ลัก...ยิ้ม
05-09-2011, 09:28
สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ มีความสำคัญดังนี้
สาเหตุก็เพราะเพื่อนผมท่านฝันว่า ขณะที่กำลังกวาดวัดอยู่เป็นลมล้มลงตาย จิตออกจากร่างด้วยกำลังแรงสูง พุ่งออกจากกายเร็วมากจนนึกกลัว แต่พอตั้งสติได้ก็คิดว่า ช่างมันกายตายแล้ว เราก็ไปพระนิพพานดีกว่า จิตผ่านสถานที่ต่าง ๆ มากมาย แต่ไม่ยักถึงพระนิพพานเสียที จะได้ไปกราบพระพุทธเจ้า เมื่อไม่ถึงเสียทีก็คิดว่าช่างมัน ฉันต้องการไปพระนิพพานจุดเดียวก็แล้วกัน แล้วก็ตัดหลับไป เมื่อตื่นขึ้นกวาดวัดตามปกติ ก็เอาความฝันมาพิจารณาเป็นธรรมว่า
๑. เราอ่อนมรณานุสติไปหน่อย แสดงว่าเรายังเป็นผู้ประมาทในความตายอยู่
๒. กสิณภาพพระนิพพาน เราก็ยังไม่ทรงตัว จิตชอบทิ้งภาพพระนิพพาน จัดว่าเป็นผู้ประมาทในอุปสมานุสติด้วย
๓. ต้นเหตุจริง ๆ เพราะเราอ่อนในอานาปานุสติ ทำให้จิตไม่รวมตัวเป็นฌาณ นิวรณ์ ๕ ก็ยังรบกวนจิตเรา ทำปัญญาให้ถอยหลังคือชอบโง่นั่นเอง หากอานาปาฯ เข้มแข็ง นิวรณ์ถูกระงับ จิตก็เป็นฌาณ จิตก็บริสุทธิ์ชั่วคราว จิตเป็นทิพย์ได้ในขณะนั้น
สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ดังนี้
๑. “ถูกต้องแล้วเจ้า ที่การเจริญพระกรรมฐานไม่ได้ต่อเนื่อง ก็เป็นเพราะยังอ่อนมรณานุสติ มีความประมาทในชีวิตอยู่มากนั่นเอง”
๒. “แต่ถ้าหากกำหนดรู้ลมว่าไม่เที่ยงอยู่เสมอ จักทำอะไรก็รู้ลมอยู่ว่าไม่เที่ยงอยู่เสมอ ความประมาทในชีวิตก็จักน้อยลงไปตามลำดับ สติ-สัมปชัญญะก็จักสมบูรณ์ยิ่งขึ้น”
๓. “เมื่อรู้ว่าบกพร่อง ก็จงหมั่นใช้ความเพียรเข้าแก้ไข แล้วสักวันหนึ่งความสำเร็จจักเป็นของพวกเจ้า”
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๘
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com (http://www.tangnipparn.com)
สาเหตุก็เพราะเพื่อนผมท่านฝันว่า ขณะที่กำลังกวาดวัดอยู่เป็นลมล้มลงตาย จิตออกจากร่างด้วยกำลังแรงสูง พุ่งออกจากกายเร็วมากจนนึกกลัว แต่พอตั้งสติได้ก็คิดว่า ช่างมันกายตายแล้ว เราก็ไปพระนิพพานดีกว่า จิตผ่านสถานที่ต่าง ๆ มากมาย แต่ไม่ยักถึงพระนิพพานเสียที จะได้ไปกราบพระพุทธเจ้า เมื่อไม่ถึงเสียทีก็คิดว่าช่างมัน ฉันต้องการไปพระนิพพานจุดเดียวก็แล้วกัน แล้วก็ตัดหลับไป เมื่อตื่นขึ้นกวาดวัดตามปกติ ก็เอาความฝันมาพิจารณาเป็นธรรมว่า
๑. เราอ่อนมรณานุสติไปหน่อย แสดงว่าเรายังเป็นผู้ประมาทในความตายอยู่
๒. กสิณภาพพระนิพพาน เราก็ยังไม่ทรงตัว จิตชอบทิ้งภาพพระนิพพาน จัดว่าเป็นผู้ประมาทในอุปสมานุสติด้วย
๓. ต้นเหตุจริง ๆ เพราะเราอ่อนในอานาปานุสติ ทำให้จิตไม่รวมตัวเป็นฌาณ นิวรณ์ ๕ ก็ยังรบกวนจิตเรา ทำปัญญาให้ถอยหลังคือชอบโง่นั่นเอง หากอานาปาฯ เข้มแข็ง นิวรณ์ถูกระงับ จิตก็เป็นฌาณ จิตก็บริสุทธิ์ชั่วคราว จิตเป็นทิพย์ได้ในขณะนั้น
สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ดังนี้
๑. “ถูกต้องแล้วเจ้า ที่การเจริญพระกรรมฐานไม่ได้ต่อเนื่อง ก็เป็นเพราะยังอ่อนมรณานุสติ มีความประมาทในชีวิตอยู่มากนั่นเอง”
๒. “แต่ถ้าหากกำหนดรู้ลมว่าไม่เที่ยงอยู่เสมอ จักทำอะไรก็รู้ลมอยู่ว่าไม่เที่ยงอยู่เสมอ ความประมาทในชีวิตก็จักน้อยลงไปตามลำดับ สติ-สัมปชัญญะก็จักสมบูรณ์ยิ่งขึ้น”
๓. “เมื่อรู้ว่าบกพร่อง ก็จงหมั่นใช้ความเพียรเข้าแก้ไข แล้วสักวันหนึ่งความสำเร็จจักเป็นของพวกเจ้า”
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๘
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com (http://www.tangnipparn.com)