กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6345)

เถรี 23-10-2018 08:59

พระอาจารย์กล่าวว่า “ปัจจุบันนี้มีระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ก็เลยทำให้ไม่มีการลงทุนเพื่อเปิดสาขาธนาคารต่าง ๆ ธนาคารที่มีอยู่ก็ต้องพยายามลดตัวเองลงไป ท้ายที่สุดอาจจะต้องมีการขายที่ตั้งหรือว่าขายอาคารสำนักงาน เพราะว่าการโอนเงินด้วยสมาร์ทโฟนเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ

จะว่าไปแล้วเรื่องนี้ใน
บ้านเรายังล้าสมัย ผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งมากที่สุดเป็นแอฟริกา ประเทศที่มีคนตัวดำ ๆ พุงป่อง ๆ นั่นแหละ ที่เราเห็นว่าล้าหลังที่สุด กลับใช้อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งมากที่สุดในโลก เหตุที่เป็นอย่างนั้นเพราะว่า กว่าเขาจะเดินทางไปถึงเมืองที่มีธนาคาร อาจจะโดนสิงโตคาบไปรับประทานก่อน..! ก็เลยต้องใช้วิธีทำธุรกรรมออนไลน์ เพราะฉะนั้น..บ้านเขาเราจะไปดูถูกว่าล้าหลัง เป็นพวกชนเผ่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้ เขาใช้อินเทอร์เน็ตเก่งกว่าเราเยอะ

ฝรั่งเขาทดสอบช่วงที่ iPad กำลังฮิตใหม่ ๆ เขาเอา iPad ไปทิ้งไว้ที่แต่ละหมู่บ้านจำนวน ๔๐ แห่งด้วยกัน สองเดือนผ่านไปกลับไปปรากฏว่าเด็กใช้ iPad เป็นทุกคน..! ไม่ต้องสอนอะไรเลยนะ เขากดเปิดของเขาเอง จิ้มโน่นจิ้มนี่เองจนเล่นเป็น ให้เวลาสองเดือนโดยไม่มีใครสอน เรื่องพวกนี้เราจะไปคิดว่าเป็นเรื่องยาก...ไม่ใช่หรอก อยู่ที่ว่าจะสนใจไหม เด็กเขาเห็นเป็นของเล่นเขาก็ต้องเล่นจนได้”

เถรี 23-10-2018 09:05

ถาม : เมื่อวานเขานิมนต์ผมไปฉันเพลที่วัดหนึ่ง เขามีฉลองหล่อหลวงปู่ปานองค์ใหญ่ ๕ ศอก ?
ตอบ : ทางด้านทองผาภูมิของอาตมา พื้นเดิมไม่มีทางด้านหลวงปู่
หลวงพ่อท่าน ก็เลยไม่กล้าทำอะไรเป็นที่เอิกเกริก มีช่วงครบรอบ ๑๐๐ ปี หลวงพ่อฤๅษีฯ ก็หล่อรูปท่านกับหลวงปู่ปานเอาไว้บนชั้นสามเลย พูดง่าย ๆ ว่าเราคิดถึงก็ขึ้นไปกราบไปไหว้ของเราเอง ไม่ต้องเอามาโชว์ให้เจ้าของที่เขาหมั่นไส้ ...(หัวเราะ)...

ที่นั่นของเขาต้องหลวงปู่สาย หลวงพ่อเดิม คือหลวงพ่อเดิมเป็นบูรพาจารย์ หลวงปู่สายเป็นลูกศิษย์ ดังนั้น..อยู่ที่ไหนต้องดูตาม้าตาเรือด้วย ไม่ใช่ไปทำส่งเดช ไปทำส่งเดชคนเขาด่า เขาจะซวย ไม่ใช่เรา ...(หัวเราะ)...

ถาม : หลวงปู่สายเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเดิม ?
ตอบ : ใช่..ท่านธุดงค์ไปทางทองผาภูมิแล้วญาติโยมเขาเลื่อมใส ก็เลยนิมนต์ท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่นั่น

เถรี 23-10-2018 09:16

ถาม : เวลาทำสังฆกรรม ถ้าคนละนิกายบางอย่างก็ไม่ต้องร่วมกับเขา ?
ตอบ : ผมว่าเป็นเรื่องความเข้มงวดที่ไม่เข้าท่า อย่างของผมไปอยู่กับหลวงปู่มหาอำพัน ๔ ปี เขาไม่ให้ลงโบสถ์ด้วย วันไหนวันพระใหญ่ก็ให้ผมบอกบริสุทธิ์แล้วก็อยู่ในกุฏิ ไม่ต้องไปลงโบสถ์ ผมก็ว่าแล้วกูจะบอกบริสุทธิ์ทำไม ? มึงไม่ให้กูลงแปลว่ากูไม่บริสุทธิ์อยู่แล้ว..! ...(หัวเราะ)... แต่คราวนี้เราอยู่กับเขา ให้ทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้นแหละ

การเคร่งครัดต่อพระวินัยเป็นเรื่องดี แต่ถ้าเคร่งครัดในลักษณะยึดติดเป็นสีลัพพตุปาทานก็คือ ถือว่าการปฏิบัติของเราดีกว่าผู้อื่น นี่เป็นสักกายทิฐิเต็ม ๆ ผมเจอพระธรรมยุตมากต่อมากด้วยกัน ที่ท่านทำถึง ทำดีจริง ๆ ไม่เห็นท่านรังเกียจอะไร คลุกคลีตีโมงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

เถรี 23-10-2018 09:19

อย่างสมัยก่อนหลวงปู่บุดดา ไม่มีใครนึกว่าท่านเป็นพระธรรมยุตนะ ไปไหนไปกัน เวลารับเงินหลวงปู่ก็รับด้วย ...(หัวเราะ)... อย่างหลวงปู่กล่อม วัดอาวุธฯ ท่านเป็นเจ้าคุณใหญ่โต ก็ไม่เห็นท่านจะถือสาหาความอะไร ไปถึงท่านกราบก่อนเลย หลวงพ่อหลวงปู่แต่ละรูปท่านหลบกันอุตลุด

ตอนนั้นหลวงปู่กล่อมท่านเป็นพระเทพวราลังการ เจ้าคุณชั้นเทพ หลวงปู่ธรรมชัยยังไม่ได้พระครูเลย ไปถึงท่านกราบหลวงปู่ธรรมชัยก่อนเลย “พระเดชพระคุณครับ เกล้ากระผมรู้ตัวว่ามาสายพุทธภูมิ แต่เกล้าฯ ไม่รู้ว่าตัวเองขาดตรงไหนบ้าง ขอพระเดชพระคุณได้โปรดเมตตาช่วยชี้แนะให้ด้วยครับ” หลวงปู่ธรรมชัยเบี่ยงข้างพับเพียบพนมมือแต้เลย “ขออภัยครับ พระเดชพระคุณ ยังขาดวิริยบารมีกับปัญญาบารมี ต้องเร่งเพิ่มอีกหน่อยครับ”

หลวงปู่ท่านนั่งรถสองแถวไป ลงรถหน้าวัดถือไม้เท้าเดินก๊อก ๆ มา “ไอ้หนู..หลวงพ่อมหาวีระอยู่ด้านไหนลูก ?” อาตมาก็ถามหลวงปู่มาจากไหน ท่านว่า “มาจากวัดอาวุธฯ กรุงเทพฯ” บอกอย่างนั้นยังไม่รู้จักเลย ...(หัวเราะ)... กราบเรียนว่า “แล้วจะให้ผมเรียนหลวงพ่อว่าผู้ใดมาละครับ ?” ท่านก็บอกว่า “ให้บอกว่าพระเทพวราลังการมา”

ปรากฏว่าเดินไม่ถึงกุฏิ หลวงพ่อท่านเดินออกมารับอยู่ด้านหน้าตึกเลย ท่านรู้กัน ไม่ให้ลูกศิษย์ต้องลำบากใจ หลวงพ่อเดินมารับเองเลย ตอนหลังเป็นเจ้าคุณธรรมฯ แล้วถึงมรณภาพ แต่ส่วนใหญ่พวกเราถ้าได้ยินวัดอาวุธฯ แล้วจะนึกอยู่สองอย่าง นึกถึงหลวงปู่บุดดา หรือไม่ก็คุณยายแม่ชีบุญเรือน

