบป้องกันทั้งสัญญาณภัย ทั้งวงจรปิด ทั้งคนเฝ้า โดยเฉพาะบางวันวิ่งกันหูตาเหลือก เพราะว่าสัญญาณภัยดังขึ้น สรุปว่าสาเหตุเกิดจากจิ้งจกไปตัดระบบพอดี...! ซึ่งความจริงถ้าคลานอยู่ตามปกติ ระดับจิ้งจกนี่สัญญาณจะไม่ดัง แต่ดันทะลึ่งไปคลานผ่านกล่องตรงจุดยิงสัญญาณพอดี ตำรวจเลยเดือดร้อนกันหมด เพราะคิดว่าวัดโดนปล้นแล้ว..!

ถ้าหากว่าญาติโยมดูที่มณฑปจะเห็นพระพุทธรูปเงิน ทองคำ และนากอยู่ ๓ องค์ พระพุทธรูปเงินหล่อจากเม็ดเงิน ๑๕๐ กิโลกรัม มูลค่าราว ๆ ๔ ล้านบาท พระพุทธรูปทองคำหล่อจากทองคำ ๙๗.๕๗๕ กิโลกรัม มูลค่า ๓๑๑ ล้านบาทเศษ นั่นตอนทองคำบาทละ ๑๘,๓๐๐ บาท ปัจจุบันนี้ถ้าคิดราคาใหม่ก็น่าจะแพงหูดับกว่านั้นอีก พระพุทธรูปนากหล่อจากทองคำ ทองแดง และเงินรวมกัน ๑๖๐ กิโลกรัม เป็นทองคำ ๓๗.๕ กิโลกรัม มูลค่า ๔๓ ล้านบาทเศษ

ส่วนหลวงพ่อพระพุทธลีลาประทานพรด้านขวามืออาตมาบนมณฑป หล่อจากเม็ดเงิน ๑๕๑ กิโลกรัม มูลค่า ๓ ล้านบาทเศษ ซึ่งถ้าหากว่าเป็นราคาตอนนี้ก็น่าจะขึ้นไปเกือบเท่าตัวแล้ว ยังดีที่รีบหล่อเสร็จก่อนที่ราคาจะแพงไปกว่านี้

เถรี 26-08-2020 09:44

วัตถุมงคลวัดท่าขนุนที่เข้าพิธีงวดนี้ มีพระพุทธลีลาประทานพรองค์ขนาดบูชา ๙๙๙ องค์ มีเหรียญ มจร. หรือเหรียญในหลวง ร.๕ ที่งามสุด ๆ ฝีมือออกแบบของนายช่างปัทม์ บุณยรังค สำหรับหาทุนสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี มีเนื้อตะกั่ว ทองแดง และเงิน เป็นต้น

แล้วก็มีเบี้ยแก้สารพัดกันที่อาตมาเรียนวิชามาแล้วไม่อยากทิ้งไปเฉย ๆ ก็เลยทดลองทำดู แต่ว่าสิ่งที่บรรจุนั้นต่างจากสำนักอื่น เพราะว่านอกจากบรรจุน้ำปรอทหนัก ๑ บาทปกติแล้ว ก็ยังใส่ปรอทสำเร็จลงไปด้วย ปรอทสำเร็จเป็นปรอทที่เสกจนแข็งตัวเหมือนกับเม็ดทราย เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าเป็นเบี้ยแก้บรรจุปรอทของทางวัดท่าขนุน เวลาเขย่าจะมีเสียงเหมือนมีเม็ดทรายอยู่ข้างใน สามารถไปเอ็กซเรย์ดูได้ ไม่ใช่ทราย แต่เป็นปรอทที่เสกจนแข็งตัวแล้วปนอยู่ในน้ำปรอท

เถรี 26-08-2020 09:45

ถ้าเห็นว่าไม่ถึงคิวเราแน่แล้วก็กลับไปนอนก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยมาใหม่ อาตมาเป็นคนคำนวณผลได้ผลเสียเร็วมาก แล้วตัดสินใจเด็ดขาด อะไรที่ตัดสินใจไปแล้วถ้าพลาดจะไม่เสียใจ เพราะถือว่าได้ ก็คือได้บทเรียน ตัดสินใจถูกได้กำไร ตัดสินใจผิดได้บทเรียน ไม่มีเสีย มีแต่ได้เท่านั้น

เถรี 27-08-2020 23:07

(หลังทำวัตรรอบค่ำ)

วัดนี้ทำวัตรสองรอบ รอบแรกถวายหลวงปู่อดีตเจ้าอาวาส รอบสองถวายพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โยมอาจจะไม่เคยเจอวัดที่ทำวัตร ๒ รอบ ๓ รอบ

การสวดมนต์ทำวัตร ถ้าเราทำเป็น แม้แต่จะไปพระนิพพานก็ได้ การสวดมนต์อันดับแรกเลยก็คือได้สมาธิ ให้สังเกตว่าถ้าวันไหนสมาธิไม่ดีเราจะสวดผิด เผลอสติเมื่อไรก็สวดผิด อันดับต่อไป ถ้าจะเอามากกว่านั้นที่ไม่ใช่สมาธิขั้นต้น ต้องการทรงฌานไปเลย ก็ใช้คำสวดมนต์แทนคำภาวนา ก็ถือว่าเป็นคำภาวนาที่ค่อนข้างจะยาวอยู่หน่อยหนึ่ง

ถ้าจะเอาให้มากกว่านั้นอีกก็ทำเป็นทิพจักขุญาณ ถึงเวลาสวดมนต์ก็นึกถึงตัวหนังสือคำสวดของเราขึ้นมาเป็นคำ ๆ อยู่ตรงหน้า ถ้าสามารถเห็นตัวหนังสือได้ชัดเจนเท่าไร เราก็เห็นผีเห็นเทวดาได้ชัดเจนเท่านั้น อันดับสุดท้าย ถ้าหากว่าใครสามารถยกจิตขึ้นไปสวดถวายพระบนพระนิพพานได้ ก็ให้ทำอย่างนั้น ตายตอนนั้นก็อยู่บนพระนิพพานไปเลย


เถรี 27-08-2020 23:09

โดยเฉพาะพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมพุทธิมงคล (สะอิ้ง สิรินนฺโท) ท่านพูดถึงอานิสงส์การสวดมนต์เมื่อไร ท่านก็จะถามว่า รู้ไหมว่าคนเราที่ตาย ๆ กัน มีสาเหตุกี่อย่าง ? ท่านบอกว่า ในโลกนี้ที่ตายกันอยู่นะ สาเหตุแรกคืออดตาย..ไม่มีจะกิน ดูอย่างทางแอฟริกา ขนาดอีแร้งมายืนรอเลยว่าจะตายเมื่อไร อันดับที่สอง...ป่วยตาย อันดับที่สาม...อุบัติเหตุตาย อันดับที่สี่...แก่ตาย

ท่านบอกว่า อดตายเพราะว่าในอดีตไม่เคยให้ทานไว้ ขาดทานบารมี เพราะฉะนั้น..ถ้าให้ทานนี่ป้องกันการอดตายได้ ป่วยตายเพราะว่าเราฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไว้บ่อย ดังนั้น..ถ้าหากว่าเรารักษาศีลเป็นปกติ โดยเฉพาะศีลข้อที่ ๑ จะป้องกันการป่วยตายได้

สำหรับอุบัติเหตุตาย ท่านบอกว่าขาดบุญรักษา ขาดเทวดารักษา วิธีแก้ก็คือ ขยันหมั่นสวดมนต์บ่อย ๆ นอกจากสร้างบุญสร้างกุศลให้กับตัวเองแล้ว เทวดาท่านชอบใจยังตามรักษาอีกด้วย เพราะฉะนั้น..ให้สังเกตว่าถ้าวันไหนเราเผลอลืมสวดมนต์ไหว้พระ ออกรถไปอาจจะมีสิทธิ์โดนเฉี่ยวโดนชน ท่านบอกว่าที่แก้ไม่ได้มีอยู่อย่างเดียวคือแก่ตาย ธรรมะอะไรก็แก้ไม่ได้ จงยอมตายเสียเถอะ..!

เพราะฉะนั้น..จะเห็นว่าอานิสงส์ของการสวดมนต์สามารถป้องกันอุบัติเหตุได้ แต่คราวนี้เราต้องมอบกายถวายชีวิตต่อพระรัตนตรัยจริง ๆ ยึดท่านเป็นที่พึ่งเหมือนไม่มีอะไรในโลกนี้ให้เรายึดแล้ว ถ้าเปรียบไปก็เหมือนกับคนตกเหวแล้วไปคว้าเถาวัลย์เอาไว้ได้ ต้องยึดสุดชีวิตขนาดไหนก็ยึดแบบนั้นแหละ..!

เถรี 27-08-2020 23:12

ญาติโยมจะเห็นว่า ไม่ว่าจะอดตาย ป่วยตาย อุบัติเหตุตาย แก้ได้หมด แต่ถ้าแก่ตายนี่ปล่อยไปเถอะ เพราะว่าแก่แล้ว สมัยนี้อายุขัยของคนก็แค่ ๗๔ ปีครึ่ง นับจากไหน ? ก็นับจากอายุพระพุทธศาสนา กาลเวลาผ่านไป ๑๐๐ ปี อายุขัยของมนุษย์เสื่อมทรามลงไป ๑ ปี ตอนนี้ผ่านไปประมาณ ๒,๕๖๓ ปี ก็หายไป ๒๕ ปี ๖ เดือนกว่า ๆ ลบจากอายุขัยของมนุษย์ ๑๐๐ ปี ก็จะเหลือประมาณ ๗๔ ปีนิด ๆ ใครยังไม่ถึงให้พยายามหายใจไว้ ถ้าหากว่าใครถึงแล้วที่เหลืออยู่ก็เป็นกำไรล้วน ๆ

ที่บอกให้หายใจไว้นี่ไม่ได้พูดเล่นนะ คนเราตายเพราะอะไร ? อายุกขยะ คือหมดอายุ มีอยู่แค่นั้น...เกินนั้นไม่ได้ อาหารักขยะ หมดอาหาร อาหารนี้มีหลายอย่าง มีตั้งแต่กวฬิงการาหาร อาหารคือข้าวคือน้ำตามปกติ ผัสสาหาร อาหารคือลมหายใจเข้าออก คราวนี้เห็นหรือยังว่าถ้าหายใจไว้นี่จะไม่ตาย วิญญาณาหาร อาหารคือสิ่งที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ต้องการ ตาเห็นรูปสวย ๆ หูได้ยินเสียงเพราะ ๆ จมูกได้กลิ่นหอม ๆ ลิ้นได้รสอร่อย กายสัมผัสที่นุ่มนวลชวนสัมผัส รู้สึกชื่นใจก็อยู่ไปได้อีกหน่อยหนึ่ง

เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าใครมีพ่อมีปู่แก่ ๆ เอาไปรักษาในโรงพยาบาล ก็ให้จ้างนางพยาบาลสวย ๆ ไว้ เผื่อจะได้อยู่ได้อีกหน่อยหนึ่ง..! แต่ถ้าหากว่าอยากให้ไปเร็ว ๆ ก็ต้องจ้างที่ตรงกันข้ามเอาไว้ ...(หัวเราะ)...

เถรี 27-08-2020 23:13

ปุญญักขยะ ตายเพราะว่าหมดบุญ หมดบุญก็ตายได้นะ กำลังส่งมาได้แค่นั้น กัมมักขยะ ตายเพราะหมดกรรม อ้าว...อันนี้ประหลาด ไม่ได้ประหลาดหรอก ให้ดูตัวอย่างพระภิกษุลูกศิษย์พระสารีบุตร ตั้งแต่เกิดมาจนพระสารีบุตรไปพบก็น่าจะอายุเกิน ๒๐ ปี สร้างกรรมหนักเอาไว้ วันหนึ่งกินอาหารเป็นข้าวได้ไม่เกิน ๗ เม็ด ถ้าเกินนั้นเมื่อไร อาหารทั้งหมดจะหายไปจากตรงหน้า ต่อให้กองอยู่ก็มองไม่เห็น จับต้องก็ไม่ได้ เพราะว่าอดีตชาติสร้างกรรมกับพระปัจเจกพุทธเจ้าไว้หนักมาก กรรมรักษาจริง ๆ กินแค่ข้าววันละ ๗ เม็ด อยู่มาได้อย่างไร ๒๐ กว่าปี

จนกระทั่งพระสารีบุตรไปพบเข้าก็เลยชวนมาบวช บวชแล้วออกบิณฑบาตก็ไม่มีคนใส่บาตรให้ พระสารีบุตรต้องกล่าวว่า “อาวุโส เธอจงอยู่ที่วัดเถอะ เราจะบิณฑบาตเลี้ยงเอง” บิณฑบาตได้อาหารมา เอาไปส่งให้ ท่านก็มองไม่เห็น เห็นแต่บาตรเปล่า ๆ พระสารีบุตรต้องยืนจับบาตรไว้ ท่านจึงสามารถที่จะหยิบอาหารไปฉันได้

ในชีวิตได้ฉันอาหารอิ่มครั้งเดียวก็ตอนนั้นแหละ ร่างกายสบายขึ้นมาก็พิจารณาธรรมเห็นว่า ตลอดที่อยู่มา ๒๐ กว่าปีนี้ทุกข์เหลือเกิน ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาทุกข์เช่นนี้เราไม่เอาอีกแล้ว จิตปลดจากการยึดเกาะในร่างกาย เป็นพระอรหันต์ก็นิพพานเลย..หมดกรรมแล้ว

เราเองไม่ว่าจะหมดอาหาร หมดอายุ หมดบุญ หมดกรรม ก็ตายทั้งนั้น ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เพราะฉะนั้น..วิธีที่ผู้ฉลาดเขาทำกันก็คือสั่งสมบุญ ไม่ได้สะสมบุญเพื่อให้อายุยืน เพราะว่าอย่างไรก็ต้องตาย สะสมบุญไว้เป็นเสบียงเพื่อเดินทางไกลข้ามวัฏสงสาร คนเราถ้าข้าวของเครื่องใช้เสบียงอาหารพร้อม เดินทางไกลเท่าไรก็ไม่ท้อ แต่ถ้าไม่ได้สะสมอะไรไว้เลย ถึงเวลาก็จะลำบากมาก

เถรี 27-08-2020 23:14

ญาติโยมส่วนใหญ่มาวันนี้ได้นำเม็ดเงินมาแลกพระ โดยวัตถุประสงค์ก็คือเม็ดเงินนั้นจะได้หล่อพระปัจเจกพุทธเจ้าหน้าตัก ๔๐ นิ้ว ๑ องค์ พระปางห้ามสมุทรทรงเครื่องความสูง ๑๕๕ ซม. อีก ๑ องค์ วันนี้ผู้ประสานงานแจ้งข่าวดีว่า ที่บอกว่าพระปัจเจกพุทธเจ้าใช้เม็ดเงิน ๗๐๐ กิโลกรัมนั้น ได้แค่องค์พระ ต้องมีฐานอีก ๓๐๐ กิโลกรัม เวรละกู..! เอาเถอะ...ญาติโยมก็จะได้สร้างฐานพระไปด้วย

การที่เราสร้างอาสนะก็ดี ฐานพระก็ดี ธรรมาสน์ก็ดี ตาลปัตรก็ดี สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้าเผลอเกิดใหม่เมื่อไร จะมีอานิสงส์เหมือนกับอาตมา คือต่อให้ซ่อนอยู่ข้างหลังก็โดนเขาถีบออกไปข้างหน้า..! เพราะว่าเครื่องทั้งหลายเหล่านี้เสริมให้คนอื่นเด่น ถึงเวลาถ้าเราทำบุญแล้ว ต่อให้ต้องการหรือไม่ต้องการก็จะเด่นเอง เพียงแต่ว่าถ้าใครทำตอนนี้ก็ต้องรอชาติหน้านะ เขาบอกว่าทำบุญต้องรอชาติหน้า ถ้าทำหน้าจะได้ชาตินี้..! แต่ถ้าหากว่าทำหน้าก็อย่าเผลอไปให้ใครตบเข้า..เป็นเรื่องแน่ ๆ..!

เถรี 27-08-2020 23:40

(สนทนาก่อนบวงสรวงพุทธาภิเษก)

การไหว้หนุมานที่แท้จริงก็คือ ไหว้ในส่วนของคุณความดี ปฏิบัติให้ดีได้อย่างท่าน หนุมานเป็นแค่เปลือก เพราะว่าฮินดูเขาเก่ง เขาตั้งเทวดาได้ การเคารพกราบไหว้เทวดานั้นจัดเป็นเทวตานุสติในกรรมฐาน ๔๐ กอง ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสั่งสอนเอาไว้

ส่วนใหญ่แล้วฮินดูเขาขอเทวดาให้สงเคราะห์อย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งลักษณะอย่างนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าทุกอย่างในโลกนี้ที่เป็นไปนั้น เป็นไปโดยเหตุและผล ถ้าท่านสร้างเหตุเพียงพอ ผลก็จะเกิด ถ้าสร้างเหตุไม่พอนี่ ขอให้ตายก็ไม่ได้

เราอาจจะสงสัยว่า สถานที่นั้นเขาลือว่าศักดิ์สิทธิ์นักหนา ใครไปบนขออะไรก็ได้ ทำไมเราบนแล้วไม่ได้ ? ก็เพราะว่าเหตุที่เราสร้างยังไม่เพียงพอ ผลจึงยังไม่เกิด

เถรี 27-08-2020 23:44

แต่คราวนี้ในเมื่อสิ่งที่ชาวฮินดูเขาทำ ก็คือการแสดงความเคารพซึ่งเทวดาเหมือนกัน จึงต้องเดือดร้อนถึง ๒ ท่าน ท่านแรกก็คือท้าวสักกะเทวราช หรือที่เราเรียกง่าย ๆ ว่าพระอินทร์ ท่านที่สองก็คือท้าวสหัมบดีพรหม ท้ัง ๒ ท่านก็ต้องจัดเทวดาหรือพรหมที่มีศักดานุภาพใกล้เคียงกับที่เขาจินตนาการเอาไว้ ให้มารับหน้าที่เทวดาองค์นั้น ๆ

ดังนั้นหลายท่านก็อาจจะไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร อาตมาเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านเป็นใคร ยกเว้นว่ามีเหตุจำเป็นต้องเกี่ยวข้องสัมผัสกัน ก็จะสอบถามท่าน แล้วด้วยความที่เป็นคนปากไม่มีหูรูด พวกฆ้องปากแตก ถึงเวลาทราบแล้วก็บอกต่อไปเรื่อย ขอให้โยมเข้าใจว่าสิ่งที่อาตมาบอกนี่ฝันเอาเองนะ ความฝันจะเป็นจริงหรือไม่เป็นจริงก็ได้

สรุปว่า...เทพหนุมานเป็นพรหมชั้นที่ ๓ ที่เราเรียกว่า มหาพรหมถ้าหากว่าจะบูชาท่าน ก็คือทำตัวให้ได้อย่างท่าน ประกอบด้วยพรหมวิหาร ๔ ทรงฌานสมาบัติได้ ถ้าอย่างนั้นท่านจะรักมากและตั้งใจสงเคราะห์ แต่ถ้าใครเอาแต่ขอให้ช่วยอย่างเดียวก็อาจจะโดนประเภทขอมาก ๆ กูก็เฉยซะ ฉะนั้น...ใครจะลองขอดูก็ได้


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:35


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว