เถรี
20-01-2016, 19:58
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นการปฏิบัติธรรมวันแรกของปีใหม่ แต่ว่าล่วงเลยมาจนถึงวันศุกร์ที่ ๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เนื่องเพราะว่าอาทิตย์แรกติดงานสวดมนต์ข้ามปีและบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุน
ปีใหม่พวกเรามักจะถือว่าเป็นวาระพิเศษ ในที่นี้ก็อยากจะให้ทุกท่านใช้วาระพิเศษในการทบทวนดูว่า ตลอดระยะเวลา ๑ ปีที่ผ่านมา การปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา ของเรานั้น มีความก้าวหน้าหรือไม่ ? อย่างไร ? การทบทวนนั้นจัดอยู่ในวิมังสาของอิทธิบาทธรรม คือการไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอว่า เราทำอะไร ? เพื่ออะไร ? ปัจจุบันนี้เรายืนอยู่ในจุดไหน ? ยังตรงต่อเป้าหมายอยู่หรือไม่ ? เหลือระยะทางห่างไกลจากเป้าหมายสักเท่าใด ? จำต้องเร่งรัดเร่งรุดไปให้ถึงเป้าหมายในระยะเวลาที่จำกัดสักเท่าไร ? เป็นต้น
ซึ่งในปัจจุบันนี้ทฤษฎีของฝรั่งต่าง ๆ ก็ได้นำเข้าไปใช้ในระบบของการบริหารองค์กร บริหารบุคคล โดยใช้ว่าการสรุปและประเมินผล ซึ่งก็คือหลักวิมังสา ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสให้พุทธบริษัททั้งหลาย สรุปและประเมินผลตนเองมาตั้ง ๒,๕๐๐ กว่าปีแล้ว และในส่วนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ก็ไม่ใช่ว่าปีหนึ่งมาประเมินครั้งหนึ่ง หรือครึ่งปีประเมินครั้งหนึ่ง ๓ เดือนประเมินครั้งหนึ่งเหมือนบริษัทห้างร้านในปัจจุบัน แต่ของพระองค์ท่านอย่างน้อย ๆ ต้องประเมินด้วยการทบทวนตนเองอยู่เสมอ ๆ ภายในรอบ ๑ วันกับ ๑ คืน อย่างน้อยก็ต้องประเมินตนเอง ๒ ครั้ง ก็คือก่อนนอนกับตื่น
ก่อนนอน คือ ทบทวนว่าวันนี้เรามีศีลสิกขาบทไหนขาดตกบกพร่อง หรือบริสุทธิ์บริบูรณ์อย่างไรบ้าง ? เราได้ละเมิดศีลด้วยตนเองหรือไม่ ? เรายุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีลหรือไม่ ? เรายินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีลหรือไม่ ? ถ้าข้อไหนขาดตกบกพร่อง ให้ตั้งใจว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะรักษาประคับประคองรักษาศีลของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์
วันนี้เป็นการปฏิบัติธรรมวันแรกของปีใหม่ แต่ว่าล่วงเลยมาจนถึงวันศุกร์ที่ ๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เนื่องเพราะว่าอาทิตย์แรกติดงานสวดมนต์ข้ามปีและบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุน
ปีใหม่พวกเรามักจะถือว่าเป็นวาระพิเศษ ในที่นี้ก็อยากจะให้ทุกท่านใช้วาระพิเศษในการทบทวนดูว่า ตลอดระยะเวลา ๑ ปีที่ผ่านมา การปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา ของเรานั้น มีความก้าวหน้าหรือไม่ ? อย่างไร ? การทบทวนนั้นจัดอยู่ในวิมังสาของอิทธิบาทธรรม คือการไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอว่า เราทำอะไร ? เพื่ออะไร ? ปัจจุบันนี้เรายืนอยู่ในจุดไหน ? ยังตรงต่อเป้าหมายอยู่หรือไม่ ? เหลือระยะทางห่างไกลจากเป้าหมายสักเท่าใด ? จำต้องเร่งรัดเร่งรุดไปให้ถึงเป้าหมายในระยะเวลาที่จำกัดสักเท่าไร ? เป็นต้น
ซึ่งในปัจจุบันนี้ทฤษฎีของฝรั่งต่าง ๆ ก็ได้นำเข้าไปใช้ในระบบของการบริหารองค์กร บริหารบุคคล โดยใช้ว่าการสรุปและประเมินผล ซึ่งก็คือหลักวิมังสา ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสให้พุทธบริษัททั้งหลาย สรุปและประเมินผลตนเองมาตั้ง ๒,๕๐๐ กว่าปีแล้ว และในส่วนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ก็ไม่ใช่ว่าปีหนึ่งมาประเมินครั้งหนึ่ง หรือครึ่งปีประเมินครั้งหนึ่ง ๓ เดือนประเมินครั้งหนึ่งเหมือนบริษัทห้างร้านในปัจจุบัน แต่ของพระองค์ท่านอย่างน้อย ๆ ต้องประเมินด้วยการทบทวนตนเองอยู่เสมอ ๆ ภายในรอบ ๑ วันกับ ๑ คืน อย่างน้อยก็ต้องประเมินตนเอง ๒ ครั้ง ก็คือก่อนนอนกับตื่น
ก่อนนอน คือ ทบทวนว่าวันนี้เรามีศีลสิกขาบทไหนขาดตกบกพร่อง หรือบริสุทธิ์บริบูรณ์อย่างไรบ้าง ? เราได้ละเมิดศีลด้วยตนเองหรือไม่ ? เรายุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีลหรือไม่ ? เรายินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีลหรือไม่ ? ถ้าข้อไหนขาดตกบกพร่อง ให้ตั้งใจว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะรักษาประคับประคองรักษาศีลของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์