PDA

View Full Version : เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๖๓


เถรี
08-03-2020, 20:03
ถาม : หลวงพ่อหนูมาไม่ทันพระพลิกชีวิตค่ะ ?
ตอบ : ไปให้ทันวันเป่ายันต์ฯ ก็แล้วกัน

ถาม : วันเป่ายันต์ฯ หนูไปถึงบ่ายค่ะ ?
ตอบ : ไปถึงบ่าย..ก็คงหมดตั้งแต่ตี ๕ แล้ว..!

ถาม : ถ้าอย่างนั้นหนูถวายเงินให้ก่อนได้ไหมคะ ?
ตอบ : ถวายเงินได้ แต่ไม่มีใครเก็บพระให้คุณหรอก

ถ้าไม่สามารถไปได้ก็ทำแบบคนอื่น ที่เขาจ้างแกร็บไบค์มาเข้าคิวแทนเมื่อเช้านี้ มารอตั้งแต่ตี ๒

เหลือพระอีก ๙,๐๐๐ องค์ในงานเป่ายันต์ฯ เพราะฉะนั้น..ไปแย่งกันที่โน่นก็แล้วกัน ให้สักคนละองค์ก็คงจะเหลือ งานเป่ายันต์ฯ เขาไปกันประมาณ ๔,๐๐๐-๕,๐๐๐ คนเท่านั้น

เถรี
08-03-2020, 20:07
ตอนนี้ที่รออยู่ก็คือผลประสบการณ์วัตถุมงคลรุ่นนี้ เนื่องจากว่าเมื่อวานตอนพุทธาภิเษก พอเริ่มพิธีเห็นเป็นแสงสีแดงหนามากเหมือนผ้าห่มผืนใหญ่ ๆ คลุมลงมา แล้วก็มีตัวอักขระเลขยันต์หมุนจี๋เข้ามาจนกระทั่งแทบจะมองไม่ทัน ตั้งใจดูว่ามีอะไรบ้าง เผื่อว่าจะต้องภาวนาคาถาบทนั้น

หลวงพ่อกวยท่านบอกว่า "ไม่ต้อง เอ็งมอบความไว้วางใจให้ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไปเลย เดี๋ยวที่เหลือข้าทำเอง" เหตุที่ต้องไปเสกที่วัดหลวงพ่อกวย เพราะว่าในบรรดาครูบาอาจารย์ทั้งหมด ท่านเป็นต้นตำรับพระพลิกชีวิต

สรุปว่า..แม้ว่าจะขอท่านแค่ในเรื่องกลับร้ายให้กลายเป็นดี แต่ท่านให้หมดเลยที่มี ท่านเรียนอะไรมาท่านให้หมดเลย...ว่าอย่างนั้น ไปขอเอาเองก็แล้วกัน

เดี๋ยวเหลืออีกสามเนื้อไปเหยียบกันเองที่ในงาน คงจะเข้าคิวกันตั้งแต่เที่ยงคืน ที่เอาเนื้อเงินกับเนื้อทองออกก่อนเพราะว่าราคาสูง เก็บเอาไว้เองก็ใจหายใจคว่ำ แล้วถามว่าทำไมทำแค่นั้น ? เอ็งใช้คำว่า "แค่นั้น" นั่นทองเป็นกิโลกรัมนะ หมดไปเกือบ ๑.๕ ล้านบาทเฉพาะแค่ค่าทอง อาตมาก็ไม่ได้มีสตางค์สำรองให้เยอะนักหนา

เถรี
08-03-2020, 20:11
"ที่ไม่มีเงินเหลือมากมายเพราะว่า ช่วงนี้นอกจากสร้างวิทยาลัยสงฆ์แล้ว ทางด้านศูนย์สุขภาพพระสงฆ์ที่วังด้งก็ไปรับเขาเอาไว้ แล้วก็โรงเรียนหมู่บ้านเด็กขออาคารที่พักเด็กอีกหนึ่งหลัง เมื่อวานซืนทางโรงเรียนทองผาภูมิวิทยาก็มาขอหอพักเด็กบ้านไกลอีกหลังหนึ่ง บอกว่าเข้าคิวไปก่อน เพราะว่าคุณขอได้ แต่อาตมาหาเงินไม่ทัน

เหตุที่ต้องเบรกเอาไว้ก่อนเพราะว่า ช่วงนี้ต้องเตรียมทุนการศึกษานักเรียนเอาไว้ ทั้งหมดเกือบ ๒ ล้านบาท นั่นก็แปลว่า ถ้าเอาเงินมาสร้างวัตถุมงคล หักต้นทุนแล้วเหลือเท่าไรก็ต้องเทลงไปในงานเหล่านี้ โยมไม่ต้องตั้งใจทำ อาตมาก็ช่วยทำให้

เหตุที่ทำงานมากจนเงินไม่เหลือเพราะ ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกก็คือครูบาอาจารย์สอนไว้ว่า เงินที่ญาติโยมถวายมาอย่าคิดว่าเป็นส่วนตัว ต่อให้เขาถวายเป็นเงินส่วนตัวก็ให้ระลึกอยู่เสมอว่า เราได้มาในขณะที่เป็นพระสงฆ์ ถ้าใช้ในความเป็นสงฆ์ของเรา อย่างเช่นว่า ค่ารถ ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล ช่วยเหลือผู้อื่นแล้ว ให้ผลักลงกองทุนการกุศลไว้เสมอ เพื่อเพิ่มอานิสงส์ให้กับผู้ถวาย เงินปีนี้อย่าใช้ให้ถึงปีหน้า ถ้าจะเหลือถึงปีหน้าต้องคิดโครงการให้มากกว่าเงินไว้เสมอ เราจะได้ไม่เกิดความโลภคิดว่าเงินนี้เป็นของเรา นี่คือครูบาอาจารย์ท่านสอนไว้"

เถรี
08-03-2020, 20:13
"ส่วนประการที่ ๒ ก็คือเขาจะเก็บภาษีพระ ส่วนอาตมาเองถึงเวลาก็บริจาคแล้วเก็บอนุโมทนาบัตรไว้ จะดูว่าขอคืนภาษีได้เท่าไร ? เก็บภาษีพระนี่อาตมาพร้อมที่จะให้เก็บเลย พอเก็บแล้วขอหักคืนตามระเบียบ ดูว่ารับบริจาคมา ๑๐๐% ทำบุญในส่วนสาธารณกุศล ๙๙% เขาจะคืนให้เท่าไร ? อาตมาจะทำให้สรรพากรล่มจมสักวัดหนึ่ง คอยดูว่าจะทำได้ไหม ?"

เถรี
08-03-2020, 20:21
ถาม : ตอนบวงสรวงพลิกชีวิต ธูปบวงสรวงติดเองครับ ?
ตอบ : เรื่องปกติ...เสกวัตถุมงคลพลิกชีวิต อันดับแรกเลยพอไปกราบหลวงพ่อกวย พายุมาแรงมาก คือไปอาราธนาขอท่านช่วยทำให้ เนื่องด้วยว่าหลวงพ่อกวยท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ แล้วท่านช่วยลูกศิษย์เสมอ สมัยที่ท่านยังอยู่ ท่านทำวัตถุมงคลหลายรุ่นสำหรับพลิกชีวิตนี้โดยเฉพาะเลย แต่คนไม่ค่อยรู้ เพราะว่าท่านแอบเขียนเป็นอักขระขอม แต่อ่านเป็นภาษาไทยว่า "พลิกชีวิต" คือเขียนภาษาขอมแต่อ่านเป็นไทยได้ว่าพลิกชีวิต

แล้วประการที่ ๒ ด้วยความเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ ลูกศิษย์ขอท่านก็ช่วย คราวนี้พอเอาเครื่องสักการะเข้าไปกราบขออนุญาตท่าน ด้านนอกมีพายุมาที่มณฑป เล่นเอาชุดบายศรีระเนนระนาดต้องจัดกันใหม่ ท่านทำให้รู้ว่า "กูมาช่วยจริง"

ประการที่ ๓ คือตอนจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย อาตมาจุดแต่เทียน ส่วนธูป ๑๖ ดอกติดเอง..! เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายวิดีโอไว้ ถ้าถ่ายวิดีโอไว้จะเป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก เพราะว่าธูปติดต่อหน้าต่อตาเองทั้ง ๑๖ ดอก ติดแบบเปลวไฟสูงมาก ก็เป็นอันว่าครูบาอาจารย์ท่านรับรู้

คราวนี้พอตั้งใจหลับตาภาวนาเห็นแสงสีแดงหนามาก พุ่งคลุมลงมาเหมือนผ้าห่มหนา ๆ ผืนใหญ่ แล้วก็มีอักขระเลขยันต์หมุนเข้ามาลักษณะเป็นเกลียว จะพยายามอ่านพยายามท่องตาม ท่านบอกว่าไม่ต้อง ท่านก็บอกว่า เอ็งมอบความไว้วางใจให้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไปเลย ก็คือทำใจตามแบบของหลวงพ่อวัดท่าซุง ส่วนที่เหลือข้าจัดการเอง

เถรี
08-03-2020, 20:25
ถาม : สมเด็จพลิกชีวิตละครับ ?
ตอบ : หมดแล้ว มาได้เร็วมาก..สมควรได้..! เขามากันตั้งแต่เมื่อวานก็มี มาแบบไม่เกรงใจกันเลย เล่นยึดป้ายรถเมล์ พวกบรรดารถที่ผ่านมาเห็นว่าคนรอขึ้นรถเมล์เยอะ ก็จอดรถกัน แต่ไม่มีใครขึ้นหรอก เล่นนอนกันที่ป้ายรถเมล์ เพื่อรอจองกันเลย

เถรี
08-03-2020, 20:33
ส่วนการปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ พออาตมากราบอาราธนาบารมีพระและครูบาอาจารย์ ท้าวเวสสุวรรณท่านชี้ให้ดู มีรูปหล่อของท้าวมหาราชทั้ง ๔ ถ้าไม่ใช่ชื่อผิดก็อาวุธผิด ท่านบอกว่าส่วนนี้สงเคราะห์ให้ไม่ได้ เพราะว่าทำโดยที่ไม่ได้บอกไม่ได้กล่าวยังไม่พอ ยังทำโดยที่เรียกว่าไม่ศึกษาให้รู้เสียอีกว่าเป็นอย่างไร

รูปท้าวมหาราชทั้ง ๔ ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่บอก ท้าวเวสสุวรรณถือพลองยาว ส่วนใหญ่เขาทำสูงเสมอไหล่ ท้าวธตรฐถือพระขรรค์ ท้าววิรุฬหกถือตะบองเกลียวสั้น แล้วก็ท้าววิรูปักษ์ ถ้าไม่ถือศรหัวพญานาค ก็จะถือกงจักร ให้เลือกเอาว่าจะเอาแบบไหน ?

วันก่อนผ่านมาร้านขายเครื่องประดับสวน เขาทำท้าวมหาราชทั้งสี่ไว้ขาย ก็คิดว่าเออ...มึงใจถึง ปรากฏว่าท้าวเวสสุวรรณของเขาถือพลองยาวท่านี้ อาตมาจำได้ว่าท่านี้ ไอ้อู๋หมิงพระเอกในเรื่อง Hero เขาถือดาบ จำได้ไหม ? ที่บุกเดี่ยวไปสังหารจิ๋นซีฮ่องเต้ ถือดาบท่านี้ ไอ้เจ้านั่นก็ปั้นรูปท้าวเวสสุวรรณถือพลองยาวท่านี้ สงสัยว่าจะดูวิดีโอเกมมากเกิน..!

เถรี
08-03-2020, 20:39
คราวนี้ถ้าจัดท้าวมหาราชทั้ง ๔ อยู่รวมกัน สมมติว่าตั้งบูชาเรียงเป็นแถว ซ้ายสุดของเราหรือขวามือของท่านคือท้าวเวสสุวรรณ ต่อด้วยท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักษ์ ก็แปลว่าท้าวเวสสุวรรณจะอยู่ซ้ายสุดของเรา ท้าววิรูปักษ์จะอยู่ขวาสุดของเรา

ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ค่อยจะจำ ที่วัดท่าซุงด้วยความที่ปั้นถูกต้องแล้ว แต่พอหลวงพ่อวัดท่าซุงไปตรวจงาน วันนั้นมีหลวงพี่ประทีปกับหลวงพี่วิรัชไปด้วย อาตมาก็ติดตามไปพอดี ท่านก็ชี้ให้ช่างเสริฐดูบอกว่า “ตาเสริฐ แกติดชื่อท้าวมหาราชผิด..แก้ซะ” ปรากฏว่าหลังจากนั้นนอกจากงานวัดมากแล้ว หลวงพ่อท่านยังไม่สบายหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งไปวุ่นวายกันตอนท่านมรณภาพ ก็เลยไม่มีการแก้ไข

อาตมายังไม่ได้ย้อนไปดูเลยว่าป่านนี้แก้ไขถูกต้องแล้วหรือยัง แต่ยังไม่ได้บอกท่านพระครูปลัดสมนึกไว้ งวดก่อนเพียงแค่บอกพระครูปลัดสมนึกว่ายันต์เกราะเพชรผิด เนื่องจากว่าคนเขียนก็เขียนเพลิน ‘คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ’ บรรทัดนี้เขาเขียนเป็น ‘ปัน นู’

เถรี
08-03-2020, 20:46
พระอาจารย์กล่าวว่า "คนเราเป็นเรื่องแปลกมาก ของบางอย่างต้องตะแคงข้างไป อย่างตะกรุดพยัคฆราชเกราะเพชร อันดับแรกเลยวัสดุค่อนข้างสุ่มเสี่ยงต่อกฎหมาย เนื่องจากว่าเป็นชิ้นส่วนของสัตว์ป่าคุ้มครอง ยังดีนะ..ถ้าเป็นสัตว์ป่าสงวนนี่ซวยเลย ครอบครองเฉพาะชิ้นส่วนก็ผิดกฎหมาย

ประการที่ ๒ มหาเถรสมาคมมีมติว่า หนัง เขา เขี้ยว งา กระดูกสัตว์ต่าง ๆ นี้ไม่ควรทำเป็นวัตถุมงคล เพราะว่าจะเป็นการส่งเสริมให้มีการล่า

คราวนี้พอตะแคงข้างไปแล้ว ยังอุตส่าห์มีคนมาคอยถามอีกว่าทำด้วยอะไร ? มาถามใกล้ ๆ นี่..เดี๋ยวจะเป่ายันต์ฯ แบบพิเศษให้..! แล้วที่ถามว่าทำตะกรุดนี้ตามสายวิชาครูบาอาจารย์ท่านไหน ? ก็ทำตามสายหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว เพียงแต่ว่าเพิ่มวิชาของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค เพื่อเอายันต์เกราะเพชรใส่ลงไปด้วย ในเมื่อเรียนมาแล้วต้องประยุกต์ให้เป็น ไม่ใช่ทำทื่อ ๆ อยู่อย่างเดียว ไม่มีความก้าวหน้าเลย"

เถรี
09-03-2020, 19:33
พระอาจารย์กล่าวว่า "รองานเป่ายันต์ฯ ๒๘ มีนาคมนี้ ดูว่าเวลาบารมีพระท่านคลุมลงมาแล้ว เชื้อโรคจะอยู่ได้ไหม ? สงสัยเหมือนกันว่า ถ้าพระท่านสงเคราะห์ ลูกน้องท่านท้าวมหาราชคงต้องถอนธงถอนเสากันให้ยุ่งไปหมด"

เถรี
09-03-2020, 19:35
พระอาจารย์กล่าวว่า "เนื่องจากทางคณะสงฆ์มีคำสั่งให้ยกเลิกการบวชสามเณรภาคฤดูร้อนเพื่อป้องกันไวรัส วัดท่าขนุนก็เลยเอาดัง ไม่ยกเลิก..! ถ้ามีเณรติดไวรัส ให้รู้ ๆ เลยว่าติดไวรัสที่วัดท่าขนุน ถ้าไม่มีไวรัสพระอาจารย์เล็กก็แทงหวยถูก

เดี๋ยวก่อนงานบวชสามเณรคงต้องเชิญท้าวมหาราชทั้ง ๔ ถือกระบอง ยืนตีหน้าขู่ไวรัสเอาไว้ก่อน"

เถรี
09-03-2020, 20:39
พูดถึงท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ในงานพุทธาภิเษกที่วัดศาลพันท้าย (ต่อ) "คราวนี้พอท้าวเวสสุวรรณท่านบอกอย่างนั้น อาตมาก็ถามว่าแล้วจะแก้ไขได้ไหม ? ท่านบอกว่าถ้าแก้ไขให้ถูกต้องก็เอาไปเข้าพิธีใหม่ได้ แต่คราวนี้ถ้าแก้งานแบบนั้นอาตมาว่าสาหัส ไม่ต้องมากหรอก...ถ้าสร้างสัก ๑,๐๐๐ องค์ก็ลำบากแย่แล้ว"

เถรี
09-03-2020, 20:40
ข้างบ้านเติมบุญกำลังจุดประทัด "จุดประทัดเยอะ ๆ ก็ดี เชื้อโรคกลัวควันและเปลวไฟ เพราะฉะนั้นที่..ไฟไหม้ออสเตรเลียช่วยได้เยอะมาก แต่พอไฟไหม้ก็ต้องเจอฝุ่นควันอีก"

เถรี
09-03-2020, 20:50
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้กำลังตัดสินใจว่าไม่ควรไปอินเดียอย่างยิ่ง เหตุที่ไม่ควรไปอย่างยิ่งก็เพราะว่าอันดับแรก อินเดียตอนนี้เชื้อ COVID-๑๙ ระบาดหนัก แล้วระบาดเมืองที่เราจะไปกันเสียด้วย อีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้ถ้าไปเนปาล ไปได้แต่กลับไม่ได้ คือเขาไม่ให้กลับด่านเดิม เขาให้นั่งเครื่องบินกลับ เพราะว่าอินเดียมีการตรวจสอบแค่ที่สนามบิน ด่านชายแดนไม่มีเครื่องมือตรวจ แล้วถ้าเกิดกลับมาโดนกักตัว ๑๔ วัน อาตมาก็ไม่ต้องเป่ายันต์ฯ แน่เลย

ถ้าพวกที่กลับจากอินเดียแล้วไม่ไปเที่ยวงาน ก็คงไม่มีปัญหาหรอก แขกอินเดียจัดงานแต่ละทีนี่คนไปกันเป็นพัน ๆ แล้วข้าวปลาอาหารเขาก็กินด้วยมือทั้งนั้น จึงติดเชื้อกันกระจาย..!"

เถรี
09-03-2020, 21:33
"แต่ที่อัศจรรย์ที่สุดคืออิหร่าน ติดเชื้อไปได้ขนาดนั้น ความจริงมีอยู่คลิปหนึ่งที่อยากให้พวกเราดู เผื่อมีใครฟังภาษาแขกออกบ้าง เขาถ่ายให้ดู เฉพาะสายตานับคร่าว ๆ นี่หลายร้อยศพ ห่อใส่ถุงดำไว้เต็มโรงพยาบาล แล้วที่พื้นข้างนอกก็ขุดหลุมเรียงเป็นแถว มีป้ายเล็ก ๆ ติดไว้ เขาบอกว่าไม่ยืนยันว่าเกิดจากอะไร ถ้าใครฟังภาษาในคลิปออกช่วยแปลให้ด้วย

อิหร่านเป็นประเทศร้อน ปกติเชื้อไม่น่าจะอาละวาดได้ขนาดนั้น แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ ถึงเวลาคาดว่าที่ตายเยอะจะเป็นผู้ชาย เพราะว่าผู้หญิงของเขาไปไหนมาไหนต้องปิดต้องคลุมทั้งตัวอยู่แล้ว ส่วนผู้ชายถึงเวลาสลามเสร็จจะมีการจุ๊บแก้มกันด้วย ทำให้ติดเชื้อกันบรรลัยเลย ต่อไปก็อาจจะเหลือแต่ผู้หญิง กลายเป็นเมืองแม่หม้าย..!"

เถรี
09-03-2020, 21:44
ถาม : หัวรุ่งเช้าวันที่ ๕ หลวงพ่อกวยท่านมาบอกให้เอาตำราใหญ่ของท่านไปด้วย แต่ผมขี้เกียจหอบไป เพราะคิดว่า "เฝือ" ไม่คิดว่าจะตรงกับที่หลวงพ่อบอก ว่าท่านจะให้ขนาดนี้ ?
ตอบ : ท่านมาเอง..ท่านเทมาหมดเลย ท่านบอกว่าทำอะไรได้ท่านให้หมดเลย เกิดจากประการแรกก็คือ ท่านตั้งใจช่วยจริง ๆ ประการที่ ๒ ก็คือ เรื่องของสมเด็จองค์ปฐม ถือว่าไม่มีอะไรเกินกว่านี้อีกแล้ว ท่านจึงเทให้หมดเลย

อาตมาก็ว่าหมุนมาเป็นพายุ มีแต่อักขระเลขยันต์บินว่อนไปหมด ส่วนตอนปลุกเสกราหูที่วัดศีรษะทอง ด้วยความที่นำสมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิตเข้าไปด้วย พออาราธนาท่านเสด็จมาไม่มีที่นั่ง ก็เลยไปประทับนั่งอยู่บนเศียรพระราหูไปเลย เอาไว้มีโอกาสสร้างประทับพระราหูสักรุ่นดีไหม ? เพราะว่าพระองค์ท่านทำตัวอย่างให้ดูแล้ว

เถรี
09-03-2020, 22:01
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้กำลังรอเวลาที่เหมาะสม ว่าจะหล่อสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเงินปิดทองก่อน เนื่องจากท่านอาจารย์สุชาติปั้นแบบมามีขนาดใหญ่มาก ไม่นึกว่าจะขึ้นมณฑปได้ สูงตั้ง ๑๕๕ เซนติเมตร เตี้ยกว่าอาตมาหน่อยเดียว จากที่ตั้งใจว่าจะหล่อเป็นทองคำ จึงต้องให้ช่างเขาปั้นลดขนาดลงมา ส่วนต้นแบบก็จะทิ้งไปเฉย ๆ ก็ไม่ได้ เพราะว่าเป็นรูปพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่แล้ว ก็เลยต้องหล่อองค์ใหญ่เป็นเนื้อเงินปิดทอง แล้วก็มาหล่อองค์เล็กเป็นทองคำตามความตั้งใจเดิมของเรา"

เถรี
09-03-2020, 22:25
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้ทางวัดท่าขนุน ชุมชนคุณธรรมเขาเตรียมรับการตรวจจากผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม เขาขอร้องให้วัดจัดงานอะไรที่เกี่ยวกับชุมชนคุณธรรมและพลังบวร ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลตามยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน สร้างความ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ให้กับประเทศชาติ

พอถึงเวลายื่นโครงการไป เขาขอตรวจดูก่อนว่าควรให้งบประมาณไหม ? ถ้ามีเวลามากก็เชิญ แต่อาตมาไม่มีเวลา ว่าแล้วก็มารับสังฆทานที่นี่ ที่เหลือก็ให้ชุมชนเขาจัดการกันไป

คราวนี้ตั้งแต่นายกเทศมนตรี ประธานชุมชน กรรมการชุมชน ก็วิ่งกันตีนพลิกอยู่ตรงนั้น เมื่อวานรองประธานสภาฯ บอกว่า "เดี๋ยวผมจะเป็นผู้นำเสนอเอง ขอข้อมูลหลวงพ่อด้วย" อาตมาบอกว่าไปเอาที่เลขาฯ เตรียมไว้ให้แล้ว โหลดเอาไว้เรียบร้อย ท่านรองฯ บอกว่ากำลังแบ่งกันว่าใครจะนำเสนอเรื่องอะไร ใครจะนำเสนอ Power Point ต้องรีบไปเตรียมการ อาตมาบอกว่า เอ็งไม่ต้องเตรียมให้เสียเวลา ทั้งหมดที่นั่นมีหมดแล้ว จะเอาคลิปวิดีโอ จะเอา Power Point หรือว่าจะเอาเนื้อหาที่เป็น Word มีทั้งนั้น แค่ไปดูว่าใครที่จะเหมาะสมในการนำเสนอเรื่องอะไร แล้วก็แบ่งสันปันส่วนกันไปก็พอแล้ว"

เถรี
09-03-2020, 22:30
"แต่ดีอยู่อย่างว่า...จากการที่อาตมาพยายามบริหารวัดให้อยู่ในลักษณะที่ว่า ไม่มีเราวัดต้องอยู่ได้ โดยการแบ่งสันปันส่วนหน้าที่ให้กับพระ ให้กับญาติโยม เขาผลัดกันรับผิดชอบดูแล ถึงไม่อยู่ก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจ

อีกประการก็คือ ถ้านำเสนอไม่เป็นที่ประทับใจ เขาไม่ให้งบประมาณมา อาตมาก็ยังทำงานอยู่ดี เขาให้มาก็แค่ทำให้จ่ายน้อยลงไปหน่อย ซึ่งไม่มีทางเลยที่จะไม่จ่าย อย่างปีที่แล้วก็ให้งบประมาณมาหนึ่งแสนบาท อาตมาจ่ายไป ๓ แสน ๗ หมื่นบาท ปีนี้ขอไป ๓ แสนบาท เขารับปากว่าจะให้ แต่ปรากฏว่างบฯ ไม่ออก เนื่องจากว่าตอนลงมติงบประมาณผ่านสภา ท่าน สส.ผู้ทรงเกียรติดันมีการเสียบบัตรแทนกัน อาตมาจ่ายไป ๕ แสน ๘ หมื่นบาท ต่อให้เขาให้มา ๓ แสนบาทตามที่รับปากไว้ ก็ไม่พออยู่ดี

เรื่องพวกนี้จึงขึ้นอยู่กับเรา ถ้าหากว่าจัดงานแล้วเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ต่อให้ต้องควักกระเป๋ามากขึ้นก็ต้องทำ แต่ทางราชการเขามัวแต่กลัวเงินทอนกันอยู่ ทำอะไรก็ขยับตัวยาก"

เถรี
09-03-2020, 22:55
"จัดงานเรียบร้อยแล้วส่งไลน์ไปถามท่านรองนายก อบจ.กาญจนบุรี ว่าเกิดอะไรขึ้น ของบไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ปีนี้จ่ายมาไม่ทันจัดงาน ท่านรองนายกฯ สมภพขอโทษขอโพย บอกว่ามีปัญหาตรงนี้ครับ ตรงที่เขาเสียบบัตรแทนกัน ถ้ามีข้อกฎหมายห้ามไว้ก็แปลว่าใครจ่ายงบประมาณไปนี่บรรลัยแน่ จึงต้องรอคำวินิจฉัยให้แน่นอนเสียก่อน

ทุกหน่วยงานงบประมาณสะดุดหมด ยกเว้นวัดท่าขนุน เพราะว่าของเราเป็น "งบหลวง" ถึงเวลาก็หลวงพ่อจ่าย...!"

เถรี
09-03-2020, 23:02
พูดถึงพระสมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิต "เจ้าอาวาสวัดท่าขนุนยังต้องจ่ายเองเลย โคตรจะยุติธรรม..! คือเขาให้โควต้า ๒ เหรียญ เจ้าอาวาสยืนหัวแถวได้ไป ๒ เหรียญเหมือนกัน นึกว่าจะได้เยอะ..!

วัดท่าขนุนทำงานโปร่งใสมาก ขนาดเจ้าอาวาสยังต้องเข้าคิว ตอนแรกจะให้มาเข้าคิวข้างล่าง รู้สึกว่าจะโหดร้ายกับคนแก่ไปไหม ? ท้ายสุดก็เลยขอเขาหยิบก่อนไป ๒ เหรียญ แต่ยังไม่ได้จ่ายสตางค์ เพราะว่าตอนหยิบไม่มีสตางค์อยู่ใกล้มือ ขนาดเจ้าอาวาสจะเอาวัตถุมงคลยังต้องเข้าคิว คนอื่นไม่ต้องมาขอสิทธิพิเศษเลย ยุติธรรมสุด ๆ เจ้าหน้าที่ก็ติดนิสัยของอาตมา สมัยทำงานถวายหลวงพ่อวัดท่าซุง ถึงเวลางานเป็นงาน ไม่จำหน้าคน

ถ้าเราทำ ๒ มาตรฐานแบบรัฐบาล...เอ๊ย...ไม่ใช่ ขอโทษพูดผิด รัฐบาลไม่ใช่ ๒ มาตรฐาน รัฐบาลมี ๓-๔ มาตรฐาน ถ้าเราทำแบบนั้นก็จะขาดความน่าเชื่อถือ เพราะฉะนั้น..ต้องมาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าจะตัวอาตมาเองหรือคนที่ไม่รู้จักมักจี่ ถ้าคุณเข้าคิวทันก็ได้ไป"

เถรี
10-03-2020, 21:34
"ที่บอกว่ารัฐบาลมีหลายมาตรฐาน เพราะว่าวันก่อนเขาออกมาชี้แจงในเรื่องของพระที่ต้องคดีเงินทอน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แย่ที่สุดในสายตาของอาตมา เพราะว่าคนผิดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ คือ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่กลายเป็นว่าเขากล่าวโทษว่าพระสนับสนุนให้ทำผิด..!

คิดง่าย ๆ ว่า อย่างเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ มาบอกว่าตรงนี้มีงบประมาณอยู่ ๑ ล้านบาท จะโอนถวายหลวงพ่อแล้วขอคืน ๓ แสนบาทนะครับ พระท่านก็ตกลงอยู่แล้ว เพราะถือว่าได้อย่างเดียว ในเมื่อโอนมาทางวัดก็เบิกออกมา ๓ แสนบาท แล้วให้เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ไป คือพระเราคิดง่าย ๆ ว่าเราได้ ๗ แสนบาท ไม่ได้คิดว่าได้ ๑ ล้านบาท แต่กลายเป็นว่าสนับสนุนให้เขาทำผิด"

เถรี
10-03-2020, 21:39
"คราวนี้ก็มีอยู่ว่า ถ้าพระทำผิดต้องโทษจำคุก ต่อให้ไม่เปล่งวาจาก็ถือว่าสึกแล้วโดยกฎหมาย อันนี้คือมาตรฐานหนึ่ง อีกมาตรฐานหนึ่งก็คือ ต้องโทษจำคุกแต่ไม่ได้เข้าคุก อย่างของวัดกัลยาณมิตร เขาถือว่าไม่ต้องสึก อ้าว...แล้วไม่ใช่เรื่องเดียวกันหรือ ? ก็พิพากษาจำคุกเหมือนกัน

พออาตมาฟังคำอธิบายแล้วก็งง ๆ ว่าต่อไปนี้กูจะทำตัวอย่างไร ? คนหนึ่งศาลตัดสินจำคุกเหมือนกัน แต่ไม่ได้ไปเข้าคุก พอศาลประกาศรอลงอาญา ก็นั่งยิ้มอยู่ที่วัด แล้วบอกว่าไม่ต้องสึก ส่วนอีกรายหนึ่งศาลยังไม่ทันตัดสิน จับถอดผ้าเหลืองเข้าคุกไปก่อน พอถึงเวลาศาลตัดสินจำคุกรอลงอาญา มีการบอกว่าขาดความเป็นพระไปแล้ว ต่อให้ไม่เปล่งวาจาสึกก็ขาดความเป็นพระ อ้าว..ตกลงมาตรฐานอยู่ตรงไหน ?

ก็เลยกลายเป็นว่า ทุกวันนี้ "พวกกู" ไม่ค่อยผิดหรอก แต่ถ้าไม่ใช่ "พวกกู" นี่จะเรื่องเล็กเรื่องน้อยขนาดไหน..ผิดหมด..! ทำให้เกิดแนวการปฏิบัติที่ไม่เหมือนกันขึ้นมา พอไม่เหมือนกันขึ้นมา ถ้าเกิดคดีแบบเดียวกันขึ้นมาแล้วจะเอาตัวอย่างแบบไหน ?"

เถรี
10-03-2020, 21:45
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตรงนี้ไม่กลัวเชื้อโรค เหตุที่ไม่กลัวเชื้อโรคเพราะว่าอาตมาเชิญเอาเบี้ยแก้ตัวครูของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วมา อย่าไปเข้าใจว่าเบี้ยแก้สามารถที่จะแก้โรค แค่กัน...ไม่ใช่แก้ ถ้าคุณเป็นโรคแล้วก็ตัวใครตัวมัน..!

เรื่องของปรอท ถ้าเป็นปรอทป่าเขามีฤทธิ์ในการที่จะกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปในเขตนั้นได้ ถ้าเป็นปรอทวิทยาศาสตร์ไม่ได้มีฤทธิ์อำนาจในลักษณะอย่างนั้น อย่างสมัยหลวงปู่รอด หลวงปู่บุญ หลวงปู่แขก หลวงปู่ทัต ฯลฯ เบี้ยแก้ท่านเป็นปรอทป่าที่ดักมา ก็จะมีอานุภาพป้องกันพวกเชื้อโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะเชื้อไข้ป่า

อาตมาเองก็เลยต้องเชิญเบี้ยแก้มาด้วย เอาไว้กันเชื้อโรค เพราะพวกเรามากันเยอะ ส่วนใครที่เป็นอยู่แล้วก็จงเป็นต่อไป ปรอทรุ่นหลัง ๆ ที่บรรจุในเบี้ยแก้ ส่วนใหญ่เป็นปรอทวิทยาศาสตร์ ถ้าจะเอาแบบป้องกันก็ต้องหารุ่นเก่า ๆ แต่รุ่นเก่าก็แพงถึงแพงมาก"

เถรี
10-03-2020, 21:47
ถาม : หลวงปู่เจือ เป็นปรอทแบบไหนครับ ?
ตอบ : เป็นปรอทวิทยาศาสตร์

ถาม : หลวงปู่เพิ่มละครับ ?
ตอบ : ของหลวงปู่เพิ่ม ช่วงท้าย ๆ ก็เป็นปรอทวิทยาศาสตร์

เถรี
10-03-2020, 21:52
อาตมาเองก็ไม่มีอารมณ์ที่จะไปดักปรอท ผ่านอยู่ที่หนึ่ง น่าจะอยู่ช่วงระยอง - จันทบุรี ตรงนั้นถ้าว่าตามตำราแล้วปรอทป่าโคตรเยอะ ถ้าคุณวิ่งผ่านจะสังเกตว่าพวกใบมะพร้าวแห้งหมดเลย คือส่วนที่ไม่ใช่ใบแห้งข้างล่าง บน ๆ ก็แห้งไหม้หมด ลักษณะอย่างนั้นคือโดนปรอทกิน ถ้าเป็นพวกเกษตรเขาก็จะบอกว่าเป็นเชื้อรา หรือไม่ก็โดนแมลงประมาณเพลี้ยไฟลง แต่จริง ๆ แล้วนั่นคืออาการที่ปรอทกิน แสดงว่าแถวนั้นมีเยอะ ถ้าเราไปดักจะได้เยอะเป็นพิเศษ เพราะว่าตอนที่ไปเรียนทำปรอทอยู่ เขาสอนวิธีดูว่าแถวไหนมีปรอทมาก ลักษณะนั้นคือปรอทป่าเยอะมาก

ถาม : สังเกตว่าแถวทะเล ดินเค็ม สภาพต้นไม้ก็เลยแห้ง เกี่ยวกันไหมคะ ?
ตอบ : แบบเดียวกับที่สุนทรภู่เขาบอกว่า ฯลฯ ปรอทแร่แม่เหล็กก็มีมาก ชื่อว่านาควารินทร์สินสมุทร ฝูงนาคมาอาศัยด้วยไกลครุฑ ถ้ายั้งหยุดอยู่ที่นี่จะมีภัย ฯลฯ นาควารินทร์ก็คือหมู่เกาะนิโคบาร์ ก็คือทะเล

เถรี
10-03-2020, 22:15
ถาม : ถ้ารุ่นหลัง ๆ ใช้ปรอทวิทยาศาสตร์ ทำตามวิชาของหลวงปู่เจือจะกันได้จริงไหมครับ ?
ตอบ : หมายถึงว่าถ้าทำตามท่านก็ทำได้ แต่คราวนี้จะให้กันเชื้อไข้เต็มที่เหมือนปรอทป่าก็ไม่ได้

เถรี
10-03-2020, 22:19
ถาม : ปรอทของหลวงปู่ตามะยะละครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่นั่นคือปรอทป่าเลย เพราะที่อาตมาไปเรียนฝั่งพม่าเขาก็สอนวิธีดักให้ ที่แน่ ๆ ก็คือต้องไปซื้อเบ้า เขามีขายที่เมืองพะอาง จะเป็นเบ้าโตประมาณ ๔ นิ้วมือกางหน่อยหนึ่ง ก็คือพอถึงเวลาหลอมมาจะเห็นว่ามีเป็นลักษณะเป็นหัวแหวน ส่วนที่มน ๆ คือก้นเบ้า ส่วนด้านบนก็แค่เอามาขัดกระดาษทรายไม่กี่ทีก็เรียบแล้ว

สมัยนั้นชีวิตมีรสชาติมาก หลวงตาเย็นถามว่า “อาจารย์ทำอย่างไรได้เร็วแท้ ผมเสกมา ๕ ปีแล้วไม่สำเร็จ” สรุปว่าหลวงตาเย็นไม่ได้มีสมาธิเลย เพราะว่าท่านหลอมปรอทอย่างเดียว ภาวนาไม่เป็น ว่าได้แต่คาถา สมาธิไม่มี

เถรี
10-03-2020, 22:21
พูดถึงพระสมเด็จพลิกชีวิต "โบราณเขาเก่งเรื่องพระพลิกชีวิต เขาทำเป็นรูปผาลไถ ในบรรดาแม่ทั้งหลาย แม่ธรณียิ่งใหญ่ที่สุด เขาว่าผาลไถขนาดพลิกแม่ธรณีได้ เขาก็จะเอามาเป็นส่วนผสมในการหล่อ

อาตมาเองไม่ค่อยมีสตางค์ก็เลยเอาเนื้อเงินไว้ ๒ องค์ เนื้อทองไม่ได้ไปเอา ไม่ต้องเอามาถวายนะ..แพง ปรากฏว่าตัวเลขทองคำที่เอาไปหล่อ ๙๒๗ กรัม คือเกือบ ๆ ๑ กิโลกรัม พวกที่อยู่รอบข้างก็ “มาแน่ ๆ เลขนี้” แล้วก็ไม่มีใครซื้อสักคน ปรากฏว่าออกมา ๓ ตัวตรง ๆ ส่วนใหญ่แล้วพวกประเภทเชียร์ว่ามาแน่นี่มาจริง ๆ แต่ขอโทษ..ไม่มีใครซื้อสักคน พอหวยออกแล้วก็มานั่งหัวเราะ อุตส่าห์บอกเองว่ามาแน่"

เถรี
10-03-2020, 22:28
พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าจะระวังเชื้อโรคกันจริง ๆ ถึงเวลาใส่หน้ากากแล้ว อย่าเอามือไปจับหน้ากากขยับบ่อย ๆ เพราะว่าถ้าเราป้องกันเชื้อโรคได้ แล้วเชื้อโรคไปติดอยู่ที่หน้ากาก เราไปจับ ก็มาอยู่ที่มือ ถ้าไม่ได้ล้างมือ แล้วไปหยิบข้าวหยิบของใส่ปาก ก็จะติดเชื้อทั้ง ๆ ที่ใส่หน้ากากนั่นแหละ

ส่วนอาตมา ตอนนี้มีโอกาสติดเชื้อจากสตางค์เยอะมาก เพราะว่าผ่านมือใครมาบ้างก็ไม่รู้ แต่ก็นั่งรับมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๖ จนป่านนี้ จะครบ ๓๐ ปีอยู่แล้ว ถ้าจะติดเชื้อ คงตายไปนานแล้วล่ะ"

เถรี
10-03-2020, 22:29
"สถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยง ถ้าเราไม่ประมาท ไม่ไปเสี่ยงด้วย ก็จะปลอดภัยกว่า แต่นิสัยของอาตมาชอบอะไรเสี่ยง ๆ รู้สึกว่ามีความท้าทายในชีวิตมาก เวลาตายคนอื่นเขาก็จะสมน้ำหน้าตามหลังไป แล้วก็มีเสียงภาษาอีสานไล่ตามหลังว่า โง่หลายตายซะ..!"

เถรี
10-03-2020, 22:40
ถาม : มีคนเอาพระพลิกชีวิตเนื้อเงินไปปล่อย ๑๕,๐๐๐ บาทครับ ?
ตอบ : เขารู้จักทำมาหากิน เขาบูชาไปแล้วก็เป็นสิทธิ์ของเขา เราจะไปว่าอะไรเขาได้

นั่นแหละให้รีบจอง ไม่อย่างนั้นจะแพงขึ้นไปอีก เขาบูชาไป ๑,๕๐๐ บาท เขาไปปล่อยแค่ ๑๕,๐๐๐ บาท จะไปว่าอะไรเขา ก็คือถ้าหากว่าช้าจะแพงกว่านั้นอีก

ถาม : ๑๕,๐๐๐ บาทนะครับ ?
ตอบ : เขาอาจจะพิมพ์ ๐ เกินไปตัวหนึ่งก็ได้ ถามเขาให้แน่ ๆ ก่อน

ถาม : ของจริงสวยมาก
ตอบ : รูปถ่ายไม่มีทางสวยเท่าของจริงอยู่แล้ว

ถาม : ทำไมทำน้อยขนาดนั้นครับ ?
ตอบ : แล้วทำไมไม่จ่ายเงินมาแต่เนิ่น ๆ เล่า ? เฉพาะทองตูก็หมดไปเกือบ ๒ ล้านบาทแล้ว ดันมาบอกว่าทำน้อย ชิชะ..ตูไม่มีปัญญาจะซื้อทองโว้ย..!

เถรี
10-03-2020, 23:12
พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานมีคนจะบูชา "สมเด็จองค์ปฐมพลิกแผ่นดิน" รุ่นนี้ยังไม่ทันจะสร้างเลย"

เถรี
10-03-2020, 23:29
พระอาจารย์กล่าวว่า "การเรียนวิชาสายเสน่ห์ ถ้าคนเรียนยังไม่ถึงความเป็นพระอริยเจ้านี่จะลำบาก เพราะว่าถ้าเผลอ วิชาจะตีกลับ พังมาเยอะแล้ว"

เถรี
10-03-2020, 23:41
ถาม : ทำไมปรอทอันนี้ไม่แจ่มเลย ? (ปรอทกินทองของครูบาศรีอ่อง)
ตอบ : เขาบอกว่าถ้าดวงเจ้าของดี ก็จะสว่างแวววาว ถ้าเจ้าของอยู่ในช่วงดวงตก ก็จะหม่นหมอง คราวนี้ของเราเองอยู่ในช่วงไหน ?

ถาม : ถ้าเหมือนสะท้อนชีวิตเรา แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าตอนนี้เลวร้ายอะไรนี่คะ เราก็ผ่านไปได้ ?
ตอบ : ก็เราเฉย ๆ แต่โดยมาตรฐานของเขานี่ ถ้าอุณหภูมิขึ้นลง เขาก็ขึ้นลงตามอุณหภูมิ ส่วนเราจะหนาวร้อนหรือเปล่าก็เป็นเรื่องของเรา เขาบ่งบอกถึงชะตาชีวิตของเจ้าของ ส่วนเจ้าของจะรู้สึกว่ากระทบมากกระทบน้อยอะไรหรือเปล่า เขาไม่รับรู้ด้วยหรอก

เถรี
11-03-2020, 08:05
พระอาจารย์นำวัตถุมงคลมาให้ที่ตู้บูชาวัตถุมงคลสามชิ้น “หยิบไม่ดีระวังหงายท้อง..! เป็นกระโหลกเสือโคร่ง ใครชอบของขลังสายโหดขอชิ้นละสองหมื่นบาท มีอีกหนึ่งชิ้น ไม่กล้าเอามา เพราะว่าไม่ได้ล่ามเชือก ถึงอาตมาจะจับบวชแล้วก็เถอะ..สายนี้โหดจริง ๆ

พระอาจารย์เล่นของแต่ละอย่าง ชวนให้ติดคุกทั้งนั้น กระโหลกเสืออย่างนี้

ถ้าลูกหลานใครเรียนช่างกลโดยเฉพาะแถวปทุมวันค่อยเอาไป ได้ใช้แน่เลย ถ้าไม่เหลือจริง ๆ จะตัดใจเอาอันนั้นมาให้ แต่อันนั้นไม่ได้ล่ามเชือกนะ..!

ยันต์เสือไร้เศียรนี่ตำรวจต้องไปขอร้องหลวงปู่เจ้าของยันต์ว่าอย่าสัก เพราะว่าลูกศิษย์เป็นโจรหมด พระอาจารย์ไฉนท่านเรียนมา ท่านเก่ง ท่านประยุกต์ได้ คือหลวงปู่ท่านบอกว่าถ้าเรียนไปแล้วเดี๋ยวจะเอาไม่อยู่ พระอาจารย์ไฉนท่านเลยเพิ่มเสาล่ามโซ่ไว้เลย

ค้นในกูเกิ้ล พิมพ์คำว่า 'เสือหัวขาด' ที่ท่านต้องเอาหัวออกเพราะว่าถ้าใส่หัวเข้าไปกลัวว่าเสือจะเผ่นออกมาเลย โหดขนาดนั้น..! พอ ๆ กับควายธนูของพ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ ปั้นได้แค่ซีกเดียว ถ้าปั้นเต็มตัวก็ไปเลย

ทั้งหมดที่หลวงพ่อไฉนท่านทำมา มีชุดนี้ได้ดีที่สุดเลย เพราะว่าเป็นกระโหลกเสือ และมีแค่ไม่กี่ชิ้น”

เถรี
11-03-2020, 08:46
ถาม : แมลงภู่คำนี่เล่นได้ใช่ไหมครับ ? (คนถามเขย่าปรอทเล่น)
ตอบ : เล่นไปเลย ไม่มีอะไร

แมลงภู่คำเป็นศาสตร์ที่ไม่มีข้อห้าม จะทำอย่างไรก็ได้ ไม่มีอะไร จะกระโดดข้ามเล่นก็ได้ เขาไม่ได้ว่าอะไร พวกนี้ต้องเป็นงาช้างกำจัด หรืองากำจาย หรืองากระเด็นเท่านั้นนะ งาช้างทั่วไปทำไม่ได้ เขาเอาไปแช่ว่านเพื่อให้งานิ่ม แล้วจะได้แกะง่าย เขาบอกว่าเป็นการเพิ่มฤทธิ์ให้กับแมลงภู่ด้วย แล้วที่เป็นเรื่องอัศจรรย์ คือบรรจุปรอททุกตัวนี่สิ ตัวนิดเดียว บรรจุปรอทเข้าไป กระทั่งบางคนบอกว่าไม่ได้เปิดบรรจุแบบทั่ว ๆ ไป แต่หากว่าคนที่เขาทำขลังมาก ๆ เขาเสกจนแมลงภู่คำดูดปรอทเข้าไปเอง

ถาม : แมลงภู่คำงาแกะ ๙,๐๐๐ บาท ไม้ดุมเกวียน ๘,๐๐๐ บาท แบบงาแช่ว่านใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ใช่..งายิ่งตัวเล็กยิ่งแกะยาก นี่ขนาดเล็กสุดที่เขาทำได้แล้วนะ

ไปต่างประเทศอย่าพกไปนะ หลายประเทศเขาห้ามงาช้าง คนไทยไปโดนปรับ ๒,๐๐๐ ดอลลาร์มาแล้ว ความจริงเขาจะเอาติดคุก แต่คราวนี้เขาบอกว่าไม่รู้จริง ๆ แล้วอีกอย่างหนึ่งเป็นวัตถุมงคล ติดตัวเพื่อป้องกันตัว ก็เลย เอ้า..ปรับ ๒,๐๐๐ เหรียญ

เถรี
11-03-2020, 08:49
ถาม : ที่ไปจีนมา หลวงพ่อเอางาไปทำไม ?
ตอบ : ก็กูไม่กลัว...! อยากเห็นใช่ไหม ? มองซะให้พอ

มีอาถรรพ์อยู่บางอย่างก็คือว่า ออกนอกบ้านจะต้องเจอแมลงภู่บ่อย ๆ หรือไม่ก็จะมีซากแมลงภู่มาตายอยู่แถวใกล้ ๆ ที่อยู่เรา เป็นทุกคน

ไม่อยากแบ่งชนชั้นนะ แต่เขาบอกว่าบรรดาแม่ทัพนายกองหรือเชื้อพระวงศ์จะต้องใช้แมลงภู่คำแบบเนื้องา ถ้าคนทั่ว ๆ ถึงได้ใช้ไม้ดุมเกวียน

เถรี
11-03-2020, 08:52
ถาม : เอาแมลงภู่คำเข้าเป่าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรจะเสื่อมไหมครับ ?
ตอบ : ไม่เสื่อม...เพราะไม่ใช่ไสยศาสตร์ ก็คือไม่ได้ไว้ทำร้ายคนอื่นเขา แล้วจะไปเสื่อมได้อย่างไร ? อันนี้เขาไว้ป้องกันตัวเอง

เถรี
11-03-2020, 09:01
หาแมลงภู่คำตัวที่ถูกใจไว้สักตัวหนึ่ง แล้วก็ติดตัวไว้ ของหลวงพ่อเป็นตัวใหญ่ ใส่ย่ามเหมือนกัน แต่ว่าเป็นไม้นะ ของเราเองประเภทเด็กบ้านนอก ไม่ใช่ในรั้วในวัง ก็เลยพกแบบไม้

เถรี
11-03-2020, 09:04
พวกนี้เป็นวิชาการที่สืบสายมาจากฝั่งพม่า แล้วคราวนี้มาโด่งดังในเขตไทยใหญ่ เพราะว่าเชื้อเจ้าไทยใหญ่มีมาก กติกาอย่างแรกเลย คนเรียนวิชานี้ต้องมีเชื้อเจ้า เราไม่เรียน แต่เรามีพกไว้

คนแกะต้องเป็นเชื้อเจ้า แกะได้ด้วยวัสดุเฉพาะ ถ้าเป็นไม้ก็ต้องเป็นไม้ดุมเกวียน ถ้าเป็นงา ต้องเป็นงากำจัด งากำจาย หรืองากระเด็นเท่านั้น

เจอหลายตัว เขาวางขายอยู่ในตลาด แค่ดูเค้า ๆ ว่านี่คือแมลงภู่ แต่แกะไม่สวย ขลังแค่ไหนก็ไม่เอา เพราะเราติดของสวย

เถรี
11-03-2020, 09:07
ต้องเสกในที่คนมาก ๆ เช่น ท่าน้ำ งานปอย ตลาด งานวัด ท้ายสุดก็ไปเสกที่โน่น...ในอุโบสถ อิติปิโส ๑,๐๐๐ จบ ไม่ขลังก็ต้องขลังแหละ สวดเป็น ๑,๐๐๐ จบ ถ้าหากว่ามาสายเสน่ห์นี่มีบรรจุผงใบมะเขือบ้าด้วย

เถรี
11-03-2020, 09:10
อาจารย์วิลักษณ์ ศรีป่าซางน่าจะมีแมลงภู่คำเยอะ (มีเป็นร้อยครับ) ถ้านับจำนวนร้อย เราก็มีไม่แพ้แกหรอก แต่อาจารย์วิลักษณ์แกจะเลือกแบบมีรัง ถ้าไม่มีรัง แกไม่เอาหรอก แกบอกว่าแกชอบรังมากกว่า พอมีรังแล้วค่อยดูเหมือนมีที่อยู่มีอะไร

ก็ไม่ยาก เราก็หาตลับ หาไถ้ หาอะไรก็ใส่ไปสิ หรือไม่ก็ทำกรอบทองเป็นรังไปเลย

เถรี
11-03-2020, 09:24
หลวงพ่อหยิบหน้าปกนิตยสารให้ดู "นี่หลวงพ่ออินเตอร์ (หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์) ตั้งแต่สมัยอาตมายังเป็นเด็กแก้ผ้าวิ่ง ฝรั่งเขาออกเหรียญถวาย ถ้าใครเจอเหรียญเป็นภาษาอังกฤษ เขียนว่า papamum ให้รู้ว่าคือท่าน สมัยสงครามเวียดนาม พวกอเมริกันไปขอเหรียญท่านทุกคน เพราะโดนเท่าไรก็ไม่มีเข้า ทดสอบยิงตรงนั้นก็ได้"

ถาม : หลวงพ่อได้เหรียญทันไหมครับ ?
ตอบ : ได้แค่เหรียญเดียว เขาไม่ให้เยอะ

ถาม : คนละองค์กับหลวงพ่อมุม วัดนาสัก ?
ตอบ : หลวงพ่อมุม วัดนาสัก นั่นปักษ์ใต้ องค์นี้อีสาน เสร็จพิธีกลุ่มนาวิกโยธินขอทดลองยิงกันเลย แต่ยิงไม่ออก มีทั้งเหรียญภาษาอังกฤษ papamum สมเด็จภาษาอังกฤษ และเนื้อผงจันทร์ลอย ต้องบอกว่าของแท้ซะอย่าง อยากทดสอบก็ทดสอบสิ ไม่ได้ว่าอะไรเลย

เถรี
11-03-2020, 23:46
ถาม : ถ้าผมเช่าหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิตไม่ไหว ผมเช่ากับเขาไม่ทัน ผมจะเอารุ่นไหนแทนได้บ้าง ?
ตอบ : เอาอย่างนี้สิ ไปแถวบ้านนอกที่เขายังทำนาอยู่ ไปขอผาลไถของเขามาแขวนแทน นั่นพลิกแผ่นดินได้เลย..!

เถรี
12-03-2020, 00:07
ถาม : ขออนุญาตถ่ายรูปกับหลวงพ่อครับ
ตอบ : ถ่ายแล้วได้อะไร ?

ถาม : เป็นพุทธานุสติครับ
ตอบ : ไปคนละโลกเลย พุทธานุสติคุณต้องไปถ่ายรูปพระประธาน

เถรี
13-03-2020, 20:59
พระอาจารย์กล่าวว่า "บ้านเราการควบคุมโรคเป็นไปได้ยาก เหตุที่เป็นไปได้ยาก เพราะว่าคนขาดระเบียบวินัย ขาดจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม และที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่เห็นถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น พูดง่าย ๆ ตามภาษิตจีนว่า ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา กว่าจะรู้ตัวก็แก้ไขไม่ทันแล้ว เพราะว่าเชื้อไวรัสตัวนี้มาเพื่อหลบหลีกการแก้ไขของหมอโดยเฉพาะ สามารถกลายพันธุ์ไปได้เรื่อย ๆ

อาตมาเป็นมาลาเรียตั้งแต่อายุ ๒๒ ปี จนถึง ๖๑ ปี หมอรักษาไม่ได้ เพราะหมอไม่รู้ว่าเชื้อกลายพันธุ์ แต่ละระยะเชื้อจะเปลี่ยนหน้าตาตัวเอง คนมัวแต่ไปส่องดูว่าต้องหน้าแบบนี้ ถึงจะใช่ผู้ร้าย ไปเจอไอ้หน้าที่ไม่ใช่ก็ เอ้า...ท่านไม่ได้เป็น ที่น่าเตะที่สุดก็คือ เขาถามว่าท่านเป็นโรคอุปาทานหรือเปล่า ? แล้วอาตมาจะไปบอกอะไรได้ ขืนไปบอกเขาก็ว่ารู้มากกว่าหมออีก"

เถรี
13-03-2020, 21:02
ถาม : คนที่ไม่ได้พระสมเด็จพลิกชีวิต อย่างนี้ก็มาให้หลวงพ่อสะเดาะเคราะห์บังสุกุลได้สิคะ ?
ตอบ : มาก็ไม่ทำให้ ไม่ได้พระก็ไปตะเกียกตะกายหาให้ได้ก็แล้วกัน

เถรี
13-03-2020, 22:51
พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อเช้ามืด ทางด้านอำเภอห้วยกระเจา - อำเภอเลาขวัญ เขาจัดสวดคาถาขอฝน อาตมาก็กำหนดใจตามไป เจอท่านสุภูติเถระที่เขาอ้างถึง ท่านบอกว่า ถ้าขอแบบนี้ไม่ได้หรอก เพราะว่าเป็นการตั้งใจใช้ท่าน ท่านบอกว่าต้องสวดด้วยความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อ้างถึงชื่อของท่าน เพื่อขอให้คุณพระรัตนตรัยช่วยสงเคราะห์

วางกำลังใจต่างกันนิดเดียวเท่านั้น ในเมื่อท่านเมตตาบอก ถึงเวลาก็จะไปกระซิบบอกเขาหน่อยว่าต้องทำอย่างนี้ ถ้าวางกำลังใจถูก พระหรือเทวดาท่านก็สงเคราะห์ให้ วางกำลังใจผิด จะกลายเป็นการใช้พระอรหันต์ไป"

เถรี
13-03-2020, 22:55
"พระสุภูติเถระเป็นผู้เลิศกว่าผู้อื่น หรือที่บาลีเรียกว่า เอตทัคคะ ๒ ประการ คนอื่นส่วนใหญ่ได้ข้อเดียว พระสุภูติเถระได้ ๒ ข้อ เป็นเอตทัคคะทางอยู่อรณวิหาร คืออยู่โดยปราศจากกิเลส พูดง่าย ๆ คือเข้านิโรธสมาบัติ และเป็นเอตทัคคะทางทักขิเณยยบุคคล คือเป็นบุคคลที่ควรแก่การถวายข้าวของต่าง ๆ รับการถวายข้าวของจากญาติโยม ก็แน่นอนแหละ..เข้าแต่นิโรธสมาบัติ ก็สมควรที่จะได้รับการถวาย

ฉะนั้น...ถ้าหากว่าเอตทัคคะคือบุคคลที่เป็นเลิศทางด้านใดด้านหนึ่ง ส่วนใหญ่จะได้ด้านเดียว มีพระสุภูติเถระได้ ๒ ด้าน พระอานนท์ได้ ๕ ด้าน นอกนั้นได้ท่านละ ๑ ด้าน

ถึงเวลาเขาก็จะสวด สุภูโต จะ มะหาเถโร มะหากาโย มะโหทะโร นีละวัณโณ มะหาเตโช ฯลฯ นีละวัณโณ นี่ผิวดำมาก ดำจนเขียว บางคนเขาเรียกคาถาพญาปลาช่อน...ไม่ใช่ คาถาพญาปลาช่อนเป็นอีกบทหนึ่ง"

เถรี
13-03-2020, 23:06
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้เวลาส่งรายงานเจ้านายว่าไปทำงานที่ไหน ต้องลงรูปที่คนน้อยที่สุด ลงรูปคนเยอะ ๆ เดี๋ยวจะโดนข้อหาว่าทำตัวเสี่ยงต่อการแพร่กระจายไวรัส"

เถรี
13-03-2020, 23:11
มีผู้หญิงคนหนึ่งมาถวายสังฆทาน พระอาจารย์จึงกล่าวว่า "ถ้าเป็นไปได้ก็ทนอยู่ไปคนเดียวนะ ดวงเกิดมาหาคู่ยาก เป็นเรื่องแปลกอยู่เหมือนกัน คล้าย ๆ กับโพธิราชกุมาร โพธิราชกุมารท่านพยายามสุดชีวิต อย่างไรก็ไม่มีลูก ทั้ง ๆ ที่มีชายาเต็มปราสาท

หลายคนก็หน้าตาดี ฐานะดี แต่ไม่มีคู่ ฝืนอยู่ไปด้วยกันสักพักหนึ่งก็เลิก

ใครนะ ? ต้องไปดูในเถรีปทาน ที่ว่าแต่งงานกี่ครั้งก็โดนผัวส่งคืน ทั้ง ๆ ที่เป็นคนสวยที่สุด

ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องของบุญของกรรมที่ทำเอาไว้ ถ้าบางคนรู้ตัวแล้วตัดใจอยู่คนเดียว ก็ไม่ต้องไปเปลืองตัวกับใคร เพราะว่าถึงแต่งไปก็ไปไม่รอด"

เถรี
13-03-2020, 23:24
ถาม : ทำบุญให้ท่านปู่พระกาฬค่ะ ?
ตอบ : พระกาฬที่ศาลพระกาฬ จังหวัดลพบุรี คือท่านปู่ท้าวมหาชมพู เปิดเผยความลับท่าน เดี๋ยวคงโดนท่าน "ตื้บ" เข้าสักวัน

ถาม : แล้วพระกาฬของหลวงพ่อกวยกับพระกาฬไชยศรีที่ศาลหลักเมืองละครับ ?
ตอบ : พระกาฬของหลวงพ่อกวยหมายถึงเจ้าแห่งความตาย

เถรี
13-03-2020, 23:33
ถาม : สิงห์อันนี้เราจะตีว่าเก่าหรือว่าใช้กรดกัดคะ ?
ตอบ : อันนี้เก่า ถ้าหากว่ากรดกัดผิวจะพรุน กินเข้าไปในเนื้อเยอะ เราเองไม่ได้ศึกษาอะไรเลย..เดี๋ยวก็โดนเขาทุบมาอีก พวกที่ใช้กรดกัด สนิมจะออกมาเป็นสีเขียวและเนื้อจะพรุน ๆ

เถรี
13-03-2020, 23:36
ถาม : แล้วลูกอมอันนี้คือ การที่บรอนซ์ฝุ่นมันหลุดหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ใช่

ถาม : แล้วเวลาหลุดข้างในจะเป็นสีขาวหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ขาวอมเหลือง

ถาม : แล้วแบบนี้คือบรอนซ์น้ำมันใช่ไหมคะ ?
ตอบ : จำไว้ว่าบรอนซ์มีอย่างเดียว เพียงแต่ว่ารุ่นไหนใส่มากใส่น้อย หรือเก่ากว่าอย่างไร บรอนซ์ฝุ่นจริง ๆ แล้วคือเก่ากว่าจนกระทั่งผิวลอกหล่น

ถาม : แล้วแบบตอกโค้ด ๓ ละคะ ?
ตอบ : โค้ด ๓ ต้องดู ถ้าหากว่าตื้นและไม่คม ส่วนใหญ่จะปลอม โค้ดเลข ๓ อย่าไปเล่น...ของปลอมเยอะมาก

เถรี
13-03-2020, 23:42
พระอาจารย์กล่าวว่า “ข้าวทิพย์ ถ้าหากว่ามีโอกาสจะเอาไปกวนที่วัดสักเที่ยวหนึ่ง สาวพรหมจารีย์นี่ต้องไปเอาเด็กอนุบาล นึกถึงน้องลูกเกดอายุ ๓ ขวบ กวนข้าวทิพย์ มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นสาวพรหมจรรย์แน่นอน”

ถาม : ตอนนั้นหลวงพ่อฤๅษีกวนทุกปีไหมครับ ?
ตอบ : ทำอยู่ประมาณสามครั้ง ที่กวนเพราะว่าหลวงพี่อาจินต์ท่านหามา หลวงพี่อาจินต์เป็นคนจ่ายเงิน อยากจะหารายได้ช่วยวัด ลำพังหลวงพ่อท่านไม่เสียเวลาทำหรอก หลวงพี่อาจินต์เอาญาติทางบ้านมากวนให้

เถรี
13-03-2020, 23:48
ถาม : พระกาฬท่านเป็นพรหมใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ใช่

ถาม : เสียงท่านน่ากลัวมาก ?
ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก นั่นบารมีท่าน ถึงเวลาก็แสดงออกให้รู้

เถรี
13-03-2020, 23:52
มีโยมเอานาคบาศก์มาถวาย พระอาจารย์ถามว่า “แม่ชีเอาไหม ? ตีราคาเองเลย ไม่มีใครแย่งหรอก ไม่ให้ใคร เห็นชอบแต่ของแบบนี้ ระวังอย่าไปโดนบริเวณเขี้ยวนะ ทำเป็นเล่นไป..เดี๋ยวก็ตายไม่รู้ตัว เขาเรียก นาก-คะ-บาด ร้อยวันพันปีจึงจะเจอสักที

บางคนเรียกว่า บ่วงจับวิญญาณ เป็นอาวุธของท่านท้าวเวสสุวรรณ เอาไว้ปราบผีโดยเฉพาะ

อย่าเอาไปตามตำหนักทรงนะ ไปตามตำหนักทรงนี่บรรลัยหมดทั้งตำหนักเลย เพราะว่าพวกผีที่เขาเลี้ยงไว้จะอยู่ไม่ได้"

ถาม : ใช้อย่างไรคะ ?
ตอบ : ไม่มีอะไรก็นะโมพุทธายะ พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์

เถรี
13-03-2020, 23:56
แม่ชีนำปัจจัยมาถวายเพื่อบูชานาคบาศก์ พระอาจารย์ประกาศว่า “เจ้าของนาคบาศก์และตัวนาคด้วย ทำบุญสร้างพระให้แล้วนะ

ถ้าทำตามวิธีโบราณ เขาให้ลนย่างไฟอ่อน ๆ จนแห้ง แต่สมัยนี้มีไมโครเวฟ แต่ระวังจะกลายเป็นงูปิ้ง ตั้งครั้งละนาที พอหอมได้ที่ก็เอาออก หรือไม่ก็ใช้วิธีโบราณรมควันไปเรื่อย ๆ ระวังอย่าไปโดนแถวเขี้ยวนะ เพราะว่าเขี้ยวยังมีพิษอยู่

ลนไปก็ภาวนาไป เวสสะ ภุสสะ นะโมพุทธายะ ขออนุญาตท้าวเวสสุวรรณ ขออำนาจเทพอาวุธของท่าน จะใช้ทำอะไรก็อธิษฐานเอา

มีของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ของท่านเป็นจงอางใหญ่สองตัวกลืนกัน จงอางตัวใหญ่มาก ถึงเวลาสะพายข้ามไหล่ ลงมาถึงหัวเข่า ต้องบอกว่าของแบบนี้ท่านตั้งใจมอบให้จริง ๆ ไม่อย่างนั้นโอกาสเจอยากมาก”

เถรี
13-03-2020, 23:57
ถาม : เป็นงูอะไรได้บ้างคะ ?
ตอบ : ที่เขาต้องการจริง ๆ คืองูเห่าหรืองูจงอางกินกันเอง ถ้ากินงูอื่นเขาไม่นับ

ถาม : ถ้าย่างจะไม่ไหม้หรือคะ ?
ตอบ : ไม่สิ...แค่รม เขาใช้คำว่าย่างไฟอ่อน ๆ ค่อย ๆ พลิก ค่อย ๆ พลิก แบบเดียวกับที่ขุนแผนย่างกุมารทองล่อกันยันสว่าง

เถรี
14-03-2020, 00:00
เป็นของแปลกที่คนไม่ค่อยเห็น ถ้าเป็นงูเห่าหม้อ งูเห่าปลวก ตัวสั้น ๆ กินแล้ววงจะพอดีขนาดนี้ ถ้าหากว่าตัวใหญ่ ๆ อย่างพวกจงอาง ที่หลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าท่านได้ สะพายข้างยังเกือบถึงหัวเข่า เพราะจงอางยาวถึง ๔-๕ เมตรก็มี ถึงเวลากินกันเข้าไปก็ยังยาวอยู่ดี

ทำบุญทำกุศลอะไรก็อุทิศให้เขาด้วย ของพวกไสยศาสตร์มาอยู่กับพวกเราก็กลายเป็นพุทธศาสตร์ดี ๆ นี่เอง ขึ้นอยู่กับการใช้ ที่คนไปแบ่งเป็นไสยดำ ไสยขาว หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า “ไอ้ที่ข้าสอนแกไปน่ะ ไอ้ที่นักวิชาการบอกว่าไสยศาสตร์ทั้งนั้น คาถาอาคมอะไรสารพัด คราวนี้เขาไม่รู้จริง เพราะส่วนใหญ่เป็นหัวใจพระคาถาจากพระไตรปิฎกทั้งนั้น”

พอเขาไม่รู้จริง เขาก็เหมาว่าเป็นไสยศาสตร์หมด โบราณอาจารย์ท่านเก่ง โยงใจเราด้วยเวทมนต์คาถา แล้วก็ปรับเข้าหาในเรื่องของกรรมฐาน สายวิสุทธิมรรค

เถรี
14-03-2020, 00:03
บรรดาโยมผู้หญิงที่บ้านเติมบุญ ขอดูนาคบาศก์เพื่อถ่ายรูปกัน “เป็นผู้หญิงยิงเรือหัดกลัวงูบ้างสิ ไม่ใช่ว่าเห็นงูแล้ววิ่งเข้าใส่..! แบบนั้นงูได้ตกใจตาย แบบเดียวกับเด็กมอญที่ทองผาภูมิ จงอางเลื้อยมายาว ๓-๔ เมตร เจอเด็กมอญนี่กลับหัวเลื้อยหนีสุดชีวิต แล้วเด็กมอญก็วิ่งไล่ เพราะว่าเด็กไม่ได้เห็นเป็นงู ไม่ได้เห็นว่าเป็นพญางู เขาเห็นเป็นอาหาร วิ่งไล่นี่จงอางหนีสุดชีวิตเลย

พวกเราส่วนใหญ่ไปเห็นเป็นงูใช่ไหม ? งูพิษดุร้าย แต่พวกนั้นเห็นเป็นอาหารชั้นหนึ่ง..!

ดูเอาไว้เป็นขวัญตา ของไม่ได้เห็นง่าย ๆ ในชีวิตอาตมาก็เห็นมาแค่สองครั้งเท่านั้น ตัวแรกที่เห็นนั่นแห้งจนผุเลยนะ กลายเป็นสีเทา ๆ หมดเลย อันนั้นเป็นของลุงหมอ ลุงหมอแกรักษาโรคทั่วไป แล้วทีนี้มักจะมีโรคที่หมอทั่วไปรักษาไม่ได้ ก็คือพวกคุณผีคุณคน แบบนั้นเจอนาคบาศก์แน่นอน”

เถรี
14-03-2020, 00:04
“นาคบาศก์อีกแบบหนึ่งเป็นงูกินหางตัวเอง แบบนั้นไม่ได้เป็นมหาอำนาจไล่ผี แต่ว่าใช้ในทางเมตตามหานิยม ร่ำรวย เพราะเขาถือว่ากินเท่าไรก็ไม่หมด”

ถาม : กินกันแบบนี้แล้วเขาตายตอนไหนคะ ?
ตอบ : ก็คงประเภทที่ว่าถึงเวลาก็ตายเอง ที่ขำที่สุดก็คือมีคลิปงูกินตัวเองเข้าไปหน่อยหนึ่ง แล้วมีคนไปช่วยเขี่ยออกให้..!

เถรี
14-03-2020, 00:08
ของพวกนี้เขาอยากอยู่กับอาตมา เพราะว่าทำบุญให้อยู่เรื่อย เที่ยวก่อนจะเปลี่ยนแมลงภู่คำเพราะเอาตัวเก่าเฝ้าบ้านมานานแล้ว จะย้ายเอาตัวใหม่ไปแทน ท่านบอกว่า "ไม่...จะทำงานต่อ" เจ้าของเดิมทิ้งไว้ในขันดอกเป็นสิบ ๆ ปี ไม่ได้ทำอะไรเลย ทีนี้ตัวใหม่ก็อยากจะทำ ตัวเก่าก็อยากจะทำ ท้ายสุดก็ให้ทำทั้งฝูงเลย หมดเรื่อง...!

พออยู่กับพวกเรา เราได้อุทิศส่วนกุศลให้บ่อย ๆ เพราะอย่างน้อย ๆ ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น เจริญพระกรรมฐาน อุทิศส่วนกุศลทุกครั้ง ส่วนเจ้าของเดิมพอถึงเวลาได้จากครูบาอาจารย์ ทำขันดอกรับเสร็จก็ทิ้งลืม เขาบอกว่าอยู่ในขันดอกมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว เบื่อ..อยากทำงานบ้าง

เถรี
14-03-2020, 00:11
พระอาจารย์บอกโยมที่ได้ตะกรุดหนังเสือไปว่า “อย่าไปงับหัวแฟนนะ ไม่ใช่ว่าได้ตะกรุดหนังเสือแล้วตูก็งับหัวแฟนเลย

ทำไมอาตมาทำตะกรุดมหาสะท้อนขึ้นมาก ที่ทำขึ้นมากเพราะว่าดวงชะตาตก 'อริเป็นมรณะ'

ท่านเจ้าคุณสุรศักดิ์ (พระภาวนาวิสุทธิโสภณ) เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม ท่านเกิดปีฉลู แต่แม่ท่านเกิดปีขาล ท่านบอกว่าท่านป่วยเกือบตาย จนกระทั่งในที่สุดไปหาพระ พระท่านบอกว่าให้เอาไปถวายเป็นลูกเจ้าพ่อเสือ ไม่อย่างนั้นวัวกินนมเสือนี่มีโอกาสตาย ถวายเป็นลูกเจ้าพ่อเสือก็กลายเป็นลูกเสือ กินนมแม่เสือก็กินได้ เรื่องบางอย่างเราไม่รู้เคล็ด ก็ไม่รู้ว่าทำไมเด็กถึงป่วยอยู่ตลอดเวลา ดวงแม่ข่มลูกเพราะแม่เกิดปีขาล ลูกเกิดปีฉลู

อย่างดวงของอาตมาเองเกิดปีหมู น่าจะอยู่ดีกินสบาย ดันกลายเป็นหมูป่า ต้องหากินเอง อยากไปเกิดเป็นหมูพระยาเลี้ยงก็ไม่ได้ ดันกลายเป็นหมูป่า”

เถรี
14-03-2020, 00:12
โยมถวายอาสนะพระเป็นโหล “โอ้โห..มาทีขนาดนี้ เหมาหมดร้านเลยหรือเปล่า ? คราวหน้าถ้าทำอะไรแล้วเขายันออกหน้า ก็ไม่ต้องแปลกใจเลยนะ อานิสงส์ที่ทำตรงนี้เลย”

เถรี
14-03-2020, 00:14
ถาม : กระโหลกหน้าผากเสือ หลวงพ่อไฉนดูตรงส่วนไหนครับ ?
ตอบ : ตัวล็อกสมอง เป็นกลีบกระดูก ต้องบอกว่าท่านกล้าพอ เอาของแบบนี้มาทำ อีกชิ้นหนึ่งไม่กล้าเอาลงมา เพราะไม่มีเชือกล่าม อันนั้นต้องเก็บไว้เอง ให้คนอื่นเดี๋ยวเอาไม่อยู่

เถรี
16-03-2020, 20:53
ถาม : อยากทราบว่าวิชากระสุนคด ใช้คาถาอะไรในการภาวนาขณะที่จะยิงครับ ?
ตอบ : ภาวนาขณะยิงไม่ได้รับประทานหรอก คาถากระสุนคดคือ เม สัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา ต้องฝึกซ้อมยิงจนกระทั่งชำนาญ นึกเมื่อไรทำได้เมื่อนั้น แล้วถึงจะยิง ไม่ใช่ไปภาวนาขณะยิง

ถาม : แล้วสามารถพลิกแพลงไปใช้ในการเล่นกีฬาต่าง ๆ เช่น เตะฟุตบอล หรือเล่นบาสเกตบอลได้ไหมครับ ?
ตอบ : เคยเห็นไหม ? ที่มีคนบางคนไม่ว่าจะหยิบจะจับจะขว้างอะไรก็ลงหมด นั่นก็ลักษณะเดียวกัน เอาไปพลิกแพลงใช้งานได้

เถรี
16-03-2020, 20:54
ถาม : ปกติแล้วในทุกเช้า ดิฉันตื่นขึ้นมาจะตั้งนะโมฯ สามจบ ต่อด้วยสมาทานศีลห้า หลังจากนั้นสวดคาถาเงินล้านไปตลอดทั้งวัน ว่างเมื่อไรก็สวด ช้าบ้างเร็วบ้างแล้วแต่สะดวก เพื่อขจัดความฟุ้งซ่าน นับได้วันละพันกว่าจบหลังจากนั้นก็ไม่นับอีก สิ่งที่อยากทราบคือหากดิฉันปฏิบัติแบบนี้ต่อไป จะก้าวหน้าทางธรรมบ้างไหม ? และควรเพิ่มเติมตรงจุดใดดีคะ ?
ตอบ : เรื่องของความก้าวหน้าทางธรรม ถ้าไม่ใช้ปัญญาในวิปัสสนาญาณ อย่างเก่งเต็มที่ก็ได้แค่สมาธิเท่านั้น ส่วนในเรื่องผลของการปฏิบัติก็ขึ้นอยู่กับเรา สมาธิยิ่งสูงผลของคาถาก็ยิ่งมาก ควรที่จะแบ่งเวลาไปพิจารณาวิปัสสนาญาณให้สม่ำเสมอ

เถรี
16-03-2020, 20:55
ถาม : การสวดคาถาเงินล้านนั้นควรจะนับหรือไม่นับดีกว่ากัน ? เพราะเคยได้ยินมาว่า ถ้านับจะทำให้มีความกังวลกับจำนวนมากไป ควรสวดแบบไม่ต้องนับจะดีกว่า ?
ตอบ : เอาที่สบายใจ ในเมื่อห่วงกังวลมากก็เอาที่สบายใจ แต่จริง ๆ แล้ว ควรที่จะมีรองรังเอาไว้สักหน่อย คำว่า รองรัง คือจำนวนที่แน่นอน เมื่อได้จำนวนที่แน่นอนแล้ว ที่เหลือก็จัดการกันไปตามที่ตนเองชอบ ต้องการมากก็ภาวนามาก ต้องการน้อยก็ภาวนาน้อย

คำว่า รองรัง ก็คือประกันความเสี่ยงว่าต้นทุนของเรามีแน่นอน ส่วนเกินได้เท่าไรถือว่าเป็นกำไร แต่ถ้านับแล้วกังวลมากก็เอาที่สบายใจแล้วกัน

เถรี
16-03-2020, 20:56
ถาม : ผมได้ปฏิบัติตามที่พระอาจารย์สอน พอย้อนไปถึงจุดปฏิสนธิ์เล็ก ๆ แล้วมีความรู้สึกว่าเบื่อการเกิดมาก รู้สึกไม่อยากเกิดอีกแล้ว พอมาถึงตรงนี้จิตไม่อยากพิจารณาต่อ ไปจับภาพพระไม่ยอมปล่อย ระหว่างที่จับอยู่ อีกใจหนึ่งวิ่งไปพิจารณาจตุธาตุ แล้วก็ไปจับมรณานุสติ ไม่ก็จับกายคตานุสติ แล้วไปบีบให้อีกใจหนึ่งยิ่งอยากจับภาพพระมากขึ้น อยู่ในลักษณะอยากหนีจากข้างล่าง แล้ววิ่งขึ้นบนไปหาพระ ตอนนี้ผมไม่มั่นใจว่าปฏิบัติผิดรูปแบบหรือเปล่าครับ ผมควรต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : ต้องถามว่าทำเพื่ออะไร ? อันดับแรกเอาแค่ใจสงบ หรืออันดับที่สองให้กิเลสสงบ หรืออันดับที่สามให้มีกำลังในการตัดกิเลสได้ หรืออันดับที่สี่ให้พ้นไปจากกองทุกข์ ?

ต้องการระดับไหน ก็ทำแค่ระดับนั้น ถ้าเป็นอาตมาส่วนใหญ่ก็ขึ้นไปกราบพระบนพระนิพพาน ถ้าตายก็อยู่ตรงนั้นเลย ก็จบแค่นั้น

เถรี
16-03-2020, 20:57
ถาม : มีอยู่วันหนึ่งผมภาวนาคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ พอถึงจบท้าย ๆ ใจไปจับจตุธาตุจนเบื่อ แล้วมือที่พนมอยู่ก็ตีอกรัว ๆ ทั้ง ๆ ที่กำลังสวดคาถาเงินล้านอยู่ แต่เป็นแค่ครั้งเดียว ทำไมถึงเป็นแบบนั้นครับ ?
ตอบ : เรียกว่าเข้าถึงตัวปีติ มีโอกกันติกาปีติ ก็จะสั่นหรือเต้นอย่างที่เห็น ถ้าหากว่าทำแล้วต้องการจะให้ถึงอีก ก็จะไม่ถึงอย่างนั้น เพราะว่าใจจะไปฟุ้งซ่านแทน ถ้าหากว่าเป็นคนฉลาดรู้จักสังเกตจะเห็นว่า ตอนนั้นไม่ว่าร่างกายจะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวรุนแรงขนาดไหน ใจของเราจะนิ่งสงบเสมอ

เถรี
16-03-2020, 20:58
ถาม : กาม กับ ราคะ เป็นอย่างเดียวกันไหมคะ หรือมีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?
ตอบ : ราคะ..แค่ยินดีก็เป็นต้นเหตุของราคะแล้ว ส่วนกามนั้นเป็นตัวของอยากได้ใคร่มี อย่างหนึ่งแม้ว่าจะเบาบางแต่ฝังรากลึกมาก ขุดคุ้ยหาได้ยาก ส่วนอีกอย่างหนึ่งแม้ว่าจะดูอาการรุนแรงกว่า แต่กลับตัดละได้ง่ายกว่า

เถรี
16-03-2020, 20:58
ถาม : หลวงพ่อฤๅษีลิงดำกล่าวไว้ว่า อวิชชาคือฉันทะและราคะ ราคะในที่นี้หมายถึงกามใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ราคะในที่นี้หมายถึงต้นกำเนิดของกาม..คือตัวยินดี พอยินดีก็อยากมีอยากได้

เถรี
16-03-2020, 21:25
ถาม : ในทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงอารมณ์กลัวไว้บ้างไหมคะ และอารมณ์กลัวจัดว่าเป็นกิเลสหรือไม่คะ ?
ตอบ : อารมณ์กลัวทุกอย่างมาจากกลัวตายทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น..ถ้าเราตั้งใจมอบกายถวายชีวิตให้กับพระพุทธศาสนา หรือให้กับคุณพระรัตนตรัย โอกาสที่จะก้าวข้ามความกลัวก็จะมีมาก ความกลัวจัดเป็นกิเลสใหญ่ คือ โมหะ ความหลงผิด

เถรี
16-03-2020, 21:27
ถาม : “อนัตตา” แปลว่าไม่แบ่งแยกเป็นตัวตน หรือไม่เป็นตัวตนคะ ?
ตอบ : อนัตตา ตามรากศัพท์แปลว่า ไม่ใช่ตัวตน ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสรุปง่าย ๆ ว่าไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา แต่ว่าความหมายในบาลีมีหลายความหมาย แม้กระทั่งการบังคับบัญชาไม่ได้ก็ถือว่าเป็นอนัตตาด้วย

เถรี
16-03-2020, 21:28
ถาม : เกี่ยวกับการจับลมหายใจสามฐาน หลังจากที่ได้ปฏิบัติตามแล้ว พบว่ารู้สึกเหมือนเราบังคับการหายใจ และรู้สึกเหนื่อย ทั้งนี้เมื่อพิจารณาหาสาเหตุ คิดว่าเกิดจากการที่ปกติเป็นคนที่หายใจตื้น แต่เมื่อจับลมสามฐาน เรากำหนดว่าลมต้องวิ่งไปที่ศูนย์เหนือสะดือ ทำให้เป็นการบังคับให้หายใจลึกขึ้นโดยไม่ตั้งใจ จึงขอความกรุณากราบเรียนถามพระอาจารย์ว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่เวลาเราหายใจ ลมหายใจจะไม่ไปจนถึงศูนย์ที่ท้องเหนือสะดือครับ ?

ตอบ : เป็นไปได้...ถ้าร่างกายต้องการลมหายใจยาว..เราก็แค่รู้ว่ายาว ต้องการลมหายใจสั้น..ก็รู้ว่าสั้น เพราะฉะนั้น..สำหรับท่านที่ไม่สามารถจะทำได้ เปลี่ยนมาจับแค่ฐานเดียว หรือไม่เอาฐาน..ใช้การรู้ตลอดกองลมไปเลยก็ได้

เถรี
16-03-2020, 21:29
ถาม : นำซองไปเรี่ยไรหล่อพระ ได้เงินมา ๑,๘๐๐ บาท ทางวัดให้บูชาแท่งทองเหลือง ๒,๐๐๐ บาท ควักเงินตัวเองเติมลงไป แล้วได้วัตถุมงคลเป็นที่ระลึก ถ้าเก็บไว้เองมีโทษหรือไม่ ? อย่างไร ?
ตอบ : ถ้าไม่ได้บอกคนอื่นว่าจะมีวัตถุมงคลมาให้ เก็บไว้เองก็ไม่มีโทษอะไร แต่ถ้าบอกเขาว่าทำบุญจำนวนเท่านี้แล้วจะได้วัตถุมงคล แล้วคนอื่นทำด้วยความอยากได้วัตถุมงคล เราเก็บเอาไว้ก็เท่ากับไปเบียดบังทรัพย์สินของคนอื่น

เถรี
16-03-2020, 21:29
ถาม : เมื่อเสร็จพิธีพุทธาภิเษก คนแย่งกันดึงสายสิญจน์ แบกกล้วย อ้อย มะพร้าว ในพิธีกลับบ้าน โดยที่บางวัดก็มีโฆษกประกาศให้เอาไปได้ บางวัดก็ไม่มี จะเป็นบาปประการใดหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นของโฆษก เขายกให้ก็แปลว่าจบ แต่ถ้าหากว่าเป็นของสงฆ์ โฆษกยกให้ก็ซวยไปทั้งคนให้และคนเอาไป..!

ถาม : ถ้าเราไปขอจากพระท่านแล้วท่านให้ จะเป็นบาปประการใดหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นของสงฆ์ ขอจากพระรูปเดียวก็ซวยอีกเหมือนกัน..!

เถรี
16-03-2020, 21:30
ถาม : คนที่จะผ่าตัดต้องถอดพระและวัตถุมงคลออก ฝากญาติเอาไว้บริเวณใกล้ห้องผ่าตัด สามารถอาราธนาให้พระเครื่องและวัตถุมงคลคุ้มครองเหมือนที่พกติดตัวได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : สามารถทำได้ และเดี๋ยวก็จะดวงเฮงเหมือนบางคน ก็คือหมอผ่าไม่เข้า หรือแทงเข็มไม่เข้า ดังนั้น..วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ส่งใจไปกราบพระ ส่วนร่างกายของเราเขาจะปู้ยี่ปู้ยำอย่างไรก็เชิญ

เถรี
16-03-2020, 21:30
ถาม : ยันต์เกราะเพชรมีที่มาจากยันต์ธงมหาพิชัยสงคราม มีข้อห้ามเรื่องห้ามลักขโมยและห้ามดื่มสุรา หากในสงครามทหารที่มีธงมหาพิชัยสงครามคุ้มครอง ต้องปล้นเสบียงและอาวุธของข้าศึก อานุภาพของธงมหาพิชัยสงครามจะคุ้มครองทหารเหล่านั้นหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ธงมหาพิชัยสงครามไม่ใช่ยันต์เกราะเพชร ไม่มีข้อห้ามแบบนั้น

เถรี
16-03-2020, 21:31
ถาม : การถวายสังฆทานที่มีการคิดถึงว่า พระบางรูปที่รู้จักในวัดนั้น ท่านแพ้อาหารบางประเภท สังฆทานจึงไม่มีอาหารเหล่านั้น จะยังเป็นสังฆทานหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าพระรับร่วมกันสี่รูปขึ้นไปก็ยังเป็นสังฆทาน ถ้ารับไม่ถึงสี่รูปไม่จัดเป็นสังฆทาน เพราะว่าเราไปเจาะจงพระบางรูปเอาไว้

เถรี
16-03-2020, 21:31
ถาม : รากฟักข้าว รากตำลึง รากรางจืด สำหรับแก้ยาสั่งนั้นคือ จะแก้ให้คนถูกยาสั่งหายเป็นปกติ หรือแค่แก้ผู้ที่ถูกยาสั่งไม่ให้เสียชีวิตครับ ?
ตอบ : ตอนแรกเอาไม่ตายก่อน แล้วหลังจากนั้นชำรุดเท่าไร ค่อยพยายามรักษาไปตามอาการก็แล้วกัน

เถรี
16-03-2020, 21:32
ถาม : เคยกราบเรียนถามหลวงพ่อ เรื่องคนอายุมากผ่าตัดเพราะมีปัญหาหนังตาตก ขนตาเข้าตา จะทำให้โหงวเฮ้งเปลี่ยนจนเกิดปัญหาหรือไม่ จึงได้ทราบว่า ถ้าอายุเกิน ๔๐ ไม่มีปัญหา ปรากฏว่าหมอที่จะทำการผ่าตัดบอกเพิ่มเติมว่า ต้องผ่าแถวขมับสองข้างเพื่อช่วยยกหางตาด้วย จะเกิดปัญหากับโหงวเฮ้งในจุดนี้หรือไม่ มีข้อควรปฏิบัติอย่างไรครับ ?
ตอบ : บริเวณนั้นจะมีผลตอนอายุ ๙๐ ขึ้นไป ถ้ายังไม่ถึงก็ไม่เป็นไร ถ้าเลยไปแล้วก็ตัวใครตัวมัน

เถรี
16-03-2020, 21:33
ถาม : อานิสงส์ของการสวดมนต์ภาวนาพระคาถาเงินล้าน นอกจากจะได้เรื่องลาภผลความเป็นอยู่คล่องตัวแล้ว จะสามารถช่วยกันโรคระบาดได้ด้วยไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่า "โรคละบาท" กันไม่ได้ ถ้า "โรคหลายล้าน" น่าจะกันได้

ในเรื่องของคาถาเป็นเครื่องโยงใจให้เป็นสมาธิ เมื่อเกิดสมาธิแล้ว กำลังที่เกิดเราจะใช้อะไร ก็อธิษฐานเอาเอง ถ้ากำลังสูงพอก็สามารถช่วยกันได้ ถ้ากำลังสูงไม่พอก็ไปหาหมอดีกว่า

เถรี
16-03-2020, 21:33
ถาม : ยันต์เกราะเพชรสามารถป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาได้ไหมครับ ?
ตอบ : ยังไม่ได้ลอง เพราะว่าเพิ่งจะเกิดขึ้น

เถรี
16-03-2020, 21:34
ถาม : หากผมตั้งใจถวายสังฆทานกับคณะสงฆ์ แต่ตัวแทนที่รับสังฆทานของผมเป็นบุคคลผู้ต้องอาบัติปาราชิก ผมจะยังได้รับอานิสงส์สังฆทานหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าเขาเป็นตัวแทนไม่เป็นไร แต่ถ้าหากว่าเป็นของเฉพาะตน ก็มีอานิสงส์เท่ากับให้ทานกับบุคคลที่มีศีลแล้วศีลขาด

เถรี
16-03-2020, 21:42
มีพระยื่นกระดาษคำถามให้พระอาจารย์ พระอาจารย์อ่านแล้วกล่าวว่า “คำว่า วัดดัง ผมเกลียดที่สุดเลย สมัยนี้สื่อมวลชนชอบใช้คำว่า วัดดังโน้น วัดดังนี้ อาตมาเองอยู่ในวงการพระแท้ ๆ ยังไม่เคยได้ยินชื่อวัดนั้นเลย แล้วจะดังได้อย่างไร ? ก็คือเขาตั้งใจจะขายข่าว เพราะฉะนั้น..ต่อไปให้เลิกเขียนคำว่าวัดดังได้แล้ว”

เถรี
16-03-2020, 21:43
ถาม : คุณแม่เคยรับสัจจะที่วัดดังในสระบุรี ให้นับถือพุทธและห้ามขายพระ ปัจจุบันผมบวชเป็นพระ ต้องช่วยขายพระให้ห้องบูชาวัตถุมงคลในวัด และต้องออกเงินซื้อก่อนให้พ่อแม่พี่น้อง เก็บมา ๔-๕ ปี จนกว่าเขาจะเห็นทางธรรมแล้วขายให้ ทำให้ติดคำอธิษฐาน เกล้ากระผมจะถอนคำอธิษฐานนี้ได้อย่างไร ?
ตอบ : คุณแม่เป็นคนรับแล้วไปเกี่ยวอะไรกับคุณ ? คนละคนกัน มีอะไรก็ทำแทนแม่ไปสิ เรื่องของสัจจะ เรื่องของอธิษฐาน เรื่องของบุญเรื่องของกรรม เป็นเรื่องเฉพาะตัว ในเมื่อคนหนึ่งเขารับปาก แต่เราไม่ได้รับปากก็ทำไปเลย แม่เป็นคนรับปากก็ให้น้องเขาดูแลแทนไป

เถรี
16-03-2020, 21:44
พระอาจารย์กล่าวว่า “ในเรื่องการบน มีหลายคนถึงเวลาแล้วต่อรอง เรื่องของการบนคือการให้สัจจะ ต้องตรงไปตรงมา บนว่าบวชก็คือบวช บนว่าถวายสังฆทานก็คือถวายสังฆทาน ไม่ใช่ตอนบนอะไรก็ได้ แต่ตอนแก้บนไม่ยอมทำสักที โปรดระวังไว้ว่าจะดวงเฮงมาก เพราะว่าถ้าท่านที่รับบนทนไม่ไหวเมื่อไร บริวารท่านจะเล่นงานเอา”

เถรี
16-03-2020, 21:44
พระอาจารย์อธิบายว่า “เรื่องของการปฏิบัติ ถ้าทำไปจนเกิดผลแล้วคำภาวนาไม่ต้องใช้ก็ได้ อย่างเช่นว่าการใช้มโนมยิทธิ พอมีความคล่องตัว แค่คิดก็ถึงแล้ว เรื่องของการใช้คำภาวนาเป็นเรื่องที่ใช้ในระหว่างที่ฝึกหัดอยู่ ดังนั้น..ไม่ว่าเรื่องเกี่ยวกับอะไรก็ตาม ถ้าหากว่าเป็นช่วงฝึกหัด ยังจำเป็นต้องใช้คำภาวนาอยู่ พอมีความคล่องตัวก็ไม่จำเป็นแล้ว”

เถรี
17-03-2020, 19:04
พระอาจารย์อ่านชื่อบนซองทำบุญ “ยังดีที่ไม่สามคนสามนามสกุล ชวนให้นึกถึงลุงปาน (นายปาน เมืองมูล) มีลูกห้าคน คนละแม่หมดเลย แต่ลุงปานไม่ใช่คนเจ้าชู้ พอภรรยาทิ้งไปก็ค่อยไปหาคนใหม่ แล้วก็บังเอิญเหลือเกิน แต่ละคนมีลูกให้หนึ่งคนแล้วก็ไป มีลูกให้หนึ่งคนแล้วก็ไป เหตุที่ภรรยาทิ้งไม่ใช่อะไรหรอก ถึงเวลาลุงปานก็แบกปืนออกป่า ครึ่งค่อนเดือนกว่าจะกลับบ้าน แกบอกว่านอนในป่าแล้วมีความสุข นอนในบ้านแล้วร้อน นิสัยแบบนี้จริง ๆ น่าจะบวชพระแล้วไปธุดงค์

พูดถึงเรื่องการธุดงค์สมัยนี้ก็ลำบาก ลำบากตรงที่ว่าพื้นที่ซึ่งพระจะเข้าไปโดยถูกกฎหมายมีน้อยลงไปเรื่อย ๆ อย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งก็คือบรรดาท่านที่ออกธุดงค์ มีอยู่ส่วนหนึ่งที่อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมไม่ได้ กลายเป็นว่าแปลกแยกจากสังคมก็เลยต้องไปธุดงค์ บางท่านทะเลาะเบาะแว้งเอามีดสปาร์ตาฟันหัวกันก็มี บางท่านก็เสพยาบ้าแล้วก็แข่งกันวิ่งขึ้นเขา อาตมาเห็นแล้วก็อนาถใจ

แต่จะไปว่าท่านก็ไม่ได้ เพราะว่าทางบ้านกระทำกับท่านเหมือนอย่างกับเอาหมาเอาแมวไปปล่อยวัด ก็คือพอเกเรเกตุง พ่อแม่เอาไม่อยู่ ก็ส่งไปบวช บวชแล้วนิสัยท่านก็ไม่ได้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ว่ากฎเกณฑ์กติกา ตลอดจนกระทั่งเครื่องแบบในการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไป จะไปอยู่ร่วมกับคนอื่นก็ลำบาก ก็เลยต้องออกป่าแทน"

เถรี
17-03-2020, 19:05
"พอส่วนหนึ่งเป็นเช่นนี้ ก็สร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนา แล้วบรรดาผู้สื่อข่าวมักจะใช้คำว่า "วัดดัง" ถ้าอาตมารู้ว่าใครเป็นคนเขียนข่าวใช้คำว่าวัดดังแล้วอยู่ใกล้ ๆ จะ "โบก" ให้สักทีหนึ่ง...! เพราะอ่านข่าวมาเป็นร้อย ๆ เรื่อง ทุกเรื่องวัดดังหมด แต่ตัวอาตมาเองอยู่ในวงการสงฆ์แท้ ๆ ไม่เคยได้ยินชื่อวัดนั้นเลย เขาเรียกว่าเขียนข่าวเอามัน เป็นการทำลายศาสนาโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว พอถึงเวลาก็พระวัดดัง ถ้าคนวงในยังไม่รู้จัก แล้วจะดังได้อย่างไร ?

เรื่องบางอย่างเป็นการทำลายศาสนา เราชาวพุทธรู้เข้าก็ควรที่จะช่วยกันทักท้วง ช่วยกันห้ามปราม แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วเราไม่เห็นโทษ ก็เลยกลายเป็นสนิมกัดกร่อนพระพุทธศาสนาไปเรื่อย ๆ"

เถรี
17-03-2020, 19:07
"แต่เราจะไปตั้งความหวังให้บริสุทธิ์ผุดผ่องก็ไม่ได้ ถ้าพระพุทธศาสนาเป็นโรงงาน ถือว่าเป็นสุดยอดของโรงงาน เพราะว่าวัตถุดิบนี่เกรดห่วยมาก..! ระดับเกรดซี เกรดดีเลย แต่ว่าผลิตออกมากลายเป็นสินค้าเกรดเอได้มากต่อมากด้วยกัน

ที่กล่าวอย่างนี้ก็เพราะว่าปัจจุบันนี้น่าจะถึง ๖๐ - ๗๐ เปอร์เซ็นต์ ที่ถึงเวลาแล้วทางบ้านเอาไม่อยู่ ก็ส่งไปบวช ในเมื่อเป็นของเหลือเลือก ประเภทที่ว่าตกเกรดเขาคัดทิ้งแล้ว มาถึงพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นสุดยอดโรงงาน ปล้ำผีลุกปลุกผีนั่ง จนกระทั่งท้ายสุดออกมาเป็นสินค้ามีราคา โยมก็ช่วยกันทึ้งเป็นการใหญ่ ไม่มีการบันยะบันยัง กว่าจะปั้นท่านให้ดีให้เด่นขึ้นมาได้ก็ใช้เวลาพอควร แต่เราใช้เวลาไม่กี่ปีถลุงจนบางทีท่านตายคาญาติโยมไปเลย

อาตมาเจอมาด้วยตัวเองยังรู้สึกอนาถใจ เห็นครูบาอาจารย์เจ็บไข้ได้ป่วย ออกซิเจนคาจมูกอยู่ ร้องห่มร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่า รักหลวงปู่อย่างนั้น รักหลวงพ่ออย่างนี้ แล้วส่งแผ่นโลหะให้หนึ่งปึก ช่วยจารให้หนูด้วย..!"

เถรี
17-03-2020, 19:08
"ผู้อยู่ในเหตุการณ์โปรดอย่าหัวเราะ เจอมาจริง ๆ คนแก่ป่วยจนนั่งไม่ไหว อุตส่าห์กัดฟันนั่ง พยุงสังขารต้อนรับ แทนที่จะรู้ตัว รีบทำบุญ รีบกลับ ก็นั่งเฝ้าอยู่นั่นแหละ ถึงเวลาโยมนั่งอยู่ พระจะพักก็พักไม่ได้ ไล่ให้กลับ ก็บอกว่าหลวงปู่ยังไม่ได้ยิ้มให้หนูเลย..!"

เถรี
17-03-2020, 19:09
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันที่ ๓๑ มีนาคมนี้อาตมาจะบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ประกาศงดการบวช คาดว่าจะมีส่วนหนึ่งทะลักไปที่โน่น เพราะโดยปกติก็มีอยู่แล้วทุกปี นอกจากเด็กในพื้นที่แล้วก็มีเด็กต่างจังหวัดอีกส่วนหนึ่งไปกัน คราวนี้อาจจะมากกว่าปกติสักหน่อย

คราวนี้ก็จะเกิดเหตุสองประการด้วยกัน ประการแรกก็คือเด็กอยู่รอดปลอดภัย ไม่มีใครติดเชื้อไวรัส เจ้าอาวาสวัดท่าขนุนก็จะดัง แต่ถ้ามีเด็กติดเชื้อแม้แต่คนเดียว ก็จะดังยิ่งกว่านั้นอีก สรุปแล้วดังทั้งขึ้นทั้งล่อง..!”

เถรี
17-03-2020, 19:14
ถาม : งานเป่ายันต์เกราะเพชรวันที่ ๒๘ มีนาคมจัดใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ทำเป็นปกติ จะเลื่อนไปไหน งานไหว้ครูประจำปี เลื่อนได้ก็ดีสิ

ถาม : หลายที่เขาเลื่อนเพราะ COVID-๑๙ ?
ตอบ : อาตมาบังเอิญไม่กลัวไวรัส เดี๋ยวอะไรที่เขาเลื่อนจะจัดให้หมด..!

เถรี
17-03-2020, 19:16
พระอาจารย์กล่าวถึงสมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิต “เดี๋ยวหักหลังพวกขายล่วงหน้าในเฟซบุ๊กดีกว่า ไปถึงประกาศเหรียญละ ๕๐๐ บาทไปเลย..! พวกที่ขาย ๔๕๐ บาทจะได้รับผิดชอบเขา อาตมายังไม่ทันจะเอาของออกเลย เขาลงขายกันเหรียญละ ๔๕๐ บาทแล้ว”

เถรี
17-03-2020, 19:17
ถาม : สมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิตมีจำกัดการบูชาไหมครับ ?
ตอบ : น่าจะต้องจำกัด ไม่อย่างนั้นคงว่าหมดตั้งแต่คนแรกเลย..! เอาไปสักคนละองค์แล้วกัน ได้แล้วค่อยไปเข้าแถวใหม่

เถรี
17-03-2020, 19:20
พระอาจารย์กล่าวว่า “ระยะนี้พวกเราจะประหยัดมากขึ้น เพราะว่าไปเดินห้างก็ไม่ได้ ไปดูหนังก็ไม่ได้ กินข้าวนอกบ้านก็ไม่ได้ ถ้าทำอย่างนี้ตั้งแต่แรก โรคก็ไม่ระบาดแล้ว คราวนี้ไม่ทำ ดันมาทำตอนโรคระบาด ต้องบอกว่าโดนโรคบังคับ แต่โรคแบบนี้ไม่ค่อยมีใครอยากเป็นหรอก..ราคาถูก “โรคละบาท” เอง..!

สัตว์โลกเมื่อถึงเวลามีจำนวนมาก ๆ เข้า ถ้าไม่ทำลายกันเองก็จะเกิดโรคภัยขึ้นมา เพื่อทำลายล้างไปส่วนหนึ่งให้สมดุลธรรมชาติคงอยู่ เชื้อไวรัส COVID-๑๙ กลัวความร้อน เพราะฉะนั้น..ถ้าทุกประเทศยิงนิวเคลียร์พร้อม ๆ กัน เชื้อก็จะหมดไปเอง ...(หัวเราะ)...”

เถรี
17-03-2020, 19:21
ถาม : ต้องการถวายพระไตรปิฎก ?
ตอบ : ที่วัดมีเยอะมากเลย ขนาดให้คนอื่นเขาไปแต่ละปี ๆ แล้ว ยังเหลืออยู่ที่วัดอีก ๕-๖ ตู้ ยังดีว่าที่วัดพระเรียน มจร.เยอะ ซึ่งท่านต้องใช้ ก็เลยทำให้ไม่เสียเปล่า ถ้าเป็นที่อื่นก็คงตั้งให้ฝุ่นจับอยู่อย่างนั้นแหละ ลองหาวัดที่เขาต้องการจริง ๆ ดูก็แล้วกัน

เถรี
17-03-2020, 19:22
พระอาจารย์กล่าวถึงท้าวเวหน “ไม่ว่าใครก็จะใช้คำว่า ท้าวเวหน แต่จริง ๆ คือ ท้าววาหน วาหนะที่แปลว่าพาหนะ เครื่องอาศัย คราวนี้ก็อย่างว่า...ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด จดก็ไม่จด จำก็ไม่จำ จึงมั่วกันไปหมด น่าจะมีการสังคายนาให้เหมือน ๆ กันเสียที ไม่อย่างนั้นพอถึงเวลาก็มาสงสัยอีก ว่าที่อาตมาจำมานั้นผิดหรือเปล่า ?”

เถรี
17-03-2020, 19:34
พระอาจารย์กล่าวถึงไม้เท้าเวสสุวรรณที่ลูกศิษย์ทำ “ส่วนใหญ่แล้วเหมือนกับเป็นอาญาสิทธิ์ ได้ดูแฮร์รี่ พอตเตอร์ไหม ? ที่โวลเดอมอร์ทำฮอร์ครักซ์ นั่นแหละ...ลักษณะอย่างนี้เลย แบ่งพลังไปใส่ คนเขียนเขาคงพอรู้เรื่องนี้เหมือนกัน คราวนี้ของใช้ทุกอย่างปกติก็มีพลังอยู่แล้ว ถ้าหากว่าเราตั้งใจทำอันไหนมากก็จะมีพลังมากเป็นพิเศษ และมีผลกระทบถึงตัวเราเหมือนกัน"

เถรี
17-03-2020, 19:37
ถาม : นักบวชที่รู้จัก ท่านประกาศมาว่าจะปิดวาจาหรือจะเข้ากรรมฐานหลายวัน แต่ท่านเล่นเฟซบุ๊กโต้ตอบอยู่ ถือว่าท่านได้ปิดวาจาไหมคะ ?
ตอบ : เรื่องปิดวาจานี่พระพุทธเจ้าทรงห้าม เพราะว่ามีพระสงฆ์อยู่หมู่หนึ่งไปจำพรรษาอยู่ด้วยกัน ด้วยความที่ก่อนนี้ท่านถือศาสนาอื่นมาก่อน ศาสนานั้นเขาประพฤติมูควัตร ก็คือการไม่พูดกันเหมือนกับคนใบ้ พระทั้งหลายเหล่านี้มาบวชในพระพุทธศาสนาแล้วก็ยังถืออย่างนี้อยู่ จึงต่างคนต่างไม่พูดต่อกัน พอถึงเวลาออกพรรษาไปกราบพระพุทธเจ้า พระองค์ท่านถามสารทุกข์สุขดิบและแนวการปฏิบัติ พวกท่านก็กราบทูลว่า ท่านประพฤติมูควัตร ก็คือการไม่พูดจาต่อกัน

พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า “ดูก่อนโมฆบุรุษ ไฉนจึงทำอย่างพวกสัตว์ประเภทแพะ แกะ วัว ควาย กระทำต่อกัน ? การสำรวมในวาจา ประกอบด้วยสติ จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง”

เถรี
17-03-2020, 19:38
คราวนี้เรื่องการปิดวาจา ถ้าโยมได้ฟังหลวงปู่บุดดาจะชัดมาก หลวงปู่บุดดาถามว่า “ไม่พูดแล้วมันคิดไหมเล่า ?” ...(หัวเราะ)... เพราะฉะนั้น..ประเภทไม่พูดกับคนอื่นแต่กลายไปเป็นนักเลงคีย์บอร์ดนี่แย่กว่าพูดอีก

การสำรวมวาจา ประกอบด้วยสติ ที่เขาเรียกว่าสำรวมอินทรีย์ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แล้วก็อย่าไปตำหนิเขา อย่าไปตอบโต้กับเขา เพราะว่าโอกาสที่เราขาดทุนมีเยอะมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำอย่างไรจะรักษาใจเราให้ดี คนอื่นถ้ายังไม่เห็นทุกข์เห็นโทษตรงนั้น เขาคิดว่าดีเขาก็จะทำ แบบที่อาตมายกตัวอย่างว่า ที่ทุกคนเขาว่าดีทั้งนั้นแหละ ปล้นเขากินก็ดี..สบายดี ...(หัวเราะ)...

เถรี
17-03-2020, 19:41
พระอาจารย์กล่าวว่า “ในสมัยพุทธกาล ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้านี่จะปวดหัวเป็นพิเศษ เพราะว่านักบวชสารพัดลัทธิ พอถึงเวลาเลื่อมใสก็ขอบวชในพระพุทธศาสนา แต่บางท่านก็ติดความเคยชินเก่า ๆ มา ถ้าไม่ใช่เป็นพระอริยเจ้าไปเลย บางทีก็ทำตัวตามแบบของตัวเอง เพราะคิดว่าทำได้ เพราะว่าพระพุทธเจ้าทรงตั้งพระพุทธศาสนามา ๒๐ ปี จึงค่อยมีการละเมิดศีล แล้วท่านค่อยบัญญัติข้อห้ามขึ้นมา

ปฐมอาบัติปาราชิกที่พระสุทินนกลันทบุตรล่วงนั่นคือ ๒๐ ปีไปแล้วนะ เพราะว่ายุคแรก ๆ มีแต่พระอรหันต์ มีแต่พระอริยเจ้า ทั้งพระทั้งฆราวาสเยอะมาก ทุกคนรู้โดยอัตโนมัติว่าต้องประพฤติปฏิบัติ กาย วาจา ใจ อย่างไร พระพุทธเจ้าจึงไม่ต้องบัญญัติศีล

ปรากฏว่า ๒๐ ปีผ่านไป เริ่มมีความด่างพร้อยเกิดขึ้น ปะฐะมัง ปาราชิกัง กัตถะ ปัญญัตตันติ ถามว่าปฐมอาบัติปาราชิกบัญญัติขึ้นที่ไหน ? เวสาลิยัง ปัญญัตตันติ บัญญัติขึ้นที่เมืองเวสาลี กัง อารัพภาติ ด้วยปรารภเรื่องอะไร ? สุทินนัง กะลันทะปุตตัง อารัพภาติ ปรารภเรื่องของพระสุทินนกลันทบุตร ปุราณะทุติยิกายะ เมถุนัง ธัมมัง เสพเมถุนกับภรรยาเก่า ปุราณะ โบราณหรือเก่า ...(หัวเราะ)...”

เถรี
17-03-2020, 19:56
ถาม : สุดท้ายท่านก็เป็นพระอริยเจ้าใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ท่านก็เป็นพระอรหันต์ของท่าน เพราะว่าท่านเป็นอาทิกัมมิกะ คือต้นบัญญัติ ไม่ถือว่าเป็นอาบัติ เพราะว่ากฎหมายยังไม่มี แต่หลังจากบัญญัติมาแล้ว ใครทำต่อนี่โดนทุกคน แล้วโทษท่านก็ไม่ได้ เพราะว่าท่านเป็นลูกเศรษฐี กติกาของสมัยโน้นก็คือ ลูกชายเป็นคนสืบสมบัติ ถ้าไม่มีลูกชายคอยดูแลสมบัติ เขาจะยึดเข้าเป็นของหลวงหมด

ทางด้านนี้ในเมื่อไม่มีลูกก็ต้องหาหลาน จึงไปขอร้องพระสุทินนกลันทบุตรให้ไปนอนกับเมียหน่อย ให้มีหลานสักคนเถอะ ตอนนั้นไม่มีข้อห้ามอะไร ท่านก็คิดว่าได้ แต่พอทำไปแล้วก็มากังวลว่า นี่ไม่ใช่เรื่องของผู้ประพฤติพรหมจรรย์จะทำกัน ท่านก็เครียดเสียจนกระทั่งเพื่อนพระสงสัย พอถามท่านก็เล่าให้ฟัง เรื่องจึงแพร่กระจายออกไปตามโซเชียล พวกตามกดไลก์ กดแชร์กันกระจาย..! เรื่องถึงพระพุทธเจ้าจึงต้องเรียกมาถาม

เถรี
17-03-2020, 20:25
ถาม : แสดงว่าตอนนั้นท่านยังไม่เป็นพระอริยเจ้าใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ยังไม่เป็น

พระพุทธเจ้าเรียกท่านมาสอบถาม ท่านก็ยอมรับว่าท่านทำจริง ๆ พระพุทธเจ้าจึงบัญญัติข้อห้ามขึ้นมา คราวนี้ในอนาปัตติวาร คือเหตุที่ไม่ต้องอาบัติ ท่านก็จะบอกไว้ด้วยว่าอย่างไรถึงไม่ต้อง ส่วนหนึ่งก็คืออาทิกัมมิกะบุคคลไม่ต้องอาบัติ พระภิกษุที่เพ้อคลั่งเพราะป่วยไข้ไม่ต้องอาบัติ เป็นต้น

เถรี
17-03-2020, 20:26
ถาม : ตอนที่อยู่ที่หน้ามณฑปหลวงพ่อกวย เห็นว่ามีอักขระลงมา แล้วก็เหมือนว่ากำลังใจของแต่ละคนก็เข้าไปถึงจุด ๆ หนึ่ง ไปถึงจุดที่เบาสบายมาก ๆ เหมือนไม่ใช่สมถะ และไม่ใช่วิปัสสนา ผมเห็นแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ผมเข้าไปถึงตรงนั้นได้บ้างครับ ?
ตอบ : จุดนั้นจะอยู่ตรงกลางพอดี ก็คือพอถึงเวลาของคุณถ้าเข้าสมาธิเต็มที่แล้ว ให้ถอยออกมาพิจารณาวิปัสสนาญาณแล้วเข้าใหม่อีกรอบ อันนี้ก็คือการฝึกนะ แต่ตอนนั้นคือการใช้

ถาม : ตอนนั้นเหมือนว่าเราเข้าได้เลย ไม่ต้องถอยเข้าถอยออก ?
ตอบ : ก็คุณถามนี่หว่า..ถ้าหากว่าจะฝึกก็ต้องฝึกอย่างที่ว่ามา

เถรี
17-03-2020, 20:26
พระอาจารย์กล่าวว่า “อะไรที่พูดไปแล้วอย่าเปลี่ยน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายครั้งเดี๋ยวคนเขาเลิกคบ ถึงไม่ใช่กษัตริย์ก็ต้องตรัสแล้วไม่คืนคำ ...(หัวเราะ)...”

เถรี
17-03-2020, 20:28
พระอาจารย์กล่าวว่า “ในเรื่องของไวรัส COVID-๑๙ ก็คือปี ๒๐๑๙ คนที่ไม่กลัวมีสองประเภท ประเภทที่หนึ่งก็คือคนที่ไม่กลัวตายเป็นปกติ ประเภทนี้จะหายาก กำลังใจไม่ถึงจริง ๆ ทำไม่ได้ ส่วนประเภทที่สองคือผู้ประมาท

บุคคลที่เข้าถึงธรรมแล้ว ส่วนใหญ่ไม่มีใครเห็นความดีในร่างกายนี้ ในเมื่อไม่เห็นความดีในร่างกายนี้ ก็พร้อมที่จะไปจากร่างกายนี้ ฟังดี ๆ นะ ไม่ได้อยากตายนะ แต่พร้อมเสมอที่จะตาย บุคคลที่อยากตาย จะว่าไปแล้วกำลังใจนั้นเศร้าหมอง บุคคลเหล่านี้กำลังใจของท่านจะอยู่ในลักษณะว่า อยู่ก็ได้ตายก็ดี ถ้ายังอยู่เราก็ได้สร้างบุญสร้างบารมี ถ้าตายเราก็ไปพระนิพพาน

เพราะฉะนั้น..ท่านทั้งหลายเหล่านี้จะไม่มีการเกรงกลัวต่อภัยอันตรายใด ๆ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ป้องกันอะไรเลย ด้วยความไม่ประมาทท่านก็ป้องกันเป็นปกติ เพียงแต่ว่าถ้าทำหน้าที่จนสุดความสามารถแล้วป้องกันไม่ได้ ก็ยอมรับว่านี่เป็นกฎของกรรม เพราะว่าเรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าเป็นขึ้นมาแล้วตาย..ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ตายแล้วทรมานนาน ลำบากทั้งตัวเองและผู้ที่คอยดูแล"

เถรี
17-03-2020, 20:29
"ดังนั้น..ประเภทที่สองที่ไม่กลัวไวรัสเพราะว่าประมาท อันนั้นต้องบอกว่าน่าตำหนิ เพราะฉะนั้น..เราต้องดูว่าตัวเราเองอยู่ในประเภทไหน แม้แต่พระอริยเจ้าที่คติของท่านมั่นคงแล้ว ท่านก็ยังระมัดระวังด้วยความไม่ประมาท แล้วเราเป็นใคร ? ถามตัวเองดู ถ้าถามตัวเองแล้วไม่รู้ ก็ไปถามตามผับตามบาร์ว่า “มึงรู้ไหมกูลูกใคร ?” เดี๋ยวจะมีคนช่วยบอกให้..!

เราอาศัยธาตุขันธ์ร่างกายนี้อยู่ เพื่อปฏิบัติให้พ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน สังขารนี้เป็นเพียงธาตุสี่ คือดิน น้ำ ไฟ ลม ที่เรายืมโลกนี้มาใช้ชั่วคราว โดยมารยาทของผู้ยืมที่ดี ก็ต้องดูแลสิ่งของที่ยืมมาให้ดีที่สุด ถึงเวลาจะได้ส่งคืนไปในสภาพที่ดีที่สุด ไม่ใช่ถลุงใช้แบบไม่บันยะบันยัง

เพื่อนพระสังฆาธิการตลอดจนผู้บังคับบัญชาหลายท่านถามอาตมาว่า “อาจารย์เล็ก..วัน ๆ หนึ่งทำงานเยอะแยะขนาดนั้นได้อย่างไร ท่านไหวหรือ ?” เรียนท่านทั้งหลายเหล่านั้นไปว่า “ผมทำเพราะว่าผมมีวันนี้วันเดียว ผมไม่หวังว่าจะมีวันพรุ่งนี้อีก เพราะฉะนั้น..ทุกอย่างผมต้องทำให้เต็มที่”

เถรี
17-03-2020, 20:32
"แต่ส่วนที่ไม่ได้บอกกับท่านก็คือ อาตมาทำด้วยความไม่ประมาท ขึ้นรถเมื่อไรก็ภาวนาส่งใจไปหาพระไว้ก่อน พลาดพลั้งเป็นอะไรไปอย่างน้อยคติของเราจะได้มั่นคง แล้วขณะเดียวกันงานทุกอย่างก็ทำเพื่อพระพุทธศาสนา ทำเพื่อมรรคผลนิพพาน ในเมื่อเป้าหมายชัดเจน ทำโดยไม่ประมาท อยากจะทำเท่าไรก็ทำไป แต่ถ้าเป้าหมายไม่ชัดเจน คิดว่าตัวเองมีเวลามาก จะรอไปทำวันอื่นก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้ามีอันเป็นไปเสียก่อนก็จะไม่ได้ทำ พูดไปพูดมาเหมือนเชียร์ตัวเอง พอดีกว่า..!

เพราะฉะนั้น..ญาติโยมพอถึงเวลาให้ทำงานแบบคนมีวันนี้วันเดียว นิสัยนี้คล้าย ๆ คนญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นทุ่มเทให้กับงานด้วยตัวและหัวใจ ดังนั้น..บ้านเมืองเขาเจริญเร็วมาก ส่วนของเรานี่มักจะหาความสุขใส่ตัวไปวัน ๆ”

เถรี
17-03-2020, 20:38
พระอาจารย์ดูภาพงานที่ทางวัดส่งมาแล้วกล่าวว่า “ด้วยความเคยชิน คุณป้ากะเหรี่ยงทาทานาคามาหน้าลายพร้อยเลย เดี๋ยวท่านผู้ตรวจฯ เห็นได้หัวเราะตาย จะมาทอด้ายกี่เอวให้ดู

ถึงเวลาเขาขายผ้าราคาถูกแล้วคนก็แย่งกันซื้อหมด พออาตมาไปถามว่าทำไมขายถูกแท้ เพราะว่าปกติชิ้นหนึ่งสองพันกว่าถึงสามพันบาท นี่ขายแค่ ๔๐๐-๕๐๐ บาท ? เขาบอกว่าได้ค่าแรงก็พอแล้ว ได้ยินแล้วน้ำตาจะเล็ด..! เพราะว่าด้ายทั้งหมดนั่นเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนซื้อให้ เขาเลยไม่คิด มิน่าว่าทำไมถึงขายหมดภายใน ๑๕ นาที..!

วันนี้ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรมไปวัดท่าขนุนอยู่ ก็เลยต้องตามข่าวใกล้ชิดหน่อย เนื่องจากว่าโดยปกติแล้วตัวอาตมาเป็นประธานชุมชนคุณธรรมต้นแบบ คำว่าต้นแบบก็คือ ที่เหลืออีก ๗-๘ พันแห่งทั่วประเทศเขาต้องเลียนแบบ แทนที่จะอยู่เพื่อที่จะนำเสนอเรื่องราวเองกลับไม่อยู่ มาอยู่ที่บ้านเติมบุญนี่แทน”

เถรี
17-03-2020, 20:40
ถาม : หลวงพ่อมีเคล็ดลับในการละกามราคะไหมครับ ?
ตอบ : อันดับแรก...อย่าหลุดจากการภาวนา หลุดเมื่อไรเป็นเรื่องเมื่อนั้น อันดับที่สอง...ต้องสำรวมอินทรีย์ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทุกอย่างระมัดระวังอย่างสูงสุด อันดับสาม...จับกายคตานุสติกรรมฐาน ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสภาพร่างกายนี้ไม่ใช่แท่งทึบ ใต้ผิวหนังลงไปก็คือ เลือด เนื้อ กระดูก เส้นเอ็น อวัยวะภายในภายนอกเกลื่อนกลาดไปหมด ไม่มีอะไรน่ารักน่าใคร่

อันดับสุดท้าย...พิจารณาให้เห็นชัดว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ประกอบไปด้วยความทุกข์ มีแต่สร้างความเดือดร้อนให้กับเราอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ต้นจนจบ ควรที่จะเบื่อควรที่จะหน่ายหรือยัง ? ถ้าสามารถทำอย่างนี้ได้ตลอดโดยที่ไม่หลุดไปไหนก็สบายมาก

แต่อันดับแรกอย่าให้หลุดจากสมาธิก่อน ถ้าหลุดจากสมาธิเมื่อไร สี่ข้อข้างหลังไม่ได้ทำหรอก..พังก่อน ตื่นเช้าขึ้นมาตี ๒ ตี ๓ รีบโกยกำลังใจให้สมาธิสูงที่สุด ไม่อย่างนั้นคุณตายแน่..! เพราะว่าเผลอนิดเดียวก็จะฟุ้งไปแล้ว

เถรี
17-03-2020, 20:43
พระอาจารย์กล่าวกับโยมคนหนึ่งว่า “ไม่ต้องห่วงหรอก..พ่อไปดีแล้ว เหลือแต่พวกเราที่ยังลำบากกันอยู่

คือพ่อเขาตายก่อนหมดอายุ โดนรถชน คราวนี้ลูกหลานรู้จักทำบุญให้ก็สบาย พวกเราเองไปคิดว่าคนโดนรถชนตาย คนตายโหงน่าจะไปไม่ดี จะว่าไปแล้วเป็นความโชคดีเสียด้วยซ้ำไป ส่วนพวกที่หมดอายุแล้วตายนี่บางทีลงตรงไปเลย โอกาสแก้ตัวไม่มี”

เถรี
17-03-2020, 20:44
พระอาจารย์กล่าวว่า “จะว่าไปแล้วหน้ากากที่ทางรัฐบาลเขาให้ทำกันเอง การใช้ผ้าทั่ว ๆ ไปแทบจะกรองเชื้อโรคไม่ได้เลยนะ ยกเว้นอย่างเดียวว่าใครสั่งขี้มูกก็ลอดช้าหน่อย..! แล้วที่สมควรใช้งานที่สุดคือผ้าอ้อมเด็ก คราวนี้ผ้าอ้อมเด็กมียี่ห้อก็แพง ถึงเวลาเราจะไปเอามาทำหน้ากาก เกิดแห่ไปซื้อกันหลาย ๆ คน เดี๋ยวก็ขึ้นราคาอีก บ้านเรานี่ทำอะไรก็ลำบากไปหมด”

เถรี
17-03-2020, 20:44
พระอาจารย์กล่าวว่า “ตอนนี้คุณกนกโดนถล่มจมดินไปเลย เรื่องผู้พิพากษายิงตัวตายนี่แหละ ดันไปวิจารณ์ในทางไม่ดี ต้องบอกว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แล้วเป็นเรื่องที่เหมือนกับโครงกระดูกในตู้ คือวงในเขาไม่อยากให้ดังออกมาข้างนอก ในวงการจะเละเทะขนาดไหนก็ปล่อยให้เละไป..!

โครงกระดูกในตู้เป็นนิยายต่างประเทศ ที่เขาซ่อนเรื่องในวงศ์ตระกูลของตัวเองเอาไว้ไม่ให้คนอื่นรู้”

เถรี
17-03-2020, 20:48
พระอาจารย์กล่าวว่า “เมื่อเดือนก่อน มีท่านหนึ่งส่งมีดหมอชาตรีปี ๒๕๓๕ หนึ่งเล่มไปให้อาตมาที่วัดท่าขนุน บอกว่าช่วยดูให้ทีว่าของแท้หรือเปล่า ? ถ้าหากว่าไม่แท้ หลวงพ่อโยนทิ้งไปได้เลยครับ..ไม่รับคืน แต่ถ้าหากว่าแท้ให้ใส่ซองที่สอดมาข้างในนี้ส่งคืนด้วย อาตมาดูเสร็จก็เก็บขึ้นหิ้ง ...(หัวเราะ)... เพราะว่าที่ส่งมานั้นไม่ใช่ของแท้ เป็นของทำเลียนแบบ

ถามว่ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นของทำเลียนแบบ ? มีดหมอชาตรีรุ่นสุดท้ายมีแค่ ๘๕๐ เล่ม สร้างปี ๒๕๓๕ มาถึงบัดนี้ก็ ๒๗ ปีเต็มขึ้น ๒๘ ปีแล้ว ประเภทมดไม่ไต่ ไรไม่ตอมแบบนี้ก็ปลอมแน่ ๆ

อันดับแรก...ถ้าใช้ติดตัว งาจะต้องเก่า อันดับที่สอง...ถ้าไม่ใช้ติดตัว ใบมีดจะต้องเก่า อันนี้ทุกอย่างใหม่เอี่ยมหมดเลย แล้วอักขระที่ตีเป็นคนละลายมือกัน แต่อาตมาไม่ทิ้งหรอก..เสียดายของ ติดตัวไว้เสกสัก ๓ - ๔ ปี เดี๋ยวขายได้แพงพอ ๆ กันนั่นแหละ ...(หัวเราะ)...”

เถรี
17-03-2020, 20:50
ถาม : ไม่ทราบว่ามีดเล่มนี้เป็นของที่ไหนครับ ?
ตอบ : ดูแนวแล้วของหลวงพ่อรุ่ง ไปได้จากไหนมา ?

ถาม : ทำบุญจากในวัดครับ
ตอบ : ให้ดูที่ใบมีด ถ้าหากว่าของเก่า สนิมขุมจะกินแบบนี้ คือจะกินเข้าเนื้อเลย ทำอย่างไรก็เอาไม่ออก ยกเว้นอย่างเดียวคือคุณต้องขัดเนื้อทิ้งไปเลย เขาขายแพงไหม ?

ถาม : ตอนนั้นบูชามา ๗,๐๐๐ บาทครับ
ตอบ : คุ้มมากเลย ...(หัวเราะ)...

ถาม : ใช้น้ำมันจันทน์ทาได้ไหมครับ ?
ตอบ : ทาแล้วต้องเช็ดแห้ง ถ้าไม่เช็ด สนิมเขียวจะขึ้น มีดทุกประเภทภาษาอังกฤษเขาว่า Clean and dry ก็คือทำความสะอาดแล้วต้องเช็ดแห้งทั้งหมด

เถรี
17-03-2020, 20:50
ถาม : หัวกะโหลกที่ตู้วัตถุมงคลของที่ไหนครับ ?
ตอบ : หลวงพ่อไฉน วัดสังโฆปรีดี มีรุ่นเดียวเท่านั้น ส่วนใหญ่เขาได้แต่ยันต์หรือเหรียญกัน อยากรู้ให้ค้นหาคำว่า “เสือหัวขาด” แล้วจะรู้ว่าตำรวจเขาเข็ดเขี้ยวกันแค่ไหน

เถรี
17-03-2020, 20:51
ถาม : ทำบุญให้คนตาย อย่างสังฆทานหรือกรรมฐาน เราต้องนึกถึงท่านตอนนั้นเลย หรือว่าถอยออกไปแล้วค่อยนึก หรือว่าตอนเย็นรวบทีเดียวไปเลยดีคะ ?
ตอบ : ทำแล้วก็เป็นของเรา เป็นของเราแล้วจะให้ตอนไหนก็ได้ แต่ควรจะให้โดยเร็วที่สุด

ถาม : เต้ยบอกว่าต้องมีกรวดน้ำบ้าง ?
ตอบ : ก็ไอ้เต้ยอยากมือเปียก..! เราไม่อยากมือเปียกก็ไม่ต้องกรวด ผีเขาไม่ได้โง่เหมือนไอ้เต้ยหรอก..! แค่บอกว่าให้ผีก็โดดใส่แล้ว ไม่ต้องไปรอกรวดน้ำหรอก

เถรี
17-03-2020, 20:54
พระอาจารย์กล่าวกับครอบครัวหนึ่งว่า “เด็ก ๆ เก่งนะ พ่อแม่สอนไว้ดี ใช้ภาษาอังกฤษแทบจะเป็นภาษาแรกของตัวเองเลย

ปัจจุบันภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง ก็คือคนส่วนใหญ่สื่อสารกันได้ ประเทศอินเดียมี ๓๐๐ กว่าภาษา เขาต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการสื่อสารกัน ภาษาหลัก ๆ ของเขาอย่างฮินดีหรือปัญจาบี ก็แค่คนส่วนมากเท่านั้น แต่พอไปเจออีกหลายภาษาที่ไม่สามารถจะคุยกันรู้เรื่อง ก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้น..ภาษาราชการของอินเดียก็เลยกลายเป็นสันสกฤตกับอังกฤษ”

เถรี
18-03-2020, 09:41
ถาม : ลูกชายเซลล์รากผมโดนเซลล์เม็ดเลือดขาวทำลาย ทำอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ถ้าจะใช้แบบโบราณ เขาใช้เปลือกต้นแค ถากมาสัก ๔-๕ ชิ้น แช่น้ำซาวข้าว ไม่ใช่น้ำข้าวนะ น้ำที่เขาล้างข้าวสารก่อนที่จะหุง แช่สักอาทิตย์หนึ่ง ไม่ต้องถึง ๗ วันก็ได้ สัก ๒-๓ วันก็พอ แล้วก็ทา แต่โอ้โฮ..เหม็นบูดน่าดู ถ้าทำก็ทำช่วงปิดเทอมนี่แหละ

เถรี
18-03-2020, 09:41
พระอาจารย์พูดกับโยมที่มาถวายสังฆทานว่า “พระท่านมุ่งเอาบุญเอากุศล ท่านไม่ดูหรอกว่าเราไปทำอะไรกันมา”

เถรี
18-03-2020, 09:43
มีโยมมาถวายสล่ามองโอสถ “ยาแก้ไอสล่ามอง ด้วยความที่สมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้าฯ สั่งมาเสวยเป็นประจำ เขาก็เลยเรียกกันว่ายาพระเทพฯ ไปเลย”

เถรี
18-03-2020, 09:44
พระอาจารย์เล่าว่า “อาตมาไปได้กะโหลกเสือโคร่งของไทยใหญ่มาชิ้นหนึ่ง หนาเกือบเซ็นต์ฯ..! อะไรจะใหญ่ปานนั้น ไอ้ที่เก่า ๆ เขาว่าหัวเท่ากระบุงน่าจะใช่ เขาน่าจะเจาะมาแต่หน้าผากกลม ๆ แล้วก็มี จารอักขระหน้าหลัง”

ถาม : จารเป็นตัวอะไร ?
ตอบ : จารตัวเมือง

เถรี
18-03-2020, 09:45
ถาม : ทำไมตะกรุดหนังเสือที่ได้จากการร่วมบุญหล่อพระ จึงไม่มีสติ๊กเกอร์ ?
ตอบ : อ๋อ..ของส่วนตัวหลวงพ่อ ไม่ต้องมีสติ๊กเกอร์

เถรี
18-03-2020, 10:49
ถาม : กะโหลกหน้าผากผีอันนี้ผู้หญิงหรือผู้ชายคะ ?
ตอบ : ผู้ชายแน่ ๆ เลย อย่าปล่อยให้ความคิดว่าใช่ของเราหลอก

บางทีเขาเรียกว่า ผีลู ถ้าลูกศิษย์จะไปเล่นการพนันถล่มบ่อนที่ไหน ก็ให้เขายืมไปได้เลย บางคนเรียกว่าพญาปุริศาสตร์บ้าง ยักษ์กินผีบ้าง น่าจะมาจากโปริสาทชาดก ในเมื่อกินผี บรรดาผีในบ่อนก็เลยกลัว บ่อนการพนันเขาจะใช้ทิศทางก็คือพวกฮวงจุ้ย ใช้ผี และท้ายที่สุดก็ใช้มาเฟีย เขาใช้หลายอย่างประสานกัน โดยเฉพาะทางด้านฮ่องกง มาเก๊า เกาลูน ทุกบ่อนเลย ถึงเวลาคนไหนที่เล่นการพนันจนหมดเนื้อหมดตัว แล้วไปฆ่าตัวตาย เขาจะรีบไปติดต่อญาติขออนุญาตทำศพให้ ขออย่างเดียวคือ ขอผูกวิญญาณไปใช้..!

เถรี
18-03-2020, 23:06
พระอาจารย์เห็นโยมใส่เสื้อยันต์มาทำบุญ “เอาเสื้อยันต์ไว้กันไวรัสใช่ไหม ? ไปไหนก็ใส่เสื้อยันต์ไปก่อน เมื่อถึงเวลาผีจะมาแพร่ไวรัส ก็บอกว่า “ดูเสียก่อนว่าลูกหลานใคร ? อย่ามาแพร่เชื้อส่งเดช..!”

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านถ่ายท้องเกือบตาย มองไปที่ชานเรือน อยู่ ๆ ก็เห็นเรือวิ่งมา อย่าลืมว่าท่านอยู่ใกล้น้ำก็จริงนะ แต่ตัวบ้านอยู่บนบก เรือวิ่งมาเกยระเบียงบ้านเลย..! เสร็จแล้วก็มีพวกโดดตุ้บตั้บกันลงมา มาถึงก็กางบัญชี ดูว่ามีชื่ออะไรบ้าง จะได้เก็บไป ปรากฏว่าพอเห็นหลวงพ่อเข้าก็ตกใจ..! “เฮ้ย..ใครวางยาลูกเจ้านายวะ..?!?” ไอ้พวกนั้นก็ “ฉิบหายแล้ว..ดันไปวางยาถูกลูกพระอินทร์เข้า..!” กลับหลังหันได้ก็โดดขึ้นเรือเปิดแน่บไปเลย ก็คือหลวงพ่อท่านอยู่ในเขตของเขา ท่านก็เลยโดนไปด้วย

ไปจ๊ะเอ๋กับลูกพระอินทร์เข้า ท่านบอกว่าพอเขาถอยไปเท่านั้นแหละ เรี่ยวแรงกลับคืนมา ลุกขึ้นนั่งได้เลย”

ถาม : งงมานานแล้วค่ะ ว่าทำไมต้องมาเป็นเรือจริง ๆ อย่างนั้น ?
ตอบ : ถ้าเอาเฟอร์รารี่มาก็กลัวว่าพวกเราจะรับไม่ได้...! ก็เลยต้องมาเป็นเรือ

เถรี
18-03-2020, 23:13
เรื่องของพาหนะ แล้วแต่เขาจะแสดงออก แบบเดียวกับหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ อดีตชาติท่านเคยถวายม้าให้กับวัด อำนวยความสะดวกให้กับพระเวลาเดินทาง เวลามีกิจนิมนต์ก็ขี่ม้าไป พอถึงเวลาท่านจะไปพระนิพพาน ก็มีม้าแก้วมารับ

ถาม : นึกว่าความเป็นทิพย์ไม่ต้องใช้รูปธรรม ?
ตอบ : พวกที่ไม่เข้าใจอะไร ตายใหม่ ๆ จะรู้เรื่องไหมล่ะ ? ในเมื่อไม่รู้เรื่องอะไรก็ต้องมีให้เขาไปก่อน

เถรี
19-03-2020, 00:05
พระอาจารย์เล่าว่า “วันนี้คุณลูกเจนนี่มา หลังจากที่ไม่ได้มาถึงสองเดือน สาเหตุเพราะว่าไปผ่าตัด เป็นซีสต์ในมดลูก ใหญ่ ๑๐ เซนติเมตร..! พวกซีสต์ในมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากการไปดื่มน้ำเย็น โดยเฉพาะดื่มน้ำเย็นช่วงที่ประจำเดือนมา หมอรุ่นใหม่เขาไม่ได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับธาตุ ในเมื่อเขาไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้ เขาก็บอกว่าไม่ได้เกี่ยวกัน แต่ถ้าเป็นแพทย์แผนโบราณ แพทย์แผนจีน แพทย์แผนอินเดีย เขาบอกว่าไม่ใช่ไม่เกี่ยว เกี่ยวตรง ๆ เลย

เลือดเป็นธาตุไฟ ของเย็นก็เป็นธาตุน้ำ ถึงเวลาน้ำลงไปก็ดับไฟ บางคนประจำเดือนกำลังมานี่ถึงกับหยุดไปเลย ทีนี้พอเลือดหยุด จับตัวกันเป็นก้อน ไปไหนไม่ได้ก็กลายเป็นซีสต์แล้วก็โตขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้น..ถ้าเปลี่ยนนิสัยมาดื่มน้ำร้อนแบบคนจีนได้ก็ไม่เป็นกันหรอก

หมอบริการดีมาก ถ่ายคลิปวีดีโอให้ดูด้วย เพราะว่าเขาใช้ส่องกล้องผ่าตัด มีการอธิบายประกอบไปด้วย ว่าอันนี้คือรังไข่ อันนี้คืออะไร มีตัวหนังสือเล็ก ๆ วิ่งขึ้นให้ดูเลยนะ คุณลูกเขาเปิดให้ดู หลวงพ่อก็ เฮ้อ..!”

เถรี
19-03-2020, 00:05
พระอาจารย์บอกโยมว่า “อาตมาประกาศล้มเลิกการไปอินเดียแล้ว ทางบริษัทก็คงจะมีเงินบางส่วนคืนมาให้”

เถรี
19-03-2020, 00:07
พระอาจารย์เล่าว่า “พระที่วัดท่าขนุนจะเห็นภาพประจำอยู่สองอย่าง อย่างแรกคือกลับมาจากบิณฑบาต พอถึงเวลาล้างบาตรเสร็จ พระอาจารย์ก็ล้างมือด้วยสบู่ ประการที่สอง...ก่อนจะฉันข้าวก็ลวกจานลวกช้อนด้วยน้ำร้อน เขาเห็นอย่างนี้ กี่ปีต่อกี่ปีก็อย่างนี้ ทำจนเป็นนิสัย คนอื่นเพิ่งจะมาทำตอนเกิดโรคระบาด ไม่เคยชินแบบนั้นเดี๋ยวก็เผลอ

ที่อาตมาทำอย่างนั้นเพราะว่าตอนที่ไปอยู่พม่าหลายปี บ้านเขาบางอย่างยังล้าหลังอยู่ โดยเฉพาะจุดที่ไปสร้างวัดหนองบัวเป็นปากอ่าว ปากอ่าวนี่ตั้งแต่ต้นแม่น้ำมาจนถึงทะเล ของสกปรกทุกอย่างก็ไหลลงมาหมด ถ้าเราอยู่ต้นน้ำก็แล้วไป แต่นี่อยู่ปลายน้ำ ก็เลยใช้วิธีที่ว่า ถึงแม้ว่าเขาจะล้างมาสะอาด ก็ขออนุญาตลวกน้ำร้อนหน่อย ก็เลยกลายเป็นความเคยชินไป”

เถรี
19-03-2020, 00:22
“พอมาเมืองไทยไปลวกให้เห็นไม่กี่ที แม่ชีเขาก็จัดมาให้เป็นประจำ เขาไม่รู้ว่าที่มาที่ไปมาจากไหน ส่วนที่ล้างมือเพราะว่าอาตมาเล่นกับหมาเป็นประจำ โดยเฉพาะกลับมาจากบิณฑบาต หมาวิ่งมารับ ก็เลียหน้าเลียหลังไปเรื่อย อาตมาไม่รังเกียจหรอก แต่ท่านอื่นเกิดไปเห็นแล้วมานั่งวงเดียวกัน เดี๋ยวท่านจะฉันข้าวไม่ลง ก็เลยต้องล้างมือสักหน่อย ล้างไปล้างมาจนกลายเป็นเคยชิน

ถึงเวลาก็ว่าคาถาล้างมือของทางสายเขาอ้อไปด้วย ทางด้านไสยศาสตร์เขาเชื่อว่า เวลาเราไปจับของสกปรก ของต่ำ อาจจะทำให้คาถาอาคมเสื่อมได้ เพราะฉะนั้น.. เขาจะมีคาถาล้างมือ แล้วก็คาถาเสกมือใหม่

คาถาล้างมือเขาว่า คงคาสระ (ออกเสียง สะ-ระ) ว่า ๓ จบ
เสร็จแล้วก็ไล่ของไม่ดีออก พุทธังปัจจักขามิ ธัมมังปัจจักขามิ สังฆังปัจจักขามิ
เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วก็ พุทธัง ปัจจุทรามิ ปริสุทโธ อธิษฐามิ

โบราณเขามีเคล็ดลับ เขามีวิชาการแบบนี้เพื่อให้คนมั่นใจในตัวเอง ว่าได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องตามเคล็ดลับ ตามสายครูบาอาจารย์แล้ว ก็จะเกิดความแน่วแน่มั่นคงในดวงจิต ถึงเวลาก็ใช้พวกคาถาอาคมอะไรได้ผล เพราะว่าความมั่นคงความมั่นใจทำให้เกิดพลังขึ้นมา พวกเราก็ลองดูนะ

อาตมาเคยแหกคอกมาแล้วแต่ไม่สำเร็จ ด้วยความที่เป็นคนช่างสังเกต ถึงเวลาทำคาถาบทนี้ใช้กำลังใจแค่นี้ ทำคาถาบทนั้นใช้กำลังใจแค่นั้น ถึงเวลากูไม่เอาตามเคล็ดแล้ว ใช้กำลังใจเท่ากัน ปรากฏว่าใช้ไม่ได้..!”

เถรี
19-03-2020, 00:23
ถาม : ทำไมล่ะครับ ?
ตอบ : เพราะไม่เป็นไปตามสายครูบาอาจารย์ ในเมื่อขึ้นครูมาอย่างนี้ถึงจะใช้ได้ ถ้าครูท่านไม่สงเคราะห์ก็เดี้ยง ถ้าทำตามเคล็ด ลูกศิษย์ต้องเชื่อครู ทีนี้พอนอกครู ครูท่านไม่สงเคราะห์ ก็ทำไม่ได้เฉยเลย ทั้ง ๆ ที่ใช้กำลังใจเดียวกันเลย

เถรี
19-03-2020, 00:25
มีอยู่อย่างหนึ่งที่นึกไม่ถึงก็คือ การเป่ายันต์เกราะเพชร ปรากฏว่ามีโยมคนหนึ่งป่วยปางตายไปเป็นอาทิตย์ มารู้ทีหลังว่าเขาไปครอบครูโนราห์มา ทีนี้พอครอบครูโนราห์มา เจอยันต์เกราะเพชรครอบลงไป ครูก็ติดอยู่ข้างใน..! เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าเกิดจากแรงครู ท้ายสุดก็เลยบอกว่า เอาอย่างนี้...ตั้งใจจุดธูปขอขมาพระรัตนตรัย ขอให้ครูเข้าออกสงเคราะห์ได้ตามเดิม ไม่อย่างนั้นก็ป่วยแหง็ก ๆ จะตายอยู่ร่ำไป ป่วยเป็นอาทิตย์เลย

ถาม : ในงานท่านจะไล่ของไม่ดีออกไปก่อน ?
ตอบ : ของไม่ดีหมายถึงว่าให้โทษ ถ้าหากไม่ได้ให้โทษ เป็นประเภทที่เรียกว่าไสยขาวแบบนั้นไม่เป็นไร ถ้าเป็นพวกไสยดำ พวกคุณผี คุณคน วัตถุอาถรรพ์ในด้านที่ให้โทษคนอื่น ไปยึด ไปเกาะ ไปดลจิตดลใจให้เขาทำเรื่องไม่ดีไม่งาม แบบนั้นจะโดนไล่ทิ้งหมด

เถรี
19-03-2020, 07:45
พระอาจารย์พูดถึงแบบพระ “เห็นไหมว่าเขาสร้างเหมือนกันแบบเดียวกัน แต่ทำไมของเราเด่นมาก ? ขึ้นอยู่กับการออกแบบเหมือนกันนะ เขาเรียกว่าสถาปนึกหรือพุทธแบบ พระแบบเดียวกัน อะไรเหมือนกันหมดทุกอย่าง ทำไมทำองค์หนึ่งสวยติดตาติดใจ อีกองค์หนึ่งทำไปแล้ว ดูอย่างไรก็ดูไม่ขึ้น”

เถรี
19-03-2020, 07:50
ถาม : ตอนนี้ผมกำลังสร้างบ้านอยู่ แล้วในอนาคตจะสร้างอพาร์ทเมนท์ มีศาลพระภูมิอยู่ตรงนี้ ถ้าผมแบ่งตรงนี้เป็นกำแพง ต่อไปผมต้องทำอีกศาลไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ต้อง เอาหลังเดียวพอ เพราะว่าถือว่าอยู่ในเขตเดียวกัน มุมก็ถูกต้องดีแล้ว

พระภูมิเจ้าที่แต่ละองค์ท่านดูแลหลายตารางกิโลเมตร อย่างท้าววาหนที่วัดท่าซุงนั่นท่านดูแล ๑๖ ตารางกิโลเมตร ๑ ตารางกิโลเมตรมี ๖๒๕ ไร่ ของคุณแค่ ๒๐๐ ตารางวา สร้างหลังเดียวก็พอแล้ว

เถรี
19-03-2020, 07:59
พระอาจารย์อ่านหนังสือเกี่ยวกับสำเร็จลุน “ประวัติพระทางอีสานหลายรูปที่มีความข้องเกี่ยวกับหลวงปู่สำเร็จลุน ที่เขามักจะพิมพ์เป็นสมเด็จลุน

คำว่า สำเร็จ ก็คือพระผู้สำเร็จ ส่วนใหญ่ก็คือพระที่ท่านได้อภิญญา ประเภทที่ว่าเดินน้ำดำดิน ข้ามโขงด้วยเท้าเปล่า อะไรประมาณนั้น ด้วยความที่คนไทยไม่เคยชินกับภาษาอีสาน พอได้ยินคำว่า สำเร็จ ก็เลยเปลี่ยนเป็น สมเด็จ หมดเลย ในเล่มนี้ก็เหมือนกัน เปลี่ยนเป็นสมเด็จลุนกันหมด”

เถรี
19-03-2020, 08:10
“จงกรมก็อีกคำหนึ่ง ใช้ ร.เรือ บาลีเขาว่า 'จงฺกม' (อ่านว่า จัง-กะ-มะ) ก็คือลักษณะการเดินกลับไปกลับมา คนไทยเรามาลงเมื่อไรก็จงกลม ถ้าพิมพ์ผิดตัวหนึ่ง ก็กลายเป็นวงกลมไปเลย ต้องใช้ 'ร.เรือ' แต่ไปใช้ 'ล.ลิง' กัน

แบบเดียวกับใส่บาตรแล้วบิณฑบาต บิณฑบาตนี่คือ ปิณฺฑ + ปาต มาจากบาลี แล้วไม่มี ร.เรือ แต่ใส่บาตร 'บาตร' นี้แปลงเป็นไทยแล้วมี ร.เรือ เขาก็เลยให้เคล็ดง่าย ๆ ว่า บิณฑบาตพระไม่รอเรา แปลว่าไม่ต้องมี ร.เรือ ใส่บาตรเราต้องรอพระ ดังนั้น เอาร.เรือ ใส่ไปด้วย เคล็ดลับจำง่าย ๆ”

เถรี
19-03-2020, 08:12
โยมสร้างธงมหาพิชัยสงครามมาถวาย “ขอมอบคืนจ้ะ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสั่งไว้นักหนาเลยว่า นอกจากท่านแล้วไม่ต้องไปทำ พระร่วงท่านไม่สงเคราะห์ อย่าไปทำส่งเดช ธงมหาพิชัยสงครามนอกจากหลวงพ่อท่านแล้ว คนอื่นทำไปก็ไม่มีประโยชน์ ทำอะไรต้องศึกษาก่อนจ้ะ จะไปทำส่งเดชไม่ได้ เพราะว่าครูบาอาจารย์ท่านสั่งห้ามไว้แล้ว”

ถาม : แล้วทำอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : เอาไปบรรจุฐานพระ ฐานโบสถ์ ฐานอะไรก็แล้วแต่ ถ้ามีที่ไหนให้บรรจุก็เอาไปเลย

เถรี
19-03-2020, 08:14
พระอาจารย์ชูสองนิ้วที่คีบเข็มเล่มหนึ่งให้ดู “นี่มึงลงทุนขนาดนี้เลยหรือ ?”

ถาม : อะไรหรือครับ ?
ตอบ : มีผู้หวังดีส่งมา อันนี้ไม่เป็นไร อันนี้เสื่อมสภาพแล้ว เล่นให้ต้องคว้าต่อหน้าต่อตาชาวบ้านเลย มีผู้หวังดีปรารถนาดีส่งมาให้ ลงทุนมากไป ไม่รู้ว่าอาตมาเป็นจอมยุทธ ถึงเวลาก็หนีบด้วยสองนิ้ว

พวกนี้ส่วนใหญ่ไม่วันอังคารก็วันเสาร์ ก็เห็นใจนะ เรียนวิชาพวกนี้แล้วร้อน เขาก็ต้องปล่อยไปเรื่อย แต่อาตมาชอบมีดไม้ปืนโบราณ ส่งแบบนั้นมาบ้างก็ได้

เถรี
19-03-2020, 08:17
โยมนำพานมาขอรับเข็มที่มีคนส่งมาหาพระอาจารย์ เพื่อเอาไปทำส่วนผสมในการสร้างมีดหมอ

ถาม : อันนี้ไม่ได้ลอยมาตามลม ? (ลมเพลมพัด)
ตอบ : ก็คงประเภทที่ว่าเขารักเคารพมาก เขาอยากจะถวาย..! เราเป็นพระ ถึงเวลาเขาถวายก็รับเอาไว้ด้วยความยินดี

ถาม : อย่างนี้อานิสงส์ก็ได้คืนร้อยเท่าพันเท่า ?
ตอบ : ทำอย่างนั้นไม่ได้ ทำอย่างนั้นเดี๋ยวเขาตาย สมัยนี้เขาไม่เก่ง สมัยก่อนถ้าหากว่าส่งไปแล้วพลาด เขาเรียกกลับคืน สมัยนี้ส่งเป็นอย่างเดียว เป็น One way ticket.

หลวงปู่ภู วัดอินทร์ กวาดกวาดพื้นอยู่ ยกไม้เท้าตีเปรี้ยง บอกลูกศิษย์ “เฮ้ย..มันส่งมาให้ เอาไปกินหน่อย” เขาเสกเนื้อมาก้อนเบ้อเร่อเลย จะให้เข้าท้อง หลวงปู่ท่านตีตกลงมา ให้ลูกศิษย์เอาไปกินกัน

เถรี
19-03-2020, 08:19
สมัยก่อนเวลาเจอพวกไสยศาสตร์ ด้วยความที่ไม่ชอบให้ใครมากวน ไม่ชอบให้ใครมารังแก ก็จะสวนเลย ปรากฏว่าพอปะทะกันไประยะหนึ่ง ก็สู้เขาไม่ได้ ที่สู้เขาไม่ได้ก็เพราะว่า เวลาเขาเดือดร้อน เขาจะไปหาคนที่เก่งกว่า ถ้าหาคนที่เก่งกว่าไม่ได้ เขาก็ไประดมพวกเขามา แล้วก็ผลัดกันทำ เขาเล่นแบ่งผลัดกัน เป็นยามรักษาความปลอดภัยเลย ที่นี้เช้า กลางวัน เย็น กลางคืน ผลัดกันทำอย่างนี้ ส่วนอาตมาเองไม่ได้พักไม่ได้ผ่อน ท้ายสุดก็เผลอ..โดนจนได้

เคยมีอยู่ระยะหนึ่งที่โดนหนัก ๆ เข้า จนต้องทำเป็นตายไปเลย ก็คือมาอย่างไรก็ช่าง กูทำไม่รู้ไม่ชี้อย่างเดียว เขาก็คิดว่าทางเราน่าจะตายไปแล้ว ถึงได้เลิก

เถรี
19-03-2020, 08:20
ถาม : แล้วถ้าอย่างนี้เราแผ่เมตตาไปล่ะคะ ?
ตอบ : แผ่แล้วเขาจะรับไหมเล่า..?

ถาม : ถ้าขอขมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรือคะ ?
ตอบ : จะช่วยอะไรล่ะ ?

ถาม : ก็ขอขมากรรมที่เคยพลั้งพลาดต่อเขาในชาติก่อน ๆ ?
ตอบ : ถึงเวลามือปืนจะมายิงกบาล แล้วเราก็ “ขอขมากรรมนะ” ก็คงจะได้อยู่หรอก...!

ถาม : ถ้าอย่างนั้นเราจะขอขมาไปทำไมละคะ ?
ตอบ : เพื่อให้เราไม่ไปผูกโกรธผูกอาฆาตกับเขา ส่วนเขาจะผูกโกรธผูกอาฆาตต่อไปหรือเปล่า เราก็ไม่ยุ่งแล้ว ก็แปลว่าที่โดนล่ามอยู่สองฝั่ง เราไม่เอากับเขาแล้ว เราปลดทิ้งแล้วส่วนเขาจะมายึด มาเกาะ มาจองเวรจองกรรมต่อไปก็เรื่องของเขา คือเราปลดใจออกมาจากความชั่วตรงนั้น ส่วนเขาจะปลดหรือไม่ปลด ก็เป็นเรื่องของเขา

เถรี
19-03-2020, 08:22
ถาม : การถวายสังฆทานช่วยให้เขาปลอดภัยจากการไปนรกได้บ้างไหมครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ไม่ได้ดูอย่างนั้น จะไปดูว่าเขาทำบุญให้ใครแล้วคนนั้นมารับหรือเปล่า อย่างนั้นก็เคยมี แต่ถ้าประเภทคนทำแล้วไปไหน ต้องรอคนนั้นตายก่อน..เสียเวลา

ถาม : ในกลุ่มเรามีบ้างไหมครับที่ถวายสังฆทานแล้วยังตกนรก ?
ตอบ : โอ๊ย...ตกกันเป็นปกติ อย่าลืมว่าสังฆทานเป็นแค่ทาน ที่มั่นคงกว่านั้นก็คือ ศีล สมาธิ ยังเอาไม่ค่อยจะอยู่ บางคนกรรมเก่าเขาแรง พอถึงวาระสุดท้าย ทั้ง ๆ ที่จิตทรงสมาธิอยู่ ยังมีเสียงรบกวนให้หลุดได้ มีอยู่ทางเดียวที่จะรอดจริง ๆ คือต้องถึงความเป็นพระอริยเจ้าตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป ไม่อย่างนั้นแค่ถวายสังฆทานหวังจะรอดนรกนี่..โอกาสน้อยสุด ๆ

โอกาสพลาดยังมี ยังมีเยอะมาก ดีแล้วที่ถามเพราะว่าบางคนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน การถวายสังฆทานไม่ใช่ตัวค้ำประกันว่าเราจะไม่ลงนรก ดีไม่ดีจะเป็นตัวพาเราลงนรก เพราะดันไปประมาทว่าเราทำบุญแล้ว และต่อไปก็สร้างแต่กรรม

เถรี
19-03-2020, 08:23
ถาม : ลูกห้าเดือนแล้วครับ ตอนคลอดมีคนถามว่าไปทำอะไรมา ยันต์เต็มเลย ?
ตอบ : ก็ตอบไปว่าไม่มีอะไรหรอก ก็แค่แม่ไปเป่ายันต์มาเท่านั้นเอง น่าจะถ่ายวีดิโอเอาไว้ ถึงเวลางานเป่ายันต์ก็เอาไปฉายให้เขาดู จะได้รู้กันว่าที่ทำไปนั้นมีผลจริง ๆ

เถรี
19-03-2020, 08:25
ถาม : ช่วงนี้เราเดินทางไปไหนได้ไหมคะ ?
ตอบ : ได้...จะเดินทางไปไหนก็ไป แค่ระวังเอาไว้หน่อยก็แล้วกัน ถ้าจะไปก็ควรไปอิหร่าน อิตาลี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น จะได้รู้ว่าเราสร้างเวรสร้างกรรมไว้เยอะไหม...!

ถาม : กลับมาก็ให้นั่งพิจารณาไปอีก ๑๔ วัน ?
ตอบ : ก็เท่ากับเก็บตัวปฏิบัติธรรม..!

เถรี
19-03-2020, 09:17
ถาม : ในพระคาถาเงินล้าน บางที่ก็ขึ้นด้วยนาสังสิโม บางที่ก็ขึ้นด้วยสัมปะจิตฉามิ อย่างไหนถูกกันแน่คะ ?
ตอบ : อาตมาไม่ได้ยินด้วยตัวเอง แต่เขาบอกว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงบอกให้ตอนอยู่ที่บ้านสายลม แต่คราวนี้คาถาตัวนี้ไม่มีผลกับอาตมา เพราะว่าใช้มาก่อนอยู่แล้ว คือด้วยความที่เคยภาวนาว่าสัมปะฏิจฉามิ สัมปะจิตฉามิมาตลอด พอถึงเวลาตัวคาถาเงินล้าน สัมปะฏิจฉามิก็ต้องต่อด้วยสัมปจิตฉามิเป็นปกติ กลายเป็นว่าใส่ลงไปก่อนที่หลวงพ่อท่านจะบอก ในเมื่อใส่ไปก่อน สัมปะจิตฉามิของอาตมาก็เลยอยู่ข้างใน ไม่เคยไปอยู่ข้างหน้า

อาจจะเป็นเพราะว่าอาตมารีบใส่ก่อนก็เลยรวยก่อนกระมัง ? คือช่วงที่หลวงพ่อให้ทำคาถาอภิญญา ภาวนาจนชิน พอถึงเวลาก็เลยใส่ลงไปโดยอัตโนมัติ พอใส่ลงไปอัตโนมัติก็ใช้จนชินแล้วก็ไปเรื่อยเปื่อย ปรากฏว่าพอตอนหลังเห็นเพื่อนคนอื่นเขาใส่ ซึ่งโดยธรรมเนียมของหลวงพ่อ ท่านบอกว่าถ้ามาทีหลังให้อยู่ข้างหน้า ก็เลยเอาไปไว้หัว ก็เลยเป็นสัมปะจิตฉามิขึ้นหัว แต่ว่าอาตมาก็ยังคงขึ้น พรัหมมา จะ มหาเทวา อยู่เหมือนเดิม เพราะใส่ไว้ข้างในอยู่แล้ว มีนาสังสิโมห้อยท้ายไว้

เรื่องของคาถาอยู่ที่ความมั่นใจ ในเมื่อเรามั่นใจก็ใช้ไปเถอะ

เถรี
19-03-2020, 09:17
พระอาจารย์ให้พรผู้พิการทางสายตาที่มาถวายสังฆทานว่า “ขอให้พ้นทุกข์ไว ๆ มีพระนิพพานเป็นที่ไปกันทุกคนนะจ๊ะ”

เถรี
19-03-2020, 09:19
พระอาจารย์พูดถึงสินค้าชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุนว่า “ข้าวของที่เป็นงานฝีมือของชุมชนของเราขายไม่แพง โดยเฉพาะครั้งที่บอกว่าลงไป ๑๕ นาทีแล้วหมดนั่นเสื้อทอมือ เขาขายกันตัวละ ๔๐๐-๕๐๐ บาท อาตมาเห็นก็สะดุ้ง เฮ้ย...เขาขายกัน ๒,๐๐๐-๓,๐๐๐ บาท ทำไมขายกันอยู่แค่ ๔๐๐-๕๐๐ บาท ?

เขาบอกว่าเขาได้ค่าแรงแล้ว อาตมาก็กลืนน้ำลายเอื๊อก...! เขาลืมไปว่าหลวงพ่อซื้อด้ายไปให้เขาไปตั้งหลายหมื่นบาท เขาคิดแค่ค่าแรงของเขาเท่านั้น เขาไม่มีต้นทุน เพราะด้ายเป็นของหลวงพ่อ อาตมาเองก็น้ำตาจิไหล...! ขายของเอาแค่ค่าแรงพอ ไม่ได้นึกถึงค่าด้ายที่อาตมาให้ไปเลย

พวกของชุมชนมีเสน่ห์ตรงความเป็นธรรมชาตินี่แหละ”

เถรี
19-03-2020, 09:21
“อาตมาพยายามสนับสนุนเรื่องงานฝีมือชาวบ้าน เพราะว่าถ้าเรามีตลาดให้เขา ชาวบ้านมีที่จำหน่ายได้เขาก็จะทำ ถ้าเขาทำแล้วไม่มีตลาดให้ขาย ก็ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม คราวนี้หลายท่านก็ไม่มีทุน ไม่มีเครื่องมือ อาตมาก็ต้องลงทุนซื้อพวกเครื่องทอผ้า อุปกรณ์ต่าง ๆ ไปให้เขา แล้วก็ยังต้องให้คณะที่เต็มใจ สละเวลาไปสอนวิธีทอผ้าให้เขา แล้วยังต้องช่วยกันออกแบบลาย

งานชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุนที่ขึ้นมาเป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบ ชุมชนคุณธรรมต้นแบบที่มีผลงานโดดเด่น เกิดจากบารมีหลวงปู่สาย เพราะว่าบรรดาคณะทำงานเป็นลูกศิษย์หลวงปู่สาย วัดท่าขนุน ทั้งหมด ทีนี้พออาตมาไปเป็นเจ้าอาวาสก็เลยเบาแรงไปเยอะ มีหน้าที่อย่างเดียวก็คือ ทำอย่างไรถึงจะยกหลวงปู่ให้เด่นขึ้นมาได้ ถ้ายกหลวงปู่ให้เด่นขึ้นมา เขาก็จะไม่รู้สึกว่าหลวงปู่ไม่อยู่ เพราะฉะนั้น..ทุกวันนี้เข้าศาลาเมื่อไร เขาก็ตรงดิ่งไปกราบหลวงปู่ได้เลย อาตมาสร้างเรือนไทยตรีมุขตั้งสังขารท่านไว้ในศาลา”

เถรี
20-03-2020, 09:34
ถาม : หนูฝึกมโนมยิทธิมา ครั้งแรกขอเครื่องยืนยันแล้วได้ ครั้งที่สองขอแล้วไม่ได้ เป็นเพราะอะไร แล้วหนูต้องแก้ไขตรงไหนคะ ?
ตอบ : มโนมยิทธิเขาให้เชื่ออารมณ์แรกแล้วอย่าขี้สงสัย จะขี้สงสัยได้ต้องคล่องตัวพอแล้ว ไม่อย่างนั้นถึงเวลาแล้วกำลังใจของเราจะไม่นิ่ง พอไม่นิ่งก็จะพลาด

ถาม : มีคนพาหนูไปฝึกสมาธิ เป็นครั้งแรกที่เห็นพระพุทธเจ้า (เป็นภาพแบบพระพุทธรูป) ได้ด้วยจิต ไม่ใช่แค่การคิด แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้วค่ะ หนูควรทำอย่างไรต่อดี ?
ตอบ : เลิกอยาก...อยากเป็นอย่างนั้นเมื่อไร กำลังใจไม่มั่นคงก็เข้าถึงไม่ได้ คือบางส่วนเป็นความอยากแต่เราไม่รู้ ให้สังเกตว่าถึงเวลาเราทำแล้วต้องการแบบนั้นอีก นั่นคืออยาก ถ้าอยากใจจะฟุ้งซ่าน ไม่นิ่ง เหมือนน้ำกระเพื่อม พอน้ำกระเพื่อม สะท้อนเงาอะไรก็เบลอ ๆ

หลายท่านก็อยาก แล้วสงสัยว่าถ้าไม่อยากแล้วจะทำไปทำไม ? อยากได้..ไม่ห้าม แต่ตอนปฏิบัติต้องลืมความอยากให้ได้ แค่นั้นแหละ

เถรี
20-03-2020, 10:01
ถาม : หนูหายใจไม่เต็มปอดบ่อย ๆ หมอบอกเป็นอาการเครียดไม่รู้ตัว หนูตามลมหายใจไม่ได้ หนูเลยแยกไม่ออกว่าเป็นเพราะหนูป่วยหรือเพราะจิตฟุ้งซ่าน ควรแก้ไขอย่างไรคะ ?
ตอบ : เรื่องของสมาธิอยู่ที่ลมหายใจของเรา จะยาวจะสั้นไม่ใช่สาระ หายใจเข้ายาวรู้ว่าหายใจเข้ายาว หายใจออกยาวรู้ว่าหายใจออกยาว หายใจเข้าสั้นรู้ว่าหายใจเข้าสั้น หายใจออกสั้นรู้ว่าหายใจออกสั้น รู้ตามธรรมชาติของลมหายใจที่เป็นอยู่ จะสั้นจะยาวอย่างไรก็เรื่องของลม เรามีหน้าที่แค่รู้

ถาม : ถ้ารู้สึกอึดอัดล่ะคะ ?
ตอบ : ถ้ารู้สึกว่าอึดอัดก่อนที่จะนั่งภาวนา ก็หายใจยาว ๆ สัก ๔ -๕ ครั้งระบายลมหยาบทิ้งไปก่อน แล้วก็ปล่อยให้เป็นธรรมชาติ ค่อย ๆ ตามดูไป

ถาม : หนูเข้าใจมาตลอดว่า..."เครียด = ตั้งใจ" เลยเดินสายกลางไม่เป็น เวลาปฏิบัติเลยเครียด ควรแก้ไขอย่างไรคะ?
ตอบ : ถ้าหากว่าจะแก้ เรามีหน้าที่ปฏิบัติ จะได้หรือไม่ได้ช่างมัน ทำกำลังใจไว้อย่างนี้ จะได้ไม่ต้องไปเครียด คือถ้าได้ก็กำไร ถ้าไม่ได้ก็เท่าทุน ไม่มีขาดทุน

เถรี
20-03-2020, 10:04
ถาม : หนูสู้ทิฐิตัวเองไม่ได้ค่ะ ชอบคิดว่าตัวเองดีกว่าชาวบ้านตลอด ด่าตัวเองอย่างไรก็ไม่สำนึก พยายามเจียมตัวก็ไม่ได้ ต้องแก้ไขอย่างไรคะ ?
ตอบ : ค่อย ๆ ละไปทีละน้อย เรื่องของสักกายทิฐิ หรือมานะถือตัวถือตน เป็นสังโยชน์คือกิเลสใหญ่มาก ระดับพลเอกประมาณว่ายืมนาฬิกาเพื่อนได้ที ๒๐ กว่าเรือนอะไรอย่างนั้น..!

ในเมื่อกิเลสใหญ่ขนาดนั้น เราต้องค่อย ๆ ละไป แรก ๆ พอรู้ตัวก็พยายามหักห้ามใจตัวเองก่อน ว่าเราเองจะถือทิฐิถือมานะขนาดไหน หรือว่าไม่ถือทิฐิไม่ถือมานะขนาดไหน ท้ายสุดตายเหมือนกันหมด พยายามสรุปลงตรงนี้ แล้วจะค่อย ๆ ลดลงไป คือเจ้า ๑๐ ตัวนี้ ถ้าตัดขาดก็คือจบเลย

เถรี
20-03-2020, 10:15
ในเรื่องของคำถาม ควรจะเป็นลักษณะอย่างนี้ คือเราทำแล้วติดขัดตรงไหน ก็มาถาม จะได้แก้ไขตรงจุดนั้นได้ หลายคนถามฟุ้งซ่านไปเรื่อย

วันก่อนท่านเจก็มาถามว่าออกไปธุดงค์ ไปเจอชาวบ้านเอาก้อนแร่บางอย่างมา เอาตะปูวางลงไปพักเดียว ตะปูป่นเป็นผงหมดเลย เรียกว่าแร่อะไร ? ถามแล้วได้ประโยชน์อะไรวะ ? แค่รู้ว่ามันคืออะไรขึ้นมาแค่นั้นเอง แล้วช่วยให้ละกิเลสได้ไหม ? ส่งคำถามมาเป็นหน้ากระดาษ หลวงพ่อขยำทิ้งลงถังขยะไปเลย ไม่ได้ตอบสักข้อหนึ่ง ตอบไปแล้วกูเหนื่อย แล้วไม่ได้อะไรเลย..!

เถรี
20-03-2020, 10:17
เอาอะไรที่เป็นอรรถเป็นธรรมบ้าง เวลามีน้อย คำว่า เวลามีน้อยก็คือ ชีวิตนี้ของเรามีน้อย ตายลงไปเมื่อไรก็ไม่รู้ จะไปรู้เรื่องนอกทุ่งนอกท่า รู้แล้วไม่ช่วยในการละกิเลส เกิดตายแล้วลงอบายภูมิ ก็ขาดทุนอีก ภาษาโบราณเรียกว่า เสียชาติเกิด เกิดมาชาติหนึ่งแล้วเอาดีไม่ได้

อาตมาถือว่าโชคดี ดีมาก ๆ เลย ตรงที่ว่าตั้งแต่เด็กลุยเอาไว้เยอะ ข้อสงสัยอะไรทุกอย่าง ได้รับการพิสูจน์ทราบแล้ว ไม่ว่าจากการค้นคว้าตำรา สอบถามครูบาอาจารย์ หรือผ่านการปฏิบัติมาด้วยตนเอง ฉะนั้น..พอบวชเข้ามาก็มุ่งตรงอย่างเดียว ถ้าไม่มีเวลาระยะที่ยาวนานตั้งแต่สมัยเด็กมา คาดว่าก็คงเสียเวลามานั่งถามโน่นถามนี่เหมือนกัน คราวนี้โยมบางคนถาม อาตมาเสียดายเวลาแทน เดี๋ยวออกไปเจอคนจามใส่หน้าพอดี อีก ๑๔ วันตาย...! แล้วจะไปถามอะไรอีก ฉะนั้น..รีบ ๆ ทำจุดที่ตัวเองติดไว้ ต้องผ่านไปให้ได้ภายใน ๑๔ วัน..!

เถรี
20-03-2020, 23:18
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของเด็ก ถ้าเรานำเขาเข้าทางธรรมได้เร็วเท่าไร ก็เป็นประโยชน์แก่เขามากเท่านั้น อาตมาถือว่าโชคดี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ทุกอย่างเอื้อต่อการปฏิบัติธรรมตั้งแต่รู้ภาษา เริ่มรู้ภาษาเพิ่งจะขวบกว่าสองขวบ พ่อก็อุ้มพาดบ่าคอพับคออ่อนสวดมนต์อยู่ทุกวัน หลับบ้างตื่นบ้าง จำได้หมดว่าพ่อสวดอะไร ถึงเวลาไปโรงเรียนเมื่อนำสวดมนต์ได้ ครูจึงให้เป็นหัวหน้าชั้น

พอไปเรียน สมัยนั้นยังหยุดวันโกนวันพระอีก ในเมื่อหยุดวันโกนวันพระ ถึงเวลาวันโกนครึ่งวัน ครูก็ให้เลิกเรียน พาไปวัด ช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดวัด ล้างถ้วยล้างจาน ถูศาลา อาตมาหลับทุกวัน ทำงานเสร็จแล้วหลับ

บรรยากาศวัดน่านอนมาก โดยเฉพาะกระดานเวลาถูลื่น ๆ นี่เย็นอย่าบอกใคร เลื้อยลงไปได้ ลมโกรกมาก็หลับ ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นเรื่องสมาธิ รู้อยู่อย่างเดียวว่าบรรยากาศเอื้อให้นอน แต่ความจริงบรรยากาศเอื้อเฟื้อให้ฝึกสมาธิ เรียกว่าเป็นสัปปายสถาน คือสถานที่เหมาะสม"

เถรี
20-03-2020, 23:21
"ถึงเวลาวันพระ แม่ทำกับข้าวใส่ปิ่นโต ให้พี่สาวเอาไปทำบุญที่วัด คราวนี้สมัยก่อนผู้หญิงออกจากบ้าน ถ้าไม่ไปกับพ่อแม่พี่น้องตัวเอง เขาก็ไม่ให้ไป อาตมาก็ต้องตามพี่สาวไปวัด ไม่ได้ไปเป็นผู้คุมพี่สาวอย่างที่แม่หวังหรอก ถึงเวลาหนุ่มเขาก็ซื้อไก่ปิ้งให้ ๑ ไม้ "เอ้า..ไอ้หนูไปกินไกล ๆ ทางโน้น" ไปนั่งแทะไก่ย่างอยู่ไกลลิบ ทางนี้เขาจีบอะไรกันก็ไม่รู้ ดังนั้น..ไม่มีประโยชน์อะไรให้อาตมาไปกับพี่สาว หนุ่ม ๆ เขารู้วิธีจัดการกับตัวเกะกะ

ดังนั้น...ในเมื่ออยู่ในสถานที่เอื้ออำนวย แล้วก็ชอบด้วย ก็เลยปฏิบัติได้ก้าวหน้า หลวงปู่หลวงพ่อสมัยนั้น พอขึ้นไปเป็นระดับเจ้าอาวาสต้องมีดี ในเมื่อมีดีเป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้ ใครที่ดีกว่าดังกว่าก็จะมีชื่อเสียง ที่ไม่ดีไม่ดังในความรู้สึกของคนทั่ว ๆ ไปก็ยังพึ่งได้ทุกรูป เพราะว่าสมัยโน้นเขาบังคับเรียน ไม่ว่าจะเป็นอักขระเลขยันต์ เวทมนต์คาถาอะไร อย่างน้อยชาวบ้านเดือนร้อนมาต้องเป็นที่พึ่งของเขาได้"

เถรี
20-03-2020, 23:24
"คราวนี้พอเห็นเรื่องของอิทธิฤทธิ์ เรื่องของพุทธานุภาพ จิตตานุภาพอะไรต่าง ๆ ตั้งแต่เด็ก ก็เห็นว่าเป็นเรื่องปกติ ทำได้ทุกคน ในเมื่อรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ ถึงเวลาปฏิบัติก็ไม่ได้รู้สึกว่ายาก แต่อย่างสมัยนี้ของเราสิ่งแวดล้อมไม่ให้ โอกาสที่จะเอื้อให้เราเข้าวัดก็ไม่มี ขณะเดียวกันหลวงปู่หลวงพ่อที่เป็นนักปฏิบัติในเมืองท่านก็ไม่อยู่กัน ส่วนใหญ่ท่านไปอยู่ปฏิบัติในป่า จะไปทำอะไรให้เราเห็นได้ สมัยอาตมาเด็ก ๆ วัดก็คือป่า เพราะว่าส่วนใหญ่ตั้งอยู่ชายป่าท้ายหมู่บ้าน เผลอ ๆ เสือจะลากไปกินเอา แล้วท่านเองก็ยังรู้สึกว่าไม่พอ ไปปฏิบัติในป่าช้าอีก

บางทีผู้ใหญ่เขาบอกว่า "ไอ้หนู..ไปตามหลวงพ่อให้ที น้ามีเรื่องด่วน" น้าไปเองไม่ได้หรือ..?! หลวงพ่อท่านอยู่ในป่าช้า คราวนี้สถานการณ์เอื้ออำนวย แล้วท่านก็ปฏิบัติ บางทีก็หลุด อย่างบางคืนชาวบ้านเห็นไฟลุกท่วมโบสถ์เลย คว้าถังวิ่งไปตักน้ำจะไปดับไฟ หลวงพ่อท่านเปิดโบสถ์มาถามว่า "พวกเอ็งทำอะไรกันวะ ?" บอกว่าเห็นไฟไหม้โบสถ์ ท่านบอกว่า "มึงตาฝาด..!" ท่านเพ่งกสิณแล้วขยายเป็นปฏิภาคนิมิต พวกเราเห็นเป็นไฟลุกท่วมโบสถ์ นั่นคือพระที่ไม่ดังนะ..ลองคิดดูว่าพระที่ดังท่านจะขนาดไหน ?"

เถรี
20-03-2020, 23:25
"สมัยที่อาตมายังเด็ก ๆ ทางบ้านต้องยกให้หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นที่ ๑ ช่วงนั้น แล้วก็หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว สองท่านนี้ดังแทบจะกลบท่านอื่นหมด หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม ถือว่าดัง แต่ว่ายังสู้สองท่านนี้ไม่ได้ คิดดูแล้วกันว่าระดับที่สู้ไม่ได้ สมัยนี้ยังมีชื่อเสียงดังคับประเทศทั้งนั้น อาตมาอยู่ในสิ่งแวดล้อมอย่างนั้น รอบบ้านมีแต่สุดยอดฝีมือในยุทธจักร"

เถรี
21-03-2020, 14:05
ถาม : ถ้าผมโพสต์ในเฟซบุ๊กว่า ตั้งรับพระสมเด็จพลิกชีวิต องค์ทองคำสี่หมื่นบาท หลวงพ่อว่าจะได้ไหมครับ ?
ตอบ : แล้วแต่ความอยาก ถ้าอยากมากก็ได้ ความจริงถ้าหลวงพ่อมีสตางค์จะกว้านขึ้นมาเอง แล้วก็ไปปล่อยต่อสัก ๓๕,๐๐๐ บาท เอาให้รวยอื้อเลย

อาตมาบูชาวัตถุมงคลอย่างมีสติ ในเมื่อเหรียญทองราคาแพงเราก็ไปเอาเหรียญเงิน ถ้าเหรียญเงินแพงเดี๋ยวก็ไปเอาทองทิพย์ ทองแดงนอก หรือทองเหลืองก็ได้ อานุภาพเหมือนกัน

ถาม : ปล่อยวันนี้เลยไม่ได้หรือครับ ?
ตอบ : ไม่ได้...เพราะว่าวันเป่ายันต์ฯ ไม่มีอะไรให้เขา

ถาม : จ่ายเงินไว้ก่อนไม่ได้หรือครับ ?
ตอบ : ยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย เพราะว่าถ้าจ่ายแล้วก็แล้วกัน

เถรี
21-03-2020, 14:11
พระอาจารย์กล่าวว่า "อย่าไปเชื่อใครว่าทำบุญแล้วต่อราคาไม่ได้ แล้วอย่าไปเชื่อใครว่าทำบุญต้องของแพงเท่านั้น ของดีของประณีตจัดว่าเป็นสามีทานก็จริง แต่ถ้าในสิ่งที่ไม่มีความจำเป็น เช่น การหลอมผางประทีป คุณจะใช้เศษเทียนหรือจะใช้เทียนแผ่น หลอมออกมาหน้าตาเหมือนกันทุกประการ เศษเทียนประหยัดได้ตั้ง ๓ เท่า

เราศึกษาพระไตรปิฎกจะเห็นชัดว่า เกือบทุกหมวดของธรรมะ พระพุทธเจ้าจะแทรกปัญญาไว้เสมอ เพราะฉะนั้น..การทำความดีต้องทำแบบคนมีปัญญาด้วย พูดง่าย ๆ ว่าใช้เงินให้เป็น ใช้เงินไม่เป็นก็ได้ของแพงโดยใช่เหตุ

อย่างอาตมาสร้างวัตถุมงคล ส่วนใหญ่เวลาสร้างทางร้านค้าเขาจะให้ส่วนเกินมาทุกรุ่น อย่างเช่น ร้อยละ ๓ ร้อยละ ๕ บางร้านใจดีก็ให้ร้อยละ ๑๐ เลย คราวนี้ถ้าใครไปติดต่อส่วนเกินมา อาตมาก็ถือว่าเป็นค่าดำเนินการ แต่ถ้าใครเอามากเกิน อาตมาก็เลิกคบ เพราะฉะนั้นเรื่องบางเรื่องต้องดูความพอเหมาะ พอดี พอควร โดยใช้ปัญญาไตร่ตรองเสียก่อน ไม่ใช่ว่ามีสตางค์เราก็จะทำ"

เถรี
21-03-2020, 14:17
พระอาจารย์กล่าวว่า "เขาออกกันแบบไม่เกรงใจเลย เนื้อทองคำองค์ละ ๑๐๐,๙๐๐ บาท เนื้อเงินองค์ละ ๕,๐๐๐ บาท เมื่อเช้านี้เนื้อทองคำของเราออก ๓๐,๐๐๐ บาท ตอนนี้ออกแสนกว่า เนื้อเงินออกไปพันห้า เขาแค่กลับตัวเลขเป็น ๕,๐๐๐ ลงไปแสนกว่าก็มีคนบูชาไปแล้ว"

ถาม : พลิกชีวิตก็ตอนนี้ ?
ตอบ : อันดับแรกคงพลิกให้คนขายก่อน เราพยายามออกให้ต่ำที่สุดเพื่อให้คนจับต้องได้ เขาก็เอาไปขายให้แพงที่สุด..!

เขาใช้เวลามาบูชาจากที่นี่ไม่กี่นาที กลับไปบวกราคา ๙๐,๙๐๐ บาท บวกนะ...ไม่ได้คิดต้นทุน ต้นทุนคิดไปเรียบร้อยแล้ว ก็เลยกลายเป็นเหรียญละแสนกว่าบาท ในมุมของเรานี่ให้ราคาถูกที่สุด โยมจะได้เฉลี่ยไปให้มากที่สุด มีโอกาสเข้าถึง แต่ในมุมของโยม ราคาถูกเท่าไร เขาก็ได้กำไรมากเท่านั้น

ทำไมเขาไม่อดใจหน่อย ไปเอาในงานตอนปลายเดือนนี้ เหรียญละ ๓๐๐ บาทเอง ไม่ต้องไปจ่ายตั้งแสนกว่าบาท

เถรี
21-03-2020, 14:29
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของการบริจาคเงินเพื่อซื้อเม็ดเงินหรือการนำเม็ดเงินมาบริจาคโดยตรง รับเฉพาะเดือนนี้เท่านั้น เพราะว่าถ้ายิ่งช้าเดี๋ยวของยิ่งขึ้นราคา ฉะนั้น..จะต้องซื้อหาหรือทำให้เสร็จให้เร็วที่สุด เดือนถัด ๆ ไปไม่ต้องเอามาบริจาคอีก เพราะว่าถึงจะบริจาคก็คงจะสร้างพระเสร็จไปแล้ว"

เถรี
21-03-2020, 14:37
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของผีน้อย คือพวกที่หลบหนีเข้าเมืองไปทำงานที่เกาหลีโดยผิดกฎหมาย กลับมาแล้วไม่ยอมกักตัวเองเพื่อดูอาการของโรค ไปเที่ยวที่นั่น ไปกินที่นี่ ต้องบอกว่าถ้าไม่มีมาตรการที่เด็ดขาด ก็ไม่มีทางจัดการกับคนเหล่านี้ได้

เหตุเพราะว่ากฎหมายเกาหลีเขายังไม่แยแส หนีเข้าเมืองไปเพื่อไปทำงาน กฎหมายไทยเราที่อ่อนปวกเปียกยิ่งกว่าตาแก่อายุ ๙๐ นี่ไม่ต้องคิดถึงเลย คนเหล่านี้ถ้าเคารพกฎเกณฑ์กติกา มีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม เขาก็จะไม่ไปเป็นผีน้อยอย่างนั้น จะอ้างว่าลำบาก ทำมาหากินในเมืองไทยของเราแล้วไปไม่รอด ก็ไปแหกกฎหมายเกาหลีเขาอยู่ดี ในเมื่อกฎหมายเกาหลีก็แหกมาแล้ว กฎหมายไทยนี้เรื่องเล็ก

เราเองเพิ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ไม่กี่วัน ข่าวคราวยังไม่ได้กว้างขวางพอที่คนทั่วไปจะรู้ว่าจะโดนลงโทษอย่างไร เขาก็เลยแหกคอกกันปกติ ส่วนบางคนที่รู้สำนึกกักตัวเอง นั่นไม่ใช่ว่าเพราะมีจิตสาธารณะ แต่กลัวว่าคนใกล้ชิดอย่างลูกเมียครอบครัวตัวเองจะเดือดร้อน ต้องบอกว่าอย่างน้อยก็ยังมีจิตสำนึกห่วงครอบครัวตัวเองอยู่บ้าง"

เถรี
21-03-2020, 14:41
พระอาจารย์กล่าวว่า "ให้ทุกคนรอว่างานเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งนี้ จะขออะไรพระท่านได้มากกว่าเดิมหรือเปล่า ? ถ้าขอได้มากกว่าเดิม เรื่องอะไรที่ไม่ดี ๆ น่าจะบรรเทาลงไปได้ระดับหนึ่ง แต่ระยะนี้ก็เอาหลวงปู่หลวงพ่อปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไปหลายรูปติด ๆ กัน จะว่าไปแล้วแต่ละท่านก็ ๙๐ กว่าทั้งนั้น มีอยู่ท่านหนึ่งอายุ ๑๐๐ ปีพอดี อยู่ในเกณฑ์ที่ว่า ไข้ก็ตาย บ่ไข้ก็ตายแล

เกรงอยู่อย่างเดียวว่านิสิตนักศึกษาจะหลงกลปฏิบัติการจิตวิทยา แล้วก็ออกไปแสดงพลังบนท้องถนน เนื่องจากว่าส่วนหนึ่งของรัฐบาลมีพวกโง่แล้วขยัน ถึงเวลาก็ไปพูดในลักษณะแหย่รังแตน คือพวกเกิดมาไม่ทันที่จะเห็นพลังนิสิตนักศึกษา ต้องบอกว่ายังไม่รู้ว่าเวลาคนเรารวมตัวกันขึ้นมาแล้วน่ากลัวขนาดไหน

รัฐบาลเผด็จการที่มีอำนาจเต็มมือ คุมคนทั้งประเทศได้ อย่างจอมพลถนอม จอมพลประภาส พันเอกณรงค์ อยู่ไม่ได้ คนรุ่นนี้ไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร เพราะว่ายุคนั้นเขามีมาตรา ๑๗ ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีสั่งยิงทิ้งได้เลย สมัยนั้นถ้าบอกว่า ม. ๑๗ ทุกคนหัวหดหมด แต่พอไปกดดันเข้าจริง ๆ พลังนิสิตนักศึกษาก็ประทุออกมาจนได้"

เถรี
21-03-2020, 14:43
"เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเหตุ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ หรือว่า ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ หรือพฤษภาคม ๒๕๓๕ ก็ดี เป็นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรจะให้เกิดซ้ำอีก เพราะว่าเราไม่มีผู้มีบารมีระดับในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งทั้ง ๓ เหตุการณ์นั้น ถ้าไม่มีพระองค์ท่านออกมาห้ามทัพไว้ เลือดจะนองเป็นท้องธารมากกว่านั้น

ตอนนี้อยู่ในสภาวะที่คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่เผชิญหน้ากัน โดยมีความคิดว่าอีกฝ่ายหนึ่งโง่ เชื่อแต่แนวความคิดโง่ ๆ ในเมื่อผู้ใหญ่เห็นเด็กโง่ เด็กเห็นผู้ใหญ่โง่ ก็แปลว่าไปกันไม่ได้ ความเชื่อมั่นไปคนละแนว ถ้าเป็นการปะทะสังสรรค์ทางความคิด เป็นวิวาทะทางวิชาการก็แล้วไป แต่ถ้าเป็นม็อบกลางถนนนี่จะน่ากลัวมาก

๒๕๓๕ ก็ไม่ได้นานเกินไป ยังไม่ถึง ๓๐ ปี แค่ ๒๘ ปี ตอนนั้นเขามีม็อบมือถือ ขี่มอเตอร์ไซค์ ติดต่อกันด้วยโทรศัพท์มือถือ ทุบทำลายและเผาสถานที่ตามแต่จะมีคำสั่งชี้เป้าให้ทางโทรศัพท์ สมัยนี้น่ากลัวกว่านั้นอีก เพราะว่าเริ่มเข้าสู่ยุค ๕G แล้ว คำสั่งอาจจะมาถึงแบบไม่มีร่องไม่มีรอยแบบสมัยก่อนก็ได้

สุภาษิตจีนเขาบอกว่า น้ำรองรับเรือได้ ก็ล่มเรือได้ ในเมื่อประชาชนหนุนให้เป็นรัฐบาล ถ้าหากว่าทำแล้วไม่ถูกใจก็มีสิทธิ์ที่จะล้มรัฐบาลได้ ปล่อยให้นายกฯ ท่านแก้ไขปัญหาของท่านไปเถอะ วันนี้ท่านก็เครียดพอแล้ว อย่าไปซ้ำเติมท่านอีกเลย"

เถรี
22-03-2020, 09:17
พูดถึงเด็กซน อยู่ไม่นิ่ง "เขาเรียก Hyper Active เกิดจากการที่พ่อแม่กินสารบำรุงมากเกินไป พอกินสารพัดของบำรุงลงไปก็ไปอยู่ที่ตัวเด็ก คราวนี้สติสมาธิของเด็กมีอยู่แค่นั้น ไม่ได้เป็นไปตามพลังงาน ก็แสดงออกในลักษณะของพลังงานล้นเกิน กลายเป็นโรค Hyper Active ต้องจับไปเล่นกีฬา รุ่นของอาตมานี่ถ้าจะ Hyper Active ได้จริง ๆ ต้องเป็นโดยสันดานข้ามชาติมา เพราะว่ารุ่นนั้นสารบำรุงไม่มี มีแต่กล้วยขูด มีแต่ข้าวย้ำ"

ถาม : บางทีเขาก็กรี๊ด ?
ตอบ : ธรรมดา..กรี๊ดก็ไม้เรียว

ถาม : เขาไม่กลัว ?
ตอบ : ตีเข้าไป อาตมาตีอยู่ครึ่งชั่วโมง ร้องไห้จนหมดเรี่ยวหมดแรง คราวหน้าได้ยินเสียงเขาเงียบสนิท ไม่กล้าร้องเลย อยู่ที่เราว่าโหดพอไหม ? ประเภทตีไปแม่ร้องไห้ไป แล้วเด็กที่ไหนจะกลัว ?

เถรี
22-03-2020, 09:33
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของไวรัส COVID-๑๙ ต้องบอกว่าดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาทเป็นดีที่สุด เพราะว่าถ้าพวกเราประมาท ไม่ได้ตายด้วยไวรัสก็จะไปตายในเรื่องอื่น เพราะฉะนั้น..วิธีปลอดภัยที่สุดก็คือ อย่าประมาท

หลวงพ่อพระพรหมบัณฑิต รักษาการเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ท่านบอกว่า "เวลานั่งรถ เห็นคนขับรถพนมมือ ท่องนั่นท่องนี่ เออ...สบายใจอย่างน้อยเขาก็ไม่ประมาท" ฟังท่านแล้วก็ขำดี อย่าให้ท่านได้บรรยาย เผลอเมื่อไรก็หมดเป็นชั่วโมง..!

เถรี
22-03-2020, 09:41
พระอาจารย์กล่าวว่า "ที่เมืองจีนทำดีมาก ไฟไหม้บ้านทั้งหลังเลย เพราะอะไรรู้ไหม ? ให้เขาไปฉีดแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ แล้วดันไปเปิดสวิตช์ไฟ ก็คงน่าจะเห็นว่าบ้านมืดเลยเปิดให้สว่างหน่อย แต่เขาฉีดแอลกอฮอล์ไปแล้ว จึงระเบิดทั้งหลังเลย แต่อันนั้นต้องบอกว่าเชื้อโรคตายจริง ๆ คือตายแน่นอน..!

พวกเราทั่ว ๆ ไปไม่ค่อยเข้าใจว่า การเปิดสวิตช์ไฟแต่ละครั้งจะมีประกายไฟเกิดขึ้น แต่คราวนี้เรามองไม่เห็น เพราะว่าอยู่ข้างใน ซ่อนอยู่หลังตัวกด แอลกอฮอล์พ่นฟุ้งอยู่ พอไฟแวบก็ติดพรึ่บเลย"

เถรี
22-03-2020, 10:23
พระอาจารย์กล่าวว่า "เบี้ยแก้ไม่ได้รักษา แต่ช่วยกัน เพียงแต่ว่าควรจะเป็นรุ่นเก่า ๆ ที่เป็นพวกปรอทป่า เพราะปรอทป่ามีอำนาจกันพวกเชื้อโรคหรือพวกไข้ต่าง ๆ ไม่ให้เข้ามาในบริเวณที่เขาแผ่พลังไปถึง

ด้วยความที่อาตมาเอาความมั่นใจไว้ก่อน ก็เลยเล่นตัวครูใหญ่เท่ากำปั้น สมัยก่อนหลวงปู่เจือให้ตัวครูมา ตัวครูนี้ก็เหมือนกับสืบทอดวิชาการได้ แต่คราวนี้ว่าของหลวงปู่เจือมีคนขอบูชาต่อไป ท้ายสุดก็เลยต้องไปเอาของหลวงปู่บุญมา ยอมจ่ายแพงหน่อย ที่จำหน่ายถูกที่สุดก็ ๖๐,๐๐๐ บาท..!"

เถรี
22-03-2020, 22:48
พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าเราหาเบี้ยแก้ที่บรรจุปรอทป่าเพื่อมากันเชื้อไวรัสไม่ได้ เพราะว่าปัจจุบันนี้ของรุ่นเก่าที่บรรจุปรอทป่าราคาหลายหมื่น เราก็หาแมลงภู่คำ แต่ต้องหาแบบบรรจุปรอทนะ อย่าไปหาแบบที่บรรจุเข็มทอง

แมลงภู่คำมี ๒ สาย สายหนึ่งบรรจุเข็มทอง อีกสายบรรจุปรอทป่า พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นของทางพม่า เขาใช้ปรอทป่ากัน ของพม่าเขาจะไม่ใช้ปรอทวิทยาศาสตร์ เพราะว่าเขาเรียนมาเรื่องนี้โดยตรง เขาจะไปดักปรอทกันเอง

สมัยก่อนท่านอาจารย์โมเช่ก็สอนอาตมาให้ดัก ที่ขำ ๆ คือปรอทเหมือนกับมีชีวิตจริง ๆ พอถึงเวลาเราต้องเอากระจกพาดปากหม้อดินที่เราล่อให้ปรอทลง ปรอทจะลอยมาเป็นแสง พอลงเกาะ ก็ลื่นกระจกไหลลงหม้อไป คราวนี้พอลงถึงก้นหม้อก็ขึ้นไม่ได้แล้ว เพราะว่าก้นหม้อเขาใส่ว่านพวกที่ฆ่าฤทธิ์ปรอทเอาไว้

ส่วนท่านชาติชายก็ไปเล่นกับปรอท “หลวงพี่ ๆ ลองดูสิ” เอานิ้วจิ้ม คือจะรู้สึกว่ามีพลังต้านอยู่ เวลาเราจิ้มลงไปเหมือนกับมีอะไรบาง ๆ ชั้นหนึ่งเป็นพลังงานกั้นอยู่ ตอนแรกอาตมาก็ไม่เชื่อว่าปรอทมีพลังงาน ท่านชาติชายไปนั่งอมยิ้มเล่นอยู่ได้เป็นวัน ถามว่าเอ็งทำอะไรวะ ? ท่านก็บอกว่า "หลวงพี่..ลองเอานิ้วจิ้มลงไปในหม้อสิ" อาตมาเอานิ้วจิ้มลงไปในหม้อดิน เออ..มีกำลังต้าน อากาศจะแน่นกว่าที่อื่น

ลองหาดู...ถ้าพวกแมลงภู่คำที่เป็นงาช้างกำจัดราคาแพง ก็หาพวกที่เป็นไม้ แต่ว่าเขย่าดูก่อนนะ ถ้าหากว่าดังขลุก ๆ ก็จะเป็นพวกปรอท ถ้าดังกริ๊ก ๆ ก็จะเป็นพวกเข็มทอง"

เถรี
22-03-2020, 22:51
ถาม : เบี้ยแก้ของหลวงพ่อคำละคะ ?
ตอบ : ของหลวงพ่อคำนี่ได้เลย เพราะว่าหลวงพ่อคำท่านเรียกปรอทมาเลย ให้ไต่ใบหญ้าคาเข้าไปในหอย แต่เบี้ยแก้ของหลวงพ่อคำก็ราคาแพง พลังที่ปรอทป่าแผ่ออกมานั่น กันพวกเชื้อโรคพวกอะไรได้

ถาม : ระยะที่เขากันได้แค่ไหนคะ ?
ตอบ : ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนมากน้อย อาตมาถึงได้บอกว่า เพื่อความปลอดภัยก็เล่นตัวครู โตเท่ากำปั้นไปเลย

เถรี
22-03-2020, 22:54
ถาม : เบี้ยของหลวงปู่บุญได้ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : รุ่นหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม ส่วนใหญ่เป็นปรอทป่า รุ่นหลัง ๆ อย่างหลวงปู่เจือนี่ประเภทไปเอาปรอทวิทยาศาสตร์มา คราวนี้รุ่นหลวงปู่เพิ่มระยะหลัง ๆ เวลาคนต้องการมากนี่เขาไปหาปรอทเอง บางทีก็ไปเอาปรอทวิทยาศาสตร์มาเหมือนกัน

เพราะฉะนั้น..ถ้าหากดูของหลวงปู่เพิ่ม จะเอาให้แน่ ๆ ก็รุ่นที่เป็นยางไม้ หรือไม่ก็ลงรักแล้วมีสีแดง ๆ พวกนั้นจะเป็นรุ่นเก่า ถ้าที่ลงรักดำนี่ส่วนใหญ่เป็นรุ่นหลัง ๆ

ถาม : รักดำกับแดงต่างกันหรือคะ ?
ตอบ : รักจีนเข้ามาในเมืองไทยก่อน รักจีนนี่ถึงเวลาลงไปถ้าจาง ๆ ไม่หนามาก จะมีสีเหลือบแดง ส่วนรักไทยนี่ดำอย่างเดียวเลย

เถรี
22-03-2020, 22:58
ถาม : เหมือนกับพวกยางไม้ ?
ตอบ : ยางไม้ส่วนใหญ่จะเป็นสีเหลืองส้ม ๆ เพราะว่าส่วนใหญ่เป็นยางมะพลับ ก็คือลูกพลับนั่นแหละ ไปลองกินลูกพลับดิบดูสิ งับลงไปทีหนึ่งเกือบจะอ้าปากไม่ขึ้น ยางพลับจับแน่นไปหมด เด็ก ๆ สมัยก่อนประเภทเห็นอะไรก็อร่อยไปหมด เจอลูกพลับเขียวบ้างเหลืองบ้าง ก็คิดว่ากินได้แล้ว งับไปทีหนึ่งเข็ดทั้งนั้น..!

เถรี
22-03-2020, 23:17
ถาม : เบี้ยแก้ของหลวงตาเผือดละคะ ?
ตอบ : หลวงตาเผือด วัดมะกอก นี่ไม่ทันแล้ว หลวงตาเผือดนี่รุ่นหลังเลย แต่จริง ๆ หลวงตาท่านศึกษาวิชาการมานานนะ ก็น่าจะมีดักเก็บไว้บ้าง แต่คราวนี้ก็แยกยาก ต้องมานั่งจิ้มดูว่ามีพลังต้านนิ้วหรือเปล่า

ตอนแรกอาตมาไม่รู้เรื่องเลย ท่านชาติชายไปนั่งอมยิ้มจิ้มเล่นอยู่คนเดียว อาตมาก็ว่าเป็นบ้าอะไรวะ ? เล่นอยู่ได้เป็นวัน เขาบอกว่า หลวงพี่ลองมาทำดูสิ เออ...พอทำแล้วจริง ๆ ด้วย มีแรงต้านมือ นั่นขนาดลงไปอยู่ในหม้อสมุนไพร หมดฤทธิ์ที่จะหนีแล้วนะ ยังต้านมือสู้ได้อีก

เถรี
22-03-2020, 23:32
ถาม : ปรอทมีแต่ตัวรู้ อย่างนี้เขาไม่มีธาตุใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่มี...มีแต่วิญญาณ วิญญาณนี่คือประสาทความรู้สึก สามารถเคลื่อนที่ได้ กินอาหารได้ แต่ไม่มีธาตุรู้ ก็คือไม่มีจิตที่จะไปคิดไปทำอะไร อยู่ในระหว่างพัฒนาตัวเองจนกระทั่งจะกลายเป็นคน แต่ไม่รู้ว่าอีกกี่ล้านปี อย่างเช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ วิญญาณ ถ้ามาชนกันพอดีก็จะเกิดเป็นคนขึ้นมา คราวนี้สภาพอย่างนี้จะหมุนเวียนอยู่ในจักรวาลมานับปีไม่ถ้วน

ถามว่าดวงจิตเกิดใหม่ได้ไหม ? ถ้าธาตุประกอบครบก็เกิดได้ เพียงแต่ว่าเมื่อไรถึงจะได้เกิด ? ส่วนไอ้ที่เกิดอยู่แล้ว ที่เวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบอยู่นี่เกิดมานานแล้ว

เรื่องพวกนี้ถ้าอธิบายเป็นวิทยาศาสตร์ก็ฟังดูไม่ยาก แค่ธาตุต่าง ๆ หมุนวนไปเรื่อย ๆ พอไปชนอะไรเข้าก็แปรธาตุ แปรเป็นรูปไปตามเรื่องของเขา คราวนี้ว่าบางอย่างชนกันเกิดเป็นปรอทขึ้นมา ก็เคลื่อนที่ได้ ไปหากินได้ ฯลฯ

ถาม : ก็มีวิญญาณได้ ?
ตอบ : ก็คือวิญญาณ เป็นแค่ประสาทรับรู้ เหมือนกับพืชกินสัตว์ ถึงเวลารู้จักเคลื่อนที่ รู้จักหาอาหาร ไม่รู้ว่าต้องพัฒนาอีกนานเท่าไรกว่าจะเป็นคนขึ้นมาได้

เถรี
22-03-2020, 23:34
ถาม : แต่กิเลสก็ยังกินได้เหมือนเดิม ?
ตอบ : เกิดมาก็พร้อมกับกิเลสแล้ว ตอนแรกก็แค่หากินเท่านั้น แต่พอเริ่มเข้าสู่ความอุดมสมบูรณ์ก็จะเริ่มเลือกกิน แล้วตอนเลือกกินนี่แหละ กิเลสเกิดแล้ว

เถรี
22-03-2020, 23:37
ใครเอาปรอทเข้าร้านทอง เจ้าของร้านรู้นี่ทุบตายเลยนะ ของอาตมาเองตอนแรกไม่รู้ พกเบี้ยแก้หลวงพ่อคำกับหลวงพ่อนุ่มอยู่ ๒ ตัว ที่ไม่พกหลวงปู่เพิ่ม หลวงปู่บุญ เพราะว่าเบี้ยแก้ค่อนข้างตัวใหญ่ ของหลวงพ่อคำ หลวงพ่อนุ่ม ประเภทเลี่ยมแล้วก็ประมาณหัวแม่มือเท่านั้น พกอยู่ ๒ ตัว

ปรากฏว่าพกอยู่กับแหวนจักรพรรดิเนื้อทองคำ พอไม่นานเอาออกมาดู ตายแล้ว...แหวนกระดำกระด่างหมดเลย ก็คือโดนปรอทกินเสียจนส่วนที่เป็นธาตุทองหมดไป ส่วนที่เหลือเป็นโลหะผสมที่เขาเพิ่มความแข็งให้กับทอง กินจนกระดำกระด่างดูไม่ได้เลย ปกติทองถ้าหมองลงขัดไม่กี่ทีก็สุก อันนี้ขัดให้ตายก็ไม่คืน

ถาม : เราไปหุงปรอทให้เป็นทองได้ไหมคะ ?
ตอบ : หุงไปนาน ๆ ใส่ส่วนผสมอื่น ๆ ลงไปก็เป็นแบบนั้น แบบที่จิ๋วพกอยู่ อันนั้นเขาถือว่าเป็นทองแล้วนะ

ถาม : อย่างนี้ถือว่าเป็นการแปรธาตุหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เป็นตั้งแต่แรกแล้ว

เถรี
24-03-2020, 08:25
ถาม : จะไปพม่าเดือนนี้ ยกเลิกไปก่อนหรือไปได้ครับ ?
ตอบ : จะทำอะไรให้ตัดสินใจด้วยตัวเอง และยอมรับผลที่เราตัดสินใจเอง อย่าไปถามคนอื่น ถามคนอื่นผิดพลาดขึ้นมาก็เสียเวลาไปโทษคนอื่น การตัดสินใจด้วยตนเองจะทำให้เราได้ประสบการณ์ จากข้อมูลทั้งหมดที่เราได้มา ตัดสินใจแบบนั้นแล้วจะดีหรือไม่ดี พอถึงเวลาผลออกมาเราจะได้ประสบการณ์ว่า ตัดสินใจแบบนี้จะได้ผลอย่างนี้ ถ้าให้คนอื่นตัดสินใจแทน เราจะไม่มีประสบการณ์เสียที ถึงเวลาจะกลายเป็นคนที่ทำอะไรไม่เป็น

เถรี
24-03-2020, 08:38
พระอาจารย์กล่าวว่า "แค่หลีกเลี่ยงจากไวรัส ไม่จำเป็นต้องไปตุนอาหาร เพียงแต่ว่าออกไปข้างนอกให้น้อยหน่อยก็ใช้ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเศรษฐกิจจะล่มจมเสียเปล่า ๆ

ตอนนี้แอลกอฮอล์ล้างมือกับหน้ากากขาดตลาด ส่วนที่น่าจะโดนประณามที่สุดก็คือพวกเก็บหน้ากากเก่ามาขาย เห็นแก่ประโยชน์เสียจนกระทั่งลืมนึกถึงเพื่อนมนุษย์ ถ้าคนเก็บหน้ากากเก่าไปบรรจุถุงติดเชื้อตายนี่ จะไม่ให้โมทนาบุญเลยสิเอ้า..!"

เถรี
24-03-2020, 08:41
กล่าวถึงเม็ดเงินหล่อพระ "ใครซื้อเม็ดเงินมาจะได้บุญมากกว่า เพราะว่าครึ่งกิโล ๙,๒๓๐ บาท ถ้าเอาเงินสดมาก็คิดแค่ ๙,๐๐๐ บาท"

ถาม : ทำไมคิดราคาถูกจัง ?
ตอบ : คิดมากไม่ได้ สถานการณ์แบบนี้ญาติโยมลำบากพอแล้ว

เถรี
24-03-2020, 08:53
ถาม : หนูพาแม่กับน้องสาวไปฝึกมโนมยิทธิที่บ้านสายลม เขาสองคนเพิ่งเริ่มก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ตัวหนูพอฝึก ครูบอกว่าหนูเอาสัญญามาตอบ แต่หนูก็รู้สึกว่าหนูเห็นจริง ๆ ?
ตอบ : ครูไม่เก่ง ครูพยายามจะเดาใจลูกศิษย์แต่ก็เดาผิด แปลว่าครูมั่ว..!

ถาม : แต่ครูก็บอกแม่หนูกับน้องหนูได้นะคะ ส่วนหนูก็เลยเสีย "เซลฟ์" ไปเลย ?
ตอบ : ไม่เป็นไร...ไปหัดใหม่

ถาม : ตอนนี้กลายเป็นว่าหนูนั่งหลับตาแล้วไม่เห็นอะไร แต่เอาไปใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีกว่า ?
ตอบ : แล้วจะเห็นอะไร ?

ถาม : เช่น สามารถคาดการณ์ได้ ?
ตอบ : คาดการณ์ล่วงหน้าก็ฟุ้งซ่าน..!

ถาม : เอามาใช้ในการทำเอกสารได้ค่ะ อย่างเช่นเวลาเราไม่เห็นข้อมูล ?
ตอบ : ถ้ากำลังใจของเราไม่ทรงตัว ถึงเวลาก็ฟุ้งมาก แล้วพอยิ่งผิดก็ยิ่งเพี้ยนกันไปใหญ่

ถาม : ควรทำอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : เลิก..ไปทำงานตามปกติของเรา

เถรี
24-03-2020, 08:56
ตราบใดที่ครูฝึกยังแบก รัก โลภ โกรธ หลง อยู่เต็มตัว โอกาสที่จะรู้อะไรจริงก็ยาก บางทีก็พยายามเดา ก็เลยทำให้คนฝึกเสียของไปเลย

เรื่องของมโนมยิทธินั้นเดาไม่ได้ เป็นไปตามเหตุการณ์เฉพาะหน้า แต่ว่าผู้เข้ารับการฝึกบางคนก็เก่งจริง ๆ เพราะว่าเขารู้เห็นจริง ไปได้จริง สมัยอาตมาเป็นครูฝึกอยู่ พยายามหลอกเท่าไรก็หลอกไม่สำเร็จ โดยปกติถ้าไปวิมานองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ก็จะประทับอยู่ข้างใน อุตส่าห์ล่วงหน้าไปทูลเชิญพระองค์ท่านออกมาอยู่ข้างนอก พวกนั้นไปถึงบอกเลยว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมารับข้างนอก..หลอกเขาไม่สำเร็จ

เถรี
24-03-2020, 08:57
ส่วนหนึ่งที่ตอนหลังโดนสังคมตำหนิ แล้วก็เอามาล้อกันว่า "อย่ามโนฯ" ก็เพราะเกิดจากไอ้พวกห่วยแตก ก็คือไม่รู้จริง ถึงเวลาก็มั่วไปเรื่อย ก็เลยทำให้คนเขาเกิดโทษ เพราะว่าของดีจริง แต่คนทำดันไม่จริง

อีกส่วนหนึ่งก็คือผู้ที่ฝึกได้แล้ว ไม่ได้ใช้ความสามารถไปในทางลดละกิเลสตัวเอง แต่เอาไปใช้ดูโน่นดูนี่ แล้วเตลิดเปิดเปิงกันไปใหญ่ แทนที่จะรู้เพื่อละ ตามที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านตั้งเป้าเอาไว้ ก็กลายเป็นรู้แล้วยึด คนโน้นเคยเป็นอย่างนี้กับเรา คนนี้เคยเป็นอย่างนี้กับเรา แทนที่จะเข็ดจะกลัว ว่าเกิดมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว ดันไปฟื้นความสัมพันธ์ใหม่เสียนี่..!

คนลอยคออยู่กลางทะเลด้วยกัน ดันไปกอดคอกันเป็นพรวน ก็จมน้ำตายหมดเท่านั้น..!

เถรี
24-03-2020, 09:02
ถาม : เหมือนกับมีคลื่นรบกวนเราตลอดเวลา เหมือนกับมีคนตาม แต่บ่อยเกิน ?
ตอบ : อยู่กับลมหายใจเข้าออกของเรา หลุดออกไปไกลเท่าไร กำลังของเราน้อย เขาก็รบกวนได้มาก

ถาม : ถ้าเขาไม่ใช่เทวดาหรือฝ่ายดีละคะ ?
ตอบ : จะเป็นใครก็ช่าง ถ้าเราภาวนาอารมณ์ใจทรงตัวอยู่ ใครจะทำอะไรได้

ถาม : ถ้าเป็นผี เราแกล้งแผ่เมตตาเป็นความเย็นได้ไหมคะ ?
ตอบ : แล้วจะแกล้งทำไม ?

ถาม : คืออะไรกันแน่คะ ?
ตอบ : ไปหาหมอ บอกว่าฮอร์โมนพร่อง ให้หมอเขาจัดฮอร์โมนให้ กินลงไปก็หายแล้ว

ถาม : แล้วมีเสียงเคาะประตูทุกคืนละคะ ?
ตอบ : กินลงไปหายแล้วก็เลิกเคาะไปเอง

ถาม : จริงหรือคะ ?
ตอบ : ก็บอกแล้วว่าไปหาหมอก่อน ถ้ากินยาแล้วหายทั้งหมดก็แปลว่าไม่เกี่ยวกับผี บอกหมอเขาว่าแก่แล้วฮอร์โมนพร่อง ช่วยจัดยาให้หน่อย

เถรี
25-03-2020, 08:15
พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่ออาทิตย์ที่แล้วบิณฑบาตเจอแม่ลูกคู่หนึ่ง ลูกชายอายุเกิน ๒๐ ปีมากแล้ว แต่น่าจะใส่บาตรเป็นครั้งแรกในชีวิต คาดว่าจะอายุเบญจเพสคือ ๒๕ ปี แม่ก็เลยพามาใส่บาตร อาตมาก็เปิดบาตรรอ แม่เขาก็บอกว่า “ใส่สิลูก” ไอ้ลูกก็ลังเลอยู่นั่น ครบ ๓๐ วินาทีอาตมาก็ปิดบาตรซ้ายหันเดินต่อเลย รูปที่ ๒ ก็ซ้ายหันเดินตามมา เขาไปตัดสินใจใส่ได้ตอนรูปที่ ๓

สำหรับอาตมาแล้ว เวลา ๓๐ วินาที เดินไปน่าจะถึง ๒๐๐ เมตร จะให้รอเขาอยู่คนเดียวหรือ ? ส่วนบางรายเดินผ่านหน้าร้าน “นิมนต์เจ้าค่ะ” แต่ปรากฏว่าสั่งข้าวแกง ๙ ชุด แม่ค้าเพิ่งจะตักชุดที่ ๑ อาตมารอถึงชุดที่ ๓ ก็บอกว่า เดี๋ยวไปดักหน้าใส่เอาก็แล้วกัน แล้วก็เดินต่อไป

ที่ไม่รอด้วยเหตุ ๒ ประการ ประการแรกจะทำบุญแต่ไม่มีการเตรียมพร้อม ไม่มีการศึกษาว่าพระจะมาถึงเวลาไหน มาถึงก็นิมนต์ให้พระรอ แล้วก็ค่อย ๆ มาบรรจงซื้อข้าวถุง แกงถุง

ประการที่ ๒ ญาติโยมที่รอใส่บาตรตามรายทางหลายคนต้องไปทำงานไกล ๆ อย่างเช่น ต้องไปทำงานในตัวเมืองกาญจน์ฯ ถ้าอาตมาไปไม่ตรงเวลา เขาเองเกิดไปตกรถ ก็คือไม่ได้รถตู้หรือไม่ได้รถเมล์เที่ยวที่ตั้งใจไว้ ก็จะไปทำงานสาย เพราะฉะนั้น..ส่วนใหญ่ถ้าไม่พร้อมอาตมาจะไม่รอ พร้อมเมื่อไรแล้วค่อยมาใส่แล้วกัน

เรื่องแบบนี้โยมบางคนก็ยังไม่เข้าใจ เขาคิดอยู่อย่างเดียวว่านิมนต์แล้วพระต้องรอ นั่นก็อาจจะใช่ แต่ไม่ใช่อาตมาแน่ ๆ"

เถรี
25-03-2020, 08:18
"ก่อนหน้านี้ก็มีแม่ค้าขายขนมรายหนึ่ง พอถึงเวลาอาตมาเดินผ่าน “นิมนต์เจ้าค่ะ เอ้า...ใครจะซื้ออาหารใส่บาตรรีบมาเร็ว พระมาแล้ว” อย่าได้ไปรอเชียวนะ เขาเรียกยันหมดตลาดนั่นแหละ

แรก ๆ อาตมาก็คิดว่าเขาจะใส่บาตรเอง เขานิมนต์ก็ยืนรอ แต่รออยู่เป็นนาทีเรียกแต่คนอื่นซื้อของใส่บาตร อาตมาจึงเดินเลยไป เพราะมาสังเกตว่าเขาไม่เคยใส่บาตรพระวัดท่าขนุน เรียกให้คนอื่นใส่บาตรเพราะรู้ว่าคนอื่นอยากใส่บาตรกับหลวงพ่อวัดท่าขนุน แต่ตัวเขาจะไปใส่บาตรกับพระวัดป่าที่เดินมาทีหลัง

พอเห็น ๓ ครั้งก็รู้ว่า เขาจะหาเงินใส่กระเป๋าอย่างเดียว โดยอาศัยขายชื่อวัดท่าขนุน รายนั้นหลังจากโดนอาตมาทิ้งไป ๓ ครั้งก็ไม่กล้าเรียกอีก แต่ก็ยังไม่วาย ก็คือถ้าวันเสาร์-อาทิตย์นักท่องเที่ยวเยอะ ๆ ก็ใช้ลูกไม้เดิม แต่ไม่กล้านิมนต์ก่อน เล่นใช้วิธีว่า “หลวงพ่อวัดท่าขนุนมาแล้วค่ะ พระมาเยอะทีเดียว ใส่บาตรกันนะคะ” พวกนักท่องเที่ยวก็จะกรูกันเข้าไปซื้อของที่ร้านเขา ส่วนอาตมาก็เดินเลยไปแล้ว รอตอนที่วนกลับมาก็แล้วกัน"

เถรี
25-03-2020, 08:27
พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวันศุกร์สิ้นเดือน อาตมาไปบรรยายให้เจ้าอาวาสใหม่ฟัง สรุปให้เจ้าอาวาสใหม่ท่านว่า ถ้าเราสร้างความเจริญให้กับศาสนาไม่ได้ ก็อย่าทำให้ศาสนาพังเพราะมือเรา"

เถรี
25-03-2020, 08:28
ถาม : ผมทำอาชีพเป็นหมอดูไพ่ยิปซีครับ มีอะไรที่ควรแนะนำผมบ้างไหมครับ ?
ตอบ : ดูเยอะ ๆ ยิ่งดูก็จะยิ่งชำนาญ อ่านออกมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ยิ่งดูจะยิ่งแตกฉาน จะรู้ว่าถ้วย ๑ ใบหมายถึงอะไร ไม้เท้า ๕ อันหมายถึงอะไร แล้วพอไม้เท้าไปเจอพระราชาจะแปลว่าอะไร ดูรวมกันไปได้เรื่อย ๆ พอทั้งหมดสัมพันธ์กัน ก็จะอ่านออกมาว่าควรจะอย่างไร แรก ๆ ก็ต้องกางตำราก่อน ดูไปดูไปจะหาจุดร่วมของไพ่ทุกใบได้ พอหาจุดร่วมได้ ดึงไพ่ออกมากี่ใบก็อ่านได้หมด

เถรี
25-03-2020, 08:30
ถาม : ผมแบ่งเงินรายได้ส่วนหนึ่งว่าบูชาครู ถูกต้องไหมครับ ?
ตอบ : แล้วแต่เราจะประพฤติปฏิบัติ ของทุกอย่างมีครูอยู่แล้ว ถ้าเราเชื่อ ให้ความเคารพ ก็จะได้ผลมากกว่าคนอื่นเขา ถ้าไม่เชื่อ ไม่ให้ความเคารพ เดี๋ยวก็เกิดปัญหาอย่างวันก่อน

เขาไปบวงสรวงที่บ้าน ปรากฏว่ามีการเชิญหลวงพ่อกวยด้วย คราวนี้หลวงพ่อกวยนั้น ตามสายวิชาการเวลาเชิญท่าน มีเคล็ดลับว่าต้องเอาของอะไรบางอย่างวางในพิธี ปรากฏว่าพอหลวงพ่อกวยท่านมาถึง ท่านบอกว่า "ตรงนี้มันไม่เคารพข้าเลยว่ะ" ปรากฏว่าคนจัดก็จัดบายศรีตามแบบวัดท่าซุง เห็นของเกินก็เลยหยิบออก สรุปคือไฟไหม้บ้านเลย..!

แล้วก็เห็นชัด ๆ ว่าการที่ใช้กระดาษแดงรองไก่และหัวหมูช่วยกันไฟไหม้ได้จริง ๆ เพราะว่าไหม้อยู่แค่วงเดียว ไหม้ให้รู้ว่าต่อไปอย่าได้ทำอย่างนี้อีก

เถรี
25-03-2020, 08:33
ในเมื่อของทุกอย่างมีครู ถ้าเราให้ความเคารพครูก็จะเจริญกว่าคนอื่นเขา โดยเฉพาะถ้าเป็นสมัยโบราณ ครูนี้แทบจะเป็นทุกอย่างของชีวิต ถามว่าทำไมเป็นทุกอย่างของชีวิต ? พ่อแม่เลี้ยงเรามาในเบื้องต้น แต่ครูบาอาจารย์ให้วิชาการที่เราเลี้ยงตัวเองและครอบครัวไปจนตลอดชีวิต เพราะฉะนั้น..ครูบาอาจารย์เป็น ๑ ใน ๕ สถาบันหลักที่เราต้องให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างสูง ด่าเราได้ ด่าครูบาอาจารย์เมื่อไรต้องตายกันไปข้างหนึ่ง..!

ถึงเวลามีการถามชื่อถามนามสกุล ถามถึงครูบาอาจารย์ การถามถึงครูบาอาจารย์นี่หลายอย่าง อย่างแรกคือเป็นศิษย์ครูเดียวกันหรือเปล่า ? ถ้าศิษย์ครูเดียวกันศรศิลป์ไม่กินกัน รบกันไปก็เหนื่อยเปล่า

คำว่า ศรศิลป์ไม่กินกัน สมัยนี้หมายถึงคนไม่ถูกกัน สมัยโน้นเขาแปลว่า เป็นพวกเดียวกัน ทำอันตรายกันไม่ได้ เพราะว่าพระบุตรพระลบไปรบกับพระราม แผลงศรเข้าใส่กัน พระบุตรพระลบแผลงศรไป ก็กลายเป็นพวงมาลัยไปถวายพระราม พระรามแผลงศรออกไป กลายเป็นขนมนมเนยไปให้พระบุตรพระลบ ก็เลยว่าเรียกศรศิลป์ไม่กินกัน ก็คือขนาดลูกศรทรงอานุภาพขนาดนั้นยังทำอะไรกันไม่ได้ นาน ๆ ไปแล้วศัพท์ก็เพี้ยน

เถรี
25-03-2020, 08:47
ประการต่อไปก็คือ ถ้ารู้ว่าเป็นศิษย์ใคร ก็จะรู้ว่าครูบาอาจารย์ท่านอยู่ระดับไหน ควรที่จะลองของไหม ฝ่ายโน้น...กูลูกศิษย์หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง ฝ่ายนี้ก็กูลูกศิษย์หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่ เดี๋ยวก็ตีกันกระจาย ต่างคนต่างลอง ประเภทร่างกายต้องการแรงปะทะ ถึงเวลาต่างคนต่างทำอะไรกันไม่ได้ ก็กลับวัด กลับบ้าน

สมัยก่อนคนอยู่วัดกับอยู่บ้านก็ใกล้เคียงกัน ก็คือพวกไปฝึกวิชาการกับครูบาอาจารย์ก็อยู่วัด พวกเจนจบกลับมามีครอบครัวก็อยู่บ้าน สมัยนั้นหลวงพ่อวัดท่าซุงกับเพื่อนก็เอากับเขาด้วย ท่านบอกว่าทหารเรือส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่ ถ้าใครเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อหรุ่นก็สักยันต์ ๙ ยอด

หลวงพ่อท่านเล่าให้ฟัง ท่านบอกว่า ปล่องเหลี่ยม งูดิน พิณ ๓ สาย ๓ เหล่าของทหารเรือ ผู้บังคับบัญชาปวดหัวทุกที ปล่องเหลี่ยมก็กรมอู่ทหารเรือ งูดินก็กรมแพทย์ พิณ ๓ สายก็ดุริยางค์ พวกนี้ว่างเยอะ ไม่มีอะไรจะทำ ไปหาครูบาอาจารย์จนกระทั่งตัวเองหนังดี แล้วเที่ยวไปไล่ตีแถวบ้านเขา

ต้องบอกว่าหนังดีจริง ๆ เพราะว่าสมัยโน้นเขาใช้มีดโกน มีดโกนสมัยก่อนตัวมีดกับด้ามเป็นอันเดียวกัน แล้วส่วนใหญ่เป็นทองเหลือง สะบัดคมมานี่ประเภทโกนขนหน้าแข้งร่วงกราว คมยิ่งกว่ามีดโกนสมัยนี้อีก โดนแบบนั้นยังไม่เข้าก็ถือว่าใช้ได้ หรือไม่ก็บางคนได้วิชาชาตรีมา โดนตีร่วงทั้งยืนลุกขึ้นมาไม่เป็นไรเลย พอถามครูบาอาจารย์ ครูเดียวกันก็เลิกตีกัน ถ้าคนละครูก็ยังไม่แน่ใจ ขอลองอีกหน่อย

เถรี
25-03-2020, 09:12
ถาม : ผมอธิษฐานก่อนเปิดไพ่ว่า ถ้าสิ่งใดควรจะบอกกล่าวสงเคราะห์ ช่วยดลจิตดลใจให้บอก แต่ถ้าสิ่งที่ดลใจให้บอกตรงข้ามกับไพ่ ควรจะบอกเขาอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : ถ้าตามหลักมโนมยิทธิคือใช้อารมณ์ความรู้สึกแรก แต่คราวนี้เราเองจะมั่นใจความรู้สึกสักเท่าไร ? ถ้ามั่นใจก็ใช้ความรู้สึกแรก ไพ่จะออกอย่างไรก็เรื่องของไพ่ สำรับไพ่เก็บเอาไว้สำหรับแหกตาชาวบ้าน

เถรี
26-03-2020, 09:59
พระอาจารย์กล่าวว่า “เขาบอกว่าไม่ให้ไปในที่แออัด ตรงนี้จะไม่แออัดก็คงไม่ได้ แต่ปรากฏว่าไวรัสไม่น่ากลัวหรอก กลัวคนที่แพ้แอลกอฮอล์จะตายก่อนมากกว่า เล่นล้างแอลกอฮอล์กันรอบด้านเลย ...(หัวเราะ)...”

เถรี
26-03-2020, 10:00
พระอาจารย์กล่าวว่า “เดี๋ยวนี้อาตมาต้องอาศัยยาแผนโบราณ ยาสมัยใหม่เอาไม่อยู่ คนที่ไม่ชอบกินยานี่สงสัยจะกินไม่ลง แต่ยาเขาไม่ได้ให้ชอบ เขาเอาไว้รักษาโรค เพราะฉะนั้น..ชอบหรือไม่ชอบก็กินลงไปเถอะ

คำว่า “ยา” เขาแปลว่า อุดรูที่รั่ว ในเมื่อร่างกายเรารั่วก็ต้องอุดให้อยู่ สมัยก่อนเขายาเรือ อุดรูไม่ให้เรือรั่ว คราวนี้ยาที่กินก็ต้องเข้าไปอุดคนไม่ให้รั่วเช่นกัน”

เถรี
26-03-2020, 10:00
ถาม : ผมวาดรูปหลวงพ่อไว้ ๑ ภาพ ขออนุญาตทำภาพนั้นขึ้นให้จบครับ พอดีว่าวาดไว้แล้วมีคนท้วงมาว่าควรจะขออนุญาตหลวงพ่อก่อน ?
ตอบ : อาตมาไม่เคยอนุญาตให้ใครทำรูป เพราะฉะนั้น..เผาทิ้งไปก็จบแล้ว..!

เข้าเว็บวัดท่าขนุนเขาก็พาดหัวไว้เบ้อเริ่มเลย ว่าห้ามผู้หนึ่งผู้ใดทำรูป นอกจากได้รับอนุญาตจากทางวัดเป็นลายลักษณ์อักษร แสดงว่าไม่เคยอ่านกันเลยใช่ไหม ?

เถรี
26-03-2020, 10:01
พระอาจารย์กล่าวว่า “กินอะไรก็ได้ที่กินแล้วอยู่ได้ ไม่ต้องไปสรรหาอะไรที่ยาก คนเรามีบุญรักษามีกรรมรักษา ถ้าถึงเวลาต่อให้กินอะไรเลิศเลอลอยฟ้าก็ต้องตาย”

เถรี
26-03-2020, 10:02
ถาม : น้องชายเป็นโปลิโอตั้งแต่เด็ก จะให้ทำบุญอย่างไรให้เขาได้คะ ?
ตอบ : มีอะไรทำได้ทั้งนั้นแหละ เพราะว่าเรื่องนี้เป็นกรรมเก่าจากชาติก่อน ๆ แก้ไขชาตินี้ไม่ทันหรอก มีอย่างเดียวก็คือ ชาตินี้ให้เขาทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องของยานพาหนะ จะเป็นรถราช้างม้าวัวควายอะไรก็ได้ ชาติหน้าเขาจะได้หายจากอาการอย่างนี้

ของเก่าทำมาชาตินี้รับ ของใหม่ทำชาตินี้ชาติต่อไปรับ

เถรี
26-03-2020, 10:04
พระอาจารย์กล่าวว่า “มีสิ่งหนึ่งที่น่าดีใจคือ ตลาดค้าสัตว์ป่าที่อู่ฮั่น รัฐบาลจีนพยายามอย่างไรก็ปิดไม่ได้ พอโรคนี้ระบาดขึ้นมาก็ปิดได้เต็มที่เลย ประมาณว่าต่อไปเอ็งไม่ต้องเปิดอีกแล้ว

ครั้งแรกที่ได้ยินว่าไวรัสกำเริบมาจากตลาดสัตว์ป่า อาตมาก็ไปดู พวกที่ล้มหายตายจากที่นั่นเขาแห่กันมาเป็นล้านเลย..! บอกว่าแล้วจะมาฟ้องข้าทำไม ? มีประโยชน์อะไร ? ข้าทำอะไรไม่ได้ อยากฟ้องก็ไปฟ้องพระยายมสิวะ ...(หัวเราะ)...

ต้องบอกว่าทั้งมีเท้า ทั้งไม่มีเท้า ทั้งมีปีก ทั้งไม่มีปีก ทั้งในน้ำ ทั้งบนบก มากันหมด แสดงว่าคนเรานี่กินสารพัดจริง ๆ งูเงี้ยวเขี้ยวขอบางตัวใหญ่เป็นเสาเรือนยังอุตส่าห์เอามากินอีก..! สัตว์ป่าเวลาเขาอยู่กับธรรมชาติเป็นเวลาที่เขามีความสุขที่สุด แล้วโดนมนุษย์เอามากักขังก็หมดสภาพ ถ้ายิ่งโดนเอามาขังเพื่อกินก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่”

เถรี
26-03-2020, 10:05
“ไปดูสัตว์ในสวนสัตว์ พวกเก้ง พวกกวาง สีสันดูซีด ๆ มอ ๆ อย่างไรไม่รู้ แต่เวลาที่ไปธุดงค์นี่ เก้งบางตัวเดินมา สีส้มแปร๊ดเลย แสดงว่าเวลาอยู่ในธรรมชาติ เขามีความสุข สภาพร่างกายก็เลยแสดงออกเต็มที่ เวลาอยู่ในกรงก็สีทึม ๆ เทา ๆ ดูไม่ได้เลย

พวกนี้ส่วนใหญ่ขี้สงสัย เห็นพระมาก็เดินเมียงมองตามดูไปเรื่อย บางทีเดิน ๆ ไปก็เจอวัวป่าทั้งฝูง เจ้าพวกนี้ถ้าเราไม่สังเกตจะคิดว่าเป็นวัวบ้าน ต่างกันอยู่ตรงรูปร่างจะกำยำล่ำสันทะมัดทะแมงกว่า แล้วขาจะมีถุงเท้าขาว ๆ ก้นก็มีวงขาว ๆ พอเห็นพระก็หยุดกันหมด อาตมาก็ยื่นมือให้ เจ้าตัวจ่าฝูงก็เดินมาดม เสร็จแล้วก็หันไปร้องบอกพวก พวกเขาก็เดินมาดมทีละตัว ๆ พอดมครบทั้งฝูงก็ไป ดูแล้วน่ารักดี ...(หัวเราะ)...”

เถรี
26-03-2020, 10:06
พระอาจารย์กล่าวว่า “ธนาคารชาติบอกว่า เมื่อรับเงินเก่าคืนมาก็จะกักไว้ ๑๔ วัน แล้วค่อยปล่อยออกไปหมุนเวียนในตลาดใหม่ ไม่ใช่แต่คนนะ แม้แต่ธนบัตรก็ยังโดนกักบริเวณเลย..! เขาบอกว่าเชื้อโรคติดบนธนบัตรเก่าได้

มีข้อแนะนำว่าผู้หญิงมีความทนต่อเชื้อโรคมากกว่าผู้ชาย เพราะฉะนั้น..ได้เงินมาก็ให้รีบฝากเมียเอาไว้..!”

เถรี
26-03-2020, 10:06
พระอาจารย์กล่าวว่า “มาที่นี่ราคาเดียวกันหมด คุณหญิงคุณนาย นายพลนายพัน เจ้าอาวาสวัดท่าขนุนท่านเห็นเหมือนกันหมด ญาติโยมเขาก็เริ่มทำใจได้กันเยอะแล้ว ก่อนเข้าวัดก็ถอดยศถอดตำแหน่งกองเอาไว้ที่หน้าวัดก่อน มาตัวเปล่าดีที่สุด”

เถรี
26-03-2020, 10:07
พระอาจารย์กล่าวว่า “สมมตินะ..สมมติว่าเราไม่มีหู จะใส่หน้ากากอย่างไร ? ...(หัวเราะ)... ก็คือถ้าอาตมาเป็นบริษัทผลิตหน้ากาก ต้องคิดเผื่อว่าคนไม่มีหูเขาต้องใส่ได้ แทนที่จะทำเป็นที่คล้องหู ก็ควรจะทำเป็นสายรัดข้ามหัวไปเลยไหม แบบหน้ากากออกซิเจนบนเครื่องบิน ถ้าหากว่าคิดข้ามช็อตแบบนั้นจะแก้ไขได้ทุกปัญหา ไม่มีหูก็ใส่ได้ แต่ถ้าไม่มีจมูกก็ไม่ต้องใส่..!”

เถรี
26-03-2020, 10:08
พระอาจารย์รับของที่กำลังตกขณะให้พร “โปรดอย่าขี้ตกใจ จะทำให้แก้ไขสถานการณ์ไม่ได้ ให้พรไปมือก็จับได้ ...(หัวเราะ)... คือมีอะไรแบบนี้บ่อย ๆ ทำอะไรได้เดี๋ยวญาติโยมรู้หมด..!

สำคัญที่สุดคือสภาพจิตที่มั่นคงไม่หวั่นไหว ถ้าหากว่าสภาพจิตมั่นคงไม่หวั่นไหว รัก โลภ โกรธ หลง ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ หมานี่รู้มากกว่าคน ที่นี่ตวาดแว้ดคนหัวหด ส่วนที่วัดตวาดแว้ดหมาเลียแผล็บ ไม่สนใจเลย ...(หัวเราะ)...”

เถรี
26-03-2020, 19:32
พระอาจารย์กล่าวว่า “การไปธุดงค์สิ่งหนึ่งที่ได้ก็คือ การเอาตัวรอดในป่า ไม่ได้พูดถึงหลักธรรมที่จะได้นะ

คำว่า การเอาตัวรอดในป่า คือ บางทีเดินไปสิบกว่าวันไม่มีบ้านคน แล้วจะทำอย่างไร ? หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคยฉันใบเปราะป่า พวกเราไม่รู้จักต้นเปราะ...อดตายอีก ...(หัวเราะ)... ใบสักเท่าฝ่ามือนี่แหละ มีลอน ๆ ของเส้นใบอยู่หน่อยหนึ่ง ส่วนใหญ่ใบจะมีลาย ๆ ไปดึงใบกลางที่ยังม้วน ๆ ขึ้นมาแล้วก็ฉัน

ที่ตลกกว่านั้นก็คือ เวลาไปกับกะเหรี่ยงเขาสอนให้กิน ใบไม้อย่างนี้กินได้ แบบนี้กินไม่ได้ ก็ไปเจออย่างหนึ่งกินได้ ใบโตประมาณฝ่ามือเหมือนกัน ต้นก็ขึ้นติดกับดินนี่แหละ ก็เก็บ ๆ ๆ ได้มาถังเบ้อเริ่มเลย เป็นถังเลยนะ ขนาดถังพลาสติกสังฆทาน ปรากฏว่าพอลวกน้ำร้อนแล้วเหลือหยิบมือเดียว หดหายหมดเลย ...(หัวเราะ)... คิดว่าเก็บไปทำไมเป็นถัง ? ที่ไหนได้เหลือไม่ถึงครึ่งชาม..!”

เถรี
26-03-2020, 19:33
“ยังดีว่าเวลาธุดงค์แล้วมีฆราวาสผู้ชายไป เพราะว่าศีลพระบางทีก็ห้ามโน่นห้ามนี่ ห้ามพรากของเขียวก็เด็ดใบไม้ใบหญ้าไม่ได้ บางทีก็ชวนกันกินของยากอย่างยอดหวาย โอ้โฮ..กว่าจะดึงลงมาได้สักยอดหนึ่ง บางทีก็ดวงเฮงมากเลย มีเจ้าของคอยหวง กำลังดึง ๆ อยู่ ต่อบ้าง แตนบ้าง ไล่ต่อยหัวหูปูดหมด คราวนี้บางทีไม่มีต่อ ไม่มีแตน พอฟันยอดเข้า มดที่ทำรังอยู่ก็แห่กันออกมา

ยอดหวายนี่เขาเรียกว่าอาหารชั้นสูง อยู่สูงลิบเลย..! ก็ลักษณะเดียวกันแหละ ปอกไปปอกมา อุตส่าห์ฟันเสียจนป่าจะถล่มทลายคิดว่าได้เยอะ พอถึงเวลาส่วนที่กินได้เหลืออยู่ประมาณหัวแม่มือ ช่างมีมานะกันจริง ๆ..! เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าอยู่บ้านแล้วใครบ่นว่าจะกินแกงยอดหวายนี่อาตมาจะ "โบก" ให้..! รู้หรือเปล่าว่าทำยากแค่ไหน ...(หัวเราะ)...”

เถรี
26-03-2020, 19:35
“ของที่กินง่ายที่สุดก็คือพวกเต่ารั้ง เต่ารั้งเป็นต้นปาล์มชนิดหนึ่ง ถึงเวลาก็ฟันยอดมาแล้วลอกเอาข้างใน พอหั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วเหมือนอย่างกับหน่อไม้ กรอบสดทีเดียว จัดการต้มน้ำ เทลงหม้อ พอรอให้สุกก็แกะเครื่องปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเทลงไป ถ้าได้รสน้ำพริกเผาหรือต้มยำก็ยิ่งดี เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม เพราะว่าไม่มีให้แลก ทนกินไปเถอะ..!

บางทีพระท่านออกมาพูดกันข้างนอก ได้ยินแล้วอยากจะถีบให้สักที ท่านบอกว่า “อาจารย์พาไปธุดงค์เที่ยวนี้ พาไปกินแกงเต่าเสียหลายวัน” คนก็มองตาเขียวปั๊ด พระไปเอาเต่ามาแกงหรืออย่างไร..!? กว่าจะเฉลยว่าเป็นต้นเต่ารั้ง ...(หัวเราะ)...

แล้วเวลาเดินป่านั้น ส่วนที่ง่ายที่สุดก็คือไปตามลำห้วยลำธาร นอกจากไม่รกมากแล้ว ยังหากินอะไรง่าย แต่คราวนี้ก็อย่างว่าแหละ พระจะไปล่าสัตว์อะไรได้ ต่อให้เห็นอยู่ตรงหน้าก็ได้แต่มองตาปริบ ๆ บางทีไปเจอกระทิงตัวใหญ่พอ ๆ กับช้างเลย ได้แต่นั่งภาวนาให้กระทิงเป็นลมตาย พวกเราจะได้มีเนื้อกระทิงกินบ้าง..!”

เถรี
26-03-2020, 19:37
“บางช่วงพอเดินป่าติด ๆ กันเป็นอาทิตย์ ๆ บางทีก็เป็นเดือน ร่างกายขาดสารอาหารมากก็หิวไส้แขวนเลย มองลงไปในลำธาร โอ้โฮ...อะไรจะอุดมสมบูรณ์ปานนั้น พวกปลาเวียนตัวยาวประมาณแขนเรา แล้วแหม...แต่ละตัวรูปร่างอย่างกับตอร์ปิโด ทุกตัวจะหันทวนน้ำหมด มีอะไรหล่นใส่น้ำนี่พุ่งใส่กันเป็นร้อยเลย แย่งอาหารชิ้นเดียวกัน แล้วทำอย่างไร..ก็ได้แต่มอง เพราะว่ารอว่าเมื่อไรปลาจะเป็นลมตาย จะได้เอามากิน..!

ในเมื่อล่าสัตว์ไม่ได้ เหลืออย่างเดียวก็คือพวกผักพวกหญ้า หลายอย่างอาตมาไม่รู้มาก่อนเลยว่ากินได้ พืชผักบางอย่างต้องเผาไฟก่อน ประมาณสะเดาฟาดไฟอะไรอย่างนั้น เผาไฟแล้วจะอร่อย บางอย่างก็ต้องลวกต้องต้มก่อน บางอย่างก็กินสดได้เลย

กว่าจะรู้ว่าอะไรกินได้ อะไรกินไม่ได้ก็หกล้มหกลุกมาเสียหลายป่า เพราะฉะนั้น..ปัจจุบันนี้เวลาเดินป่าแล้วชี้ว่าโน่นกินได้ นี่กินได้ ก็ไม่ต้องแปลกใจนะ เพราะว่าสมัยก่อนกินมาแล้วทั้งนั้น..!”

เถรี
26-03-2020, 19:41
“อย่างลูกส้านนี่น่ากินมาก กลิ่นหอม บางทีชาวบ้านเรียกว่าขนุนป่า ตอนแรกก็สงสัย ขนุนบ้านเอ็งสิหน้าตาอย่างนี้..! แต่ปรากฏว่าไม่มีอะไรเลยนอกจากกลีบ เป็นกลีบหนา ๆ แล้วก็ห่อรวมกันเข้าไป จนดูเหมือนผลไม้ลูกหนึ่ง ...(หัวเราะ)...

แต่ส่วนที่น่าเสียดายที่สุดคือเถาวัลย์น้ำ เพราะว่าถ้าเราฟันส่วนยอดจะตายเลย คือไม่น่าเชื่อว่าเถาวัลย์จะเก็บน้ำได้เยอะขนาดนั้น ถึงเวลาฟันด้านโคนขาด ไปฟันด้านปลาย น้ำไหลจ๊อกลงมาเลย ถ้าฟันมาสักช่วงแขนหนึ่งนี่ได้น้ำเป็นแก้วใหญ่ ๆ เลย

ต้นไม้สมุนไพรบางอย่างต้มน้ำกินเข้าไปแล้วตาค้าง นอนไม่หลับ ดีดยิ่งกว่ากาแฟอีก พวกโลดทะนง โคคลาน กำลังกระทิง อะไรพวกนั้น โลดทะนงนี่หัวอยู่ใต้ดิน ต้องเรียกว่ารากนะ พวกกำลังกระทิงหรือโคคลานนี่ฟันเอาเฉพาะเปลือกก็ได้

บางที่น้ำไม่สะอาด เขาก็เอาเปลือกไม้บางอย่าง ชื่อภาษาไทยอาตมาไม่รู้จัก รู้จักแต่ชื่อกะเหรี่ยง เพราะว่าคนนำทางเป็นกะเหรี่ยง ถึงเวลาใส่ลงไปต้มด้วย น้ำจะเป็นสีเหลือง ๆ หน่อย เขาบอกว่าฆ่าเชื้อโรคได้”

เถรี
26-03-2020, 19:42
“เพราะฉะนั้น..บางทีเข้าป่าไปธุดงค์ ไม่ต้องไปหวังเรื่องบรรลุธรรมอะไร เอาแค่การเอาตัวรอดในป่าก็เป็นเรื่องที่ศึกษากันแทบจะไม่รู้จบอยู่แล้ว

บางทีเห็นคนนำทางเขาเก็บรองเท้าแตะเก่า ๆ ไปครึ่งข้าง เอ็งจะเอาไปทำอะไรวะ ? ถึงเวลาหน้าฝนแล้วฝนตก เขาเอามีดปาดรองเท้าเก่า ๆ มาเป็นแผ่นบาง ๆ ไว้จุดไฟ โอ้โฮ..ติดดีอย่าบอกใครเลย ก่อไฟได้ด้วยพื้นรองเท้าแผ่นนิดเดียว สรุปก็คือรองเท้าที่เราโยนทิ้งแล้ว พวกที่หมาแทะนั่นแหละ ใช้ยังชีพในป่าได้..!”

เถรี
26-03-2020, 19:43
ถาม : สมเด็จองค์ปฐมนั่งอยู่บนราหู ...(ไม่ชัด)... ?
ตอบ : คือวันก่อนไปปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดศีรษะทอง อัญเชิญสมเด็จองค์ปฐมท่านมา แล้วท่านก็พูดแบบล้อเล่นนั่นแหละ “ไม่มีที่นั่ง เอาตรงนี้ละวะ” แล้วท่านก็ประทับบนเศียรพระราหูไปเลย

เถรี
26-03-2020, 19:43
ถาม : ผมต้องดูแลแม่ แล้วถ้าเกิดแม่ติดเชื้อโคโรนาจากผม ผมจะโดนโทษไหมครับ ?
ตอบ : ต้องแสดงความรักด้วยการกอดแม่ทุกวัน..!

ถาม : ถ้าแม่เกิดติดเชื้อขึ้นมา เราจะมีกรรมไหมครับ ?
ตอบ : กรรมอะไร ?

ถาม : กลัวครับ เหมือนเราติดเชื้อ แม่เป็นอัมพาตอยู่แล้ว ?
ตอบ : จะมีกรรมก็ต่อเมื่อเราเจตนาจะแพร่เชื้อให้แม่ ในเมื่อเราไม่ได้เจตนาแพร่เชื้อให้แม่ ถึงเวลาเชื้อดันตะกายตามเราเข้าบ้านไปเองจะไปโทษใครได้ ? ก็ต้องโทษกรรมเก่าของแม่

อย่าทำตัวเป็นลูกผู้ชายขนานแท้รับผิดชอบไปทุกเรื่อง แบบนี้เขาเรียกว่ารับผิดชอบแบบโง่ ๆ..!

เถรี
26-03-2020, 19:45
ถาม : พอดีที่คลองไผ่ เขาจะมาประเมินภาษีใหม่ ทางอบต.เขาบอกว่าจากการที่เราให้เขาเช่าไว้นั้น ไม่ตรงประเด็นที่จะเป็นการครอบครองที่ จะคุยกับเขาอย่างไรหรือว่าต้องขอเจ้าที่ด้วยคะ ?
ตอบ : ต้องถามเขาสิว่าต้องทำอย่างไร ? จะได้แก้ไขทันเวลาหรือเปล่า ? ถ้าแก้ไขทันเวลาก็แก้ไป หมดท่าจริง ๆ แล้วค่อยไปใช้ไสยศาสตร์...(หัวเราะ)... อะไรที่ใช้ความสามารถของคนทั่ว ๆ ไปได้ ให้รีบทำไว้ก่อน

เถรี
26-03-2020, 19:48
ถาม : มีตอนหนึ่งที่เหมือนร่างกายไม่ปกติมาก ๆ แล้วรู้สึกว่าตายแน่ ๆ ก็จับพระนิพพานคิดว่าไม่เอาแล้ว ไปดีกว่า แต่องค์ภาวนาก็ยังอยู่ แล้วรู้เลยว่าตอนนั้นเหมือนกับคาถาเงินล้านไม่เอาเลย ที่ขึ้นมากลายเป็นพุทโธกับโสตัตตะภิญญา ก็รู้ว่าไม่เอาแล้วจะเกาะพระ แต่ก็งงว่ายิ่งบีบคั้นก็ยิ่งกลายเป็นเหลือแต่โสตัตตะภิญญา พุทโธก็ไม่เอาเหมือนกัน พอรอดมาได้ก็มางง ๆ ว่า จะตายอยู่แล้วทำไมไม่เกาะพุทโธ แต่ภาพพระก็อยู่ พระนิพพานก็อยู่ หรือว่าองค์ภาวนาไม่ใช่สาระ ?

ตอบ : องค์ภาวนานอกจากไม่ใช่สาระแล้ว ยังทำให้ยึดติดอีกต่างหาก แต่เรื่องนี้พูดไปก็เกินความสามารถ อย่าเพิ่งไปพูดถึง สำคัญที่สุดคือว่า ก่อนตายกำลังใจเราเกาะความดีส่วนไหนได้บ้าง จะเป็นแบบใดแบบหนึ่งได้ทั้งนั้น เพราะถ้าหากว่าเกาะในส่วนของความดีได้ กุศลทั้งหมดจะเข้ามารวมตัว กำลังเรามีเท่าไรจะส่งผลให้ไปยังจุดที่เราต้องการ

แต่ถ้าเรามัวแต่เดี๋ยวจะเกาะอันโน้น เดี๋ยวจะเกาะอันนี้ ถ้าไม่ได้อย่างที่ฉันต้องการ ฉันไม่เอา ก็บรรลัยเท่านั้น เพราะเท่ากับว่าเราไปปฏิเสธในสิ่งที่จิตเราชินและแสดงออกเอง อะไรก็ได้ที่เป็นด้านความดีให้เอาไว้ก่อน แล้วหลังจากนั้นพอถึงเวลา ความดีทั้งหมดจะรวมตัวเอง แต่อย่าลืมว่านี่ยังเป็นการติดดีอยู่ ถ้าจะเอามากกว่านั้นต้องทำให้มากกว่านี้ แล้วถึงเวลาจะปล่อยดีเอง

เถรี
26-03-2020, 19:50
ถาม : ปีนี้ลูกอยู่ ป.๕ สอบ แต่เขาสอบเข้าเรียนต่อได้แล้ว ย้ายไป ป.๖ โรงเรียนใหม่และต่อ ม.๑ ได้เลย เพราะโรงเรียนให้สอบก่อนได้ก่อน แต่ว่าหนูยังไม่ให้เขาเข้า จะให้เขาไปสอบปีหน้า แต่หนูก็ไม่รู้ว่าเขาจะสอบติดหรือเปล่า ?
ตอบ : แล้วทำไมต้องให้ลูกลำบากอีกปีหนึ่ง ?

ถาม : เพราะว่าหนูอยากพิสูจน์ความตั้งใจของเขาก่อน เพราะว่าค่าเทอมแพงค่ะ แล้วหนูกลัวว่าเดี๋ยวไปเรียนแล้วเขาจะไม่ตั้งใจ ?
ตอบ : ถ้าตั้งธงไว้แล้วก็ทำตามธงของเรา แต่ว่าถามใจลูกหรือเปล่าว่าลูกเขาต้องการหรือไม่ต้องการสิ่งที่เราตั้งไว้ ?

ถาม : เขาอยากเข้าปีนี้ แต่หนูอยากให้พิสูจน์ความตั้งใจเขาก่อนแล้วค่อยเข้าปีหน้า แต่หนูก็กลัวว่าเขาจะสอบไม่ติด ?
ตอบ : จำไว้ว่าตั้งแต่ต้นมาจนบัดนี้ สิ่งที่เราตั้งใจให้ลูกนั้นไม่เคยได้สักที แล้วยังจะไปยัดเยียดให้ลูกเขาอีก

เถรี
26-03-2020, 19:51
นิสัยของจูนมีความบกพร่องอย่างร้ายแรงอยู่ที่หนึ่ง ก็คือต้องการที่จะบงการทุกอย่าง ตรงนี้จะทำให้ครอบครัวพังได้ง่าย ๆ ทำไมไม่ลองปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปโดยธรรมชาติบ้าง ? แล้วเราปรับใจให้ยอมรับแทน ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องยอมรับเรา ไม่ใช่เรื่องของหลวงพ่อที่จะพูดหรอก แต่เดี๋ยวเราก็ไปทำให้ทุกอย่างพังจนได้

สังเกตไหมว่าเวลาคนอื่นเขาทำอะไรที่ไม่ตรงกับความต้องการ เราจะรู้สึกขัดใจมาก แล้วก็โมโหข้ามวันข้ามคืน ? เป็นนิสัยที่เสียที่สุดเลย มีเด็กหลายต่อหลายครอบครัวที่อนาถมาก เพราะว่าสิ่งที่ตัวเองทำกับสิ่งที่พ่อแม่ต้องการนั้นไปกันไม่ได้ แล้วเด็กทั้งหลายเหล่านั้นก็โดนพ่อแม่ปั้นไปในทางที่ไม่ใช่ของตัวเอง

ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ อย่าไปตั้งความหวังกับคนอื่น ลูกทำได้ดีแค่ไหน เราพอใจแค่นั้น ชีวิตจะมีความสุขขึ้นอีกมาก พอ ๆ กับพ่อแม่บางคนนั่นแหละ ลูกบวชอยู่ อยากให้ลูกอยู่ใจจะขาด ลูกก็จะสึกวันสึกพรุ่ง สิ่งที่พ่อแม่อยากกับสิ่งที่ลูกอยากเป็นคนละเรื่องกัน

คนรอบข้างไม่มีใครกล้าบอกเราหรอก เพราะเขารักตัวเขาเองมากกว่า เขากลัวเราโกรธ คราวนี้พอเราไม่รู้จุดบกพร่องตัวเอง เราก็แก้ไขตัวเองไม่ได้สักที

เถรี
28-03-2020, 21:33
ถาม : ตัวรู้กับสติ คือตัวเดียวกันไหมครับ ?
ตอบ : สติคือการนึกได้ สัมปชัญญะคือความรู้ตัว แต่ตัวรู้คือจิต ส่วนสติกับสัมปชัญญะเป็นการรับรู้ของจิต

ถาม : ถ้าเราทำสมาธิจนจิตเรามีสติสัมปชัญญะไปด้วย จะ... (ไม่ชัด) ?
ตอบ : เป็นไปได้อย่างไรที่ทำสมาธิแล้วจะไม่มีสติสัมปชัญญะ ? ถ้าไม่มีสติสัมปชัญญะก็ทรงสมาธิไม่ได้อยู่แล้ว ที่ไม่มีสติเดินตาลอยแก้ผ้าอยู่นั่นทำสมาธิได้ไหมเล่า ?

ถาม : การที่เราทำสมาธิดำดิ่งลงไป การที่เราดำดิ่งก็คือเรามีสติ ?
ตอบ : เรามีหน้าที่ตามดูตามรู้อยู่ ก็แปลว่าสติสัมปชัญญะต้องครบถ้วน ไม่อย่างนั้นเอ็งก็อาจจะหลุดจากสมาธิไปเพราะว่าสติตามไม่ทัน..!

เถรี
28-03-2020, 21:37
ถาม : จริง ๆ แล้วลูกแก้วจักรพรรดิ นี่คือถือว่าเป็นบารมีของพระพุทธเจ้าหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เป็นเพียงเครื่องมือชิ้นหนึ่งที่พระองค์ท่านให้เอาไว้ คนรู้จักใช้ประโยชน์ก็ได้ประโยชน์ไป รู้จักใช้มากได้มาก รู้จักใช้น้อยได้น้อย

ถาม : พอตอนที่ภาวนาด้วยองค์ภาวนาเป็นลูกแก้ว ไปนาน ๆ เข้า บางทีจะไม่ใช่ลูกแก้ว แต่จะเป็นลักษณะเหมือนกับเป็นบารมีของพระพุทธเจ้า เป็นลักษณะของทรงกลมหรือเป็นกลุ่มเมฆหมอก ไม่รู้ว่าจะยังเป็นองค์ภาวนาไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าภาวนาตั้งใจจับลูกแก้วแปลว่าตั้งใจทำกสิณ ดังนั้น..แสดงว่าเราไปสนใจเรื่องอื่น ความเป็นกสิณก็ไม่มี

ถาม : ถึงแม้ว่าเราจะเชื่อว่าอันนั้นเป็นบารมีพระพุทธเจ้าก็คือไม่ถูก ?
ตอบ : ดูว่าเราทำเพื่ออะไร ถ้าตั้งใจจับลูกแก้วเป็นกสิณ ไปสนใจอย่างอื่นก็ถือว่าเป็นกสิณโทษ เพราะว่าทำผิด

ถาม : ระดับสมาธิคือระดับความสว่างของลูกแก้วใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นกสิณ ระดับสมาธิสูงขึ้น ความเปลี่ยนแปลงก็จะมีตามไปด้วย เพราะฉะนั้น..จะสว่างมากสว่างน้อยขึ้นอยู่กับกำลังสมาธิที่เราเข้าถึง

ถาม : ถ้าเกิดว่าระดับสมาธิตามภาพคือ ลูกแก้วเป็นลักษณะเหมือนไม่ใช่เป็นลูกแก้ว แต่รู้สึกว่าเป็นทรงกลม ๆ ใส ๆ บ้าง ยังถือว่าเป็นองค์กสิณของลูกแก้วไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าเริ่มติดตาก็เป็นอุคหนิมิต ระดับสมาธิถือเป็นอุปจารสมาธิ

เถรี
28-03-2020, 21:51
ถาม : ถ้าเราเชื่อว่าลูกแก้ว ...(ไม่ชัด)... ได้ไหมครับ ?
ตอบ : นั่นเป็นความเชื่อ เรื่องของวัตถุมงคลเรายิ่งเชื่อมั่นเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้รับผลสูงกว่าคนที่เชื่อมั่นน้อย คราวนี้ของเราตกลงว่าจะทำอะไร ? ถ้าหากว่าจะจับภาพลูกแก้วเป็นกสิณ ก็ไม่ให้สนใจอย่างอื่น ไม่อย่างนั้นก็โดนลากเตลิดเปิดเปิงไป กสิณก็ไม่ได้สักที

ถาม : คือเชื่อมั่นอยู่แล้วครับ แต่รู้สึกว่าเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าจะเชื่อมั่นได้มากกว่า ?
ตอบ : ก็เชื่อไป ใครเขาห้ามคุณ ?

เถรี
28-03-2020, 21:52
ถาม : ถ้าทำสมาธิแล้วตัน ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้วิปัสสนา ถือว่าเปล่าประโยชน์ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่เปล่าประโยชน์ทุกครั้งที่เราทำนั่นแหละ แต่ถ้าพลาดเมื่อไรก็จะเลี้ยงโจรไว้ปล้นตัวเอง เพราะว่ากำลังสมาธิถ้าไม่ได้ใช้งาน กิเลสคว้าไปใช้เมื่อไรเราก็สาหัส

เถรี
28-03-2020, 21:56
ถาม : ถ้าเกิดว่าปฏิบัติถูกทางคือ ๗ ปีใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ตั้งแต่ ๑ วัน แต่ไม่เกิน ๗ ปี ส่วนที่คุณฟุ้งซ่านมานั่นเกิน ๗ ปีแล้ว..!

ถาม : คนที่ปรารถนาพระโพธิญาณจะมีอะไรที่วัดว่าเดินมาถูกทาง อย่างไปพระนิพพานถ้าเดินมาถูกทางก็ ๗ ปี ?
ตอบ : คนปรารถนาพระโพธิญาณต่ำสุด ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป ไม่ใช่ ๗ ปี..!

ถาม : หมายถึงว่า ๗ ปี เราก็ดูได้เลยว่าเราได้หรือเปล่า แต่ว่าถ้าคนที่ปรารถนาพระโพธิญาณคือยาวนานมากจนเราไม่รู้จะไปถูกทางหรือเปล่า ?
ตอบ : ไม่มีใครสามารถรับรองคุณได้หรอก ต้องลองผิดลองถูก ขึ้นสูงลงต่ำไปเรื่อย แม้กระทั่งชาติท้าย ๆ ยังลงนรกอย่างโตเทยยพราหมณ์

เถรี
28-03-2020, 21:58
ถาม : การที่เราเห็นสภาพจิตใจเขาว่าเป็นอย่างไร ถือว่าเป็นทิพจักขุญาณไหมครับ ?
ตอบ : ต่อให้เป็นก็เป็นในด้านที่ไม่ดี เพราะว่าต้องดูของตัวเองแล้วแก้ไขที่ตัวเอง ไม่ใช่ไปสนใจเรื่องของคนอื่น

เถรี
28-03-2020, 22:00
ถาม : เวลาที่ทำงานมาสมองเครียด ๆ พูดถึงเครื่องดื่มที่ดื่มแล้วจะช่วยได้ ก็มีนมอยู่เยอะ มีอะไรที่ไม่ต้องเป็นนมก็สามารถช่วยได้ ?
ตอบ : กัญชา..!

ถาม : เครื่องดื่มล่ะครับ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับใครชอบอะไรแบบไหน ถ้าเขาชอบอย่างนั้นก็ผ่อนคลายของเขา เห็นพวกญี่ปุ่นเขาไม่เห็นต้องกินเลย เขาแค่ชงชาก็ผ่อนคลายแล้ว

เถรี
28-03-2020, 22:00
ถาม : การที่เราเห็น ไม่ว่าจะเป็นตัวเราหรือวัตถุใด ๆ ก็ตาม แตกตัวเป็นลักษณะกระจายตัวเป็นอะไรก็ไม่รู้ แบบนั้นคืออะไรครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นส่วนหนึ่งของวิปัสสนาญาณก็คือในส่วนของการเห็นความดับ เขาเรียกว่า ภังคานุปัสสนาญาณ แต่คราวนี้ของเราเหมือนกับจับแพะชนแกะไปเรื่อย พอถึงเวลาทำอย่างนี้โดนดึงความสนใจก็ไปอย่างโน้น พอความสนใจใหม่มาก็ไปอย่างโน้น ทำอะไรไม่จริงสักอย่างหนึ่งก็ได้แบบเป็ด..!

เถรี
28-03-2020, 22:02
ถาม : สมมติว่าเกิดเหตุคับขันมา แล้วเราใส่หมดเลยที่เรามีอยู่ ถือว่าเป็นโทสะไหมครับ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับว่าขณะนั้นของเราเองตั้งใจอะไรไว้ ? ถ้าหากว่าเป็นสติ สมาธิ ปัญญา ทั้งหมดที่มีอยู่ อาจจะหาช่องทางที่ดีกว่านั้นได้ แต่คราวนี้ความคับขันของเราก็ต้องแยกออกด้วยว่าเป็นความคับขันลักษณะไหน ? พอที่จะหลบจะหลีกหรือเปล่า ? หรือว่าต่อให้กูเห็นช่องทางหลบหลีกได้ กูก็ชนอย่างเดียว ? ถ้าลักษณะนั้นจะเป็นไปทางโทสะจริตมากกว่า

เถรี
28-03-2020, 22:10
พระอาจารย์ท่องบทกลอนให้ฟัง

"ครานั้นแสนตรีเพชรกล้า..............โกรธาตาแดงดั่งแสงครั่ง
เหม่อ้ายนี่หนักหนาว่าไม่ฟัง............มาโอหังอวดรู้สู้สงคราม
เท้ากระทืบกระทบโกลนโผนผก.......มุ่นหมกขับคว้างมากลางสนาม
ท่วงทีขี่ม้าสง่างาม......................รำง้าวก้าวตามกระบวนทวน"

เด็กรุ่นหลังนี่ฟังแล้วบ้าเลย รำง้าวแต่เป็นกระบวนทวน ? เขาหมายถึงสวนเข้าหา ก็คือท่าบุกนั่นแหละ เขาเรียกว่า กระบวนทวน คนดันไปตีว่าเป็นทวนคืออาวุธ ทวนก็คือสวนเข้าหาคู่ต่อสู้

ขุนช้างขุนแผนเขาสอนวิชาการโบราณเอาไว้เยอะ ไม่ว่าจะเป็นเวทมนต์คาถา ผูกหุ่น เรียกผี ล่องหนหายตัว ฯลฯ

ตำราดาบฟ้าฟื้นนั่นคือตำราสร้างมีดหมอ ส่วนตำรากุมารทองทำตามนั้นได้เลย ไม่หวงวิชาเลย ท่านใส่ไว้ให้หมดเลย ขุนแผนพาพวกเดนคุกไป ๓๕ คน ตั้งกองทัพลงไป เสกข้าวสารกลายเป็นกองทัพมาแทน ค่ายคูประตูหอรบก็ไม่เห็นมีอะไร ตัดกิ่งอ้อมาปัก ๆ แค่ไม่กี่อัน คือให้มีวัตถุเป็นเครื่องโยงหน่อย ‘พอแม่ทัพจับซัดข้าวสารปร๋อ แขมอ้อกลายไปเป็นไม้แก่น’ แน่นเสียยิ่งกว่าค่ายจริง ๆ"

เถรี
28-03-2020, 22:16
ถาม : ไม่จำเป็นต้องถึงกับเอาธาตุมาทำหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : แค่อาศัยหน่อยเดียว ไม่ต้องมาก ก็แบบเดียวกับ ‘พลายงามตัวเอกเสกก้อนดิน นกหายกลายปลิ้นไปเป็นช้าง’ อย่างน้อยก็อาศัยปฐวีธาตุหน่อย

ถาม : ที่เหลือนั่นคู่ต่อสู้เห็นไปเองหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ไอ้นั่นของจริงเลยนะ มาเป็นตัว ๆ เลย ‘ขุนแผนหายกลายกลับเป็นเสือโคร่ง เขี้ยวโง้งโดดหลอกกลอกกลับ ล่อควายบ่ายมาหน้าที่ประทับ ตบขวับขวิดผึงทะลึ่งลอย’ ไม่ใช่แค่คู่ต่อสู้เห็น แต่คนทั้งสนามเป็นหมื่นเป็นพันเห็นเหมือนกัน แบบเดียวกับหลวงพ่อดอกไม้ วัดดอนเจดีย์ ลูกศิษย์หลวงปู่ยิ้ม เสกควายธนูนี่ประเภทวิ่งให้เห็นเป็นตัว ๆ เลย

เถรี
28-03-2020, 22:18
ถาม : แล้วจะให้คืนเหมือนเดิม ?
ตอบ : เขามีคาถาถอน คาถาย้อน

ถาม : แล้วถ้าคนเดียวสามารถเอาชนะทั้งกองทัพได้ไหมคะ ?
ตอบ : หลวงปู่ศุขบอกเสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ ว่า “ถ้าศึกเสือเหนือใต้มาแล้วบพิตรคิดว่ารับไม่ไหว ขอให้แจ้งมา อาตมาจะสึกสักพักหนึ่ง” แล้วท่านก็แสดงให้ดู ใช้ปืนคาบศิลายิงไปนัดเดียวโดนใบบัวทั้งสระ นั่นคือกระสุนคด นัดเดี๋ยวก็กวาดหมดกองทัพแล้ว ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก

เถรี
28-03-2020, 22:37
ถาม : ตอนนี้หลายวัดงดเว้นจัดกิจกรรมปฏิบัติธรรม เพราะสถานการณ์โควิด จะทำอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ก็ทำที่บ้านได้นี่หว่า..ถ้ามัวแต่รอพึ่งพิงคนอื่นก็เอาตัวไม่รอด ต้องยืนหยัดให้ได้ด้วยตัวเอง

เถรี
28-03-2020, 22:44
ถาม : สมัยที่มีโรคระบาดที่เมืองเวสาลี แล้วพระพุทธเจ้าให้พระอานนท์สวดมนต์บทหนึ่งเพื่อทำน้ำมนต์ แล้วก็เทไปในแม่น้ำ ?
ตอบ : อย่าเพี้ยน...เอาไปพรม ไม่ได้เอาไปเท

ถ้าได้พระขนาดพระอานนท์มาทำน้ำมนต์จะขลังมาก เพราะว่ารตนสูตรนั้นอ้างคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยตลอด บุคคลที่เข้าถึงความเป็นพระโสดาบันขึ้นไป ความเคารพในคุณพระรัตนตรัยจะแน่นแฟ้นไม่คลอนคลาย เห็นคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จริง ในเมื่อเอ่ยอ้างขึ้นมา เชื่อถือได้ มั่นใจได้จริง ๆ อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ก็เลยเกิดขึ้น

ถ้าอย่างพวกเรานะหรือ ? ท่องเพราะหวังจะรอด เพราะฉะนั้น..ในเมื่อศรัทธาไม่เท่ากันก็ลำบากหน่อย

เถรี
28-03-2020, 22:44
:cebollita_onion-17::cebollita_onion-17: เก็บตกเดือนมีนาคม ๒๕๖๓ หมดแล้วค่ะ :cebollita_onion-17::cebollita_onion-17:
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี เผือกน้อย นายกระรอก และทะเล