เถรี
26-08-2015, 10:22
ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เราถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ที่ ๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ จะขอกล่าวต่อจากวันก่อนในเรื่องของการทรงฌาน เรื่องของฌานสมาบัติทุกระดับ เราจะทิ้งอานาปานสติคือลมหายใจเข้าออกไม่ได้ เมื่อลมหายใจเข้าออกของเราเริ่มทรงตัว สมาธิจะแนบแน่นขึ้นทีละน้อย จนกระทั่งผ่านปีติ ผ่านสุข เข้าสู่เอกัคตารมณ์ เราก็จะทรงปฐมฌานเอาไว้ได้ดังที่ได้กล่าวไปเมื่อวาน
ถ้าเราตามดูตามรู้ลมหายใจเข้าออกของเราต่อไป เราจะรู้สึกว่าเสียงต่าง ๆ รอบข้างของเราเบาลง บางทีลมหายใจก็เบาลง ใครที่ความรู้สึกหยาบหน่อยก็จะรู้สึกว่าลมหายใจหายไปด้วย คำภาวนาหายไปด้วย ถ้าเป็นอาการอย่างนี้แสดงว่าท่านกำลังก้าวเข้าสู่ฌานที่ ๒
ถ้าเราไม่ยินดียินร้าย กำหนดรู้อาการนั้นเอาไว้ ไม่ดิ้นรนให้กลับไปในสภาพเดิม และไม่อยากให้เป็นเช่นนี้ ทำกำลังใจเบา ๆ สบาย ๆ เหมือนกับเป็นคนดู ตามดูตามรู้อาการของตนไป ก็จะเกิดอาการขึ้นกับทางร่างกาย คือบางคนถ้าความรู้สึกละเอียดก็จะรู้สึกว่าบริเวณปาก จมูกหรือคาง เย็นเป็นวงกลมเข้ามา แล้วความเย็นนั้นก็ขยายกว้างออกไป ๆ จนรู้สึกเหมือนกับร่างกายนี้โดนสาปให้กลายเป็นหิน หรือบางคนจะรู้สึกเหมือนโดนเชือกมัดตั้งแต่ศีรษะจนสุดปลายเท้า แข็งตึงไปทั้งร่าง ถ้ามาจนถึงช่วงนี้ลมหายใจเราอาจจะจับไม่ได้แล้ว คำภาวนาไม่มีแล้ว อย่ากลัวที่เป็นเช่นนั้น และอย่าอยากให้เป็นเช่นนั้น ตามดูตามรู้ว่าสภาพร่างกายของเราตอนนี้เป็นอย่างนี้ สภาพจิตใจของเราตอนนี้เป็นอย่างนี้ ถ้าอยู่ในลักษณะอย่างนี้แปลว่าท่านก้าวเข้าสู่อาการของฌานที่ ๓
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ที่ ๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ จะขอกล่าวต่อจากวันก่อนในเรื่องของการทรงฌาน เรื่องของฌานสมาบัติทุกระดับ เราจะทิ้งอานาปานสติคือลมหายใจเข้าออกไม่ได้ เมื่อลมหายใจเข้าออกของเราเริ่มทรงตัว สมาธิจะแนบแน่นขึ้นทีละน้อย จนกระทั่งผ่านปีติ ผ่านสุข เข้าสู่เอกัคตารมณ์ เราก็จะทรงปฐมฌานเอาไว้ได้ดังที่ได้กล่าวไปเมื่อวาน
ถ้าเราตามดูตามรู้ลมหายใจเข้าออกของเราต่อไป เราจะรู้สึกว่าเสียงต่าง ๆ รอบข้างของเราเบาลง บางทีลมหายใจก็เบาลง ใครที่ความรู้สึกหยาบหน่อยก็จะรู้สึกว่าลมหายใจหายไปด้วย คำภาวนาหายไปด้วย ถ้าเป็นอาการอย่างนี้แสดงว่าท่านกำลังก้าวเข้าสู่ฌานที่ ๒
ถ้าเราไม่ยินดียินร้าย กำหนดรู้อาการนั้นเอาไว้ ไม่ดิ้นรนให้กลับไปในสภาพเดิม และไม่อยากให้เป็นเช่นนี้ ทำกำลังใจเบา ๆ สบาย ๆ เหมือนกับเป็นคนดู ตามดูตามรู้อาการของตนไป ก็จะเกิดอาการขึ้นกับทางร่างกาย คือบางคนถ้าความรู้สึกละเอียดก็จะรู้สึกว่าบริเวณปาก จมูกหรือคาง เย็นเป็นวงกลมเข้ามา แล้วความเย็นนั้นก็ขยายกว้างออกไป ๆ จนรู้สึกเหมือนกับร่างกายนี้โดนสาปให้กลายเป็นหิน หรือบางคนจะรู้สึกเหมือนโดนเชือกมัดตั้งแต่ศีรษะจนสุดปลายเท้า แข็งตึงไปทั้งร่าง ถ้ามาจนถึงช่วงนี้ลมหายใจเราอาจจะจับไม่ได้แล้ว คำภาวนาไม่มีแล้ว อย่ากลัวที่เป็นเช่นนั้น และอย่าอยากให้เป็นเช่นนั้น ตามดูตามรู้ว่าสภาพร่างกายของเราตอนนี้เป็นอย่างนี้ สภาพจิตใจของเราตอนนี้เป็นอย่างนี้ ถ้าอยู่ในลักษณะอย่างนี้แปลว่าท่านก้าวเข้าสู่อาการของฌานที่ ๓