กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายน ๒๕๖๓ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6940)

เถรี 26-03-2020 12:10

"ปรากฏว่าโครงการทุกอย่างที่กำลังเป็นไปด้วยดี เจอฤทธิ์ไวรัสควายขวิดเข้า..! ก็พังบรรลัยหมด เพราะว่าต้องปิดวัดหนีไวรัส โครงการทุกอย่างที่ทำไว้เพื่อดึงคนเข้าวัด ลงทุนมาหลายปี คนเริ่มเข้าวัดมากขึ้น กลายเป็นคนมาวัดแล้วโดนปิดประตูใส่หน้า ไม่ให้เข้าวัดเสียอย่างนั้น กลายเป็นลงทุนสูญเปล่า เหนื่อยยากมาหลายปี แล้วก็ทำให้พังลงด้วยตัวเอง กลายเป็นเขียนด้วยมือแต่ลบด้วยเท้า..!

ต้องบอกว่า "มาร" เก่งมาก แก้เกมส์ครั้งนี้ได้แสบสุด ๆ แต่ถึงยกนี้จะแพ้เอ็ง ก็อย่าหมายว่าข้าจะท้อ สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร..! เรายังต้องรบกันอีกนาน ถึงไม่มีข้าแล้ว ก็ยังมีบุคคลที่จะสืบทอดปณิธาน เพื่อรักษาพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่เมืองไทยตลอด ๕,๐๐๐ ปี เรามาดูกันต่อไป..!"

เถรี 26-03-2020 15:09

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีพัสดุไปรษณีย์มาถึงวัด ทิดยิ่งศักดิ์ พนักงานไปรษณีย์ เป็นอดีตพระวัดท่าขนุน นำมาส่งให้ หลังจากอาตมาเซ็นรับพัสดุกล่องใหญ่มากแล้ว ก็สงสัยว่าโยมส่งอะไรมาถึงได้หนักขนาดนี้ ?

เปิดออกมาดูแล้วจะเป็นลม..! มะม่วงสุกเป็นสิบลูก..! ถึงจะเป็นมะม่วงหัวช้างก็เถอะ สุกงอมขนาดนี้ ส่งมาทางไปรษณีย์ก็เหลือแต่ทำน้ำมะม่วงได้เท่านั้น..!

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพระธรรมหมวดใดก็ตาม ก็มักจะแทรกปัญญาเอาไว้เสมอ หลักไตรสิกขา ที่พุทธศาสนิกชนทุกคนจำต้องศึกษา ก็บอกชัดว่าประกอบด้วย ศีล สมาธิและปัญญา

แต่ญาติโยมทำบุญมาแบบนี้ อาตมาก็สงสัยเหลือเกิน ว่าอันดับแรก...สมองของโยมมีขนาดเท่าไร ? ใหญ่กว่าบรรดาแร็ปเตอร์ ใน Jurassic Park บ้างหรือไม่ ?"

เถรี 26-03-2020 15:16

"อันดับที่ ๒ โยมได้ใช้สมองคิดบ้างหรือไม่ ? ว่าการส่งมะม่วงสุกมาทางไปรษณีย์ จะต้องพบกับอะไรบ้าง ? เครื่องป้องกันแม้แต่นิดเดียวก็ไม่มี ใส่มาในกล่องเฉย ๆ เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องยกแบบทะนุถนอมเหมือนกับโยมใช่ไหม ? ถึงได้ตัดสินใจส่งมา

ที่นำเรื่องนี้ขึ้นมากล่าว ไม่ได้ตั้งใจตำหนิญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา แต่ยกเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้อื่นว่า ไม่ว่าจะกระทำสิ่งหนึ่งประการใด ก็ต้องใช้ปัญญาไตร่ตรอง คิดทบทวน พิจารณาให้ถ่องแท้รอบด้านก่อน แล้วค่อยกระทำ

ไม่ใช่มีความศรัทธา แล้วก็ทำไปเลยโดยปราศจากการยั้งคิด ลักษณะแบบนี้พระบาลีเรียกว่า อธิโมกขสัทธา เป็นศรัทธาที่เชื่อโดยปราศจากปัญญาประกอบ มีโอกาสโดนผู้อื่นชักจูงหลอกลวงได้ง่าย"

เถรี 26-03-2020 15:18

"อาตมานับว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของตนเอง ที่ไม่สามารถจะสั่งสอนบอกกล่าวญาติโยมกระทำการใดให้รอบคอบกว่านี้ได้ ยินดีน้อมรับความผิดพลาดนี้ไปแก้ไข ท่านผู้เป็นเจ้าของมะม่วงก็อย่าได้น้อยใจ ท่านได้เป็น อาทิกัมมิกบุคคล ต้นบัญญัติในการกระทำเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จะได้เป็นตัวอย่างแก่ผู้อื่นไปได้อีกนานแสนนาน

ขออนุโมทนาในจิตศรัทธาของญาติโยม ที่อุตส่าห์ส่งมะม่วงสุกมาถวายพระวัดท่าขนุน อาตมาจะให้ทางโรงครัวช่วยจัดการให้สมกับเจตนาของญาติโยม ถ้ามุมไหนไม่สามารถที่จะฉันเป็นเนื้อมะม่วงสุกได้ ก็จะให้แม่ชีทำน้ำปานะไว้ถวายพระเณรหลังทำวัตร ขอทุกท่านได้อนุโมทนาบุญกุศลครั้งนี้โดยทั่วหน้ากัน"

เถรี 26-03-2020 19:23

พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้พระภิกษุและแม่ชีวัดท่าขนุนหลายรูป กลายเป็นผู้ต้องขัง โดนกักกันตัวเพื่อดูอาการ ๑๔ วัน เนื่องจากเพิ่งเดินทางกลับจากการเรียนที่วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาฯ (วัดไร่ขิง) บ้าง สหบาลีศึกษา (วัดพระปฐมเจดีย์) บ้าง

เมื่อการเดินทางกลับมาไม่พร้อมกัน ก็ต้องแยกตัวกักกันหลายที่ เพื่อไม่ให้เกิดกระทบกับผู้ที่โดนกักกันอยู่ก่อน ทุกท่านก็ไม่คิดว่าหลวงพ่อจะเอาจริงขนาดนี้ แต่ว่าในวิกฤตการณ์ต่าง ๆ นั้น ถ้าขาดความจริงจังและเด็ดขาดเสียแล้ว ก็จะแก้ไขเหตุการณ์ได้โดยยาก"

เถรี 26-03-2020 19:25

"จะว่าไปแล้วพระภิกษุและแม่ชีของวัดท่าขนุนนั้น ไม่ว่าจะไปเรียนที่ไหนก็ตาม ก็สร้างชื่อเสียงให้กับวัดเป็นอย่างมาก เพราะว่าผ่านสิ่งที่ยากที่สุดก็คือการปฏิบัติธรรมมาแล้ว เรื่องอื่นล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องง่ายทั้งสิ้น

โดยเฉพาะด้านการเรียนภาษาบาลี ซึ่งอาตมาเห็นว่ายากมาก ในฐานะที่เคยเรียนมาบ้าง สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ท่านที่เรียนบาลีจนจบ ป.ธ.๙ นั้น ความสามารถพอที่จะเรียนจบปริญญาเอกได้ ๓ ใบเลย..!

แต่ก็เป็นที่น่าชื่นใจว่า ผลการสอบบาลีปีนี้ ทางพระวัดท่าขนุนซึ่งไปฝากเรียนอยู่ที่สหบาลีศึกษานครปฐม สอบผ่านประโยค ๖ สองรูป สอบผ่านประโยค ๓ สองรูป สอบผ่านประโยค ๑ - ๒ หนึ่งรูป

สอบผ่านรายวิชาหรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าติดซ่อม ไปรอสอบแก้ตัวใหม่รอบหลัง มีติดซ่อมประโยค ๔ สองรูป ติดซ่อมประโยค ๓ หนึ่งรูป จากผู้เข้าสอบทั้งหมด ๘ รูป รวมสอบผ่าน ๕ รูป ติดซ่อม ๓ รูป เป็นตัวเลขที่ออกมาแล้วน่าชื่นใจมาก"

เถรี 26-03-2020 19:28

"สาเหตุสำคัญก็คือ พระภิกษุสามเณรตลอดจนกระทั่งแม่ชีของวัดท่าขนุน ผ่านการปฏิบัติธรรมมาแล้ว และมีความเป็นผู้ใหญ่ รู้จักรับผิดชอบ จึงขยันขันแข็ง ตั้งใจเรียน ซ้ำยังไม่ทิ้งวัตรปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ทำวัตร บิณฑบาต เจริญพระกรรมฐาน เท่ากับมีพื้นฐานคอนกรีตเสริมเหล็ก ส่งผลให้เรียนดีทุกรูป

จะเห็นได้ว่า ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น มีประโยชน์ทั้งทางโลกและทางธรรม ในทางโลกนั้น เมื่อเรามีจิตสงบนิ่ง ความจำก็จะดี สติการยั้งคิดก็จะมีมาก ไม่เผลอไผลไปกับความสนุกสนานทางโลกเหมือนกับคนอื่นเขา ช่วยให้เรียนดีโดยอัตโนมัติ

ในทางธรรมนั้น เราสามารถเอาการท่องหนังสือมาแทนคำภาวนาได้ โดยประกอบกับลมหายใจเข้าออก หรืออานาปานสติ ทำให้สามารถทรงสมาธิภาวนาได้ กำลังใจก็จะเข้มแข็ง มั่นคง พบเรื่องยากก็ไม่ท้อถอย เพราะว่าเรื่องที่ยากที่สุด ก็คือการตัดกิเลสเข้าสู่พระนิพพาน

ในเมื่อเรื่องที่ยากที่สุดยังพยายามทำมาแล้ว เรื่องอื่นก็กลายเป็นเรื่องง่ายทั้งหมด ดั่งคำโบราณที่ว่า ลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ"

เถรี 27-03-2020 07:06

"อาตมามอบรางวัลให้นักเรียนบาลีที่สอบผ่านในปีนี้ เป็นเบี้ยแก้หลวงพ่อทัต วัดคฤหบดี เบี้ยแก้สายเหนียวจากกรุงเทพฯ ซึ่งความจริงก็เป็นสายเดียวกับวัดกลางบางแก้ว

หลวงปู่แขก วัดบางบำหรุ เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่รอด วัดนายโรง เบี้ยแก้ของหลวงปู่รอด วัดนายโรงนั้น ถือว่าเป็นเบี้ยแก้อันดับ ๑ ของประเทศไทย เป็น ๑ ใน ๙ เครื่องรางสะท้านแผ่นดิน

สมัยโน้นหลวงปู่แขกท่านธุดงค์ไปจากนครชัยศรี ชาวบ้านนิมนต์ให้อยู่เป็นเจ้าอาวาสวัดบางบำหรุ ท่านได้ถ่ายทอดวิชาทำเบี้ยแก้ให้กับหลวงปู่รอด วัดนายโรง หลวงปู่ม่วง วัดคฤหบดี หลวงปู่ทัต วัดคฤหบดี"

เถรี 27-03-2020 07:08

"ส่วนเบี้ยแก้สายนครชัยศรีนั้น หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด ท่านเรียนวิชามาจาก หลวงปู่ปาน วัดตุ๊กตา และหลวงปู่ทอง วัดกลางบางแก้ว แล้วถ่ายทอดต่อให้กับ หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว

ด้วยความที่เบี้ยแก้สายวัดนายโรง และเบี้ยแก้สายวัดกลางบางแก้ว มีความเหมือนกันก็คือ ต้องใช้หอยเบี้ยที่มีฟัน ๓๒ ซี่ บรรจุปรอทน้ำหนัก ๑ บาท อุดด้วยชันโรงใต้ดินเหมือนกัน และหลวงปู่แขกท่านธุดงค์ไปจากนครชัยศรี ทำให้สรุปได้ว่าเบี้ยแก้ทั้ง ๒ สายนี้ เรียนไปจากตำราเดียวกัน หรือว่าครูบาอาจารย์สายเดียวกัน

เพียงแต่เบี้ยแก้สายวัดคฤหบดีนั้น เน้นเอาความเหนียวเป็นหลัก สมัยก่อนผู้ที่ไปขอเบี้ยแก้จากหลวงปู่ม่วง หรือหลวงปู่ทัต ได้เบี้ยแก้กลับมาเมื่อไร เป็นเจอทดลองด้วยการรุมตีรันฟันแทงเมื่อนั้น แล้วก็เหนียวจริงทุกครั้งเสียด้วย"

เถรี 27-03-2020 07:09

"ส่วนเบี้ยแก้สายวัดกลางบางแก้วนั้น เน้นในทางป้องกัน แคล้วคลาดปลอดภัย พระคาถาอาราธนาตามปกติ คือ อิติปิ โส ภะคะวา ยาตรายามดี วัน....ชัยศรี สวัสดีลาโภ นะโมพุทธายะ ส่วนที่เว้นไว้ให้ใช้ตามวันนั้น ๆ เช่น วันอาทิตย์ชัยศรี วันพฤหัสบดีชัยศรี เป็นต้น

ถ้าจะใช้ในทางเหนียว มหาอุตม์ คงกระพัน มีคาถาต่างหากดังนี้

๑. สะนิทัสสะนะสัปปะฏิ ปืนยิงไม่ออก

๒. สะนิทัสสะนะสัปปะฏิคา ปืนยิงออก แต่ลูกคาลำกล้อง

๓. อะนิทัสสะนะสัปปะฏิคาตายะ ปืนแตก"

เถรี 27-03-2020 07:10

"เบี้ยแก้สายนครชัยศรี ที่เน้นความเหนียวก็มี คือ เบี้ยแก้หลวงตากา วัดแค (นครชัยศรี) คนที่นิยมความเหนียว ไปขอจนท่านถักเชือกให้ไม่ทัน ต้องใช้ผ้ามุ้งหุ้มแทน แล้วใส่ห่วงชุบรัก เรียกว่าถ้ามาสายนักเลงแล้ว จะวิ่งไปหาหลวงตากากันหมด"

เถรี 27-03-2020 07:11

"ที่อาตมามอบรางวัลให้นักเรียนบาลีเป็นเบี้ยแก้นั้น มี ๓ สาเหตุด้วยกัน

๑. อาตมาจ่ายเงินเดือนให้พระนักเรียนบาลี ปีละ ๖๐,๐๐๐ บาทต่อรูปอยู่แล้ว จึงไม่คิดที่จะให้เป็นเงินอีก

๒. เบี้ยแก้หลวงปู่ทัต เป็นของเก่าหายากแล้ว สามารถเอาไปอวดคนอื่นได้ ว่าเราก็มีของดีใช้กับเขาเหมือนกัน

๓. เบี้ยแก้หลวงปู่ทัตบรรจุปรอทป่า คือ ปรอทที่ดักเอาจากธรรมชาติ มีอานุภาพในการป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ เหมาะกับยุคที่ไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด"

เถรี 27-03-2020 07:11

"การให้รางวัลเป็นเงินนั้น เอาไปใช้แล้วก็หมดไป แต่ถ้าให้เป็นวัตถุมงคล ซึ่งเป็นที่ต้องการในท้องตลาด นอกจากไว้ใช้ติดตัวแล้ว ยังเป็นความภูมิใจ ที่เอาไปคุยกับเพื่อน ๆ ได้อีกต่างหาก

โดยเฉพาะวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังบางประเภท ถึงมีเงินก็หาไม่ได้ ต่อให้หาได้ก็ราคาแพง ปล่อยให้ท่านไปแสวงหากันเองก็อาจจะได้ของปลอมมาอีก จึงมอบเป็นรางวัลให้ท่านไปเลยจะดีกว่า"

เถรี 27-03-2020 11:49

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้ (๒๗ มีนาคม ๒๕๖๓) ออกเดินทางเข้าเมือง เอาเครื่องวัดอุณหภูมิ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ยาเม็ดฟ้าทะลายโจร ไปถวายตามวัดต่าง ๆ ตั้งแต่วัดปรังกาสีของเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ วัดไชยชุมพลชนะสงครามของเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี วัดวังขนายของเจ้าคณะอำเภอท่าม่วง

"น้องเล็ก" พลขับขาประจำถามว่า จะไปทางตรงหรือทางลัด อาตมาตอบว่าให้ไปทางลัด เชื้อ covid-๑๙ มาจากต่างประเทศ ยังไม่ชำนาญทาง ถ้าเราไปทางลัดรับรองว่าไม่ติดเชื้อ..!

หลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ออกไปงานด่วนข้างนอก อาตมาจึงเอาขนมสำหรับสามเณร และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ วางถวายไว้บนโต๊ะหน้าสำนักงานของท่าน แล้วถ่ายรูปส่งไลน์ให้ท่านดูเป็นหลักฐาน จากนั้นเดินทางต่อไปจนถึงวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดใต้

พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี มารับข้าวของด้วยตนเอง กล่าวขอบคุณที่ทางวัดท่าขนุนให้ความร่วมมือกับคำสั่งของทางราชการและคณะสงฆ์ด้วยดีทุกประการ เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับวัดอื่น ๆ ทั้งจังหวัด"

เถรี 27-03-2020 11:50

"ขนมที่นำไปมอบให้กับทุกวัดนั้น เป็นของซีพีแรม (CP RAM) ซึ่งมอบให้กับทางวัดท่าขนุนทุกครั้งเมื่อจัดงานปฏิบัติธรรม ในเมื่อครั้งนี้ยกเลิกการปฏิบัติธรรม ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้งานให้สมกับเจตนารมณ์ของผู้บริจาค จึงต้องนำไปถวายให้กับวัดที่มีสามเณรมาก ๆ

ต้องขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านสาธิต เจียมบุรเศรษฐ์ และพนักงานของซีพีแรมทุกท่าน ที่มีส่วนร่วมในงานปฏิบัติธรรมทุกครั้งของวัดท่าขนุน ขอให้ทุกท่านประสบแต่ความสุขความเจริญ มีความปรารถนาที่สมหวังจงทุกประการด้วยเทอญ"

เถรี 27-03-2020 11:52

"วัดวังขนายทายิการาม ของท่านพระครูกาญจนสุตาคม เจ้าคณะอำเภอท่าม่วงนั้น เป็นวัดที่ทำการรักษาผู้ป่วยด้วยวารีบำบัด คือการแช่น้ำร้อน ต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน

มีคนไข้ประจำประมาณ ๑๒๐ คน เจ้าหน้าที่แผนกต่าง ๆ ซึ่งช่วยดูแลคนไข้ประมาณ ๕๐ คน พระภิกษุสามเณรอีกประมาณ ๒๕ รูป แต่ไม่มีเครื่องวัดอุณหภูมิเพื่อตรวจสอบอาการไข้แม้แต่เครื่องเดียว ระยะนี้ก็หาซื้อไม่ได้อีกด้วย

ทางวัดท่าขนุนเตรียมเครื่องมือเอาไว้สำหรับใช้ในงานเป่ายันต์เกราะเพชร ในเมื่อไม่ได้ใช้งาน ก็เอามาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ พระสังฆาธิการ ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้ จะได้คุ้มค่ากับการที่คณะญาติโยมลงทุนซื้อหามา"

เถรี 27-03-2020 11:54

เข้าไปถึงวัดวังขนาย จากที่เคยมีรถทัวร์แน่นไปทั้งวัด ก็กลายเป็นป่าช้าเงียบสนิท หลวงพ่อเจ้าอาวาสฉีดแอลกอฮอล์ล้างมือให้ก่อนเลย ด้วยความที่คุ้นเคยกันมานาน ตั้งแต่ท่านยังเป็นพระมหาสมพงษ์อยู่ จึงไม่ต้องพูดอะไรกันมาก ท่านทราบดีว่าพระอาจารย์เล็กพูดจริงทำจริง ถ้าบอกว่าจะหาของมาให้ก็ต้องได้อย่างแน่นอน จึงเตรียมตัวต้อนรับแต่เนิ่น ๆ เลย

ญาติโยมทั้งหลาย พระพุทธศาสนาของเรานั้น อยู่ได้ด้วยการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เป็นการฝึกตนให้ละใน รัก โลภ โกรธ หลง ฝึกการมีเมตตากรุณาต่อผู้อื่น ถ้าวัดที่มีศักยภาพมาก ช่วยเหลือวัดที่มีศักยภาพน้อย วัดที่มีศักยภาพน้อย ก็พยายามยืนหยัดให้ได้ด้วยตนเอง ถ้าเป็นแบบนี้ พระพุทธศาสนาก็จะเป็นได้ด้วยดี มีความมั่นคงและเจริญรุ่งเรือง

เถรี 27-03-2020 11:57

"องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา การให้ทานไม่ใช่หน้าที่ของอุบาสกอุบาสิกาเท่านั้น แต่พระภิกษุ สามเณร หรือแม่ชี ถ้าพอมีที่จะแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้ก็ควรที่จะแบ่งปัน

ผู้รู้ท่านกล่าวว่า มือที่คว่ำลงเพราะหยิบยื่นให้ ย่อมอยู่สูงกว่ามือที่หงายเพื่อรอรับ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสว่า ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก แต่ก็อย่าลืมว่า อามิสทานแม้เป็นของดี แต่การปฏิบัติธรรมนั้นเป็นของที่เลิศกว่า เราจึงควรที่จะทำให้ครบทั้งทาน ศีล และภาวนา"

เถรี 27-03-2020 11:58

"อานิสงส์ของทาน ถ้าเกิดใหม่ท่านจะร่ำรวย อานิสงส์ของศีล ถ้าเกิดใหม่ท่านจะเป็นผู้มีรูปสวย มีจิตใจดีงาม อานิสงส์ของการภาวนา ถ้าเกิดใหม่ท่านจะเป็นผู้มีปัญญามาก

ถ้าทุกคนรู้จักแบ่งปัน รู้จักช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประเทศชาติและศาสนาของเราก็จะเจริญมั่นคง โดยเฉพาะถ้าเราตัดความเห็นแก่ตัวออกไป สละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมือง ก็จะช่วยให้ประเทศของเรามั่นคงถาวรไปชั่วกาลนาน"

เถรี 27-03-2020 15:58

"ออกจากวัดวังขนายประมาณสิบโมงครึ่ง ย้อนกลับไปวัดราษฎร์ประชุมชนาราม (วัดท่ามะขาม) ทันเวลาฉันเพลพอดี พระครูบ่าว (พระครูกาญจนปริยัติคุณ) เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน คือพระจากวัดท่าขนุน ที่ญาติโยมทางด้านนี้ขอตัวมาเป็นเจ้าอาวาส

ตอนแรกท่านบอกว่ารับภาระไม่ไหว จึงได้รับความเมตตาจากท่านอาจารย์มหาเอ (พระมหานันทวัฒน์ เขมธมฺโม) ศิษย์พี่จากวัดท่าขนุน ซึ่งไปเรียนบาลีอยู่ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ บอกว่าให้รับเอาไว้ ท่านจะหาทุนให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดท่ามะขามเอง

ทางวัดท่ามะขามถึงแม้ว่าจะไม่ได้ปิดวัด แต่ก็เงียบเหงามาก มีญาติโยมมาถวายภัตตาหารเพลอยู่ ๒ ราย ซึ่งอาตมาถามว่า รับมาแล้วต้องล้างแอลกอฮอล์ก่อนถึงจะฉันได้ใช่ไหม ? ญาติโยมตอบว่าควรที่จะฉันลงไปก่อน แล้วค่อยฉันแอลกอฮอล์ตามลงไปทีหลัง..!"

เถรี 27-03-2020 16:00

"เมื่ออาตมาออกจากวัดท่าซุง ก็มาสังกัดที่วัดท่ามะขามนี้เป็นแห่งแรก ตอนนั้นอดีตเจ้าอาวาสคือพระเดชพระคุณพระเทพเมธากร อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ยังเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี สมณศักดิ์ที่พระวิสุทธิรังษี

ท่านไปงานที่วัดท่าซุงเป็นประจำทุกปี อาตมามีหน้าที่ต้อนรับพระเถระ จึงสนิทสนมคุ้นเคยกัน เมื่อมาขอพึ่งพิงท่านก็รับเอาไว้โดยไม่ลังเล แล้วยังส่งอาตมาไปเป็นรองเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ช่วยท่านอาจารย์สมพงษ์พัฒนาวัดในช่วงแรก

จากนั้นท่านก็แต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลชะแล เขต ๒ เป็นเจ้าอาวาสวัดทองผาภูมิ ตามลำดับ เมื่ออาตมาลาออกจากเจ้าคณะตำบลชะแล เขต ๒ และเจ้าอาวาสวัดทองผาภูมิ คิดว่าจะได้พักผ่อนบ้าง ท่านก็ดึงตัวมาเป็นเลขานุการของท่าน แทนท่านอาจารย์พระมหาทองดี เลขาฯ ตัวจริงที่ป่วยเป็นวัณโรค"

เถรี 27-03-2020 16:02

"อาตมาอยู่รับใช้จนท่านเกษียณอายุจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับการยกขึ้นเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีรูปปัจจุบัน ซึ่งยังมีสมณศักดิ์ที่พระราชวิสุทธิเมธี รับตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีแทน

พระเดชพระคุณพระราชวิสุทธิเมธี ส่งอาตมภาพไปเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ต่อมาก็ได้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลท่าขนุน เขต ๒ แล้วเสนอต่อพระเดชพระคุณพระธรรมโพธิมงคล รักษาการเจ้าคณะภาค ๑๔ แต่งตั้งให้อาตมาเป็นรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิรูปที่ ๒ อยู่ในปัจจุบันนี้

ดังนั้น...อาตมภาพกับวัดท่ามะขาม จึงไม่ใช่คนอื่นคนไกล หากแต่เป็นลูกหม้อตัวจริงเสียงจริงคนหนึ่ง ซึ่งญาติโยมอยากจะให้อาตมาเป็นเจ้าอาวาสเสียด้วยซ้ำไป แต่ติดขัดด้วยตำแหน่งหน้าที่ในปัจจุบัน จึงได้ขอตัวท่านพระครูกาญจนปริยัติคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดธุดงค์สมเด็จ อดีตเจ้าอาวาสวัดพุทธบริษัท อดีตเจ้าอาวาสวัดพุทธมณฑลอรัญญิกาวาส มาเป็นเจ้าอาวาสแทน"

เถรี 27-03-2020 19:05

"จากเดิมสมัยที่อยู่กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพเมธากร ท่านมีความสนุกสนานในการให้พระย้ายที่พักบ่อย ๆ เหมือนกับว่าไม่ต้องการให้ติดถิ่นที่อยู่ อาตมาจึงเคยนอนที่ศาลาปฏิบัติธรรม ซึ่งล้อมรอบด้วยป่าต้นจามจุรี บรรยากาศน่ากลัวสุด ๆ สำหรับบุคคลอื่น

มิหนำซ้ำอาตมายังปิดไฟเสียหมดเกลี้ยง เพื่อสร้างบรรยากาศให้เกิดอารมณ์ร่วมเข้าไปอีก ถึงไม่ค่อยมีใครอยากจะไปรบกวนที่นั่น แม้ว่าจะเป็นเวลากลางวันก็ตาม

แล้วย้ายมานอนชั้นบนของอาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งมีแต่นกพิราบทั้งฝูงเป็นเพื่อน ต้องกวาดขี้นกพิราบอยู่ทุกวัน อีกไม่นานก็ย้ายมาอยู่ที่กุฏิด้านในหลังโบสถ์ แล้วย้ายมาอยู่กุฏิหอระฆังด้านนอกหลังโบสถ์ วันดีคืนดีก็ให้ไปนอนที่สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี"

เถรี 27-03-2020 19:06

"บางเดือนก็ไปนอนที่กุฏิห้องกระจก ซึ่งภายหลังท่านอาจารย์พระมหาสันติ โชติกโร ป.ธ. ๙ ใช้เป็นที่พัก จนกระทั่งท่านอาจารย์พระมหาสันติสร้างอาคารที่พักใหม่ อาตมาก็เป็นคนประเดิมใช้งาน ซึ่งอาคารหลังนี้ต่อมาโดนสามเณรงัดจนประตูพังหมด เมื่อพระครูบ่าวท่านมาเป็นเจ้าอาวาส จึงให้อาตมาไปพักที่ห้องนอนเก่าของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพเมธากร ซึ่งไม่มีใครกล้านอนพัก เพราะว่าเจ้าของเดิมค่อนข้างจะหวงที่..!

จนกระทั่งท่านอาจารย์พระมหาเอ รับเป็นประธานในการจัดหาทุนบูรณะวัดท่ามะขาม อาคารหลังแรกที่ท่านรีบสร้างก็คือกุฏิเจ้าอาวาส จึงตั้งชื่อว่า อาคารปฐมา ซึ่งเป็นทั้งกุฏิเจ้าอาวาส สำนักงานเจ้าอาวาส พร้อมแบ่งห้องให้อาตมาใช้เป็นที่พัก ๑ ห้อง

ภายในห้องพักนอกจากพระพุทธรูปซึ่งขาดไม่ได้แล้ว อาตมายังแอบปล่อยแมลงภู่คำไว้ช่วยเฝ้าห้อง ๓ ตัว จึงเป็นห้องพักที่ดีมาก ไม่มีอะไรกล้ารบกวนเลย"

เถรี 27-03-2020 19:08

"คาถาบูชาหรืออาราธนาแมลงภู่คำ ซึ่งปกติถ้าเราค้นหาจากอินเทอร์เน็ต ก็จะเจอบทที่ว่า "โอม..พญาแมลงภู่คำ งามเหลือล้นพอตา ในโลกาโลกใต้ ฯลฯ" เป็นคาถาที่ใช้กันทางล้านนาของเราเป็นส่วนใหญ่ จึงเป็นสำเนียงคำเมือง ที่อาตมภาพไม่ถนัดเอาเสียเลย

จึงต้องใช้วิธีขอจากครูบาอาจารย์เจ้าของตำราแมลงภู่คำ ได้พระคาถาสั้น ๆ มา ๗ คำว่า "ยะมะอะ ปะยะมังยะ" เมื่อลองใช้ดูแล้วได้ผลดี ท่านใดจะนำไปใช้บ้างก็ได้ หรือถ้าถนัดคำเมือง ก็ใช้บทที่เขานิยม แต่ค่อนข้างจะยาวอยู่สักหน่อย"

เถรี 27-03-2020 19:09

"แมลงภู่คำจัดเป็น "อารักษ์" ประเภทหนึ่ง สามารถใช้ให้เฝ้าบ้านได้ด้วย การใช้วัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลังอะไรก็ตาม เมื่อเราทำบุญแล้วอย่าลืมอุทิศส่วนกุศล ถวายครูบาอาจารย์ผู้สร้าง ถวายเทวดาที่รักษาเครื่องรางหรือว่าผู้ที่รักษาเครื่องรางตามสายวิชาการนั้น ๆ และหมั่นปลุกหรืออาราธนาบ่อย ๆ ถ้าทำดังนี้แล้วท่านจะใช้วัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลังนั้น ๆ ได้ผลมากกว่าผู้อื่น

จากประสบการณ์ที่ใช้มา ถ้าจะใช้ในการต่อตีป้องกัน แมลงภู่คำแบบบรรจุเข็มทองอัคคียะ จะสำแดงฤทธิ์ได้โหดกว่า เพราะว่าเข็มทองอัคคียะที่บรรจุไว้นั้น เท่ากับเป็นเหล็กไนของแมลงภู่คำ ซ้ำยังกำกับด้วยเตโชกสิณ ทำให้พิษร้ายดุเดือดดีนัก"

เถรี 27-03-2020 19:10

"แต่ระยะนี้ที่อาตมานำเอาแมลงภู่คำแบบบรรจุปรอทป่าออกมา แบ่งปันให้ญาติโยมได้บูชากันนั้น เพราะว่าแบบบรรจุปรอทป่าหาง่ายกว่า และตรงกับสถานการณ์ที่ต้องการรัศมีของปรอทป่า ในการป้องกันเชื้อโรคบางประเภท

คาดว่าพ่อปู่พระฤๅษีเจ้าของสายวิชาการแมลงภู่คำฝังเข็มทองอัคคียะ คงจะไม่ชอบให้ใครมารังแกลูกศิษย์ของตน ถ้าใครมารังแกก็ต้องเข็ดไปตลอดชีวิต จึงได้สร้างแมลงภู่คำฝังเข็มทองนี้ขึ้นมา แต่ว่าเรียนยากกว่าแบบบรรจุปรอทป่า เพราะว่าต้องฝึกเตโชกสิณให้ได้เสียก่อน กลายเป็นวิชาภาคบังคับ จึงมีคนเรียนสำเร็จน้อยกว่าแบบบรรจุปรอทป่าหลายเท่า"

เถรี 28-03-2020 06:33

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมภาพเคยเป็นทหารมาก่อน จึงทราบดีว่า บุคคลที่อยู่หน้าสถานการณ์รบ ต้องพลิกแพลงให้เข้ากับสถานการณ์ ไม่ใช่รับคำสั่งผู้บังคับบัญชา แล้วเอาไปปฏิบัติอย่างเถรตรง ซึ่งมีโอกาสทำให้กองทัพพินาศได้

ดังที่อาตมภาพพิจารณาแล้วเห็นว่า ถ้าเปิดโรงทานตามพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชที่วัดท่าขนุน มีโอกาสที่จะกลายเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อไวรัส covid-๑๙ มากกว่า ก็กราบแทบเท้าขออภัยต่อองค์สมเด็จพระสังฆราช กราบเรียนถวายว่าไม่สามารถที่จะกระทำได้ด้วยเหตุผลใด"

เถรี 28-03-2020 06:37

2 Attachment(s)
"เรื่องของการสวดมนต์ "สู้ไวรัส covid-๑๙" ก็เช่นกัน ถ้าใครจะสู้ก็เชิญตามสบาย แต่ทางวัดท่าขนุนไม่สู้ด้วย อาตมภาพขอปฏิบัติตามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ให้แสดงความเป็นมิตรกับเหล่าอมนุษย์ ไม่ใช่ไปขับไล่ไสส่งกัน

ท่านลองพิจารณาเนื้อหาในรตนสูตร ดังที่อาตมาจะยกขึ้นมาเป็นตัวอย่าง แล้วจะทราบว่าเหตุใดจึงต้องทำเช่นนั้น

ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ
ภุมฺมานิ วา ยานิว อนฺตลิกฺเข
สพฺเพว ภูตา สุมนา ภวนฺตุ
อโถปิ สกฺกจฺจ สุณนฺตุ ภาสิตํฯ

แปลความว่า
ภูตทั้งหลายเหล่าใด ไม่ว่าจะอยู่บนพื้นดินหรืออยู่ในอากาศ ขอให้ภูตทั้งหมดจงมีน้ำใจดี ฟังคำกล่าวด้วยดี (รตนสูตร) นี้ ด้วยความเคารพ"

เถรี 28-03-2020 06:39

"ตสฺมา หิ ภูตานิ สาเมถ สพฺเพ
เมตฺตํ กโรถ มานุสิยา ปชาย
ทิวา จ รตฺโต จ หรนฺติ เย พลิํ
ตสฺมา หิ เน รกฺขถ อปฺปมตฺตาฯ

แปลความว่า
ฉะนั้น ภูตทั้งหลาย ขอท่านจงฟัง ขอให้ท่านเป็นมิตรกับมนุษย์ผู้ทำพลีกรรม จงปกป้องรักษามนุษย์เหล่านั้น ทั้งกลางวันและกลางคืนอย่าได้ประมาทเถิด

จะเห็นได้ชัดเจนว่า การสวดรตนสูตรในสมัยพุทธกาลนั้น อันดับแรก...พระอานนทเถระเป็นพระโสดาบัน ย่อมมีความเคารพนอบน้อมในคุณพระรัตนตรัยยิ่งชีวิต สิ่งที่ท่านกล่าวอ้างถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คือกล่าวอ้างถึงด้วยความเคารพอย่างสุดจิตสุดใจจริง ๆ

การที่จะน้อมใจผู้อื่นให้เชื่อถือเรานั้น เราเองต้องกระทำสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นให้เต็มที่ก่อน เมื่อผู้อื่นเห็นว่าเราทำจริง ถึงจะน้อมใจเชื่อตาม"

เถรี 28-03-2020 06:40

"ประการที่ ๒ ต้องวางกำลังใจเป็นมิตรกับเหล่าอมนุษย์ทั้งหลาย ไม่ใช่ตั้งใจเป็นศัตรู ไปขับไล่ไสส่งกัน ถ้าอย่างนั้นท่านไม่มีทางที่จะได้รับความร่วมมือใด ๆ เลย

อย่าลืมว่าการอยู่ร่วมกัน ต้องสมประโยชน์ซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายต่างได้รับในส่วนที่ตัวเองต้องการ ดังทฤษฎี win - win ของฝรั่ง สังคมจึงจะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

ไม่ใช่ว่าประชาธิปไตยคือ ประชาชนต้องฟังคำสั่งและปฏิบัติตามเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะมีอักษรย่อว่า ผนงรจตกม..!"

เถรี 28-03-2020 06:43

"ดังนั้น...ในการสวดรตนสูตร สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องเข้าถึงความเคารพในคุณพระรัตนตรัย และต้องวางกำลังใจเป็นมิตรกับทุกภพทุกภูมิทุกหมู่ทุกเหล่า ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นช่วยเหลือมนุษย์ เป็นการร้องขอในลักษณะที่เด็กร้องขอต่อผู้ใหญ่

ในเมื่อเด็กอ่อนน้อมถ่อมตน ร้องขอแต่โดยดี ย่อมได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่ เมื่อผู้ใหญ่เห็นดีเห็นงามในสิ่งที่เด็กทำ ก็เหมือนกับบรรดาท่านรัฐมนตรีทั้งหลาย เห็นดีเห็นงามในสิ่งที่ข้าราชการประจำกระทำ แค่พยักหน้าเห็นด้วย เรื่องทุกอย่างก็จบลงด้วยดี

อาตมภาพเคยกล่าวมาหลายครั้งว่า การใช้พระคาถาต่าง ๆ ถ้าเราเข้าถึงหัวใจของพระคาถาจริง ๆ ก็จะสามารถใช้ได้ผลมากกว่าคนอื่นเขา ดังได้พรรณนามาด้วยประการฉะนี้"

เถรี 28-03-2020 09:27

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันเสาร์ที่ ๒๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีชวด เป็นกระทิงวัน ปกติแล้ววันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ จะเป็นวันบวงสรวงไหว้ครูประจำปี ตามสายวิชาการของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค สืบทอดมาจนถึงหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เมื่องดการจัดพิธีบวงสรวงไหว้ครูประจำปี และเป่ายันต์เกราะเพชร ตามคำสั่งของทางคณะสงฆ์ และตามหนังสือขอความร่วมมือของทางราชการ

อาตมาจึงแจ้งให้บรรดาสหธรรมิก ร่วมกันทำบวงสรวงไหว้ครูเพราะว่าเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ จึงมีการบูรณาการร่วมกัน ระหว่างวัดท่าขนุน (พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.) วัดสี่แยกเจริญพร (พระครูปฐมสาธุวัฒน์) และ บ้านสุมโน (พระมหานันทวัฒน์ เขมธมฺโม)

โดยหลวงพี่มหาเอ นำเอาบายศรีที่สั่งสำหรับงานบวงสรวงไหว้ครูประจำปีและเป่ายันต์เกราะเพชรของวัดท่าขนุนมาใช้งาน พระครูเทพ สั่งชุดบายศรีบวงสรวงต่างหาก ทิดเฟิร์ส ก็สั่งชุดบายศรีและพานไหว้ครูมาด้วย"

เถรี 28-03-2020 09:31

"เมื่อเริ่มพิธี อาตมาถวายชุดบายศรีไหว้ครูต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ พรหม เทวดา และครูบาอาจารย์ทุกองค์

จากนั้นกราบทูลอัญเชิญสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมเป็นประธาน พระปัจเจกพระพุทธเจ้า...เจ้าของพระคาถาเงินล้าน และครูบาอาจารย์ที่จำเพาะเจาะจงในครั้งนี้ ได้แก่
หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
หลวงปู่สด วัดปากน้ำภาษีเจริญ
หลวงปู่สาย วัดท่าขนุน
หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง
หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง
หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม

ให้ร่วมกันอนุเคราะห์สงเคราะห์ ปลุกเสกวัตถุมงคล ทั้งในมณฑลพิธี และที่บ้านสุมโน ให้มีพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ดังที่เคยได้ให้การอนุเคราะห์สงเคราะห์มาทุกครั้ง"

เถรี 28-03-2020 09:33

"ทิดเฟิร์สกระซิบว่า "ขอแรง ๆ เห็นคาตาชัด ๆ เหมือนกับครั้งที่แล้วด้วยนะครับ" อาตมาได้แต่หัวเราะในใจ เรื่องของพระ เรื่องของพรหมเทวดา เรื่องของครูบาอาจารย์ กูกดปุ่มไม่ได้..! มีแต่ท่านจะกดกบาลกูเท่านั้น..!

เมื่อเริ่มเข้าที่ภาวนา วางกำลังใจตามที่พระท่านสั่ง แล้วก็เห็นญาติโยมจำนวนหนึ่ง ที่ตั้งใจขอรับบารมีพระอยู่กับบ้าน อีกจำนวนหนึ่งเตรียมของบูชาครูเอาไว้ แต่ไม่ได้เตรียมตัว คิดว่าไม่น่าจะเป็นเวลานี้ นับว่าน่าเสียดายมาก

ครั้นเสร็จพิธี ลืมตาขึ้นมาทำน้ำมนต์ พระท่านให้ใช้บท อิติปิ โสฯ ถอยหลัง สิ่งที่ปรากฏขึ้นก็คือ น้ำตาเทียนไหลเป็นสายลงในบาตร โดยมีเปลวไฟไหลตามไปด้วย เสียงระเบิดดังเพียะพะเป็นไฟพะเนียงไปทั่ว เทียนบูชาพระ เทียนสัตตบริภัณฑ์ ก็ระเบิดไล่เป็นลูกระนาดเวียนขวาไปจนครบทุกดวง..!

ทิดเฟิร์ส ทิดดอย น้องเล็ก วิ่งมาช่วยกันถ่ายรูป จนต้องดุว่าให้ถ่ายวิดีโอไว้บ้าง ไม่อย่างนั้นจะไม่มีหลักฐาน อยากได้ของแรงดีนัก พระท่านจึงสงเคราะห์ให้แรงสะใจไปเลย..!"

เถรี 28-03-2020 09:42

"เหตุการณ์นี้ทำให้อาตมานึกถึงคำของหลวงพ่อฤๅษีฯ ที่ท่านสอนไว้ว่า "อย่าอวดดีกับผี อย่าลองดีกับพระ" สิ่งทั้งหลายเหล่านี้มีจริง ถ้าอยากรู้ต้องฝึกฝนตนเองอย่างจริงจัง เพื่อให้เรารู้เห็น ไม่ใช่ไปท้าทายแบบหูหนวกตาบอด ถ้าทำแบบนั้นจะเจอดีเข้าสักวัน..!

นับว่าเป็นโชคดีของทางวัดท่าขนุน วัดสี่แยกเจริญพร และบ้านสุมโน ที่พระท่าน ตลอดจนหลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ เมตตาสงเคราะห์ให้ขนาดนี้

วัตถุมงคลของวัดท่าขนุนนั้น อาตมานำเหรียญสมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิตเนื้อชิน ๑๐,๐๐๐ องค์ เนื้อทองเหลือง เนื้อทองแดง และเนื้อทองทิพย์ อย่างละ ๓,๐๐๐ องค์ เหรียญสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเขียวเหล็กไหล ๗,๙๐๐ องค์ มาเข้าพิธี ขนใส่ "น้องแก้ว" รถคันที่ใช้เป็นประจำ วิ่งหน้าเชิดเริ่ดหยิ่งมาด้วยความหนักมาก"

เถรี 28-03-2020 09:44

"ของวัดสี่แยกเจริญพร ท่านอาจารย์เทพ นำเอาผ้ายันต์พญาเต่ามังกรพลิกชีวิต มาเข้าพิธีชนิดที่โรงงานแทบจะร้องไห้ เพราะเมื่อได้ยินว่าพระอาจารย์ยอมให้นำเข้าพิธีด้วย ท่านก็สั่งทำอย่างชนิดที่ไม่ต้องยั้ง ไม่ถึงวินาทีสุดท้ายไม่ต้องหยุดผลิต พร้อมทั้งขนบรรดาเหรียญเต่ารุ่นต่าง ๆ ที่มีเหลืออยู่ของวัดมาเข้าพิธีด้วยทั้งหมด

ส่วนท่านอาจารย์มหาเอนั้น ตั้งใจจะเป็นทัพหน้ารบกับไวรัส covid-๑๙ สั่งสร้างเหรียญพระไภษัชยคุรุ หรือที่เรียกว่า เหรียญอโรคยา มาเข้าพิธีด้วย แต่ไม่อยากเสี่ยงฝ่าด่านกักกันโรคมา จึงขออนุญาตตั้งไว้ที่บ้านสุมโน แล้วขอให้พระอาจารย์ส่งไลน์มาถึงด้วย..!"

เถรี 28-03-2020 09:54

"ส่วนอาตมานั้น กราบขอบารมีครูบาอาจารย์ตั้งแต่เช้า บอกว่าขอผ่านทุกด่านโดยไม่มีปัญหานะครับ แล้วก็เหมือนกับทุกด่านไม่เห็นรถคันนี้ แม้กระทั่งทางด้านทิดเฟิร์ส ก็บอกว่าผ่านสะดวกเช่นกัน กราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านที่เมตตาเป็นอย่างสูง

ผู้ใดใช้วัตถุมงคลรุ่นนี้ ให้ภาวนา อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ วันละ ๓ จบทุกวัน ถ้าหากว่ามีเรื่องร้ายแรง ต้องการจะกลับร้ายกลายเป็นดี ให้ตั้งใจจุดธูปเทียนบูชาพระ แล้วภาวนา อิติปิโสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ ๑๐๘ จบ จากนั้นอธิษฐานเอาตามอัธยาศัย"

เถรี 29-03-2020 07:46

พระอาจารย์เล่าว่า "กลับถึงวัดท่าขนุน ขนข้าวของเก็บเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปช่วยงานในเว็บวัดท่าขนุน เพราะว่าเจ้าหน้าที่ของเรามีน้อย ส่วนมากติดภารกิจคืองานประจำ ใครว่างก็เข้ามาช่วยกันดูแล

คนเก่าหลายคนหายไปจากยุทธจักร เช่น ทิดซัน (ชัยรัตน์ ธรรมทัตโต) ทิดรัตน์ (รัตน์ เพื่อนรักษ์) ทิดตู่ (ชาญชัย อาจิระวัฒน์) หรือที่ยังอยู่ก็มีเวลาเข้ามาน้อย อย่างเช่น ทิดหนุ่ม (ปิยะ กุคำอู) ทิดกวาง (กำพร พิเชฐสกุล) เป็นต้น

ไปเจอรายชื่อผู้จองสมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิตเนื้อชิน คือ น.ท.หญิง อริศรา กิติธีระกุล หรือที่คนรุ่นหลังส่วนใหญ่เรียกกันว่า ป้าติ๋ว ทำให้อยากจะยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างแก่คนรุ่นหลัง"

เถรี 29-03-2020 07:48

"ป้าติ๋วเป็นเพื่อนของอาตมาตั้งแต่สมัยที่ยังไม่บวช เป็นลูกสาวของคุณแม่ทองดี ม่วงน้อยเจริญ เจ้าของบ้านอนุสาวรีย์ชัยฯ ที่อาตมารับสังฆทานและสอนกรรมฐานอยู่ในระยะแรกถึง ๑๘ ปี คบหากันมาตั้งแต่ยังเป็นสาวน้อยอรชรอ้อนแอ้น จนปัจจุบันนี้รอบเอวเล็กกว่าโอ่งมังกรราชบุรีนิดเดียว..!

ป้าติ๋วเป็นตัวอย่างของบุคคลที่มั่นคงต่อพระรัตนตรัย ปฏิบัติธรรมแล้วนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง จนพวกเราหลายคนที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยฆราวาสพูดกันว่า "ใครทำให้ยายติ๋วโกรธได้ ไอ้นั่นต้องชั่วได้ที่จริง ๆ" ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์อย่างไร ป้าติ๋วจะยิ้มสู้เสมอ"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:38


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว