กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5927)

เถรี 03-12-2017 21:37

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๐
 
ถาม : เนื่องจากหนูเป็นคนชอบวัตถุมงคลของครูบาอาจารย์สมัยรุ่นก่อน ๆ โดยเฉพาะพวกเครื่องรางของขลัง เวลาได้สัมผัสพลังงานของเหล่านี้จะรู้สึกคึกและสนุก เหมือนกับได้สัมผัสของอภิญญา และอยากจดจำกระแสของครูบาอาจารย์แต่ละท่านว่าแตกต่างกันอย่างไร

ถ้าเป็นของขลังสายบู๊เวลาเอาไปลองจะรู้สึก "ขึ้น" และ "ได้ผล" แต่เมื่อไรที่เป็นของสายเมตตามหาเสน่ห์ หนูเข็นเท่าไรก็ไม่ขึ้นค่ะ อาราธนาแล้วอาราธนาอีกก็ไม่ออกฤทธิ์ ที่ผ่านมาทั้งลูกอมหลวงปู่ทิม ทั้งแพะหลวงพ่ออ่ำ หนูอาราธนาเท่าไรก็ไม่เห็นผลเสียที ไม่ทราบว่าเพราะอะไรคะ ? หรือเพราะหนูเป็นนักบวช ท่านเลยไม่อยากให้ลองของพวกนี้ ? ทั้ง ๆ ที่หนูก็แค่อยากลองให้รู้ผลแค่วันเดียวจบ
ตอบ : สึกจากแม่ชีเสียแล้วจะได้ผล...!

เถรี 03-12-2017 21:38

ถาม : การที่นำตะกรุดมหาสะท้อนหรือยันต์มหาสะท้อนของพระอาจารย์เนื้อเงิน นำไปสร้างวัตถุมงคลที่น้ำหนัก ๑ บาทขึ้นไป แต่เป็นเนื้อมวลสารโลหะต่างหลายชนิดผสมกัน ไม่ใช่เงินล้วน จะทำให้ผลของมหาสะท้อนยังคงอยู่ไหมครับ ?
ตอบ : ต้องเป็นโลหะเงิน ทองคำ หรือนากเท่านั้น โลหะผสมใช้ไม่ได้

ถาม : การอาราธนาตะกรุดมหาสะท้อน นอกจากการท่องคาถาแล้ว เราต้องระลึกถึงภาพพระไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ต้อง ถ้านึกถึงก็ถือว่าเป็นกำไร ความจริงแค่ภาวนาเป็นปกติก็พอแล้ว

เถรี 03-12-2017 21:41

ถาม : เห็นหลวงพ่อเคยบอกว่า เรามีเวลาเตรียมตัวรับสงครามโลกเหลือเฟือ ไม่ทราบว่าหากเกิดสงครามโลกขึ้น สงครามจะกินเวลานานเท่าไรจึงจะยุติ ? และโลกจะใช้เวลานานเท่าไรจึงจะกลับคืนสู่สภาวะปกติครับ ?
ตอบ : อย่าตาย...แล้วพยายามรอดู...!

เถรี 03-12-2017 21:42

ถาม : พลอยธรรมชาติขนาดใหญ่ ถ้าต้องการจะขายให้ได้โดยเร็ว จะต้องทำพิธีอะไร ? บอกกล่าวท่านที่รักษาพลอยอย่างไร หรือต้องบวงสรวงอย่างไรครับ ?
ตอบ : ขายราคาถูก ๆ...! เอาไปให้สถาบันประมูลเขาจัดการให้ แบ่งเปอร์เซ็นต์ให้เขาก็จบแล้ว มัวแต่ไปขายเองอยู่ก็ลำบาก

เถรี 03-12-2017 21:46

ถาม : ผมเห็นภาพคนให้เช่าพระ นำพระเหรียญทองแดงของหลวงพ่อกวยที่ปลุกเสกแล้วไปชุบทองคำ พุทธคุณจะยังอยู่ไหมครับ เนื่องจากเหรียญต้องแช่น้ำกรดก่อนชุบ ?
ตอบ : ถ้ายังไม่ถึงขนาดละลายหมดเหรียญ ก็ยังอยู่เหมือนเดิม และได้อานิสงส์สังฆบูชาเพิ่มขึ้นมาด้วย เพราะว่าไปชุบทองให้

เถรี 03-12-2017 21:52

ถาม : ผมภาวนาใช้คำว่าพุทโธจับลมกระทบสามจุด ไม่ได้จับภาพพระ เวลาผ่านไปคำภาวนาหายไป นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่าภาวนาว่าอะไร ลมหายใจเบาจนไม่รู้สึกว่าหายใจ ยังได้ยินเสียงแต่เริ่มเบาลงและความรู้สึกเหมือนพุ่งลง ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว นึกแค่ว่าตายช่างมัน แล้วอาการพุ่งดิ่งก็หยุด และลอยอยู่ในที่กว้างใหญ่ แต่มืด ความรู้สึกเหมือนถูกบีบ และอัดแน่น แต่เย็น และใจเบา แล้วก็เกิดอาการอยากหัวเราะขึ้นมาทันที กลั้นเอาไว้แต่ทำไม่ได้ ก็หัวเราะดีใจ แล้วรู้สึกว่ามีลมหายใจเป็นแบบนี้ตลอด ไม่เคยผ่านไปได้ ผมต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็แค่เลิกหัวเราะ..!

เถรี 03-12-2017 21:59

ถาม : ถ้าจิตยอมรับในกฎไตรลักษณ์ จิตจะปล่อยวางในขันธ์ห้าเองใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ถ้ายอมรับในกฎไตรลักษณ์จะปล่อยวางในทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะขันธ์ ๕

ถาม : ตอนที่ปฏิบัติวันนี้ โยมพิจารณาในกฎของไตรลักษณ์ ว่าที่ทุกข์เพราะจิตไม่ยอมรับในกฎไตรลักษณ์จริง ๆ แล้วก็เกิดความรู้สึกเบา สว่าง สบาย เป็นเพราะเหตุใดคะ โยมทำผิดหรือไม่คะ ?
ตอบ : ขอให้ทำผิดแบบนี้บ่อย ๆ..!

ถาม : ถ้าจิตยอมรับในกฎของไตรลักษณ์จริง จะพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดไหมคะ ?
ตอบ : ยอมรับอย่างแท้จริง ปล่อยวางได้ทุกอย่างก็ไปได้ แต่ถ้ายอมรับแล้วปล่อยวางไม่หมดก็ไปไม่ได้

การยอมรับกฎของไตรลักษณ์นั้นมีตามลำดับชั้น ยอมรับแบบปุถุชน ยอมรับแบบผู้ทรงฌาน ยอมรับแบบพระอริยเจ้า เพราะฉะนั้น...ไม่ใช่ยอมรับเฉย ๆ แล้วจะไปได้ ต้องยอมรับแบบปล่อยวางได้ทั้งหมดด้วย

เถรี 03-12-2017 22:02

ถาม : การที่พระสงฆ์เล่นหวยใต้ดินนอกจากไม่เหมาะสมแล้ว ยังมีเรื่องที่หวยใต้ดินมีการหนีภาษี ผิดกฎหมาย ดังนั้นทำให้มีโอกาสโดนอาบัติปาราชิกด้วยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ต้องถามว่าพระวัดไหน ? ถ้าเป็นพระวัดท่าขนุนไม่ใช่แค่อาบัติอย่างเดียว โดนจับสึกด้วย...!

พระห้ามเล่นหวยหรือการพนันทุกชนิด แม้กระทั่งเล่นหมากรุก ท่านปรับอาบัติทุกครั้งที่จับตัวหมากรุก แปลว่ากว่าจะจบกระดานโดนไปกี่ร้อยครั้งก็ไม่รู้..!?

เถรี 03-12-2017 22:24

ถาม : อยากทราบว่าบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้ทรงฌานสมาบัติอะไรเลย สามารถนอนหลับวันละ ๔ ชั่วโมงแบบพระพุทธเจ้าหรือแบบพระอนุรุทธ ที่ท่านบอกว่าท่านไม่ได้นอนหลับมาหลายปีแล้ว ได้หรือเปล่าครับ ? เพราะตามความเข้าใจของผม ถ้าทรงฌานสมาบัติได้ยิ่งฌานสูง ๆ นี่สามารถพักร่างกายสักครู่เดียวก็เท่ากับนอนเต็มอิ่มได้แล้ว และจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผมลองนอนไม่เกิน ๔ ชั่วโมงร่างกายรู้สึกเครียด สมองทำงานช้ามาก เลยคิดว่าการนอน ๔ ชั่วโมงนั้นเหมาะสำหรับผู้ทรงฌานเท่านั้น
ตอบ : ยังไม่ทันจะเข้าชั้นอนุบาล ดันเอาตัวไปเทียบกับระดับ "ดับเบิ้ลด็อกเตอร์" สมควรตาย..!

ถาม : ผมเคยได้เข้าฌานสมาบัติครั้งแรกตอนผมเป็นหนุ่ม ในเวลาไม่ถึง ๒๐ นาที แล้วช่วงนั้นพวกอารมณ์ราคะนี่หมดไปเกือบ ๑ เดือน ช่วงเวลานั้นผมรู้สึกสงบ ใจนิ่งมาก ๆ แต่ปัจจุบันผมอายุ ๒๐ ปีแล้ว ผมไม่ได้เข้าฌาน ไม่ได้เจออารมณ์สุขมาก ๆ เป็นเวลาหลายปีในชีวิตปัจจุบันผมก็คือปุถุชน ชอบผู้หญิงสวย ๆ ชอบกินอาหารอร่อย ๆ ชอบเล่นเกม แต่ผมอยากทราบว่า ผมสามารถจะเข้าฌานอีกทีได้หรือเปล่าครับ ? ถ้าผมยังใช้ชีวิตที่เล่นเกม ยังอยากกินอาหารอร่อย ๆ อยากมีแฟนสวย ๆ อยู่ แต่เพิ่มเวลามาทำสมาธิสัก ๑๐ นาทีและนอนสมาธิจนหลับไป
ตอบ : ชาติหน้าบ่าย ๆ น่าจะเข้าได้...! เล่นเกม ๑๐ ชั่วโมง แล้วมาเข้าสมาธิ ๑๐ นาที ฟังแล้วดูมีอนาคตเหลือเกิน...!

ถาม : จากข้อเมื่อครู่ผมคิดว่าการที่ผมเข้าฌานได้เร็ว อาจจะเป็นเพราะผมเล่นเกมมาหลายปีแล้วผมลองปรับกำลังใจเวลาเล่นเกม ที่คอยจดจ่อกับเกม มาจดจ่อรับรู้ลมหายใจเข้าออกแทน ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ ว่าการจดจ่อเล่นเกมก็เหมือนการทำสมาธิ แต่เป็นสมาธิใช้งาน และเราสามารถปรับอารมณ์จดจ่อเล่นเกม มาจดจ่อดูลมหายใจเพื่อส่งเสริมการปฎิบัติเรายิ่งขึ้น แล้วเราสามารถเอาสมาธิที่ฝึกจากการดูลมหายใจ มาทำงานหรือทำอะไรก็ตามให้ดียิ่งขึ้นได้อีก
ตอบ : เขาเรียกว่ามิจฉาสมาธิ เป็นการใช้กำลังใจในทางที่ผิด สมัยอาตมายังเด็กอยู่ มีรุ่นพี่อยู่คนหนึ่งนั่งเล่นไพ่ในงานศพสองวันสองคืน ไม่ลุกไปไหนเลย กินก็ไม่กิน เข้าส้วมก็ไม่เข้า กำลังระดับนั้นเป็นกำลังระดับนิโรธสมาบัติเลย แต่เอาไปใช้ผิด เป็นที่น่าเสียดายมาก

บุคคลที่ใช้ผิดเพราะกำลังใจหมกมุ่นไปในทางด้านใดด้านหนึ่ง โอกาสที่จะกลับมาเป็นสัมมาสมาธินั้นยากมาก เพราะว่ากำลังของกิเลสสูงกว่า ฝึกหัดจนกระทั่งชำนาญในด้านชั่วเสียแล้ว ถึงเวลาจะพลิกกลับมาดี กำลังทางด้านดีมีน้อย โอกาสที่จะกลับตัวได้จึงมีน้อยมาก

เถรี 03-12-2017 22:28

ถาม : คนเราก่อนเวลาตายถ้านึกกรรมดีไปสวรรค์ แล้วนึกกรรมชั่วลงนรก แล้วพวกสัมภเวสีทำไมเขาไม่ไปทั้งสวรรค์หรือนรกครับ ทั้ง ๆ ที่ก่อนตายเขาน่าจะนึกกรรมดีหรือกรรมชั่ว ?
ตอบ : ยังไม่มีโอกาสไปเพราะวาระยังไม่หมด พวกบรรดาข้าราชการที่ยังไม่เกษียณ แต่ทำตัวเช้าชามเย็นชาม นั่นแหละประเภทสัมภเวสี...! รอเกษียณเมื่อไรจึงจะไปได้

เถรี 03-12-2017 22:33

ถาม : ผมเข้าใจถูกเปล่าครับพระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มกำลังใจท่านเทียบเท่าพระอรหันต์ หรืออาจจะละเอียดกว่าพระอรหันต์ ? เพราะจิตของพระโพธิสัตว์ท่านไวมาก ท่านรู้ก่อนว่าจะมีความคิดอะไรเกิดขึ้นมาในจิต ถ้าความคิดไหนเป็นความคิดที่จะให้เกิดกิเลส ก็ไม่เก็บมาคิด ถ้าผมเข้าใจผิดหลวงพ่อช่วยอธิบายทีครับว่าอารมณ์เทียบเท่าพระอรหันต์เป็นอย่างไร ?
ตอบ : ก็เป็นอย่างพระอรหันต์

ถาม : แล้วพระโพธิสัตว์ตราบใดที่ท่านยังไม่ตรัสรู้ท่านก็เป็นปุถุชน แล้วปุถุชนที่ไม่ได้เป็นพระโพธิสัตว์สามารถมีอารมณ์เทียบเท่าพระอรหันต์ได้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : นอนฝันไปก่อน...เทียบเท่าพระโสดาบันยังยากเลย

เถรี 03-12-2017 22:35

ถาม : อยากทราบวิธีแก้คนประเภทที่รู้ว่า "ชั่วดีรู้หมด แต่อดไม่ได้" ขอยกตัวอย่างนะครับ ผมใช้เวลาเกมต่อวันหลายชั่วโมงมาก แต่พอเวลามาทำสมาธินี่ไม่ถึง ๕ นาที ผมก็เลิกกลับไปเล่นเกมต่อ ทั้ง ๆ ที่ตอนเป็นหนุ่มผมเคยได้ฌานแต่เสื่อมแล้ว ผมคิดว่าถ้าผมตอนนั้นเอาเวลาเล่นเกมหลายชั่งโมงมาทำสมาธิเพื่อจะทรงฌาน ๔ ตอนนี้ผมคงทรงฌาน ๔ ได้ไปนานแล้ว
ตอบ : น่าจะได้อภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ ไปนานแล้วด้วย

เถรี 03-12-2017 22:37

ถาม : คำสั่งสอนสุดท้ายของพระพุทธเจ้าหลังจากพระองค์เทศน์มาหลายปี คือ “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันว่าสังขารทั้งหลาย ย่อมมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ของตน และประโยชน์ของผู้อื่นให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด”

ผมติดใจตรงสุดท้ายด้วยความไม่ประมาท นี่ขึ้นอยู่กับบุคคลด้วยเปล่าหรือครับ ? อย่างไม่ประมาทของพระอรหันต์นี่ทุกวินาทีจิตท่านบริสุทธิ์ อย่างของผมปุถุชนแค่วันนี้ดูลมหายใจติดต่อกันได้ ๑๐ ครั้งแล้วรักษาศีลก็ไม่ประมาทแล้ว
ตอบ : คำว่า "ไม่ประมาทให้ถึงพร้อม" ต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้น อย่างอื่นไม่ถึงพร้อม อย่าเผยอหน้าขึ้นไปเทียบท่าน..!

เถรี 03-12-2017 22:42

ถาม : บริษัทที่ผมทำงานอยู่ พนักงานอยากให้เลี้ยงเหล้าปีใหม่ ทีนี้ผมในฐานะฝ่ายบริหาร ถ้าอนุมัติ ผมจะบาปไหมครับ หรือผมควรสั่งงด ?
ตอบ : อนุมัติไปเลย ไม่ได้บีบคอให้เขากิน ไม่ถือว่าบาป

เถรี 03-12-2017 22:45

ถาม : มีพระวัดหนึ่งทางภาคอีสาน ท่านบอกว่ารับภารกิจต่าง ๆ มาจากสมเด็จองค์ปฐม วัดท่านคือใจกลางของวัฏสงสาร มีดวงจิตขึ้นมาจากนรกมากมายตลอดเวลาและได้เข้าสู่แดนพระนิพพาน แม้แต่สัตว์หรือคนที่ได้ตายที่วัดหรือได้มาร่วมบุญที่วัดนี้ก็จะได้เข้าสู่แดนพระนิพพานเมื่อตาย เป็นไปได้หรือครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นไปได้พระพุทธเจ้าเอาพวกเราไปหมดแล้ว ไม่ต้องมานั่งอยู่อย่างนี้หรอก

ถาม : เมื่อพระหรือโยมทำอะไรที่ขัดแย้งกับท่าน ท่านจะบอกกับโยมที่ศรัทธาท่าน ว่าคนนั้นขัดขวางภารกิจสมเด็จองค์ปฐม ไม่ให้ยุ่งกับคนนั้น เดี๋ยวจะติดกรรม จริงหรือครับที่ขัดแย้งกับท่านคือขัดขวางสมเด็จองค์ปฐม แล้วเกิดเป็นกรรม ?
ตอบ : ถามท่าน...อย่าถามอาตมา...!

ถาม : ที่วัดมีหมูและหมามากมาย แต่ไม่ได้รับการสนใจ ท่านบอกบุญมีเงินสร้างพระพุทธรูปมากมาย แม้แต่ของใช้ส่วนตัวราคาสูง ๆ ก็เยอะ ถ้าท่านบอกบรรดาญาติโยมก็พยายามหามาให้ แต่กลับปล่อยสัตว์ให้อด นอนตากแดดฝน จนตายอย่างลับ ๆ ท่านสอนว่าให้มองข้ามร่างกาย อย่าใส่ใจร่างกาย ท่านว่านี่คือพรหมวิหารสี่ ใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : พรหมวิหารสี่แบบของท่าน...!

ถาม : ที่วัดมีหมูที่ได้รับการไถ่ชีวิตมา และหมาจรจัดนับร้อย ซึ่งไม่ได้รับการดูแล แม้แต่หลังคาหลบฝนก็ไม่มีมานาน ๒-๓ ปี ใครในวัดที่ช่วยดูแลเรื่องนี้ ท่านก็จะบอกกับคนรอบ ๆ ข้างประมาณว่า ทำให้ชื่อเสียงวัดเสียหาย เพราะท่านไม่อยากให้ใครรู้ความจริงเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของสัตว์นั้น ๆ ท่านว่าเป็นการขัดภารกิจสมเด็จองค์ปฐม อย่างนี้ก็หมายความว่าการบอกบุญแก่คนที่ต้องการช่วยเหลือสัตว์นั้นเป็นบาปมหันต์ เพราะขัดภารกิจสมเด็จองค์ปฐม ต้องตกนรกจริง ๆ หรือครับ ?
ตอบ : ไปถามท่าน...!

ถาม : หากคนในวัดอยู่แล้วไม่มีความสุข ต้องการออกไป แต่ติดตรงที่ว่าสงสารสัตว์เหล่านั้นที่ได้รับความทุกข์ เพราะโดนปล่อยปละละเลย ควรตัดสินใจอย่างไรดีครับ ทนต่อหรือไป ?
ตอบ : ทนต่อดีกว่า จะได้เห็นทุกข์มาก ๆ บุคคลที่จะเห็นธรรมต้องเห็นทุกข์ก่อนทั้งนั้น

เถรี 04-12-2017 09:19

ถาม : ในการพุทธาภิเษกเทวดาท่านจะเข้ารักษาวัตถุมงคล ๑ ชิ้นต่อ ๑ องค์ ใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นตามสายของหลวงพ่อวัดท่าซุงก็เป็นตามนั้น

ถาม : หากนำสร้อยประคำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดท่าขนุน เทวดาจะเข้ารักษาสร้อยประคำ ๑ เส้น หรือว่า ๑ เม็ดต่อ ๑ องค์ครับ ?
ตอบ : ๑ เส้น

ถาม : ประคำแยกเม็ด ยังไม่ได้ร้อยเป็นตัวสร้อย หากนำเข้าพิธีเทวดาท่านจะเข้ารักษา เม็ด ๑ ต่อ ๑ องค์ หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ท่านรอให้ร้อยเป็นสร้อยก่อน

เถรี 04-12-2017 09:22

ถาม : โรคซึมเศร้ากับนิพพิทาญาณ แตกต่างกันอย่างไร แล้วมีจุดสังเกตอย่างไรคะ ?
ตอบ : นิพพิทาญาณเกิดจากการมีปัญญา เห็นสภาพความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งไม่เที่ยง ทุกสิ่งเป็นทุกข์ ทุกสิ่งไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายได้ ส่วนโรคซึมเศร้าเกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ โดยเฉพาะสงสารตัวเอง ต่างกันมากไหม ?

ถาม : ตอนนี้มีอาการเบื่อทางโลก ไม่อยากดิ้นรน นอนเยอะ เพลียง่าย แต่พยายามจับภาพพระทั้งลืมตาหลับตา ภาพพระสว่างไสวชัดเจน เป็นอาการของนิพพิทาญาณที่ยังไม่ถึงสังขารุเปกขาญาณใช่ไหมคะ ?
ตอบ : เป็นความขี้เกียจ ต่อไปให้วิ่งจับภาพพระแทนการนอน..!

เถรี 04-12-2017 09:24

ถาม :ไปสักยันต์ห้าแถวกับอาจารย์หนูมาครับ ลูกศิษย์ท่านเป็นคนสักให้ อาจารย์หนูเป่าครอบ หลายปีเเล้วรู้สึกชีวิตไม่มีความสุขเลยครับ ไม่สบายใจ อยากถอนยันต์ออก จะเหลือแค่ลายก็ได้ อยากให้ช่วยเเนะนำหน่อยครับ
ตอบ : จะไปยากอะไร มีดคม ๆ ปาดพรืดเดียวก็หมดแล้ว...!

เถรี 04-12-2017 09:25

ถาม :การเซ็นลายเซ็นแทนคนอื่น ในกรณีที่ตัวเขาไม่สามารถเซ็นได้ เป็นการรักษาประโยชน์ และตัวเขาเองก็ได้อนุญาตไว้ ผิดศีลหรือไม่เจ้าคะ ?
ตอบ : ถ้าทำแล้วเกิดผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งเข้าสู่ตัวเอง ก็ถือว่ามีส่วนผิดศีล เช่น ขาดการทำงาน แต่ให้เพื่อนเซ็นว่ามาทำงานแล้วรับเงินเดือนเต็ม ก็เท่ากับโกงเขา

เถรี 04-12-2017 09:28

ถาม : ระหว่างฤกษ์พรหมประสิทธิ์กับฤกษ์หลวงปู่ปาน หากหาฤกษ์ที่ดีตรงกันทั้งสองตำราไม่ได้ ควรใช้ฤกษ์พรหมประสิทธิ์เป็นหลักใช่หรือไม่เจ้าคะ ?
ตอบ : หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า "ฤกษ์พรหมประสิทธิ์เป็นฤกษ์ใหญ่ ครอบคลุมหมดทุกฤกษ์ ถ้าฤกษ์อื่นบอกว่าไม่ดี แล้วฤกษ์พรหมประสิทธิ์บอกว่าดี ให้ใช้ตามฤกษ์พรหมประสิทธิ์"

เถรี 04-12-2017 09:30

ถาม : พระพุทธรูปที่ทางวัดกำลังจะปิดทองใหม่แน่นอน ในขณะที่ยังไม่ลอกทองเก่าออก ทางวัดอนุญาตให้คนทั่วไปสรงน้ำที่องค์ท่านได้ การที่เราไปสรงน้ำแล้วทองเก่านั้นอาจจะหลุดไป จะเป็นหนี้สงฆ์หรือไม่เจ้าคะ ?
ตอบ : ตั้งใจสรงน้ำเป็นพุทธบูชา ไม่มีเจตนาที่จะไปทำหลุด ไม่ถือว่าเป็นหนี้

เถรี 04-12-2017 09:31

ถาม : การทำความสะอาดพระพุทธรูปหรือรูปเคารพต่าง ๆ ที่บูชาที่บ้านที่มีการปิดแผ่นทองคำเปลว ทั้งเพื่อความสวยงามและเพื่อแก้บน หากล้างแผ่นทองออกทั้งหมด จำเป็นต้องปิดแผ่นทองกลับคืนหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าเขาปิดเป็นพุทธบูชาก็ต้องปิดคืนกลับไป

ถาม : หากไม่ต้องการปิดแผ่นทองกลับคืน จะมีโทษอย่างไร และต้องแก้ไขอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็ลงอเวจีเท่านั้นเอง แก้ไขอย่างไร ? ไม่ต้องแก้หรอก ถึงเวลาก็ลงไปแต่โดยดี...!

เถรี 04-12-2017 09:43

ถาม : ถ้าตอนที่เรากำลังคิดสงสัยถึงบางสิ่งบางอย่างอยู่ เช่น วิธีใช้ของที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ปรากฏเห็นเป็นภาพเข้ามาในหัวชั่วขณะหนึ่งไม่นานนัก แต่กลับเข้าใจขั้นตอนวิธีต่าง ๆ รวมถึงวิธีการใช้ได้อย่างละเอียดทั้ง ๆ ที่ตนเองไม่ได้มีความรู้ที่จะทำได้ ขณะเห็นภาพนั้นรู้สึกสงบอย่างประหลาด สมาธิจดจ่ออยู่กับภาพนั้น และจิตก็เห็นภาพได้ชัดเจนอย่างมาก อยากทราบว่าอาการนี้เป็นอุปาทานไปเองหรือไม่ ? ผมควรจะเชื่อสิ่งที่สัมผัสนี้หรือไม่ ?
ตอบ : อาการแบบนี้ส่วนใหญ่เป็นอาการของทิพจักขุญาณ ลองปฏิบัติตามดู ถ้าเกิดผลก็เชื่อได้ ถ้าไม่เกิดผลก็แล้วไป

เถรี 04-12-2017 09:45

ถาม : ผมเป็นคนที่ชอบฝึกสมาธิคนหนึ่ง เพราะทำแล้วรู้สึกสงบดี หรือถ้านั่งสมาธิแล้วฟังเทศน์ของครูบาอาจารย์ไปด้วย จิตจะสงบเย็นดีมาก แต่พอทำไปสักพัก พอรู้สึกว่าตัวเองมีความสดชื่น มีกำลังขึ้นมาแล้ว ก็รู้สึกว่ามันเบื่อ ๆ จะฝึกสมาธิต่อก็รู้สึกว่าเต็มแล้ว ด้วยความที่เป็นคนที่ชอบการ์ตูน เช่น ดราก้อนบอล วันพีช ฯลฯ ก็เลยมักจะดูหนัง ดูการ์ตูน หลังจากที่ทำสมาธิจนจิตสบายดีแล้วแทบทุกครั้ง อีกทั้งผมยังชอบติดภาพโปสเตอร์การ์ตูนไว้ในห้องนอนอีกด้วย ไม่ทราบว่าถ้าทำแบบนี้ เมื่อตายไปแล้ว ผมจะไปเกิดเป็นอะไรครับ ?
ตอบ : น่าจะไปเกิดที่ดาวไซย่า...!

เถรี 04-12-2017 09:50

ถาม : การกู้เงินเพื่อนำมาทำบุญ นับว่าเป็นการทำบุญด้วยวัตถุทานที่บริสุทธิ์หรือเปล่าครับ ? โดยเฉพาะเมื่อเรานำเงินที่หามาอย่างสุจริตมาใช้คืนเงินกู้นั้น ๆ
ตอบ : เป็นวัตถุทานที่บริสุทธิ์แต่ไม่ควรทำ การทำบุญไม่ควรทำให้ตนเองและคนรอบข้างเดือดร้อน ไม่ใช่ว่าไม่มีเงินก็ไปกู้เขามาทำบุญ ถ้าตายเสียก่อนไม่ได้คืนเขา จะซวยไม่รู้จบ..!

ถาม : และหากเรานำเงินที่หามาอย่างไม่สุจริต เช่น เงินที่ได้จากการเล่นสลากกินแบ่งรัฐบาล มาชดใช้เงินกู้นั้น ก็นับว่าเงินกู้นั้นเป็นวัตถุทานที่ไม่บริสุทธิ์ด้วยใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : สลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นเงินบริสุทธิ์ เพียงแต่ว่าได้มาจากเงินที่เป็นกึ่งการพนัน ถ้าเราติดใจว่าเป็นเงินที่ไม่บริสุทธิ์ จิตใจเศร้าหมอง ผลบุญก็จะลดลง

เถรี 04-12-2017 09:53

ถาม : ในช่วงที่มีการเป่ายันต์เกราะเพชร หากเรารับยันต์ที่บ้าน เราสามารถนำวัตถุมงคลมาวางไว้ที่หน้าตัก และขออาราธนาบารมีพระเพื่อพุทธาภิเษกวัตถุมงคลเหล่านั้นจะได้หรือไม่ครับ ? และวัตถุมงคลเหล่านั้นจะมีอานุภาพแตกต่างกับการนำมาเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจรับที่บ้าน ควรที่จะปูผ้าขาววางบนพานให้เรียบร้อย เหตุที่เขาให้วางบนตักที่วัด เพราะว่าตัวเองไปโดยที่ไม่มีความพร้อมสักอย่างเดียว ถ้าตั้งใจอาราธนาบารมีพระท่านสงเคราะห์ก็มีอานุภาพเหมือนกัน

เถรี 04-12-2017 09:55

ถาม : หากเราฝังวัตถุมงคลต่าง ๆ ไว้ในร่างกาย เช่น ตะกรุด หรือหินมงคล ในช่วงที่มีการเป่ายันต์เกราะเพชร เราสามารถขออาราธนายันต์เกราะเพชรเข้าไว้ในวัตถุมงคลที่ฝังไว้ในร่างกายได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ได้

ถาม : การฝังวัตถุมงคลที่มียันต์เกราะเพชรเข้าร่างกายนั้น หากพลาดพลั้งดื่มเหล้า ยันต์จะหลุดจากวัตถุมงคลที่ฝังไว้ในร่างกายหรือเปล่าครับ หรือเพียงแต่หยุดการคุ้มครองไปชั่วขณะหนึ่งครับ ?
ตอบ : ถ้าอยู่ในร่างกายถือว่าสูญอานุภาพไปด้วยกัน แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในร่างกาย คือเป็นวัตถุที่แยกชิ้นส่วนกันออกไป ก็เสียอานุภาพการคุ้มครองแค่ชั่วคราว

เถรี 04-12-2017 10:00

ถาม : ผมได้บูชาพระคำข้าวรุ่นพิเศษมาจากวัดท่าซุง เห็นพระองค์นี้สวยชอบใจ และเห็นมีพระบรมธาตุสี่องค์ครับ กลับมาศึกษาดูจึงได้รู้ว่า ปกติจะมีพระบรมธาตุ ๕ องค์ ซึ่งก็น่าจะจริงตามนั้น เพราะมีรอยบุ๋มของเนื้อพระอยู่ กราบเรียนถามว่าผมมีพระบรมธาตุอยู่ที่บ้าน หากนำไปติดเพิ่มจะสมควรหรือไม่ครับ ? และควรใชัวัสดุอะไรยึดติดพระกับพระธาตุจึงจะเหมาะสมครับ ?
ตอบ : ทำได้...ใช้กาวตราช้างก็ได้

ถาม : หากติดพระธาตุใหม่ลงไป จะมีผลต่อพุทธคุณหรือไม่ครับ ?
ตอบ : มี...ถ้าเป็นพระธาตุของแท้ก็เพิ่มพุทธคุณขึ้นมา

เถรี 04-12-2017 10:01

ถาม : การที่เรานั่งดูทีวีแล้วเห็นภาพอะไรแวบ ๆ ที่หางตา อารมณ์แบบนี้อยู่ในระดับอุปจารสมาธิหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ใกล้เคียง

เถรี 05-12-2017 19:09

ถาม : ตามที่หนังสือหลวงพ่อกล่าวว่า ความรู้ในมโนมยิทธิ พระพุทธเจ้าทรงยืนยันไว้กับนิโครธปริพาชกว่า คนใดที่มีบารมีแก่กล้าจะเป็นพระอรหันต์ภายใน ๗ วัน ถ้ามีบารมีอย่างกลางจะเป็นพระอรหันต์ภายใน ๗ เดือน ถ้าบารมีอ่อนจะเป็นพระอรหันต์ภายใน ๗ ปี เราไม่รู้ว่าอดีตชาติเราสะสมบารมีมาเท่าไร แต่ถ้าเราตั้งใจยกจิตขึ้นพระนิพพาน พยายามละสังโยชน์ ๑๐ ตัดร่างกาย ปฏิบัติในบารมี ๑๐ และทรงอารมณ์ให้ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ถ้าจะตั้งเป้าหมายให้เป็นพระอรหันต์ภายใน ๗ เดือน มีโอกาสเป็นได้ไหมคะ ?
ตอบ : ตั้งเป้าสูงสุดไว้ที่ ๗ ปี ถ้าทำได้ดีกว่านั้นก็ ๗ เดือน ถ้าทำได้ดีที่สุดก็ ๗ วัน เพราะฉะนั้น...แลกกับการเวียนว่ายตายเกิดที่นับชาติไม่ถ้วน เป้าหมาย ๗ ปีไม่ใช่เรื่องที่ยาวนาน

ถาม : มีอะไรที่จะให้เสริมจากที่กล่าวมาคะ ?
ตอบ : ไม่มี

ถาม : หรือควรจะไปบวชชีจริงจังเลยไหมคะ ?
ตอบ : ตัดสินใจเอาเอง อะไรที่เป็นเรื่องอนาคตของตัวเอง ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง อย่าไปถามคนอื่น ถามคนอื่นเป็นลักษณะจับเขาเป็นตัวประกัน ถ้าเกิดเขายืนยันว่าดี เราไปแล้วไม่ดีก็บรรลัยอีก..!

เถรี 05-12-2017 19:35

พระอาจารย์กล่าวว่า "พวกประเภท ดีชั่วรู้หมดแล้วอดไม่ได้ ถ้าต้องการคำแนะนำ อาตมาแนะนำว่าไปตายซะ...เผื่อเกิดใหม่จะดีขึ้นบ้าง...!

บุคคลประเภทนี้เป็นบุคคลที่น่าสงสารมาก เพราะว่ารู้ทุกเรื่องแต่ไม่คิดที่จะทำจริง ถ้าอย่างนี้ทางพระเขาถือว่าศีลขาดเพราะความไม่ละอาย ก็คือรู้แล้วยังขืนทำ บวชเป็นพระก็หมดอนาคต เป็นฆราวาสก็หมดอนาคต

มีอยู่อย่างเดียวคือต้องละความประพฤติทั้งหลายเหล่านั้นเสีย แล้วมาตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรม ซึ่งก็คงจะลำบากยากเข็ญในตอนแรก เพราะว่ากิเลสรุนแรงกว่า ฝึกซ้อมด้านชั่วเอาไว้มากกว่า ถ้าไม่ท้อถอยโอกาสจะได้ดีก็เร็ว เพราะว่ากำลังเก่าสูงมาก เพียงแต่พลิกมาใช้อีกด้านหนึ่งให้ได้เท่านั้น"

เถรี 05-12-2017 19:38

"สมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าเทศน์แล้วมีผู้บรรลุมรรคผลกันมาก เพราะว่าท่านเหล่านั้นมีพื้นฐานดีมาแต่เดิมแล้ว ส่วนใหญ่ฝึกปฏิบัติทางจิตจนกระทั่งได้อภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ เป็นปกติ แค่ใช้กำลังทั้งหลายเหล่านั้นมาในการตัดกิเลส อย่างที่โบราณว่า "ชั่วเคี้ยวหมากแหลก" ก็เกิดผลแล้ว เพราะว่ากำลังสูงพอ

เหมือนกับบุคคลที่สะสมเงินเอาไว้ มีจำนวนมากมายมหาศาล จะซื้อของ
ราคาแพงแค่ไหน ก็แค่ควักกระเป๋าไปซื้อเท่านั้น ขณะที่บุคคลซึ่งไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อน ไม่ได้ฝึกปรือมาก่อน ก็ เหมือนกับคนมีเงินไม่พอ ต้องเสียเวลาสะสมเงินเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน กว่าที่จะซื้อของแต่ละอย่างได้"

เถรี 05-12-2017 19:45

พระอาจารย์กล่าวว่า "คำถามจำนวนมากเป็นคำถามในลักษณะฟุ้งซ่านล่วงหน้า ถ้าเอาเวลาคิดคำถามไปภาวนาจะได้ดีมากกว่านั้น"

เถรี 05-12-2017 19:49

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้บ้านเมืองเราที่ปักษ์ใต้ลำบาก เพราะว่าฝนตกหนัก น้ำท่วมหลายแห่ง รอดูว่าถ้ามีท่านใดหรือหน่วยงานใดรับบริจาคช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุทกภัย พวกเราก็ไปช่วย ๆ กันหน่อย โดยเฉพาะพวกบรรดาข้าวของต่าง ๆ"

เถรี 05-12-2017 19:59

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม เวลามี ๒๔ ชั่วโมง ควรจะทำสัก ๒๕ ชั่วโมง..! แต่บางคนกลับไปหมกมุ่นอยู่กับสิ่งยั่วใจที่ตรงหน้า เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ไปใช้กำลังในทางที่ผิด ถ้าตั้งใจปฏิบัติทุ่มเทแบบนั้น ก็คงจะได้ดีไปนานแล้ว

สมัยอาตมายังเป็นวัยรุ่นอยู่ก็ฝึกกสิณ ขณะที่พระครูแสงท่านเพาะกาย ยกน้ำหนัก กินนมครั้งละ ๒ ลิตร กินไข่ครั้งละ ๑๒ ฟอง พอเห็นอาตมาภาวนาตัวสั่นพั่บ ๆ ก็โผล่หน้ามาบอกว่า "ดูท่ามันจะบ้าแล้ว" แต่หลังจากที่บวชเข้ามาได้ประมาณ ๒-๓ พรรษา ท่านก็บอกว่า "รู้อย่างนี้ ถ้าผมทำอย่างหลวงพี่สมัยนั้นก็สบายไปแล้ว"

การเริ่มที่ช้ายังไม่ถือว่าช้าจนเกินไป เพราะการเริ่มช้าก็ยังดีกว่าคนที่ไม่ได้เริ่ม เพียงแต่การเริ่มช้าก็ต้องทุ่มเทเอาจริงเอาจังมากกว่า"

เถรี 08-12-2017 09:56

พระอาจารย์กล่าวว่า "วัวธนูของสายเหนือ นอกจากของครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้แล้ว ก็ต้องหลวงปู่คำแสน วัดดอนมูลนี่แหละ"

เถรี 08-12-2017 10:04

พระอาจารย์กล่าวว่า "ลูกอมหลวงพ่อทับ วัดอนงคาราม มีหลายทรงด้วยกัน มีทรงกลม ๆ ที่เราเคยชิน กับทรงที่เขาเรียกว่าลูกหนำเลี้ยบ หรือทรงลูกรักบี้ แล้วก็ทรงแบน ๆ แบบเม็ดกระดุม แล้วยังมีพวกลูกสะกดอีก ลูกสะกดจะมีเจาะรูตรงกลาง ไม่ใช่ว่าไม่กลมแล้วเราก็ไม่แลเลย แบบนั้นจะชวดของดีไปอย่างน่าเสียดาย"

เถรี 08-12-2017 20:40

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีอย่างหนึ่งที่อยากจะเตือนก็คือ หลายคนไปเน้นวัตถุมงคลสายเสน่ห์ อย่างเช่น แพะหลวงพ่ออ่ำ สีผึ้งหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง มีอยู่รายหนึ่งจะเอาผ้ายันต์ม้าเสพนาง ครูบาวัง วัดบ้านเด่น แล้วก็จำนวนมากที่ไปจองปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ ปลัดขิกหลวงพ่อกวย เป็นต้น

วัตถุมงคลเหล่านี้ถ้าคิดจะเอาไปใช้ทางเมตตา อาตมาขอบอกว่าให้ระมัดระวังของแถม ที่ต้องระวังของแถมเพราะว่าสีผึ้งหรือปลัดขิก หรือสิ่งที่มาทางสายเสน่ห์เหล่านี้ สมัยก่อนเขาทำไว้ให้หาผัวหาเมียกัน เหตุเพราะว่าบางทีบรรดาลูกศิษย์มีฐานะลำบากยากจน ไม่มีสินสอดทองหมั้นที่จะไปขอตามที่พ่อตาแม่ยายเรียกร้อง ครูบาอาจารย์ท่านสงสารก็เลยทำวัตถุมงคลประเภทนี้ขึ้นมาให้

เพราะฉะนั้น...ควรดูวัตถุประสงค์ที่ท่านสร้างขึ้นมาจริง ๆ ด้วยว่าท่านต้องการอะไร แล้วเราจะเอาไปเมตตาค้าขายเดี๋ยวก็ได้ของแถมเท่านั้น อาจจะขายของได้อยู่หรอกนะ แต่จะได้ของที่ไม่ต้องการมาด้วย"

เถรี 08-12-2017 20:49

ถาม : ขออนุญาตถามคำถามระดับประถมค่ะ ?
ตอบ : ประถมนี่สูงมากเลยนะ ปกติมีแต่คำถามระดับอนุบาล..!

ถาม : ช่วงนี้สวดมนต์แล้วง่วง ไม่แน่ใจว่าเพลียหรือถีนมิทธะ ?
ตอบ : ดูอาการของร่างกายด้วยนะ ถ้าหากว่าเป็นช่วงหัวค่ำแปลว่าเราเพลีย ร่างกายอยากพักผ่อน แต่ถ้าเป็นช่วงเช้า ให้รู้ว่าจริง ๆ แล้วสมาธิเราเริ่มทรงตัว พอสมาธิเริ่มทรงตัวเข้าถึงปฐมฌานหยาบ จะตัดขาดไปเลย บางทีก็เหมือนกับนั่งหลับ แต่พอรู้ตัวว่า...อ้าว...ยังนั่งอยู่เป็นปกติ เพียงแต่ลืมไปว่าสวดมนต์บทไหนไปแล้วเท่านั้น

เพราะฉะนั้น...ดูด้วยว่าสภาพร่างกายเป็นอย่างไร ถ้าเราไม่รู้ว่าสภาพจิตแต่ละขั้นตอนมีอาการอย่างไร เราก็ต้องดูจากสภาพร่างกาย

เถรี 08-12-2017 20:51

ถาม : เริ่มรักษาศีลแปด บางทีต้องเลี้ยงลูก ไม่ทันเวลาเที่ยง ก็ต้องกินเลยเวลาไปนิดหน่อย ?
ตอบ : หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ถ้าตั้งใจกินมื้อกลางวันมื้อเดียวจริง ๆ ก็อย่าให้เกินบ่าย ๒ โมง เพราะว่าคนที่เขาติดงานจนถึงเที่ยงก็มีเยอะแยะ บางทีอาตมานี่ขนาดเป็นพระ เหลืออีก ๑๐ นาทีจะเที่ยงถึงจะได้ฉัน เพราะว่าติดงาน บางทีประชุมติดพันเลิกไม่ได้ ต้องว่ากันไปจนจบ แต่อย่างของโยมถ้าลูกติดพันก็อย่าให้เกินบ่าย ๒ โมงก็แล้วกัน


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:29


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว