PDA

View Full Version : เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕


เถรี
12-06-2012, 18:07
ให้ทุกคนขยับตัวนั่งในท่าที่สบายของเราจ้ะ ตั้งกายให้ตรงเอาไว้ เพื่อให้ลมหายใจของเราเดินได้สะดวก จากนั้นก็เอาความรู้สึกทั้งหมดของเรา ผูกอยู่กับลมหายใจ หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา ใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เราเคยมีความถนัด หรือมีความชำนาญมาก่อน

สำหรับวันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๕ ยังอยู่ในช่วงสัปดาห์วันวิสาขบูชา ซึ่งเมื่อวานได้กล่าวไปแล้วว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ทรงลำบากตรากตรำพระวรกาย ๖ ปีเต็ม ๆ เพื่อแสวงหาโมกขธรรม แล้วในที่สุด..ด้วยความมุ่งมั่น แน่วแน่ ไม่ท้อถอย พระองค์ท่านก็ตรัสรู้ธรรมในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี

องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นตัวอย่าง ตลอดระยะเวลา ๔๕ ปีที่เผยแผ่ธรรมะนั้น องค์สมเด็จพระภควันต์ไม่เคยละเว้นจากพุทธกิจทั้ง ๕ ประการเลย

ตามบาลีที่ว่า “ปุพพัณเห ปิณฑปาตัญ จะ” เช้าขึ้นมาก็เสด็จออกบิณฑบาต การบิณฑบาตขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น มีเป้าหมายเป็นการเฉพาะ เนื่องจากพระองค์ได้ตรวจดูอุปนิสัยของสัตว์โลกแล้ว ว่าจะเสด็จไปโปรดใคร ระยะทางบางทีก็ใกล้ บางทีก็ไกล บางทีถึงขนาดข้ามประเทศหลาย ๆ ประเทศเลยก็มี

“สายัณเห ธัมมเทสนัง” ตอนบ่ายจะเป็นการแสดงธรรมโปรดพุทธบริษัททั้งหลาย ที่พร้อมใจกันไปฟังธรรมยังสถานที่ซึ่งพระองค์ท่านประทับอยู่

“ปโทเส ภิกขุโอวาทัง” เวลาค่ำลงมาก็ให้โอวาสพระภิกษุ ภิกษุณี สามเณร สามเณรี สิกขมานา ผู้ใดมีข้อสงสัยในข้อธรรมใด พระองค์ท่านก็จะชี้แจงให้ ผู้ใดติดขัดในการปฏิบัติตรงไหน พระองค์ท่านก็จะบอกทางให้

“อัฒฑรัตเต เทวปัญหะนัง” เมื่อเที่ยงคืนไปแล้ว พ้นจากภาระการดูแลสั่งสอนภิกษุ ภิกษุณี สามเณร สามเณรี สิกขมานาแล้ว ก็ต้องมาคอยแก้ไขปัญหาให้แก่พรหมเทวดา ที่ลงมาทูลถามปัญหาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา

“ปัจจุเสว คเตกาเล ภัพพาภัพเพ วิโลกะนัง” เมื่อเวลาใกล้รุ่ง ก็ทรงตรวจอุปนิสัยสัตว์โลก เพื่อจะได้รู้ว่าผู้ใดสมควรแก่การเสด็จไปสงเคราะห์ในวันนี้

เถรี
13-06-2012, 16:12
เราจะเห็นได้ว่า พุทธกิจ ๕ ประการนั้น แทบจะครอบคลุมเวลาทั้งกลางวันและกลางคืนทั้งหมด สมมติว่าพระองค์ท่านแก้ไขปัญหาของพรหมเทวดาในช่วงเที่ยงคืน ถ้าหากว่าพรหมเทวดารบกวนพระองค์ท่าน ๒ ชั่วโมง ก็แปลว่ากว่าพระองค์จะได้บรรทมหรือนอนอย่างพวกเราก็ตกตี ๒ แล้ว

“ปัจจุเสว คเตกาเล ภัพพาภัพเพ วิโลกะนัง” ใกล้รุ่งก็ลุกขึ้นตรวจอุปนิสัยสัตว์โลกอีกแล้ว ถ้าเราถือใกล้รุ่งว่าเป็นตี ๕ ก็แปลว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพักผ่อนพระวรกายน้อยเหลือเกิน จากตี ๒ ถึงตี ๕ เท่านั้น องค์สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญพุทธกิจนี้ตลอดชีวิตของพระองค์ คือตั้งแต่วันที่ตรัสรู้แล้วเสด็จไปโปรดปัญจวัคคีย์ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่เคยขาดพุทธกิจทั้ง ๕ ประการนี้เลย

การบิณฑบาตก็รับบิณฑบาตจนถึงวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพ คือรับบิณฑบาตที่บ้านนายจุนทะ การตรัสสั่งสอนประชาชน พระองค์ท่านก็สอนจนวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพ ก็คือสอนแก่สุภัททปริพาชกจนบรรลุอรหัตผลทัน แม้กระทั่งวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพยังประทานปัจฉิมโอวาทแก่ภิกษุสามเณรทั้งหลายว่า ขะยะวะยะ ธัมมา สังขารา สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ ขอเธอทั้งหลายจงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยเถิด

ก็แปลว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ได้บำเพ็ญพระองค์เป็นตัวอย่าง กระทำด้วยความเชื่อมั่น ศรัทธา แน่วแน่ต่อเป้าหมาย ไม่เคยท้อถอย แม้ว่าบางครั้งพระองค์ท่านจะต้องไปโปรดบุคคลเพียงคนเดียวในระยะทางที่ยาวไกล แต่ก็มิได้ย่อท้อ การแสดงธรรมของพระองค์นั้น อย่างการแสดงธรรมแก่พระเจ้าพิมพิสาร ปรากฏว่าพระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยจตุรงคเสนาจำนวน ๑ แสน ๑ หมื่นคน เข้าถึงพระอริยเจ้าคือพระโสดาบัน อีก ๑ หมื่นคนปฏิญาณตนนับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

กับการที่เสด็จไปโปรดบางคนเป็นเฉพาะคนเท่านั้น อย่างเช่น ไปโปรดเปสการีธิดา ลูกสาวนายช่างหูก เป็นต้น องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า การแสดงธรรมโปรดบุคคลของพระองค์ท่าน เปรียบเหมือนกับการล่าเหยื่อของพญาราชสีห์ ไม่ว่าเหยื่อนั้นจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ พญาราชสีห์จะทุ่มเทสุดกำลังเหมือนกัน ก็แปลว่าจะต้องหวังผลในการล่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเมื่อไร ต้องหวังผลแล้วว่าบุคคลไหนจะได้มรรคผล หรือว่าประโยชน์จากพระธรรมเทศนานั้น ๆ

เถรี
14-06-2012, 16:26
องค์สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า บำเพ็ญพระองค์เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน นักปฏิบัติที่ดีต้องกินน้อย นอนน้อย ปฏิบัติให้มาก แต่ว่าการกินน้อย นอนน้อย ปฏิบัติให้มากนั้น สังขารร่างกายของบางคนก็ไม่อำนวย เราต้องปรับให้เหมาะสมแก่ธาตุขันธ์ของตน ว่าในแต่ละวันเราจะประพฤติปฏิบัติเป็นระยะเวลากี่ชั่วโมง เวลาไหนควรจะภาวนา เวลาไหนควรจะเดินจงกรม เวลาไหนที่ควรจะทำวัตรสวดมนต์ เป็นต้น เมื่อเราแบ่งเวลาได้ถูก ถึงเวลาถ้ากำลังใจฟุ้งซ่าน เราแค่นึกถึงความดีที่เราได้ทำมา แล้วจิตใจก็จะสงบลงในระยะเวลาอันรวดเร็ว

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้มาครบ ๒,๖๐๐ ปี ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วทรงประทานพระธรรมที่พระองค์ท่านตรัสรู้ ไว้เป็นเครื่องนำพวกเราให้พ้นจากภัยในวัฏสงสาร พวกเราที่หลงอยู่ในสถานที่อันมืดมิด เปรียบเหมือนดั่งคนตาบอด เมื่อพระองค์ท่านยื่นดวงประทีปคือแสงสว่างให้แก่พวกเรา ก็ควรที่พวกเราทั้งหลายจะเร่งรุดเดินทาง เพื่อให้พ้นไปจากความมืดมิดนี้ ไปสู่แสงสว่างเช่นเดียวกับที่พระองค์ท่านได้ไปถึงแล้ว

เมื่อเป็นดังนั้น..พวกเราทุกคนจึงจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามในสิ่งที่พระองค์ท่านเมตตาตรัสสอนไว้ คือ ศีล สมาธิ และปัญญา ในแต่ละวันเราต้องทบทวนว่า ศีลแต่ละสิกขาบทของเราบริสุทธิ์บริบูรณ์หรือไม่ ? เรายังละเมิดศีลด้วยตัวเอง ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล หรือยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีลหรือไม่ ? ถ้าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่มีในจิตในใจของเรา ก็แปลว่าเราสามารถที่จะปฏิบัติในกติกาข้อแรกของความเป็นพระโสดาบันได้แล้ว

ข้อต่อไป คือ ต้องเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างจริงใจ เราก็เห็นแล้วว่าองค์สมเด็จพระประทีปแก้วของเรานั้น เสด็จไปโปรดสงเคราะห์ผู้คน ไม่ว่าจะที่ใกล้ที่ไกลโดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก ไม่เห็นแก่ความชราภาพของพระวรกาย องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงหวังผล คือประโยชน์และความสุขของสัตว์โลกทั้งหลาย หวังผลเพื่อประโยชน์และความสุขของพวกเราทั้งหลายทั้งสิ้น

เมื่อเป็นดังนั้นองค์สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การเคารพ ควรค่าแก่การเลื่อมใส ธรรมะของพระองค์ท่านนั้น เป็นสิ่งที่ปฏิบัติแล้วได้ผลจริง เราจึงควรให้ความเคารพในพระธรรม พระสงฆ์สาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ศึกษาเรียนรู้ในหลักธรรมนั้น เมื่อรู้แล้วก็นำมาบอกกล่าว นำมาสั่งสอนแก่ประชาชนสืบต่อไป พระสงฆ์จึงเป็นบุคคลที่ควรแก่การเคารพบูชาอีกส่วนหนึ่ง เมื่อเป็นดังนี้เราก็มีความเคารพในพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง

เถรี
16-06-2012, 08:29
ก็เหลือแต่ใช้ปัญญาเพิ่มเติมไปว่า ชีวิตนี้ก้าวเข้าไปหาความตายเป็นปกติ ถ้าหากว่าเราตายลงไปเพราะหมดอายุขัยหรืออุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ก็ตาม เราปรารถนาที่จะไปพระนิพพานแห่งเดียว

เมื่อกำหนดกำลังใจของเรามาถึงจุดนี้แล้ว ก็ให้เอากำลังใจเกาะพระนิพพานให้มั่นคงไว้ ถ้าใครสามารถยกจิตขึ้นไปกราบพระบนพระนิพพานได้ ก็ให้ยกจิตขึ้นไปกราบพระข้างบน ถ้าหากว่าใครสามารถกำหนดภาพพระได้ ให้กำหนดภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เรารักเราชอบมากที่สุด ว่านั่นเป็นพระพุทธนิมิตแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เราเห็นท่านคือเรานั่งอยู่ใกล้ท่าน เราอยู่ใกล้ท่านก็คือเราอยู่บนพระนิพพาน

ให้รักษากำลังใจของเราเอาไว้ พร้อมกับใช้คำภาวนา หรือกำหนดภาพพระ หรือพระนิพพานตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้ยินสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๕

ชินเชาวน์
21-12-2013, 15:06
สามารถรับชมได้ที่

http://www.sapanboon.com/vdo/demo.php?filename=2555-06-02

ป.ล.
- สามารถชมบนไอโฟนและแอนดรอยด์ได้
- ห้ามคัดลอกไฟล์ไปเผยแพร่ที่อื่นเด็ดขาด !