ขออนุญาตแบ่งปันประสบการณ์เล็ก ๆ น้อยนะคะ
เคยภาวนาคาถาท่านปู่พระอินทร์ช่วงปีสี่ที่ทำวิจัยเพื่อจบชีวิตการเป็นนักศึกษาปริญญาตรีอันแสนโหดร้ายนั้นลง การวิจัยนั้นเป็นงานกลุ่มค่ะ สี่คนแต่ทำหลัก ๆ แค่สองคน คือ หนูและเพื่อนอีกคน หนูเป็นคนอ่านและเขียนรายงานทั้งหลาย แล้วส่วนเพื่อนจะเป็นคนอ่านทวน ตรวจสอบความถูกต้องและเรียบเรียงคำพูดให้เป็นภาษาเขียนเชิงวิชาการ ช่วงนั้น นั่งคิด นอนคิด จนหัวแทบระเบิด คิดอย่างไรก็ไม่ออก เลยตัดสินใจ เปิดเครื่องสมองกลคู่มือคู่ใจแล้วนั่งสวดคาถาท่านปู่พระอินทร์ก่อนเริ่มทำงาน เคยอ่านและเคยมีผู้รู้แนะนำว่าให้สวดเจ็ดจบก่อนเริ่มทำงานหรือข้อสอบนั้น ด้วยความไม่มั่นใจในตัวเองเลยสวดเผื่อไว้กลายเป็นสิบจบและบางครั้งก็มากกว่านั้น แล้วจึงเริ่มทำงานวิจัยนั้นค่ะ บางวันภาวนาไปเรื่อย ๆ ตามกำลังใจของตนเอง ณ ขณะนั้นก็ปรากฏว่ามีความคิดแปลก ๆ วิ่งเข้ามาในหัวเต็มไปหมดเลย ต้องรีบหากระดาษบันทึกไว้ งานวิจัยที่อาศัยบารมีคาถาท่านปู่พระอินทร์นี้ ทำให้อาจารย์ที่ปรึกษาและอาจารย์ท่านอื่น ๆ ถึงกับแปลกใจ หลายคนที่ได้อ่านงานวิจัยชิ้นนี้ถึงกับออกปากว่าไม่ใช่งานระดับปริญญาตรีนะนี่ เขาคิดว่าหนูทำวิจัยปริญญาโทค่ะ T T ยังไม่แก่ขนาดนั้นค่ะ ผลสืบเนื่องหลังจากนั้น คือ งานของพวกเราเป็นกลุ่มแรกที่ผ่าน ดีใจแทบตายที่จบรายงานชิ้นนั้นลงได้ เพราะนั่นหมายถึงหนูจบการศึกษาภาคปริญญาตรีนี้ไปได้กึ่งหนึ่งแล้ว ส่วนที่เหลือคือการสอบปลายภาคและสอบ Comprehensive ทดสอบความรู้ทั้งหมดที่เรียนมาก่อนจบค่ะ ผลสืบเนื่องต่อมา คือ งานวิจัยที่ทำนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการถึงสองแห่ง น่าเสียดายที่งานเป็นภาคภาษาไทย ถ้าเป็นภาคภาษาอังกฤษอาจจะดังไปแล้วก็ได้ ^ ^ ยิ่งไปกว่านั้นอาจารย์ที่ปรึกษางานวิจัยนี้ของหนูได้แปลรายงานฉบับนี้เป็นภาษาอังกฤษและนำไปให้เพื่อนอาจารย์ที่อยู่ที่ประเทศอังกฤษอ่าน แล้วอาจารย์แจ้งกลับมาว่าเพื่อนอาจารย์จะของานนี้ไปเป็นแบบเพื่อทำการศึกษาต่อไปในเชิงลึกค่ะ แหม มันน่าภูมิใจนะคะที่งานของเด็กน้อยตาดำ ๆ อย่างพวกเราเข้าตาอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ที่มีผลงานวิจัยกว้างขวางมากอีกสองท่าน ในโอกาสนี้ หนูขอกราบขอบพระคุณท่านเจ้าของคาถานี้และหลวงปู่ หลวงพ่อ พระอาจารย์ ผู้มีพระคุณทุก ๆ ท่านที่ช่วยสงเคราะห์หนูค่ะ |
