กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=65)
-   -   เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๖๐ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5826)

เถรี 10-10-2017 19:45

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อคืนเห็นอาวุธสมัยใหม่ จะเรียกว่าสมัยใหม่ก็ไม่ใช่ เขาพัฒนามานานแล้ว เป็นเลเซอร์ใช้ยิงอากาศยาน ยิงขีปนาวุธ ความเร็วเท่าความเร็วแสง ขีปนาวุธข้ามทวีปของคุณเร็วแค่ไหนก็หนีไม่พ้น แล้วยังไม่ติดด้วยสภาพอากาศ คิดว่าถ้ามีการรบใหญ่อีกครั้งหนึ่งจะต้องมีใช้อย่างแน่นอนเลย"

ถาม : ใช้ยิงทิ้ง ?
ตอบ : ใช่...ยิงทิ้ง สมมติว่าถ้าเครื่องบินมาเป็นฝูง ก็กวาดหมด ไม่ต้องขนพวกลูกกระสุนไปหรอก มีแต่กระบอกอย่างเดียว ขอให้ต่อไฟฟ้าและต่อคอมพิวเตอร์ได้เท่านั้นเอง ยกง่ายอย่างบอกไม่ถูก

เขาพัฒนาเสร็จแล้ว เมื่อคืนเห็นชัดมากเลย น่าจะประจำการเร็ว ๆ นี้แหละ ของบางอย่างพระไม่ควรจะรู้ก็ดันไปรู้

คิดว่าเกาหลีเหนือกำลังจะหาเรื่องเดือดร้อน ถือว่ามีขีปนาวุธยิงถึงเกาะกวม อีกฝ่ายหนึ่งตั้งไอ้นี่เตรียมไว้รอสอยขีปนาวุธอยู่บนเรือรบกลางทะเล

เถรี 10-10-2017 20:06

ถาม : พระที่เราห้อยคอ มีตำหนิ มีสนิม เราต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : แสดงว่าเป็นโลหะใช่ไหม ?

ถาม : หลวงพ่อวัดท่าซุงรุ่นก่อน ?
ตอบ : ถ้าเราไม่คิดจะจำหน่าย สามารถที่จะทำความสะอาดแล้วปิดทองถวาย เอาให้อร่ามไปเลย แต่ถ้าจะจำหน่าย พวกสนิมเป็นส่วนที่เขาพิจารณา ของอาตมาเองถ้าองค์ไหนจะใช้เองก็ไม่ฟังเสียงใครหรอก ปิดทองหมด

ถาม : ตอนแรกไม่แน่ใจว่าจะเป็นการปรามาสหรือเปล่า ถ้าเราจะทำความสะอาด ?
ตอบ : ทำได้เลย อาตมาเองทำความสะอาดพระมาตั้งแต่ก่อนบวช คือพี่ชายเขาสร้างบ้านแล้วไม่ได้กั้นตรงหน้าจั่ว เป็น ๒ ห้องติดกัน ทางด้านหนึ่งดันทำห้องครัว อีกด้านหนึ่งทำห้องพระ น้ำมันทำกับข้าวจากห้องครัว ไปเกาะองค์พระอยู่เป็นประจำ ประมาณ ๖ เดือน ๑ ปีอาตมาก็ต้องเอามาล้างทีหนึ่ง อุ้มพระสรงน้ำมาตั้งแต่ตอนนั้นแหละ

ถึงเวลาก็ละลายน้ำผงซักฟอกหนึ่งกะละมัง อุ้มพระลงได้ก็เอาแปรงขนอ่อนขัดเลย ทำความสะอาดเสร็จก็เช็ดแห้งเอาไปตากแดด เสร็จเรียบร้อยค่อยนิมนต์ขึ้นหิ้งใหม่ ไม่อย่างนั้นแล้วทนดูไม่ได้


ถาม : ไม่ต้องเอาไปเข้าพิธีใหม่ ?
ตอบ : ไม่ต้อง เราตั้งใจทำเป็นพุทธบูชา ไม่ต้องไปเข้าพิธีใหม่

เถรี 11-10-2017 09:15

ถาม : รอยพระพุทธบาทที่พระอาจารย์กำลังสร้างบันไดขึ้นไป มีมาแต่ดั้งเดิมหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : อาตมาเองได้รับคำแนะนำจากหลวงปู่สาย อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน บอกให้ขึ้นไปกราบ ท่านบอกว่านั่นของจริง ก็เลยขึ้นไปตั้งแต่สมัยเจ้าอาวาสคนก่อน คือ ท่านอาจารย์สมพงษ์ยังบวชไม่ถึง ๒ เดือนเต็ม หลังจากนั้นก็นำคนขึ้นไปบ่อย จนกระทั่งภาระเยอะก็ปล่อยให้พระที่ท่านเคยไปนำขึ้นไปแทน

ตั้งใจไว้เหมือนกันว่า ถ้างานส่วนอื่น ๆ เบาลงก็จะทำบันไดขึ้น นี่พอเบา ๆ ลงก็เริ่มแล้ว เดี๋ยวจะดูว่าถ้าลักษณะออกมาแข็งแรงสมใจนึก ก็ว่าจะทำบันไดขึ้นทางด้านพระพุทธเจติยคีรีวัดท่าขนุนแบบนั้นอีกอันหนึ่ง


ถาม : รอยอยู่ที่วัดท่าขนุนหรือครับ ?
ตอบ : อยู่ยอดเขาฝั่งตรงข้ามกับวัด ความจริงก็เป็นที่วัดเก่า แต่ช่วงท่านอาจารย์สมเด็จ เจ้าอาวาสรูปถัดจากหลวงปู่สาย ท่านไม่ได้สนใจเรื่องการบริหารวัด ทางราชการบอกให้ไปออกเอกสารสิทธิ์ ท่านก็ไม่ไป เลยโดนเขาออกเอกสารสิทธิ์ทับไปหมด จากที่วัดกลายเป็นที่ของเขา สร้างบันไดขึ้นไปยังเห็นเสาปูนที่ปักไว้ว่าเขตวัดท่าขนุนอยู่เลย

ถาม : แล้วเขายอมให้เราหรือครับ ?
ตอบ : โฉนดเป็นของเขาหมดแล้ว เราเองก็ไม่ได้ใส่ใจหรอก เจาะช่องกว้างให้บันไดขึ้นได้ก็ไปเลย จะได้ไม่ต้องไปทำลายป่า ถ้าไม่ใช่คนรู้แนวเอาอากาศยานไปถ่ายกันจริง ๆ ก็ไม่เห็นหรอกว่ามีบันได

ถาม : เป็นของแท้หรือครับ ?
ตอบ : รอยพระบาทผมไม่สงสัยหรอก ผมสงสัยตรงรอยที่ไม่ใช่พระบาท เป็นรอยขนาดประมาณรอยเท้าของพวกเรา เหยียบลึกเป็นนิ้วเลย ถัดจากรอยพระบาทไปหน่อยเป็นช่วงต่ำลงไปตระพักหนึ่ง เหยียบทิ้งเอาไว้ตั้งรอยหนึ่ง ไปมอง ๆ ดูแล้ว สุดยอดจริง ๆ เลย รอยเท้าประมาณของเราเอง

เถรี 11-10-2017 09:34

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันก่อนหลวงพ่อเจ้าคุณสุธีวราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท ส่งฎีกาให้ไปพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่น ๑๑๒ ปีหลวงพ่อกวย ที่วัดโฆสิตารามปีหน้า ท่านจองตัวแต่เนิ่น ๆ เลย...กลัวว่าจะไม่ได้

ถามว่านิมนต์ใครบ้าง ? ท่านก็บอกว่านิมนต์หลวงพ่อพร้า วัดโคกดอกไม้ อาตมาบอกว่า "นั่นแหละครับ ถ้าไม่นิมนต์ท่าน ผมไม่ไปเลยนะ" ตอนแรกเขาจะเอาหลวงพ่อแป๋ว วัดดาวเรืองด้วย แต่หลวงพ่อแป๋วมรณภาพไปแล้ว วันที่หลวงพ่อแป๋วมรณภาพ เช้านั้นท่านก็ไปถึงวัด บอกว่าไม่ทันแล้ว...หลวงปู่แป๋วไปแล้ว

ท่านบอกว่านิมนต์ได้ ๑๖ รูป ก็บอกว่า "ถ้ามีหลวงพ่อพร้าผมจะไปให้ แต่ถ้าไม่มีหลวงพ่อพร้าผมไม่ไปหรอก ถ้าสายตรงไม่อยู่...งานหนักจะตกที่ผม"

เถรี 11-10-2017 09:37

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีข่าวคนร้ายฆ่าทุบหัวหลวงพ่อบู่ กิตฺติญาโณ แบบนั้นถ้าจับได้ต้องตั้งข้อหาเจตนาฆ่าเลยนะ เพราะว่าเขาเตรียมการไปพร้อม เนื่องจากว่าหลวงปู่ท่านทำวัตถุมงคลแล้วเหนียว ยิงไม่ออก คนร้ายจึงเอาค้อนปอนด์พันผ้าอนามัยไปทุบ เตรียมการพร้อมขนาดนั้นตั้งใจฆ่าร้อยเปอร์เซ็นต์เลย

เพราะฉะนั้น...ถ้าไปทำสำนวนประเภทพลั้งมือฆ่านี่ไม่ใช่แน่ ต้องตั้งใจเลย เพราะเขากลัวว่าท่านเหนียวแล้วทำอะไรไม่ได้ จึงต้องล้างอาถรรพณ์ก่อน

หลวงปู่ท่านพกเงินเยอะ ต้องบอกว่าบางทีถึง ๔-๕ แสนบาท เป็นเรื่องที่อันตรายนะ เพราะว่าคนที่โลภก็มี ตามข่าวที่หนังสือพิมพ์ลงบอกว่าบางทีในย่ามท่านมีตั้ง ๔-๕ แสน โยมคงไปถวายหรือไม่ก็บูชาวัตถุมงคล แล้วพวกนี้ไปคลุกคลีจนกระทั่งรู้ช่องทางเข้าออก แล้วก็เตรียมตัวไปทุบท่านเพื่อชิงเงิน"

เถรี 12-10-2017 19:16

ถาม : อย่างหลวงปู่บู่ ที่ท่านทำได้เป็นเดรัจฉานวิชาหรือเปล่า ?
ตอบ : ใครจะไปรู้ว่าที่ท่านใช้เป็นพุทธศาสตร์หรือไสยศาสตร์ ? ถ้าเป็นไสยศาสตร์อย่างไรก็เสร็จเขา ถ้าเป็นสายของหลวงพ่อวัดท่าซุงนี้ไม่กลัว เพราะว่าไม่เสื่อม

แบบเดียวกับที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเล่าให้ฟัง ทางด้าน
ตลิ่งชันฝั่งธนบุรี แถววัดเรไร มีนักเลงใหญ่อยู่ท่านหนึ่ง ชื่อ ปาน พี่ปานแกหนังเหนียว นักเลงสมัยก่อนไม่ใช่พวกเกเรตีหัวหมาด่าแม่เจ๊ก แต่ส่วนใหญ่เป็นคนจริง

วันนั้นดวงพี่ปานแกจะเฮง ไปเที่ยวกลางคืนมาแล้วขากลับหิวน้ำ เดินผ่านสวนอ้อยก็เลยหักอ้อยเขามากินลำหนึ่ง ปรากฏว่าพวกเจ้าของไร่กรูออกมาทั้งบ้านเลย ทั้งทุบ ทั้งตี ทั้งฟัน ฟันเท่าไรก็ไม่เข้า ให้ผู้หญิงนั่งคร่อมหัวเอาไว้ก็ฟันไม่เข้า จนกระทั่งเขาสงสัยว่าใคร

พอจุดไฟส่องหน้า ถึงกับมือไม้อ่อน ประเภทมีดไม้หลุดจากมือไปเลย ไปเล่นเจ้าพ่อเสียแล้ว พี่ปานก็เลยถามเจ้าของไร่ที่เป็นคนจีนว่า เจ๊กทำไมทำอย่างนี้ ? กินอ้อยลำเดียวนี่เอาถึงตายเลยหรือ ? เขาบอกว่าไม่ใช่แค่ลำเดียว มีมาขโมยอยู่ทุกคืน จนกระทั่งแกเองแทบจะไม่เหลือเอาไว้ขาย แกก็เลยตั้งใจเรียกลูกเรียกหลานมาพร้อมใจกัน วันนี้ถ้ามาขโมยต้องเอากันให้ตายไปข้างหนึ่ง พี่ปานแกซวย...โผล่มาพอดี

นั่นถ้าไม่ใช่ของดีจริงนี่ตายจริง ๆ นะ ขนาดรู้ว่าฟันไม่เข้าแทงไม่เข้า เขาให้ผู้หญิงนั่งคร่อมหัวแกก็ยังไม่เป็นไร พี่ปานบอกว่า "เออ...ถ้าเข้าใจผิดก็ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน" นั่นเขานักเลงจริง

เถรี 12-10-2017 22:17

พระอาจารย์กล่าวว่า "โบราณเขาบอกว่า อยู่ใต้ฟ้าไม่ต้องกลัวฝน พูดง่าย ๆ คือเป็นธรรมชาติ

อะไรที่เป็นธรรมชาติ ถ้าเราเห็นเป็นธรรมดา จิตใจก็ไม่ดิ้นรน ไม่ต่อต้าน ปล่อยได้ วางได้ ก็จะมีความสุข แต่ส่วนใหญ่ที่เรามีความทุกข์ เพราะถ้าไม่ไปดิ้นรนต่อต้านในสิ่งที่เราไม่ชอบ ก็จะไปอยากได้ใคร่มีในสิ่งที่เราชอบ ก็จะมีแต่ความทุกข์"

เถรี 12-10-2017 22:30

ถาม : ถ้าคุณพ่อคุณแม่เสียชีวิต แล้วเราทำบุญในนามชื่อคุณพ่อคุณแม่ ?
ตอบ : ทำได้...แต่ทำแล้วตั้งใจบอกกล่าวให้ท่านโมทนาด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะได้แต่ชื่อ

เถรี 12-10-2017 22:37

พระอาจารย์กล่าวว่า "งานทอดกฐิน ๓ วัด แต่โยมทำบุญมาส่วนใหญ่จะระบุว่ากฐินวัดท่าขนุน ยอดเงินกฐินวัดท่าขนุนน่าจะนำโด่งเลย เดี๋ยวต้องรอตอนออกกรรมฐาน เดินบิณฑบาตแล้วเทลงไปรวมแบบปีที่แล้ว ไม่อย่างนั้นเดี๋ยววัดพุทธบริษัทกับเกาะพระฤๅษียอดเงินจะน้อย

ส่วนวัดพุทธมณฑลฯ ต้องไม่มีกฐินสัก ๗-๘ ปี เพราะว่าหลวงพ่อมณฑลท่านยังอยู่ ท่านถามพระครูบ่าวอยู่ตลอดเวลาว่า มีเงินมาให้ท่านทำนั่นทำนี่บ้างไหม ? ทั้งที่คุยกันตอนแรก ท่านบอกว่าเรื่องของการก่อสร้างท่านขอจัดการเอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ควรที่จะให้ท่านหากฐินเอง"

เถรี 12-10-2017 22:39

"ปีนี้กฐินวัดไหนยอดได้ล้านขึ้นถือว่าสุดยอดมาก เพราะว่าเศรษฐกิจไม่ดีเลย บรรดาเจ้าภาพกฐินที่เคยปวารณาเป็นเจ้าภาพวัดต่าง ๆ อยู่ส่วนใหญ่จะรับกันไม่ไหว

เห็นรัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจดีอย่างนั้น GDP ขึ้นอย่างนี้ เพราะฉะนั้น...ต้องให้รัฐบาลรับเป็นเจ้าภาพกฐินทุกวัด...! ดีอยู่ที่เดียว คนอื่นทั้งประเทศเขาไม่ได้ดีด้วย ในเมื่อรัฐบาลดีก็ควรที่จะให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพ

ออกไปข้างนอกชาวบ้านจะอดตาย วันก่อนอาตมาไปกินก๋วยเตี๋ยวซึ่งอร่อยที่สุดในโลก พวกเราลงไป ๔ คน ทั้งร้านมีลูกค้า ๔ คน แล้วมีคนในร้าน ๔ คนช่วยกันดูแลพวกเรา เป็นก๋วยเตี๋ยวอร่อยที่สุดที่อาตมาเคยฉันมา ยังมีลูกค้าอยู่แค่นั้นเอง"

เถรี 12-10-2017 23:03

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อคืนที่นี่ฝนกระหน่ำกระจาย พอไฟฟ้าดับอาตมาก็อธิษฐานธงมหาพิชัยสงครามครอบบ้านเอาไว้ ปรากฏว่ารุ่งเช้าเขาบอกว่าสถานีรถไฟฟ้าบางรักใหญ่ โดนพายุฝนเปิดเปิงหมดแล้ว ลืมนึกถึงสถานีรถไฟฟ้า เอาแต่บ้านหลังนี้หลังเดียว พวกวัสดุก่อสร้างที่ปลิวลมได้นี่อันตรายมาก โดยเฉพาะพวกโลหะต่าง ๆ ตัดคอคนได้ง่าย ๆ เลย"

เถรี 13-10-2017 22:32

ถาม : ถ้าต้องการได้พระโสดาบัน พระสกิทาคา เรื่องอารมณ์พระกรรมฐานต้องทำอย่างไรบ้าง โยมพยายามหา ?
ตอบ : ไม่ต้องไปหา เป็นอารมณ์ใจที่พูดเป็นภาษาคนได้ยาก แต่ให้รู้ว่าเราจะมีความรักในพระนิพพานอย่างจับจิตจับใจ ชนิดที่ไม่เคลื่อนคลายไปไหน แล้วก็ตัวตายดีกว่าศีลขาด

ถาม : นั่งไปแล้วมีอาการปวดหัว แน่นตรงจมูก ก็ให้ตามดูตามรู้หรือคะ ?
ตอบ : ไม่ต้องไปใส่ใจเลย คิดว่าเรามีหน้าที่ภาวนา ถึงตายลงไปตอนนี้เราก็ไปดีแน่ ส่วนใหญ่แล้วเป็นขันธมารที่มาขวาง พวกนี้กลัวคนบ้า พอเราสู้จริง ๆ ก็จะถอย

เถรี 13-10-2017 22:33

ถาม : ตอง นี่คือ สามหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ตองตัวนี้มาจากภาษาพม่า พม่าออกเสียงว่าตง ‘ติ๊ด นิด ตง เล งา’ คือ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า คราวนี้คนไทยออกเสียงไม่ถนัด ออกเสียงเป็นตอง ถ้าตองของพม่าคือภูเขา

เถรี 13-10-2017 22:37

พระอาจารย์เล่าว่า "หลวงพ่อสมเด็จพระสังฆราชวัดโพธิ์ ท่านเคารพหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน สุดชีวิตจิตใจ หลวงพ่อโหน่งบอกอย่างไรท่านก็ทำอย่างนั้น ไม่ฟังใครอื่นอีกด้วย

บางทีหลวงพ่อโหน่งบอกว่ายังไม่ได้ฤกษ์ พระอื่นนั่งรออยู่เป็นพัน ๆ ท่านก็รอหลวงพ่อโหน่ง เล่นเอาพวกที่ไม่เลื่อมใสหลวงพ่อโหน่งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปเยอะแล้ว แต่ท่านไม่สนใจ เพราะรู้ว่าหลวงพ่อโหน่งดีแค่ไหน"

เถรี 13-10-2017 22:42

"สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ด้วยบารมีของท่าน ทุกวันนี้วัดโพธิ์มีเจ้าคุณฟรี ๆ ๓ ตำแหน่ง เขาเรียกเจ้าคุณปลัดกลาง เจ้าคุณปลัดซ้าย เจ้าคุณปลัดขวา มีหน้าที่ดูแลพระอัฐิของพระองค์ท่าน

เป็นเจ้าคุณ ๓ รูปเพื่อเฝ้าดูแลอัฐิท่านอย่างเดียว ก็คือ พระทักษิณคณิสร พระอุดรคณารักษ์ และพระสมุหวรคณิสสรสิทธิการ ๓ ตำแหน่งนี้จะเป็นที่อื่นไม่ได้ เพราะว่าเป็นตำแหน่งฐานานุกรมเฉพาะของ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส

ถ้าสงสัยว่าท่านเป็นใคร ก็คือผู้แต่งปฐมสมโพธิกถาที่พวกเราเรียนกันแทบเป็นแทบตายทั้ง ๒๙ ปริเฉทนั่นแหละ"

เถรี 13-10-2017 22:50

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวานนี้ไปพุทธาภิเษกที่กองทุนหลวงปู่ปาน (ธุดงคสถานสุทธาวงศ์มงคลราชพรหมปัญโญอนุสรณ์) อำเภอบางปลาม้า พอดีว่าทางนั้นเขาช่วยทำพระพุทธรูปแกะจากไม้โพธิ์นิพพาน บรรจุดวงมหาพิชัยสงครามให้ คราวนี้ทุกอย่างเขาลงไว้หมดแล้ว ยกเว้นเลขดวงให้เจ้าของลงเอง แล้วพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา อาตมาก็ทิ้งดวงอีแปะมาเสียนาน แต่เป็นเรื่องอัศจรรย์ว่า ทุกครั้งจะมีเหตุให้ต้องใช้ก่อนล่วงหน้าประมาณ ๒-๓ วัน แล้วเหตุการณ์จริงจะเกิดขึ้น

พอดีว่าต้องไปพุทธาภิเษกที่วัดบึงลาดสวาย ทางด้านเจ้าภาพท่านทำเทียนหนุนดวงให้ ก็เลยลงแผ่นดวงเอาไว้ก่อน อีกไม่กี่วันให้มาจารดวงพิชัยสงคราม จึงกลายเป็นเรื่องง่าย ก็ตัวเลขเก่านั่นแหละ วันเดือนปีเกิดของเราเอง ทิ้งมาตั้ง ๓๐ ปีได้แล้ว ไม่ได้ใช้เลย พวกลงเลข ลงยันต์ หาราศีเกิด

เขาเปิดตำราคำนวณจากคอมพิวเตอร์ที่วัดบึงลาดสวาย ปรากฏว่าลงผิด เมื่อเห็นว่าลงผิดก็เลยทักท้วงเขา บอกว่าดวงของอาตมาลัคนา ๒๓ องศาราศีตุลย์ ของคุณออกมาเป็นราศีกันย์ คอมพิวเตอร์คำนวณผิด แสดงว่าคอมพิวเตอร์คำนวณได้เฉพาะส่วนใหญ่เท่านั้น ไม่ได้ดูประเภท ๑๐ ลัคนา พอเขาไม่ได้ดูละเอียด ก็ได้แค่รายส่วนหยาบ ๆ เท่านั้น ลงไปไม่ถึงเหมือนกับที่คำนวณเอง"

เถรี 13-10-2017 22:52

"ถ้าอย่าง ๑๐ ลัคนาของโหรอรุณ เทศถมทรัพย์ ถ้ารู้ที่เกิดได้ยิ่งดี จะแม่นสุด ๆ เลย โหรอรุณท่านถอดดวงให้อาตมาสมัยโน้นเสร็จ ท่านบอกดวงไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขา ปกติดวงคนมีขึ้น ๆ ลง ๆ ของอาตมาพอถึงอายุ ๕๔ แล้วขึ้นฉิว ขึ้นไปเฉย ๆ ไม่มีลง แต่ท่านบอกว่าดาวอาทิตย์ดีมาก อายุยืน...น่าจะถึงเลข ๘ แต่มีสิทธิ์เป็นอัมพาต ท่านว่าอย่างนั้น

ไม่เป็นไร...สมัยนี้เก้าอี้ไฟฟ้ามีเยอะแยะ อาตมาหากังวลไม่ พระที่วัดมีตั้ง ๓๐-๔๐ รูป ผลัดเวรกันเข็นคนละวันยังเกินเดือนเลย...!"

เถรี 13-10-2017 22:59

พระอาจารย์เล่าว่า "วันที่ ๑๐ กันยายน ความจริงแล้วพระครูพิสุทธิ์กาญจนาภรณ์ เจ้าคณะตำบลท่าขนุน เขต ๑ ท่านนิมนต์ไปงานฉลองสัญญาบัตรพัดยศ พระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโทของท่าน ไปถึงในงานเจอหลวงพ่อเจ้าคุณปัญญา เจ้าคณะจังหวัด ท่านผลักตัวขึ้นเวทีไปเลย กราบเรียนท่านว่า เขานิมนต์ผมมาเจริญชัยมงคลคาถาครับ ท่านบอกว่า นั่นแหละ...แต่ว่าให้ขึ้นไปพุทธาภิเษกแทนเจ้าคณะจังหวัดที ท่านรู้ตัวว่าสู้เขาไม่ไหว ผลักอาจารย์เล็กไปขึ้นแท่นแทน

ในนั้นก็มีหลวงพ่อเสงี่ยม วัดบ้านทวน หลวงพ่อชุบ วัดวังกระแจะ หลวงพ่อสนองชาติ วัดเย็นสนิทธรรมาราม ไปนั่งตรงข้ามกับหลวงพ่อเสงี่ยม เจ้าประคุณเอ๋ย...ท่านกระแทกมาแต่ละทีอย่างกับคลื่นทะเล สงสารท่าน ลักษณะนี้เป็นกำลังส่วนตัว ลักษณะการพุทธาภิเษกแบบกำลังส่วนตัว ถ้าทุ่มแบบหลวงพ่อเสงี่ยม รับประกันว่ากลับวัดไปนี่ต้องนอนพักเป็นวันเลย

ยังชอบใจว่าหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านสอนให้ใช้วิธีขอบารมีพระ ขอพรหม ขอเทวดาช่วย พวกเราจึงไม่เหนื่อยมากเหมือนกับที่อื่นเขา ผลที่ได้ก็ยั่งยืนอีกต่างหาก"

เถรี 13-10-2017 23:01

"ส่วนใหญ่แล้วสายอื่นมามักจะใช้กำลังสมาธิตัวเอง บางท่านนี่ประเภทอัดมาตูม ๆ แบบไม่เลี้ยง ถ้าใครอยู่ในวงกำลังไม่ดีนี่ก็หงายผลึ่งไปเลย แต่เห็นใจว่าท่านอายุมากแล้ว กะว่ากลับวัดไปก็คงนอนเป็นวันกว่าจะฟื้น

ส่วนหลวงพ่อชุบ วัดวังกระแจะ ต้องให้ลูกศิษย์ตัวโต ๆ อยู่ใกล้ ๆ เวลาปีติขึ้นแล้วท่านจะโยก ลูกศิษย์ต้องคอยกดเอาไว้ ก็ยังเป็นห่วงท่านอยู่ว่าเมื่อไรจะข้ามได้เสียที ลูกศิษย์ก็กลัวพระอาจารย์จะเป็นอันตราย ไม่ได้รู้ว่าเรื่องของปีติไม่มีอันตราย เพราะว่ากำลังของสมาธิคุ้มได้ ถ้าไม่ปล่อยให้ท่านผ่านตรงนั้น ก็ไม่ต้องทรงฌานได้
กันเสียที

แต่ว่าในเรื่องของเวทมนตร์คาถา แค่ปีตินี่กำลังก็เหลือเฟือแล้ว
พอใช้งานได้เลย พอถึงเวลาท่านโยกลูกศิษย์ก็กด จึงไม่ต้องผ่านกันเสียที"

เถรี 13-10-2017 23:10

ถาม : ถ้าไม่กดไว้ท่านจะลอยขึ้นหรือคะ ?
ตอบ : ท่านก็คงเด้งดึ๋ง ๆ กระโดดโลดเต้นแบบอุเพ็งคาปีติ แบบเดียวกับหลวงพ่อแขก วัดสุนทรประดิษฐ์ ที่พิษณุโลก อยู่ ๆ ก็เด้งจากธรรมาสน์ลงบนพื้นดังตุ้บ..! ส่วนใหญ่ทางไสยศาสตร์จะได้เปรียบตรงที่ไม่ต้องใช้กำลังสมาธิสูง เพราะจะเห็นผลง่าย แต่ถ้าเป็นเรื่องของการตัดกิเลสตามแบบของพุทธศาสตร์อย่างต่ำสุดต้องเป็นปฐมฌานละเอียดขึ้นไป จึงจะเข้าถึงความเป็นพระโสดาบันได้ ไม่อย่างนั้นกำลังจะไม่พอสู้กิเลส

เขาเลี้ยวไปหาไสยศาสตร์กันเยอะเพราะง่ายกว่า พอถึงเวลาเรื่องของ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เข้ามาง่ายกว่า แล้วส่วนใหญ่ก็ติดอยู่แค่นั้น ไม่ต้องไปไหนกัน แต่ว่าหลวงปู่หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์หลายท่านต่อยอดไปได้อีก อย่างหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกอาตมาแรก ๆ ว่า “ไอ้ที่สอนไปนั่นไสยศาสตร์ล้วน ๆ คนอื่นเขาว่าอย่างนั้นนะ เรื่องเวทมนตร์คาถาถือเป็นไสยศาสตร์หมด แต่สำคัญที่ว่าเอ็งนึกถึงใคร นึกถึงพระพุทธเจ้าก็เป็นพุทธศาสตร์”

เถรี 17-10-2017 09:03

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวานนี้ตั้งแต่ตี ๔ ยันบ่าย ๒ โมง หลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอแม่ทะท่านโทรมา จนอาตมาไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนเลย เพราะว่าพระที่วัดรูปหนึ่งก่อเรื่อง ท่านชื่อภูผา ตอนที่ภูผาเป็นนาคอยู่เก็บอาการดีมาก พอบวชเสร็จก็ไปกะหลีกะหลอกับสามเณร อาตมาก็เลยเตือนเข้าไปแรง ๆ หวังจะให้ท่านเปลี่ยนความประพฤติ ปรากฏว่าเตือนไม่ได้ ท่านหนีออกจากวัดทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะเข้าพรรษา คราวนี้ไปก่อกวนที่อำเภอแม่ทะ

พอเขาถามได้ความ เจ้าคณะอำเภอท่านเลยโทรมา อาตมาบอกว่า “หลวงพ่อจับสึกไปเลยครับ ผมจะจับสึก ท่านรู้ตัว...หนีออกจากวัดทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะเข้าพรรษา” ปรากฏว่าท่านก็จับสึก บังคับให้เขาลบ Facebook ที่เอารูปพวกเณรอะไรต่อมิอะไรลงไว้เยอะแยะ เพราะว่าเขาเห็นสามเณรคนไหนหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูก็ไปถ่ายรูปเอาไว้

ปรากฏว่าภูผาทำตามโดยดีทุกอย่าง แต่หลังจากนั้น ๑ ชั่วโมงต่อมา หลวงพ่อท่านโมโหไฟแลบเลย ท่านบอกให้ลูกศิษย์ไปดู ภูผาลงรูปใหม่อีกแล้ว ท่านก็เลยโทรเช็คว่าภูผาไปทางด้านไหน ปรากฏนั่งรถทัวร์ลงมาทางแพร่ ท่านจึงบอกให้ด่านตำรวจทางหลวงที่เด่นชัยกักตัวไว้ จะไปเจรจากับเขาหน่อย ท่านถามว่า "ผมจะเล่นงานอย่างไรดี ?" ก็กราบเรียนว่า "หลวงพ่อเล่นได้เต็มที่เลยครับ เขาทำผิด พรบ. คอมพิวเตอร์แล้ว"

ท่านบอกว่าเกิดมาไม่เคยเจอใครดื้อด้านขนาดนี้ ท่านจะใช้คำว่าหน้าด้านก็ไม่ได้ ท่านใช้ภาษาแบบพระว่าดื้อด้าน ก็ขนาดอาตมาเตือนแรง ๆ ท่ามกลางสงฆ์ เขาบอกว่าหลวงพ่อประจานผม ผมจะฟ้องสำนักพุทธฯ อาตมาบอกว่า "เอ็งรีบไปฟ้องเลย สำนักพุทธฯ เขาจะได้ซ้ำอีกดอกหนึ่ง เพราะนี่เป็นหน้าที่เจ้าอาวาส"

เรื่องพวกนี้พระเราไม่สามารถที่จะคัดกรองได้ เนื่องจากว่าตอนเป็นนาคเขาเก็บอาการดีมาก แต่พอบวชพระแล้ว เห็นว่าตัวเองผ่านด่านแล้วก็ปล่อยอาการเลย"

เถรี 17-10-2017 09:06

"ยังไม่รู้เหมือนกันว่าวันนี้ท่านจะโทรมาอีกหรือเปล่า ? สงสารหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอจริง ๆ ท่านเพิ่งจะเกิดเรื่องไปหมาด ๆ แต่ว่าเป็นในเขตปกครอง ก็คือเลขานุการเจ้าคณะตำบลท่านหนึ่ง ไปเมาแอ่นอยู่ในตลาด เมาชนิดหลับคาโต๊ะ แล้วมีคนถ่ายรูปไปลงหนังสือพิมพ์ คราวนี้เจ้าคณะตำบลท่านซื่อมาก บอกว่าการที่กินเหล้าเป็นโลกวัชชะ เป็นแค่อาบัติปาจิตตีย์ ปลงอาบัติก็จบแล้ว คราวนี้ก็แย่เลยสิ...สื่อก็ตีตายเลย เพราะเรื่องนี้เป็นโลกวัชชะที่โลกติเตียน ในสายตาชาวบ้านหนักกว่าอาบัติปาราชิกอีก

เจ้าคณะตำบลท่านก็ว่าตามพระธรรมวินัย คนก็หาว่าไปปกป้องพวกเดียวกันเอง เจ้าคณะอำเภอท่านเลยซวยไปด้วย คราวนี้พอมาเจอเรื่องทิดภูผาไปก่อกวนงานของท่านเข้า ท่านจัดงานประจำปีอยู่ แล้วสามเณรเป็นร้อยเลย ท่านเองก็เห็นเขาเอารูปไปลงลักษณะล่อแหลม ทำให้ท่านเสียหาย จึงสั่งให้ลบ ลบเสร็จพอพ้นวัดไปก็เอาลงใหม่อีก

ท่านเพิ่งจะโดนหนังสือพิมพ์ถล่มมา เจอเรื่องนี้เข้าไปอีกก็
เลยโมโหใหญ่ ตอนแรกท่านบอกว่าท่านอยู่วัดศรีอ้วน อาตมาก็คิดว่าตูฟังผิดหรือเปล่าวะ ? ตอนหลังเลยไปหาในอินเตอร์เน็ตดู อ๋อ...อยู่วัดศรีอ้วนจริง ๆ วัดชื่อประหลาดดีเหมือนกัน"

เถรี 17-10-2017 09:08

"เพิ่งจะโดนไปดอกหนึ่งเต็ม ๆ อยู่ ๆ ก็มาโดนอีกเรื่อง เป็นเราก็คงคิดว่าปีนี้ตูพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกหรือเปล่าวะ ? โบราณเขาว่า ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก

แต่เรื่องของสื่อมวลชนเราเสียอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ตอนลงข่าวถล่มเขาเสียเต็มที่ แต่พอท่านจับเลขานุการเจ้าคณะตำบลสึก เขาไม่ลงข่าวให้ ก็กลายเป็นเสียอยู่ฝ่ายเดียวว่าพระสงฆ์ปกป้องกันเอง แล้วส่วนใหญ่แล้วพระเราก็เกรงใจเพื่อนพระด้วยกัน ว่าเขาเป็นพระอุปัชฌาย์บวชมา ก็อุตส่าห์โทรมาถามว่าจะให้จัดการอย่างไร ? อาตมาบอกว่าหลวงพ่อไม่ต้องห่วง ใส่ได้เต็มที่เลย ผมก็จะสึกแต่ดันหนีมาก่อน ตอนเช้าออกไม่บิณฑบาต ประเภทหอบของหนีไปเลย เรียกว่าไปแบบขาดพรรษา ออกจากวัดยังไม่ทันจะได้อรุณเลย"

เถรี 17-10-2017 09:11

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลานของอาตมาคนหนึ่ง อายุขวบกว่าแล้วไม่ยอมพูด แม่เลยแนะนำให้พี่เขาเอาเขียดไปตบปาก โอ้โฮ...คราวนี้พูดไม่หยุด ไม่รู้ว่าแก้กันได้อย่างไร แสดงว่าโบราณเขาก็ช่างสังเกต ว่าเขียดร้องแอ๊ด ๆ ๆ อยู่ตลอดเวลา

แต่ว่าเรื่องหนึ่งที่หาเหตุหาผลไม่ได้ก็คือ หลานคนหนึ่งเป็นประเภทโคลิก ร้องร้อยวันพวกนั้น ร้องแล้วเบ่งท้องจนสะดือโป่งขึ้นมาเป็นลูกใสแหน็ว แม่เขาก็ตกใจ แต่คุณยายเฉยมากเลย คุณยายบอกให้ไปกลั้นใจเด็ดมะเขือเปราะมาลูกหนึ่ง มาถึงก็มาวนซ้าย ๓ รอบ แล้วก็เอาไปวางทิ้งไว้ พอมะเขือเหี่ยวสะดือก็ยุบ ที่ว่าตลกก็คือ ไม่มีเหตุไม่มีผลรองรับเลย แต่เป็นไปได้ สะดือโป่งอย่างกับลูกปิงปอง ไม่น่าที่จะยุบได้"

เถรี 17-10-2017 09:17

"มีอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ถ้าอยู่ ๆ เด็กเจ็บไข้โดยไม่มีสาเหตุ สมัยอาตมาผู้ใหญ่เขาจะทำกระทงไปส่งที่ทางสามแพร่ง เขาบอกว่าโดนผีเกาะมา เพราะฉะนั้น...ต้องเอาข้าวปลาอาหารไปให้ผีกิน แล้วก็ขอให้ไปเสีย แปลกมากเลยทำวันนั้นก็หายวันนั้น ไม่อย่างนั้นก็หมอรักษาไปเถอะ ฉีดยากินยาเท่าไรไม่หายสักที เป็นไข้อยู่ตลอดเวลา

อาตมาเจอกับตัวเองมา ๒-๓ ครั้ง ท่านบอกว่าเด็ก ๆ รับกระแสพวกนี้ง่าย แล้วไปเล่นบริเวณที่มีพวกนี้อยู่ เขาจึงถือโอกาสทำเอา อาตมาเคยส่งกระทงหลายครั้ง ยังคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้แต่ก็เป็นไปแล้ว เพราะว่าส่งเสร็จก็หายทันที"

เถรี 17-10-2017 20:48

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนไปอยู่ที่เกาะพระฤๅษีใหม่ ๆ มีอยู่คืนหนึ่งได้ยินเสียงปลา ก็สงสัยว่าพ้นยุคพ้นสมัยแล้วยังมีอีกหรือ ? ปรากฏว่าพอลงไปส่องไฟดู ปลากระสูบขีดมาเต็มลำห้วยเลย จะขึ้นมาวางไข่ เบียดกันขึ้นมาแน่นไปหมด อาตมาเห็นก็เลยเอาอาหารมาเลี้ยง ปลากระสูบเขาจะมารวมกันตอนที่วางไข่ เลิกวางไข่แล้วก็ตัวใครตัวมัน

คราวนี้พวกแก่นแก้วในหมู่บ้านสะพานลาวมาถึงก็ “อาจารย์ครับ...ขอดำปลาวันหนึ่ง” อาตมาก็ว่า "อะไรวะ ? ลำห้วยยาวตั้งหลาย ๑๐ กิโลเมตร ต้องจำเพาะเจาะจงมาขอดำปลาหน้าวัด" เขาบอกว่า “ที่อื่นผมหาหมดแล้วครับ เหลือแต่ตรงนี้” อาตมาเลยก็ให้มะเหงกไปแทน เพราะว่าเราซื้ออาหารปลาเลี้ยงทีเป็นกระสอบ ๆ จนตัวยาวเป็นแขนเลย

เวลาตัวโตมาก ๆ เกล็ดเขาจะเป็นสีเขียวอมฟ้า ก็ยังมีคนมาแนะนำอีก บอกว่าปลาพลวง ปลากระสูบ ถ้าทำกินอย่าทิ้งเกล็ดนะ เอาเกล็ดมาทอดกิน อร่อยอย่าบอกใครเลย ช่างเข้าใจหากินนะ มุ่งร้ายหมายขวัญเฉพาะที่พระเลี้ยงเอาไว้เสียด้วย"

เถรี 18-10-2017 09:22

พระอาจารย์ถามโยม "รู้ไหมว่าบรรพบุรุษแต่เดิมของเราแซ่อะไร ? (อยานนท์ค่ะ) นั่นเป็นแซ่ น่าจะเป็นแซ่เถี่ยในภาษาจีนกลาง หรือแซ่ทิในภาษาแต้จิ๋ว อย (อะ-ยะ) แปลว่าเหล็ก อานนท์คือความพอใจ ความยินดี แสดงว่ามาจากแซ่เถี่ย ที่แต้จิ๋วเรียกแซ่ทิ แปลว่าเหล็ก อย่าลืมว่า เงิน ทอง นาก เหล็ก จีนเขาเอามาเป็นแซ่หมด พอไม่มีแซ่ก็เอาประเภทช้าง ม้า ไก่ ห่าน มาเป็นแซ่

อย แปลว่า เหล็ก ที่กลอนเขาว่า ‘ผาณิตผิชิดมด ฤ จะอดบ่อาจจะมี แม่เหล็ก ฤ เหล็กดี อยยั่วก็พัวก็พัน’ (อิลราชคำฉันท์) โบราณเขาเก่ง เขารวยศัพท์ อย แปลว่า เหล็ก แม่เหล็กกับเหล็กก็ประเภทดูดติดกันเอง

อย เหล็ก, ปย น้ำนม, วย วัย, สิร หัว พวกนี้เป็นคำศัพท์ชุดเดียวกัน"

เถรี 18-10-2017 09:36

พระอาจารย์กล่าวว่า "โรงเรียนทองผาภูมิวิทยาขอความช่วยเหลือมา เนื่องจากเป็นงานใหญ่ พูดง่าย ๆ ว่าต้องปรับปรุงทั้งโรงเรียน ก็ค่อย ๆ เก็บเงินไป แล้วก็โดนโรงเรียนบ้านจันเดย์ตัดหน้าไปด้วยห้องสมุด ๑ หลัง จากโรงเรียนบ้านจันเดย์มา โรงเรียนวัดป่าถ้ำภูเตยก็มาขอห้องน้ำ ๑ ชุด ก็คิดว่าหมดแล้ว อยู่ ๆ กศน. ทองผาภูมิ ขออาคาร ๑ หลัง แล้ววันทอดผ้าป่าของ กศน. ผอ.โรงเรียนทองผาภูมิดันไป แกคงช้ำใจเป็นบ้า ขอก่อนได้ทีหลัง แล้วไม่รู้ว่าคิวไหนด้วย..!

งานใหญ่ก็ต้องรอ...ใช่ไหม ? รอกว่าเงินจะครบ งานเล็กถือว่าของเขาใช้งบน้อยกว่าก็โฉบไปเลย ตอนนี้ทางด้านโรงเรียนบ้านอู่ล่องต้องการห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ ๑ หลัง

อาตมาละเหนื่อยใจแทน โครงการเขาใหญ่เกิน ทำให้อาตมาต้องเสียเวลาสะสมเงิน แต่ช่วงที่สะสมเงินของเขาไม่พอ ที่อื่นเขาเห็นว่าพอ เขาก็เอาก่อนเลย"

เถรี 18-10-2017 19:09

ถาม : ช่วงกฐินผมโดนบังคับให้ไปเที่ยว ไม่ทราบว่าผมจะฝากเงินไปทำบุญดี หรือว่าควรจะมาถวายที่นี่ดีครับ ?
ตอบ : ตัดสินใจเอาเอง ทำไมไม่มีใครบังคับอาตมาไปเที่ยวบ้างวะ...!

เถรี 18-10-2017 19:38

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของสภาพร่างกาย เป็นไปตามหลักอนิจจังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ก็คือ เกิดขึ้น แปรปรวน แล้วก็สลายไป ยิ่งอายุมากการแปรปรวนของธาตุขันธ์ก็ยิ่งมาก ธาตุ ๔ บกพร่องไปตามอายุ

ปีที่ผ่านมาของอาตมาธาตุดินเหลือศูนย์ ปกติขาดขนาดนั้นน่าจะตายแล้ว ยังอุตส่าห์อยู่ได้ หมอไปทำยาคูณธาตุมาให้ ฉันลงไปแล้วรู้สึกแข็งแรงขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ปีนี้ยังไม่รู้ว่าขาดอะไรบ้าง

เดี๋ยวนี้สมุนไพรใบยาก็หายาก ป่าเขาไม่ได้เพียงลดน้อยลงเท่านั้น แม้กระทั่งพืชพรรณต่าง ๆ ก็ลดน้อยลง หายากขึ้น เมื่อวันก่อนมาถึงแวะร้านก๋วยเตี๋ยวฉันเพล ไปเจอหญ้าเกล็ดหอย ยังแปลกใจว่าร้านนี้รู้จักของดีหรือเปล่า ? ขึ้นอยู่หน้าร้านเขาเอง แล้วก็ไปหาหญ้าแพรกไว้ทำยา แถววัดกว่าจะดึงได้สักกำมือหนึ่งก็ครึ่งค่อนวัน แต่ตรงหน้าร้านตรงนั้นขยุ้มไปทีเดียวได้หนึ่งกำมือเลย"

เถรี 18-10-2017 19:44

ถาม : ควายชอบกินหญ้าแพรกหรือเปล่า ?
ตอบ : ไม่ค่อยกิน ควายอยากกินที่สุดก็คือข้าว แต่โดนห้ามทุกที ถ้าเป็นพวกหญ้าขนนี่ควายจะชอบ ลองเอาเมล็ดข้าวโพดหรือข้าวเปลือกให้ควายกินดูสิ ทุกตัวกินจนลืมตายเลย แล้วยิ่งถ้าเอาแช่น้ำเกลือสักหน่อยแล้วค่อยไปให้กิน จะยืนกินอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหนจนกว่าจะหมด

ถาม : ม้าละคะ ?
ตอบ : ม้าก็ชอบ สมัยก่อนเวลาเขาจะเอาม้าไปแข่ง ก่อนหน้านั้น ๒ วัน เขาจะเอารากระย่อมหมักกับข้าวเปลือกแล้วก็ให้ม้ากิน ระย่อมเป็นยาพิษ ถ้าคนกินแล้วถึงตาย แต่ถ้าม้ากินจะเป็นยาถ่าย ถ่ายหมดแล้วตัวเบา ม้าจะวิ่งเร็วกว่าปกติ

ถาม : ม้ากินผลไม้ไหมคะ ?
ตอบ : กินผลไม้เกือบทุกชนิด

เถรี 18-10-2017 19:49

มีอยู่วันหนึ่งไปกราบหลวงปู่วัดเขื่อนท่าทุ่งนา ท่านมีวัวอยู่ตัวหนึ่ง ชาวบ้านเขาเอามาปล่อย ท่านก็เลี้ยงเสียอ้วน เจ้าวัวก็คงเบื่อ กินนั่นกินนี่แล้วแต่เขาจะให้ วันนั้นอาตมาไปถึง พอดีได้มะม่วงสุกไปถุงใหญ่ วัวแทบจะกินถุงลงไปด้วย แม้แต่เมล็ดก็กลืนลงไปด้วย ไม่ยอมคายเลย

ส่วนลูกวัวจามรีที่ทิเบตนั่นอาตมาเอาผัดผักไปให้กิน อาตมากินแล้วเหลือ คนทิเบตติดนิสัยคนจีนอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ทำอาหารเลี้ยงแขกนี่จะใส่กับข้าวเต็มที่เลย ๑๐ กว่าอย่าง ไม่ใช่ว่าไม่อร่อยนะ แต่ไม่มีปัญญาจะกิน ก็เลยเอาผัดผักที่เหลือไปเลี้ยงลูกวัว กระทั่งมือลูกวัวยังจะกินลงไปด้วยเลย

พวกสัตว์เขาต้องการพวกธาตุเกลือ แต่ไม่ค่อยมีให้ ถ้าโดยธรรมชาติก็ต้องไปกินดินโป่ง คราวนี้ที่เขาอยู่กับคน ถ้าเรารู้ หาให้เขาได้ เขาก็ได้กิน ถ้าหากไม่รู้เขาก็ไม่ได้กิน คราวนี้ผัดผักมีรสเค็ม ๆ เขากินกระจายเลย เพราะฉะนั้น...ถ้าเลี้ยงวัว เลี้ยงควาย เลี้ยงกวาง เลี้ยงอะไรก็ตาม ถึงเวลาเอาเกลือละลายน้ำให้เขากินบ้าง ใส่ลงไปสัก ๔-๕ ช้อนก็ได้ ละลายน้ำสักถังหนึ่ง ส่งไปเถอะ...เขาดูดหมดถังเลย

เถรี 18-10-2017 20:01

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่องานนิโรธกรรมครูบาวิฑูรย์เกิดอุบัติเหตุ หลวงปู่ครูบาบุญยังตกเสลี่ยง ทหารชุดนี้ต้องบอกว่าไม่เคยแบกเสลี่ยง ยืน ขึ้นไม่พร้อมกัน พอขึ้นไม่พร้อมกันก็เอียงไปข้างหนึ่ง อาตมาเองมือไวหน่อย คว้าด้านข้างติด แต่หลวงปู่ท่านอายุมากแล้ว ปฏิกิริยาช้าหน่อยก็เลยตก แล้วที่เจ้ากรรมจริง ๆ ก็คือ เสลี่ยงของอาตมาขึ้นมาครึ่งทางแล้ว ก็เลยทำให้หลวงปู่ท่านหัวฟาดกับเสลี่ยงก่อนที่จะร่วงลงไป ต้องส่งไปโรงพยาบาล ทำ CT สแกนแล้วไม่มีอันตรายอะไร แต่หัวโนเท่าซาลาเปาลูกหนึ่ง แตกก็ไม่แตก ฉีกก็ไม่ฉีก มีแค่รอยถลอกหน่อยหนึ่ง

อาตมาก็คิดว่า เออ...เรารอดแล้ว ที่ไหนได้...กลับไปวัดล้มข้างเดียวกันเลย ขึ้นไปบนดาดฟ้าที่เป็นหมู่เรือนไทย เขาเอาสีลงไว้แทนการปูกระเบื้อง แล้วสีพวกนี้เวลาโดนน้ำฝนจะลื่นมาก ไถลล้มฟาดลงด้านเดียวกัน แต่ยังโชคดีว่าล้มเป็นก็เลยไม่เจ็บ"

เถรี 18-10-2017 20:13

"สรุปว่าถ้าเวลากรรมมาหานี่...ไม่ต้องห่วง...เขาเอาจนได้แหละ เลี่ยงอย่างไรก็เลี่ยงไม่พ้น พอดีหลวงพ่อเจ้าคุณพระสุธีวราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท ท่านมาส่งฎีกานิมนต์ให้ไปพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่น ๑๑๒ ปี หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ช่วงเดือนมกราคม อาตมาก็เลยออกไปต้อนรับท่าน ปรากฏว่าท่านขอขึ้นไปดูหมู่เรือนไทยข้างบน พอเดินตามขึ้นไปก็ลื่นพรืด ล้มต่อหน้าต่อตา ก็ไม่มีอะไรนอกจากจีวรเปียกเพราะว่าฝนเพิ่งตกใหม่ ๆ

ยังดีว่างานของท่านวันที่ ๒๑ มกราคม แล้วงานของครูบาเหนือชัยวันที่ ๒๐ มกราคม ลงจากเชียงรายมาก็เข้าสรรค์บุรี มหาฐิติวัตร ลูกศิษย์ท่านเจ้าคุณถามว่า จะพักที่วัดพระบรมธาตุหรือว่าจะไปพักที่วัดโฆสิตาราม ท่านจะได้เตรียมที่พักไว้ให้ ก็แจ้งท่านไปว่าไม่รบกวนหรอก เพราะว่าโดยปกติแล้วแถวนั้นที่พักเยอะ ไปตรงไหนสะดวกก็พักตรงนั้นแหละ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะเสียเวลาเจ้าของถิ่นต้องมานั่งรอ

พระมหาฐิติวัตรจบปริญญาเอกหลังอาตมา ๒ รุ่น ก่อนหน้านี้ก็สอนอยู่ที่วัดป่าเลไลยก์ สอนอยู่ ๕ ปี จบปริญญาเอกแล้วไม่ได้สอนต่อ กลับไปทำงานรับใช้เจ้านาย"

เถรี 18-10-2017 20:33

โยมจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น "ประเทศที่ไม่น่าไปที่สุดคือญี่ปุ่น...ของแพง...เป็นระเบียบ ข้าวปลาอาหารสั่งมากินไม่อิ่มสักอย่าง ต้องบอกว่าคนญี่ปุ่นกินเหมือนแมวดม

ที่ทางเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี มีร้านเปิดใหม่ชื่อร้านของแปลกแปลก เอาของเก่ามาวางขายเยอะแยะ จะเรียกว่าเก่าก็ไม่ใช่ แต่เป็นของที่เจ้าของสละแล้ว เดินเข้าไปดู...เกือบครึ่งร้านเป็นของที่ระลึกจากญี่ปุ่น คาดว่าเจ้าของร้านคงไปบ่อย ซื้อบ่อย จนกระทั่งในที่สุดก็สละเอามาขาย ลองนึกว่าของครึ่งร้านเป็นของจากญี่ปุ่น ถ้าเป็นเจ้าของคนเดียว ก็น่าคิดมากเลย สะสมเข้าไปได้ขนาดนั้น"


ถาม : ผมไปญี่ปุ่น บนอะไรจะให้ความคล่องตัวดีครับ ?
ตอบ : ปีนไปไหว้บนยอดภูเขาไฟฟูจิจะคล่องตัวที่สุด โดยเฉพาะต้องปีนขึ้นให้ได้ก่อนตะวันขึ้น...!

เถรี 18-10-2017 20:37

อาตมาได้ "ตุ๊กเข้" มาตัวหนึ่ง ดูหุ่นแล้วน่าจะเป็นมังกรโคโมโดมากกว่า บังเอิญว่านิ้วหายไปนิ้วหนึ่งก็เลยต่อราคาเขาจาก ๑,๕๐๐ บาท เหลือ ๑,๐๐๐ บาท แกะด้วยไม้ละเอียดดี ต้องมานั่งเสกด้วยคาถาหลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง "อะอิอะมะ อะมะอะอิ อะอิจะหัง อะมะสวาหะ นะมะพะทะ ปิยะธิตา มานี่มามะ" แล้วต่อด้วยเสียงจิ้งจก "จุ๊..จุ๊...จุ๊...จุ๊"

พวกเรารู้กันไหมว่าเครื่องรางยอดฮิตอย่างหนึ่งของประเทศไทย ก็คือจิ้งจกหลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง มีทั้งแกะจากงา แกะจากกะลาตาเดียว ท่านเสกจิ้งจก ส่วนอาตมาเสกมังกรโคโมโด ต้นตระกูลจิ้งจก..!


ถาม : จิ้งจกให้คุณด้านไหน ?
ตอบ : จิ้งจกของท่านเป็นมหาเสน่ห์ ใครเห็นใครรัก ไม่เชื่อก็ลองไปพกจิ้งจกหลวงพ่อหน่าย รับประกันว่าสละโสดไม่รู้ตัว..!

เถรี 18-10-2017 20:47

มีจิ้งจกอยู่ตัวหนึ่งที่อาตมาได้มานานที่สุด ตัวนั้นเล็กขนาดวางบนเหรียญ ๕๐ สตางค์สมัยนั้นได้ สงสัยว่าช่างแกะเกิดอารมณ์ศิลปินขึ้นมาก็เลยค่อย ๆ แกะ ยังไม่เคยเจอตัวเล็กอย่างนี้อีกเลย ใหญ่เต็มที่น่าจะประมาณแค่นี้ (ทำมือให้ดู) แต่เป็นงาแผ่นแกะ ๒ ตัวบ้าง ๓ ตัวบ้าง รุ่นหลัง ๆ มีตาฝังพลอยด้วย

ตอนช่วงนั้นก็มีหลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ไปอยุธยาทีหนึ่งต้องแวะจนครบทุกสำนัก

หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ทำตะกรุด อิสลามรอบวัดแขวนตะกรุดหลวงพ่อเทียมกันทุกคน เขาถือว่าไม่ใช่รูปพระเขาใช้ได้ พวกนี้รู้จักของดี คืออะไรที่สร้างประโยชน์ให้ได้มุสลิมเอาหมด..!

หลวงพ่อพระเทพศีลวิสุทธิ์ ที่เราไปงานกฐินปลดหนี้ที่วัดรัตนานุภาพ (โคกโก) ท่านเองอยู่กลางชุมชนมุสลิม ถึงเวลาจัดงานวัด มุสลิมเต็มวัดเลย เขามาช่วยงาน มาทำบุญกันเป็นปกติ"

เถรี 18-10-2017 20:49

ปักษ์ใต้ของเราสมัยก่อน มุสลิมกับไทยสนิทสนมคบหาสมาคมกันเป็นเพื่อนตาย ยิ่งกว่าพี่กว่าน้องอีก เพิ่งจะมีระยะหลังที่พวกไปเรียนจบจากต่างประเทศมา แล้วมาปลุกปั่นยุยง ทำให้วัยรุ่นสมัยใหม่เกิดนึกอยากจะแยกตัวออกไปต่างหาก ก็เลยทำให้มีปัญหามาจนทุกวันนี้

อาตมาเองช่วงวัยรุ่นอยู่ตรงท้ายซอยอ่อนนุชแถว ๆ ประเวศ นั่นก็อิสลามทั้งดง ตอนที่ไปอยู่ใหม่ ๆ มีบ้านไทยแค่ ๒ หลัง คือ บ้านของพี่ชายกับบ้านของนาวาเอกจุรินทร์ที่เป็นทหารเรือ ก็อยู่กันมีความสุขดี ถึงเวลาเดือน ๔ เพื่อนอิสลามก็พาอาตมาก็ไล่กินบุญทุกบ้านเลย ชอบไปงานอิสลาม ไปแล้วเขาให้สตางค์กลับมาด้วย ไม่ต้องเอาไปช่วยเขานะ

งานกินบุญก็คือเขาตั้งใจทำบุญกันจริง ๆ โดยเฉพาะอย่างวันนี้ มีโยมถวายกุรุหม่าขาแกะมา อาตมากินกระจายด้วยความเคยชิน สมัยนั้นเจอกุรุหม่าแพะบ้าง กุรุหม่าวัวบ้าง ซุปหางวัวบ้าง ข้าวหมกไก่บ้าง กินจนชินกับอาหารแขกไปแล้ว

เถรี 19-10-2017 20:51

พูดถึงอานิสงส์การเป็นเจ้าภาพบวชพระ "ใครที่เป็นผู้หญิงบวชพระไม่ได้แล้วน้อยใจ เขาเรียกว่าคิดผิด

คนบวชถ้าทำดี ได้อานิสงส์เป็นเทวดาหรือนางฟ้า ๖๐ กัป พ่อแม่ได้ ๓๐ กัป เจ้าภาพบวชได้ ๑๕ กัป ถ้าเราเป็นเจ้าภาพบวชพระสัก ๔ รูปก็ได้เท่ากับบวชเองแล้ว งานนี้เราเป็นเจ้าภาพบวชตั้ง ๙๙ รูป

เจ้าภาพบวชพระ ๔ รูป เท่ากับคนบวชเอง คือ ๖๐ กัป ถ้า ๔๐ รูปก็ได้มากกว่า ๑๐ เท่า ๘๐ รูปได้มากกว่า ๒๐ เท่า นี่ตั้ง ๙๙ รูป ให้คูณกันเข้าไปก็จะรู้เอง"

เถรี 19-10-2017 21:01

ถาม : ทำไมอยู่ดี ๆ ก็มีความรู้สึกว่าการกระทำทุกอย่างในโลกนี้เป็นเรื่องรุนแรง แม้กระทั่งการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ก็รู้สึกว่ารุนแรงเปรียบกับการฆ่ากันตายอย่างนั้น ก็เลยคิดใหม่ว่า นี่เป็นธรรมดาของโลก โลกนี้น่ากลัว ?
ตอบ : เป็นธรรมสังเวช เห็นทุกข์เห็นโทษว่าเกิดมาก็ต้องเจอแบบนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาเจอเหตุการณ์แบบนี้จะไม่มีสำหรับเราอีกแล้ว

ถาม : ความจริงบนโลกก็คืออย่างนี้นี่เอง ?
ตอบ : ทุกอย่างเป็นของจริง แต่เพียงแต่ว่าหลักธรรมของพระพุทธเจ้าเห็นได้จริงแท้ เขาเรียกว่า ปรมัตถสัจจะ อย่างเช่นว่า ทุกอย่างไม่เที่ยง ทุกอย่างเป็นทุกข์ ทุกอย่างไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนได้ อันนี้ไม่มีใครเถียงได้

นอกนั้นเป็นจริงโดยสมมติ เรียกว่า สมมติสัจจะ อย่างเช่นว่าบุคคลนี้ชื่อว่า นางสาววินิตา มณฑลโสภณ คนที่รู้จักก็ยอมรับว่า นี่คือนางสาววินิตา ก็เป็นความจริงโดยสมมติขึ้นมา แต่ถ้าตั้งชื่ออื่นก็จะสมมติเป็นชื่ออื่นไปอีก มีการเปลี่ยนแปลงได้ แต่ก็เป็นที่ยอมรับเช่นเดียวกัน


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:42


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว