เถรี
09-03-2009, 14:46
จริง ๆ แล้วพระพุทธศาสนาควรจะมีหน่วยงานตรวจตรา ก็คือ หน่วยงานที่ตรวจตราเรื่องที่เขาเข้าใจความเป็นพระพุทธศาสนาผิด แล้วก็แก้ไขให้ถูก
ส่วนอีกหน่วยงานหนึ่งก็คือ หน่วยงานที่ช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในลักษณะที่ว่ากระทำความดี ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส ปัจจุบันสื่อโฆษณาครอบงำไปทุกบ้าน โดยเฉพาะในเรื่องของคนทำดีแล้ว ไม่มีใครสนับสนุนและสรรเสริญอย่างจริงจัง แต่ว่าถ้าหากทำผิดทำพลาด อย่างเรื่องเจ๊ดาว (พระแปลงเพศ) กลับลงข่าวได้เป็นอาทิตย์ ๆ
ในเรื่องของบุคคลที่ห้ามบวช ต้องเอาโทษพระอุปัชฌาย์ก่อน แต่ถ้าหากบวชมาแล้วไม่ใช่บุคคลที่วิบัติจนต้องให้นาสนะ ก็คือ จนต้องสึก เขาปรับโทษเฉพาะพระอุปัชฌาย์ แต่ว่าบุคคลผู้นั้นสามารถที่จะทรงความเป็นพระอยู่ได้ พูดง่าย ๆ คือ ต้องเก็บอาการให้อยู่ ถ้าเก็บไม่อยู่ท่านก็บอกให้นาสนะ (สึก) เสีย
บัณเฑาะก์ ที่เขาหมายถึงบุคคลสองเพศ แท้จริงแล้วไม่ได้หมายถึงบุคคลสองเพศเพียงอย่างเดียว เขากล่าวถึงบุคคลหลายประเภทด้วยกัน มีอุภโตพยัญชนก คือ มีสองเพศโดยสมบูรณ์ ตรงนี้ก็เป็นความอัจฉริยะของพระพุทธเจ้าอย่างหนึ่ง เพราะว่าจะมีอยู่เกาะหนึ่งที่มีคนซึ่งมีสองเพศโดยสมบูรณ์ คนในเกาะนั้นจะเป็นพ่อก็ได้เป็นแม่ก็ได้ ถ้าเลือกเป็นแม่ก็ท้องได้
ประเภทที่สองเป็นเรื่องอัศจรรย์ คือ ปักขบัณเฑาะก์ จะเป็นผู้ชายครึ่งเดือน ผู้หญิงครึ่งเดือน ทำให้นึกถึงเวมาณิกเปรต ที่เป็นเปรตครึ่งเดือนเป็นเทวดาครึ่งเดือน
ประเภทที่สาม ท่านบอกว่าเป็นผู้ประกอบด้วยกามราคะแรงกล้า ขาดเซ็กส์ไม่ได้ ท่านบอกให้นาสนะเสีย ก็คือให้อยู่ไม่ได้ เดี๋ยวจะสร้างปัญหา แต่ถ้าหากอาการไม่ถึงขนาดนี้ก็อยู่ไปเถอะ แต่ช่วยเก็บอาการหน่อย อย่าไปออกอาการมากก็แล้วกัน เพราะจะทำให้คนไม่เลื่อมใส แต่จริง ๆ แล้วเขาปรับโทษที่พระอุปัชฌาย์
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ ณ บ้านอนุสาวรีย์
เดือนมีนาคม ๒๕๕๒
ส่วนอีกหน่วยงานหนึ่งก็คือ หน่วยงานที่ช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในลักษณะที่ว่ากระทำความดี ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส ปัจจุบันสื่อโฆษณาครอบงำไปทุกบ้าน โดยเฉพาะในเรื่องของคนทำดีแล้ว ไม่มีใครสนับสนุนและสรรเสริญอย่างจริงจัง แต่ว่าถ้าหากทำผิดทำพลาด อย่างเรื่องเจ๊ดาว (พระแปลงเพศ) กลับลงข่าวได้เป็นอาทิตย์ ๆ
ในเรื่องของบุคคลที่ห้ามบวช ต้องเอาโทษพระอุปัชฌาย์ก่อน แต่ถ้าหากบวชมาแล้วไม่ใช่บุคคลที่วิบัติจนต้องให้นาสนะ ก็คือ จนต้องสึก เขาปรับโทษเฉพาะพระอุปัชฌาย์ แต่ว่าบุคคลผู้นั้นสามารถที่จะทรงความเป็นพระอยู่ได้ พูดง่าย ๆ คือ ต้องเก็บอาการให้อยู่ ถ้าเก็บไม่อยู่ท่านก็บอกให้นาสนะ (สึก) เสีย
บัณเฑาะก์ ที่เขาหมายถึงบุคคลสองเพศ แท้จริงแล้วไม่ได้หมายถึงบุคคลสองเพศเพียงอย่างเดียว เขากล่าวถึงบุคคลหลายประเภทด้วยกัน มีอุภโตพยัญชนก คือ มีสองเพศโดยสมบูรณ์ ตรงนี้ก็เป็นความอัจฉริยะของพระพุทธเจ้าอย่างหนึ่ง เพราะว่าจะมีอยู่เกาะหนึ่งที่มีคนซึ่งมีสองเพศโดยสมบูรณ์ คนในเกาะนั้นจะเป็นพ่อก็ได้เป็นแม่ก็ได้ ถ้าเลือกเป็นแม่ก็ท้องได้
ประเภทที่สองเป็นเรื่องอัศจรรย์ คือ ปักขบัณเฑาะก์ จะเป็นผู้ชายครึ่งเดือน ผู้หญิงครึ่งเดือน ทำให้นึกถึงเวมาณิกเปรต ที่เป็นเปรตครึ่งเดือนเป็นเทวดาครึ่งเดือน
ประเภทที่สาม ท่านบอกว่าเป็นผู้ประกอบด้วยกามราคะแรงกล้า ขาดเซ็กส์ไม่ได้ ท่านบอกให้นาสนะเสีย ก็คือให้อยู่ไม่ได้ เดี๋ยวจะสร้างปัญหา แต่ถ้าหากอาการไม่ถึงขนาดนี้ก็อยู่ไปเถอะ แต่ช่วยเก็บอาการหน่อย อย่าไปออกอาการมากก็แล้วกัน เพราะจะทำให้คนไม่เลื่อมใส แต่จริง ๆ แล้วเขาปรับโทษที่พระอุปัชฌาย์
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ ณ บ้านอนุสาวรีย์
เดือนมีนาคม ๒๕๕๒