PDA

View Full Version : นิมิตเห็น


เถรี
26-07-2009, 17:13
โยมที่อยู่ข้างหลังบอกว่าอยู่ดี ๆ ก็นิมิตเห็น มีรายละเอียดพร้อมสรรพด้วย ว่าเป็นใครมาจากไหน แสดงว่าเสิร์ชเน็ตเก่งมาก

เรื่องของนิมิตจริง ๆ อย่าไปเอามาเป็นอารมณ์ เพราะว่าบางอย่างก็หลอกเราได้ เพียงแต่ว่าในขณะที่(อาตมา)ปฏิบัติกรรมฐานจะมีการแผ่เมตตา โดยเฉพาะสรรพสัตว์ทั้งหลายเป็นปกติ ถ้าวาระบุญหนุนเสริมแล้วกำลังใจตอนนั้นเปิดรับพอดี เรียกว่ากุศลกรรมส่งผลให้ ถ้าทุกอย่างพร้อมก็มีการนิมิตเห็นและรับรู้ได้ แต่จริง ๆ ถ้าหากดีก็คือว่า ในระหว่างที่นิมิต ใส่ความสงสัยไปสักนิดเดียวว่า หมายความว่าอะไร จะได้คำตอบตรงนั้น มาถามทีหลังมันไม่ใช่คำตอบแล้ว

ถามว่าเป็นไปได้ด้วยหรือบุคคลที่ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย มีการนิมิตถึงกันได้ ตอบว่าได้ เพราะว่าที่ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็นมันเป็นชาตินี้ พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่าบุคคลที่เกิดมาแล้วได้พบกัน ได้เห็นกัน ได้รู้จักกัน ในอดีตไม่เคยมีความสัมพันธ์กันมานั้นไม่มี อย่างน้อย ๆ ก็ต้องเคยเป็นในฐานะใดฐานะหนึ่งมาก่อน จะเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นลูก เป็นหลาน เป็นครูอาจารย์ เป็นลูกศิษย์ เป็นสามีเป็นภรรยา ตลอดจนเป็นมิตรสหายกัน เป็นต้น บางรายก็เป็นเจ้านายกับทาสด้วย เจอหน้ามาถึงก็กลัวจนตัวสั่นเลย ดังนั้นเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราบอกว่าไม่เคย มันไม่เคยในชาติปัจจุบัน แต่ในอดีตมันเคยมาเสียเยอะแล้ว

เรื่องพวกนี้ก็ถือว่าเป็นนิมิตดีก็เพราะว่า การสามารถนิมิตเห็นไม่ว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือสิ่งเป็นเครื่องโยงให้เราเกาะความดีได้อย่างไรก็ตาม แสดงว่าก่อนที่จะหลับ กำลังใจเราเกาะในสิ่งที่ดี ถ้าไม่สามารถเกาะส่วนที่ดีจะไม่สามารถนิมิตตรงนี้ได้ แต่ว่าเรื่องของนิมิตแปลกมาก นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป บังคับเขาไม่ได้ บางอย่างต้องการรายละเอียดมากกว่านั้นก็ไม่มี บางอย่างก็ไม่ได้ต้องการรายละเอียดเขาก็ให้มาเสียเยอะเลย เพราะฉะนั้นเรื่องที่นักปฏิบัติปวดหัวมากที่สุดคือเรื่องนิมิต บังคับไม่ได้ มาเองไปเอง เป็นเอง


เทศน์(ช่วงสาย) ณ บ้านอนุสาวรีย์
๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒

เถรี
26-07-2009, 21:13
ถ้าจู่ ๆ มีคนไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย แวะมาหาพวกคุณบอกว่านิมิตเห็นคุณ พร้อมกับรายละเอียดทุกอย่าง แล้วเขาก็เดินทางมาหา ถ้าเป็นพวกคุณจะรู้สึกหรือคิดว่าอย่างไร ? ...(ถามพระด้วยกัน)...

เมื่อเช้ามีโยมมากราบ เขาบอกอยู่ ๆ ก็นิมิตเห็น แล้วมีรายละเอียดบอกมาด้วยให้เดินทางไปหา เขาก็เลยมา พอเขาบอกมา ผมก็บอกเขาไปว่านึกเสียว่าฝัน กินมากก็เลยฝันมาก บังเอิญตรงกับความจริงเข้าพอดี

เรื่องอย่างนี้ไม่สามารถจะรับรองได้ด้วยประการทั้งปวง และโดยเฉพาะว่าทันทีที่ได้ยิน "มันเล่นตูอีกแล้ว" เพราะว่าถ้าเราไปคิดเข้าข้างตัวเองว่า เออ..เราก็ไม่เลวนี่หว่า ถึงขนาดมีคนนิมิตเห็น ตะเกียกตะกายมาเสียด้วย ถ้าอย่างนี้ก็จะบรรลัยในระยะเวลาอันรวดเร็ว ส่วนโยม...ถ้าเราไปรับรองให้เขา เขาจะยึดติดตัวบุคคลอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ขนาดไม่รู้จักก็ยังฝันเห็นว่าไปตามเข้าวัด ก็ศรัทธาสุด ๆ

ศรัทธาแบบนี้มันจะกลายเป็นอธิโมกขศรัทธา ก็คือ ศรัทธาที่ปราศจากปัญญาประกอบ ชี้นกบอกว่าไม้เขาก็ว่าไม้ด้วย ชี้หมูบอกว่าหมาเขาก็ว่าหมาด้วย ถ้าไปเจอผู้นำที่นำผิดทางนี่จะเสียหายมหาศาล ดังนั้น..เรื่องพวกนี้ถ้าเกิดขึ้น พึงปฏิบัติโดยความระมัดระวัง เมื่อเช้าขนาดตัดบทแล้วยังไม่ยอมไป เขายังนั่งรอไปเรื่อย ๆ สองชั่วโมงครึ่ง

ต้องบอกว่ามารเขาเก่ง เขาวางหมากไว้ ต้องจำคำว่า ปมาโท มัจจุโน ปทัง ไปท่องให้เต็ม ๆ เลย ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย ผู้ไม่ประมาทเป็นผู้ไม่ตาย ดูที่ตัวเรา แก้ที่ตัวเรา ดูที่คนอื่นแก้ไม่ได้หรอก เรื่องของคนอื่นเป็นเรื่องของโลก เรื่องของโลกหนักเกินกำลัง แก้ไม่ไหว อธิบายเขาไปว่า เป็นวาระบุญและกรรมของเขาที่ส่งผล และในอดีตเคยเนื่องกันมาก็เลยทำให้เขามาหาและก็เจอ เรื่องที่ไปไล่ตามคนอื่นไม่ใช่นิสัยผมแน่ ๆ


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงบ่าย ณ บ้านอนุสาวรีย์
๕ กรกฎาคม ๒๕๕๒