ขอเล่าประสบการณ์บ้างนะครับ คือว่าลูกสาวผมจะไปเรียนต่อต่างประเทศ จะต้องสอบ IELTS ให้ได้๕.๕ แต่ไปสอบครั้งแรกได้แค่ ๕ ผมก็เลยแนะนำให้ท่องคาถาของท่านปู่พระอินทร์ก่อนเข้าสอบครั้งที่่สอง และบอกด้วยว่าต้องวางกำลังใจอย่างไร ก่อนสอบลูกผมบอกว่าท่องได้ ๙ จบ ผลสอบออกมา ปรากฏว่าได้ถึง ๖ ครับ ทั้ง ๆ ที่คิดว่าทำได้เท่าเดิม
:d16c4689: |
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พระอาจารย์ถามหนู(กับสามี?)ว่า
สังเกตหรือเปล่าว่าวันหนึ่งไม่โมโหลูกได้กี่ชั่วโมง(จำคำถามเป๊ะ ๆ ไม่ได้ต้องอภัยค่ะ) หนูฟังแล้วก็แปล๊บเข้าไปถึงใจ เพราะตอนตื่นเช้า ๆ เพื่อเตรียมตัวไปเรียน เป็นเวลาที่แม่อีหนูงี่เง่าถึงขีดสุด ยากแก่การทนทานไหว หนำซ้ำตอนนี้ตัวเล็กก็ไปโรงเรียนแล้วอีกต่างหาก ทำให้อะไร ๆ คูณสอง สรุปได้ว่า ทนได้ไม่ถึงไหนเลยค่ะ แถมตอนเช้า ๆ ตื่นมาก็รบเลย สมาธิยังไม่อยู่ตัว แต่เมื่อภาวนาคาถาเงินล้านไปเรื่อย ๆ ทั้งวัน จนถึงเย็นพบกับแม่อีหนูอีกครั้ง ถ้างี่เง่ามา ก็ยังโมโหอยู่ดีค่ะ (แล้วจะเล่าทำไมนี่) แต่จะดีขึ้นตรงที่พอโมโหปุ๊บก็รู้ตัวปั๊บ "มันมาอีกแล้ว" พอรู้ตัว อารมณ์โมโหมันก็ดับวูบ แต่ต้องเสียงแข็งต่อเพราะเดี๋ยวเด็กจะงง พระอาจารย์สอนอีกว่า เราเป็นนักปฏิบัติต้องตามรู้อารมณ์ ถ้าไม่รู้มันจะเอาดีอะไรไม่ได้เลย ต้องพยายามทำอารมณ์ให้ไม่ขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่อย่างนั้นเด็กจะไม่เชื่อถือ (เวลาอาละวาดพ่อกับแม่เหมือนเราเลยนี่นา) จริง ๆ วันนั้นหนูกำลังอยากถามพอดีว่าหนูต้องทำอย่างไรต่อค่ะ ท่านก็บอกมาแล้ว กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง:875328cc: โชคดีอะไรอย่างนี้หนอ มีลูกมาช่วยฝึก แถมวัดผลให้เสร็จ |
:4672615:คาถาเงินล้าน สร้างความอัศจรรย์อีกครั้ง!
เพิ่งรู้และเข้าใจแจ่มชัดว่า "เงินงอกคามือ"เป็นอย่างไรก็ในงานพิธีพระขรรค์โสฬสนี่ล่ะค่ะ กำเงินจะไปบูชาพระขรรค์ตามที่เพื่อน ๆ ฝากมาเนื้อสำริด ๑๒ เล่ม และชุบทอง ๕ เล่ม หลังจากไปเข้าคิวรอ ยอดเพิ่มค่ะ สำริดเพิ่มเป็น ๒๕ เล่ม ชุบทองเพิ่มเป็น ๑๑ เล่ม ได้คิวที่ประมาณ ๕ หรือ ๖ ไม่แน่ใจค่ะ ระหว่างรอเผลอสวด "มัคคะ มัคคา ขิปปา ภิญญา"ด้วยความเคยชิน เพราะจะสวดตอนเดินทางไกล ๆ เสมอ ๆ (พอนึกขึ้นได้ก็บ่นกับตัวเองว่า จะย่นระยะทางไปไหนว้า) แล้วกลับมาสวดคาถาเงินล้านต่อ ซึ่งตอนนี้ใช้เป็นคำภาวนาค่ะ เสร็จพิธีพุทธาภิเษก ปรากฏว่าเนื้อสำริดหมด เหลือแต่ชุบทอง ก็เลยตัดสินใจสั่งเป็นชุบทองทั้งหมด ๓๕ เล่ม (เดินไปบูชา ๒ ครั้ง ครั้งแรกต่อคิว ครั้งที่ ๒ ไม่ต้องต่อคิว ทั้ง ๆ ที่คิวยาวเหยียด และเหลือเพียงแถวเดียว เดินไปถึงตู้ก็บูชาเพิ่มได้เลย ทางว่าง โล่ง สะดวกค่ะ.... อานิสงส์คาถาย่นระยะทางแน่เลย แฮ่ !):onion_wink: คิดเงินจ่ายเงินเสร็จ ปรากฏว่าเงินเหลือพอที่จะเพิ่มพระขรรค์ชุบทอง ๑ เล่ม (ถวายหลวงพี่เล็กไปแล้วค่ะ) แถมยังเหลือเงินหล่อเทียนพรรษาและถวายหลวงพี่เล็กอีกต่างหาก!:d16c4689: นี่ล่ะ งอกคามือแบบที่ทำให้งงจนถึงนาทีนี้เลย! มาได้อย่างไร!!!:6f428754: |
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อคืนหลังจากที่ขับรถออกไปซื้อพวงมาลัยเพื่อจะกลับมาไหว้พระที่บ้าน ก่อนกลับกระผมได้แวะไปนั่งสนทนากับเพื่อน ๆ แถวเมืองเอกสมัยเรียนมหาวิทยาลัยครับ "วันนี้วันพระ เพื่อนข้าอยู่กันพร้อมหน้าเลยเว้ย เหล้า เบียร์นี่เพียบ" หลังจากที่นั่งฟังพวกเพื่อนมันโม้อยู่นาน เอ๊ะ!แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ (ลืมบอกไปว่า กระผมเป็นหนึ่งเดียวในนั้นที่นั่งดื่มโค้กครับ) ก็มีเพื่อนคนหนึ่งพูดว่า "ไอ้.... ข้าเห็นแกเที่ยวไปหาพระหาเจ้า ทำบุญมาเยอะแยะ แกเคยถูกหวยบ้างหรือเปล่า พรุ่งนี้หวยออกแล้วนะเว้ย" พอผมกลับมาบ้านหลังจากสวดมนต์ไหว้พระเสร็จ ผมก็คิดในใจว่า "ตั้งแต่เราทำบุญหรือช่วยงานบุญตามที่ต่าง ๆ มา เราไม่เคยขอให้ถูกหวยเลยนี่หว่า มีแต่อุทิศบุญให้คนอื่นหมด งั้นพรุ่งนี้หวยออก ขอลองถูกสักงวดเถอะ" หลังจากนั้นกระผมก็ไปนอนภาวนาคาถาเงินล้านจนหลับไปพร้อมกับเครื่องนับเลขแบบใช้มือกด ตั้งใจว่า พรุ่งนี้ตื่นมาเราภาวนาคาถาเงินล้านเป็นจำนวนเท่าไหร่ จะเอาตัวเลขนั้นไปแทงหวย มีต่อครับ
|
ต่อครับ กว่าจะหลับได้เกือบ ๖ โมงเช้าครับ ตื่นมาอีกทีก็เป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว พอนึกขึ้นได้ผมก็คว้าไอ้เครื่องนับเลขขึ้นมาดู ตัวเลขมันโชว์ว่า "๑๘๖" ไอ้กระผมก็แปลกใจขึ้นมาทันทีครับ "นี่เมื่อคืนเราสวดคาถาเงินล้านไป ๑๘๖ จบเชียวหรือ ต้องผิดพลาดอะไรแน่ ๆ เพราะทบทวนแล้วผมสวดยังไงก็ไม่น่าจะเกิน ๒๐ จบ" เอาน่ามาถึงขั้นนี้แล้ว ซื้อเลขนี้ก็ได้วะ พอตอนเย็นมาสรุปว่าถูกโต๊ดครับ :d16c4689: เท่ากับว่าตั้งแต่ วันงานเป่ายันต์เกราะเพชรจนถึงวันโสฬส เงินที่ผมร่วมทำบุญไปหลายรายการไม่ว่าจะเป็นเจ้าภาพบวชพระ สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ และทำบุญร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินประมาณ ๒ หมื่นกว่าบาท ได้กลับคืนมาหมดครับ แหะ ๆ เหมือนกับว่าผมได้ของขวัญแสนพิเศษเป็นพระขรรค์โสฬสแบบไม่ต้องเสียเงินมาหลายเล่มเลยครับ:af48944b:
|
โมทนากับคุณต้อมบางพูนค่ะ อย่างนี้เขาเรียกหลับในฌานหรือเปล่าคะ ดีใจด้วยจริง ๆ ค่ะ นี่อาจจะเป็นรางวัลจากพระท่านสงเคราะห์คุณต้อมกระมังคะ ปลูกพืชเช่นไรย่อมได้รับผลเช่นนั้น สาธุ ค่ะ.
|
เมื่อก่อนใจยังเหนียวแน่นเรื่องเงิน (แม้ว่าจะทำบุญเรื่อย ๆ แต่ตัวเองยังรู้สึกผูกพันอยู่มาก)
ไปทำบุญ (ถวายทอง) กับหลวงพี่สมปอง แล้วท่านแซวว่า "เรื่องทองฉันไม่สะสมไว้หรอก" (คิดก่อนจะทำบุญว่าจะถวายแค่นี้ แล้วสะสมไว้อีกส่วน) และไปกราบหลวงปู่องค์หนึ่ง เสียงท่านดลใจว่า "ให้ตัดละเรื่องทรัพย์สมบัติ" มีพี่อีกคนหนึ่งที่นับถือก็บอก "ให้ทำทุกอย่างเพื่อสาธารณประโยชน์" กลับมาก็คิด เออเรานี่ถ้าตายตอนนี้แล้วจะไปนิพพานได้อย่างไร ถ้าใจเรายังผูกพันกับสิ่งที่ไม่ใช่เราอย่างนี้ จึงหักใจทำ.. เพื่อประโยชน์สุขของมวลชน (ขอบอกว่า แรก ๆ ยากมาก) พอทำครั้งแรกได้ ครั้งต่อมากล้วยมาก อารมณ์ใจก็แสนสบาย รู้อย่างนี้ ทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว มัวแต่งกอยู่ได้ (พูดกับตัวเองในใจอย่างนั้น) ผลปรากฎว่า หลังจากนั้น ก็มีพระคาถาลอยมาระหว่างชมองค์พระลักษมีที่ได้มาใหม่ ระหว่างชมความงามด้วยความสุขใจอย่างเพลิดเพลินกึ่งจะเคลิ้มหลับ ก็มีคาถาลอยมาให้เราท่อง ต่อมาจึงรู้ว่า เป็นคาถาพระเจ้าสิบหกพระองค์ ท่านมาให้เราท่องเพื่อสงเคราะห์เรื่องการค้าที่บ้าน รู้สึกอิ่มเอมใจอย่างมาก เพราะรู้ว่า การที่ท่านสงเคราะห์เราเพราะเราทำได้จริงตามที่ใจตั้งไว้ ........................ |
ขอเล่าด้วยคนนะครับ
ผมจะสวดคาถาเงินล้านเป็นประจำครับและแล้ววันนั้น ผมหยิบเงินจ่ายค่าอะไรสักอย่างผมจำไม่ได้แล้วและก็สวดคาถาไปเรื่อย ๆ ตามปกติผมมั่นใจว่าผมหยิบแบงค์ยี่สิบบาทและส่งให้พี่ที่รู้จักปรากฏว่า พี่เขารับไปเป็นแบงค์ห้าสิบบาท ผมก็งง ๆ เล็ก ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก็มีเท่านี้ครับ |
ขอเล่าบ้างครับ เอาแบบสั้น ๆ นะครับ "ทะพะมะนะ" เคยใช้ตอนเปิดประตูบ้านไม่ได้สามหรือสี่ครั้ง ทำอย่างไรก็เปิดไม่ได้ เป็นชั่วโมง จนหมดหวังแล้ว อยู่ดี ๆ ก็นึกถึงคาถานี้ เลยรวบรวมสมาธิ ทำใจให้สงบ ท่องคาถา นึกว่ามันไม่ได้ล็อค ก็เปิดได้ทันที หลังจากนั้นพอเจออะไรที่มันเปิดไม่ออกก็จะใช้คาถานี้ครับ
"สหัสสะเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสธายิ อิกะวิติ พุทธะสังมิ โลกะวิทู" ใช้ตอนไปเล่นแข่งขันเกมส์อัจฉริยะข้ามคืนชนะได้เงินมาล้านหนึ่งครับ |
แก้ไขแล้วค่ะ ขอบคุณพี่ ๆ อีกครั้ง
|
อีกครั้งกับคาถาเงินล้าน!
ปกติสวดบทนี้เป็นคาถาภาวนาทุกวัน ช่วงนี้ไปเรียนการจัดดอกไม้ที่วิทยาลัยในวังหญิง ด้วยความที่เป็นหัวหน้าห้อง ยอมเสียสละไปซื้อดอกไม้สำหรับเรียนให้เพื่อน ๆ ทั้ง ๒ ห้องที่ปากคลองตลาด วันแรกจะเรียนการร้อยมาลัย นักศึกษาทั้งหมด ๓๐ คน ใช้ดอกมะลิ ๒๐ ลิตร พอไปถึงห้องเรียนก็แจกจ่ายครบทุกคน ปรากฏว่า มะลิงอกเกินมา ๒ ลิตรค่ะ อีก ๒ วันต่อมา ไปซื้อมีดฝานหมาก จำนวน ๑๕ เล่ม แม่ค้าเลือกให้ ห่อมาให้เรียบร้อย รุ่งขึ้นนำไปแจกจ่ายให้เพื่อน ๆ ในห้อง และแยกของตัวเองออกมา ๑ เล่ม หลังจากทุกคนได้มีดครบคนแล้ว มีดยังเหลือเกินมาอีก ๑ เล่ม! อานิสงส์คาถาเงินล้าน :msn_smileys-15::msn_smileys-15::msn_smileys-15: |
เขียนบ้าง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้อ่านใน web นี้แหละค่ะ การใช้คาถารวมจิตได้ใช้ตอนก่อนนอนปรากฏว่าหลับลึกไม่ฝันเลย ใช้ประมาณหนึ่งสัปดาห์แล้วค่ะ ดีมากค่ะ และอยากถามผู้รู้ว่าคาถารวมจิตช่วยในเรื่องใดค่ะ ช่วยบอกที
ขอบคุณค่ะ |
ขอเล่าบ้างครั้งแรกที่รู้จักหลวงพ่อพระราชพรหมยานในปี ๕๑ ก็รู้จักคาถาเงินล้านแต่ยังไม่ได้ท่อง ก็มาได้คาถาอีกคาถาหนึ่งก็คาถาอิทธิฤทธิ ฯ นะคะ
ก็ท่องและได้ใช้จริง ๆ และทราบผลของการท่องก็ตอนไปผ่าตัดเนื้องอกในมดลูกแหละค่ะ ปรากฏว่าก็ท่องไปจนกระทั่งพยาบาลวางยาสลบ และมาฟื้นสลึมสลือก็รู้สึกว่ามีผ้าจีวรพระอยู่เหนือลำตัวประมาณ ๑ เมตร คลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า และเราก็มีความรู้สึกว่าร้อนแต่ร้อนแบบสบาย เพื่อนที่มาเฝ้าบอกว่านายเมื่อคืนปรอทไข้ขึ้นสูงมาก แต่แปลกมากนายไม่ตัวร้อนเลย อยู่โรงพยาบาลประมาณวันเดียวก็กลับบ้าน รักษาประมาณ ๑ อาทิตย์ อาการก็ดีขึ้นมาก ๆ และหายเร็วในที่สุด คิดว่าน่าจะเป็นอนุภาพของคาถานะคะ คาถาที่ ๒ คาถาเงินล้านเริ่มใช้ในปี ๕๒ ในชีวิตไม่เคยได้รางวัลหรือจับสลากอะไรเลยแต่หลังจากท่องประมาณ ๑ เดือน ในหน่วยงาน คนประมาณ ๒,๐๐๐ คนที่ร่วมงานได้มีการจับรางวัลรางวัลมีแค่ ๒ รางวัล รางวัลละ ๒ ท่านค่ะ เราเป็นหนึ่งในนั้น ได้รางวัลที่ ๒ ดีใจมาก และต่อมา แม้กระทั่งในฝ่าย มีการจับรางวัลก็จะได้มาเรื่อย ๆ และปัจจุบันนี้ วันนี้เองวันที่ ๑ ก.ย.๕๓ ดิฉันเป็นหนึ่งในห้องประชุมเกี่ยวเสวนาพิเศษก็ได้รางวัลอีกเช่นกัน |
สวัสดีครับ อยากทราบว่า หลวงพ่อเล็กให้ภาวนาคาถาเงินล้าน ๑ ชั่วโมง ภาวนาในใจได้ใช่ไหมครับ
|
ผมว่าได้นะครับ เอาแบบไม่ต้องรีบให้จบ ภาวนาสบาย ๆ เอาให้คุณภาพยอดเยี่ยม กำหนดลมหายใจ นึกถึงภาพพระไปด้วย (ถ้าไม่ถนัดก็กำหนดลมหายใจอย่างเดียวก็ได้ครับ) ให้อารมณ์ทรงตัว ให้ได้วันละชั่วโมง แต่ถ้าจะให้ดี ก็เช้าสัก ๑ ชั่วโมง เย็นอีก ๑ ชั่วโมง ทำได้แบบนี้สบายเลยครับ :onion_wink:
|
จากประสบการณ์ก็มีอยู่เหมือนกันนะครับ
๑.ตอนไปสอบปรับตำแหน่งในบริษัท ข้อสอบก็พอรู้เพราะเพื่อนเอามาปล่อย แต่เนื้อหานั้นก็เยอะพอสมควร ก่อนตอนไปสอบก็อาราธนาบารมีพระเต็มที่ และตอนอยู่ในห้องสอบ เจอคำถามบางข้อก็ลืมคำตอบ ไม่รู้ทำอย่างไร นั่งกำหนดจิตท่อง คาถาของปู่พระอินทร์ และเขียนโลดโดยไม่สนใจด้วยว่าจะถูกจะผิด ตอนมานั่งอ่านทบทวนยังงง ๆ ด้วยซ้ำเพราะเขียนเองแต่อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เอาวะตามนี้แล้วกัน ผลสอบออกมาผ่านครับ:154218d4: ๒.หลังจากนั้นต้องไปสอบสัมภาษณ์ อันนี้เรียกว่าเปอร์เซ็นต์ที่จะได้นั้นเรียกว่า ศูนย์ เพราะหน่วยงานที่ไปขอสอบนั้นคนละสายงานกับที่เราทำอยู่มาก แถมส่วนใหญ่ที่ไปสอบกันเป็นคนในสายงานเขาทั้งนั้น ส่วนเราแทบจะเป็นแกะดำเลย เรียกว่าตอนไปสอบนั้นสักแต่ว่าำไปอย่างนั้นไม่ได้คิดว่าจะได้ แต่ก็เหมือนเดิมครับ ก่อนไปอาราธนาบารมีพระ และท่องคาถาเมตตาของหลวงพ่อวัดท่าซุง พระอรหัง สุคโต ภควา นะเมตตาจิต บวกกับห้อยพระหางหมากไปด้วย (ปกติจะห้อยสลับกับพระคำข้าว) ตอนรออยู่ข้างนอกหน้าห้องคนที่เข้าไปก่อน ออกมามีแต่คนบ่นทั้งนั้นว่าคนสอบสัมภาษณ์ถามอะไรตอบยากอะไรประมาณนี้ ผมก็เริ่มใจเสียแล้ว :onion_emoticons-17:เพราะผมมันพวกความจำสั้นท่องมาจำได้ พอเจอสถานการณ์จริงลืมหมด ขนาดสอบข้อเขียนยังแทบเอาตัวไม่รอดถ้าไม่ได้ คาถาปู่พระอินทร์ แถมผมยิ่งไม่ค่อยมั่นในตัวเองเรื่องการพูดคุยเพราะประสาทหูไม่ค่อยดี (หูตึงหน่อย ๆ ) พอถึงคิวผมก็เข้าไป อยู่ ๆ ใจก็เริ่มนิ่งและพูดคุยกับกรรมการสอบสัมภาษณ์เหมือนคุยเล่นกับเพื่อน แถมไม่เห็นเจอคำถามยาก ๆ เหมือนกับคนที่เ้ข้าไปก่อนหน้าแล้วบ่น ๆ กัน เรียกว่าถามตอบไม่เครียดยังที่จินตนาการไว้เลย :onion_you: หลังสอบเสร็จก็กลับมาทำงานต่อเพราะสอบแค่ช่วงเช้าและคิดว่าคงไม่ได้หรอกเพราะเราเด็กนอกหน่วยงานเขาทางหน่วยงานเขาต้องมีเด็กที่อยากได้อยู่แล้ว เปรียบเหมือนคุณมีลูกน้องอยู่แล้วถ้าไม่ดันลูกน้องคุณแล้วจะไปเอาใครที่ไหนมาก็ำไม่รู้ ประมาณนั้นและคนในหน่วยงานเขาที่มาสอบสัมภาษณ์มีตั้ง ๕-๖ คน ส่วนเราเด็กนอกหน่วยงานมีเพียงคนเดียวที่หน้าด้านมา ส่วนอีกคนที่สอบผ่านข้อเขียนและเป็นคนนอกหน่วยงานเหมือนกันยังไม่มาสอบสัมภาษณ์เลย คงคิดเหมือนผมว่าคงไม่ได้หรอก และเอาสอบผ่านแค่คนเดียว ตกเย็นพี่ที่ทำงานโทรมาบอก "เฮ้ย กูแอบฟังหัวหน้าคุยกันเห็นเขาบอกว่ามึงสอบผ่านแล้วนะ" ผมยังแซวพี่อยู่เลยว่าอำกันเล่นหรือเปล่า พี่บอก "มึงไม่เชื่อก็มาถามหัวหน้าดู" แต่ยังไม่ทันจะวางสายพี่เขาเลย มีสายซ้อนเป็นหัวหน้าโทรมา และบอกเหมือนพี่เขาบอกเลย ผมขับรถนั่งงงอยู่สักพักใหญ่ "กูได้ ได้อย่างไรวะ" :efb50fe2: |
ขอบคุณครับพี่ปราโมทย์ เพราะถ้านั่งภาวนา ๑ ชั่วโมง จะไม่สะดวกและก็ไม่เหมาะ เพราะคนอื่นจะคิดว่าเราทำอะไร ไม่พูดจาหนึ่งชั่วโมง ภาวนาแบบในใจจะดีกว่า ย่อมมีสติ รู้ตัว ได้อานิสงส์จากคาถาเงินล้านด้วย
|
อ้างอิง:
ที่คุณปราโมทย์ เล่ามาว่า" พระอาจารย์ท่านแนะนำครับ คือ ภาวนาวันละอย่างน้อย ๕ นาที เช้า-เย็น" นี่หมายความว่าอย่างไร? หรือให้ท่อง คาถาพระอินทร์ ๕ นาทีหรือคะ ...แนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ :4672615: |
ใช้ตอนที่แฟนน้องชายถูกผีเข้า
คาถา "นะโมพุทธายะ" ท่องคาถาเป่าไปที่แฟนน้องชาย ร่างทรุดลงเห็นได้ชัดเจน ผีออกจากร่างเป็นอย่างนี้นี่เอง |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:55 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.