เถรี
02-11-2013, 11:44
ขอให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้เฉพาะหน้า คืออยู่กับลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะกำหนดเป็นฐานเดียว สามฐาน เจ็ดฐาน ก็ตามที่เราถนัด จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ตามที่เคยทำมาก่อน
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ วันนี้มีญาติโยมถามในเรื่องของการเจริญสมาธิว่า ในแต่ละช่วงอารมณ์มีลักษณะอย่างไร ? การที่เราเจริญสมาธิภาวนานั้น ถ้าสามารถกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกพร้อมกับคำภาวนาได้ เรียกว่า อุปจารสมาธิ
ถ้าท่านทั้งหลายตามดูตามรู้ลมหายใจเข้าออกจนกระทั่งลมหายใจเริ่มทรงตัว คราวนี้ก็จะมีความรู้สึกสนใจอยู่แต่ลมหายใจเท่านั้น ตาเห็นรูปก็ไม่วอกแวกไปสนใจ หูได้ยินเสียงก็ไม่วอกแวกไปสนใจภายนอก ถ้าอาการอย่างนี้แสดงว่าจิตของท่านเริ่มเข้าสู่ความเป็นฌานที่ ๑ คือปฐมฌานแล้ว
แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วจะมีอยู่ระยะหนึ่ง ที่จะรู้สึกเหมือนกับตนเองง่วง โงก แล้วก็ตกวูบลงมาจากที่สูง บางคนก็ถึงกับสะดุ้ง หลุดออกจากการภาวนา อาการอย่างนั้นเป็นลักษณะของสมาธิจิตที่จะเริ่มทรงตัวเป็นปฐมฌาน แต่ว่าสติขาด ทำให้ตามสมาธิไม่ทัน จึงเกิดอาการที่เรียกว่า "พลัดออกจากฌาน" เมื่อพลัดตกลงมาจากฌาน อาการจึงวูบเหมือนกับตกจากที่สูง มีบางท่านกลัว ไม่กล้าเจริญกรรมฐานต่อไปก็มี
ถ้าอารมณ์ใจของท่านทั้งหลายเริ่มทรงตัวเป็นปฐมฌาน ตาเห็นรูปก็ไม่สนใจ ถึงมีคนเคลื่อนไหวอยู่เป็นจำนวนมากรอบข้าง ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ จดจ่ออยู่กับแต่ลมหายใจเท่านั้น หูได้ยินเสียงต่อให้เสียงดังแค่ไหนก็ไม่สนใจ เพราะว่ากำลังจดจ่อแน่วแน่อยู่กับลมหายใจเข้าออกของตนเอง
ถ้ากำลังใจของเราปักมั่นทรงตัวอยู่กับลมหายใจและคำภาวนาอย่างนี้ไประยะหนึ่ง จะมีความรู้สึกเหมือนกับว่าลมหายใจนั้นเบาลง หรือถ้ากำลังใจหยาบหน่อย จะรู้สึกว่าลมหายใจขาดหายไปเลยก็มี บางครั้งคำภาวนาก็ขาดหายไปด้วย อาการอย่างนี้คือการที่เราเริ่มก้าวเข้าสู่ทุติยฌาน คือ ฌานที่สอง
ถ้าเราไม่ตกใจไปควานหาลมหายใจใหม่ หรือรู้สึกว่าเราจับลมหายใจอยู่แล้วไม่หายใจ เราก็รีบกลับไปหาลมหายใจใหม่ ถ้าเราไม่ได้ทำดังนั้น กำลังใจของเราก็จะก้าวต่อไปข้างหน้า แต่ถ้าเราวิ่งกลับไปหาลมหายใจใหม่แปลว่าเราก้าวถอยหลัง เหมือนกับก้าวขึ้นบันไดไปแล้ว แล้วก็ย้อนลงกลับไปหาพื้นใหม่
ถ้าท่านทั้งหลายไม่ได้ตกใจกับอาการที่ลมหายใจหายไป คำภาวนาหายไป กำหนดใจดูอยู่ว่าตอนนี้อาการเป็นอย่างนั้น สักแต่ว่ารับรู้ไว้เฉย ๆ กำลังใจก็จะดิ่งลึกเข้าไปอีก ก็จะมีอาการเหมือนกับตัวแน่นขึ้น ๆ บางทีก็รู้สึกตึงไปทั้งตัว แข็งไปทั้งตัว เหมือนกับโดนมัดติดกับหลักตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า บางท่านก็รู้สึกเหมือนกับปลายมือปลายเท้าเย็นเข้ามา ๆ จนแข็งไปทั้งตัว เหมือนโดนสาปให้เป็นหินไปก็มี ถ้าอาการอย่างนี้เกิดขึ้นให้ทุกท่านทราบว่า เป็นอาการของการเริ่มก้าวเข้าสู่ตติยฌาน คือระดับสมาธิของฌาน ๓ แล้ว
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ วันนี้มีญาติโยมถามในเรื่องของการเจริญสมาธิว่า ในแต่ละช่วงอารมณ์มีลักษณะอย่างไร ? การที่เราเจริญสมาธิภาวนานั้น ถ้าสามารถกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกพร้อมกับคำภาวนาได้ เรียกว่า อุปจารสมาธิ
ถ้าท่านทั้งหลายตามดูตามรู้ลมหายใจเข้าออกจนกระทั่งลมหายใจเริ่มทรงตัว คราวนี้ก็จะมีความรู้สึกสนใจอยู่แต่ลมหายใจเท่านั้น ตาเห็นรูปก็ไม่วอกแวกไปสนใจ หูได้ยินเสียงก็ไม่วอกแวกไปสนใจภายนอก ถ้าอาการอย่างนี้แสดงว่าจิตของท่านเริ่มเข้าสู่ความเป็นฌานที่ ๑ คือปฐมฌานแล้ว
แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วจะมีอยู่ระยะหนึ่ง ที่จะรู้สึกเหมือนกับตนเองง่วง โงก แล้วก็ตกวูบลงมาจากที่สูง บางคนก็ถึงกับสะดุ้ง หลุดออกจากการภาวนา อาการอย่างนั้นเป็นลักษณะของสมาธิจิตที่จะเริ่มทรงตัวเป็นปฐมฌาน แต่ว่าสติขาด ทำให้ตามสมาธิไม่ทัน จึงเกิดอาการที่เรียกว่า "พลัดออกจากฌาน" เมื่อพลัดตกลงมาจากฌาน อาการจึงวูบเหมือนกับตกจากที่สูง มีบางท่านกลัว ไม่กล้าเจริญกรรมฐานต่อไปก็มี
ถ้าอารมณ์ใจของท่านทั้งหลายเริ่มทรงตัวเป็นปฐมฌาน ตาเห็นรูปก็ไม่สนใจ ถึงมีคนเคลื่อนไหวอยู่เป็นจำนวนมากรอบข้าง ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ จดจ่ออยู่กับแต่ลมหายใจเท่านั้น หูได้ยินเสียงต่อให้เสียงดังแค่ไหนก็ไม่สนใจ เพราะว่ากำลังจดจ่อแน่วแน่อยู่กับลมหายใจเข้าออกของตนเอง
ถ้ากำลังใจของเราปักมั่นทรงตัวอยู่กับลมหายใจและคำภาวนาอย่างนี้ไประยะหนึ่ง จะมีความรู้สึกเหมือนกับว่าลมหายใจนั้นเบาลง หรือถ้ากำลังใจหยาบหน่อย จะรู้สึกว่าลมหายใจขาดหายไปเลยก็มี บางครั้งคำภาวนาก็ขาดหายไปด้วย อาการอย่างนี้คือการที่เราเริ่มก้าวเข้าสู่ทุติยฌาน คือ ฌานที่สอง
ถ้าเราไม่ตกใจไปควานหาลมหายใจใหม่ หรือรู้สึกว่าเราจับลมหายใจอยู่แล้วไม่หายใจ เราก็รีบกลับไปหาลมหายใจใหม่ ถ้าเราไม่ได้ทำดังนั้น กำลังใจของเราก็จะก้าวต่อไปข้างหน้า แต่ถ้าเราวิ่งกลับไปหาลมหายใจใหม่แปลว่าเราก้าวถอยหลัง เหมือนกับก้าวขึ้นบันไดไปแล้ว แล้วก็ย้อนลงกลับไปหาพื้นใหม่
ถ้าท่านทั้งหลายไม่ได้ตกใจกับอาการที่ลมหายใจหายไป คำภาวนาหายไป กำหนดใจดูอยู่ว่าตอนนี้อาการเป็นอย่างนั้น สักแต่ว่ารับรู้ไว้เฉย ๆ กำลังใจก็จะดิ่งลึกเข้าไปอีก ก็จะมีอาการเหมือนกับตัวแน่นขึ้น ๆ บางทีก็รู้สึกตึงไปทั้งตัว แข็งไปทั้งตัว เหมือนกับโดนมัดติดกับหลักตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า บางท่านก็รู้สึกเหมือนกับปลายมือปลายเท้าเย็นเข้ามา ๆ จนแข็งไปทั้งตัว เหมือนโดนสาปให้เป็นหินไปก็มี ถ้าอาการอย่างนี้เกิดขึ้นให้ทุกท่านทราบว่า เป็นอาการของการเริ่มก้าวเข้าสู่ตติยฌาน คือระดับสมาธิของฌาน ๓ แล้ว