เถรี 23-10-2018 09:34

ถาม : หลวงปู่ชุ่ม คาถา วิวะ อะวะ สุสะตะ วิวะ สวาหะ คือองค์เดียวกับที่สร้างลูกแก้วสารพัดนึกหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ใช่....วัดวังมุยนั่นแหละ

เหลือเชื่อที่ว่าครูบาอาจารย์รุ่นเก่ากว่าหลวงปู่ชุ่มมีเยอะแยะ ดังกว่าหลวงปู่ชุ่มก็มีเยอะแยะ แต่วัตถุมงคลหลวงปู่ชุ่มประเภทเครื่องรางอย่างเช่นพวกตะกรุดนี่ เขาหาของท่านกันทั้งภาคเหนือ แสดงว่าต้องมีประสบการณ์กันเยอะมากจริง ๆ พูดง่าย ๆ ว่าถ้าคนเหนือไปถามหาตะกรุดนี่ เขาหาของหลวงปู่ชุ่มกัน


ถาม : วัดวังมุยอยู่จังหวัดไหนครับ ?
ตอบ : อยู่ตำบลประตูป่า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้คือวัดที่อยู่ในป่า แต่มาตอนนี้กลายเป็นวัดที่อยู่ในเมือง วัดที่ครูบาวิฑูรย์ท่านบวชนั่นแหละ

เถรี 26-10-2018 09:10

ถาม : คาถาวิวะ อะวะฯ บทนี้ป้องกันภัยธรรมชาติ ไฟป่า น้ำป่า หรือสัตว์ร้ายใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ท่านให้เอาไว้สำหรับใช้ตอนธุดงค์

ถ้าใครไม่เคยเจอน้ำป่า ไม่รู้หรอกว่าน่ากลัวแค่ไหน อาตมาธุดงค์ไปเจอเข้าเต็ม ๆ น้ำมาเป็นภูเขาเลากา ต้นไม้ใหญ่น้อยโดนม้วนมาเกลี้ยงเลย เสียงคึก ๆ ๆ อย่างกับแผ่นดินไหวมาเลย


ถาม : ตอนนั้นพระอาจารย์ภาวนาคาถาบทนี้หรือครับ ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าผมโชคดี เพราะว่าที่อาตมาพักอยู่ข้างน้ำก็จริง แต่เป็นลำห้วยแห้งและกว้างมาก กว้างเป็นแม่น้ำเลย เพราะฉะนั้น..ถึงน้ำป่าม้วนมาเป็นภูเขาแต่ตูมเดียวก็เลยไปเลย ถ้ามีประเภทแถมมานี่ยุ่งแน่

ตอนแรกเจอพายุลูกเห็บก่อน ฝนตกลงมาก่อนสักสิบกว่านาที แล้วอยู่ ๆ ก็แปลกใจว่า เอ๊ะ...เราตาลายหรือนี่ เห็นเม็ดฝนเด้ง ๆ เอามือไปรองแล้วไม่ใช่เม็ดฝน แต่เป็นน้ำแข็ง ตกมาแล้วเด้ง แรก ๆ ก็ประมาณนิ้วก้อย เดี๋ยวก็โตเท่านิ้วชี้ เดี๋ยวก็เท่าหัวแม่มือ คราวนี้ดังกราวสนั่นไปทั้งป่าเลย

พอลูกเห็บลงได้พักหนึ่งก็หยุด แล้วฝนก็ต่อ พอฝนหยุด พวกอาตมาก็กำลังเก็บฟืนมาเพื่อที่จะก่อฟืนผิงให้ตัวแห้ง ปรากฏว่าเสียงคึก ๆ ๆ มาแต่ไกล หันไปดู...โอ้โฮ ภูเขาชัด ๆ..! คว้าย่ามได้ก็เผ่นดีกว่า ...(หัวเราะ)...

ถาม : แล้วหนีอย่างไรครับตอนนั้น ?
ตอบ : ตอนนั้นอยู่ที่ต่ำ จุดที่เราพักอยู่ข้างลำห้วย ก็ต้องวิ่งขึ้นเนิน

เถรี 26-10-2018 09:13

เมื่อตอนน้ำท่วมสังขละบุรีปีนี้ กระทิงตายไป ๔ ตัว โดนน้ำป่ากวาดไปจมน้ำตาย ตอนแรกพวกป่าไม้เขาคิดว่านายพรานล่า แต่ปรากฏว่าพอไปดูแล้วไม่มีบาดแผลอะไร มีแต่ร่องรอยบริเวณน้ำท่วมก็เลยมั่นใจว่าจมน้ำตาย

ถาม : คล้ายสึนามิไหมครับ ?
ตอบ : แบบนั้นเลย เพียงแต่มาแค่ช่วงแคบ ๆ สึนามินั่นกวาดเต็มหน้าหาด

สึนามิจริง ๆ ถ้าเฉพาะตัวน้ำนี่คนไม่ตายง่าย ๆ หรอก แต่คราวนี้คลื่นกวาดอย่างอื่นมาด้วย บ้านช่อง เรือนโรง ต้นไม้ กระทั่งรถราเอามาหมด กระแทกเข้าแล้วคนจะไปเหลืออะไร


ถาม : ที่อินโดนีเซียเห็นว่าเสียชีวิตหลายพันคนเลยครับ
ตอบ : ต้องบอกว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ซึ่งไปปิดเครื่องเตือนภัยก่อน เพราะว่าผ่านไปเกือบ ๓๐ นาที เห็นว่าไม่มีอะไรก็ปิด ปรากฏว่าคลื่นมาช้า ดูจากในคลิปมีคนตะโกนเตือนจากชั้นบนที่เป็นลานจอดรถบนตึกสูง ๆ แต่ข้างล่างไม่สนใจเพราะว่าเขาไม่เห็น เพราะว่ามีแนวเหมือนบังกะโลบังอยู่ เขาตะโกนเท่าไรก็เฉย มีแต่จะเดินลงไปชายหาดเสียด้วยซ้ำ คนข้างบนเห็นว่ามาเป็นกำแพงแล้ว พอรู้ตัวก็หนีไม่ทัน

ถาม : ประมาทปิดเครื่องเตือนภัย ?
ตอบ : คงจะกลัวเปลืองไฟกระมัง ? เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วไม่เห็นจะมีอะไร แต่ที่หนักที่สุดก็ของบ้านเรานี่แหละ ตายทุกประเทศรวมกันเป็นแสนเลย

เถรี 26-10-2018 09:21

ถาม : การดื่มกาแฟเป็นการเร่งการเต้นของหัวใจ ทำให้เกิดผลไม่ดีต่อร่างกาย แล้วการวิ่งบนลู่วิ่ง ที่การเต้นของหัวใจขึ้นจาก ๘๐ เป็น ๑๖๐ ตรงนี้แตกต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : การวิ่งนั้นเป็นการที่ค่อยเป็นค่อยไป แต่กาแฟนั้นขึ้นทันทีทันใด คือลักษณะค่อย ๆ อุ่นเครื่องเหมือนกับ warm ขึ้นไป ก็จะมี warm up และ warm down แต่กาแฟนี่คือพรวดเดียว ดีดไปอยู่กลางฟ้าเลย

ถาม : การออกกำลังกายด้วยลู่วิ่งแล้วจับลมหายใจหรือภาวนาไปด้วย เรายังพอที่จะควบคุมลมหายใจได้ แต่ไม่สามารถควบคุมการเต้นของหัวใจใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ได้...ถ้าสมาธิทรงตัวทำได้ อาตมาปั่นจักรยานด้วยความเร็วสูงสุด หัวใจยังเต้นไม่เคยเกิน ๑๐๐ ครั้งต่อนาทีเลย ...(หัวเราะ)...

ถาม : ต้องเข้าถึงฌานไหนครับ ?
ตอบ : เอาแค่ไม่เกินปฐมฌาน ถ้าเกินแล้วจะเคลื่อนไหวยาก

ถาม : การที่เราจับลมหายใจภาวนาไปด้วย แต่อัตราการเต้นของหัวใจเรายังคงเพิ่มสูงขึ้น แสดงว่ากำลังของเรายังไม่เข้าสู่ระดับปฐมฌาน ?
ตอบ : ถ้าหากว่าเป็นปฐมฌานขึ้นไป หัวใจจะเต้นช้าเหมือนกับนักกีฬาที่ฟิตซ้อมมาดี เมื่อฟิตซ้อมมาดี หัวใจก็จะเต้นช้าโดยอัตโนมัติ แต่นี่คือเต้นช้าเพราะสมาธิคุม

ถาม : เราใช้ตัวนี้เป็นตัววัดกำลังฌานขณะเคลื่อนไหวได้ ?
ตอบ : ได้...โดยเฉพาะพวกเครื่องที่ใช้มือจับแล้ววัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ อาตมาทำให้เขาดูมาแล้ว ถึงเวลาเครื่องร้องว่า ๐ มาเลย ทั้ง ๆ ที่เราวิ่งอยู่ปกตินั่นแหละ อยู่ที่เราว่าจะเข้าสมาธิระดับไหน เล่นเอาพวกนางมารร้ายเขาโวยกัน เขาบอกแล้วยังไปได้อย่างไร ก็ไปได้นะสิ ...(หัวเราะ)...

เถรี 26-10-2018 09:23

ถาม : การกำหนดแบบมโนมยิทธิจะทำให้การเต้นของหัวใจเป็นเหมือนระดับปฐมฌานได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าใช้ลักษณะของมโนมยิทธิจะทำให้เต้นช้าลงได้ เพราะว่าสติสมาธิอยู่นอกตัวไปแล้ว

ถาม : เวลาไปที่สูง ๆ แล้วมีอาการแพ้ความสูง เราสามารถใช้สมาธิเข้าช่วยได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าลมหายใจละเอียดจะไม่เป็น เพราะว่าออกซิเจนเพียงพอ เพราะฉะนั้น..สมาธิยิ่งสูง ลมหายใจจะยิ่งละเอียด คราวที่แล้วไปทิเบตมา ไม่มีใครเป็นอะไรเลย เขาห้ามอะไรนี่เราทำหมด ...(หัวเราะ)...

เถรี 26-10-2018 09:29

ถาม : พระอาจารย์ไปเมืองไหนที่ทิเบตครับ ที่ฮันซาหรือครับ ?
ตอบ : ลาซา ที่ฮันซาของปากีสถานก็ไปมา แต่อาตมาเรียกว่าหรรษา

คนที่ฮันซาอายุเฉลี่ย ๑๒๐ ปี อายุเฉลี่ยนะ...แปลว่ามีเยอะกว่านั้นอีก อากาศเขาดีจริง ๆ เราหายใจนี่รู้สึกว่าลงไปถึงหัวแม่เท้าเลย ยังคิดว่าเดี๋ยวมีโอกาสจะไปอีก แต่งวดนี้ตั้งใจจะไปสักฤดูหนาว ไม่ได้ไปสัมผัสความหนาวหรอก เพราะตอน
ที่ไปฤดูร้อนก็จะติดลบแล้ว แต่ที่จะไปฤดูหนาวเพราะเขาบอกว่าพวกผลไม้จะออกตอนหน้านั้น ตอนที่ไปฤดูร้อนมีแต่พวกของแห้ง แล้วชาวบ้านแถวนั้นเป็นอิสลามหมด แต่ว่าเป็นอิสลามเผ่าสไมลี่ย์ เป็นเผ่าที่ไม่เคร่งครัดและเป็นมิตรกับพวกเรามาก ๆ เลย

ถาม : อยู่ที่ไหนครับ ?
ตอบ : ปากีสถาน อยู่ใกล้ ๆ จีนเลย

ถาม : ใกล้กับหิมาลัย ?
ตอบ : ไม่ใช่ใกล้...ข้ามหิมาลัยไป คือจากอิสลามาบัด ผมนั่งเครื่องบินข้ามเขาหิมาลัยไปลงที่เมืองกิลกิต จากเมืองกิลกิตก็นั่งรถไปที่ฮันซา ไม่ค่อยมีใครกล้าไปหรอก บ้านเมืองเขาดูอันตรายมากเพราะว่ามองไปทางไหนมีแต่อาวุธสงคราม ถึงเวลาเราไปไหนก็จะมีทหาร ตำรวจของเขาถืออาวุธสงครามขึ้นรถมานั่งคุมไป พอพ้นอำเภอเขาก็ลง แล้วอีกอำเภอก็มารับช่วงต่อไป

ธนาคารหรือโรงแรมนี่ประเภทว่าการ์ดของเขาพกอาวุธสงครามทั้งนั้นนะครับ...ส่วนใหญ่เป็นอาก้า ประเทศเขาโคตรน่าอยู่เลย อาวุธสงครามวางขายข้างถนนเกลื่อนไปหมด..! อยากได้อะไรไปเลือกซื้อเอา ...(หัวเราะ)...


เถรี 27-10-2018 07:45

ถาม : เมื่อก่อนนี้ปากีสถานเป็นที่พระพุทธเจ้าประสูติหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เขาเรียกว่า “ตักศิลา” ภาษาอังกฤษเรียกว่า “Taxila” อาตมาไปเพื่อดูพวกนี้แหละ จะมีเมืองโบราณจูเลียน ตักศิลา ประมาณ ๔-๕ แห่ง เป็นเขตพระพุทธศาสนาจริง ๆ ผมตั้งใจไปดูพวกนี้โดยเฉพาะเลย

ถาม : ติดกับอัฟกานิสถานไหมครับ ?
ตอบ : ติดกัน ข้ามสันเขาไปสันเดียวเท่านั้นเอง จะมีถนนอยู่ช่วงหนึ่งที่พวกอาตมาวิ่งรถอยู่ แล้วคนขับบอกว่า “ขอร้องนะครับ ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นก็ตาม อย่าหยุดรถ” อย่าให้เขาหยุดรถ เขาบอกว่าพวกที่เดินเลี้ยงแพะเลี้ยงแกะนั่น ไม่รู้จะงัดอาวุธสงครามขึ้นมาตอนไหน คือหุบเขานั้นชื่อหุบเขาสวาท เป็นแหล่งกบดานของพวกก่อการร้ายโดยเฉพาะพวกตาลีบัน

และอีกเมืองหนึ่งคือเมืองชีลาส ที่นั่นเขาขอร้องให้พวกผมอยู่แต่ในโรงแรม ห้ามออกข้างนอกเลย ผมเดินออกไปข้างนอกนี่การ์ดโรงแรม ๒ คน ไม่ใช่การ์ดทั่วไปนะ...เป็นทหารเลย เขาเดินตามมาเพื่อที่จะตามคุ้มกันว่าเราจะไปถึงไหน เมืองนี้ค่อนข้างจะเข้มงวด ไม่ชอบคนแปลกหน้าโดยเฉพาะคนละศาสนากัน แต่อาตมาก็ประเภทตีซี้เขาไปเรื่อยแหละ เขาบอกว่าห้ามถ่ายรูป ผมก็ไปขอเด็กถ่ายรูป ไปอะไรให้ยุ่งไปหมด ท้ายสุดแม้กระทั่งขอยืมปืนจากทหารเขามาดู ...(หัวเราะ)... แล้วตอนที่ผมไปเขาก็กำลังประท้วงกันอยู่

เถรี 27-10-2018 07:48

หลือเชื่ออยู่อย่างหนึ่งก็คือ ประเทศปากีสถานทำอาหารอร่อยมากเลยนะ ไม่ว่าจะแพะ แกะ ไก่ ปลา เขาทำมาอร่อยไปหมด ไม่ใช่ไม่มันอย่างเดียว แต่ไม่เหม็นด้วย ไม่เหมือนอินเดียที่เขาประเดประดังเครื่องเทศลงไปเยอะจนเรากินไม่ได้ แต่ที่ปากีสถานเขาทำมาพอดีปากเราเลย พวกอาตมาไปนี่กินกันกระจาย

ตอนแรกเขาเอาขาแกะอบมาให้ขาเดียว ปรากฏว่า ๓ ขาก็ไม่มีเหลือ ...(หัวเราะ)... คงเป็นเพราะว่าเขากินอยู่ทุกวัน เขาเลยทำจนอร่อย พวกอาตมาไปมีอยู่อย่างเดียวที่ขอแล้วเขาไม่ให้กิน ก็คืออูฐ เขาบอกว่า “It tastes very terrible.” รสชาติโคตรแย่เลย..! ...(หัวเราะ)... เขาคงกลัวเสียชื่อเลยไม่ทำให้กิน เราไปก็กะว่าพื้นบ้านเขากินอะไร เราก็จะกินตามนั้นแหละ แต่พอพูดถึงเนื้ออูฐนี่เขาสั่นหัวเลย เขาบอกอย่าเลย...รสแย่มากเลยครับ

ที่ตลกกว่านั้นก็คือออกจากโรงแรมเช้า ๆ อาตมาก็ไปเดินเล่นเพราะมาก่อนเวลาอาหาร ถ่ายรูปไปเรื่อย ไปเจอกัญชาเป็นดงเลย แล้วชาวบ้านเขาไม่รู้จัก ผมถ่ายรูปมาให้ไกด์ดู ไกด์ถามว่าอะไร ผมบอกเขาว่า Smoke grass เขาก็งง ๆ พอบอกมาลีฮวนน่า โอ้โฮ...ถามเลยว่าอยู่ไหน ? ...(หัวเราะ)... มาลีฮวนน่าเป็นภาษาสเปน เขาจะรู้จักเป็นสากลมากกว่า ของเราเรียก Smoke grass เขาไม่ค่อยรู้จัก

เถรี 27-10-2018 07:50

เป็นประเทศที่ตลกนะ พระก็ไม่รู้จัก กัญชาก็ไม่รู้จัก คือไกด์น่ะรู้จัก แต่คนแถวนั้นเขาไม่รู้...ขึ้นเป็นดงเลย เขาไม่รู้จักพระนะ อาตมาไปนี่เจ้าหน้าที่สนามบิน ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงมากเลย แต่งชุดเหมือนชุดปกติขาวของเรา เขาเดินมาถามว่าแต่งตัวแบบนี้นับถือศาสนาอะไร ? มาจากประเทศไหน ? นั่นขนาดสนามบินของเมืองหลวงที่เป็นประตูของเขาเลยนะ...ยังไม่รู้จักเลย ลักษณะเหมือนกับว่าเป็นประเทศอิสลามร้อยเปอร์เซ็นต์

เสร็จแล้วพอเข้าไปข้างใน เจ้าหน้าที่ก็ต้อนอาตมาไปทางห้องผู้หญิง เพื่อที่จะไปตรวจว่ามีอะไรพกมาหรือเปล่า อีกคนก็ดึงแขนเอาไว้ ลักษณะว่าอาตมาน่าจะเป็นผู้ชาย แล้วมาเถียงกันว่าใช่หรือเปล่า เพราะชุดที่ใส่เหมือนกับกระโปรงของผู้หญิง แล้วของเขาผู้ชายทุกคนไว้หนวดไว้เคราหมด ส่วนของอาตมาหน้าเรียบ ๆ ไป ก็เลยต้อนไปทางห้องผู้หญิงเพื่อที่จะตรวจ ...(หัวเราะ)...

พอเขารู้ความจริงนี่หัวเราะกันแทบตาย เขาไม่รู้จริง ๆ แล้วพอห่มจีวรเข้าไปก็เหมือนผู้หญิงที่ใส่กระโปรงส่าหรีของเขา ไปที่โน่นก็ดีเหมือนกันนะ เข้าใจผิดไปคนละทิศคนละทางกันหมดเลย

เถรี 27-10-2018 07:53

ถาม : เป็นประเทศมุสลิมร้อยเปอร์เซ็นต์ ?
ตอบ : ใช่...แต่ว่าเป็นประเทศที่น่าอยู่ คนเขาไม่ได้โหดร้ายเหมือนอย่างที่เราคิด เขาค่อนข้างจะเป็นมิตรมากทีเดียว เพียงแต่บรรยากาศถ้าเราไม่ชินก็จะน่ากลัว มองไปทางไหนมีแต่อาวุธสงคราม

ถาม : คนที่นั่นเขาอายุยืน ?
ตอบ : แต่พวกที่อยู่ในเมืองนี่ย่ำแย่กันหมดนะ พวกอาตมาไปบริจาคเงินช่วยมูลนิธิรักษาโรคไตของเขา หนุ่ม ๆ สาว ๆ เขาฟอกไตกันเป็นว่าเล่นเลย เพราะว่าเขากินแต่เนื้อตลอด คราวนี้ร่างกายของเราต้องการเนื้อประมาณวันละไม่เกินขีดครึ่ง ที่เหลือต้องขับออก ก็เลยทำให้ไตทำงานหนัก ไตพังกันตั้งแต่หนุ่ม ๆ สาวๆ เลย

ถาม : เขากินเนื้อเยอะหรือครับ ?
ตอบ : แทบจะไม่มีผักเลย แพะ แกะ ไก่ ปลา อาหารก็มีแต่พวกแป้งนาน โรตี แค่นั้นเอง แต่คราวนี้หมู่บ้านฮันซาที่เราไป ชาวบ้านเขาปลูกผัก ผลไม้ แล้วเขาก็กินกันเป็นปกติ แทบจะมังสวิรัติเลย อายุเฉลี่ยเขาก็เลยเป็นร้อยปี แถวบ้านเขากินถั่ว ผลไม้แห้ง ต้องบอกว่าเป็นธรรมชาติมาก ไม่มีสารพิษเลย

พอไปดูอย่างนั้นแล้ว ไปคิดว่าที่ในพระไตรปิฎกกล่าวถึงคนยุคนั้นว่าอายุ ๑๒๐ ปีเป็นปกติ ไม่ใช่ของแปลกเลยนะ เพราะว่าที่หมู่บ้านนี้ของเขาก็คือมาตรฐานนั้นเลย

เถรี 27-10-2018 07:54

ถาม : พระอานนท์อายุเท่าไรครับ ?
ตอบ : ๑๒๐ ปี

ถาม : พระพุทธองค์ถ้าท่านจะอยู่ยาวก็ได้ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ได้ แต่ว่าท่านก็ได้แค่ ๘๐ พรรษา

ถาม : พระอานนท์ไม่ทูลขอหรือครับ ?
ตอบ : ท่านนึกไม่ถึง

เถรี 27-10-2018 08:06

ถาม : คำว่ากัปหนึ่งหมายถึง ๑๐๐ ปี ?
ตอบ : ไม่ใช่ กัปตัวนี้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคยบอกว่า ตั้งเลข ๑ ขึ้นมาแล้วต่อด้วยศูนย์ ๑๔๐ ตัว ที่เขาบอกว่าเอาผ้าอ่อนเหมือนสำลีไปลูบจนภูเขาสูง ๑๖ กิโลเมตร สึกเสมอพื้นนั่นแหละ แต่คราวนี้เขามักจะไปตีความว่า กัปคือระยะเวลาที่ยาวนานกว่าปกติ ไม่ใช่...ต้องเป็นของจริงเลย เพียงแต่ไม่มีใครเขาเชื่อว่าจะอยู่กันได้นานขนาดนั้น แบบเดียวกับหลวงปู่โลกอุดร ที่ไปถามท่านว่าอายุเท่าไร ท่านบอกว่า “ข้าก็ไม่รู้ว่าตัวเองอายุเท่าไร รู้แต่ว่า
ตอนกำลังสร้างพระปรางค์สามยอด ข้าไปยืนดูเขาสร้างอยู่” แล้วพระปรางค์สามยอดนี่พันกว่าปีแล้วนะ..! ...(หัวเราะ)...

ถาม : เป็นเรื่องอจิณไตย ?
ตอบ : ถ้าคนไม่เชื่อก็ต้องไม่เชื่อต่อไป

ถาม : พระอาจารย์ได้คลำหลวงปู่ ?
ตอบ : ก็ด้วยความสงสัยแหละครับ คนเราอยู่ได้อย่างไรเป็นพันปี อยู่ได้จริง ๆ หรือ ? ท่านบอกถ้าสงสัยก็คลำดูได้ ผมเองยอมให้ใครท้าที่ไหน ก็คลำสิ มีโอกาสแล้วนี่ ...(หัวเราะ)...

ถาม : ท่านใช้อิทธิฤทธิ์ให้พระอาจารย์จับดูหรือครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่ เป็นกายเนื้อมาเลย

เถรี 27-10-2018 21:57

ถาม : มีความรู้สึกเหมือนมีวิญญาณแฝงมาเกาะอยู่ ไม่ไปผุดไปเกิด ?
ตอบ : พกเบี้ยแก้อยู่ไปกลัวอะไรกับวิญญาณแฝง..! ไปหาหมอบอกว่าแก่แล้วฮอร์โมนพร่อง ให้เขาจัดฮอร์โมนเพิ่มให้หน่อย

เถรี 27-10-2018 22:11

ถาม : อย่างวัดจีนจะมีมังกรอยู่ข้างบน ถ้าเป็นวัดไทย มังกรจะเปรียบกับอะไร ?
ตอบ : ก็น่าจะเปรียบกับพญานาคหน้าโบสถ์

ถาม : พญานาคหน้าโบสถ์มีเพื่ออะไรคะ ?
ตอบ : อันดับแรก เป็นศิลปกรรมทางพุทธศาสนา ต้องบอกว่าเพื่อความสวยงาม อันดับที่สอง เป็นลักษณะของการแสดงออกซึ่งอำนาจทางศาสนา ว่าแม้แต่สัตว์เดรัจฉานมีฤทธิ์อย่างพญานาค ยังอุตส่าห์มาเฝ้าโบสถ์ให้ ประการที่สามก็คือ ถ้าหากว่าเจ้าอาวาสหรือผู้รักษาวัดนั้นมีความรู้ความสามารถจริง ๆ สามารถใช้งานได้จริงด้วย ในลักษณะที่ทำเป็นพยนต์ ก็คือเป็นสิ่งที่เมื่อถึงเวลาคับขันแล้วสามารถกลายเป็นตัวตนจริง ๆ ขึ้นมาเพื่อช่วยรักษาสถานที่ได้

ถาม : พญานาคกับครุฑไม่เหมือนกันใช่ไหมคะ ?
ตอบ : พญานาคอยู่ในน้ำครึ่งหนึ่ง ครุฑอยู่บนฟ้าครึ่งหนึ่ง..! ...(หัวเราะ)... เดี๋ยวรอนาคี ๒ มาค่อยไปดูก็แล้วกัน

เถรี 29-10-2018 20:14

พระอาจารย์กล่าวว่า “ช่วงนี้ญาติโยมต้องระมัดระวังคนป่วยหรือคนแก่ให้ดี ๆ อากาศเปลี่ยนแรงมาก ตอนนี้ยอดดอยอินทนนท์เหลือแค่ ๓ องศาเซลเซียส

เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว คนแก่ร่างกายไม่ดี เลือดลมไม่ดี ปุบปับก็ไปเลย ช่วงเดือนที่ผ่านมา อาตมาไปเฉพาะงานศพคนที่ปฏิเสธไม่ได้นี่ ๗-๘ ศพด้วยกัน งานศพของพ่อผู้ประสานงานสภาวัฒนธรรมอำเภอ ที่อาตมาเป็นประธานสภาอยู่นี่ยังไม่ได้ไปเลย เพราะว่าอยู่ช่วงรับสังฆทานนี้พอดี เขาจะเผาพรุ่งนี้ แต่อาตมายังอยู่ที่นี่ ได้สั่งการให้รองประธานสภาเอาคณะกรรมการไปช่วยงานอยู่

ตายเป็นว่าเล่นเลย ช่วงรอยต่ออากาศระหว่างปลายฝนต้นหนาว ปลายหนาวต้นร้อน ปลายร้อนต้นฝน คนมักจะตายกันมาก โดยเฉพาะปลายฝนต้นหนาว เพราะว่าอากาศจะเปลี่ยนแรง

เรื่องของสุขภาพร่างกายขึ้นอยู่กับบุญเก่ากรรมเก่าที่เราสร้างไว้ สร้างกรรมปาณาติบาตไว้มากก็ป่วยออด ๆ แอด ๆ ทั้งปี อาตมาเองนอกจากดูกรรมด้วยตัวเองแล้ว หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านยังเมตตาสงเคราะห์ให้ ท่านยืนยันว่าอาตมาเป็นทหารรบมาทุกชาติ ฆ่าเขามาทุกชาติ ก็ยังแปลกใจตัวเองอยู่ว่าทำไมชาตินี้อยู่ ๆ ก็ต้องไปเป็นทหาร ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความคิดอยากจะเป็นเลย สถานการณ์บังคับให้ไป แล้วก็ต้องไปเรียน พอเรียนแล้วด้วยความที่เรียนเก่ง เขาก็ส่งให้เรียนต่อไปเรื่อย"

เถรี 29-10-2018 20:20

"ฉะนั้น..การที่อาตมาป่วยมา ๓๗ ปีนี่ไม่ใช่เรื่องแปลก ปี ๒๕๒๔ เป็นมาลาเรียครั้งแรกที่แถบตาพระยา พอมาปี ๒๕๓๒ ธุดงค์มาทางฝั่งทองผาภูมิโดนซ้ำเข้าไปอีก เชื้อดื้อยาฝั่งเขมรกับฝั่งพม่าจับมือกัน ตั้งแต่บัดนั้นจนบัดนี้ยังไม่มีใครรักษาได้ ทรมานมาตลอด ๓๗ ปี เวลากำเริบขึ้นมาเหมือนกระดูกจะแตกเป็นชิ้น ๆ กระดูกมีกี่ท่อนรู้หมดว่าอยู่ตรงไหนบ้าง ถึงได้เข้าใจว่าที่เขาตายกัน ส่วนใหญ่ตายเพราะทนการอักเสบไม่ไหว

มาลาเรียเป็นโรคที่มีเพื่อนมาก กำเริบขึ้นมานี่เราเคยเป็นโรคเก่าอะไร จะโดนพามาหมดเลย เคยแตก หัก อักเสบ ผ่าตัดตรงไหนไว้ก็ระบมขึ้นมาหมด โดยเฉพาะถ้าหากว่าเป็นพวกโรคกระเพาะ โรคลำไส้นี่ ข้างในไส้มีกี่ขดก็รู้หมด แต่ทำอย่างไรก็ไม่ตาย เพราะว่าเขาเก็บเอาไว้ใช้หนี้ ติดหนี้เขาไว้เยอะ ทำเขาเอาไว้มาก

เวลากำเริบมาก ๆ นี่ เอามือแตะหัวไม่ได้ เส้นผมทุกเส้นเหมือนกับกลายเป็นเข็มแทงหัวอยู่ เพราะว่าปลายประสาทอักเสบหมด ก็เลยทำให้มั่นใจที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า คนเราถ้าไม่หมดอายุ ไม่หมดอาหาร ไม่หมดบุญ ไม่หมดกรรม ไม่ตายหรอก อาตมานี่ประเภทอยู่ได้ด้วยกรรม สร้างเวรสร้างกรรมไว้เยอะ ถึงเวลากรรมรักษาเก็บไว้ทรมานเล่น พวกบุญรักษาถึงเวลาก็อยู่เสวยสุขไป หมดบุญเมื่อไรแล้วค่อยไป

เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าพวกที่สร้างบุญสร้างกรรมเอาไว้พอประมาณ เมื่อถึงอายุขัยแล้วถึงตาย อีกประเภทหนึ่งไม่หมดอายุแต่หมดอาหาร ตายเหมือนกัน สิ่งที่พระองค์บอกเอาไว้เป็นเรื่องที่ต้องบอกว่าพิสูจน์ได้ เพียงแต่ว่าเราต้องเจอด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นก็จะไม่เข้าใจว่าพระองค์ตรัสอะไร”

เถรี 29-10-2018 20:23

พระอาจารย์กล่าวว่า “ส่วนใหญ่โยมเห็นข้างฝาแล้วก็พิง พระพุทธเจ้าห้ามพระเณรนั่งพิงข้างฝา ถ้าจะพิงข้างฝาต้องมีไม้กระดานรอง เพราะว่าเวลาพิงแล้วท่านบอกว่ามลทินกายไปติด ทำให้ข้างฝาเปรอะเปื้อน ถ้านึกไม่ออกไปดูรอบ ๆ ศาลาวัดท่าขนุน ถึงเวลาหมาไปนอนขดอยู่ข้างศาลาแล้วก็เป็นรูปตัวหมาเลย ...(หัวเราะ)... คนเราถ้าพิงอยู่ที่เดียวนาน ๆ ก็เป็นลักษณะนั้น

หลังจากที่มีกระดานรองเอาไว้ ก็ปรากฏว่ากระดานเปื้อนอีก พระพุทธเจ้าท่านก็ให้เย็บผ้าคลุมกระดานไว้ ถึงเวลาจะได้ถอดผ้าไปซักได้ เรื่องพวกนี้พระองค์ท่านละเอียดมาก แต่โยมเคยชิน ถึงเวลานั่งเมื่อไรก็พิงเอาไว้ก่อน”


เถรี 29-10-2018 20:29

พระอาจารย์กล่าวกับผู้สูงอายุว่า “ถ้าลุกนั่งลำบากยืนเอาก็ได้ เอาแบบโบราณ การยืนคือการแสดงความเคารพ ตอนนี้แถวทองผาภูมิพวกมอญพม่ารุ่นเก่า ๆ ยังใช้วิธีนั้นอยู่ ถึงเวลาพระเดินผ่าน ผู้ชายก็จะยืนแสดงความเคารพ ผู้หญิงก็นั่งกับพื้นไปเลย”

เถรี 29-10-2018 20:50

พระอาจารย์กล่าวว่า “เหลือเวลา ๑๘ นาที อย่ามัวแต่ช็อปปิ้ง พระพุทธเจ้าตรัสว่าสุขของคฤหัสถ์ คือความสุขของฆราวาสมี ๔ อย่าง คือ มีทรัพย์ จ่ายทรัพย์ ไม่เป็นหนี้ ทำงานที่ไม่มีโทษ ช็อปปิ้งเป็นความสุขในการจ่ายทรัพย์ มีความสุขกันจริง ๆ เลย ทำเอาคนไทยโด่งดังไปทั่วโลกเพราะว่าช็อปฯ กันกระจาย

อาตมาเองปัจจุบันนี้ก็ยังช็อปปิ้งอยู่นะ ถึงเวลาก็เข้าไปในเว็บพระเครื่อง ถ้าวันไหนจับของดีราคาถูกได้จะมีความสุขมาก..! โทษใครไม่ได้เพราะว่าเจ้าของเขาไม่รู้จัก แต่อาตมารู้ แบบเดียวกับหลวงพ่อบ๊ะนั่นแหละ พอ "ตัวเล็ก" เอาเหรียญไปออกราคาร้อยเดียวนี่ท่านนั่งยิ้มกริ่มเลย ราคาในตลาดตั้งหลายพัน ...(หัวเราะ)...”

เถรี 29-10-2018 20:52

พระอาจารย์กล่าวกับโยมที่กำลังอ่านหนังสือว่า “ขออีกนิดหนึ่ง เดี๋ยวก็หมดแล้ว เห็นแล้วอย่าไปท้อ แค่ ๕ เล่มหนา ๆ เท่านั้นเอง นี่เล่มสุดท้ายแล้ว

อาตมาเรียนชั้น ป.๒ ก็อ่านหนังสือหมดไปหนึ่งห้องสมุดแล้ว คนได้ยินคิดว่าเป็นเรื่องตลก แต่เป็นเรื่องจริง สมัยนั้นเจตนาก็คืออ่านหนังสือให้แตก คำว่าอ่านหนังสือให้แตกคือแตกฉาน แปลว่าอ่านได้ทุกคำ หนังสือเล่มที่อ่านยากที่สุดก็คือตำราเพศศึกษาของ ดร.คินซีย์ อาตมาอ่านตั้งแต่ชั้น ป.๒ ที่อ่านยากเพราะว่าทับศัพท์ภาษาอังกฤษเยอะ ถึงเวลาคำไหนไม่แน่ใจว่าอ่านถูกก็วิ่งไปถามครู ครูบอกไปก็หัวเราะไป ถามเธอจะอ่านไปทำไมหนังสือแบบนี้ ? บอกไปว่าผมอยากอ่านให้ได้ทุกเล่ม

เรียนประถมต้นอ่านหนังสือหมดไปหนึ่งห้องสมุด เรียนประถมปลายอ่านหนังสือหมดไปอีกหนึ่งห้องสมุด เรียนมัธยมต้นอ่านหนังสือหมดไปอีกหนึ่งห้องสมุด ประเภทเล่มหนา ๆ นี่มีชื่อยืมอยู่คนเดียว คนอื่นเขาไม่ยืมหรอก เพราะฉะนั้นอาตมาอ่านพวกวรรณกรรมคลาสสิกของฝรั่งตั้งแต่ยังเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นพวก Heidi, Wuthering Heights, The Call of the Wild เป็นต้น"

เถรี 29-10-2018 20:54

"โดยเฉพาะที่สนุกและชอบมากก็คือ The Adventures of Tom Sawyer ...(หัวเราะ)... เจ้าทอมสุดแสบจริง ๆ สามารถหลอกเพื่อนมาทาสีแทนได้แล้วแถมยังได้เงินด้วย ถ้าใครอ่านจะรู้ว่าแสบแค่ไหน ส่วนหนังสือเล่มหนึ่งที่หาด้วยความอยากได้มากคือ The Red Pony ของ John Steinbeck อ่านตั้งแต่ชั้น ป.๒ อ่านแล้วชอบมาก ปรากฏว่ามาซื้อได้อีกทีตอนอายุ ๔๐ กว่า เพราะว่าเขาไม่ได้พิมพ์ใหม่ เขาพิมพ์ใหม่เป็นภาษาไทยชื่อ "ลูกม้าสีแดง"

บางเรื่องเป็นเพียงจินตนาการเท่านั้น อย่าง Journey to the Center of the Earth ของ Jules Verne คนที่เขียนเรื่องใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ เขาบอกว่าคณะของพระเอกหลุดออกจากใต้โลกมาได้ เพราะว่าภูเขาไฟระเบิดแล้วดันออกมาทางปล่อง เป็นจินตนาการที่ผิดสะเด็ดยาดเลย ถ้าเป็นธรรมดาภูเขาไฟระเบิดต้องกลายเป็นเถ้าไปแล้ว ...(หัวเราะ)... ความร้อนระดับที่ภูเขาไฟระเบิดเป็นพันองศาเซลเซียส ร่างกายคนทนไม่ได้หรอก แต่ว่าหลายอย่างที่เขาจินตนาการไว้อย่างเช่นเรือดำน้ำนอติลุส เรื่องเรือดำน้ำนี้อีกเป็นร้อยกว่าปีกว่าเขาจะสร้างกันได้”

เถรี 29-10-2018 21:00

ถาม : แมวที่บ้านหายไป เป็นห่วงมาก ?
ตอบ : ไม่ต้องไปตามแล้ว แมวเขามีนิสัยว่าจะไปอยู่ที่ไหนเขาก็ไป ไม่เหมือนหมา หมาจะติดเจ้าของ เราจะสังเกตว่า วันดีคืนดีแมวใครก็ไม่รู้มาอยู่กับเราเฉยเลย แมวเขาคิดว่าเขาเป็นเจ้าของเรา เขาจะไปเมื่อไรก็ได้ ไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก พวกนี้เขานึกอยากจะอยู่ไหนเขาก็ไป โดยเฉพาะแมวอยู่ในเมืองนี่ไม่มีวันอดเด็ดขาด ไปทางไหนก็มีคนเลี้ยง ...(หัวเราะ)... ทำใจ...กลับมาก็เลี้ยง ไม่กลับมาก็แล้วไป

เลี้ยงหมาอย่าติดหมา เลี้ยงแมวอย่าติดแมว ไม่อย่างนั้นมัวแต่คิดถึง ตายตอนนั้นได้กลายเป็นลูกหมาลูกแมว อาตมาเองเคยเลี้ยงอีเห็น ด้วยความที่เลี้ยงด้วยนมวัวตั้งแต่เด็ก ให้กินเต็มที่ ตัวใหญ่อย่างกับหมาเลย แล้วอยู่กับหมาเขาก็เล่นกับหมาอยู่ทุกวัน เขาไม่รู้ว่าที่เขาเล่นกับหมาได้เพราะอาตมาอยู่ คราวนี้พอมารับสังฆทานที่กรุงเทพฯ อย่างนี้แหละ ก็ไปเล่นกับหมาตามเดิม แต่คราวนี้หมามันเขี้ยวฟัดตายเลย อาตมากลับไปคนงานเขาบอกว่า “อาจารย์ครับ อีเห็นตายแล้วครับ” อาตมาก็บอกว่า “เออ..แล้วเอ็งทำอย่างไรวะ ?” เขาบอกว่า “ผมเอาไปฝังครับ” อาตมาบอกว่า “ไอ้บ้า.. ทำไมไม่รู้จักผัดเผ็ด..?!”

พวกนั้นก็สงสัยมากว่าอะไรกัน เห็นอาจารย์รักนักรักหนา แต่พอตายแล้วจะผัดเผ็ด อาตมาก็บอกว่า “ตอนอยู่ก็รักมัน สงเคราะห์ไป พอตายก็ใช้ประโยชน์ให้เต็มที่สิวะ..!” ตัวใหญ่ขนาดนั้นเลี้ยงได้ตั้งหลายคน ดันเอาไปฝัง..!

เถรี 29-10-2018 21:03

ถาม : หนูเป็นเนื้องอกในมดลูกขนาดประมาณ ๒.๕ ซม. มียาที่กินแล้วทำให้ยุบไหมคะ ?
ตอบ : กล้ากินไหม ? น้ำคั้นขิงสด กินสักวันละประมาณ ๓๐ ซีซี กินเข้าไปนี่หัวหูหน้าตาร้อนไปหมด

ถาม : ต้องกินติดกันกี่วันคะ ?
ตอบ : กินจนกว่าจะยุบหมดนั่นแหละ คั้นเอาไว้เป็นขวด ๆ เลยก็ได้ พอถึงเวลาก็เก็บเข้าตู้เย็นไว้แล้วทยอยกิน จะไปทะลุทะลวงทุกอย่างจนหมด เผ็ดสุด ๆ..! กินลงไปนี่กระทั่งใบหูก็ร้อนไปหมด ...(หัวเราะ)...

ถาม : หนูวางพระหลวงพ่อกวยไว้ที่หน้าท้อง อยากให้ก้อนเนื้อยุบ จะเป็นอะไรไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าสบายใจก็ทำไปเถอะ ท่านไม่ได้ว่าอะไรหรอก รีบไปกินน้ำคั้นขิงสด แล้วอย่าบ่นนะว่าหลวงพ่อหลอกให้กินของเผ็ดฉิบหายเลย..!

ไม่ใช่แค่นั้นนะ พวกเส้นเลือดตีบตันนี่โดนทะลวงเกลี้ยงเลย กินไปวันแรกจะรู้สึกมือเท้าเบาไปหมด ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ทำท่าจะลอยเอา ...(หัวเราะ)...

เอาขิงแก่มาทุบ โขลก เติมน้ำไปเล็กน้อยแล้วคั้น เหมาะที่จะกินหน้าหนาว เพราะว่ากินไปแล้วร้อน ล้างสะอาด ๆ หน่อย ใส่ครกตำไปเลย เติมน้ำสักหน่อยหนึ่งแล้วคั้นออกมา สมัยนี้เขามีครกไฟฟ้าปั่น แต่ปั่นแล้วต้องกรองนะ ถ้าไม่กรองนี่จะไม่ใช่น้ำคั้นแล้ว จะเป็นเนื้อขิงแทน ...(หัวเราะ)... เขาเรียกเครื่องปั่น แต่อาตมาเรียกครกไฟฟ้า

เถรี 31-10-2018 08:05

พระอาจารย์กล่าวว่า “พวกผักปลัง ฟัก แฟง แตง น้ำเต้า เป็นของธาตุเย็น ช่วงประจำเดือนมาอย่าไปกินเยอะ”

เถรี 31-10-2018 08:13

ถาม : อาบัติสังฆาทิเสส เวลาเราปลงอาบัติตอนเย็น จะเป็นการเปิดเผยอาบัติตอนนั้นเลยหรือเปล่า ?
ตอบ : จะถืออย่างนั้นก็ได้ เพราะท่านใช้คำว่า สัพพา ครุลหุกา ทั้งหนักทั้งเบา

ถาม : เวลาตอนเราไปเข้าปริวาส ก็นับตั้งแต่ตอนเปิดนี้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ก็แปลว่าเราปิดไว้กี่วัน ก็นับมาถึงตอนที่เปิดนั้น

เถรี 31-10-2018 08:25

ถาม : แม่เขาเป็นกังวลเรื่องลูกหลานเหลือเกิน จะพูดอย่างให้เขาคลายกังวลได้บ้าง นิดหนึ่งก็ยังดี ?
ตอบ : บอกแม่ว่าถ้าคิดอย่างนี้อีกลงนรกแน่นอน..!

เถรี 31-10-2018 08:44

ถาม : ผม ภรรยา และเพื่อนเป็นเจ้าภาพทำกฐินที่วัดแห่งหนึ่ง ปัจจัยที่รวบรวมมาสามารถหักลงในค่าใช้จ่ายได้ไหมครับ ?
ตอบ : ปกติแล้วถ้าทำอย่างนั้น จะต้องแจ้งทุกคนก่อนว่าเราจะทำอย่างนั้น ถ้าไม่ได้แจ้งนี่ไม่มีสิทธิ์ไปแตะเลย

ถาม : มีคนแนะนำมาว่า ให้แบ่งส่วนหนึ่งให้ทำอย่างนี้ ไม่ได้ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เขาแนะนำให้เราซวยแล้วเราจะไปเชื่อเขาหรือ ? เจตนาของคนที่ร่วมบุญคือทำบุญกฐิน เขาไม่ได้ทำมาเพื่อให้เราหักเป็นค่าใช้จ่ายอย่างอื่น ยกเว้นเราประกาศชัดเจนตั้งแต่แรกว่า เงินที่ได้มาเราจะหักเป็นค่าใช้จ่ายส่วนไหนบ้าง แล้วเขายังร่วมบุญมา ถ้าอย่างนั้นถึงจะมีสิทธิ์ทำได้

ถาม : ที่ถูกต้องคือเราจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเองใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ใช่..สรุปว่าถ้าอยากได้บุญเต็มที่ ส่วนที่เป็นรายจ่ายอื่น ๆ เราก็ต้องจ่ายเอง

เถรี 31-10-2018 20:25

ถาม : พ่ออายุ ๗๙ ปี แล้วก็เริ่มมีอาการสมองเสื่อมขั้นแรก เริ่มกินยาป้องกัน งานวิจัยบอกว่าช่วยได้นิดหน่อย ปัญหาคือโยมเดือดร้อน พ่อไม่เดือดร้อนค่ะ ?
ตอบ : ไข่ลวก ไข่ต้ม ไข่เจียว ไข่ทอด ไข่ตุ๋นอะไรก็ได้ ให้กินไปวันละ ๒ ฟอง ไม่ต้องกินยาอื่น

ถาม : ที่โยมเดือดร้อนก็คือถ้าสมองเริ่มเสื่อมแล้ว เวลา...?
ตอบ : ถ้าทำอย่างที่ว่าจะไม่เสื่อม สมองของเราส่วนใหญ่เป็นส่วนประกอบของไขมัน ๙๙ เปอร์เซ็นต์ คราวนี้เราไม่ค่อยจะมีไขมันให้ โดยเฉพาะไขมันที่เป็นประโยชน์จากไข่

ถาม : กินได้ทั้งไข่ขาวและไข่แดงหรือคะ ?
ตอบ: กินเข้าไปเถอะ เอาไว้สมองหายเสื่อม ค่อยไขมันจุกตาย..!

ถาม : เขามีไขมันในเส้นเลือดสูงด้วย ?
ตอบ : อาตมาก็มีสูงตั้ง ๒๗๖ ไม่เห็นจะตายสักที

ถาม : ที่เราเดือดร้อนเพราะเรากังวลไปก่อนค่ะ ?
ตอบ : ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ากังวลไปก่อนก็ยังกังวลใช่ไหม ? เจริญมาก ไปทำอย่างที่ว่าก็พอแล้ว ไข่ลวกดีกว่า เช้า ๆ ใส่พริกไทยไปเยอะ ๆ ด้วย


เถรี 31-10-2018 20:40

พูดถึงโยมที่นั่งขวางประตูทางเข้า "คราวหน้าหัดระมัดระวัง อย่าสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น เราไปขวางทางคนอื่นเขา ถึงเวลาอุปสรรคในชีวิตก็จะมาก"

เถรี 31-10-2018 21:50

ถาม : การแผ่เมตตากับการอุทิศส่วนกุศล พอถึงจุดหนึ่งคล้าย ๆ กัน ?
ตอบ : เป็นส่วนของพรหมวิหาร ๔ เหมือนกัน แต่ความต่างคือ การแผ่เมตตาเหมือนกับเราให้ร่มเงาคลายร้อนแก่เขา แต่การอุทิศส่วนกุศลเท่ากับเราให้อาหารเขากินแก้หิว

ถ้าทั่ว ๆ ไป เขาหิวมา เราให้ร่มเงาคลายร้อน เขาก็มีความสบายขึ้นหน่อย แต่ก็ยังหิวอยู่ เพราะฉะนั้น...ก็ควรที่จะอุทิศส่วนกุศลให้เขา แต่โดยปกติก็คือทำทั้ง ๒ อย่างนั่นแหละ


ถาม : อารมณ์ที่ใช้อุทิศส่วนกุศล ?
ตอบ : เป็นอารมณ์ของพรหมวิหารเหมือนกัน ถ้าเราไม่รัก ไม่เมตตา เราจะไปอุทิศให้เขาทำไม ?

ถาม : การอุทิศกุศลไม่เจาะจง ?
ตอบ : อุทิศไม่เจาะจง ถ้าหากว่าบุคคลที่กำลังน้อย เขาก็รับยาก พวกแข็งแรงกว่าเบียดขึ้นหน้ามาตัวเองก็แย่ เหมือนกับอยู่ในห้องนี้แล้วพูดลอย ๆ ว่าใครก็ได้ พวกกำลังไม่ดีจะขึ้นหน้ามาได้ไหม ? ก็โดนเบียดกระเด็นไปไหนก็ไม่รู้

เถรี 31-10-2018 21:56

ถาม : การแผ่พลังเมตตา ?
ตอบ : การแผ่เมตตาต้องใช้กำลังใจที่เต็มไปด้วยความหวังดีปรารถนาดีต่อเขา อยากให้เขาพ้นทุกข์ อยากให้เขามีความสุข ใครที่มีความทุกข์อยู่ ขอให้พ้นจากห้วงทุกข์ ใครที่มีความสุขอยู่ ขอให้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ต้องวางกำลังใจให้ถูกต้องก่อนแล้วถึงแผ่เมตตา ไม่ใช่ว่าจะนึกอยากจะแผ่ก็แผ่ไปเลย ต้องตั้งกำลังใจของเราก่อน

เถรี 31-10-2018 22:01

ถาม : อารมณ์เบื่อ อารมณ์วาง ถึงจุดหนึ่งทุกคนจะต้องผ่านอารมณ์นี้ก่อน ?
ตอบ : ต้องผ่านก่อน ถ้าไม่เบื่อก็จะไม่วาง ฉะนั้น...ต้องเบื่อก่อน พอเบื่อไปจนถึงที่สุดแล้วจะเกิดปัญญาเห็นว่า ธรรมดาเป็นอย่างนี้ ในเมื่อธรรมดาเป็นอย่างนี้ ถ้าหากว่าเราพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ ความเบื่อแค่นี้เป็นเรื่องเล็กน้อยเหลือเกิน ก็จะไม่ไปแบกเอาไว้อีก แล้วก้าวข้ามไป

ถาม : ทุกคนจะต้องผ่านในระดับอารมณ์นี้ยากเหมือนกัน ?
ตอบ : ยากหรือง่ายขึ้นอยู่กับปัญญา บางคนปัญญาดี มองเห็นก็ผ่านเลย บางคนปัญญาไม่ดี ตะเกียกตะกายปีแล้วปีเล่า ก็ผ่านไม่ได้สักที เบื่ออยู่นั่นแหละ

ถาม : ถ้าเราเบื่อทำให้เกิดอารมณ์เศร้าหมอง ?
ตอบ : ถึงได้บอกว่าต้องมีปัญญา ถ้าไม่มีปัญญา บางคนเบื่อแล้วฆ่าตัวตายไปเลยก็มี แบบเดียวกับพระ ๖๐ รูปที่พระพุทธเจ้าเทศน์ให้ฟัง แล้วพระองค์ท่านก็เข้านิโรธสมาบัติ พระทั้งหมดไปจ้างปริพาชกให้ฆ่าตัวเอง ถามว่าพระพุทธเจ้ารู้ไหม ? รู้....แต่เนื่องจากว่าในอดีตพระทั้งหมดเคยสร้างกรรมนี้เอาไว้ ต้องชดใช้เขา ในเมื่อตนเองเบื่อ ปรารถนาความหลุดพ้น ถึงคนอื่นฆ่าตัวเองก็สามารถที่จะไปได้

เถรี 31-10-2018 22:03

ถาม : ถ้าเรารู้อยู่อย่างนี้ พอเริ่มเบื่อเราก็ตัดร่างกายไปเลย ?
ตอบ : ถ้าตัดได้จริง ๆ ก็จบเลย แต่ส่วนใหญ่ตอนเบื่อปัญญาจะไม่มี เบื่อขึ้นมาก็แค่ "เบื่อจริงโว้ย...!" แต่ไม่สนใจหรอกว่าจะตัดอะไร

ถาม : ถ้าใช้กำลังสมาธิข่มความเบื่อไว้ ?
ตอบ : ถ้าอยู่กับสมาธิก็ไม่เบื่อนะสิ

เถรี 31-10-2018 22:06

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : ยังไม่พอ การเข้าถึงก็คือต้องวางทุกอย่างหมดจริง ๆ คราวนี้เรายังวางไม่ได้ ก็แค่ประเภทมองเห็นเท่านั้น ยังเข้าไม่ถึงหรอก

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : ทุกอย่าง....ถ้าตัดไม่ได้ ก็เป็นเครื่องถ่วงเราทั้งหมด

เถรี 31-10-2018 22:10

ถาม : เวลาจับภาพพระวิสุทธิเทพ แต่บางครั้งภาพก็เปลี่ยนเป็นภาพอย่างอื่นแทน ผิดปกติไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจเอาพุทธานุสติอย่างเดียวก็จับพระวิสุทธิเทพ ถ้าไม่ตั้งใจคิดว่าอะไรที่อยู่ในอนุสติทั้ง ๑๐ มา เราก็จะเอา เราก็เปลี่ยนได้ ถ้าจับแล้วเปลี่ยนถือว่าปกติ ถ้าไม่เปลี่ยนเลย ผิดปกติ

ถาม : ขึ้นอยู่กับอารมณ์สมาธิเราหรืออย่างไรคะ ?
ตอบ : ก็ขึ้นอยู่กับว่าบางท่านก็มาสงเคราะห์ แต่เราไม่รู้ ก็แค่เห็นเฉย ๆ

เถรี 31-10-2018 22:21

พระอาจารย์กล่าวว่า "โบราณเขาบอกว่า ผิดคนอื่นมองเห็นเท่าภูเขา ผิดของเรามองเห็นเท่าเส้นขน แต่ไหนแต่ไรก็เป็นแบบนี้ สันดานคนเป็นแบบนั้น ต้องบอกว่าเป็นสักกายทิฐิรูปแบบหนึ่ง คือเห็นว่าตัวกูของกูดีกว่าเสมอ"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:19


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว