PDA

View Full Version : กฎของกรรมนั้นเที่ยงเสมอ


ลัก...ยิ้ม
27-01-2011, 15:45
กฎของกรรมนั้นเที่ยงเสมอ


สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ดังนี้

๑. “กฎของกรรมนั้นเที่ยงเสมอ ใครทำเช่นใดย่อมได้เช่นนั้น พวกเจ้าได้ศึกษาครบรอบวงจร เห็นอดีต อนาคตและปัจจุบัน ย่อมรู้ว่ากฎของกรรมทั้งดี-ทั้งเลว เกิดขึ้นแก่ชีวิตได้เพราะการจุติมานับเอนกชาติที่นับไม่ถ้วน แล้วความมีอวิชชาเข้าครอบงำจิตให้มีความประพฤติผิด หลงผิด ก่อกรรมทางด้านกาย วาจา ใจมานับครั้งไม่ถ้วนเช่นกัน”

๒. “โมหะ โทสะ ราคะครอบงำจิตอยู่ มันบงการอยู่อย่างนี้ จนมาถึงบัดนี้ยังหาที่สิ้นสุดแห่งการหมดกรรมมิได้ นี่เพราะอันใด จักโทษใครได้เล่า กรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ บุคคลใดยังไม่รู้จักเหตุของกรรม ก็รังแต่จักโทษคนอื่นเขาอยู่ร่ำไป ลืมโทษจิตของตนเอง ที่สร้างกรรมทางกาย วาจา ใจมานับครั้งไม่ถ้วนอันผ่านมา(ในอดีต) นี่ช่างเป็นผู้โง่เสียนี่กระไร”

๓. “อยากเรียนรู้อริยสัจ ก็จงศึกษากฎของกรรมเข้าไว้ กรรมเป็นของเที่ยง ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วได้ชั่ว ใครทำใครได้ทั้งนั้น ถ้าเข้าใจได้ จิตก็จักสงบได้ ไม่ฝืนกฎของกรรม และจักไม่เดือดร้อนกับกรรมของใคร หรือแม้กระทั่งกฎของกรรมที่เข้ามาเล่นงานตนเอง ก็จักไม่เดือดร้อน”

๔. “ถ้าไม่ฝืนความจริงเสียอย่างเดียว จิตก็สงบ วางอารมณ์ยอมรับกฎของกรรมได้ หากทำได้ก็เรียกว่าเข้าถึงอริยสัจ จักพ้นทุกข์ได้ก็ที่ตรงนี้ ลองซ้อม ๆ ดู ได้บ้างชั่วขณะก็ยังดี ดีกว่ามานั่งหนักใจในกรรมของชาวบ้าน และมานั่งหนักใจในกรรมของตนเอง”

๕. “กฎของกรรมหรือของอริยสัจนั่นแหละตัวเดียวกัน ให้รู้ว่าโลกนี้เป็นทุกข์ โลกนี้ไม่เที่ยง ยึดอันใดมิได้ ให้รู้ว่ากฎของกรรมเกิดขึ้นมาได้ เพราะเรายึดถือทุกข์”

๖. “ไฟโมหะ โทสะ ราคะมันแผดเผาจิตของเราให้เกิดทุกข์ เราติดอยู่ในทุกข์นั้นด้วยอวิชชา คือ ไม่รู้จริง ก็ทำกรรมให้เกิดขึ้นด้วยอารมณ์ที่เกาะยึดนั้น ๆ”

๗. “นั่นเพราะเหตุในอดีตไม่รู้จักปล่อยวาง จึงทำความเดือดร้อนให้กับตนเองและบุคคลอื่น ๆ ทั่วไปรอบด้าน จึงเป็นกรรมให้ตัวเราเองต้องชดใช้ในปัจจุบันนี้”

๘. “พวกเจ้าจักต้องใช้ปัญญา พิจารณากฎของกรรมตามความเป็นจริง จักได้เห็นอารมณ์ของการเกาะเกี่ยวสังโยชน์ทุกตัว เป็นเหตุให้เกิดกรรมทั้งกาย วาจา ใจ และเป็นเหตุนำมาแห่งความทุกข์”

๙. “บุคคลใดใช้ปัญญา พิจารณากฎของกรรมตามความเป็นจริงแล้ว จักได้ชื่อว่าเข้าถึงอริยสัจ สามารถตัดสังโยชน์ได้ง่าย ด้วยรู้เท่าทันความเป็นจริงแห่งทุกข์นั้น ๆ”

๑๐. “มโนกรรม วจีกรรม กายกรรม อันเกิดแต่การเกาะติดสังโยชน์นั้น ๆ ล้วนแต่สร้างความทุกข์ให้แก่ตนเองทั้งสิ้น พิจารณาจุดนี้ให้ดี ๆ แล้วจักวางอารมณ์ให้เป็นสังขารุเบกขาญาณได้”

ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com (http://www.tangnipparn.com)