กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=39)
-   -   เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๐ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5609)

เถรี 21-05-2017 08:55

เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๐
 
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ สำหรับวันนี้เรื่องที่อยากจะพูดก็คือ ในการปฏิบัติธรรมของพวกเรานั้น ทำอย่างไรเราถึงจะมอบกายถวายชีวิตให้กับการปฏิบัติธรรมจริง ๆ จัง ๆ ได้ ?

หลายท่านพอเริ่มจะปฏิบัติธรรม เริ่มรักษาศีล เริ่มเจริญภาวนา ก็มักจะโดนคนรอบข้างว่าในลักษณะติเตียนบ้าง กระทบกระเทียบเปรียบเปรยบ้าง ด่าตรง ๆ บ้าง เราก็ไปให้ความสำคัญกับคำพูดเหล่านั้น แล้วก็ละทิ้งการปฏิบัติของเราไป ทั้ง ๆ ที่เวลาตาย คนที่ตกนรกคือเรา คนที่เกิดเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉานก็คือเรา แต่เรากลับไปให้ความสำคัญกับคำพูดของคนอื่น จนกระทั่งละทิ้งการปฏิบัติใน ทาน ศีล ภาวนา ของเราไป

ในส่วนของพรหมวิหาร ๔ นั้น มี เมตตา กรุณา เมตตาคือความรัก กรุณาคือความสงสาร ให้เราใช้กับตัวของเราเองก่อน ถ้าเรารัก เราสงสารตัวเอง กลัวตัวเองจะตกนรก เรารักเราสงสารตัวเอง กลัวตัวเองจะเกิดเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน เราจึงต้องตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา

เมื่อเป็นเช่นนั้น เราเองเหมือนกับเป็นผู้รู้ว่า มีภัยใหญ่รอเราอยู่ข้างหน้า ในเมื่อโทษภัยใหญ่หลวงรออยู่ข้างหน้า ถ้าเราไม่สามารถที่จะก้าวข้ามไปได้ ก็จะต้องตกสู่อบายภูมิ ทนทุกข์ทรมานอีกนานแสนนาน กว่าจะได้เกิดขึ้นมาเป็นมนุษย์ กว่าจะได้พบพระพุทธศาสนา กว่าจะได้มีโอกาสฟังธรรมแล้วน้อมนำมาปฏิบัติ

เถรี 22-05-2017 08:50

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ต้องบอกว่าเป็นที่ตัวเราเอง ถ้าคนอื่นเขาว่ากล่าว โทษย่อมเกิดกับเขา เราเองก็อาจจะหลีกเลี่ยงเสีย อย่างเช่นว่า ถึงเวลาก็ไปแอบปฏิบัติสมาธิภาวนาของเรา

การรักษาศีล ๕ หรือศีล ๘ ก็ไม่จำเป็นต้องไปบอกกล่าวคุยอวดกับใคร ถ้าออกงานสังคมทำไมถึงไม่กินเหล้า ? เมื่อมีคนถามเราอาจจะบอกได้ว่า สุขภาพไม่ดีแล้ว หมอห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแพ้แอลกอฮอล์ กินลงไปแล้วหายใจไม่ออก...จะตายเอา อะไรของเราก็ว่าไป หรือว่าเรารักษาศีล ๘ ถึงเวลาเพื่อนชวนกินข้าวเย็น จะไปบอกตรง ๆ ว่ารักษาศีล ๘ เดี๋ยวเพื่อนรับไม่ได้ เราก็บอกว่าอ้วนแล้ว กำลังลดความอ้วนอยู่

ถามว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นการโกหกหรือไม่ ? เป็น...แต่อานิสงส์มีมากกว่า เพราะว่าถ้าเป็นเรื่องโกหก เรารู้ว่าเป็นเรื่องโกหก เราตั้งใจหลอกลวงเขา เราว่ากล่าวออกไปสามารถหลอกลวงได้สำเร็จ ก็จะเกิดโทษร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม แต่ในลักษณะนี้ของเรา เราไม่ได้เจตนาจะโกหกหลอกลวงเขา แต่เป็นการรักษากำลังใจไม่ให้เขาต้องมาเดือดร้อน เป็นทุกข์เป็นโทษด้วยการกระทำความดีของเรา ก็กล่าวเลี่ยงไปอีกเรื่องหนึ่ง ผ่อนหนักให้เป็นเบา ในส่วนที่เป็นบุญเป็นกุศลย่อมมีมากกว่า

เถรี 22-05-2017 08:51

ถ้าหากว่าเรารู้เลี่ยง รู้ผ่อนหนักรู้ผ่อนเบา การปฏิบัติของเราจะก้าวหน้าไปเรื่อย เมื่อถึงเวลาพร้อมด้วยศีล พร้อมด้วยสมาธิ พร้อมด้วยปัญญา ตัวเราจะเกิดแรงดึงดูดมหาศาล ดึงให้คนรอบข้างอยากจะทำความดีตามมา เมื่อถึงเวลานั้นถ้าเขาสนใจไถ่ถาม เราจึงอาศัยโอกาสนั้นบอกกล่าวถึงความดีความงามว่า ศีล สมาธิ ปัญญา นั้นดีเช่นไร

ดังนั้น...ในการปฏิบัติธรรมของเรา อย่าเอาคำพูดของคนชั่วเป็นประมาณ เพราะว่าคำพูดของคนชั่วมีแต่จะพาให้เราตกต่ำ สิ่งที่เอาเป็นประมาณคือคำพูดของกัลยาณมิตร ที่ช่วยหนุนเสริมในการกระทำความดีของเรา เป็นต้น

ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๐

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้า)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:16


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว