กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=26)
-   -   เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๓ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1803)

เถรี 18-05-2010 02:06

ถาม : คนที่เกิดในสมัยปัญญาธิกะกับวิริยะธิกะ อารมณ์ใจของคนที่เกิดทั้งสองสมัยต่างกันหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าเปรียบกับปัจจุบันนี้ ก็เหมือนคนภาคเหนือกับคนภาคใต้ คุณจะรู้สึกว่า คนในสมัยวิริยะธิกะเหมือนกับคนภาคเหนือที่มีความสงบเยือกเย็นมากกว่า

หรือถ้าเปรียบระหว่างคนสมัยโบราณกับคนสมัยนี้ คนสมัยโบราณรุ่นปู่ย่าตายาย มีความสงบร่มเย็น อยู่ในศีลกินในธรรมเป็นปกติ แต่รุ่นของพวกเรานี่หาดีได้ยาก คนในสมัยวิริยะธิกะเขามีศีล สมาธิ ปัญญาเป็นอัตโนมัติ เหมือนกับดอกบัวขึ้นเหนือน้ำ รอเวลากระทบแสงอาทิตย์เท่านั้น


ถาม : แต่ก็มีคนไม่บรรลุธรรมอยู่ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นศรัทธาธิกะ อาจจะเหลือบ้าง แต่ถ้าเป็นวิริยาธิกะ น่าจะบรรลุหมด ช่วงนั้นเป็นช่วง "อบายภูมิปิด" เพราะทุกคนทรงความดีสูงมาก โอกาสที่จะลงไม่มี

เถรี 18-05-2010 11:01

ถาม : ตอนที่ผมนั่งสมาธิ แล้วเห็นกายในลอยออกไป นึกไปนิพพานก็ไม่ไปครับ รู้สึกว่าเป็นร่างที่ต้องเดินไปเดินมา
ตอบ : กายในที่ออกไปแล้ว แต่ขาดการพิจารณาตัดร่างกาย เมื่อขาดการวิปัสสนามักจะหาทางไปไม่ถูก วนเวียนไปวนเวียนมาอยู่พักหนึ่ง หาทางไปไหนไม่ถูก..ก็กลับดีกว่า..!

เถรี 19-05-2010 10:42

ถาม : ทำไมเด็กบางคนถึงบอกหวยได้ถูก ?
ตอบ : จะบอกว่ามั่วได้ไหม ? จริง ๆ แล้วพื้นฐานทิพจักขุญาณเดิมของเขามีอยู่ ตอนเด็ก ๆ จิตเขายังผ่องใสอยู่ ไม่โดนกิเลสเบียดบังมากเหมือนผู้ใหญ่

เถรี 19-05-2010 10:56

ถาม : พอดีน้าจะเปิดร้านที่ต่างประเทศ
ตอบ : เปิดร้านวันไหนก็ได้ เว้นวันศุกร์

เถรี 19-05-2010 11:26

ถาม : การที่เราไปเข้าพิธีบวงสรวงที่เขาบอกว่าเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง มันเป็นสิริมงคลเพราะว่าอะไรหรือคะ ?
ตอบ : นึกถึงพระก็เป็นอนุสติ นึกถึงเทวดาก็เป็นอนุสติ มีการสมาทานศีล ภาวนา ล้วนแล้วแต่เป็นความดีทั้งนั้น

ถาม : มีอย่างอื่นอีกไหมคะ ? อย่างรับน้ำมนต์ ได้พรจากเทวดา
ตอบ : อย่างนั้นอยู่ที่เราขอ

เถรี 19-05-2010 11:31

ถาม : เวลาที่หนูนึกถึงพระพุทธรูป หนูเคยอ่านหนังสือเจอว่า อย่าทิ้งอานาปานสติ แล้วอย่างนี้หนูต้องทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : นึกถึงภาพพระไปด้วยและกำหนดลมหายใจไปด้วย ภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าไปและไหลตามลมหายใจออกมา จะองค์เล็กองค์ใหญ่ตามแต่ที่เรานึก หายใจเข้า...เล็กปรื๊ดลงไป หายใจออก...ใหญ่ปรื๊ดขึ้นมา

นึกไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวภาพพระชัด คราวนี้ถ้าภาพพระชัดขึ้น ข้อสอบจะออกอะไรมาก็ถามพระท่านได้

เถรี 19-05-2010 11:38

ถาม : แล้วหนูจะนึกถึงภาพพระองค์ไหนดีคะ ?
ตอบ : หนูชอบพระองค์ไหนละ ?

ถาม : ตอนแรกหนูก็นึกได้ พอนาน ๆ ไปก็ลืม พอเริ่มต้นองค์ใหม่ก็ลืมอีกค่ะ ?
ตอบ : ต่อไปหาเวลาว่าง เอาพระพุทธรูปองค์หนึ่งตั้งไว้ตรงหน้า มองท่านแล้วหลับตานึก พอเลือนก็ลืมตาดูใหม่แล้วมอง หลับตานึกถึง ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เอาพระแก้วใสก็ได้ อย่าให้องค์ใหญ่มาก ทำอย่างนั้นบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ติดตาเอง

เถรี 19-05-2010 11:44

ถาม : ถ้าหนูนึกถึงพระศรีศากยทศพล ถ้าหนูตายแล้วหนูจะได้ไปนิพพานไหมคะ ?
ตอบ : เราต้องคิดด้วยว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่บนพระนิพพาน เราเห็นท่านก็เท่ากับเราอยู่กับท่าน เราอยู่กับท่านก็เท่ากับเราอยู่บนพระนิพพาน แล้วเอาจิตกำหนดรูปท่านไปเรื่อย ๆ

เถรี 19-05-2010 11:55

ถาม : ถ้าคนบนโลกที่จะต้องแต่งงาน มีวิธีลดความทุกข์ในการแต่งงานได้อย่างไรบ้าง ชีวิตคู่จึงจะดี ?
ตอบ : ปฏิบัติให้เป็นพระโสดาบันทั้งคู่

ถาม : ถ้าทำไม่ได้ พอจะมีอย่างอื่นไหมครับ ?
ตอบ : ไม่มี ความทุกข์ทุกอย่างมีอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว ถ้าหากเราไม่เห็นทุกข์จนเป็นพระอริยเจ้า แล้วปล่อยวางได้บ้าง ก็แปลว่ายังทุกข์เท่ากับคนอื่นเหมือนกัน

เถรี 19-05-2010 13:02

ถาม : ที่บอกว่าให้ภาวนาควบคู่กับงานเฉพาะหน้า ถ้าเราไม่ภาวนาแต่เราอาศัยจับลมหายใจเข้าออก จะเหมือนหรือต่างกันไหมคะ ?
ตอบ : การภาวนาก็คือ การจับลมหายใจเข้าออก..!


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:27


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว