เถรี
10-01-2012, 09:52
ทุกคนขยับนั่งในท่าที่สบายของตนเองจ้ะ เพียงแต่ว่าตั้งตัวให้ตรงไว้ กำหนดความรู้สึกทั้งหมดอยู่กับลมหายใจเข้าออกเฉพาะหน้าของเรา หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ตามที่เราชอบและเคยทำมา ใครเคยทำของเก่ามาอย่างไรให้ปฏิบัติตามนั้น เพราะว่าถ้าเราเปลี่ยนใหม่อยู่เรื่อย ๆ โอกาสที่จะก้าวหน้าก็มีน้อย เนื่องจากการปฏิบัติไม่ต่อเนื่องกัน
สำหรับวันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานวันแรกและครั้งแรกของปีใหม่นี้ ขึ้นปีใหม่แต่ละครั้ง เราก็มักจะมีความตั้งใจว่า จะทำอย่างนั้นจะทำอย่างนี้ อย่างเช่นบรรดาคนทั่ว ๆ ไป ก็อาจจะคิดว่า ปีใหม่เราจะเลิกกินเหล้า บางท่านก็ว่าปีใหม่จะเลิกเล่นหวย เป็นต้น นี่คือความตั้งใจของคนทั่วไป
ขณะเดียวกันนักปฏิบัติอย่างพวกเราก็อาจจะตั้งกำลังใจไว้ว่า ปีใหม่นี้เราจะตั้งใจรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์ ท่านใดที่รักษาศีลบริสุทธิ์อยู่แล้วก็อาจจะตั้งความหวังว่า เราจะไม่ยุยงส่งเสริมให้คนอื่นเขาละเมิดศีล และจะไม่ยินดีที่เห็นคนอื่นเขาละเมิดศีล หรือบางท่านตั้งเป้าไว้ว่า เราจะต้องทำสมาธิให้ทรงฌานให้ได้ในระดับใดระดับหนึ่ง เป็นต้น
เพียงแต่ว่าความตั้งใจของเรานั้น มักจะล้มเหลวเสียเกือบจะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นญาติโยมทั่วไปหรือว่านักปฏิบัติธรรม การที่เราล้มเหลวนั้น ต้องมาดูว่าเกิดจากสาเหตุอะไร สมมติว่าเราตั้งใจว่า จะภาวนาให้ทรงฌานระดับใดระดับหนึ่งให้ได้ภายในปีนี้ แต่ที่ล้มเหลวไม่เป็นไปตามนั้นก็เพราะว่า การปฏิบัติของเราไม่ต่อเนื่องตามกัน ทำแล้วมีเวลาเว้นว่างในแต่ละวันมากจนเกินไป ไม่ได้ประคับประคองกำลังใจของตนเองให้อยู่กับการภาวนาให้ต่อเนื่อง นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราไม่สามารถที่จะทรงฌานตามความตั้งใจได้
ลำดับต่อไปก็คือความบกพร่องในบารมี เนื่องจากกำลังใจของเราไม่เข้มแข็งเด็ดขาดพอ แปลว่าขาดสัจบารมี คือความจริงจังจริงใจของเรา ไม่ได้เข้มแข็งเด็ดขาด มุ่งมั่นอย่างที่ต้องการ ทำให้เมื่อถึงเวลาก็คลายจากความตั้งใจนั้น ๆ
ขาดอธิษฐานบารมี คือความมุ่งมั่นปักมั่นต่อเป้าหมายของตนเอง ในเมื่อจุดนี้บกพร่อง พอระยะเวลาทอดยาวไปนิดหนึ่ง ความตั้งใจนั้นก็จะเลือนหายไป
สำหรับวันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานวันแรกและครั้งแรกของปีใหม่นี้ ขึ้นปีใหม่แต่ละครั้ง เราก็มักจะมีความตั้งใจว่า จะทำอย่างนั้นจะทำอย่างนี้ อย่างเช่นบรรดาคนทั่ว ๆ ไป ก็อาจจะคิดว่า ปีใหม่เราจะเลิกกินเหล้า บางท่านก็ว่าปีใหม่จะเลิกเล่นหวย เป็นต้น นี่คือความตั้งใจของคนทั่วไป
ขณะเดียวกันนักปฏิบัติอย่างพวกเราก็อาจจะตั้งกำลังใจไว้ว่า ปีใหม่นี้เราจะตั้งใจรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์ ท่านใดที่รักษาศีลบริสุทธิ์อยู่แล้วก็อาจจะตั้งความหวังว่า เราจะไม่ยุยงส่งเสริมให้คนอื่นเขาละเมิดศีล และจะไม่ยินดีที่เห็นคนอื่นเขาละเมิดศีล หรือบางท่านตั้งเป้าไว้ว่า เราจะต้องทำสมาธิให้ทรงฌานให้ได้ในระดับใดระดับหนึ่ง เป็นต้น
เพียงแต่ว่าความตั้งใจของเรานั้น มักจะล้มเหลวเสียเกือบจะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นญาติโยมทั่วไปหรือว่านักปฏิบัติธรรม การที่เราล้มเหลวนั้น ต้องมาดูว่าเกิดจากสาเหตุอะไร สมมติว่าเราตั้งใจว่า จะภาวนาให้ทรงฌานระดับใดระดับหนึ่งให้ได้ภายในปีนี้ แต่ที่ล้มเหลวไม่เป็นไปตามนั้นก็เพราะว่า การปฏิบัติของเราไม่ต่อเนื่องตามกัน ทำแล้วมีเวลาเว้นว่างในแต่ละวันมากจนเกินไป ไม่ได้ประคับประคองกำลังใจของตนเองให้อยู่กับการภาวนาให้ต่อเนื่อง นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราไม่สามารถที่จะทรงฌานตามความตั้งใจได้
ลำดับต่อไปก็คือความบกพร่องในบารมี เนื่องจากกำลังใจของเราไม่เข้มแข็งเด็ดขาดพอ แปลว่าขาดสัจบารมี คือความจริงจังจริงใจของเรา ไม่ได้เข้มแข็งเด็ดขาด มุ่งมั่นอย่างที่ต้องการ ทำให้เมื่อถึงเวลาก็คลายจากความตั้งใจนั้น ๆ
ขาดอธิษฐานบารมี คือความมุ่งมั่นปักมั่นต่อเป้าหมายของตนเอง ในเมื่อจุดนี้บกพร่อง พอระยะเวลาทอดยาวไปนิดหนึ่ง ความตั้งใจนั้นก็จะเลือนหายไป