กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2637)

เถรี 30-05-2011 17:26

ถาม : แสดงว่าผู้ที่ทำเมตตาภาวนาต้องมีพื้นฐานมาจากทานเริ่มต้น ?
ตอบ : ศีลต้องมีครบ ทานต้องให้ได้ เพราะว่าเมตตาเป็นภาวนา คนถ้าไม่เริ่มจากทานขึ้นมาก็ไม่มีศีล เริ่มจากศีลขึ้นมาถึงจะมีภาวนา

ถาม : แล้วบุคคลที่เป็นปัจเจก ในป่าในไพรไม่มีอะไร ก็ให้ชีวิตแทนหรือครับ ?
ตอบ : หลายท่านด้วยกันที่มีอะไรท่านก็ให้อย่างนั้น มีหลายท่านที่ไม่มีอะไรก็หาพืชหาผักให้เขา มีหลายท่านเห็นเขาต้องการผ้าผ่อนท่อนสไบก็สละผ้าห่มของตัวเองให้เขา พูดง่าย ๆ ว่าให้เท่าที่ตนเองมีให้ได้

เถรี 30-05-2011 17:34

พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "เจ้าจูดี้หมาในวัดท่าขนุน เป็นหมาพันธุ์อะไรก็ไม่รู้ ตัวเล็ก ๆ วันหนึ่งอาตมาออกบิณฑบาต เจ้าจูดี้นึกคึกอะไรก็ไม่รู้ วิ่งตามไปด้วย

ปกติถ้าหมาตามตอนบิณฑบาต เวลาเจอหมาบ้านอื่นวิ่งไล่ ก็จะวิ่งมาพันแข้งพันขาพระเพื่อหลบภัย ทำให้พระเดินไม่ถนัด ปรากฏว่าพอเดินไปถึงสี่แยกปอมเป ฝั่งตรงข้ามมีหมา ๓ ตัวเห่าเจ้าจูดี้ แต่ละตัวใหญ่กว่าสัก ๒ เท่าครึ่งเป็นอย่างน้อย เจ้าจูดี้ตัวเล็กนิดเดียววิ่งเข้าใส่เขาเลย หมา ๓ ตัวนั้นทำอะไรไม่ถูก เลยเผ่นดีกว่า..!

พอขยับไปอีกบ้านหนึ่ง มีโดเบอร์แมน ๒ ตัวยื่นจมูกมาดม เจ้าจูดี้กระโดดงับ โดเบอร์แมนต้องรีบถอย ไปอีกบ้านหนึ่งเป็นดัลเมเชี่ยนตัวเบ้อเริ่ม เจอเจ้าจูดี้พุ่งใส่ก่อนก็เผ่นเหมือนกัน วันนั้นเจ้าจูดี้เดินสบายมาก ไม่มีหมาตัวไหนกล้ายุ่งด้วยเลย

แต่เชื่อไหมว่าพออยู่วัด เจ้าจูดี้แพ้หมาทุกตัว แพ้แม้กระทั่งหมาตัวเล็ก ๆ แต่ออกไปข้างนอก ขนาดดัลเมเชี่ยน โดเบอร์แมน ยังไม่ปล่อยเขาเลย แสดงว่าตอนอยู่ในวัดเก็บกดเอาไว้เยอะ..!"

เถรี 30-05-2011 17:46

"เวลาหมาตาย..อย่าไปร้องไห้มาก ถ้าเราตายตอนนั้นจะไปเกิดเป็นหมาจริง ๆ..! เพราะฉะนั้น..เราเลี้ยงเขา เมตตาเขาตามปกติ เวลาเขาตายก็ต้องเห็นด้วยว่าปกติเขาต้องเป็นอย่างนั้น

อาตมาเลี้ยงอีเห็นไว้ ชื่อคุณกมลา ชื่อเล่นว่าอีแสบ คุณกมลาเห็นว่าเวลาอาตมาไปไหน หมาก็ไปด้วย เขาก็เลยไม่กลัวหมา อาตมาเข้ามารับสังฆทานที่กรุงเทพฯ พอกลับไปเกาะพระฤๅษี คุณกมลาตายไปแล้ว เพราะเขาไปเล่นกับหมา แต่หมาเอาจริง..!

พอคนงานเขามารายงาน อาตมาก็ถามว่า "แล้วเอ็งทำอย่างไร ?" เขาบอกว่า "ผมเอาไปฝังแล้วครับ" อาตมาก็ด่าให้ "ทำไมโง่อย่างนี้วะ ? ไม่รู้จักเอามาผัดเผ็ด..!" คนงานเอ๋อไปเลย เขาเห็นอาตมาเลี้ยงอีเห็นแล้วรักขนาดนั้น พอเวลาตายกลับกินเสียได้

อาตมาบอกเขาไปว่า "ต้องแยกแยะให้ถูก ตอนเลี้ยงก็รัก เมตตาตามปกติ พอตายก็ใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดสิวะ ผัดเผ็ดได้ก็จัดการเสียก่อน" ถ้าแยกอย่างนี้ออกก็เลี้ยงสัตว์ได้ ถ้าแยกไม่ออกเดี๋ยวใจจะหมอง เผลอเมื่อไรจะไปเกิดเป็นสัตว์นั้น ๆ"

เถรี 30-05-2011 17:53

"อาตมาเลี้ยงอีเห็นไป ๓ ครอกนี่เข็ดเลย เพราะไม่มีเวลาทำอย่างอื่น อีเห็นชอบตื่นกลางคืน แล้วก็กวนเรา คุณกมลานี่แสบสุด ๆ เวลากลางคืนหนาวจะตายชัก ยังตะกุยประตูจะออกให้ได้ จนทนรำคาญเสียงไม่ไหว ต้องไปเปิดประตูให้ออกไป พอหายไปครึ่งค่อนชั่วโมง ก็หนาวสั่นกลับมาร้องจะเข้ากุฏิ ถ้าไม่เปิดก็ร้องเรียกจนกระทั่งต้องไปเปิดให้

พอเปิดให้ก็มุดเข้ามาอยู่ใต้ผ้าห่ม แต่อากาศหนาวตีนอีเห็นเย็นเจี๊ยบ พอมาเดินอยู่บนตัวเรา ก็ไม่ต้องนอนแล้วงานนี้ พอตีนอุ่นก็ร้องจะออกไปอีกแล้ว ไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี เลี้ยงอีเห็นนี่ยิ่งกว่าเลี้ยงลูกอ่อนอีก

ตอนหลัง ๒ ครอก ครอกละ ๔ ตัว ได้มาตั้งแต่ยังไม่ลืมตา ต้องเอาหลอดฉีดยาหยอดนมให้ทีละหยด พ่อเขาโดนชาวบ้านยิงตายที่พื้น แม่วิ่งไปถึงปากโพรงแล้ว ดันหันกลับมาดู ถ้าหนีเข้าโพรงไปเลยจะไม่เป็นไร ทีนี้ดันหันกลับมาดูก็เลยโดนยิงกระเด็นลงมา ลูกอีเห็นร้องตกใจเสียงปืน ชาวบ้านจึงรู้ว่ามีลูกอยู่ แต่ไม่มีปัญญาจะขึ้นไปเอา เพราะต้นไม้กลม ๆ ลื่น ๆ ไม่มีกิ่งก้าน เขาขึ้นกันไม่เป็น

ส่วนอาตมาปีนต้นตาล ต้นมะพร้าว มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ก็เลยปีนเป็น เขาจึงมาตามให้ไปเอาลูกอีเห็นลงมา ชาวบ้านแถวนี้เห็นพระเป็นที่พึ่งจริง ๆ เลย สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ช่วยไปเอาลูกอีเห็นลงมาที..!"

เถรี 30-05-2011 18:01

"ตอนแรกตัวเท่านิ้วชี้ ตาก็ยังไม่ลืม สะดือก็ยังไม่หลุด ต้องค่อย ๆ เอานมหยอดทีละตัว ๆ เลี้ยงพวกนี้ให้ใช้นมจืดนะ อย่าไปใช้นมหวาน ผ่านไปอาทิตย์เดียวตัวโตเท่ากล้วยหอมได้ โตเร็วจริง ๆ เลย คราวนี้ก็แย่งกันกินอุตลุด ทั้งที่ยังไม่ลืมตานั่นแหละ พอได้กลิ่นนมก็วิ่งกรูกันเข้ามา ต้องใช้วิธีจับมา บีบเข้าปากตัวละหลอดอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ใช้วิธีนี้แล้วเดี๋ยวแย่งกัน และจะกัดกัน

จนกระทั่งลืมตาแล้วสามารถกินเองได้ ก็เทนมใส่จานให้เลียกินกันเอง พวกนี้ถึงเวลากินอิ่มก็นอนผึ่งพุงหลับทั้งวัน ตื่นขึ้นมาเมื่อไรก็วิ่งมากินอีก อาหารหลัก ๆ ได้แก่ กล้วย มะละกอ เนื้อไก่ แต่เนื้อไก่จะให้แค่ ๒ มื้อเท่านั้น

ที่น่าขำก็คือ พระต้องฉันต้มตีนไก่ แต่ว่าอีเห็นกินเนื้ออกไก่ ตอนนั้นราคากิโลละตั้ง ๗๐ บาท ซื้อมาแช่ตู้เย็นไว้ ใกล้เวลาอาหารก็ต้องเอามาแช่น้ำให้หายเย็นแล้วหั่น นึกแล้วก็อนาถใจ พระต้องฉันมาม่า แต่อีเห็นกินไก่ทั้งตัว..!

ช่วงนั้นไปไหนก็ต้องหิ้วตะกร้าใส่ไปด้วย ช่วงรับสังฆทานใหม่ ๆ ที่บ้านอนุสาวรีย์ก็เหมือนกัน พวกนี้กระโดดขึ้นหัวขึ้นหู วิ่งวุ่นไปหมด ยิ่งค่ำก็ยิ่งคึก

อีเห็นเป็นสัตว์หากินกลางคืน ตอนแรกเอากระดิ่งผูกให้ ปรากฏว่าปล่อยแล้วไปไม่รอด หิวโซกลับมาทุกที จนกระทั่งนึกได้ว่า การเอากระดิ่งไปผูกคอเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ทำให้พวกเขาหากินไม่ได้ เพราะเวลาวิ่งจะมีเสียงกรุ๊งกริ๊ง สัตว์ที่ไหนจะอยู่ให้ล่าเล่า ? จึงต้องเอากระดิ่งออก

ได้แต่บอกชาวบ้านว่า ถ้าเห็นอีเห็นมาหากินใกล้ ๆ คน เวลาส่องไฟแล้วไม่หนี ให้คิดว่าเป็นของวัดไว้ก่อน ด้วยความที่เลี้ยงตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ ก็เลยตัวโตขนาดหมาย่อม ๆ พวกลูกสัตว์นี่ถ้าเราอัดอาหารให้เต็มที่ จะโตมากเป็นพิเศษ"

เถรี 31-05-2011 18:40

ถาม : ภัยพิบัติของโลก คุณธรรมที่เป็นหิริโอตตัปปะ เพียงพอที่จะรักษาชีวิตไว้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่ามีหิริโอตตัปปะจริง ๆ เว้นการทำชั่วทุกประเภท สามารถรักษาชีวิตได้แน่ แต่คราวนี้ส่วนใหญ่มีหิริโอตตัปปะไม่จริง มีเป็นบางเรื่อง บางคนก็ไม่มีสักเรื่อง..!

ถาม : ถ้าพอมีบ้าง กรรมที่มนุษย์ได้กระทำไว้ก่อน ?
ตอบ : ใครทำคนนั้นก็รับไป คนไม่ได้ทำก็รอดไป ขนาดเวียงหนองหล่มกับหนองหานก็ยังมีคุณยายรอดอยู่คนหนึ่ง

เวียงหนองหล่มที่เชียงรายกับหนองหานที่สกลนคร อยู่คนละทิศละทางกันเลย แต่มีประวัติเหมือนกัน ก็คือ มีคนไปกินปลาไหลเผือกซึ่งเป็นพญานาคแปลงกายมา ถึงเวลาพรรคพวกเขาก็มาอาละวาด คนที่กินก็โดนถล่มจมดินไปหมดทั้งเมือง ส่วนคุณยายอยู่คนเดียว ไม่มีปัญญาจะไปเอาเนื้อมากินก็เลยรอดชีวิตไป

ถ้าเป็นสมัยนี้เขาว่าภูเขาไฟระเบิด..ใช่ไหม ? แผ่นดินเลยยุบ แต่ที่บ้านสองแควมีบ่อน้ำร้อน ร้อนเกิน ๖๐ องศา เขาว่าขนาดวัวทั้งตัวตกลงไป พอลอยขึ้นมาก็สุกแล้ว เขาบอกว่าตามประวัติว่า แต่เดิมชื่อว่าเมืองเกิน มีพระอรหันต์องค์หนึ่งเข้ามาบิณฑบาตที่เมืองนั้น เจ้าเมืองไม่ชอบใจจึงสั่งให้ทุกคนบ้วนน้ำลายใส่บาตรแทน

มีชายหนุ่มคนหนึ่งเห็นแล้วทนไม่ไหว จึงเอาบาตรของพระท่านไปล้าง ล้างในหนองน้ำแล้วน้ำเดือดขึ้นมา พระอรหันต์จึงบอกชายหนุ่มคนนั้นว่า ให้รีบหนีไปให้พ้นเสีย บ้านนี้เมืองนี้อยู่ไม่ได้แล้ว กำลังจะถล่ม กรรมหนักจะลงโทษคนชั่วทุกคน ชายหนุ่มเชื่อท่านก็หนี คนที่ไม่เชื่อก็หัวเราะเยาะ

ปรากฏว่าถล่มจริง ๆ ร่องรอยที่เหลืออยู่ก็คือปล่องภูเขาไฟ ๒ ปล่อง ส่วนน้ำที่เดือดคลั่ก ๆ นั่น ร้อนขนาดไหลห่างจากจุดกำเนิดเกือบ ๒ กิโลเมตรแล้ว เวลาแหย่เท้าลงไปยังสะดุ้งเลย

เถรี 31-05-2011 19:09

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : บ้านอยู่ไกลวัดพระแก้วไหมจ๊ะ ? ให้ไปบนพระแก้วมรกต ถวายไข่ต้ม ๑๐๐ ฟอง แต่ไข่ต้มของท่านแปลกมาก เพราะของจิ้มจะเป็นพริกกับเกลือ แบบที่เราทำไว้สำหรับจิ้มฝรั่งดองนั่นแหละ ถ้าหากว่าสำเร็จตามที่บน เรื่องจบออกมาด้วยดี เราจะถวายไข่ต้ม ๑๐๐ ฟองพร้อมพริกกับเกลือ และพวงมาลัยดอกดาวเรือง

ไปบนท่านได้เลยจ้ะ ถ้าหากว่าสำเร็จแล้ว แก้บนแล้ว ของที่เหลือเอาไปให้ตามสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หรือพวกบ้านเมตตา บ้านราชวิถีอะไรก็ได้ สมัยก่อนหลวงปู่มหาอำพันท่านบนบ่อย พวกลูกศิษย์ก็มีหน้าที่แบกไข่ไปให้ตามบ้านพวกนั้น เขาก็เอาไปทำอาหารเลี้ยงเด็กกัน

จะบนมากกว่า ๑๐๐ ฟองก็ได้จ้ะ เราไปจุดธูปบน พอถึงเวลาก็ให้แก้บนที่หน้าโบสถ์วัดพระแก้วนั่นแหละ พอถึงเวลาธูปหมด เราลาของมาก็เอาไปแจกตามบ้านที่ว่า หรือไม่ก็เก็บเอาไปต้มพะโล้กินเองก็ได้

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ไม่เป็นไรจ้ะ แค่นั้นก็พอแล้วจ้ะ รีบไปจัดการเสียจะได้หมดปัญหาไว ๆ กำหนดวันไปเลยว่า ภายใน ๓ เดือน ๖ เดือน จะให้เรื่องจบอย่างไรก็ว่าไปเลย ขอท่านว่าถ้าไม่เกินวิสัยขอให้เรื่องเสร็จสิ้นลงภายในระยะเวลาเท่านี้ แล้วเราจะมาแก้บน ได้แต่หวังว่าตอนแก้บนราคาไข่จะไม่ขึ้นไปอีก..!

เถรี 31-05-2011 19:15

ถาม : มีปัญหาในที่ทำงาน ?
ตอบ : เรื่องงาน อดข้าวเย็นได้ไหม ? ถ้าอดข้าวได้ให้บนพระวิสุทธิเทพจ้ะ พระวิสุทธิเทพคือพระพุทธเจ้าบนพระนิพพาน

ให้จุดธูป ๕ ดอก ปักกลางแจ้ง บอกท่านไปเลยว่าต้องการงานหรือมีปัญหาอะไรในเรื่องการงาน ถ้าหากว่าปัญหานั้นหมดไป หรือว่าเราได้งานตามที่ต้องการ ให้แก้บนด้วยการเจริญกรรมฐาน พร้อมกับรักษาศีล ๕ หรือศีล ๘ เป็นเวลา ๗ วัน แต่อาตมาเคยแนะนำแล้วศีล ๘ ได้ผลมากกว่า ถึงได้ถามว่าอดข้าวเย็นได้ไหม ? ถ้าได้ก็ไปบนได้เลยจ้ะ

การเจริญกรรมฐานนั้น ตอนเช้าเราภาวนาสักชั่วโมง เย็นสักชั่วโมง แต่ว่าศีลต้องรักษาให้ได้ทั้งวันตลอด ๗ วัน จะได้ผลพิเศษก็คือ หุ่นสวยขึ้น

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : จ้ะ ไม่ต้องเสียเวลาอธิษฐานหรอกจ้ะ นั่งทำกรรมฐานไปเลย ถ้าสมาธิทรงตัวดีเด็กในท้องจะดีไปด้วย ถ้าเราทำได้ผลจะเกิดกับเด็กด้วย แล้วที่ดีที่สุดก็คือ ส่วนใหญ่เด็กสมัยนี้สมาธิสั้น ถ้าแม่นั่งสมาธิได้ทุกวันยิ่งดีจ้ะ ผลจะได้ส่งไปถึงลูกด้วย

เถรี 01-06-2011 19:56

ถาม : การที่เด็กติดแม่ เป็นกิเลสที่เหนียวแน่นหรือเปล่า ?
ตอบ : เป็นสัญชาตญาณจ้ะ เขารู้ว่าอยู่ตรงนั้นแล้วเขาปลอดภัย มีกินมีใช้แน่นอน

เถรี 01-06-2011 19:59

:4672615: เก็บตกเดือนพฤษภาคม หมดแล้วค่ะ
พบกันใหม่ในเดือนมิถุนายนค่ะ:4672615:



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:50


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว