กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๖ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3634)

เถรี 06-02-2013 11:29

วัดไร่ขิงก็เพิ่งแข่งเรือไป ส่วนใหญ่จะแข่งวันออกพรรษาหรือวันตักบาตรเทโวฯ แล้วตั้งแต่ท่านเจ้าคุณแย้ม (พระราชวิริยาลังการ) ท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสนี่ เรือแข่งวัดไร่ขิงกวาดแชมป์แทบทุกปี คนก็บอกว่าน้ำเลี้ยงดี ก็คือเขาไปลือว่าวัดไร่ขิงที่ฝึกซ้อมได้ถึงเพราะว่ารวย แต่ความจริงไม่ใช่หรอก อยู่ที่ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากกว่า

สมัยก่อนของพวกนี้ก็มักจะอยู่กับวัดกับวา แล้วหลวงปู่หลวงพ่อเจ้าอาวาสก็มักจะเป็นที่เคารพรักและเกรงใจของชาวบ้าน ถึงเวลารู้ว่าใครมีความสามารถ ใครแข็งแรง ก็ขอแรงกันมาได้ แล้ววัดส่วนมากก็มีท่าน้ำวัดของตัวเอง ยิ่งท่าน้ำคอนกรีตก็ยิ่งดีใหญ่เลย พอน้ำขึ้นก็ถือพายไปนั่งเรียงกัน ๒๐ ฝีพาย ๓๐ ฝีพาย ซ้อมตามจังหวะ พายท่าน้ำให้ไปให้ได้..! แล้วจะไปอย่างไรล่ะ ? ก็ต้องโหมแรงกันเต็มที่ พอเวลาซ้อมท่านั้นจนชิน ถึงเวลาเร่งก็เข้าเส้นชัยได้

ยังดีว่าสมัยนี้มีแค่แข่งเข้าเส้นชัย สมัยก่อนเขามีชิงธงด้วย ธงปักอยู่ คนที่อยู่หัวเรือต้องคล่องตัวจริง ๆ เพราะบางคนนี่ใช้เท้าหนีบหัวเรือแล้วเอื้อมไปคว้า ถ้าพลาดก็ตกน้ำหายไปเลย

เถรี 08-02-2013 11:52

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้เจ้ากรรมนายเวรมาในรูปนกปรอดสวนตัวหนึ่ง ทุกครั้งที่อาตมานอนพักได้ประมาณสัก ๑๕ - ๒๐ นาที นกตัวนี้จะมาเคาะหน้าต่างจนตื่นทุกครั้งเลย อาตมากำลังคิดว่า วันดีคืนดีจะเอามาปิ้งซะ..!

นกตัวนี้อยากเข้าห้องจริง ๆ จะต้องมาเคาะทุกครั้ง ตอนแรกก็ดูว่าหน้าต่างห้องน้ำที่อาตมาง้างเปิดขึ้นไปมีที่เกาะ นกก็เลยเคาะได้ อาตมาอุตส่าห์ดึงหน้าต่างห้องน้ำลงมาไม่ให้เกาะ ก็ยังใช้วิธีบินแล้วเคาะ มุ่งมั่นมาก ตอนแรกพูดไปไม่มีใครเชื่อหรอก ต้องเอาพยานไปดูว่านกมาเคาะอย่างไร ต้องบอกว่าเวรกรรมที่ทำเอาไว้ ถึงเวลาก็ตามสนองเอาจนได้"

เถรี 08-02-2013 11:55

ถาม : ถ้าเป็นวิบากกรรมอย่างไรเราก็ต้องรับ ถ้าสมมติรับมาระดับหนึ่งแล้ว เราอยากจะช่วยแม่กับพ่อบ้าง อยากขอคำแนะนำค่ะ ?
ตอบ : ไม่เห็นต้องแนะนำเลย อยากช่วยก็ลุยไปเลยเท่านั้นเอง เพียงแต่ว่าเตรียมรับแรงกระทบให้ดี ๆ ก็พอ

ถาม : จะทำอย่างไรบ้างคะ ?
ตอบ : ก็ไม่เห็นต้องทำอย่างไรนี่ ท่านลำบากด้านไหนเราก็ช่วยจากด้านนั้น

เถรี 08-02-2013 11:56

ถาม : เวลาพระไปปลุกเสกมาก ๆ พออายุมากแล้วจะมีอาการเป็นโรคหัวใจ ?
ตอบ : ไม่ต้องพระหรอก..ทุกคนก็เป็น พออายุมากแล้วอย่างน้อยต้องเป็นโรคหัวใจโต ส่วนใหญ่พระที่ท่านทำพุทธาภิเษก ส่วนมากคนไปใช้ท่านหัวไม่วางหางไม่เว้น เวลาพักผ่อนไม่มี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการปลุกเสกเลย เกี่ยวกับการที่ท่านไม่มีเวลาพัก อาตมายังบ่น ๆ อยู่ว่าอยากได้เวลาวันละสัก ๓๐ ชั่วโมงจึงจะพอทำงาน ทุกวันนี้เวลามีไม่พอทำงาน

เถรี 08-02-2013 11:58

ถาม : ท่านที่เป็นพระอริยบุคคล จะเป็นโรคอัลไซเมอร์หรือความจำเสื่อมเมื่อตอนอายุมากไหมครับ ?
ตอบ : ไม่เป็น....อัลไซเมอร์เกิดจากสมองเสื่อมส่วนหนึ่ง และสติไม่มั่นคงส่วนหนึ่ง บุคคลที่ฝึกกรรมฐานอยู่ ความเสื่อมของสมองจะมีน้อยและสติมั่นคง ดังนั้นจะไม่มีปรากฏการณ์อัลไซเมอร์

ถาม : สมองช้าลงไหมครับ ?
ตอบ : ช้าลงได้..ทำอะไรช้าได้ แต่ว่ายังจำทุกอย่างได้เป็นปกติ ในเรื่องธรรมะที่ละเอียดกว่าท่านยังเข้าถึงได้ ดังนั้นพวกส่วนหยาบจึงเป็นเรื่องง่ายของท่าน

เถรี 08-02-2013 12:01

ถาม : อย่างคนที่จะบรรลุอรหันต์ ถ้าไม่บวชเป็นพระแล้วจะตายภายใน ๗ วัน อย่างถ้าบวชเป็นเณรหรือบวชในนิกายอื่นเช่นมหายาน ?
ตอบ : ขอให้เป็นพระภิกษุสงฆ์ก็แล้วกัน เพราะว่าพระอยู่ในเพศสูงที่เขาให้ความเคารพ คนเขาไม่ล่วงเกินอยู่แล้ว ถ้าเราเป็นฆราวาสอยู่ คนที่ไม่รู้เป็นประเภทเพื่อนกันมาตบหัวเล่น ไอ้นั่นก็ซวยไปตลอดชาติและอีกหลาย ๆ ชาติ เมื่อเป็นดังนั้น ถ้าเป็นฆราวาสอยู่จึงจำเป็นต้องตัดให้ตายไปเลย จะได้ไม่ไปเป็นโทษกับผู้อื่น

ถาม : ถ้าเป็นผู้หญิง ?
ตอบ : ถ้าเป็นผู้หญิงก็ตัดใจเถอะ..ไปดีกว่า

ถาม : บวชเป็นแม่ชีละครับ ?
ตอบ : แม่ชีก็ยังนับเป็นฆราวาส

เถรี 08-02-2013 12:04

ถาม : คนต่างชาติเขาให้เหล้า เขาไม่รู้เรื่องศีล เขาจะเป็นบาปไหมครับ ?
ตอบ : การให้เหล้าไม่มีบาปและไม่มีบุญ เป็นทานที่ไม่มีอานิสงส์ ปกติแล้วการให้จะได้บุญ แต่การให้เหล้าเป็นการให้ของที่เป็นโทษกับบุคคลอื่น แต่ไม่ได้บังคับให้บุคคลอื่นกิน ก็เลยกลายเป็นทานที่ไม่มีอานิสงส์ เสียของไปเปล่า ๆ

พระอานนท์เคยทูลถามพระพุทธเจ้า เมื่อพระองค์ท่านเล่าประวัติพระเวสสันดร พระเวสสันดรท่านให้ทานทุกอย่างแก่บุคคลที่ต้องการ ท้ายสุดท่านก็ให้เหล้ากับพวกนักเลงเหล้า พระอานนท์จึงถามถึงเรื่องนี้ ว่ามีประโยชน์มีโทษอย่างไร พระองค์ท่านตรัสว่าแค่ให้สิ่งที่เขาชอบใจเท่านั้น เพราะพวกนักเลงเหล้าให้อย่างอื่นเขาก็ไม่ชอบใจ แต่ว่าเป็นทานที่ไม่มีผลานิสงส์อะไร ให้ไปเปล่า ๆ เฉย ๆ

เถรี 08-02-2013 12:09

ถาม : ถ้ามีคนเอาข้าวหมากมาถวายพระ พระท่านฉันได้ไหมครับ ?
ตอบ : ได้..ข้าวหมากเป็นกึ่งแอลกอฮอล์ ยังไม่ใช่เหล้า ฉันเข้าไปทำให้หลับ พวกประสาทเครียด ๆ กินข้าวหมากแล้วดี อย่างอาตมาไม่แตะเลยเพราะรังเกียจกลิ่น ว่ากันตามสภาพความเป็นจริงแล้ว ก็นับเป็นขนมชนิดหนึ่ง ยังกินได้อยู่

ถาม : อย่างพวกคนต่างชาติเขาไม่รู้เรื่องศีล เขาเอาเหล้ามาถวายพระ ?
ตอบ : ก็รับไว้ แต่อย่าไปฉันแล้วกัน

ถาม : แล้วจะมีคุณมีโทษกับเขาหรือเปล่า ?
ตอบ : ก็บอกแล้วว่าอานิสงส์ไม่มี ยิ่งเขาทำโดยไม่รู้ ก็เป็นกตัตตากรรม กรรมที่ไม่ได้เจตนา ยกเว้นว่าพระได้รับมาก็ เอ้า..ชนแก้ว..!

ถาม : บางคนเอาแกะ เอาแพะมาถวาย ?
ตอบ : พระพุทธเจ้าท่านสั่งห้ามไว้เลย เรื่องของการรับแพะ แกะ วัว ควาย ทาสหญิง ทาสชาย ท่านไม่ให้รับ เพราะสร้างภาระให้กับพระภิกษุจนไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม

ถาม : การห้ามพระเก็บอาหารไว้ ?
ตอบ : กลัวว่าพระจะไปทำกินเอง เพราะว่ามีศีลห้ามอยู่ในข้อที่ไม่ให้พระทำกินเอง กลัวว่าท่านที่มีฝีมือทำครัวดี ๆ ท่านจะทำตามใจปากตนเอง

เถรี 08-02-2013 12:20

ถาม : แล้วถ้าเขาไม่ประเคนก็ผิดหรือครับ ?
ตอบ : พอพ้นมือเราไปก็พ้นแล้ว อย่างเช่นว่าให้ศิษย์วัดไป ถ้าเขาไม่ประเคนใหม่เราก็ไม่มีสิทธิ์ทำเป็นอาหาร แม่ชีเอาไปถ้าเขาไม่ประเคนใหม่พระก็อด แล้วที่ขำที่สุดคือฝรั่งเขาไม่รู้หรอกว่าประเคนคืออะไร เพราะฉะนั้น..ถ้าเขาส่งอาหารมาให้รีบรับไว้

สมัยก่อนหลวงพี่สมาน สมานจิตฺโต ไปอเมริกากับหลวงพ่อวัดท่าซุง ฝรั่งเอาอาหารมาเสิร์ฟแทนที่ท่านจะรีบรับก็รอเขาวาง พอเขาวางไปสามจานสี่จาน ไปเรียกให้เขาประเคนเขาก็ไม่รับรู้ด้วยแล้ว หลวงพ่อท่านว่า "ต่อไปถ้าโง่อย่างนั้นก็อย่าแด..เลย เขายกมาก็รีบรับไว้ ไม่ใช่ไปรอให้เขาวาง" เขาจะเสิร์ฟด้วยการวาง แค่เราชิงรับเสียก่อนก็หมดเรื่อง

หรือไม่ก็อย่างอาตมาที่จับผ้าปูโต๊ะไว้ เขาก็วางไปสิ เวลาไปฉันตามบ้านเขาจะเอาผ้าพลาสติกใหญ่ ๆ มาปูให้ อาตมาจะคว้าไว้มุมหนึ่งก่อนทุกที มีปัญญาก็วางไป พอโยมจะประเคนก็บอกว่าไม่ต้องแล้ว โยมก็ยังงง ๆ เขย่ามือให้ดูเขาถึงเห็นว่าอาตมาจับมุมผ้าไว้เป็นการรับประเคนแล้ว


ถาม : แล้วถ้าฉันที่บ้านโยม โยมเขาประเคนทั้งจานชาม ถือว่าเขาถวายจานชามด้วยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : โดยเจตนาเขาถวายแต่อาหาร ไปตีเหมาโหลอย่างนั้นเดี๋ยวเจออาบัติปาราชิก..! ยกเว้นเขาบอกว่าถวายทั้งหมดเลยเจ้าค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็หอบกลับวัดได้ เอาไปได้ ไม่ใช่ถึงเวลาฉันเสร็จก็เก็บช้อนเก็บชามกลับ แบบนั้นมีหวังขาดความเป็นพระไม่รู้ตัว..!

เถรี 08-02-2013 20:22

ถาม : เวลาตั้งใจจะภาวนา แล้วนิ่งไปเลย ภาวนาไม่ออก ?
ตอบ: สมาธิทรงตัวแล้ว ในเมื่อสมาธิทรงตัวความละเอียดของจิตมีมาก อยู่เหนือการปรุงแต่ง ภาวนาไม่ได้ เราก็แค่รับรู้ไว้เฉย ๆ ไม่ต้องไปดิ้นรน

ถาม : หนูก็กลับมาภาวนาใหม่ ?
ตอบ : นั่นเท่ากับถอยหลังไปนับหนึ่งใหม่

ถาม : หนูไปอ่านเจอวิกขัมภนวิมุตติ แล้วสงสัย ?
ตอบ: ต้องสงสัยอยู่แล้วเพราะเป็นอารมณ์การละกิเลส ดังนั้นตอนนี้สงสัยไว้ก่อน ไว้ทำถึงก็หายเอง ไม่ว่าจะเป็น ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ นิสสรณวิมุตติ อันนั้นเป็นเรื่องของท่านที่ทรงฌานทรงสมาบัติขึ้นไป

เถรี 08-02-2013 20:24

ถาม : เวลาตั้งจิตภาวนา อารมณ์ข้างในเหมือนเป็นอย่างไรไม่รู้ ?
ตอบ : ต้องสังเกตเอง บางทีการเข้าถึงสมาธิแต่ละระดับ จะมีอาการแสดงออกแปลก ๆ ทางร่างกายเหมือนกัน ถ้าเป็นมาก ๆ บางทีรู้สึกเหมือนกับแข็งไปทั้งตัว

ถาม : แล้วอารมณ์ไหนดีกว่า ?
ตอบ : อารมณ์ไหนก็ได้ ที่กิเลสกินเราไม่ได้

ถาม : เราต้องให้อยู่อย่างนั้น ?
ตอบ : พยายามรักษาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ เพื่อให้ใจผ่องใส พอคลายออกมาก็รีบคิดในเรื่องของวิปัสสนา ไม่อย่างนั้นกิเลสจะเอาไปกินหมด

เถรี 08-02-2013 20:34

พระอาจารย์กล่าวว่า "คนไทยมักจะเคยชินกับการที่หมารักเจ้าของคนเดียว แต่ฝรั่งจะฝึกหมาให้เห็นทุกคนที่ถือเชือกจูงเขาเป็นเจ้านาย บางทีเราจะรู้สึกว่าเราเลี้ยงหมามาแท้ ๆ พอคนอื่นจูงไปก็ยึดคนอื่นเป็นเจ้านายเลย ก็เขาไปฝึกเอาไว้อย่างนั้น ถึงเวลาจะมอบให้คนอื่น เจ้าของเดิมจะส่งเชือกจูงให้ คนนั้นก็รับไป เขาก็รู้ว่าต่อไปต้องไปดูแลรับใช้คนนั้นแทน

คนไทยรับไม่ค่อยได้ตรงจุดนี้ คนไทยถนัดเลี้ยงหมาแล้วหมารักเรา เราเป็นเจ้าของคนเดียว ก็เลยกลายเป็นตัวกูของกูแรงกว่า แต่ส่วนหนึ่งที่น่าสงสารก็คือ คนจำนวนมากรักหมาตอนเป็นลูกหมา พอเลี้ยงโต ความเป็นลูกหมาหมดไป ตัวเองก็พลอยหมดรักไปด้วย แต่หมายังรักเราเท่าเดิม กลายเป็นว่า หมาบางตัวโดนเจ้านายทิ้ง

ที่วัดท่าขนุนมีหมาประเภทตกสวรรค์อย่างนี้อยู่หลายตัวแล้ว สมัยอยู่ที่เกาะพระฤๅษี กลุ่มพวกไอ้ส้มเป็นหมากรุงเทพฯ เคยอยู่ดีกินดี นอนห้องแอร์ กินอาหารกระป๋อง พอไปอยู่ที่นั้นเหลือแต่ข้าวคลุก อย่างเก่งก็คลุกปลากระป๋อง"

เถรี 10-02-2013 10:17

ถาม : รู้กรรมของผู้อื่น ?
ตอบ : มัวแต่ไปดูกรรมคนอื่น..เหนื่อยเปล่า ถ้าจะดูต้องดูตัวเอง ทำดีได้ดีอย่างไร ทำชั่วได้ชั่วอย่างไร แล้วเลือกทำแต่ที่ดี ๆ ถ้าทำดีต่อเนื่องยาวนานได้ต่อไปผลดีจะให้ผลแก่เราเอง

ยถากัมมุตาญาณ เขาให้ดู ให้กลัว ให้เข็ด จะได้หาทางหนี มุญจิตุกัมยตาญาณ เป็นวิปัสสนาญาณตัวหนึ่ง แปลตามบาลีออกมาเป็นภาษาไทยยาก ๆ ว่า ปรีชาคำนึงซึ่งการหาทางหนี

เถรี 10-02-2013 10:22

พระอาจารย์กล่าวว่า "การเลี้ยงลูกต้องหัดลูกให้ลำบากให้มากที่สุด ไม่อย่างนั้นถ้าขาดเราแล้วลูกจะอยู่ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าลูกไม่ชอบใจหน่อยเดียวแม่ก็รีบหาที่เรียนใหม่ให้ อย่างนั้นลูกจะไม่มีภูมิต้านทานเลย ลูกจะไม่รู้ว่าโลกนี้โหดร้ายอย่างไร ขาดเราสักคนลูกก็ตายเปล่า ต้องให้เขาเจอแรงกดดันมาก ๆ ชนิดหัวหงอกตั้งแต่อายุยังไม่ ๒๐ แล้วจะแกร่งเอง..!

น่าจะเป็นนักร้องฝรั่งคนหนึ่ง มีคุณแม่ที่ฝึกลูกชนิดที่คนอื่นรู้คงหัวใจวายตาย ลูกอายุ ๔ ขวบแม่ทิ้งไว้ห่างบ้าน ๒ ไมล์ ให้หาทางกลับบ้านเอง แล้วทุกวันนี้เขาก็เป็นคนประเภทแข็งแกร่งสุด ๆ เพราะคุณแม่ฝึกไว้ดี อายุ ๘ ขวบพาปีนยอดเขาที่ติดอันดับโลก จำไม่ได้ว่าเขาชื่ออะไร แต่จำได้ว่าตอนนี้เขาเป็นเจ้าของบริษัทที่เปิดกว้างมาก ๆ คนงานชอบทำงานด้วย เพราะแนวคิดของเขาก็คือ ถ้าคุณสามารถสร้างความเจริญให้บริษัทได้ คุณจะแหกคอกอย่างไรก็ทำไป

ไม่ห้ามลูกดื่มบรั่นดี แก้วใหญ่ ๆ ไปเลยลูก เมาหัวทิ่มตื่นขึ้นมาปวดหัวแทบระเบิด นั่นแหละ..จำไว้ต่อไปอย่าดื่มเพราะจะเป็นอย่างนี้ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ดื่มอีกเลย โดนเองแล้วเข็ด เป็นคุณแม่ที่แสบไส้จริง ๆ พูดง่าย ๆ ว่าญาติพี่น้องไม่มีใครอยากฝากลูกให้เลี้ยง กลัวตัวเองหัวใจวายตาย..!

กลัวสะพานแขวนใช่ไหม แม่พาไปเอง จูงเดินไปถึงกลางทาง ปล่อยให้เดินเอง แล้วแม่ก็ไปเลย พอเด็กเจออย่างนั้นเข้าก็ต้องหายกลัวไปโดยปริยาย เห็นผู้ใหญ่ไปได้ก็ต้องไป"

เถรี 10-02-2013 10:24

พระอาจารย์กล่าวว่า "ทางโลกกับทางธรรมมักจะไม่ค่อยไปด้วยกัน ทางธรรมสามารถมองทางโลกเพื่อที่จะสอนตัวเองได้ แต่ทางโลกถ้าไม่เอาทางธรรมเลยมักจะไปไม่รอด"

เถรี 10-02-2013 10:34

:4672615: เก็บตกเดือนมกราคม ปี ๕๖ จบแล้วค่ะ :4672615:
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี รัตนาวุธ และคะน้าอ่อน


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:26


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว