พระอาจารย์เล่าว่า "แถวสุพรรณบุรี อู่ทอง เป็นเมืองโบราณ ฉะนั้น..บรรดาวัดต่าง ๆ มักจะมีกรุพระ ยกเว้นวัดที่สร้างใหม่ ไม่ใช่แค่กรุพระเท่านั้น กรุสมบัติก็มีด้วย สมัยก่อนต้องเขียนเป็นปริศนาแล้วให้ไปหากัน ประเภท "โตงเตงโตงใต้ ถ้าใครคิดได้อยู่ใต้โตงเตง" ปรากฏว่าคนฉลาดขุดไปได้ อยู่ใต้หอระฆัง "ตำบลวัดน้อย มีไก่ต๊อกอยู่ ๒ ตัว น้องสาวมีผัว พี่สาวเพิ่งสอนย่าง" อะไรประมาณนี้
ถาม : (ไม่ได้ยิน) ตอบ : อันนั้นวัดเสาธงทอง ไปขุดสมบัติ ก็เลยโดนผีตี งานนั้นถ้าหลวงพ่อวัดท่าซุงไม่ไปดูด้วยนี่ตายหลายศพ พอหลวงพ่อไปดูด้วยผีเลยเกรงใจ เล่นงานกลุ่มที่ขุดไม่ได้ จึงไปเล่นงานพวกที่พายเรือรออยู่ ท่านเล่าให้ฟังว่า ลมตียอดไผ่สองฝั่งคลองสานเข้าหากัน แล้วผีก็เดินมาตามยอดไผ่ ลงมาถึงก็ตีกระจายเลย พระที่ท่านเฝ้าเรืออยู่ถอดหลักแจวสู้ ตีกันไปตีกันมา หลังคาเรือพังหมด กลับไปโดนหลวงปู่ปานท่านด่า ว่าเป็นพระแล้วยังโลภมากไปขุดสมบัติเขาอีก สมัยหลัง ๆ พวกที่ไปขุดสมบัติญี่ปุ่น เขาใช้มีดหมอชาตรีกับธงแดงของหลวงพ่อวัดท่าซุง แหม..ท่านทำไว้ให้ป้องกันตัวหรือรักษาโรค ดันเอาไปรังแกเขา ถ้าอยู่ใกล้ ๆ อาตมาจะยันให้สักที ผีไม่ทำอะไรเอ็งหรอก แต่กูจะถีบให้..! เขาไปขุดที่บ้านจันเดย์ ห่างจากวัดท่าขนุนไม่กี่กิโลเมตร เป็นทางรถไฟวิ่งหายเข้าไปในภูเขา ขุดตามเข้าไป ๆ ได้รางรถไฟมาหลายท่อนเหมือนกัน ตอนหลังเขาบอกว่าไม่ใช่กรุสมบัติหรอก เป็นทางรถไฟที่เจาะทะลุภูเขา ถ้าเครื่องบินมาทิ้งระเบิดจะได้เอารถไฟเข้าไปซ่อน ส่วนที่ถ้ำลำคลองงู เขาไปเจอเห็น ๆ คาตา ยังไม่กล้าหยิบ เขามาชวนอาตมา อาตมายังไม่ไปเลย เรื่องอะไรตูจะไป นำหน้าเป็นกองหน้า ตูก็โดนเต็ม ๆ..! |
พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อเช้ามีข่าวข้าราชการจีนคอร์รัปชั่น มีเงินอยู่ในบ้าน ๒๐๐ ล้านหยวน เป็น ๑,๐๐๐ ล้านบาทเลย เจ้าหน้าที่ซึ่งไปจับ เอาเครื่องนับธนบัตรไป ๑๖ เครื่อง นับจนพังไป ๔ เครื่อง พวกคอร์รัปชั่นไม่กล้าเอาเงินฝากธนาคารกัน เขาก็ทำอย่างนี้แหละ มีนักการเมืองอยู่คนหนึ่ง ด้วยความที่เขาเคารพพระเลยเปิดห้องให้ดู มีใบละพันอยู่เกือบครึ่งห้อง ถามว่าทำไมไม่ฝากธนาคาร เขาบอกว่าฝากเมื่อไรคนอื่นเขาก็รู้ ลักษณะอย่างนั้นน่าจะซื้อเป็นทอง แต่ว่าซื้อทองเขาก็รู้อีก เพราะต้องใช้เงินเยอะ
คุณบรรหารไม่คอร์รัปชั่นแบบนั้นหรอก คุณบรรหารของบประมาณมาลงที่สุพรรณบุรี แล้วเอาบริษัทของตัวเองไปประมูล ใช้วิธีนั้น ได้มาอย่างถูกต้อง เคยถามว่าคุณบรรหารว่าทำไมของบได้มากกว่าคนอื่น ? ท่านบอกว่าผมขอตามสิทธิ์ที่จะพึงได้ แต่ขอแล้วโทรไปเร่ง บอกเจ้าหน้าที่งบประมาณว่า "ผมบรรหารครับ" แค่นี้ก็มือตีนสั่นแล้ว ต้องรีบออกงบให้ ถึงเวลาก็เอาบริษัทของตัวเองไปประมูล ในเมื่อรู้ราคากลาง ประมูลเมื่อไรก็ได้เมื่อนั้น แล้วจะเอาคู่แข่งที่ไหนมา ? ถึงเวลาบริษัทสี่แสงการโยธาก็เหมาทำ ช่วงนั้นถนนสายตลิ่งชันสุพรรณบุรี ๑๑๐ กิโลเมตร เป็นถนนลาดยาง ๔ เลน ที่อื่นยังไม่มีเลย ปรากฏว่าคุณบรรหารได้งบใหม่ ขูดทิ้ง เทคอนกรีต โห..จังหวัดอื่นจะร้องไห้ แถวมะขามล้ม ท่านตัดถนนคอนกรีต ๔ เลน ไปคาไว้กลางนา โอ้พระเจ้า..ที่นาขึ้นราคาหูดับตับไหม้ ทำแบบนั้นชาวบ้านก็ได้ด้วย ถึงเวลาใคร ๆ ก็อยากให้ที่ของตัวเองมีถนนตัดผ่าน คนที่ต้องการที่ทำการค้า ก็ไปซื้อที่ข้างถนนใหญ่ เท่ากับว่าท่านช่วยคนทั้งจังหวัด ตรงโน้นก็โรงพยาบาล ตรงนี้ก็โรงเรียน ตรงโน้นก็หอนาฬิกา ตรงนั้นศาลาวัด ตรงนี้ก็โบสถ์ มีตั้ง ๕-๖ แห่ง ถามว่าทำไมคนอื่นไม่ทำอย่างท่านบรรหารบ้าง ? ถ้าทำอย่างท่านแล้วได้น้อย สู้ไปสอยเอาตรง ๆ ๓๐-๔๐ เปอร์เซ็นต์ดีกว่า" |
"นายกรัฐมนตรีที่อาตมาได้เจอบ่อยที่สุดคือนายกฯ ทักษิณ ๔ ครั้ง นายกฯ ชวน นายกฯ บรรหาร ท่านละ ๒ ครั้ง นายกฯ สุรยุทธครั้งหนึ่ง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ครั้งหนึ่ง น้าชาติไม่ได้เจอตัว ความจริงน้าชาติเป็นคนที่คุยสนุกมาก วันก่อนเห็นคุณทักษิณไปไหว้สุสานบรรพบุรุษ มีคุณยายท่านหนึ่งอยู่ใกล้ ๆ หน้าตาเหมือนคุณทักษิณเปี๊ยบเลย แสดงว่าเป็นญาติกันจริง ๆ
อย่างนายกฯ ยิ่งลักษณ์ต้องบอกว่าเป็นไก่ผิดพันธุ์ ไม่เหมือนพี่ไม่เหมือนน้อง ตอนนี้นายกฯ ทักษิณเท่ากับพักผ่อน ให้มีเลือกตั้งเมื่อไร เพื่อไทยก็ได้เมื่อนั้น คาดว่ารัฐบาล คสช.ก็คงต้องดึงเกมให้ยาวที่สุด เขากะว่าดึงเกมไปนาน ๆ คนจะหมดความนิยมในตัวนายกฯ ทักษิณไปเอง อาตมาว่าเขาคิดผิด รัฐบาลยิ่งอยู่นาน ยิ่งหมดราคา เพราะคนตั้งความหวังไว้สูง ในเมื่อคนตั้งความหวังไว้สูง ถ้านายกฯ ประยุทธปฏิวัติแล้วให้คนอื่นเป็นนายกฯ ป่านนี้ก็ยังเป็นขวัญใจชาวบ้านอยู่ แต่พอขึ้นเป็นนายกฯ เอง ต่อให้มีเหตุผลดีแค่ไหนก็ตาม คนเขาก็จะคิดว่าท่านทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติแล้ว ทันทีที่ก้าวขึ้นเป็นนายกฯ เพื่อไทยนอนรอเลย อย่างไรก็เจ๊งแน่..! เรื่องของการมองสถานการณ์การเมือง ต้องมองอย่างเป็นกลาง ถ้าเราไปมองแบบเข้าข้างฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ จะไม่เห็นความจริง ต่างประเทศเขาไม่ยอมรับรัฐบาลที่มาจากเผด็จการ รัฐประหาร คราวนี้ต้องบอกว่าคนทันเกม ก็ประท้วงที่โน่น ก่อหวอดที่นี่ ทีละนิดทีละหน่อย ทำให้รัฐบาลต้องคงกฎอัยการศึกเอาไว้ ก็บรรลัยสิ..! เท่ากับประกาศตัวเองเป็นรัฐบาลเผด็จการทหารชัด ๆ ยิ่งอยู่นานเท่าไร เครดิตต่างประเทศก็ยิ่งหมดไป ถ้าถามว่าเราจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาต่างประเทศไหม ? ถ้าเป็นสมัยก่อนก็ไม่จำเป็น แต่สมัยนี้โลกทั้งใบเหมือนเป็นบ้านเดียวกัน ภาษาการทูตไม่ใช่การแสดงออกที่แท้จริง การทูตเขาผูกมิตรทั่วโลก พูดอย่างไรก็ได้ให้ฟังดูดี แต่การกระทำเป็นไปตามนั้นหรือเปล่า ? ถึงเวลาไปก็ประเภทยินดีต้อนรับ เป็นการพูดตามมารยาทหรือเปล่า ? ต้องคิดอย่างนั้น ไม่ใช่เขาต้อนรับก็ไปคิดว่าเขายินดีกับเราด้วย" |
พระอาจารย์เล่าว่า "หลวงพ่อโต วัดระฆัง จุดคบไฟเดินเข้าไปในวัง ในหลวงรัชกาลที่ ๔ เห็นก็ตรัสว่า "ขรัวโต..โยมเข้าใจแล้ว" ท่านก็เอาคบไฟทิ่มกำแพงวัง ดับตรงนั้น ถ้าเข้าใจแล้วก็ไม่ต้องอธิบายอีก ว่าบ้านเมืองขณะนี้มืดมน"
|
ถาม : ที่ท่านเมตตาให้หลานชายได้บวชกับท่าน ได้อยู่ถึงแค่นี้ก็เป็นพระคุณมากแล้วเจ้าค่ะ ท่านเมตตาสงเคราะห์มากเจ้าค่ะ แต่เขาอยากจะนั่งแบบไม่รู้..?
ตอบ : จะเอาดีให้ได้ ก็ต้องฝ่าฟันกันระยะหนึ่ง ต้องต่อสู้สักระยะหนึ่ง ต้องปฏิบัติจริง ๆ จัง ๆ ต้องดูว่าท่านจะใจสู้แค่ไหน ดูบุญเก่าของท่านด้วย ถ้าบุญเก่าส่งก็อยู่ได้ เสียดายวันนั้นในศาลาเสียงสะท้อนมาก แต่จริง ๆ แล้วท่านเทศน์ดีมากเลยนะ |
ถาม : ผมจะฝึกอภิญญาครับ เริ่มจากอะไรดี ? (เด็กน้อยถาม)
ตอบ : เริ่มจากจับภาพพระให้ได้ทั้งกลางวันกลางคืน นึกถึงเมื่อไรก็ให้เห็นภาพพระติดตาอยู่ตลอด จับภาพพระควบกับลมหายใจเข้าออก จนนึกได้ทั้งหลับและตื่นก็พอ |
:4672615:เก็บตกเดือนพฤศจิกายนปี ๕๗ หมดแล้วค่ะ:4672615: ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี รัตนาวุธ และคะน้าอ่อน |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:31 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.