เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๒
พระอาจารย์กล่าวว่า "เดือนที่แล้วไปพุทธาภิเษกหลายแห่ง ที่ซึ่งสบายที่สุดก็คือ วัดน้อย อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี วัดน้อยเป็นวัดของหลวงปู่เนียม ต้องบอกว่าท่านคือพระปรมาจารย์ใหญ่ของสุพรรณบุรี และเป็นครูบาอาจารย์ระดับหลวงปู่ของหลวงปู่เลย ไปแล้วไม่ต้องทำอะไรมาก ได้แค่นั่งมองอย่างเดียว ส่วนที่เหลือหลวงปู่ท่านจัดการให้หมด
พระครูใบฎีกาสามารถ ขนฺติวโร เจ้าอาวาสวัดน้อย เป็นเพื่อนพระอุปัชฌาย์รุ่นเดียวกัน ถามท่านว่า "ไม่นิมนต์ท่านอื่นเลยเหรือ ?" “เสกเดี่ยวเลยครับ” ท่านว่าอย่างนั้น ถ้าปลุกเสกเดี่ยววัดครูบาอาจารย์แบบนี้ อาตมาก็สบาย...แค่นั่งดูท่าน ไม่ต้องทำอะไรเลย" |
ถาม : กรณีที่สำลักน้ำอย่างรุนแรงทำให้หายใจเข้าอย่างลำบากเป็นเวลานานพอควร ตอนนั้นไม่รู้สึกตกใจ รู้ตัวเฉพาะแค่ต้องพยายามเฮือกลมหายใจเข้าให้ได้มากที่สุด ยาวที่สุด เพื่อไม่ให้ขาดออกซิเจน แต่ตอนนั้นไม่ได้นึกถึงพระพุทธเจ้าและพระนิพพานเลย ถ้าตายตอนนั้นยังมีสิทธิ์ไปพระนิพพานไหมครับ ?
ตอบ : เกาะอะไรไม่ได้สักอย่าง ยังจะไปพระนิพพานอีก คนที่จะไปพระนิพพาน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ต้องไม่ห่วงอะไรเลย โดยเฉพาะต้องไม่ห่วงร่างกาย นี่ไปห่วงร่างกายว่าจะหายใจได้ไหม แล้วอย่างนี้จะรอดไหม ? ถาม : ในกรณีนี้ต้องจับภาพพระ ทรงอารมณ์พระนิพพานให้ได้ตลอดเวลาใช่ไหมครับ จึงจะไม่พลาดพระนิพพาน ? ตอบ : ก็รู้แล้วนี่หว่า..! จะถามไปทำไม ? แต่ช่วงท้ายต้องปล่อยนะ ถ้ายังเกาะอยู่ ต่อให้เกาะพระนิพพานก็ไปไม่ได้เหมือนกัน |
สนทนาเรื่องการพุทธาภิเษกที่บ้านสุมโน "งานเป็นอย่างไรบ้าง ? แหม...ตอนในงานพุทธาภิเษกนี่ภาพพระท่านมาชัดสุด ๆ ไม่ว่าจะพระ จะครูบาอาจารย์มากี่ท่าน รู้สึกว่าชัดเป็นพิเศษ ก็ไม่นึกเหมือนกัน เพราะว่าปกติอาตมาก็ทำแค่พระท่านสั่ง แก้วอินทนิลก็เพิ่งเคยเอาออกงานแค่ครั้งเดียว แล้วก็มางานนี้อีกครั้งหนึ่ง ท่านบอกให้เอาไปด้วย"
|
"สถานการณ์แบบนี้พูดง่าย ๆ ว่าเข็นไม่ไป แล้วก็เป็นทั้งโลกนะ ไม่ใช่เป็นแค่ประเทศไทย แต่คราวนี้ประเทศไทยของเราจะตำหนิคณะรัฐบาลก็ใช่ที่ เพราะเขาหาคนดีที่สุดได้แค่นั้น ในเมื่อหาคนที่ดีที่สุดได้แค่นั้น ความสามารถในการทำงานก็ใช้แต่ระบบเก่า ๆ ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนที่นั่นที่นี่ นั่นเป็นแค่ไฟไหม้ฟาง เพราะว่าไม่ใช่เงินจากนอกประเทศเข้ามา เราควักกระเป๋าใช้เงินของเราเอง
ยิ่งประเภทที่ว่าแจกเงินคนจนเพื่อให้ไปใช้นะหรือ..? แล้วจะไปไหน ไปซื้อของก็เข้ากระเป๋านายทุนรายใหญ่ไม่กี่คน ไม่ใช่ว่าเขาจะไปซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้ง ซื้อน้ำเต้าหู้ ซื้อปาท่องโก๋เสียเมื่อไร สมัยนี้เขาประเภทเข้าห้างหรือว่าร้านสะดวกซื้อ จึงกลายเป็นไฟไหม้ฟาง เข้ากระเป๋าคนรวยแค่ไม่กี่คน เศรษฐกิจแบบนี้ วัตถุมงคลประเภทเมตตาค้าขาย หรือว่าช่วยในเรื่องของลาภผลได้ หาติดให้ท่วมตัวไปเลยนะ จริง ๆ แล้วผมตั้งใจจะไปตอนเช้าของวันจันทร์ แต่คิดดูแล้วว่าขากลับนี่คงแย่เลย เพราะว่าเช้าวันจันทร์รถจะติดขนาดไหน แล้วจะไปงานต่อไปทันไหม ท้ายสุดตัดใจยกเลิกนัดหมอ ไปวันอาทิตย์ดีกว่า" |
ถาม : ตอนมาสวดคาถาเงินล้านกันรอบเย็น รู้สึกว่าพลังของแก้วอินทนิลยังอยู่เพียบเลยครับ ?
ตอบ : มีเท่าไรกอบโกยกันเอาเองแล้วกัน ต้องบอกว่าท่านตั้งใจสงเคราะห์ก็สงเคราะห์สุด ๆ เลย ตอนงานสะพานข้ามแม่น้ำแคว วัดท่ามะขามจะมีพื้นที่เฉพาะของตัวเองที่ทางเทศบาลเขายกให้ แล้วทุกปีจะต้องไปออกร้านตรงนั้น พอพระครูบ่าวเป็นเจ้าอาวาส ท่านไม่อยากที่จะไปพรมน้ำมนต์แล้วแจกวัตถุมงคลเฉย ๆ ท่านก็จัดให้มีนิทรรศการด้วย แต่วัตถุมงคลที่จะแจกท่านไม่มี ก็เลยมาถามว่า "หลวงพ่อช่วยได้ไหมครับ ?" บอกท่านว่า "ได้...คุณไปหามาก็แล้วกัน" เขาก็ไปหาพวกด้ายสายสิญจน์ พวกเชือกถักผูกข้อมือ พวกสายตะกรุด ได้มาสามพานใหญ่ ๆ เหมือนกัน แล้วตอนเย็นเอามาให้ผมเสก นึกว่าตายละหว่า...บายศรีก็ไม่มี เครื่องบวงสรวงอะไรก็ไม่มี หาแล้วทั่ววัดได้แต่ธูปกับเทียนมา ก็เลยว่าเอาแค่นี้แหละวะ..! ปรากฏว่าพอนั่งกรรมฐานลงไป เจ้าประคุณเถอะ...ถึงเวลาครูบาอาจารย์ที่พระท่านจิ้มให้ลงมา ผมเห็นแล้วสะดุ้ง มีหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว, หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว, หลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้, หลวงปู่ดี วัดเหนือ, หลวงปู่สอน วัดทุ่งลาดหญ้า, หลวงปู่ดอกไม้ วัดดอนเจดีย์, ไปจนถึงหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ตายละหว่า...ระดับเจ็ดสิงห์แดนเสือ มาหมดเลย ผมลืมตาขึ้นมาตอนเที่ยงคืนนิด ๆ สงสัยว่า เอ๊ะ...เขามาขนของไปหมดตอนไหนวะ ? สงสัยว่าเราเผลอขาดสติไป เขาเข้ามาขนของไปตอนไหนก็ไม่รู้ เพราะว่าวางไว้อยู่บนโต๊ะหน้าหิ้งพระ ก็ว่าไม่เป็นไร กราบพระแล้วก็ไปเข้าห้องน้ำ |
พอเดินออกมา ปรากฏว่าของยังวางอยู่ตรงที่เดิมทุกชิ้น แต่ตอนแรกมองไม่เห็นอะไรเลย เออ..ดีเหมือนกันนะ ท่านคงทำให้เห็นว่าต่อให้พิธีไม่สมบูรณ์ แต่ถ้าท่านตั้งใจจะสงเคราะห์ก็ได้ขนาดนี้เหมือนกัน
แล้วปีนี้เป็นปีแรกที่ทางคณะจัดงานให้คนเข้าฟรี คนก็เลยไหลไปเทไปจะเหยียบกันตาย เพราะว่าปกติต้องเสียค่าบัตรเข้างาน อันนี้เขาถือว่าคุณไม่ต้องจ่ายค่าบัตร เข้าไปได้เลย แล้วก็ไปจับจ่ายใช้สอยกันข้างใน พระครูบ่าวเขากะว่าวัตถุมงคลน่าจะแจกได้วันละพันชิ้น ปรากฏว่าไม่พอ ยื้อไปไม่ถึงวันสุดท้าย ต้องบอกว่ายังโชคดีที่ท่านไหวทัน เอาพระพุทธรูปที่รับสังฆทานมา ไปเข้าพิธีไว้ ๔-๕ องค์ ไม่อย่างนั้นตัวเองจะไม่เหลืออะไรเลย คือเวลาที่ท่านจะสงเคราะห์ ท่านก็สงเคราะห์ให้แบบที่เราคิดไม่ถึง แล้วจะไปขอใหม่ให้ได้แบบนั้นก็ไม่ได้แล้ว |
ถาม : ถ้ารู้อย่างนี้ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมบายศรีก็ได้นะครับ ?
ตอบ : เฮ้ย...ไม่ได้ ของต้องมี แต่อย่างที่เล่านั่นเป็นงานฉุกเฉินจริง ๆ เพราะว่าผมก็มีเวลาอยู่กับท่านแค่คืนนั้นคืนเดียว ท่านมาถามว่าได้ไหม ? จึงตอบไปว่าได้ ท่านก็รีบไปหาซื้อของมา กวาดมาหมดตลาดเลย แต่ที่วัดจะหาธูปเทียนแพสักชุดก็ยาก ท้ายสุดหาได้แค่ธูปเทียน งานนี้คิดว่าโดนแน่ ปรากฏว่าท่านให้มากกว่าที่คิด แบบเดียวกับงานพุทธาภิเษกของคุณ อยู่ ๆ ท่านก็บอกว่าให้เอาแก้วอินทนิลไปด้วย ผมก็เหวอเลย ตั้งแต่ได้แก้วนี้มา นี่เป็นครั้งที่ ๒ ที่พระท่านบอกให้ออกงาน |
ถาม : พุทธาภิเษกงานนี้ท่านเสกของ เสกคน ทั้งคลีนทั้งเคลียร์ให้หมด
ตอบ : ใครไปก็ถือว่าโชคดีไป ของพวกนี้ต้องบอกว่าฟลุก ประเภทขอก็ไม่ได้หรอก แต่ถึงเวลาท่านจะให้เอง |
ถาม : ที่มีพุทธทำนายเอาไว้ว่าพระศาสนาจะรุ่งเรืองอีกครั้งในช่วงกึ่งพุทธกาล เวลานั้นผ่านมาแล้วคือสมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เห็นหลายคนเขาบอกว่าเป็นหลวงพ่อของเขา ฉะนั้น..เอาที่สบายใจก็แล้วกัน ถาม : แล้วต่อจากนี้ไปพระพุทธศาสนาจะมีแต่เสื่อมลง คงเหลือแต่ชื่อว่ามีอยู่ในประเทศไทยเท่านั้นใช่ไหมครับ ? ตอบ : ค่อย ๆ ดูไป |
ถาม : เวลานี้พระศาสนาถูกคุกคาม ถูกทำลาย ถูกโจมตีโดยฝ่ายตรงข้ามในหลายเรื่องหลายทางอย่างหนักหน่วง แต่สิ่งที่เราควรทำที่สุดคือทำใจให้สบายและปล่อยไปตามกฎของกรรม วางเฉยต่อการกระทำของฝ่ายตรงข้าม แม้จะถูกฆ่าและทำลายล้างอย่างที่ผู้คนที่นาลันทานครยอมให้เขาฆ่าใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับกำลังใจของคุณเป็นอย่างไร ถ้ากำลังใจยอมก็ยอมต่อไป ถ้ากำลังใจไม่ยอมก็ไม่ยอมอยู่ดี ฉะนั้น...เที่ยวไปถามคนอื่นไม่ได้หรอก อาตมาไม่เห็นเลยว่าอะไรจะคุกคามพระพุทธศาสนาได้หนักเท่ากับพุทธบริษัท ๔ ของเรา ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรักษาพระพุทธศาสนา แต่ไม่คิดจะทำอะไรให้เกิดมรรคเกิดผลขึ้นมา แล้วจะไปรักษาอีท่าไหน ? ตราบใดที่เรายังไม่สามารถทำตัวของเราให้เป็นตัวอย่างได้ จะให้คนอื่นเขาศรัทธาพระพุทธศาสนาได้อย่างไร ฉะนั้นภัย...คุกคามจากภายนอกเป็นแค่ส่วนเดียวเท่านั้น ส่วนที่แย่ที่สุดก็คือสนิมเหล็กที่กินตัวเอง |
ถาม : คนที่สร้างยานอวกาศได้ เขาทำบุญอะไรมาครับ ถึงได้ฉลาดขนาดนั้น ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ในอดีตเคยทำสมาธิไว้ สภาพจิตสงบ ปัญญาก็เกิด คราวนี้ปัญญาจะเป็นทางโลกหรือทางธรรม ก็แล้วแต่ว่าเขาจะเอาไปใช้อย่างไร |
ถาม : ถ้ามีคนทำร้ายร่างกายเรา แต่ในตอนนั้นไม่ได้อาราธนาตะกรุดมหาสะท้อน แต่หลังจากที่ถูกทำร้ายร่างกายแล้ว ความเจ็บปวดที่เกิดจากการถูกกระทำยังคงเกิดขึ้นกับร่างกาย ถ้าอาราธนาตะกรุดมหาสะท้อนในช่วงเวลานี้ คนที่ทำร้ายร่างกายตัวเรา จะได้รับผลของมหาสะท้อนหรือไม่ครับ ?
ตอบ : วัตถุมงคลมีไว้ให้อาราธนาเสมอ ๆ ไม่ใช่ถึงเวลาขี้จะแตกแล้วค่อยมาขุดส้วม แล้วจะทันไหม ? |
ถาม : จากกระทู้ร่วมบุญและได้วัตถุมงคล ตามที่สังเกตตนเองและคนอื่น หลายครั้งความอยากได้วัตถุมงคล เพราะกิเลสเช่น ความกลัว กลัวตาย กลัวอันตราย กลัวขาดรายได้ อยากดีเด่น อยากมีเสน่ห์คนรักเยอะ ๆ อยากจะเหนือคนอื่น หรือบางคนคิดไปในด้านการตลาดทำกำไรต่อไป แทบจะกลบความตั้งใจจะทำบุญกุศลหรือความศรัทธาในพระรัตนตรัยแท้จริงเกือบหมด ตอนจะพิมพ์จอง มีบางคนมีอาการหน้ามืดรีบจองก่อนทั้งที่ไม่มีศักยภาพโอนเงิน แบบนี้จะได้อานิสงส์ผลบุญกุศลหรือไม่ครับ ?
ตอบ : เจตนาบริสุทธิ์ วัตถุทานบริสุทธิ์ ผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับบริสุทธิ์ อานิสงส์จึงจะเต็มร้อยส่วน ถ้าส่วนไหนบกพร่องก็ลดไปตามจำนวนนั้น |
ถาม : เวลาอ่านข่าวทางอินเทอร์เน็ต เฟซบุ๊ก บ่อยครั้งจะตั้งจิตอุทิศบุญหรืออนุโมทนา ปรากฏมีสองครั้งที่คิดว่าแปลก คือ นายทหารที่ทำหน้าที่ทางสามจังหวัดชายแดนใต้ (ไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียง) ต่อมาป่วยเป็นมะเร็งและเสียชีวิต คือส่วนตัวจะรู้สึกดีกับพี่ทหารคนนี้มากเพราะตั้งใจทำงาน เสียสละจริง พอเห็นข่าวการเสียชีวิต จึงตั้งจิตตั้งใจอุทิศบุญให้ ซึ่งพอจบการอธิษฐาน เหมือนมีกระแสกระจายคลุมตัว ขนลุกซู่ทั้งตัวคล้ายกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ
และเมื่อเร็ว ๆ นี้งานบุญหลวงพ่อสายวัดป่า ท่านเป็นพระลูกศิษย์หลวงปู่กับหลวงตาชื่อดังมาก รู้สึกซาบซึ้งและศรัทธา จึงยกมือไหว้อนุโมทนา ครั้งนี้ได้รับกระแสเย็นกระจาย เหมือนนั่งอยู่ใกล้ลำธารมีน้ำไหลใสสะอาด คือไม่เย็นแบบหนาวเย็นยะเยือก ซึ่งทั้งสองกรณีไม่เคยพบเจอตัวจริงเลย พอพิจารณาหากระแสที่ได้สัมผัส คิดว่าไม่ได้มาจากมือถือแน่ แต่หาไม่พบ ตรงนี้เกิดจากกระแสบังเอิญเปิดตรงกันใช่ไหม กระแสที่ได้รับนี้มาจากอะไร ? ตอบ : อันดับแรก...เคยสร้างบุญสร้างกรรมร่วมกันมาก่อน ถ้าเคยสร้างบุญสร้างกรรมร่วมกันมาก่อน ก็จะสื่อถึงกันได้ง่าย อันดับที่สอง...พรหมหรือเทวดาที่ดูแลรักษาทั้งสอง หรือเรียกง่าย ๆ ว่า เทวดาประจำตัวท่านแสดงให้ทราบ อันดับที่สาม...เป็นคุณความดีเฉพาะตัวของท่านเลยที่แผ่ออกไปโดยไม่มีประมาณ ถ้าเราไปนึกถึงอนุโมทนา ก็สามารถสัมผัสถึงกระแสความดีของท่านได้ เพราะฉะนั้น..กรณีใดกรณีหนึ่งก็สามารถเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นได้แล้ว |
ถาม : ขอคำแนะนำการละทิ้งความอยากรู้อยากเห็น ศึกษาค้นคว้าในเรื่องที่ไม่ใช่การละตัดกิเลส เพราะเริ่มรู้สึกเสียเวลาไม่น้อย ควรจะทำอย่างไรดี มีวิธีพิจารณาแยกแยะอย่างไร ? เพราะบางกรณีเป็นงานที่ควรทำ ใจหนึ่งก็อยากละทิ้ง แต่อีกใจก็ห่วง ถ้าละทิ้งหมดกลัวจะทำงานไม่สำเร็จ ผู้คนที่เกี่ยวข้องจะเดือดร้อน
ตอบ : ตัดสินใจเอาเองก็แล้วกัน เพราะว่ากำลังใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน บอกกันไม่ได้ ของที่อาตมาเห็นว่าเหลวไหลไร้สาระ โยมอาจจะเห็นว่าเต็มไปด้วยสาระก็ได้ ถ้าแนะนำให้ไปตัดไปทิ้งเราก็ไม่ยอมอยู่ดี เพราะฉะนั้น..ให้พิจารณาเอาตามกำลังใจของตน |
ถาม : อารมณ์ใจของพระโสดาบัน หรือผู้ที่ได้โสดาปัตติผลแล้วนั้น สำหรับในศีลข้อที่ ๑ ถ้าจิตยังมีความคิดที่จะฆ่าแต่ยังไม่ฆ่า แบบนี้ถือว่าได้โสดาปัตติผลแล้วหรือไม่ขอรับ ?
ตอบ : ห่างหลายลี้..! พระโสดาบันไม่ใช่รักษาศีลอย่างเดียว แต่ปฏิบัติธรรมด้วย คำว่า “ธรรม” คือ เมตตาพรหมวิหาร ต้องมีเป็นปกติ ในเมื่อยังคิดอาฆาตพยาบาทเป็นวิหิงสาวิตกอยู่ ย่อมไม่ใช่กำลังใจของพระอริยเจ้าระดับโสดาบัน ถาม : ในส่วนของศีลข้อ ๓ ถ้าหากไปเที่ยวผู้หญิงบริการ ถือว่าศีลข้อ ๓ ขาดแล้ว ใช่หรือไม่ขอรับ ? ตอบ : ถ้าหญิงนั้นมีเจ้าของ ก็แปลว่าศีลขาดแน่นอน คำว่า หญิงมีเจ้าของ ๑๘ ประเภทนั้น ไม่มีอะไรเลยที่เราจะเลี่ยงพ้น แปลว่าต่อให้เป็นหญิงบริการ ถ้าเขามีพ่อมีแม่ มีพี่มีน้อง ยังมีคนรักคนหวงอยู่ ก็แปลว่าผิดศีล ยกเว้นอยู่อย่างเดียว คือหญิงนครโสเภณีที่ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็นสาธารณะ |
ถาม : อยากสอบถามวิธีตรวจสอบอารมณ์ใจของผู้ที่ได้โสดาปัตติผลโดยแท้ว่า ในกรณีของผมที่ได้กระทำไปในเรื่องของศีลตามที่ได้ชี้แจงในข้อที่แล้วนั้น ถือว่าผมมีโอกาสได้โสดาปัตติผลแล้วหรือไม่ หรือมีข้อตรวจสอบประการใดในการได้โสดาปัตติผล ?
ตอบ : ตัวตายดีกว่าศีลขาด ถ้ากำลังใจไม่ได้ถึงขนาดนี้ โอกาสที่เข้าถึงพระโสดาบันยังยาก ประการต่อไป เคารพพระรัตนตรัยสุดจิตสุดใจจริง ๆ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง และสุดท้ายคือมีพระนิพพานเป็นอารมณ์อยู่เสมอ |
ถาม : โยมนั่งสมาธิแล้วพิจารณาว่า จิตไม่สามารถรวมเป็นสมาธิได้ลึกเพราะอะไร ก็พิจารณาว่าเป็นเพราะว่าจิตมีโทสะมาก พอพิจารณาว่าทำไมจิตมีโทสะมาก ก็เห็นว่าคือสัญชาตญาณการป้องกันตัวของตัวเอง พอมีอะไรที่จะเป็นอันตรายต่อตัวเอง ครอบครัว ลูก ตัวเองก็พร้อมจะบวก จะเหวี่ยงกลับ จะมีเรื่องทันที แต่โดยปกติไม่ใช่คนยุ่งวุ่นวายกับผู้อื่นแต่อย่างไร เหมือนงูที่พร้อมจะฉกสิ่งที่เห็นว่าเป็นอันตรายต่อตนเอง อยากถามพระอาจารย์ถึงวิธีแก้ว่าจะทำอย่างไรให้สมดุลได้ทั้งทางโลกทางธรรมคะ ?
ตอบ : เป็นพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปก็จะสมดุลเอง |
ถาม : การพูดเล่นหรือพูดตลก ถือว่าเป็นการผิดกรรมบถ ๑๐ ข้อการพูดเพ้อเจ้อหรือไม่ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับกำลังใจของเรา ถ้ากำลังใจต่ำก็จะไม่รู้สึกว่าเพ้อเจ้อ ถ้ากำลังใจสูงก็จะรู้สึกว่าเพ้อเจ้อ ถาม : การพูดคำหยาบกับเพื่อน เช่น กู มึง ถือว่าเป็นการผิดกรรมบถ ๑๐ หรือไม่ ? ตอบ : คำหยาบหรือผรุสวาท เขาพูดให้คนอื่นเจ็บใจ ในเมื่อเราพูดแล้วเพื่อนไม่รู้สึกเจ็บใจ แล้วจะเป็นคำหยาบได้อย่างไร ? เพียงแต่ว่าเป็นภาษาที่ใช้กับคนอื่นทั่ว ๆ ไปไม่ได้ เขาจะว่าเราไม่รู้กาลเทศะ |
ถาม : พระที่อุดผงของเก่าหลวงพ่อปาน บรรจุในพระเครื่องรูปหลวงพ่อปาน เวลาจะทำน้ำมนต์ต้องอธิษฐานขอบารมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับสัตว์พาหนะตามเดิม หรือต้องเพิ่มเติมตัดทอนประการใดหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้ารู้มากก็ขอให้ครบ ถ้ารู้น้อยก็ขอบารมีพระ บารมีครูบาอาจารย์ก็พอ |
ถาม : ยาจินดามณีที่สีหรือกลิ่นเปลี่ยนไปยังมีอานุภาพตามเดิมหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่แล้วถ้านานไป ฤทธิ์ยาจะน้อยลง แต่ส่วนหนึ่งที่ไม่ไปไหนเลย ก็คืออานุภาพในลักษณะของวัตถุมงคล เพราะว่าครูบาอาจารย์ท่านเสก ยาจินดามณีบางส่วนที่อาตมาเจอ มีลักษณะแข็งเป็นพระธาตุไปแล้ว |
ถาม : หากใช้อานุภาพวัตถุมงคลที่มีเมตตาสูงมาก เช่น พระพุทธเมตตา หลวงปู่วิเวียร ปลัดขิก หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก เป็นต้น จนกระทั่งได้สามีภรรยาที่ต้องการมา สามีภรรยาเหล่านั้นจะใช้ชีวิตครอบครัวอยู่กับเจ้าของวัตถุมงคลอย่างราบรื่นตลอดไปด้วยอานุภาพวัตถุมงคลดังกล่าวหรือไม่ครับ ?
ตอบ : รู้จักลิ้นกับฟันไหม ? รักกันแค่ไหน การกระทบกระทั่งกันก็ต้องมีเป็นปกติ |
ถาม : พระพุทธรูปหรือพระเครื่องที่มีเหล็กไหลประกอบ สามารถอันตรธานได้เหมือนเหล็กไหลธรรมดาหรือไม่ครับ ?
ตอบ : หายไปเฉพาะเหล็กไหล |
ถาม : หากมีคนเอาควายเผือกไปใช้วิธีการให้ถูกฟ้าผ่าตาย เช่น ล่อฟ้าด้วยวิธีการต่าง ๆ เป็นต้น เขาควายเผือกจะมีอานุภาพเหมือนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือไม่ครับ ?
ตอบ : มี...แต่ได้นรกแถมไปด้วย..! |
ถาม : วัตถุมงคลเงินแท้กับชุบทอง อย่างไหนมีอานุภาพมากกว่ากันครับ ?
ตอบ : ถ้าชุบทองหนาระดับ ๓-๔ ไมครอนขึ้นไปก็น่าจะมีมากกว่า แต่ถ้าชุบบาง เงินแท้จะมีอานุภาพมากกว่า |
ถาม : วัตถุมงคลที่พระสงฆ์ใช้กำลังของท่านเองปลุกเสก หากท่านมีสมณธรรมเจริญขึ้น เช่น จากที่ทรงฌานโลกีย์ เลื่อนขึ้นไปเป็นพระอริยเจ้าระดับต่าง ๆ วัตถุมงคลของที่ท่านทำไว้ตอนสมณธรรมยังต่ำกว่าในปัจจุบัน จะมีอานุภาพเพิ่มขึ้นหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ของเดิมที่ทำมาแล้ว มีเท่าไรก็เท่านั้น แต่ถ้าของใหม่จะมีมากกว่าเดิม |
ถาม : ปรกติจะแขวนสร้อยพระตลอดเวลาครับ ไม่ว่าจะตอนนอน หรือตอนอาบน้ำ แต่มีข้อสงสัยคือตอนที่มีเพศสัมพันธ์ สมควรที่จะถอดสร้อยพระออกก่อนไหมครับ ? จะใส่ไว้ก็กลัวว่าจะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย จะถอดออกก็กลัวว่าจะไม่มีอะไรคุ้มตัวในระหว่างนั้นครับ
ตอบ : เรื่องของทางโลกกับทางธรรม บางทีก็ปวดหัวเหมือนกันนะ เอาที่สบายใจก็แล้วกัน หรือไม่ก็หาประเภทเครื่องราง เพราะว่าเครื่องรางบางส่วนไม่ถือสาเรื่องพวกนี้ อย่างเบี้ยแก้สารพัดกัน หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ท่านบอกว่าเข้าซ่องได้เลย แต่ถ้าลูกอมมหากันหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ลูกศิษย์เข้าซ่อง ลูกอมแตกเลย ฉะนั้น..ก็เลือกเอาพวกไม่รังเกียจประเภทนี้ไว้พกติดตัวสักชิ้นหนึ่ง ส่วนอื่นถึงเวลาก็นิมนต์พระท่านนั่งดูเฉย ๆ ไปก่อน...! |
ถาม : ไม่รู้เป็นอะไรค่ะ พอดีก็อยากทำดี แต่บางทีเบื่อ ๆ ก็อยากเที่ยวไปทั่ว ให้เหตุผลว่า ถ้าตัวเองแก่แล้วจะไปไม่ไหว มีคนบอกให้ลองพิสูจน์ เที่ยวให้อิ่มก่อนก็ได้ เราก็ไม่กล้า แต่พอเผลอ ๆ เราก็มีความคิดแบบนี้กลับมาเรื่อย ๆ ควรจะแก้ไขอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : คิดอย่างเดียวยังไม่เป็นไร แต่ถ้าคิดแล้วทำด้วยก็แบ่งเวลามาปฏิบัติธรรมด้วยก็แล้วกัน |
ถาม : หนูทำสมาธิหน้าหิ้งพระ แต่ไม่รู้เป็นอย่างไร ไม่อยากนั่ง ทรมาน ร้องไห้ เสียใจ รู้สึกกลัว อยากให้หลวงพ่อช่วย และก็รู้สึกอยากออกจากหิ้งพระ หนูเป็นอะไรคะ ?
ตอบ : หนูเป็นคู่ปรับของแมว...! เป็นอาการปกติ มีสองอย่างด้วยกัน อย่างแรกคือกิเลสมารมากวน ไม่อยากให้เราทำความดี ถ้าเป็นอย่างนี้แปลว่าบุคคลนี้สร้างบารมีมาพอแล้ว ถ้าปฏิบัติธรรมแล้วจะเข้าถึงธรรมได้เร็วมาก จึงโดนขวาง อีกประการหนึ่งก็คือ อาจจะมีสิ่งไม่ดีแฝงอยู่ในตัวเอง ถึงเวลาก็เลยไม่อยากจะปฏิบัติความดี เพราะว่าทำไปแล้วตัวเขาก็เดือดร้อน ถามว่าเดือดร้อนอย่างไร ? เนื่องจากความดีโดยเฉพาะศีล สมาธิ ปัญญาเหมือนกับแสงสว่าง ส่วนอื่นเหมือนกับความมืด ถ้าแสงสว่างมา ความมืดก็ต้องถอยร่นไป ก็เลยเดือดร้อนเอง |
ถาม : ผมอ่านเก็บตกเดือนพฤศจิกายนที่หลวงพ่อตั้งคำถามว่า โลกเราเต็มไปด้วยอันตราย จะอยู่หรือจะหนี ผมมีความคิดซึ่งไม่แน่ใจว่าผมคิดไปเองหรือมีใครสอน ว่าทำบุญสิ..จะได้ไปเกิดในถิ่นที่ไม่ต้องเจอตรงนี้อีก จะได้ไม่เจอสิ่งเลวร้ายอีก ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือมีใครสอนครับ ?
ตอบ : ตีเสียว่าคิดไปเองก่อนแล้วกัน ไม่อย่างนั้นจะฟุ้งซ่านมากกว่านี้ |
ถาม : หนูรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจเราเลย ผิดตลอด เกิดจากอะไรคะ ?
ตอบ : เกิดจากรักตัวเองจนเกินไป รักตัวเองยังไม่พอ ยังเรียกร้องจากคนอื่นเขาด้วย ในเมื่อไม่ได้ดั่งใจ ก็จะเกิดอารมณ์อย่างที่ว่ามานั่นแหละ |
ถาม : คนอื่นว่าเราดื้อ แต่เราคิดว่าตนเองไม่ดื้อ ถ้าคิดแบบนี้ถูกไหมครับ ?
ตอบ : คิดแบบนี้แหละที่เขาเรียกว่าดื้อ..! |
ถาม : พี่สาวถูกรางวัลที่ ๕ เราก็ดีใจกับเขาด้วย แต่พอมาอยู่คนเดียวก็มาคิดว่า เขาก็ไม่ได้ปฏิบัติอะไรเยอะ แต่ทำไมถึงสมหวังทั้งงาน ทั้งเงิน ทำไมเราไม่ได้เหมือนเขาบ้าง แบบนี้คือเราอิจฉาหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าเป็นมิจฉาทิฐิ ปัจจุบันนี้ไม่เห็นเขาทำอะไร แล้วอดีตเห็นเขาหรือเปล่าว่าทำอะไรบ้าง ? ส่วนปัจจุบันนี้เราทำอะไรเยอะแยะ แล้วอดีตเคยทำไว้บ้างไหม ? ส่วนใหญ่ถ้าไม่มียถากัมมุตาญาณตรงนี้ มักจะเป็นมิจฉาทิฐิไปหมด |
ถาม : คนที่ตายก่อนหมดอายุขัย จะได้ไปภพภูมิตามที่หลวงพ่อสอนไหมครับ เช่น ทำดีได้ไปสวรรค์ ทำไม่ดีได้ไปอบายภูมิครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่เขารอเวลา หมดอายุความเป็นมนุษย์เมื่อไรค่อยไป ฉะนั้น..ท่านทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าญาติพี่น้องทำบุญให้ไม่เป็น คำว่า ทำบุญให้ไม่เป็น ก็คือ ทำบุญผสมบาป มีการฆ่าสัตว์ มีการเลี้ยงเหล้า เป็นต้น ถ้าลักษณะอย่างนี้เขาไม่มีโอกาสโมทนา เพราะว่าโมทนาไปตัวเองก็เดือดร้อนกับบาปไปด้วย เขาก็จะลำบากมาก แต่ถ้าญาติพี่น้องทำบุญให้เป็น จะมีความสบายคล้ายเทวดาคล้ายนางฟ้า อย่างนั้นเขาจะไม่เดือดร้อน ระยะเวลาโลกมนุษย์สำหรับเขาแล้วเหมือนกับแค่พักเดียวเท่านั้น |
พระอาจารย์กล่าวว่า "โมทนากับโยมที่ถวายแหวนร้อยปีหลวงพ่อวัดท่าซุงมา ขัดไปขัดมาก็เลยฉวยโอกาสใช้ท่านไปด้วย เวลาให้พรจะได้ไม่เหนื่อย เหมือนอย่างกับมีไฟฉายในมือ ถึงเวลาก็ส่องได้เลย
อาตมามีแต่แหวนรุ่นแรก รุ่นราคา ๖,๖๐๐ บาท รุ่นนั้นตัวเรือนเป็นทองคำ แต่เปอร์เซ็นต์ต่ำไปหน่อย คนทำคิดแต่จะเอากำไรมากไปนิดหนึ่ง" |
พระอาจารย์กล่าวว่า "ไปเนปาลคราวก่อน ตั้งใจจะไปที่ฝรั่งเรียกว่า "โพคารา" แต่ว่าต้องนั่งรถไปวันหนึ่ง นั่งรถกลับวันหนึ่ง..ไม่คุ้ม ยกเว้นว่ามีเวลาไปค้างคืนสักสองคืนยังพอจะคุ้ม
โพคารา บาลีว่า โปกขะระ แปลว่า สระน้ำ ที่เราว่า สระโบกขรณี แถวนั้นจะมีทะเลสาบใหญ่อยู่ มีพวกรีสอร์ตลอยน้ำ ถ้าเราไม่รู้ภาษา บางอย่างก็ไปไกล อย่างที่ฝรั่งเรียก "นากาก็อต" คนไทยเรียกว่า "นาคขนด" แขกปากีสถานเรียกว่า "นังการ์ปาร์บัต" ก็คือ นาคบรรพต ถ้าไปแล้วรู้จักเจ้าที่ ให้ถามท่านด้วยว่าแปลว่าอะไร ถ้าไม่รู้จักก็ต้องเลียนเสียงแบบฝรั่ง ออกเสียงผิด ๆ ต่อไป ภาษานั้นเนื่องกันหมด เพียงแต่เราเข้าใจแค่ไหนเท่านั้นเอง แบบเดียวกับฝรั่งเรียกช้างว่า "เอลเลฟแฟ่น" ก็คือ เอราวัณ ของภาษาบาลีดี ๆ นี่เอง แต่เขาออกเสียงไม่ได้ ต่อไปปฏิบัติธรรมให้น้อยลงหน่อย ถ้าปฏิบัติแล้วรู้มากแบบอาตมา คนเขาจะว่าบ้า ชอบไปรู้เรื่องที่ชาวบ้านเขาไม่รู้ "นังการ์ปาร์บัต" ปาร์บัต คือ ปัพพตะ ภาษาบาลีแปลว่าภูเขา คนไทยเรียกว่า บรรพต" |
พระอาจารย์เล่าว่า "การปฏิบัติธรรม ถ้าทำไประยะหนึ่ง การรู้เห็นจะตามมาเอง เพราะว่าสภาพจิตของเราเริ่มสงบ เหมือนกับน้ำที่กระเพื่อมอยู่ เราก็ไม่สามารถที่จะมองอะไรได้ แต่ถ้าน้ำนั้นนิ่งสงบเมื่อไร จะสะท้อนเงารอบด้านลงไปเหมือนของจริงเลย สภาพจิตที่สงบก็จะเริ่มรู้นั่นรู้นี่ไปตามสภาพ ฉะนั้น..ต้องมีความคล่องตัวมากพอที่จะตัดการรับรู้นั้นได้ด้วย
อีกส่วนหนึ่งที่พึงระวังให้หนักคือ รู้แล้วพูดได้เท่าไร ถ้ารู้ร้อยหนึ่งอาจจะให้พูดแค่หนึ่งแค่สอง ถ้ารู้แล้วยังไม่รู้ว่าตัวเองควรที่จะพูดได้เท่าไร ก็โปรดระมัดระวัง เพราะว่าบางอย่างกลายเป็นไปยุ่งกับกฎของกรรมมากเกินไป บางท่านก็ถึงขนาดเสียใจจะฆ่าตัวตายก็มี อาตมาเคยเจอพยาบาลทหารอากาศ มีความรู้ล่วงหน้า ถ้าจับมือใครก็จะเห็นอนาคตใกล้ ๆ ของคนนั้น คราวนี้จับมือเพื่อน เห็นว่าจะโดนรถชนตายแล้วไม่กล้าบอก พอเพื่อนไปโดนรถชนตาย ตัวเองก็ร้องไห้จนเสียผู้เสียคนไปเลย คือไปโทษว่าเพราะตัวเองเลยทำให้เพื่อนตาย ยายนั่นบ้า..!คุณจะรู้หรือไม่รู้ ถ้าวาระกรรมมาถึงเขาก็ต้องตายอยู่แล้ว แต่ดันไปเข้าใจว่ารู้แล้วไม่บอกเลยทำให้เพื่อนตาย อาตมาอยากจะบอกว่า ถ้ารู้แล้วบอกเอ็งนั่นแหละอาจจะตายแทน..!" |
"กรรมก็เหมือนกับลูกปืน เขายิงใส่คนหนึ่ง ถ้าเราไปขวางไว้ แล้วใครจะโดน ? ฉะนั้น...นักปฏิบัติสิ่งสำคัญที่ต้องระวังคือ อย่าไปยุ่งกับกรรมคนอื่น เหมือนกับเห็นแก่ตัว แต่ไม่ใช่ ถ้ารู้ต้องรู้จริงว่ายุ่งได้แค่ไหน
หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก มีลูกศิษย์ผู้หญิงลูกติด ผัวโดนเกณฑ์ทหารไปรบ รบที่ไหน ? สงครามอินโดจีน สงครามมหาเอเชียบูรพานั่นแหละ พอรบติดพันเป็นปี ๆ ไม่ได้กลับบ้าน ลูกเมียจะอดตาย หลวงพ่อจงก็เลยให้หวยไป ให้ไปซื้อหวยแบ่งเงินคนรวยมาใช้ จะได้เลี้ยงลูกได้ แต่พอกลับไปแล้ว หลวงพ่อจงนึกขึ้นมาได้ พายเรือตามไป ไปบอกว่า "อีหนูอย่าเล่นเกิน ๕ บาทนะลูก บุญของเอ็งมีแค่นั้น ถ้าเล่นเกิน ๕ บาท จะไม่ถูก" สรุปท่านบอกตอนแรกบอกไม่ครบ ก็เลยทำให้หลวงพ่อจงที่อายุมากแล้วต้องพายเรือจนเหนื่อย เพื่อไปบอกว่าอย่าเล่นเกิน ๕ บาท" |
"ฉะนั้น รู้อะไรต้องรู้ให้ครบแบบหลวงพ่อจง บอกก็บอกให้ครบ บอกได้เท่าไรก็แค่นั้น
พวกเราส่วนหนึ่งที่ตั้งคำถามมา ไม่ได้นึกถึงความพอเหมาะพอดี ในขณะเดียวกัน ตอบไปแบบพอเหมาะพอดีก็ดัน “แสนรู้” ไปขยายความอีก ทางลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุงมีเยอะมาก บอกว่าหลวงพ่อเคยเกิดเป็นพระมหากษัตริย์ท่านนั้น เคยเกิดเป็นพระมหากษัตริย์ท่านนี้ให้ยุ่งไปหมด รู้หรือเปล่าว่าตัวเองกำลังละเมิดมาตรา ๑๑๒ อยู่..! ภาษาทหารเรียกว่า "ดึงฟ้าต่ำ" หลวงพ่อท่านรู้ว่าพูดแค่ไหนพอดี นี่เสือกรู้เกิน รีบไปขยายความด้วยความภูมิใจว่า "กูรู้" หารู้ไม่ว่าจะพาซวยทั้งวัด พอถึงเวลากลายเป็นอ้างเบื้องสูง หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ฉะนั้น...ถ้ารู้แล้วปากคันจะพูดให้ได้ ก็ให้เอาพลาสเตอร์ปิดปากไว้" |
"นักปฏิบัติที่ไม่รู้ไม่เห็นอะไร รวบรัดตัดตรงเข้าหามรรคหาผลเลยถือว่าโชคดีที่สุด ไม่เสียเวลา ส่วนท่านที่รู้มากก็ยากนาน คำว่ายากนาน บางคนโดนพารู้เตลิดเปิดเปิงไป เวลาญาณเครื่องรู้เกิดขึ้น รู้ทุกเรื่อง อย่างที่บอก...ขนาดสร้างยานอวกาศไปนอกโลกก็ยังได้ เพียงแต่ว่าหากว่าเราสังเกตจะเห็นว่า ทุกอย่างที่เราคิดจะมีเหตุมีผล สามารถอธิบายได้ทั้งวิชาการ ทั้งวิทยาศาสตร์ ทั้งทางธรรม แต่เรื่องที่รู้ไม่มีอะไรช่วยให้เราหมดกิเลสเลย ถ้าไม่สังเกตตรงนี้ก็จะโดนหลอกไปเรื่อย ๆ"
|
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:55 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.