PDA

View Full Version : ฉลาดไม่เป็น เพราะชอบลืมปล่อยวางคำสอน


ลัก...ยิ้ม
14-01-2011, 09:02
ฉลาดไม่เป็น เพราะชอบลืมปล่อยวางคำสอน


หลวงปู่ตื้อท่านเมตตามาสอนต่อ มีความสำคัญดังนี้

๑. “เมื่อไหร่เอ็งจะฉลาดเสียทีวะ ยิ่งสอนก็ยิ่งโง่นะนี่” (ก็ยอมรับตามนั้น) "เอ็งมันไม่ค่อยรู้จักคิดให้มันฉลาดนี่หว่า ฟังครูบาอาจารย์สอน แทนที่จะเอาไปคิดให้ฉลาดขึ้น จะได้มีปัญญารู้เท่าทันความเป็นจริง เอ็งก็เสือกปล่อยวางคำสอนเสียเกือบหมด นี่ถ้าปล่อยวางหมด จ้างให้ก็ไม่มีใครมาสอนเอ็งต่อ เฮ้อ.. ใช้ไม่ได้นะ อารมณ์ปล่อยวางคำสอนนี่”

๒. “ต้องพยายามจำเข้าไว้ อย่าปล่อยให้มันรั่วไหลสิวะ ทีความทุกข์ที่ครูบาอาจารย์สอนให้ปล่อยวาง ดันทุรังกอดมันเอาไว้เสียแน่น จำทุกข์เอาไว้เสียแม่นด้วย อย่างนี้สิมันเป็นศิษย์นอกครู ใช้ไม่ได้” (ก็ยอมรับตามที่ท่านว่า แต่เกิดปวดท้องขี้ขึ้นในขณะนั้น ก็วิ่งเข้าส้วม)

๓. ท่านก็ถามต่อ ทั้ง ๆ ที่อยู่ในส้วม “ปวดท้องขี้ ทุกข์ไหม (ตอบ ทุกข์ค่ะ) แล้วมันทนไหวไหม ถ้าไม่ถ่าย (ตอบ ทนไม่ไหวค่ะ) ถ่ายทิ้งแล้วเป็นอย่างไร (ตอบ โล่งไปค่ะ) แล้วหายทุกข์ไหม (ตอบ หายค่ะ)”

๔. “ไอ้ทุกข์ใจมันก็เหมือนกัน มัวแต่อัดอั้นเข้าไว้ ไม่ปล่อยวาง ไม่ถ่ายทิ้งไป มันก็ทุกข์ เอ็งก็จำเอาไว้สิ เหมือนปวดท้องขี้นี่แหละ อย่าอัดอั้นมันเอาไว้ ถ่ายทุกข์ทิ้งไป จะได้โล่งใจ” (ก็คิดว่ามันโล่งแค่ชั่วคราว ประเดี๋ยวมันก็อดคิดไม่ได้ ทุกข์ก็เข้ามาเกาะใจอีก)

ลัก...ยิ้ม
17-01-2011, 14:25
๕. “ก็กิเลสมันยังไม่หมด จะตัดให้มันดับสนิทได้อย่างไร เหมือนอย่างกับเอ็งยังมีร่างกายอยู่นี่ ต้องกินอาหารเลี้ยงร่างกายอยู่ มันก็ต้องปวดท้องขี้อยู่นี่ มันก็ทุกข์อยู่นี่ ปวดท้องขี้แล้วก็ต้องถ่ายขี้ทิ้งไป ทุกข์เกิดแล้วก็ระบายทุกข์ทิ้งไป มันซ้ำ ๆ ซาก ๆ อยู่นี่ตลอดเวลาที่ยังมีร่างกาย กิเลสก็เหมือนกัน มันจรเข้ามาในจิต ไอ้จิตมันชั่วคบกิเลสอยู่วันยันค่ำ คืนยันรุ่ง มันก็ทุกข์แต่เมื่อรู้ว่าทุกข์ เหมือนเรารู้ว่ากำลังปวดท้องขี้ จิตมีกิเลสแล้ว ก็ระบายทุกข์มันทิ้งไป ขอแต่เพียงให้รู้เท่าทันความทุกข์อันเกิดจากกิเลสเท่านั้น ถ้าไม่โง่จนเกินไป ก็จะรู้ว่าทุกข์มันเกิดแล้วจากกิเลส จิตมีอารมณ์เศร้าหมอง อันเกิดจากความโกรธ โลภ หลงเข้าครอบงำจิต มันเป็นทุกข์ อาการมันบอกเหมือนกับเรากำลังมีอาการปวดท้องขี้นี่แหละ เมื่อรู้เท่าทันก็ระบายมันออกไป ของเหม็นจะเก็บเอาไว้ทำไม ความเศร้าหมองของจิตจะเก็บเอาไว้ทำไม”

๖. “ร่างกายยังมีก็ยังต้องขี้บ่อย ๆ กินอาหารมากเท่าไหร่ก็ต้องขี้มากเท่านั้น กิเลสยังมีก็เช่นกัน มีมากเท่าไหร่ก็ต้องระบายมันทิ้งไปเท่านั้น”

๗. “คนหมดร่างกายเลิกขี้ได้ คนหมดกิเลสก็หมดทุกข์ เลิกขี้ เลิกละได้เหมือนกัน คิดให้เป็นสิโว้ย เด็กโง่คบกิเลสมาตั้งกี่แสนอสงไขยกับแล้วเรา อยู่ ๆ จะให้ตัดกิเลสลงในขณะจิตเดียวได้หรือ ถ้ากำหนดจิตตัดกิเลสได้ในทุก ๆ ขณะจิตไม่มีเผลอ เอ็งก็เป็นพระอรหันต์ไปแล้วสิ แล้วเวลานี้เอ็งได้เป็นหรือเปล่า ก็เปล่าอีกนั่นแหละ คิดถึงความจริงเอาไว้ให้มาก อย่าท้อถอย เป็นนักมวยที่ไม่ทันขึ้นเวทีชก ยกมือยอมแพ้เขาตั้งแต่นอนอยู่ในมุ้ง อย่างนี้มันใช้ไม่ได้นะ” (ก็ตอบว่า ลูกจะพยายาม) “เอาให้มันจริง ไม่ใช่จะพยายาม”

(หมายเหตุ คำสอนทั้ง ๓ ตอนนี้ ท่านเมตตาสอนไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ ๑๘ พ.ค. ๒๕๓๗ คือ ๑๔ ปีมาแล้ว)


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com