เถรี
07-07-2011, 20:58
ให้ทุกคนนั่งในท่าที่สบายของตัวเอง ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้เฉพาะหน้า หายใจเข้าออกยาว ๆ สัก ๒-๓ ครั้ง เป็นการระบายลมหยาบออกให้หมด หลังจากนั้นก็กำหนดรู้ลมหายใจตามปกติ
หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป ว่าตอนนี้ลมผ่านจมูก ผ่านกึ่งกลางอก ไปสุดที่ท้อง หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา ว่าตอนนี้ลมออกจากท้อง ผ่านกึ่งกลางอก มาสุดที่ปลายจมูก
สำหรับวันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานวันแรกของเดือนนี้ วันนี้มีญาติโยมหลายท่านมาทำบุญ พอสอบถามดูจึงทราบว่าเป็นวันหยุดประจำภาคของธนาคาร ทำให้ท่านทั้งหลายสามารถที่จะมาทำบุญในวันหยุดได้
วันหยุดประจำภาคของธนาคารนั้น ถือว่าเป็นวันหยุดของทางโลก ทำให้เราได้พักผ่อนหนึ่งวัน แต่ว่าการพักของเรานั้น เป็นการพักทางกาย ถ้าพักเฉพาะทางกายโดยที่ใจไม่ได้พัก เราจะรู้สึกว่าพักเท่าไรก็ไม่หายเหนื่อยเสียที เป็นความเหนื่อยลึก ๆ อยู่ข้างใน บางทีเหนื่อยล้าจนบอกไม่ถูก อยากจะนอนสัก ๓ วัน ๓ คืนก็ดี นั่นเป็นสาเหตุจากว่าใจของเราไม่ได้พัก ใจของเรานั้นคิดฟุ้งซ่านส่งส่ายอยู่ตลอดเวลาทั้งหลับและตื่น ทำให้ไม่มีเวลาพักเลย ดังนั้น..การที่จะให้ใจได้พักนั้น เราต้องรู้จักหยุด
สำหรับการที่จะหยุดกำลังใจนั้น ก็คือหยุดความคิดคำนึง หรือว่าหยุดอยู่กับปัจจุบัน การที่เราจะหยุดอยู่กับปัจจุบันนั้น สิ่งที่ดีที่สุดก็คืออยู่กับลมหายใจเข้าออกเฉพาะหน้า หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราเกาะอยู่กับลมหายใจ ไหลเข้าไป ผ่านอก ลงไปสุดที่ท้อง หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดอยู่กับลมหายใจ ไหลออกจากท้อง ผ่านกึ่งกลางอก มาสุดที่ปลายจมูก
ให้ความรู้สึกทั้งหมดอยู่กับลมหายใจตรงนี้ อย่าเคลื่อนไปไหน ถ้าเผลอไปคิดเรื่องอื่นเมื่อใดก็ให้ดึงกลับมาตรงนี้ ถ้าอย่างนี้จะเป็นการหยุดในเบื้องต้น ทำให้สภาพจิตของเราได้หยุดพักเช่นเดียวกับร่างกาย
หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป ว่าตอนนี้ลมผ่านจมูก ผ่านกึ่งกลางอก ไปสุดที่ท้อง หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา ว่าตอนนี้ลมออกจากท้อง ผ่านกึ่งกลางอก มาสุดที่ปลายจมูก
สำหรับวันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานวันแรกของเดือนนี้ วันนี้มีญาติโยมหลายท่านมาทำบุญ พอสอบถามดูจึงทราบว่าเป็นวันหยุดประจำภาคของธนาคาร ทำให้ท่านทั้งหลายสามารถที่จะมาทำบุญในวันหยุดได้
วันหยุดประจำภาคของธนาคารนั้น ถือว่าเป็นวันหยุดของทางโลก ทำให้เราได้พักผ่อนหนึ่งวัน แต่ว่าการพักของเรานั้น เป็นการพักทางกาย ถ้าพักเฉพาะทางกายโดยที่ใจไม่ได้พัก เราจะรู้สึกว่าพักเท่าไรก็ไม่หายเหนื่อยเสียที เป็นความเหนื่อยลึก ๆ อยู่ข้างใน บางทีเหนื่อยล้าจนบอกไม่ถูก อยากจะนอนสัก ๓ วัน ๓ คืนก็ดี นั่นเป็นสาเหตุจากว่าใจของเราไม่ได้พัก ใจของเรานั้นคิดฟุ้งซ่านส่งส่ายอยู่ตลอดเวลาทั้งหลับและตื่น ทำให้ไม่มีเวลาพักเลย ดังนั้น..การที่จะให้ใจได้พักนั้น เราต้องรู้จักหยุด
สำหรับการที่จะหยุดกำลังใจนั้น ก็คือหยุดความคิดคำนึง หรือว่าหยุดอยู่กับปัจจุบัน การที่เราจะหยุดอยู่กับปัจจุบันนั้น สิ่งที่ดีที่สุดก็คืออยู่กับลมหายใจเข้าออกเฉพาะหน้า หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราเกาะอยู่กับลมหายใจ ไหลเข้าไป ผ่านอก ลงไปสุดที่ท้อง หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดอยู่กับลมหายใจ ไหลออกจากท้อง ผ่านกึ่งกลางอก มาสุดที่ปลายจมูก
ให้ความรู้สึกทั้งหมดอยู่กับลมหายใจตรงนี้ อย่าเคลื่อนไปไหน ถ้าเผลอไปคิดเรื่องอื่นเมื่อใดก็ให้ดึงกลับมาตรงนี้ ถ้าอย่างนี้จะเป็นการหยุดในเบื้องต้น ทำให้สภาพจิตของเราได้หยุดพักเช่นเดียวกับร่างกาย