กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3194)

เถรี 16-02-2012 12:08

ที่บ้านวิริยบารมี มีเด็ก ๆ เล่นซน ส่งเสียงร้องไปมา พระอาจารย์จึงกล่าวว่า "เด็กเขายังไม่รู้ธรรมเนียมและกิริยามารยาท นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ ก็เป็นหน้าที่ผู้ใหญ่ที่ต้องจ้ำจี้จ้ำไช ปากเปียกปากแฉะไปเรื่อย"

ถาม : คนสมัยนี้เขาปล่อย
ตอบ : สมัยนี้เขาไปเลี้ยงลูกตามตำราใหม่ ที่ว่าทำตัวเป็นเพื่อนกับเด็ก แต่พอทำตัวเป็นเพื่อนกับเด็ก เด็กเขาจะไม่กลัว ก็เลยไม่สามารถจะบังคับเด็กได้ โดยเฉพาะเด็ก ๆ นี่สุดยอดเลย เขารู้ว่าเขาจะจัดการพ่อแม่ให้อยู่อย่างไร แล้วเขาจะทำได้เร็วมาก

เถรี 16-02-2012 12:19

ถาม : ผมอยากนั่งกรรมฐาน พอขึ้นนะโม ก็รู้สึกคันไปหมด บางทีก็ปวด ๆ
ตอบ : ขอให้รู้ว่าถ้าโยมตั้งใจทำจะได้ผลเร็วมาก เหตุที่เป็นดังนั้นเพราะขันธมารกวนร่างกายไม่ให้เราทำความดี คนประเภทนี้ถ้าทำจะได้ผลเร็วมาก แต่ระยะแรก ๆ ต้องอดทนสู้กันนิดหนึ่ง พอกำลังใจเราทรงตัว คราวนี้เขาจะขวางเราไม่อยู่แล้ว เราก็จะก้าวมาทางด้านนี้เร็วมาก พวกที่มีสิ่งคอยมาขวางมีอะไรมาอยู่เป็นประจำ ให้รู้เลยว่าถ้าเราทำจะได้เร็ว

ถาม : อย่างเราอ้วน เรานั่งแล้วลำบาก ไม่จำเป็นต้องนั่ง..?
ตอบ : ได้..เก้าอี้ที่เตรียมไว้ให้ก็เพื่อท่านทั้งหลายที่ร่างกายไม่เหมาะสมจะนั่งกับพื้นได้นั่งเก้าอี้ไป เพราะว่าสำคัญคือให้ใจสงบ ถ้าหากว่ามัวไปห่วงร่างกายเจ็บแข้งเจ็บขาอยู่ ใจก็ไม่สงบ

ถาม : ก็คือนั่ง..
ตอบ : ทำอย่างไรก็ได้ ให้ความรู้สึกอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกตรงหน้า ถ้าเผลอคิดเรื่องอื่นก็ให้ดึงกลับมาตรงนี้ ถ้าหากว่าอยู่ตรงหน้าได้สักระยะหนึ่งแล้ว โยมจะรู้ว่าความสุขภายนอกทั้งหมด สู้ความสุขที่ใจสงบไม่ได้

ทุกวันนี้เราโดน รัก โลภ โกรธ หลง ที่เป็นไฟเผาอยู่ตลอดเวลา ทันทีที่กำลังใจทรงตัวอยู่เฉพาะหน้า เหมือนกับไฟพวกนี้โดนกดให้ดับลงชั่วคราว คนโดนไฟเผาอยู่ตลอด อยู่ ๆ ไฟดับนี่อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกหรอก เย็นสบายอย่างไรบอกไม่ถูกหรอก พอทำถึงจุดนี้เมื่อไรแล้วส่วนใหญ่จะติดหนับเลย ถึงเวลานั้นด่าก็ไม่ไป ไล่ก็ไม่หนีแล้ว เพราะรู้แล้วว่าดีอย่างไร

ถาม : จริง ๆ นั่งเริ่มต้นทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : ท่าไหนก็ได้ที่เราถนัด แต่ให้ความรู้สึกของเราอยู่กับลมหายใจเข้าออก หายใจเข้ารู้ตามเข้าไปตั้งแต่ต้นจนปลาย หายใจออกรู้ตามตั้งแต่ต้นจนปลายอยู่แค่นี้ คิดถึงเรื่องอื่นเมื่อไรให้ดึงกลับมาตรงนี้ แล้วทำจนกระทั่งกำลังใจทรงตัวต่อเนื่องไประยะหนึ่ง จริง ๆ แล้วจะหกคะเมนตีลังกาทำงานอะไรอยู่ก็นึกได้ ไปลองทำดู

เถรี 16-02-2012 17:32

ถาม : สิ้นเดือนนี้ต้องจ่ายเงินค่า... มีอะไรทางธรรมพอช่วยได้บ้างคะ ?
ตอบ : ใช้เวลาที่เหลือภาวนาคาถาเงินล้านทั้งวันทั้งคืนเลย ขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ให้หมุนทันด้วย เอา ๑๐๘ จบเป็นหลัก แต่ว่าให้ภาวนาจริง ๆ นะ ภาวนาเป็นกรรมฐานเลย

ถาม : เวลาทำกับข้าวหรือขับรถก็ภาวนา ?
ตอบ : จ้ะ ว่าไปตลอดเวลาจนกว่าจะครบ

เถรี 16-02-2012 17:51

ถาม : ข้าง ๆ บ้านเขาขายยาบ้า ถ้าหนูแจ้งตำรวจ จะบาปไหมคะ ?
ตอบ : อย่าไปยุ่งกับเขา ปล่อยเขาไป เพราะเรื่องพวกนี้จริง ๆ เส้นสายตำรวจเขารู้อยู่แล้ว เพียงแต่เขามีผลประโยชน์ร่วมกัน ถ้าเกิดว่าเราไปผ่ากลางเข้า อันตรายจะมาถึงตัว ไม่ใช่ทางฝ่ายนั้นหรอก ดีไม่ดีทางฝ่ายราชการจะเล่นงานเราเสียเอง ต้องหัดอุเบกขาไว้บ้าง

เหลือเชื่อที่ว่ายาเสพติดของเราบัญชาการมาจากในคุกแทบทั้งนั้น ที่จับได้ล่าสุดที่เป็นรายใหญ่มาก ๆ เลย เกิดจากรถโดนสวมทะเบียนแล้วไปทำผิดกฎจราจร เขาส่งใบสั่งมาว่าโดนที่ลำปาง เจ้าของทะเบียนก็เถียงเพราะไม่เคยไปลำปาง แล้ววันร้ายคืนร้าย ดันขับรถทะเบียนเดียวกันมาอยู่ตรงหน้าพอดี เลยไล่กวดกันเพื่อจะดูว่าเป็นใคร

พวกคนร้ายพอหันมาเห็นก็ตกใจเพราะรถทะเบียนเดียวกัน จึงหนีสุดชีวิต ไปพลาดท่าตอนไหนก็ไม่รู้ ไปชนกำแพงเข้า ก็เลยต้องทิ้งรถหนี พอตำรวจค้นในรถเจอยาเสพติดบานเลย เขาจึงสาวรอยไปจนกระทั่งถึงบ้านที่เช่าเอาไว้ คราวนี้มียาบ้าเป็นกุรุสเลย

นั่นเป็นเรื่องของการสวมทะเบียนรถเฉย ๆ ถ้าหากว่าเจ้าของไม่ไปติดตามด้วยตัวเอง คาดว่ากว่าจะรอตำรวจจับได้ไล่ทัน เขาก็คงขนเข้ามาอีกไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง พอจับได้เขาก็ซัดทอดว่ามีนายทหารร่วมด้วย เขาบอกว่านายทหารยศพันโทท่านเอารถตรากงจักรไปขนมา ทำให้ตำรวจเขาไม่กล้าตรวจ เพราะเป็นรถนายทหาร

ต่อให้คิดจะตรวจ ถ้าหยิบบัตรให้ดูเป็นนายทหารยศพันโท ตำรวจส่วนใหญ่ที่ตั้งด่านอยู่อย่างเก่งก็เป็นแค่ร้อยเอกหรือพันตรี อาวุโสน้อยกว่าทางนั้นก็ไม่กล้าค้นอยู่แล้ว เขาก็เอามาเข้าที่พัก แล้วก็กระจายออกไป

เถรี 16-02-2012 17:54

มีโยมคนหนึ่งชื่อดวงดาว ได้สามีเป็นพันเอกของกองทัพสหรัฐฯ วันหนึ่งสามีเขาถูกเรียกประชุมที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ที่เขาเรียกว่าเพนตากอน สามีหิ้วกระเป๋าเอกสารมาด้วยเพราะว่าถูกเรียกตัวมาแบบกะทันหัน พอจะเข้าที่ประชุมก็ต้องมีการตรวจค้น ท่านก็คงขี้เกียจให้เขาค้น ก็เลยเอากระเป๋าไปฝากทหารยามที่ยืนอยู่ บอกว่าให้ช่วยดูแลกระเป๋าให้เขาหน่อย เดี๋ยวประชุมเสร็จเขาจะออกมารับคืน

ทหารยามบอกว่า "เชิญผู้การดูแลเองครับ ผมมีหน้าที่อยู่ยาม" ถ้าอยู่เมืองไทยทหารคนนี้คงไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่เลย แต่ที่นั่นผู้การต้องเดินจ๋อง ๆ ไปให้เขาตรวจค้นกระเป๋าแต่โดยดี พันเอกกับพลทหารนะ แต่เขาถือว่าแต่ละคนมีสิทธิเท่ากัน มีหน้าที่รับผิดชอบเหมือนกัน เขารับผิดชอบตรงไหนเขาก็ทำเฉพาะตรงนั้น เขาอยู่ยาม ไม่ได้มีหน้าที่มาเฝ้ากระเป๋าให้เจ้านาย เมื่อไรบ้านเราจะมีอย่างนี้หนอ ?

บ้านเราแค่เจ้าหน้าที่เอาเครื่องตรวจอาวุธมาตรวจ ยังโดนตบบ้องหูเลย คนบ้านเราใหญ่เสียจนชิน บ้านเขาถือว่าคนมีคุณค่าเท่ากัน ประเทศเขาแทบจะไม่มีอะไรที่ดีกว่าเราเลย นอกจากการบังคับใช้กฎหมาย แต่บ้านเรากฎหมายมีหลายมาตรฐาน ก็เลยทำให้คนส่วนหนึ่งเกิดความคิดที่อยากจะไปอาศัยที่บ้านเขา ซึ่งความจริงแล้ว ไม่มีอะไรอยู่สบายเท่ากับบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง

เถรี 16-02-2012 17:58

ถาม : พวกทุนในหลวงบอกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ค่อยสบาย เพราะว่าคนที่อยู่ในกลุ่มต้านนั้นเป็นนักเรียนทุนด้วย เห็นว่าทรงเสียพระทัย ?
ตอบ : บ้านเราเมืองเรามีขนบธรรมเนียมประเพณีของเรา เพราะฉะนั้น..พระมหากษัตริย์ที่ตั้งอยู่ในฐานะอันจะละเมิดมิได้ ก็ต้องเป็นไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีของเรา ไม่ใช่ว่าไปเอาความคิดตามแบบตะวันตก ที่ไม่มีการเทิดทูนบูชาบุคคลที่ทำความดีลักษณะนี้เหมือนกับของเรามาเป็นบรรทัดฐาน

เรื่องนี้ก็คงจะยืดเยื้ออีกนาน เพราะว่ามีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายสนับสนุน แต่ความจริงถ้าจะมีปัญหาก็ให้มีปัญหาภายในรั้วมหาวิทยาลัย อย่าเอาปัญหาขึ้นมาบนท้องถนน เพราะว่าจะกลายเป็นการปลุกระดมมวลชนเอาง่าย ๆ

เถรี 16-02-2012 19:21

พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครที่จองพระขรรค์โสฬสไว้ ให้ไปฟิตตัวกันเอาเอง ไม่อย่างนั้นคงจะมีแต่อาตมาเท่านั้นที่ยกขึ้น เฉพาะแค่ใบอย่างเดียวก็ ๓.๕ กิโลกรัมแล้ว..! แต่ให้หลวงพี่นิลบอกช่างให้เขาเกลาใบให้บางที่สุดเท่าที่จะบางได้ เพราะถ้าขืนเป็นอย่างนั้น คนอื่น ยก ๒ มือยังไม่รู้ว่าจะงัดไหวไหม

เสียดายอยู่อย่างหนึ่งว่า โลหะที่สะสมไว้อยากจะใส่ให้หมด แต่ช่างเขาบอกว่าตามหลักวิชาการเขาต้องใส่ร้อยละเท่าไรก็ไม่รู้ ถ้าใส่หมดแล้วเนื้อจะไม่ประสานกันสนิท อาจมีการแตกร้าวได้ เขาไม่อยากเสี่ยง จึงทำให้ใส่โลหะที่อาตมาสะสมมาได้น้อยไปหน่อย ต้องบอกว่าใส่พอเป็นกระสายยา"

เถรี 17-02-2012 08:30

ถาม : ที่บอกว่าพระมหากษัตริย์ต้องสาบานตน เขาคิดได้อย่างไร ?
ตอบ : อันนั้นยังเป็นแค่แนวคิดอยู่ และรัฐบาลก็บอกแล้วว่าไม่เห็นด้วย ในหลวงสาบานตนตั้งแต่วันปฐมบรมราชาภิเษกแล้ว ที่พระองค์ท่านตรัสว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" เพียงแต่พระองค์ท่านสาบานตนโดยไม่ต้องมีใครบังคับ และทำได้มาโดยตลอดด้วย

จริง ๆ แล้ว ถ้าเราไม่ไปให้ความสนใจก็จบ เพราะเราไปให้คุณค่าเขา ก็เลยมีน้ำหนักในสังคม เขาอยากออกความคิดก็ปล่อยเขาไป ออกความคิดจนหายบ้าเขาก็เลิก ถ้าเราไปให้ความสำคัญเขา กลายเป็นว่าเราไปแบกความทุกข์เอาไว้เอง

เถรี 18-02-2012 12:33

พระอาจารย์กล่าวว่า "บางคนสภาพร่างกายไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอากาศมาก แล้วก็ดันมาเป็นอาตมาเองเสียด้วย ก่อนลงมาข้างล่างนี้ก็จับไข้ เพียงแต่ว่าอาการตัวร้อนยังไม่ปรากฏ จับไข้เฉย ๆ ก็รู้แล้วว่าอากาศกำลังจะเปลี่ยน เป็นล่วงหน้านาน ๓ - ๔ ชั่วโมงกว่าที่จะฝนตก จนแทบจะพยากรณ์อากาศเองได้แล้ว

เวลาอยู่ที่วัด อาตมาบอกพระท่านว่าตอนนี้อากาศประมาณเท่าไร พอเดินผ่านสถานีวัดอากาศกรมอุตุนิยมวิทยาที่ทองผาภูมิก็ไม่ค่อยพลาด ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากความเป็นทิพย์ แต่เกิดจากการสัมผัสทางผิวหนังของตัวเอง จำได้ว่าความเย็นระดับนี้ประมาณกี่องศา พวกเราพอจะแยกได้ไหม ? ส่วนมากแยกไม่ค่อยออกหรอก รู้แต่ว่าหนาวก็คือหนาว หนาวมากหนาวน้อยแค่นั้นเอง"

เถรี 18-02-2012 12:41

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระหลวงปู่ทวด ในวงการพระเครื่องเรียกว่า พระนิรันตราย ถ้าอาราธนาติดตัวจะปลอดภัยในทุกที่ คาถาว่า นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา

มีนายดาบตำรวจท่านหนึ่งบอกว่า ชันสูตรพลิกศพมาตลอด ๓๐ ปีที่รับราชการอยู่ ยังไม่เคยเจอคนแขวนพระหลวงปู่ทวดแล้วตายโหงเลย อันนี้จากประสบการณ์ตรง ดังนั้นเราต้องเชื่อ"

เถรี 18-02-2012 12:45

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมามีเชื้อมาลาเรียอยู่ในตัว พออากาศเปลี่ยนจะเป็นไข้ทันที วันนี้อากาศไม่เปลี่ยนเปล่า แถมฝนยังตกด้วย ลองไปอ่านเพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา ที่ท่านบอกว่า

มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม............ มิใช่เทศกาลลมลมก็พัด
มิใช่เทศกาลหนาวก็หนาวพ้น............ มิใช่เทศกาลฝนฝนก็อุบัติ


จะเห็นว่าเหมือนกับปัจจุบันนี้มาก"

เถรี 18-02-2012 13:00

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปกติการเป่ายันต์เกราะเพชร เมื่อกราบขอบารมีพระท่านสงเคราะห์แล้ว ยังขอพรหม เทวดา โดยเฉพาะท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ พร้อมด้วยอินทกะและบริวาร ให้ช่วยจัดการสิ่งไม่ดีที่แทรกที่สิงมากับร่างคน ไม่ว่าจะเป็นไสยเวทอาคม วัตถุอาถรรพ์ คุณผีคุณคนก็ดี เหล่าสัมภเวสี เปรต อสุรกายที่แทรกที่สิงมาก็ดี ถ้าหากว่าอยู่ในบริเวณพิธีท่านจะไล่ให้ทั้งหมด

ดังนั้น..เวลารับยันต์ต่อให้มีเสียงประหลาดพิกลขนาดไหน ไม่ต้องไปใส่ใจ ให้เราภาวนาของเราไปตามปกติ แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเรามักจะกลัว พอได้ยินเสียงประหลาด ๆ เข้าสมาธิก็หายเรียบ..!

เมื่อพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรผ่านไป ก็คลายใจไปได้หน่อยหนึ่ง ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นไปในทางที่บรรเทาลง ไม่อย่างนั้นนี่ อยู่ ๆ อิสลามตายคาถนนหลายศพเป็นเรื่องแน่นอน ต่อไปให้ทุกคนเอาอย่างนั้นนะ ถ้ามีคนของเราตายให้รวมหัวอย่างนั้นบ้าง ประท้วง อาละวาด ต้องหาคนผิดมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วจะดูเหมือนคนของเขามีราคาชีวิตสูงกว่าของเรา

ถึงขนาดเขามีคำสอนกันมาให้หมู่คนขับรถประจำทางว่า ถ้าหากว่าขับรถแล้วไปชนคนอิสลามเข้า ให้หนีไว้ก่อน อย่าอยู่ตรงนั้น ถ้าอยู่ตรงนั้นตายฟรี หนีไว้ก่อน พอเหตุการณ์เบาลงแล้วค่อยไปมอบตัว"

เถรี 18-02-2012 13:03

"การจัดงานที่วัดทุกครั้ง มักจะมีปัญหาและอุปสรรคเกิดขึ้น โดยเฉพาะว่าบางทีก็เกิดขึ้นโดยที่เราเองก็คาดไม่ถึง อย่างเช่นว่า อยู่ ๆ น้ำในห้องส้วมไม่ไหล เพราะมีคนเมตตาไปปิดประตูน้ำให้ จึงเป็นอะไรที่บางทีก็หัวเราะไม่ออกเหมือนกัน นี่ยังดีนะ..ครั้งนี้แค่ปิดประตูน้ำ ครั้งก่อนเขาไปปิดเครื่องสูบน้ำเลย

มีโยมเขาบ่นว่าโรงทานไม่พอกิน อาตมาถามว่ามาถึงกี่โมง เขาบอกว่าบ่ายโมงกว่า ก็น่าจะได้กินอยู่หรอก..! โรงทานส่วนใหญ่ไว้เลี้ยงช่วงกลางวัน เล่นมาบ่ายโมงกว่า เขาบอกว่าเหลือแต่ข้าวต้มกับบะหมี่อยู่อย่างละหน่อย ยังดีที่มีเหลือ"

เถรี 18-02-2012 13:10

"ท่านใดเป็นเจ้าของกล่องวัตถุมงคลที่นำไปเข้าพิธีแล้วไม่ได้รับกลับ ให้มารับคืนได้ แต่เอาค่ารถมาด้วย..! ทำให้อาตมาต้องแบกมาถึงกรุงเทพฯ ลืมของทั้งลังนี่น่าตายมากเลยนะ ยังดีที่วัดท่าขนุนยังไม่มีประวัติของหาย ของเล็กน้อยขนาดไหนก็ตาม ถ้าเก็บได้เขาจะมาส่งคืนให้

อาตมาเองก็ประกาศหาเจ้าของ ปรากฏว่าวันนี้มีมาทวง ๒ ราย สรุปได้ว่าตอนประกาศไม่คิดว่าเป็นของตัวเอง กลับถึงบ้านแล้วถึงรู้ว่าหาย อีกรายหนึ่งออกไปเกือบครึ่งทางแล้ว นึกขึ้นได้ว่าลืมกระเป๋าวัตถุมงคลไว้ วิ่งมาถามว่ามีใครเจอบ้างหรือเปล่า ? ไม่เพียงแต่เจอเฉย ๆ อาตมาเก็บเข้าห้องไปแล้วด้วย เพราะว่าเลิกงานเก็บของเสร็จสรรพแล้ว อีกรายหนึ่งลืมกระเป๋าสตางค์พร้อมกับบัตรประจำตัวสารพัด พอประกาศวิ่งมาทันทีเลย เขาบอกว่ากำลังรออยู่ว่ามีใครเก็บได้หรือเปล่า ?

จะเห็นได้ว่า พวกเราที่ถือว่าเป็นหมู่คนที่เข้ามาปฏิบัติธรรม สามารถที่จะใช้ประโยชน์จากหลักธรรมได้จริง โดยเฉพาะเราไม่ยอมละเมิดศีล แม้ว่าของจะมีคุณค่าขนาดไหนก็ตาม ถือว่ากำลังใจในด้านศีลบารมีของเราใช้ได้

ถ้าเป็นญี่ปุ่นเก็บของได้ พอเจ้าของมารับคืน เขามีข้อบังคับด้วยว่าต้องแบ่งรางวัลให้คนเก็บได้ด้วย อันนี้เขามีข้อบังคับไว้เลย แต่ไม่ได้ถามเขาว่าแบ่งให้เท่าไร

ช่วงเกิดสึนามิมีของโดนคลื่นซัดไปไม่เป็นที่เป็นทาง คนนั้นก็เจอของที่ไม่ใช่ของตัวเอง คนนี้ก็เจอของที่ไม่ใช่ของตัวเอง จึงเอาไปฝากสถานีตำรวจ จนตำรวจไม่มีที่จะเก็บ แต่เขามีข้อแม้ว่าถ้าภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้วไม่มีคนมารับคืน จะเป็นสิทธิ์ของคนที่เก็บได้ ถ้าอย่างนี้อาตมาคงได้เยอะเลย เพราะว่าบางคนเป็นปี ๆ แล้วยังไม่ได้ไปรับของคืน

งานเป่ายันต์ครั้งนี้คนไม่ได้มากนะ แต่ทำไมแน่นจัง ? มีใครรู้สึกบ้างไหมว่าโดนเบียดจนกระดิกไม่ออก อาจจะเป็นเพราะคนมากขึ้นจริง ๆ แต่อาตมาดูไปก็เหมือนเดิม เพราะเห็นแต่หัว มองไปก็ติดหัวคน แต่ว่าที่มั่นใจว่าคนมากเพราะว่ารอบ ๒ ปกติจะมีคนเกินครึ่งศาลานิดหน่อย แต่ครั้งนี้เกือบไม่มีที่ว่างแล้ว เพราะว่ามีบางคนรับรอบหนึ่งแล้วไม่มั่นใจขอซ้ำอีกที จะบอกว่าน้ำเต็มแก้วแล้ว เทซ้ำไปก็ล้นทิ้งเสียเปล่า ๆ ก็ใช่ที่ นั่งรับไปเถอะ"

เถรี 18-02-2012 13:17

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีนี้เป็นปีแรกที่หน้าหนาวแล้วอาตมารู้สึกปวดข้อ แสดงว่าแก่ได้ที่แล้ว เพราะฉะนั้น..เวลาที่เกร็งมือเพื่อเขียนยันต์นาน ๆ จะปวดข้อ

ต่อไปที่น่าจะทำก็คือ ตะกรุดมหาสะท้อนที่ทำจากโรงงานแล้วเอามาเสก ตะกรุดมหาสะท้อนที่จารด้วยมือนี่หมดสิทธิ์แล้ว โดยเฉพาะตอนม้วนลำบากที่สุด จะเห็นว่าตะกรุดมหาสะท้อนรุ่น ๒ บางทีม้วนไม่ค่อยเรียบร้อยและค่อนข้างดอกใหญ่ เพราะว่าดอกแรก ๆ แรงยังดีอยู่ จึงม้วนได้ชิดสนิทแน่นหน่อย ดอกถัด ๆ ไปแรงเริ่มหมดก็ดอกใหญ่ขึ้นเรื่อย

วันหนึ่งจะจารประมาณ ๔๐ - ๕๐ ดอก แล้วรุ่นนั้นแผ่นเงินหนามาก ให้เด็กบ้านนอกอย่างพระครูน้อยช่วยม้วน ท่านบิดบุบไปได้นิดเดียว ไม่ใช่งอขึ้นมานะ งอยังงอไม่ขึ้นเลย ท้ายสุดอาตมาก็เลยต้องม้วนเอง ม้วนเสร็จมือก็พองและแตกพอดี"

เถรี 18-02-2012 13:22

พระอาจารย์กล่าวว่า "ชะรา ธัมโมมหิ ชะรัง อะนะตีโต เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่อาจล่วงพ้นความแก่ไปได้ บางคนทำใจไม่ได้ที่ตัวเองแก่ ในเมื่อทำใจไม่ได้ที่ตัวเองแก่ ก็เลยพยายามที่จะไม่แก่ บรรดาสิ่งต่าง ๆ ที่จะทำให้ดูไม่แก่ มักจะมีราคาแพง จริง ๆ แล้วไม่ใช่ไม่แก่นะ ยังแก่อยู่ แต่ทำให้ดูไม่แก่ ดังนั้น..คุณค่าของความพยายามที่จะไม่แก่จึงแพงตามไปด้วย

อย่างที่เคยบอกกับญาติโยมว่า ตอนไปพุทธาภิเษกให้กับสมาคมศิลปินเพื่อพระพุทธศาสนา อาตมาเจอพวกดารา เห็นเขาต้องสวยอยู่ตลอดเวลาแล้วเหนื่อยแทน เป็นอะไรที่ดูแล้วน่าเหนื่อยใจมาก ต้องพยายามแต่งให้ดูดี เพราะว่าถ้าดาราดูไม่ดีเมื่อไรอาจจะตกงานไปเลย บางทีก็ต้องสร้างกระแสเพื่อให้อยู่ในความสนใจของคน จะได้มีงาน พอดู ๆ ไปแล้วก็จะรู้สึกว่าเหนื่อยมากจริง ๆ"

เถรี 18-02-2012 13:27

"เมื่อไม่นานนี้มีคนมาคร่ำครวญอยู่หลายราย ว่าลูกสอบเข้าเรียนไม่ได้ นั่นก็ยิ่งเหนื่อย ความจริงลูกมีที่เรียน แต่พ่อแม่อยากให้เรียนอีกที่หนึ่งก็เลยต้องไปสอบแข่งกับเขา พอไม่ได้ขึ้นมาลูกไม่เสียใจเท่าไรหรอก แต่พ่อแม่กินไม่ได้นอนไม่หลับไปเป็นอาทิตย์เลย

พูดถึงเรื่องนี้ก็ไปนึกถึงสมัยก่อน มีนักเทนนิสคนหนึ่ง คือ มาร์ติน่า ฮินกิส บางทีมาร์ติน่า ฮินกิส ก็ได้แชมป์ บางทีก็ตกรอบแรก บางทีก็ตกรอบสองรอบสาม บางทีก็เข้ารอบชิงแล้วก็ได้แค่รองแชมป์ อาตมาฟันธงว่ารายนี้ต่อไปจะเก่ง มีคนถามว่าทำไม อาตมาบอกว่าเพราะเขาแพ้เป็น คนที่แพ้เป็น จะไม่ไปคร่ำครวญเสียใจให้แก่สิ่งที่พ่ายแพ้ แต่จะพิจารณาดูว่าแพ้เพราะอะไร แล้วแก้ไขจุดบกพร่องของตน แล้วต่อไปเขาก็จะชนะ

เด็กคนไหนถ้าสอบตกแล้วแพ้เป็น เด็กคนนั้นต่อไปอนาคตจะไกล คำว่าแพ้เป็น แปลว่ายอมรับว่าตัวเองสอบไม่ได้ แล้วก็ไปพิจารณาว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น เมื่อแก้ไขตรงจุดนั้นแล้ว ต่อไปก็จะไม่สอบตกอีก เขาก็ต้องไปวิเคราะห์ว่าทำไมตัวเองสอบไม่ได้ ขี้เกียจอ่านหนังสือ หรือว่าไม่ชอบวิชานั้นก็เลยไม่สนใจที่จะเรียน เหล่านี้เป็นต้น"

เถรี 18-02-2012 13:43

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตั้งแต่พระพุทธชินราชปิดทองใหม่ อาตมาว่าสู้ของเก่าไม่ได้เลย ของเก่าสวยนวลตามาก ของใหม่สว่างแสบตาเลย

คนโบราณเขาปั้นแสงปั้นเงาได้ เขาใช้แสงเงาจากช่องหน้าต่างเข้าช่วย ถ้าเดินเข้าไปจะเห็นองค์พระลอยเด่นอยู่กลางวิหาร พอมารุ่นหลังเขา กลัวขโมยบ้าง รู้เท่าไม่ถึงการณ์บ้าง ก็เลยอุดช่องแสงจนหมด แล้วใช้ไฟฟ้าส่องแทน จึงสว่างเกินไปจนแสบตา"

เถรี 18-02-2012 13:45

พระอาจารย์กล่าวว่า "เด็กรุ่นนี้ยังพอไหว แต่รุ่นถัดไปจะอยู่กันอย่างไร เพราะโลกร้อนแรงขึ้นทุกวัน ขณะเดียวกันความสามารถในการเอาตัวรอดของเด็กกลับน้อยลงไปเรื่อย เพราะไปพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกิน

วันก่อนยังบอกกับพระที่วัดเลยว่า ผมอยากให้ไฟดับสักอาทิตย์หนึ่ง ดูว่าพวกคุณจะตายไหม? ไม่อย่างนั้นอากาศหนาวแทบตาย ก็ยังเปิดพัดลมกันอยู่"

เถรี 18-02-2012 14:27

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ถ้าบอกได้อาตมาบอกหมดทุกคนแล้ว จำไว้ว่าถ้ายังอยากตายอยู่ กำลังใจยังใช้ไม่ได้ คนอยากตายกำลังใจจะหมอง คนที่เขาทำถึงจริง ๆ เขาไม่ได้อยากตาย แต่เขาพร้อมที่จะตาย ดำเนินชีวิตอยู่ในลักษณะอยู่ก็ได้ตายก็ดี ถ้าอยู่เราก็ยังได้สร้างบุญบารมี ถ้าตายเราก็ไปพระนิพพาน

สมัยก่อนอาตมาก็เข้าใจผิดเหมือนกัน คิดว่าถ้าถึงระดับอยากตายก็แปลว่าเราดีแล้ว เปล่า...ยังห่างอีก ๘๔,๐๐๐ โยชน์..!

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : เป็นเหมือนกันทุกคนแหละ ถ้ายังไม่ก้าวผ่านจุดนั้นไปก็คิดว่าตัวเองดีแล้ว พอก้าวผ่านไป อ้าว..ยังไม่ดีจริงนี่นา ที่ดีกว่าถูกกว่ายังมีอยู่อีก ก็จะเป็นอย่างนี้อยู่เรื่อย ๆ ด้วยความที่ยึดมั่นถือมั่นของเรา พอก้าวไปสู่จุดใหม่ก็จะไปยึดว่านั่นดีแล้ว ถูกแล้ว ต่อไปพอเจอที่ดีกว่านั้นขึ้นมาก็ อ้าว..ผิดอีกแล้ว พอโดนเข้าบ่อย ๆ ตอนหลังก็จะเปลี่ยน กลายเป็นคนที่รู้ระมัดระวัง ไม่ประมาทมากขึ้นเรื่อย ๆ

เพราะรู้ว่าแม้แต่ความดีก็ยังหลอกเราได้ ถ้าเราหลงติดอยู่แค่นั้นจะไม่ก้าวหน้าไปไหน ค่อย ๆ ทำไป ไม่ต้องรีบตายหรอก เวลายังไม่พอให้เราทำความดีเลย เพราะฉะนั้น..ให้เร่งทำให้มากเข้าไว้ อยู่ไปกินไปตามปกติ พอหมดอายุขัยเมื่อไรก็ไปเองแหละ

ไม่ต้องไปกังวลหรอกจ้ะ อาตมาเองเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยกังวลถึงอนาคตเลย ดูแลคนป่วยไว้เยอะ มั่นใจว่าพอถึงเวลามีคนช่วยหอบช่วยหิ้วแน่ ๆ ดูแลพ่อ ดูแลแม่ ดูแลหลวงปู่มหาอำพัน รับใช้หลวงพ่อวัดท่าซุง รวมแล้วกว่า ๒๐ ปี


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:39


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว