กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=51)
-   -   ธรรมะไม่ใช่ของยาก (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5334)

นักเดินทางสังสารวัฏ 20-12-2016 02:46

ธรรมะไม่ใช่ของยาก
 
กราบนมัสการหลวงพ่อครับ

๑. วันนี้ผมฟังเทปธรรมจากหลวงพ่อวัดท่าซุง เรื่องเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน ผมฟังแล้วคิดตามที่หลวงพ่อสอนก็เห็นไปตามความจริงที่หลวงพ่อพูดทั้งหมด เช่นบางครั้งจิตและร่างกายก็มีสุข มีทุกข์แล้วก็ไม่สุขไม่ทุกข์ สลับไปสลับมาเป็นธรรมดา พอคิดแบบนี้ผมรู้สึกว่าอารมณ์มันเบาทันที เหมือนปล่อยวางได้ระดับหนึ่ง แล้วผมก็หัวเราะออกมามีความสุข เหมือนแบบว่าที่แท้ธรรมะก็เป็นแบบนี้ไม่ยากอย่างที่คิด แล้วหลังจากนั้นผมก็พิจารณาคำสั่งสอนของหลวงพ่อและคำสั่งสอนของพระท่านอื่น ๆ แล้วสรุปได้ว่า ถ้าเราไม่รับกิเลสเข้ามาในจิตด้วยการมีสติหรือรู้สึกตัวตลอดเวลา กิเลสก็ทำไรเราไม่ได้ เพราะเราตัดเหตุที่จะเกิดความทุกข์ทิ้ง แปลว่าผลความทุกข์ก็จะไม่เกิดแน่นอน แต่ทว่าผมรู้สึกตลอดว่ากิเลสมันวนรอบ ๆ จิตผมอยู่ แต่ผมไม่ได้ให้ความสนใจมันไม่รับมันเข้ามาในจิต หรือพูดเป็นภาษาง่าย ๆ ว่าช่างมัน แล้วนอกเหนือจากนั้นปัจจุบันผมรู้สึกว่าจิตผมเร็วมาก แบบเห็นเหตุเห็นผลชัดเจนขึ้น และพยายามมองทุกอย่างให้เป็นเป็นธรรมดาได้ง่ายขึ้น

จากสิ่งที่ผมเล่ามา นี่คืออารมณ์ของสังขารุเปกขาญาณหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ในฐานะที่ผมเป็นปุถุชนอยากถามว่า จะทำอย่างไงไม่ให้ธรรมตัวนี้เสื่อมไปจากจิตผมครับ แล้วอาการที่ผมรู้สึกกิเลสมันวน ๆ รอบจิตผม ผมกังวลไปเองหรือเปล่าครับ ถ้าหลวงพ่อมีอะไรจะแนะนำเพิ่มเติมช่วยเมตตาทีครับ

๑.๑ จากข้อแรกที่ผมเล่ามาทำให้ผมมั่นใจว่าธรรมของพระพุทธเจ้าไม่ยาก ทุกคนสามารถทำได้ถ้าตั้งใจจริง บวกกับก่อนหน้านี้เคยทำสมาธิแล้วได้ฌานสมาบัติ แต่ก็เสื่อมไป แต่ว่ารสชาติของฌานสมาบัติยังอยู่ในใจผมไม่หายไปไหนเลย ปัจจุบันก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจ เพื่อจะทรงฌานสมาบัติเพื่อความสุขของผม แต่ทว่าตัวผมอายุยังแค่ ๒๐ ก็ยังอยากดูหนัง อยากมีแฟน เล่นเกม เหมือนปุถุชนปกติ แล้วเวลาผมเล่นเกม ผมก็เอาความรู้ทางพระพุทธศาสนามาปรับใช้ในการเล่นเกม เช่น เวลาเล่นเกมผมก็เอาสติ สมาธิ ปัญญา ควบคุมให้จิตผมโฟกัสกับการเล่นเกมและเอาตัวปัญญา หาวิธีที่จะชนะคู่ต่อสู้ เลยอยากถามหลวงพ่อครับว่า การที่ผมเอากำลัง สติ สมาธิ ปัญญา และความรู้ของพระศาสนามาพลิกแพลงใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเช่นเล่นเกมตามที่กล่าวมา เป็นลักษณะฌานใช้งาน หรือเปล่าครับ

๒.การที่จะเก่งในการเข้าออกฌานต่าง ๆ ได้ ต้องจำอารมณ์ฌานระดับต่าง ๆ ให้แม่น แล้วก็นึกจะเข้าฌานนี้ฌานนั้น ใช่หรือเปล่าครับ ถ้าไม่ใช่หลวงพ่อช่วยอธิบายทีครับ

๓. ผมมีความสนใจเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ เลยสงสัยว่าพระโพธิสัตว์บางชาติท่านทำบุญกับพระพุทธศาสนาอย่างมาก มีความดีมาก แต่บางชาติท่านดันไม่เคารพพระพุทธเจ้า ยกตัวอย่างเช่นโตไทยพราหมณ์เกิดในยุคพุทธกาล แต่ดันไปลบหลู่พระพุทธเจ้า พอท่านตายแล้วไปเป็นสุนัข จากสุนัขก็ดิ่งลงอเวจีเลย ผมเลยคิดว่าท่านต้องโดนอกุศลธรรมอะไรบางอย่างครอบงำจิต ผมเลยอยากทราบว่าพอจะมีวิธีหรือธรรมอะไรไหมครับ ที่จะทำให้พระโพธิสัตว์ท่าน เกิดสลับไปสลับมาระหว่าง สวรรค์ พรหม และมนุษย์

ตัวเล็ก 07-12-2017 10:57

ถาม : วันนี้ผมฟังเทปธรรมะจากหลวงพ่อวัดท่าซุง เรื่องเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน ผมฟังแล้วคิดตามที่หลวงพ่อสอนก็เห็นไปตามความจริงที่หลวงพ่อพูดทั้งหมด เช่น บางครั้งจิตและร่างกายก็มีสุข มีทุกข์แล้วก็ไม่สุขไม่ทุกข์ สลับไปสลับมาเป็นธรรมดา พอคิดแบบนี้ผมรู้สึกว่าอารมณ์เบาทันที เหมือนปล่อยวางได้ระดับหนึ่ง แล้วผมก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข เหมือนแบบว่า ที่แท้ธรรมะก็เป็นแบบนี้ ไม่ยากอย่างที่คิด

หลังจากนั้นผมก็พิจารณาคำสั่งสอนของหลวงพ่อ และคำสั่งสอนของพระท่านอื่น ๆ แล้วสรุปได้ว่า ถ้าเราไม่รับกิเลสเข้ามาในจิต ด้วยการมีสติหรือรู้สึกตัวตลอดเวลา กิเลสก็ทำอะไรเราไม่ได้ เพราะเราตัดเหตุที่จะเกิดความทุกข์ทิ้ง แปลว่าผลความทุกข์ก็จะไม่เกิดแน่นอน แต่ทว่าผมรู้สึกตลอดว่ากิเลสยังวนรอบ ๆ จิตผมอยู่ แต่ผมไม่ได้ให้ความสนใจ ไม่รับเข้ามาในจิต หรือพูดเป็นภาษาง่าย ๆ ว่า "ช่างมัน" แล้วนอกเหนือจากนั้น ปัจจุบันผมรู้สึกว่าจิตผมเร็วมาก แบบเห็นเหตุเห็นผลชัดเจนขึ้น และพยายามมองทุกอย่างให้เป็นเป็นธรรมดาได้ง่ายขึ้น

จากสิ่งที่ผมเล่ามา นี่คืออารมณ์ของสังขารุเปกขาญาณหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ยังไม่ใช่สังขารุเปกขาญาณ คือ ความสามารถในการหยุดการปรุงแต่งทั้งหมดจนกิเลสเกิดไม่ได้ โปรดระมัดระวังเป็นที่สุด ไม่ใช่เฉพาะผู้ถาม หมายถึงพวกเราทุกคนด้วย ความรู้แค่หางอึ่งของพวกเรา พอเวลาคลำไปเจออะไรนิดหนึ่ง ก็อ๋อ...ความรู้ของพระพุทธเจ้าก็แค่นี้เอง เหมือนกับเอาหิ่งห้อยไปเทียบกับดวงอาทิตย์ แล้วก็บอกว่าดวงอาทิตย์สว่างแค่นี้ โปรดระมัดระวังว่าจะกลายเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยไปโดยไม่รู้ตัว

คนเราเข้าถึงธรรมตรงจุดไหน ก็มักจะคิดว่าตรงนั้นดีแล้ว ใช่แล้ว ถูกแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะดีแค่นั้น ใช่แค่นั้น ถูกแค่นั้น เมื่อก้าวเข้าไปสู่ความละเอียดมากกว่านั้น สิ่งที่ใช่กว่านั้น ดีกว่านั้น ถูกกว่านั้นก็จะมีอีก แล้วเราก็จะไปยึดตรงนั้นอีก ว่าตรงนี้ใช่แล้ว ดีแล้ว ถูกแล้วอีก เพราะฉะนั้น...โปรดระมัดระวังหน่อย แม้แต่การใช้คำพูดหรือความคิดของเรา ก็อาจจะปรามาสพระรัตนตรัยโดยไม่รู้ตัว

ตัวเล็ก 07-12-2017 10:58

ถาม : จากที่ผมเล่ามาทำให้ผมมั่นใจว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่ยาก ทุกคนสามารถทำได้ถ้าตั้งใจจริง บวกกับก่อนหน้านี้เคยทำสมาธิแล้วได้ฌานสมาบัติ แต่ก็เสื่อมไป แต่ว่ารสชาติของฌานสมาบัติยังอยู่ในใจผมไม่หายไปไหนเลย ปัจจุบันก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจ เพื่อจะทรงฌานสมาบัติเพื่อความสุขของผม

แต่ทว่าตัวผมอายุยังแค่ ๒๐ ก็ยังอยากดูหนัง อยากมีแฟน เล่นเกม เหมือนปุถุชนปกติ แล้วเวลาผมเล่นเกม ผมก็เอาความรู้ทางพระพุทธศาสนามาปรับใช้ในการเล่นเกม เช่น เวลาเล่นเกมผมก็เอาสติ สมาธิ ปัญญา ควบคุมให้จิตผมโฟกัสกับการเล่นเกมและเอาตัวปัญญา หาวิธีที่จะชนะคู่ต่อสู้ เลยอยากถามหลวงพ่อครับว่า การที่ผมเอากำลัง สติ สมาธิ ปัญญา และความรู้ของพระศาสนามาพลิกแพลงใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเช่นเล่นเกมตามที่กล่าวมา เป็นลักษณะฌานใช้งาน หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : กำลังจะหานรกใส่ตัว..! เอาของราคาประมาณไม่ได้มาใช้แค่สลึงเดียว แถมยังคิดว่าตัวเองใช้ได้ไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย

สติ สมาธิ ปัญญา ท่านให้ใช้ไปในกายของตน รู้เห็นตามสภาพความเป็นจริง แล้วก็ลด ละ เลิก ในการยึดเกาะร่างกายนี้ เมื่อเลิกยึดเกาะร่างกายนี้ ก็ไม่ยึดเกาะร่างกายคนอื่น เมื่อไม่ยึดเกาะกระทั่งร่างกายของตนเองและร่างกายของคนอื่น ก็ไม่เกาะยึดในโลกนี้ด้วย แหม...แล้วก็บอกมาอย่างดีเลยว่าเป็นสังขารุเปกขาญาณแล้ว...!

ตัวเล็ก 07-12-2017 10:58

ถาม : การที่จะเก่งในการเข้าออกฌานต่าง ๆ ได้ ต้องจำอารมณ์ฌานระดับต่าง ๆ ให้แม่น แล้วก็นึกจะเข้าฌานนี้ฌานนั้นใช่หรือเปล่าครับ ? ถ้าไม่ใช่หลวงพ่อช่วยอธิบายทีครับ
ตอบ : ไม่ใช่ เป็นการเข้าสู่ฌานนั้น ๆ และออกจากฌานนั้น ๆ ได้ทุกเวลาที่ต้องการ เกิดจากการซักซ้อมอย่างแท้จริง ไม่ใช่จำเอามาพูด

ตัวเล็ก 07-12-2017 10:59

ถาม : ผมมีความสนใจเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ เลยสงสัยว่าพระโพธิสัตว์บางชาติท่านทำบุญกับพระพุทธศาสนาอย่างมาก มีความดีมาก แต่บางชาติท่านดันไม่เคารพพระพุทธเจ้า ยกตัวอย่างเช่น โตไทยพราหมณ์เกิดในยุคพุทธกาล แต่ดันไปลบหลู่พระพุทธเจ้า พอท่านตายแล้วไปเป็นสุนัข จากสุนัขก็ดิ่งลงอเวจีเลย ผมเลยคิดว่าท่านต้องโดนอกุศลธรรมอะไรบางอย่างครอบงำจิต ผมเลยอยากทราบว่าพอจะมีวิธีหรือธรรมอะไรไหมครับ ที่จะทำให้พระโพธิสัตว์ท่าน เกิดสลับไปสลับมาระหว่างสวรรค์ พรหม และมนุษย์ ?
ตอบ : ยังไม่มีใครทำได้ เพราะพระโพธิสัตว์ไม่ใช่พระอริยเจ้า ยังมีโอกาสลงนรกร้อยเปอร์เซ็นต์


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:50


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว