กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๙ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4887)

เถรี 07-03-2016 12:55

ถาม : ในเรื่องของการพุทธาภิเษก เราสามารถกำหนดจิตเลือกเทวดาองค์ใด หรือท่านใดให้ท่านมาดูแลหรือรักษาวัตถุมงคลที่สร้างได้ด้วยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ยังไม่เคยมี พอถึงเวลาพุทธาภิเษกแล้ว ส่วนใหญ่ท้าวสหัมบดีพรหมหรือพระอินทร์ จะเป็นผู้กำหนดว่าเทวดาองค์ไหนดูแลวัตถุมงคลชิ้นไหน ไม่ใช่หน้าที่เราเป็นผู้กำหนด เพราะเราไม่มีสิทธิ์ที่จะสั่งเทวดา จะลองสั่งท่านดูก็ได้ ตีนท่านใหญ่กว่าตัวเราหลายเท่า...!

เถรี 07-03-2016 13:02

ถาม : การบวชภิกษุณีหรือการบวชสามเณรี ถือว่าเป็นการปรามาสพระพุทธเจ้าไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าบวชถูกต้องตามพระธรรมวินัย จะเป็นการปรามาสไปได้อย่างไรเล่าพ่อคุณเอ๊ย..?!? ยกเว้นว่าไม่ถูกต้องตามพระธรรมวินัยก็กลายเป็นโทษแก่ตัวเราเอง

การที่เขาบวชแสดงว่าเขามีศรัทธาปสาทะ คือความเชื่อ ความเลื่อมใส แล้วเป็นความเชื่อความเลื่อมใสที่ตรงต่อคุณพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อยู่แล้ว ฉะนั้น...ในเรื่องของโทษปรามาสพระรัตนตรัยสำหรับเขาก็คงจะไม่มี แต่ถ้า
บวชไม่ถูกต้อง โทษเฉพาะตนนั้นหนักแน่

ถาม : ถ้าทำผิดไปแล้วจะแก้ไขอย่างไรคะ ?
ตอบ : สึก...แต่จะสึกทำไม ในเมื่อไม่ถูกต้องแต่แรก ? เปลี่ยนสภาพเป็นแม่ชีดีกว่า ปลอดภัยกว่าเยอะ

ถาม : คนที่ตาบอดข้างหนึ่งสามารถบวชได้ไหมคะ ?
ตอบ : ตามพระธรรมวินัยแล้ว บุคคลที่อวัยวะ ๓๒ บกพร่อง เขาไม่ให้บวช

เถรี 07-03-2016 13:05

ถาม : ได้ทำบุญปฏิบัติตามหลวงพ่อ ก็ปรารถนาจะขอพระนิพพานชาตินี้ พอเวลาผ่านไปเราเจออุปสรรคสิ่งแวดล้อมดึง ก็รู้สึกว่าไม่ไหว ท้อ ไม่ขอพระนิพพานชาตินี้แล้ว ไม่ทราบว่าคิดแบบนี้จะเป็นอย่างไร ?
ตอบ : ประหลาดดี เวลาปกติขอพระนิพพาน แต่ลำบากขึ้นมาดันไม่อยากไปพระนิพพาน ก็ทนลำบากต่อไปก็แล้วกัน

ถาม : มีวิธีแก้พลิกกำลังใจไหมคะ ?
ตอบ : พิจารณาให้เห็นว่า ชีวิตที่มีแต่ทุกข์ ยังอยากได้อีกไหม ? ถ้าอยากได้ก็เกิดต่อให้พอ ถ้าไม่อยากได้ก็ขอไปพระนิพพานแทน

เถรี 07-03-2016 13:07

ถาม : การที่เอาจิตเกาะพระนิพพานเป็นอารมณ์ ควรใช้ระยะเวลาฝึกปฏิบัติ เพื่อให้เคยชินต่อวันอย่างไรถึงขั้นเจโตวิมุตติ ?
ตอบ : เอานิดหน่อย แค่วันละ ๒๔ ชั่วโมงก็พอ..!

เถรี 07-03-2016 13:10

ถาม : การซื้อบ้านเพื่อที่อยู่อาศัย จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องดูเลขที่บ้าน ?
ตอบ : ดูเสียหน่อยก็ดี เพราะถ้าได้เลขที่ไม่ชอบ เดี๋ยวเดินเข้าก็ไม่พอใจ เดินออกก็ไม่พอใจ กำลังใจเสียเปล่า ๆ ไปหาหมอดูให้ทั่วประเทศไทยว่าเลขไหนเหมาะกับตัวเอง แล้วไปเลือกเอา แต่ต้องไปตั้งแต่เปิดโครงการนะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวคนอื่นเลือกไปหมด

ถาม : การซื้อรถจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องเลือกเลขทะเบียนรถที่เป็นมงคล ?
ตอบ : ลักษณะเดียวกัน

เถรี 07-03-2016 13:12

ถาม : กรณีบ้านพักอาศัยที่มีการตั้งศาลอยู่แล้ว แต่ไร่สวนอยู่ห่างไปอีกตำบล จำเป็นหรือไม่ที่ต้องตั้งศาลเพิ่ม ?
ตอบ : ถ้าไม่ใช่ที่อยู่อาศัยก็ไม่จำเป็น แต่ในแต่ละปีควรจะมีการเซ่นไหว้เขาบ้าง พูดง่าย ๆ ก็คือ เอาใจเจ้าของที่ไว้บ้าง มีอะไรที่ไม่เกินวิสัยท่านจะได้ช่วยเรา

เถรี 07-03-2016 13:18

ถาม : กรณีบางวัดมีการทำนายโดยให้ยกวัตถุมงคล ขึ้นหรือไม่ขึ้นตามคำอธิษฐานของตัวเรา ขอทราบว่ากรณีนี้มีความจริงเป็นเช่นไรคะ ?
ตอบ : ตามที่อาตมาพบมาเอง ตอนนั้นที่ศาลหลักเมือง น่าจะหลายสิบปีได้แล้ว มีพระพุทธรูปให้ยกเสี่ยงทาย หน้าตักพระพุทธรูปประมาณ ๑๒ นิ้ว ทำด้วยโลหะสีเงิน ๆ ไม่ทราบว่าโลหะอะไร ด้วยความรั้นอาตมาก็ตั้งใจอธิษฐานแล้วคิดว่า ต่อให้ไม่สำเร็จ พระองค์แค่นี้กูก็ยกขึ้น ว่าแล้วก็งัดเต็มที่เลย เกือบจะหงายท้อง...! เพราะว่าพระลอยติดมือขึ้นมา ไม่มีน้ำหนักเลย เหมือนยกกระดาษแผ่นเดียว

ดังนั้น...ในบางสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ลองอธิษฐานดูก็มีผล แต่ถ้าในบางสถานที่ สักแต่ว่าเป็น ทำไปแล้วเสียกำลังใจด้วย เพราะดันยกไม่ขึ้น มีอยู่ที่หนึ่งที่ขลังแน่ ๆ คือวัดท่าขนุน ถ้าใครอธิษฐานยกหลวงพ่อ ๒๑ ศอกขึ้น รับรองว่าสำเร็จทุกเรื่อง...!

เถรี 07-03-2016 13:26

ถาม : การที่ตัวเรามีพระธาตุไว้บูชา พระธาตุได้เพิ่มจำนวนและขนาดใหญ่ขึ้น ขอทราบว่ากรณีเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่ตัวเราคิดว่าเรายังไม่ดีพอ ?
ตอบ : อาตมาเป็นบุคคลที่บูชาพระธาตุแล้วเพิ่มเมื่อไรจะต้องระวังตัวสุดขีด เพราะมักจะไม่เหมือนชาวบ้านเขา ที่ระวังตัวสุดขีดเพราะรู้ตัวว่ายังทำไม่ดีพอ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะอย่างนี้ แสดงว่าพระท่านเตือนเราแล้วว่าต้องมี กาย วาจา ใจ บางอย่างบกพร่อง แต่ถ้าขณะไหนปฏิบัติได้ดีมาก ๆ เลย พระธาตุมักจะหดหายไป บางทีมีอยู่เป็นโถเลย หายไปจนเหลือแค่สองสามองค์ ท่านก็คงรู้ว่าอาตมาไม่หวง ใครขอก็เสด็จไปเรื่อยเหมือนกัน

ฉะนั้น...ปัญหานี้ให้ถือลักษณะเดียวกัน ว่าถ้าพระธาตุมีการเปลี่ยนแปลง แสดงว่าท่านเตือนเราแล้วว่า เรามีข้อบกพร่องอยู่ ให้เร่งระวังให้มากขึ้น


ถาม : บางทีเราได้กลิ่นหมาก หรือได้กลิ่นยานัตถุ์ ควรจะวางกำลังใจอย่างไรคะ ?
ตอบ : อาจจะจมูกเพี้ยน ไปให้หมอตรวจเสียหน่อยก็ดี

คนอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่สำหรับพระวัดท่าซุงถ้าได้กลิ่นยานัตถุ์ขึ้นมา ก็ขนหัวลุกตั้ง ไม่รู้จะโดนหลวงพ่อฟาดกบาลเมื่อไร ฉะนั้น...อยู่ ๆ ได้กลิ่นหมาก กลิ่นยานัตถุ์ รู้ว่าเป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์เคยใช้ เคยฉัน จนเคยชิน กลิ่นนั้นมาโปรดระวังให้ตัวลีบเลย เพราะว่าท่านมาอยู่ใกล้ ๆ แล้ว ทำดีทำชั่วอยู่ในสายตาท่านหมดแล้ว..!

เถรี 07-03-2016 13:30

ถาม : ถ้าฟังไฟล์เสียงธรรมะ แล้วอยู่ ๆ เผลอหลับไปพร้อมกับเสียงธรรม จะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยไหม ?
ตอบ : ถ้าหลับไปพร้อมกับเสียงธรรมไม่เป็นไร เพราะช่วงแรกเราตั้งใจฟังอยู่

เถรี 07-03-2016 13:41

ก่อนกรรมฐาน ญาติโยมมากันเยอะจนด้านหลังห้องเนืองแน่น พระอาจารย์จึงให้ขยับมานั่งข้างหน้า "ด้านหน้ายังว่างอีกเยอะจ้ะ ถ้าด้านหลังแน่นก็ขยับมา เวลาไปไหนให้อยู่หน้า จะได้อะไรก็จะได้ก่อนคนอื่นเขา เวลาโดนอะไรก็จะได้โดนก่อนเขา..! ...(หัวเราะ)... ไม่ใช่มาถึงก็นั่งข้างหลัง หาภาวะผู้นำไม่ได้เลย"

เถรี 07-03-2016 13:42

พระอาจารย์กล่าวว่า "การทำบุญในปัจจุบันนี้ อาตมาสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ตกลงว่าบุญจะได้มากขึ้นหรือน้อยลง ? เพราะมัวแต่คิดจะถ่ายรูปอยู่ กำลังใจจะไปกังวลกับเรื่องรูป ไม่ได้มุ่งมั่นกับบุญตรงหน้า แล้วก็ต้องรักษาอารมณ์ตนเอง ถ้ารักษาอารมณ์ได้ก็บุญเท่าเดิม รักษาอารมณ์ไม่ได้ มัวแต่ไปถ่ายรูปอยู่ ก็บุญน้อยลง คาดว่าจะไม่พูดอีกแล้วนะ เพราะฉะนั้น...ให้จำไว้แล้วก็นำไปประพฤติปฏิบัติเอง"

เถรี 07-03-2016 13:54

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีโยมหลายรายส่งวัตถุมงคลไปให้ที่วัดท่าขนุน ก็เลยไปนึกถึงการให้ทาน

ทาสทาน คือ การให้ของที่ต่ำกว่าที่ตนเองมี ตนเองใช้ สหายทาน ก็คือ ให้เท่ากับที่ตนเองมี ตนเองใช้ สามีทาน ก็คือให้ดีที่สุด เท่าที่ตนเองมีและใช้

หลายรายที่ส่งวัตถุมงคลไป อย่างกับส่งเศษขยะไปให้ ก็คือเป็นของที่ตัวเองเหลือเลือกแล้ว ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร ท้ายสุดก็ถวายพระดีกว่า น้อยคนที่จะเอาของดีที่สุดที่ตัวเองมีไปถวาย ถามว่ามีอานิสงส์ไหม ? มี...มีมากด้วย แต่อานิสงส์ก็เป็นไปตามที่ว่ามา ว่าอยู่ในทานระดับไหน

อาตมาคงทำทาสทานมาเยอะเพราะชอบใช้ของเก่า ๆ เอาของใหม่มาให้นี่ไม่ค่อยใช้หรอก"


ถาม : แล้วถ้าคนชอบใส่กางเกงยีนส์ขาด ๆ ?
ตอบ : เขาตั้งใจ ก็น่าจะเกิดจากอานิสงส์ทาสทานเหมือนกัน

เถรี 08-03-2016 11:26

งานพุทธาภิเษกรอบพิเศษ (ฝ่าวิกฤติ) ณ บ้านวิริยบารมี

"วันนี้ถือว่าเป็นงานพิเศษ ถ้าหากเป็นสำนวนของทิดกวางก็คืองานสัมภเวสี ก็คือร่อนเร่มาเองโดยไม่เจตนา ตุ๊พ่อสิงห์ท่านเตรียมวัตถุมงคลไว้เข้าพิธีงานเป่ายันต์เกราะเพชร แล้วโดนอาตมายกเลิก ...(หัวเราะ)... อาตมาไม่ได้ยกเลิกนะ เพียงแต่คำสั่งเจ้านายบอกว่า ให้พระอุปัชฌาย์ใหม่ไปเข้ากรรมฐานหน่อย ความจริงต้องบอกว่าคำสั่งเจ้านายให้ไปพักผ่อน

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น งานเป่ายันต์ฯ มีไม่ได้ วัตถุมงคลที่ท่านให้ลูกศิษย์จองอยู่ไม่สามารถเข้าพิธีได้ จำหน่ายไม่ได้ เงินก็ไม่เข้าวัด ถ้าเงินไม่เข้าวัดนี่ปัญหาใหญ่เลย เพราะว่าตุ๊พ่อท่านกำลังสร้างพระจุฬามณีอยู่ และในขณะเดียวกัน การสู้คดีเกี่ยวกับที่ดินวัด ก็จ่ายค่าทนายไปเยอะ แล้วส่วนที่จ่ายไปก็คือเงินสงฆ์ ทุกวันนี้ตุ๊พ่อพยายามหายใจเข้าไว้...ยังตายไม่ได้...เพราะเป็นหนี้สงฆ์อยู่ จึงโทรมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ? อาตมาก็ต้องช่วยแก้ปัญหาตามประสาน้องที่ดี

เมื่อกราบเรียนถามครูบาอาจารย์ ถามพระท่านแล้ว ท่านก็บอกว่าทำได้ จัดงานพุทธาภิเษกขึ้นมาสิ ปรากฏว่าจัดไปจัดมาหน้าตาออกมาอย่างที่เห็น อาตมาเองก็งง ๆ อยู่เหมือนกัน คือคำสั่งมาทีละอย่างสองอย่าง ไปเรื่อย ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมท่านให้เอามีดหมอที่มีอยู่มาทั้งหมดเลย"

เถรี 08-03-2016 11:30

"อาตมาอมมีดหมอครูบาอาจารย์ไว้หลายสำนัก เอาที่อยู่รอบข้างกองวัตถุมงคลก่อนก็แล้วกัน

ด้านซ้ายล่างหรือทิศใต้ก็คือมีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ต้องบอกว่าเป็นมีดหมออันดับหนึ่งของประเทศไทย เล่มนั้นเป็นรุ่นเก่าจริง ๆ มีลายมือจารของหลวงพ่อเดิมด้วย

ถัดไปทางด้านซ้ายบน เป็นมีดหมอหลวงปู่ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ ใครไม่รู้จักไม่เป็นไรหรอก เพราะว่านานเหลือเกิน แล้ววนมาขวาบน เป็นมีดหมอที่ร้อยวันพันปีจะโผล่มาให้เห็นสักเล่ม คือ มีดหมอหลวงปู่ทบ วัดชนแดน แล้วก็ลงมาขวาล่างคือ มีดหมอหลวงปู่รุ่ง วัดหนองสีนวล ซึ่งท่านเป็นพี่ด้วยและเป็นอาจารย์ของหลวงปู่เดิมด้วย

ส่วนตรงกลางที่เห็นในพานอยู่ใกล้กับแก้วอินทนิล พระขรรค์เล่มที่อยู่ตรงกลางนั่น เป็นของอาจารย์ของอาจารย์ของอาจารย์อีกทีหนึ่ง ก็คือหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ถ้าพวกเราไม่เคยได้ยินชื่อหลวงปู่ยิ้ม ก็ต้องเคยได้ยินชื่อหลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว, หลวงปู่ดี วัดเหนือ, หลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้, หลวงปู่สอน วัดทุ่งลาดหญ้า, หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ เหล่านี้เป็นต้น นั่นระดับปรมาจารย์เลย แต่เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ยิ้มทั้งหมด เรียกว่า พระขรรค์ปราบไตรโลก เล่นทีหนึ่ง ๓ โลกเลย เป็นพระขรรค์ที่หลวงปู่ศุข แนะนำเสด็จในกรมหลวงชุมพร ให้หามาเป็นของคู่พระหัตถ์ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าหลวงปู่ยิ้มท่านสร้างไว้สัก ๕ เล่ม ๑๐ เล่มหรือเปล่า ? แต่ว่าอยู่ที่นี่เล่มหนึ่ง

แล้วที่เห็นอยู่จากด้านบนลงมาก็เป็นมีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์เล่มที่ ๒ นี้ถือว่าตลาดรู้จัก เพราะว่าเป็นฝีมือของช่างฉิม ซึ่งเป็นมาตรฐาน ๑ ในช่าง ๔ คนที่สร้างมีดหมอให้หลวงพ่อเดิม"

เถรี 08-03-2016 11:34

"เล่มถัดลงมาติดกับพระขรรค์ คือมีดหมอหลวงปู่บุญมี วัดเขาสมอคอน จังหวัดลพบุรี เรียกว่ามีดหมอปราบไพรี สมัยหลวงปู่บุญสร้างใหม่ ๆ คนไม่ได้อยากได้กันหรอก หลวงปู่แจกให้ เขาก็เอาไปทิ้งกอง ๆ ไว้แถวหน้าโบสถ์ คนสมัยก่อนนี่ดีจริง ๆ เลย...! ปรากฏว่ามีคนเมาเห็นกองมีดหมออยู่ ก็พูดว่า "หลวงพ่อมีแน่แค่ไหนวะ ? ถึงบังอาจทำมีดหมอออกมา" ว่าแล้วก็ชักปืนยิงเสียงเปรี้ยง...! สนั่น ยิงออก..แต่มือเละ ปืนแตกคามือเลย แล้วมีดหมอกองนั้นก็แสดงปาฏิหาริย์หายวับไปกับตา ไปขอใหม่หลวงปู่ท่านก็ไม่ให้แล้ว

เล่มถัดมาที่อยู่ใต้พระขรรค์ คือ มีดหมอหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามหรือที่ชาวบ้านเรียกวัดบ้านแค ชื่อมีดหมอมนต์พระกาฬ เล่มนี้วันเอามา หนีไปนอนที่ไหนก็ไม่รู้ ? จนอาตมาคิดว่าคนเอามาลืมหรือเปล่า ? ปรากฏว่าพอถึงที่แล้วก็นั่งยิ้มเผล่อยู่ตรงนั้น ไม่ได้ไปไหนหรอก ท่านล้อเล่นแค่นั้น วัตถุมงคลของหลวงพ่อกวยท่านห้ามด่าแม่เด็ดขาด ใช้วัตถุมงคลหลวงพ่อกวย ถ้าด่าแม่เมื่อไรบางทีวัตถุมงคลท่านแตกคามือเลย ก็คือไม่ให้ใช้ต่อ เพราะบังอาจด่าแม่ที่เคารพ ถามว่าหลวงพ่อกวยเป็นใคร ? ท่านเป็นเจ้าของคาถา "นะโมตาบอด" ที่อาตมาเรียนมา

เล่มล่างสุดนี่ของพระอาจารย์โดยตรง มีดหมอดาบฟ้าฟื้น หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง ห้ามจิ๊กนะ..!"

เถรี 08-03-2016 11:37

"ส่วนพานล่างที่วางอยู่บนผ้าขาว ๓ เล่มนั่นของหลวงปู่รุ่ง วัดหนองสีนวล ทั้งหมดเลย แปลว่าอาตมามีมีดหมอของหลวงปู่รุ่งอยู่ ๔ เล่ม

ถัดมาด้านล่างก็คือมีดหมอเพชราวุธ แต่เล่มนี้พิเศษตรงที่ด้ามเป็นงากวัก ฝักเป็นงางอก เคยได้ยินไหม ? งากวักก็คืองาช้าง ซึ่งปกติแล้วงาช้างจะแหลมยาวออกไปเฉย ๆ แต่งากวักคือปลายจะงอกลับเหมือนตะขอ พอดีทำด้ามมีดเลย ส่วนงางอกคืองาช้างที่มี "คด" งอกอยู่ข้างในโพรงงา

ส่วนด้ามตรงกลางเล่มใหญ่ ตุ๊พ่อสิงห์ท่านกำลังหมายตาอยู่ คือ พระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราช ที่อาตมาสร้างถวายในหลวงเพื่อประคองให้พระองค์ท่านอยู่มาจนถึงปัจจุบัน

ส่วนแก้วสีเขียว ๆ นั่น ท่านปู่พระอินทร์ประทานมาให้เรียกว่า "แก้วอินทนิล" ถามว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย ? ท่านบอกว่าที่ต้องจัดพิธีขนาดนี้ เพราะอีก ๔ วัน ตามตำราโหราศาสตร์ ดาวมฤตยูจะทับดวงเมือง สยดสยองไหม ? ถ้าไม่ทำพิธีแบบนี้อาจจะมีเลือดนองท้องช้าง..! แล้วถามว่าประโยชน์ทางด้านอื่น ท่านบอกว่าปีนี้เศรษฐกิจแย่มาก ๆ

ฉะนั้น...รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นวัตถุมงคลรุ่นฝ่าวิกฤติก็แล้วกัน คนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง เพราะว่าพวกเราพกอาวุธมาเต็มตัวขนาดนี้ต้องไปได้ ไปได้ยังไม่พอนะ แก้วอินทนิลของท่านเองนี่เด่นเรื่องมหาลาภ มหาปราบ เรื่องนี้ท่านจะถนัดมาก ก็แปลว่าไปรอดแล้วยังต้องรวยอีกด้วย"

เถรี 08-03-2016 11:43

"ถ้าถามว่าวัตถุมงคลที่เข้าพิธีวันนี้มีอะไร ? ก็มีขอสับช้างของวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ที่เป็นต้นเรื่องเลย มีขนาดใหญ่กับขนาดเล็ก ตุ๊พ่อท่านบอกว่าเหลือไว้ให้อย่างละ ๑๐๐ นอกนั้นเขาจองไว้แล้ว ขนาดเล็ก ๙๐๐ บาท ขนาดใหญ่ ๑,๒๐๐ บาท ขึ้นราคาหน่อยได้ไหม ? ...(หัวเราะ)... หลังจากพุทธาภิเษกเสร็จ กราบเรียนตุ๊พ่อท่านว่าเอาจำหน่ายตรงนี้เลย โยมที่ต้องการจะได้ไม่ต้องไปจองในเว็บ ไม่ต้องไปถึงวัด มีอย่างละร้อยด้ามเท่านั้น ห้ามจองคนเดียว ๙๙ ด้าม..!

ส่วนของวัดท่าขนุนมีพระขุนแผนเกราะเพชร ที่จะออกในงาน ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤๅษี ขุนแผนรุ่นนี้ทำด้วยผงยานัตถ์ุของหลวงพ่อฤๅษีที่อาตมาเก็บสะสมไว้ ก็จะมี พิมพ์ใหญ่ ฝังตะกรุดหัวใจขุนแผน เนื้อทองคำ ๓,๐๐๐ องค์ เนื้อนาก ๓,๐๐๐ องค์ เนื้อเงิน ๓,๐๐๐ องค์ กำลังคิดว่าจะขูดรีดโยมเท่าไรดี ? ...(หัวเราะ)... ส่วนพิมพ์เล็กไม่มีตะกรุด เพราะว่าขนาดตะกรุดถ้าฝังลงไปแปลว่าล้นองค์พระ พิมพ์เล็กมี ๑๐,๐๐๐ องค์ เป็นเนื้อผงยานัตถุ์อย่างเดียว

แล้วก็มีวัตถุมงคลเก่าของวัด ก็มีเหรียญของขวัญปีใหม่ เนื้อตะกั่ว ๔,๐๐๐ เหรียญ ๔,๐๐๐ เหรียญนี่ตัวเล็กเอาไปออกในกระทู้งานอุปสมบทหมู่ ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤๅษีไปแล้ว ๑,๐๐๐ เหรียญ ใครจองไว้ถือว่าเฮงมากเลยเพราะตอนนั้นลดราคาให้ครึ่งหนึ่ง พอเอาเข้าพิธีแล้วคงต้องเพิ่มราคาขึ้นครึ่งหนึ่ง..!

แล้วก็มีเหรียญฉลองพระอุปัชฌาย์ เนื้อเงิน ๓,๐๐๐ เหรียญ ที่จองกันไป ๑,๐๐๐ เหรียญแล้ว เนื้อทองคำ ๓๐๐ เหรียญ จองกันไป ๑๐๐ กว่าเหรียญแล้ว ใครไม่ได้จองไม่ต้องเสียใจเพราะอาตมาตั้งใจขึ้นราคาอยู่แล้ว..!

แล้วก็มีผงงาช้าง ๖๐ กิโลกรัม จะเอาไว้สร้างพระ ผงงาช้างได้มาจากงาน OTOP ที่จังหวัดสุรินทร์ ปกติเขาขายกันแพงมาก แต่คณะของคุณหญิง (ณญาดา) ไม่รู้ไปตีซี้อีท่าไหน ? ไปโกยมาหมดเลย บอกว่าเอามาให้หลวงพ่อไว้สร้างพระ ซึ่งอาตมายังไม่มีอารมณ์จะสร้าง ยังนึกลูกเล่นไม่ออกว่าจะสร้างเป็นอะไรดี"

เถรี 08-03-2016 11:47

"เมื่อวานนี้ท่านอานนท์ วัดบึงลาดสวาย เอาพระอุปคุตชัยวัฒน์มาเข้าพิธี พระอุปคุตชัยวัฒน์รุ่นนี้สร้างด้วยเนื้อแร่ขี้นกเขาเปล้า ซึ่งถือว่าเป็นโลหะอาถรรพ์อย่างหนึ่ง ท่านถวายไว้ ๑๐๐ องค์ แล้วอาตมานำเอามาเข้าพิธีใหม่ เดี๋ยวไปแอบ ๆ ดูกันในกระทู้งานอุปสมบทหมู่ ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤๅษีก็แล้วกัน จะให้ "ตัวเล็ก" เอาไปออกให้บูชาในนั้น ถ้าใครไม่รู้จักแร่ขี้นกเขาเปล้าก็ไปค้นหาดู ในกูเกิ้ลน่าจะมีรายละเอียดอยู่

ส่วนของอื่น ๆ ก็น่าจะไม่มีอะไรแล้ว เพราะว่าท่านไม่ให้รับวัตถุมงคลอื่นเข้าพิธี ตั้งใจจะสงเคราะห์ตุ๊พ่ออย่างเดียว เดี๋ยวตอนทำพิธีก็อธิษฐานกันเอาเองตามอัธยาศัย ใครจะฝ่าวิกฤติมาก ฝ่าวิกฤติน้อย ก็อธิษฐานกันเอา"

เถรี 08-03-2016 11:50

"เวลาพระหรือครูบาอาจารย์ท่านสั่งให้ทำงาน งานบางอย่างก็แปลก ๆ ในความรู้สึกของพวกเรา แต่ว่าต้องทำ เพราะคำสั่งนี้ห้ามสงสัยเด็ดขาด ทำไปเถอะ...แล้วจะมีคำเฉลยทีหลังทุกที พอเฉลยมา บางทีก็นั่งงง ๆ ว่า อ๋อ...ที่แท้อย่างนี้นี่เอง งานนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นคุณความดีที่ตุ๊พ่อสิงห์ท่านกระเป๋าฉีก จ่ายเกินตัว ทำให้มีงานนี้ขึ้นมา ไม่อย่างนั้นจะมีงานอีกทีก็โน่น ๙ กรกฎาคมเลย ก็คืองานเป่ายันต์เกราะเพชร

ในเมื่อเรามีงานนี้ขึ้นมาก่อน ตามที่ท่านบอกเอาไว้ก็คือ
อย่างน้อย ๆ ก็ช่วยผ่อนสถานการณ์ของประเทศชาติ จากหนักให้เป็นเบา เมื่อวานก็ยังสงสัยว่า ตอนปลุกเสกพระอุปคุตชัยวัฒน์แร่ขี้นกเขาเปล้าให้ท่านอานนท์ ทำไมพระท่านเต้นระบำได้ ? ที่แท้ท่านเตรียมเอาไว้สำหรับงานนี้ นาน ๆ อาตมาจะปลุกของให้เต้นได้สักที เพราะปกติแล้วตัวเองมักจะหลับ ต้องรอพระท่านมาปลุก...!

งานที่ปลุกของแล้วเต้นได้เห็น ๆ ก็คือ มีดหมอเพชราวุธ แล้วก็มางานนี้ เพราะว่าเรื่องพวกนี้ถ้าทำให้คนเห็นเป็นเรื่องที่ไม่ดีอย่างแน่นอน เพราะคนจะเห็นเป็นอัศจรรย์ แล้วต่อไปก็จะมากวนกันหัวไม่วางหางไม่เว้น"

เถรี 08-03-2016 12:01

"เมื่ออาทิตย์ก่อน อาตมาสอนหนังสืออยู่ที่วัดไร่ขิง มีโยมคนหนึ่งเดินตัวเอียงมาเลย ถามว่า "เป็นอะไร ? " "รถชน...กระดูกไหปลาร้าหัก" "แล้วมาทำอะไร ?" "มาให้พระอาจารย์เล็กช่วย" "กระดูกหักแล้วทำไมไม่ไปหาหมอวะ ? " เขาบอก "พระอาจารย์เล็กเก่ง" นี่สมควรตายจริง ๆ...! ฉะนั้น เรื่องพวกนี้บางทีเราก็นึกไม่ถึงว่าศรัทธาโยมจะไปบังปัญญาเสียหมด เขาเรียกว่าอธิโมกขศรัทธา น้อมใจเชื่ออย่างเดียวโดยไม่มีปัญญาประกอบ เขาคงคิดว่าอาตมารักษาได้ทุกโรคจริง ๆ

แต่ถ้าโยมสังเกตเห็น แม้กระทั่งเรื่องของไสยศาสตร์ เรื่องของอะไรที่มา อาตมาจะให้รอไปเข้าพิธีงานเป่ายันต์ฯ เสมอ เพราะว่าอาตมาไม่ได้มีหน้าที่รักษาโรคทางไสยศาสตร์ ต่อให้ทำได้ก็ไม่รักษา ไม่เคยเรียนวิธีรักษามา วิธีรักษาโรคของอาตมาไม่มีอะไรมากหรอก ตบร่วงทุกราย...! เดี๋ยวก็หายเอง ทีนี้คนดันเห็นว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์ที่รักษาได้ ในเมื่อไม่ได้มีหน้าที่รักษา ก็ให้โยมไปรอเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรดีกว่า

ฉะนั้น...งานนี้พอพุทธาภิเษกเสร็จพวกเราก็ช่วยกันบูชาขอสับช้างปลดหนี้ให้ตุ๊พ่อสิงห์ท่านหน่อย ราคา ๙๐๐ บาท ใครมีจะถวาย ๑,๐๐๐ บาทก็ไม่ว่า วิธีการใช้ขอสับช้างไปค้นหาหาในกูเกิ้ลเอานะ ท่านบอกไว้หมดแล้ว ถ้าหาไม่เจอก็ไปดูในเฟซบุ๊กวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่"

เถรี 08-03-2016 12:09

"เนื่องจากพิธีครั้งนี้เป็นของพิเศษ ก็คือมาเองโดยมิได้นัดหมาย การพุทธาภิเษกวัตถุมงคลชุดนี้ก็คงจะไม่เหมือนใคร ในเมื่อไม่เหมือนใคร ก็คงไม่ต้องไปรอหาของใหม่ เพราะว่าเสกใหม่ก็ไม่เหมือน มีทางเดียวถ้าต้องการคือ บูชาวัตถุมงคลรุ่นนี้ไปเลย เสร็จแล้วก็ทำเครื่องหมายไว้ว่าเข้าพิธีชุดนี้

เมื่อเช้าอาตมาเขียนตะกรุดมหาสะท้อนเนื้อทองคำ ๒ ดอก รหัสไม่เหมือนใคร โค้ดงวดนี้ก็คือ ๕ - ๓ - ๕๙ คือวันนี้ ๕ มีนาคม ๒๕๕๙ มีแค่ ๒ ดอกในโลกเท่านั้นที่เป็นโค้ดนี้ โค้ดอื่นก็ไม่มี และตะกรุดมหาสะท้อนที่อาตมาเอาเข้าพิธีด้วยก็มีรุ่น ๕ เนื้อทองคำ ๔๖ ดอก และเนื้อเงิน ๔๔ ดอก แล้วที่เขียนใหม่ ๒ ดอก นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มี ว่าจะไปเขียนติดซองเอาไว้ว่า ฝ่าวิกฤตกู้โลก ...(หัวเราะ)... เอาแค่ฝ่าวิกฤติก็พอนะ อย่าถึงกับกู้โลกเลย กู้โลกเดี๋ยวดอกเบี้ยจะเยอะ...!"

เถรี 09-03-2016 10:40

พระอาจารย์กล่าวว่า "บ้านเราเมืองเราระยะนี้ก็ลำบาก เมื่อคืนเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว จากสภาผู้แทนราษฎรมา บอกว่ามีเรื่องอะไรที่จะฝากให้รัฐบาลบ้าง อาตมาบอกว่าไม่ฝาก เพราะรัฐบาลไม่เคยจริงใจกับพระ ต่อไปนี้พระจะเลิกสันติวิธี จะใช้กำลังอย่างเดียว ไปบอกรัฐบาลด้วย ไม่เห็นหรือว่าตุนอาวุธไว้เพียบเลย พาลูกศิษย์ถือขอสับช้างไปคนละอัน เจ้าหน้าที่รัฐบาลคนไหนดื้อก็สับหัวเลย...!"

เถรี 09-03-2016 10:44

พระอาจารย์กล่าวว่า “ช่วงอายุ ๖๐ ปี อาตมาจะเอาชนวนหล่อสมเด็จองค์ปฐมกับชนวนรูปหล่อหลวงปู่หลวงพ่อมาสร้างวัตถุมงคลสักชุด เอาเนื้อชนวนล้วนกับเนื้อผสม เนื้อชนวนล้วนก็อัดไปเต็ม ๆ เลย ส่วนเนื้อผสมก็ใส่ลงไปสักนิดหนึ่ง ...(หัวเราะ)...

ใครต้องการรูปหรือเหรียญพระอาจารย์เล็กก็รอไปโน่น อายุ ๘๐
ถ้าอยู่ถึงจะสร้างให้ ”

ถาม : พระอาจารย์ไม่สร้างเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ก็เหรียญฉลองพระอุปัชฌาย์นั่นแหละ เขาเขียนข้างในว่าฉลองเลื่อนสมณศักดิ์

เถรี 09-03-2016 10:46

พระอาจารย์กล่าวว่า “เรื่องการจองวัตถุมงคล มีหลายท่านที่ตัดสินใจแบบโลเลมาก สมาชิกเว็บบางคนอย่าง "คุณวีรไชย" โพสต์จองวัตถุมงคลในเว็บวัดท่าขนุน จองแล้วลบอยู่เรื่อย ถ้าลักษณะอย่างนี้เห็นชัดเลยว่าการตัดสินใจโลเลมาก ถ้าการตัดสินใจโลเลมาก งานอื่นก็ยากที่จะสำเร็จ เพราะว่าการทำงานไม่เหมือนกับการโพสต์ในเว็บ ที่สามารถลบทิ้งได้

ตัดสินใจให้เด็ดขาด ต้องการคือต้องการ ไม่ต้องการคือไม่ต้องการ อย่ามานึกเสียดายเอาตอนคนอื่นมีแล้วเราไม่มี อาตมาบางทีเข้าไปในเว็บเจอของดีที่คนอื่นจองไปแล้วก็นั่งยิ้ม เฮ้ย...เดี๋ยวเราต้องมีของดีกว่านั้น ...(หัวเราะ)...”

เถรี 09-03-2016 10:52

พระอาจารย์กล่าวว่า หลักการถวายทาน คือ เมื่อจะถวายก็มีปีติเกิดขึ้น กำลังจะถวายก็มีปีติเกิดขึ้น ถวายอยู่ก็มีปีติเกิดขึ้น ถวายแล้วนึกถึงเมื่อไรก็มีปีติ คือความปลาบปลื้มใจเกิดขึ้น แต่คราวนี้พวกเราส่วนใหญ่พอถึงเวลาถวายทานแล้วมักจะห่วงถ่ายรูป ...(หัวเราะ)... กำลังใจก็เลยไม่ได้อย่างที่ตำราว่าไว้

คิดว่าเราจะได้ถวายทานก็ปลื้มใจ กำลังถวายทานก็ปลื้มใจว่าเราได้ถวายทาน ถวายทานอยู่ก็ปลื้มใจว่าเรากำลังถวายทานอยู่ หลังจากนั้นแล้วคิดถึงเมื่อไรก็ปลื้มใจว่าเราได้ถวายทานแล้ว ฉะนั้น...อย่าห่วงถ่ายรูปมาก ความจริงถ่ายรูปลงเฟซบุ๊กก็ได้ในส่วนของปัตตานุโมทนามัย คนเห็นก็ได้ยินดีด้วย แต่อย่าถ่ายรูปจากหนังสือไปลงหลอกเขาก็แล้วกัน”

เถรี 09-03-2016 10:59

พระอาจารย์กล่าวว่า “ไม่รู้ว่าตัวเล็กเป็นนางกวักหรือตำบลกระสุนตก เพราะเห็นแขวนชาวบ้านเขาเยอะเหลือเกิน ...(หัวเราะ)... ไม่เห็นแก่หน้าค่าชื่อนับถือพงศ์พันธุ์อะไรกับใครเลย ใส่อย่างเดียว ...(หัวเราะ)... แต่การทำงานก็ต้องอย่างนั้น เพราะถ้ามีนอกมีในเมื่อไรจะทำงานยาก

สมัยก่อนที่อาตมาทำงานอยู่กับหลวงพ่อวัดท่าซุง ก็ทำลักษณะอย่างนี้แหละ ไม่เห็นแก่หน้าใคร จะใหญ่จะเล็กเหมือนกันหมด จนกระทั่งติดนิสัยมาจนทุกวันนี้ บรรดาเจ้าใหญ่นายโตไปวัดท่าขนุน ต้องนั่งแบกับดินเหมือนกันหมด คุณหญิงไปก็นั่งแบกับดินเหมือนกัน”

เถรี 09-03-2016 11:08

พระอาจารย์กล่าวว่า "ร่างกายของเรานี้ต้องบอกว่าชั่วร้ายมาก เวลากินของชอบแล้วจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมา ทำให้รู้สึกมีความสุข อยากจะกินอีก พอไม่ให้อีกคราวนี้ก็อาละวาด คนที่ส่วนใหญ่แล้วไม่สามารถจะหักห้ามใจตัวเองได้ เพราะว่าสภาพร่างกายถึงเวลาขาด ต้องการอะไรจะบังคับให้เกิดอาการหิวบ้าง เครียดบ้าง ปวดหัวบ้าง ท้ายสุดก็ต้องหาให้กิน พอกินแล้วรู้สึกสบายก็กินไปเรื่อย ๆ

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาไปเห่อลูกสำรอง (พุงทะลาย) คือเขาบอกว่ากินลดความอ้วนได้ เพราะเวลากินลงไปแล้วก็พองขยายเต็มกระเพาะ แต่ที่เขาทำออกมานั้นยิ่งกินก็ยิ่งอ้วน เพราะเล่นใส่ขวดใส่น้ำตาลผสมมา ที่เขาให้กินก็คือแทะกินลงไปเฉย ๆ นี่เล่นไปต้มใส่ขวดใส่น้ำตาลมา เรียบร้อยเสร็จสรรพ แบบนั้นกินให้ตายก็ไม่หายอ้วนหรอก มีแต่เพิ่มความอ้วน"

เถรี 09-03-2016 15:22

ถาม : สวดพระคาถาเงินล้าน กับสวดพระคาถา.... ดีทั้งสองคาถา ควรทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : แบ่งเวลา เอาพระคาถานี้สักชั่วโมงหนึ่ง พระคาถาโน้นสักชั่วโมงหนึ่ง สลับกันไป

เถรี 09-03-2016 15:23

ถาม : เวลาอาราธนาพระเครื่องวัตถุมงคล ใช้อิทธิฤทธิฯ ได้เลยใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ต้องดูว่าเป็นของสำนักไหน ถ้าคาถาบูชาเขามีเฉพาะก็เอาเฉพาะของเขาไป ถ้าหากว่าไม่มีเฉพาะเอาอิทธิฤทธิฯ ก็ได้

เถรี 09-03-2016 15:25

ถาม : ถ้าผมจะเอากระโถนข้างธรรมาสน์ไปถ่ายเอกสารวางไว้ให้คนอื่นอ่าน ?
ตอบ : ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง คือโอกาสที่เอกสารจะโดนทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ให้เขาเหยียบ ให้เขาข้ามมีเยอะมาก ต้องเข้าใจว่าคนอื่นเขาไม่ได้เคารพเหมือนกับเรา ในเมื่อเขาไม่ได้เคารพเหมือนกับเรา โอกาสที่เขาจะทำผิดทำพลาดมีเยอะ จะกลายเป็นว่าเราไปสร้างโทษให้คนอื่นเขา

เถรี 10-03-2016 12:26

ถาม : เมณฑกเศรษฐีมีทองคำขึ้นล้อมรอบบ้าน ?
ตอบ : ของจริงเลย แล้วแปลกตรงที่ว่าคนอื่นเอาไม่ได้ด้วย หน่อไม้งอกขึ้นมาเป็นทองคำ คนอื่นไปขุดไปตัดออกมาไม่ได้ยกเว้นท่านเท่านั้น พวกแพะที่มาล้อมบ้านอยู่ ถ้าหากว่าต้องการผ้ามีผ้า ต้องการเงินมีเงิน ต้องการข้าวของอะไรให้ไปดึงสลักเอา คนอื่นดึงก็ไม่ได้ เป็นเรื่องของบุญเฉพาะตัว

ถาม : คนอื่นเอาไปไม่ได้ ?
ตอบ : ยกเว้นว่าท่านสั่งให้ทำถึงจะทำได้ ถ้าหากว่าท่านไม่สั่งก็ไม่มีประโยชน์

ถาม : เกี่ยวกับบารมี ?
ตอบ : เป็นผลบุญโดยตรง เฉพาะตัวของท่าน

ถาม : อย่างปิดทองพระพุทธรูป ปิดทองลูกนิมิต ?
ตอบ : ก็น่าจะได้มากกว่านั้น แต่อย่าลืมว่า ท่านถวายด้วยความศรัทธาในพระรัตนตรัยจริง ๆ แต่พวกเราในปัจจุบันนี้อ่านแล้วเห็นว่าท่านมีอานิสงส์อย่างนั้นก็เลยอยากได้ ต่างกันตรงที่ว่าเราทำเพราะอยากได้ แต่ท่านทำเพราะเคารพในพระรัตนตรัย

เถรี 11-03-2016 15:59

ถาม : ปกติถ้าเป็นต้นไม้ก็เรียกว่าสิ่งมีชีวิตที่มีแต่ตัวรู้ แต่ไม่มีจิต แล้วปรอททองเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนคะ ?
ตอบ : ก็วิญญาณเหมือนกัน เพียงแต่ไม่มีจิต วิญญาณก็คือประสาทการรับรู้ ลักษณะเดียวกับต้นไม้กินคนที่เคลื่อนไหวได้

ถาม : แล้วทำไมเขาถึงส่งกระแสทักทาย คล้ายมองเราอยู่ได้คะ ?
ตอบ : อันดับแรก ก็คือ ตัวโลหะธาตุเองมีวิญญาณของตนอยู่ ประการที่สอง ก็คือ โดนบรรจุพลังเข้าไปโดยคนสร้าง ตอนนี้มีการถ่ายภาพที่เขาตรวจสอบพลังจากวัตถุ เขาเอาวัตถุมงคลไปถ่ายรูป ขอบอกว่าระบบนั้นดีแต่ทำผิด เพราะวัตถุทุกชนิดมีพลังงานในตัวอยู่แล้ว ต่อให้เป็นวัตถุมงคลที่พุทธาภิเษก หรือหยิบก้อนหินก้อนดินอะไรมา ถ้าหากว่าเครื่องถ่ายรูปดีจริง จะต้องถ่ายภาพพลังงานได้ อันนี้เขาไปถ่ายวัตถุมงคลแล้วไปเที่ยวโฆษณาว่า มีรัศมีคุ้มกันได้กี่เมตร ๆ อาตมาขอยืนยันว่าไปหยิบก้อนดินก้อนหินอะไรมาถ่ายก็มีพลังเหมือนกัน

ถาม : แบบเดียวกับแรงดึงดูดไม่ได้มีแต่ที่โลก แต่วัตถุธาตุทุกอย่างมีแรงดึงดูดกัน อย่างเราก็ดูดกันกับโลก ไม่ใช่ถูกโลกดูด ?
ตอบ : โดยปกติแกนกลางของสสารก็คือพลังงาน เพราะฉะนั้น...คุณถ่ายรูปอะไรก็มีพลังงานทั้งนั้นแหละ

เถรี 11-03-2016 16:02

พระอาจารย์กล่าวว่า “เห็นเด็ก ๆ ดัดฟันแล้วนึกถึงสาว ๆ สมัยนี้ที่อยากหน้าเรียว จะเรียวไปทำอะไร เด็ก ๆ พอโตขึ้น ฟันงอกเพิ่ม จากที่หน้ากลมก็จะกลายเป็นหน้าเรียวไปเอง ส่วนผู้ใหญ่ที่หน้ากลมก็ให้คิดว่าชาตินี้คุณนั่งกินนอนกินแน่นอน ดันไปทำหน้าให้เรียวเสียโหงวเฮ้งหมด

หน้าเรียวที่เขาเรียกว่า วีเชฟ ทุกวันนี้เป็นลักษณะหน้าที่เฮงซวยที่สุดเลย ไม่รู้ว่านิยมไปได้อย่างไร ใครไปทำหน้าลักษณะอย่างนั้นหลังอายุ ๔๐ ปีแล้วจะรู้ว่าชีวิตลำเค็ญขนาดไหน..!

คนเราไม่จำเป็นต้องหน้าตาดี ขอให้ความประพฤติดีเท่านั้น แล้วหน้าตาดีสมัยนี้รสนิยมออกมาเหมือนกันทั้งประเทศ ถึงเวลาก็ไปทำหน้าออกมาเป็นแบบเดียวกันหมด อาตมายังเห็นจนเบื่อเลย แล้วคนทำกลับไม่เบื่อสักที"

เถรี 11-03-2016 16:03

ถาม : มีคนเขาเอาสายสิญจน์ในงานหล่อพระเมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์มาให้ แต่ผมเองเก็บไว้ กลัวเป็นหนี้สงฆ์เลยขอถวายคืนครับ ?
ตอบ : ปลอดภัยไว้ได้ก็ดี แต่ถ้าเป็นอาตมาชำระหนี้สงฆ์ไปสัก ๒๐ บาทก็จบแล้ว

เถรี 11-03-2016 16:06

พระอาจารย์กล่าวเตือนว่า "ระวังหน่อย...เสียงพวกเราดังขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ส่วนใหญ่พอเผลอแล้วเสียงจะดังขึ้นเรื่อย ให้ตั้งสติไว้นิดหนึ่ง ไปนึกถึงสุปิยปริพาชกด่าพระพุทธเจ้า เพราะว่าพระพุทธเจ้าเสด็จไปพร้อมกับหมู่สาวกอีก ๕๐๐ รูป ไม่มีเสียงดังเลย ส่วนปริพาชกไปกับบริวารไม่กี่คน เสียงเอะอะโวยวายไปตลอดทาง แทนที่จะยินดีและโมทนากับความดีของพระพุทธเจ้ากลับด่า ...(หัวเราะ)...

แบบเดียวกับสกุลุทายี เข้าไปกราบพระพุทธเจ้า แล้วกล่าวถึงบริวารของคณาจารย์ทั้ง ๖ ท่านว่า หาความเคารพในอาจารย์ไม่ได้ เวลาอาจารย์แสดงธรรมก็คุยแข่ง บางคนก็คัดค้านธรรมที่อาจารย์กำลังกล่าว บางรายก็ลุกหนีออกจากที่ฟังธรรมไป แต่ในหมู่พุทธบริษัทถึงเวลาพระพุทธเจ้าแสดงธรรมมีแต่ความเงียบ แม้กระทั่งมีคนทนไม่ไหว ไอหรือจามออกมา ก็มีคนสะกิดเตือนให้เงียบไว้ สกุลุทายีกล่าวว่า “เห็นชัดเจนว่าในหมู่พระสาวกของพระพุทธเจ้านั้นเคารพในพระศาสดาจริง ๆ แต่ของอาจารย์ใหญ่ทั้ง ๖ ท่าน สาวกไม่ได้เคารพอย่างแท้จริง”

เถรี 11-03-2016 16:09

"พระพุทธเจ้าถึงได้ตรัสว่า “หมู่สาวกของพระองค์นั้นส่งจิตไปในธรรม น้อมนำเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตน ขณะที่บริวารของคณาจารย์ทั้ง ๖ ไม่ได้ส่งจิตไปในธรรม ไม่ได้น้อมนำเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้เกิดกับตน ก็เลยคุยแข่งกับอาจารย์”

แบบเดียวกับหลายที่หลายแห่ง พอถึงเวลาอาจารย์เริ่มบรรยาย ลูกศิษย์ก็คุยแข่ง แล้วทุกครั้งที่อาตมาไปบรรยายเขากลับตั้งใจฟัง ท่านอื่นก็เลยมานั่งสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ก็แค่พูดในเรื่องที่เขาสนใจก็หมดเรื่อง

ตอนไปเป็นประธานวิปัสสนาจารย์นำปฏิบัติที่วัดป่าเลไลยก์เป็นครั้งแรก พอผ่านไป ๓ วันบรรดาเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล ๔๐ พรรษาบ้าง ๓๐ พรรษาบ้าง มากราบกันเป็นแถว ห้ามไม่ให้ท่านกราบ บอกว่าท่านอายุพรรษามากกว่า ท่านก็บอกว่า “ขอกราบในฐานะพระอาจารย์หน่อยเถอะ” ถามว่าแล้วนึกอย่างไรถึงมากราบ เขาบอกว่าพระอาจารย์ต้องมีอะไรดีแน่เลย เพราะปกติพวกผมไม่ฟังใคร แต่พระอาจารย์พูดทำไมถึงฟังก็ไม่รู้

แต่เสียตรงที่ว่า พอถึงเวลาอาตมาไม่อยู่แล้วเขาไม่ฟังใคร ก็คือคนที่เป็นอาจารย์ควรจะมีความรู้ความสามารถเหนือกว่า เพื่อที่จะได้สามารถควบคุมอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ได้ แต่ถึงเวลาลูกศิษย์
บางคนกลับมีดีกว่า"

เถรี 11-03-2016 16:11

"มีอยู่ครั้งหนึ่งสมัยเป็นฆราวาส ขับรถไปวัดวิเวกอาศรมที่ชลบุรี ก็ขับรถเข้าไปในวัดแล้วไปจอดที่ใต้ถุนศาลา พอเดินขึ้นศาลาไปแล้วตกใจ พระอาจารย์ท่านกำลังเทศน์อยู่ โยมนั่งฟังเป็นร้อย ๆ เงียบกริบเลย ท่านไม่ได้ใช้เครื่องกระจายเสียง ท่านพูดเสียงเบา ๆ อาตมารู้สึกว่าตัวเองสร้างเวรสร้างกรรมไว้อย่างสาหัส เพราะขับรถเข้าไป แล้วไปจอดอยู่ใต้ถุน พอขึ้นชั้นบนไปเพิ่งจะเห็น

ตอนช่วงนั้นหลวงปู่พม่าท่านยังอยู่ที่วัดวิเวกอาศรม ท่านก็คงจะอบรมสั่งสอนเขาเอาไว้อย่างดีเยี่ยมเลยถึงได้เงียบขนาดนั้น เพราะอาจารย์พูดเสียงค่อยมาก ถ้าไม่เงียบแล้วตั้งใจเงี่ยหูฟังนี่จะไม่ได้ยิน ก็เลยทำให้คนฟังธรรมต้องเงียบโดยอัตโนมัติ แล้วอยู่ ๆ ก็ดันมีไอ้บ้าคนหนึ่งขับรถเข้าไปใต้ถุนศาลา ...(หัวเราะ)... แล้วรถยนต์สมัยก่อนเสียงดังจะตายไป

งานนั้นต้องกราบขอขมาพระรัตนตรัยเป็นการใหญ่ ไม่ได้เจตนาที่จะไปรบกวนการปฏิบัติธรรมของเขาเลย ตั้งใจจะไปกราบโหรอรุณ เพราะท่านบวชอยู่วัดนั้น จะไปถามปัญหาบางอย่าง แต่ว่าโหรอรุณท่านก็คงจะทราบวาระ ท่านดูดวงให้ยาวยืดไปยันสิ้นชีวิตเลย แล้วให้จดรายละเอียดสำคัญ ๆ ไว้ ซึ่งก็เป็นไปตามที่ท่านบอกทั้งหมด เพราะว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านแนะนำ ท่านบอกว่าสุดยอดโหรของเมืองไทยต้องโหรอรุณ ท่านสามารถบอกได้ว่าเคยตายมาแล้ว รายละเอียดดีขนาดนั้น

ท่านบอกว่าอายุ ๕๑ ปี ๔ เดือน กับ ๓๘ วัน ชื่อเสียงจะเริ่มพุ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วเป็นคนที่แปลกมาก คือพอชื่อเสียงขึ้นแล้วไม่ตก จะขึ้นไปเรื่อย ๆ ท่านบอกว่าดาวอายุดีมาก เกินเลข ๘ สาธุ...ตรงนี้อย่าให้ทายถูกเลย...! แต่ท่านบอกว่ามีแนวโน้มจะเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต อาจจะต้องนั่งรถเข็น ถ้าหากว่าแก้ไขไม่ดี ซึ่งเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้หนักใจ เพราะว่าถ้าแก้ไขเต็มที่แล้วแก้ไม่ได้ ก็ปล่อยให้เป็นไป เพราะทำคนอื่นเอาไว้เยอะ

เสียดายลูกชายท่านที่ศึกษาวิชาโหรไว้ คือ ท่านอาจารย์เกรียงศักดิ์ หลังจากที่พ่อมรณภาพไม่นาน ท่านอาจารย์เกรียงศักดิ์ก็สึก ทั้ง ๆ ที่บวชมา ๒๐ กว่าพรรษา"

เถรี 11-03-2016 16:15

พระอาจารย์กล่าวว่า “พิธีพุทธาภิเษกเมื่อวานที่มาเกิน คือ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว อาตมาอาราธนาแค่เจ้าของมีดหมอ เพื่อนเจ้าของมีดหมอก็มาด้วย

หลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์องค์จริง บางทีความสงบสำรวมทำให้รู้สึกว่าเคร่งขรึมน่ากลัว แต่พออยู่ในความเป็นทิพย์แล้ว บางทีท่านก็เล่นกันสนุกเฮฮาเลย สมัยก่อนมีหลวงปู่ทอง วัดเขากบ คนเขาชอบลองวิชากับท่าน เข้ากุฏิไปเสียงตึงตังโครมครามอย่างกับวางมวยกัน สักพักอีกฝ่ายก็กระเด็นปลิวออกนอกหน้าต่าง ไปยืนหัวเราะอยู่ที่ลานวัด ไม่มีใครรู้ว่าท่านทำอะไรกัน แต่เสียงดังอย่างกับคนวางมวยกันเลย”

เถรี 11-03-2016 16:57

พระอาจารย์กล่าวว่า “บางงานพออาตมาไม่ได้รับไว้แล้วเหมือนอย่างกับเล่นตัว ความจริงไม่ได้เล่นตัว แต่ไม่ว่างจริง ๆ เพื่อนบางคนเขาก็พูดเจ็บ ๆ ว่า “วัดท่าขนุนรวยแล้ว งานอย่างนี้เขาไม่รับหรอก” ไม่ได้เกี่ยวกับรวยหรือไม่รวย ถ้าว่างก็จะไปให้ โดยเฉพาะชอบไปเรือนจำ ไปสอนให้นักโทษแหกคุก...!

ไปหลอกให้นักโทษฝึกกรรมฐาน บอกคาถาสะเดาะกลอนบ้าง บอกวิธีเหาะได้บ้าง พวกเขาชอบ ฟังกันหูผึ่ง เพียงแต่จะมีความพยายามทำสักกี่วันเท่านั้นแหละ คราวหน้าคงต้องไปสะเดาะกลอนให้ดูต่อหน้าต่อตา เพิ่มฉันทะให้เขาหน่อย ...(หัวเราะ)... ขืนไปทำรับประกันได้ว่า พัสดีจะไม่ให้เข้าเรือนจำอีกเลย โห...กว่าจะเข้าได้ ประตู ๓-๔ ชั้น เป็นประตูเหล็กใส่กุญแจตัวโต ๆ ๓ ดอก แล้วเรือนจำทองผาภูมิอัตรารองรับผู้ต้องขังคือ ๙๐๐ คน แต่ตะบี้ตะบันอยู่เข้าไปเกือบ ๑,๕๐๐ คน..!”

เถรี 11-03-2016 16:58

ถาม : การพกพระบรมสารีริกธาตุติดตัวสมควรไหมครับ ?
ตอบ : ได้...แต่ต้องระวังนิดหนึ่ง ถ้าเป็นวัตถุมงคลก็ถือว่าเป็นวัตถุมงคลสูงสุดเลย เพราะมาจากพระวรกายของพระพุทธเจ้าโดยตรง อย่าเผลอให้อยู่ที่ต่ำ ประเภทห้อยคอหรือว่าติดกระเป๋าเสื้อก็พอได้ แต่อย่าเผลอติดกระเป๋าเสื้อลงเครื่องซักผ้าไปก็แล้วกัน


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:21


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว