เถรี
08-02-2009, 14:21
สมัยก่อนหลวงพ่อฤๅษีท่านต้องไปเทศน์หลายจังหวัด ถ้าไปทางน้ำก็แจวเรือ ถ้าไปทางบก มีเกวียนก็นั่งเกวียน ถ้าไม่มีก็เดินไป หรือบางทีก็นั่งเรือไปแล้วก็เดินตัดทุ่งเอา ปรากฏว่าเส้นทางที่ท่านไปเทศน์ที่อ่างทอง จะต้องผ่านเพิงขายกล้วยแขก ท่านบอกว่าปีแรกผ่านไปตรงนั้นก็ไปขอน้ำเขาฉัน "โยมขอน้ำหน่อย" โยมเขาก็เอาน้ำมาถวาย ปีถัดไปเพิงกล้วยแขกกลายเป็นตึกสองคูหา ขายกล้วยแขกผสมขายยาบ้าหรืออย่างไร รวยได้ขนาดนั้น..!
พอไปถามโยมว่า "โยมทำอะไรถึงรวยขนาดนี้ ?" โยมบอกว่า "ได้ฤกษ์เศรษฐีมาจากหลวงพ่อที่วัด" หลวงพ่อก็สอบถามจนมั่นใจ พอรู้ว่าเป็นหลวงพ่ออะไร อยู่วัดไหนก็ตามไป (อาตมาไม่ได้ถามรายละเอียด) ตามไปเจอหลวงพ่อท่านนั้น หลวงพ่อฤๅษีก็ถามว่า "ท่านได้ฤกษ์นี้มาจากไหน ขอศึกษาตำรานี้ด้วยได้ไหม ?" หลวงพ่อท่านนั้นบอกว่า "ผมไม่หวงหรอก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันฤกษ์นี้มีที่มาอย่างไร ?" ท่านไปงัดตำรามาให้ เป็นใบลานแผ่นเดียว ข้างหน้าวันหนึ่ง ข้างหลังวันหนึ่ง แสดงว่าเขาเขียนหน้าละวัน แล้วหลวงพ่อท่านนั้นได้มาแค่นั้น หลวงพ่อฤๅษีท่านก็เลยขอจดมาทั้งหมด แล้วก็เลิกรับกิจนิมนต์จนกว่าจะหาฤกษ์ที่เหลือเจอ
หลวงพ่อฤๅษีท่านเข้ามาหอสมุดแห่งชาติ ค้นกันหูดับตับไหม้จนกระทั่งเจอ แล้วท่านก็เอามาบอกต่อพวกเรา ท่านบอกว่าฤกษ์นี้ถ้าเอาไปทำงานทำการอะไรก็ตาม จะมีความเจริญคล่องตัวมาก เรียกว่า ฤกษ์พรหมประสิทธิ์ ก็คือ พระพรหมท่านให้มา
แต่คราวนี้ตอนที่หลวงพ่อบอกพวกเรานั้น ท่านบอกไม่ครบ นิสัยหลวงพ่อท่านเป็นคนช่างค้นคว้า หลวงพ่อท่านเรียนหนังสือนักธรรมตรี คนอื่นอ่านหนังสือแค่ ๔ เล่ม ได้แก่ เรียงความแก้กระทู้ธรรม ธรรมวิภาค พุทธประวัติ และพระวินัย แต่หลวงพ่ออ่านหนังสือครึ่งห้อง ท่านบอกว่า ตำราอ้างอิงเล่มไหน ท่านไปค้นมาอ่านจนหมด
ในเมื่อท่านชอบค้นคว้าขนาดนั้นท่านก็ค้นจนเจอ แต่ตอนบอกลูกศิษย์ท่านบอกไม่ครบ ท่านอยากรู้ว่ามีลูกศิษย์คนไหนจะชอบสงสัยค้นคว้าบ้าง แต่ปรากฏว่าทุกคนให้ความเคารพและไว้วางใจหลวงพ่อมาก ให้เท่าไรก็ใช้แค่นั้น..!
พอไปถามโยมว่า "โยมทำอะไรถึงรวยขนาดนี้ ?" โยมบอกว่า "ได้ฤกษ์เศรษฐีมาจากหลวงพ่อที่วัด" หลวงพ่อก็สอบถามจนมั่นใจ พอรู้ว่าเป็นหลวงพ่ออะไร อยู่วัดไหนก็ตามไป (อาตมาไม่ได้ถามรายละเอียด) ตามไปเจอหลวงพ่อท่านนั้น หลวงพ่อฤๅษีก็ถามว่า "ท่านได้ฤกษ์นี้มาจากไหน ขอศึกษาตำรานี้ด้วยได้ไหม ?" หลวงพ่อท่านนั้นบอกว่า "ผมไม่หวงหรอก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันฤกษ์นี้มีที่มาอย่างไร ?" ท่านไปงัดตำรามาให้ เป็นใบลานแผ่นเดียว ข้างหน้าวันหนึ่ง ข้างหลังวันหนึ่ง แสดงว่าเขาเขียนหน้าละวัน แล้วหลวงพ่อท่านนั้นได้มาแค่นั้น หลวงพ่อฤๅษีท่านก็เลยขอจดมาทั้งหมด แล้วก็เลิกรับกิจนิมนต์จนกว่าจะหาฤกษ์ที่เหลือเจอ
หลวงพ่อฤๅษีท่านเข้ามาหอสมุดแห่งชาติ ค้นกันหูดับตับไหม้จนกระทั่งเจอ แล้วท่านก็เอามาบอกต่อพวกเรา ท่านบอกว่าฤกษ์นี้ถ้าเอาไปทำงานทำการอะไรก็ตาม จะมีความเจริญคล่องตัวมาก เรียกว่า ฤกษ์พรหมประสิทธิ์ ก็คือ พระพรหมท่านให้มา
แต่คราวนี้ตอนที่หลวงพ่อบอกพวกเรานั้น ท่านบอกไม่ครบ นิสัยหลวงพ่อท่านเป็นคนช่างค้นคว้า หลวงพ่อท่านเรียนหนังสือนักธรรมตรี คนอื่นอ่านหนังสือแค่ ๔ เล่ม ได้แก่ เรียงความแก้กระทู้ธรรม ธรรมวิภาค พุทธประวัติ และพระวินัย แต่หลวงพ่ออ่านหนังสือครึ่งห้อง ท่านบอกว่า ตำราอ้างอิงเล่มไหน ท่านไปค้นมาอ่านจนหมด
ในเมื่อท่านชอบค้นคว้าขนาดนั้นท่านก็ค้นจนเจอ แต่ตอนบอกลูกศิษย์ท่านบอกไม่ครบ ท่านอยากรู้ว่ามีลูกศิษย์คนไหนจะชอบสงสัยค้นคว้าบ้าง แต่ปรากฏว่าทุกคนให้ความเคารพและไว้วางใจหลวงพ่อมาก ให้เท่าไรก็ใช้แค่นั้น..!